ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เรื่องคืนนั้น
อัพช้านิดอย่าว่ากัน  ถ้าเสิร์ชดูจะรู้ว่าเราเป็นคนโลภแต่งหลายฟิค  แต่รับรองไม่หายไปไหนตราบใดที่ยังมีคนมาอ่าน
*****************************************************************************************
“ ฉันรักนายมากที่สุดยิ่งกว่าชีวิตของฉัน  ถ้าไม่มีนายอยู่ฉันขอตายซะดีกว่า...”  เสียงเล็กๆพยายามเก๊กให้เป็นเสียงใหญ่
“คาโลพูดอยางนั้นจริงๆเหรอเฟริน”  เสียงนี้มาจากแองจี้ผู้ที่ตาโตไปกับเรื่องเล่าอันไม่น่าเชื่อ
“ช่าย” หัวขโมยไม่พูดเปล่าพลางยักไหล่  “แล้วตอนนั้นฉันก็เลยตอบไปว่า ถ้านายขาดฉันไม่ได้ขนาดนั้นฉันจะยอมกลับไปด้วยก็ได้” 
“คุณคาโลพูดถึงขนาดนั้น  ไม่น่าเชื่อเลยนะคะ” แม้แต่เรนอนก็ไม่อยากเชื่อ
“จะทำไงได้ล่ะ  ก็หมอนั่นมันหลงฉันซะจนหน้ามืด  ถ้าฉันไม่ยอมรับรักมันๆคงคลั่งอาละวาดเสียผู้เสียคนแน่  ไอ้ฉันมันคนดีกลัวคนอื่นเดือดร้อน  ก็เลยต้องกลับมาอย่างเสียไม่ได้”  บทง้อสาวของคาโลที่สกอร์ปิโอถูกนำมาใส่ไข่อย่างไม่เหลือชิ้นดีด้วยความสนุกปากของเจ้าคนปากพล่อย  ทำเอาแองเจลิน่านึกเสียใจแทนเจ้าชายแห่งคาโนวาลอยู่ครามครันที่มาหลงรักคนอย่างมันจนโดนเอามาเผาเละแบบนี้
“ดึกแล้ว  หยุดโม้แล้วไปนอนซะ”  เสียงมาทิลด้าดังขึ้น  เรนอนมีสีหน้าเสียดายหน่อยๆเพราะกำลังมัน
“ครับ  ไปกันเถอะแองจี้  ฉันเริ่มง่วงแล้วเหมือนกัน”  เฟรินอ้าปากหาว  พลางลากเพื่อนร่วมห้องจอมดุที่ต้องมาร่วมห้องกันตอนปีสามกลับไปนอนห้องข้างๆ 
แองจี้มองมือที่ลากแขนตนพลางคิดถึงตอนมาร่วมห้องกันใหม่ๆแล้วก็นึกขำ  ตอนขึ้นปีสามวันแรกเจ้าตัวดีอาละวาดจนพวกเธอกับคาโลปวดประสาท  เจ้าหล่อนโวยวายจะไม่ยอมย้ายท่าเดียว  จนสามสาวอยากจะแพ่นกบาลเข้าให้ 
ไม่ได้อยากง้อให้มันมาอยู่ด้วยสักนิด
แต่ผู้หญิงทั้งแท่งมันจะไปนอนกับผู้ชายสองคนได้ยังไงเล่า 
แต่มันก็อ้างว่ามันก็นอนกับผู้หญิงไม่ได้เหมือนกัน  สยิว
แล้วคาโลก็ลากตัวมันหายไปพักใหญ่แล้วก็กลับมาแบบหน้าแดงๆทั้งคู่ให้เพื่อนๆพากันสงสัย  เจ้าชายน้ำแข็งไม่ยอมพูดอะไรซึ่งก็ไม่มีใครกล้าถาม  ส่วนเจ้าตัวดีก็เดินไปเก็บของอย่างเรียบร้อยผิดปกติ  แล้วก็ไม่ยอมเอ่ยปากถึงเรื่องที่เกิดขึ้นสักคำไม่ว่าจะถูกคาดคั้นเท่าไหร่ก็ตาม
“พรุ่งนี้ก็หมดเทอมแล้วสิ”  เจ้าของดวงตาสีน้ำตาลทิ้งกายลงบนเตียงพลางมองข้าวของที่เก็บไว้เรียบร้อยแล้ว(ด้วยการบังคับของสามสาว)  “เธอจะกลับบ้านเลยมั้ยแองจี้”
“กลับเลย  เพราะมีธุระต้องไปทำนิดหน่อย”  เสียงดังมาจากในห้องน้ำ
“อืม  มีแต่ฉันที่ยังไม่รู้จะทำไงหรือนี่  บ้านก็ไม่มีให้กลับซะด้วย”
“ก็กลับเดมอสของนายไปสิ”
“มันยากนา  ขนาดตอนนั้นไปกันตั้งหลายคนแถมมีพี่อาร์เธอกับพี่โรเวนอยู่ด้วยยังแทบม่อง”
“แล้วพ่อมาดัสของนายล่ะ”
“ไม่ได้ข่าวเลย  สงสัยหลงสาวๆสวยๆอยู่เกาะทางใต้ไม่กลับมาแล้วมั้ง”
“นายก็ไปเกาะทางใต้บ้างสิ”  แองเจลิน่าเดินเช็ดผมมานั่งเตียงข้างๆ  เฟรินจึงคว้าผ้าเช็ดตัวตรงไปห้องน้ำบ้าง
“น่าสนๆ” สาวน้อยพยักหน้าหงึก “เสียแต่ว่าฉันมันไร้น้ำยาซะแล้วนี่สิ” ว่าแล้วเจ้าตัวดีก็ยิ้มตาเป็นประกายก่อนหลบคทาที่ฟาดมาอย่างไม่ยั้งพลิ้วกายเข้าห้องน้ำไป
“เฟริน  อาจารย์คิงชามัลเรียกนายไปพบพรุ่งนี้เช้า”  เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นพร้อมกับเสียงเย็นๆของหัวหน้าป้อม  เสียงอู้อี้ดังออกมาจากห้องน้ำฟังไม่รู้เรื่อง
“เดี๋ยวฉันปลุกให้”  เสียงใสๆของแองจี้ตอบแทน  เสียงฝีเท้าจึงค่อยๆห่างจากประตูออกไป 
แล้วราตรีก่อนสุดท้ายของปีสามก็สิ้นสุดลง
“มีอะไรเหรอฮะ  อาจารย์” 
น้ำเสียงงัวเงียจากผู้มีศักดิ์เป็นหลานทำเอาคิ้วคิงชามัลขมวดมุ่น  นี่ขนาดมีคนตั้งใจปลุกจนเห็นรอยช้ำเล็กๆที่หน้าผาก  มันยังมาถึงก่อนพิธีจบการศึกษาแค่ 3 นาที  แถมหัวหูยุ่งเหยิง  เสื้อผ้าไม่เรียบร้อย  ไม่สมกับยศเจ้าหญิงแห่งบารามอสแม้แต่นิดเดียว
“เธอควรจะพูดว่าเพคะ  เฟลิโอน่า”  ดวงตาหรี่ลงอย่างหงุดหงิด  หรือหนึ่งปีที่ผ่านมากับสามสาวจะสูญเปล่า
“เพคะ”  ปากเล็กๆหาวอีกรอบ  ผู้มีศักดิ์เป็นตาได้แต่ส่ายหัวปลงชีวิต
“ได้ยินว่ามาดัสไม่ได้ติดต่อมาเลยหรือ”
“ฮะ เอ้ย  เพคะ”  คราวนี้สาวเจ้าดูตื่นมากกว่าเมื่อกี้เพราะความประหลาดใจ
“แล้วจ้าวเอวิเดสล่ะ”
“ก็ไม่มีฮะ...เพคะ”  หัวสีน้ำตาลส่ายดึบๆ
“งั้นสนใจจะไปอยู่บารามอสมั้ย”
“หา เพคะ”  ดวงตาสีน้ำตาลเบิกกว้าง  แต่ก็ยังไม่ลืมที่พระเจ้าตาสอนสั่ง
“ยังไงเธอก็สืบเชื้อสายมาจากท่านพี่และอลิเซีย  มันไม่แปลกเลยสักนิดที่เธอควรจะรู้จักบารามอสที่ทั้งคู่รักหรือทำความรู้จักกับญาติๆของเธอ”  ดวงตาคมกริบจ้องมองมาที่เธอนิ่ง “และบางที  การไปอยู่ในวังสักสองสามเดือนอาจจะทำให้ความป่าเถื่อนของเธอลดลงไปได้บ้าง”
คำปรามาสนั้นทำเอาเฟรินยิ้มแหย  เธอไม่ได้เป็นคนบ้าสงครามสักหน่อย  รู้สึกว่าการอยู่ป้อมอัศวินจะทำให้ในสายตาพระเจ้าตาคนนี้แล้วเธอเหมือนลิงเถื่อนขี้เซา 
   
เมื่อเห็นคนเป็นหลานนิ่งไปไม่ตอบทันทีพระราชาแห่งบารามอสก็รีบต่อความโดยไม่รอช้า
“ฉันไม่ได้บังคับเธอหรอกนะ  ถ้าจะไปก็บอกฉันก่อนอาหารค่ำวันนี้  ไปได้”
“ฮะ...เพคะ”  คำตอบรับทำให้พระเจ้าตาคิ้วกระตุกก่อนที่ร่างบางจะเดินงงๆออกมา
*****************************************************************************************
“ ฉันรักนายมากที่สุดยิ่งกว่าชีวิตของฉัน  ถ้าไม่มีนายอยู่ฉันขอตายซะดีกว่า...”  เสียงเล็กๆพยายามเก๊กให้เป็นเสียงใหญ่
“คาโลพูดอยางนั้นจริงๆเหรอเฟริน”  เสียงนี้มาจากแองจี้ผู้ที่ตาโตไปกับเรื่องเล่าอันไม่น่าเชื่อ
“ช่าย” หัวขโมยไม่พูดเปล่าพลางยักไหล่  “แล้วตอนนั้นฉันก็เลยตอบไปว่า ถ้านายขาดฉันไม่ได้ขนาดนั้นฉันจะยอมกลับไปด้วยก็ได้” 
“คุณคาโลพูดถึงขนาดนั้น  ไม่น่าเชื่อเลยนะคะ” แม้แต่เรนอนก็ไม่อยากเชื่อ
“จะทำไงได้ล่ะ  ก็หมอนั่นมันหลงฉันซะจนหน้ามืด  ถ้าฉันไม่ยอมรับรักมันๆคงคลั่งอาละวาดเสียผู้เสียคนแน่  ไอ้ฉันมันคนดีกลัวคนอื่นเดือดร้อน  ก็เลยต้องกลับมาอย่างเสียไม่ได้”  บทง้อสาวของคาโลที่สกอร์ปิโอถูกนำมาใส่ไข่อย่างไม่เหลือชิ้นดีด้วยความสนุกปากของเจ้าคนปากพล่อย  ทำเอาแองเจลิน่านึกเสียใจแทนเจ้าชายแห่งคาโนวาลอยู่ครามครันที่มาหลงรักคนอย่างมันจนโดนเอามาเผาเละแบบนี้
“ดึกแล้ว  หยุดโม้แล้วไปนอนซะ”  เสียงมาทิลด้าดังขึ้น  เรนอนมีสีหน้าเสียดายหน่อยๆเพราะกำลังมัน
“ครับ  ไปกันเถอะแองจี้  ฉันเริ่มง่วงแล้วเหมือนกัน”  เฟรินอ้าปากหาว  พลางลากเพื่อนร่วมห้องจอมดุที่ต้องมาร่วมห้องกันตอนปีสามกลับไปนอนห้องข้างๆ 
แองจี้มองมือที่ลากแขนตนพลางคิดถึงตอนมาร่วมห้องกันใหม่ๆแล้วก็นึกขำ  ตอนขึ้นปีสามวันแรกเจ้าตัวดีอาละวาดจนพวกเธอกับคาโลปวดประสาท  เจ้าหล่อนโวยวายจะไม่ยอมย้ายท่าเดียว  จนสามสาวอยากจะแพ่นกบาลเข้าให้ 
ไม่ได้อยากง้อให้มันมาอยู่ด้วยสักนิด
แต่ผู้หญิงทั้งแท่งมันจะไปนอนกับผู้ชายสองคนได้ยังไงเล่า 
แต่มันก็อ้างว่ามันก็นอนกับผู้หญิงไม่ได้เหมือนกัน  สยิว
แล้วคาโลก็ลากตัวมันหายไปพักใหญ่แล้วก็กลับมาแบบหน้าแดงๆทั้งคู่ให้เพื่อนๆพากันสงสัย  เจ้าชายน้ำแข็งไม่ยอมพูดอะไรซึ่งก็ไม่มีใครกล้าถาม  ส่วนเจ้าตัวดีก็เดินไปเก็บของอย่างเรียบร้อยผิดปกติ  แล้วก็ไม่ยอมเอ่ยปากถึงเรื่องที่เกิดขึ้นสักคำไม่ว่าจะถูกคาดคั้นเท่าไหร่ก็ตาม
“พรุ่งนี้ก็หมดเทอมแล้วสิ”  เจ้าของดวงตาสีน้ำตาลทิ้งกายลงบนเตียงพลางมองข้าวของที่เก็บไว้เรียบร้อยแล้ว(ด้วยการบังคับของสามสาว)  “เธอจะกลับบ้านเลยมั้ยแองจี้”
“กลับเลย  เพราะมีธุระต้องไปทำนิดหน่อย”  เสียงดังมาจากในห้องน้ำ
“อืม  มีแต่ฉันที่ยังไม่รู้จะทำไงหรือนี่  บ้านก็ไม่มีให้กลับซะด้วย”
“ก็กลับเดมอสของนายไปสิ”
“มันยากนา  ขนาดตอนนั้นไปกันตั้งหลายคนแถมมีพี่อาร์เธอกับพี่โรเวนอยู่ด้วยยังแทบม่อง”
“แล้วพ่อมาดัสของนายล่ะ”
“ไม่ได้ข่าวเลย  สงสัยหลงสาวๆสวยๆอยู่เกาะทางใต้ไม่กลับมาแล้วมั้ง”
“นายก็ไปเกาะทางใต้บ้างสิ”  แองเจลิน่าเดินเช็ดผมมานั่งเตียงข้างๆ  เฟรินจึงคว้าผ้าเช็ดตัวตรงไปห้องน้ำบ้าง
“น่าสนๆ” สาวน้อยพยักหน้าหงึก “เสียแต่ว่าฉันมันไร้น้ำยาซะแล้วนี่สิ” ว่าแล้วเจ้าตัวดีก็ยิ้มตาเป็นประกายก่อนหลบคทาที่ฟาดมาอย่างไม่ยั้งพลิ้วกายเข้าห้องน้ำไป
“เฟริน  อาจารย์คิงชามัลเรียกนายไปพบพรุ่งนี้เช้า”  เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นพร้อมกับเสียงเย็นๆของหัวหน้าป้อม  เสียงอู้อี้ดังออกมาจากห้องน้ำฟังไม่รู้เรื่อง
“เดี๋ยวฉันปลุกให้”  เสียงใสๆของแองจี้ตอบแทน  เสียงฝีเท้าจึงค่อยๆห่างจากประตูออกไป 
แล้วราตรีก่อนสุดท้ายของปีสามก็สิ้นสุดลง
“มีอะไรเหรอฮะ  อาจารย์” 
น้ำเสียงงัวเงียจากผู้มีศักดิ์เป็นหลานทำเอาคิ้วคิงชามัลขมวดมุ่น  นี่ขนาดมีคนตั้งใจปลุกจนเห็นรอยช้ำเล็กๆที่หน้าผาก  มันยังมาถึงก่อนพิธีจบการศึกษาแค่ 3 นาที  แถมหัวหูยุ่งเหยิง  เสื้อผ้าไม่เรียบร้อย  ไม่สมกับยศเจ้าหญิงแห่งบารามอสแม้แต่นิดเดียว
“เธอควรจะพูดว่าเพคะ  เฟลิโอน่า”  ดวงตาหรี่ลงอย่างหงุดหงิด  หรือหนึ่งปีที่ผ่านมากับสามสาวจะสูญเปล่า
“เพคะ”  ปากเล็กๆหาวอีกรอบ  ผู้มีศักดิ์เป็นตาได้แต่ส่ายหัวปลงชีวิต
“ได้ยินว่ามาดัสไม่ได้ติดต่อมาเลยหรือ”
“ฮะ เอ้ย  เพคะ”  คราวนี้สาวเจ้าดูตื่นมากกว่าเมื่อกี้เพราะความประหลาดใจ
“แล้วจ้าวเอวิเดสล่ะ”
“ก็ไม่มีฮะ...เพคะ”  หัวสีน้ำตาลส่ายดึบๆ
“งั้นสนใจจะไปอยู่บารามอสมั้ย”
“หา เพคะ”  ดวงตาสีน้ำตาลเบิกกว้าง  แต่ก็ยังไม่ลืมที่พระเจ้าตาสอนสั่ง
“ยังไงเธอก็สืบเชื้อสายมาจากท่านพี่และอลิเซีย  มันไม่แปลกเลยสักนิดที่เธอควรจะรู้จักบารามอสที่ทั้งคู่รักหรือทำความรู้จักกับญาติๆของเธอ”  ดวงตาคมกริบจ้องมองมาที่เธอนิ่ง “และบางที  การไปอยู่ในวังสักสองสามเดือนอาจจะทำให้ความป่าเถื่อนของเธอลดลงไปได้บ้าง”
คำปรามาสนั้นทำเอาเฟรินยิ้มแหย  เธอไม่ได้เป็นคนบ้าสงครามสักหน่อย  รู้สึกว่าการอยู่ป้อมอัศวินจะทำให้ในสายตาพระเจ้าตาคนนี้แล้วเธอเหมือนลิงเถื่อนขี้เซา 
   
เมื่อเห็นคนเป็นหลานนิ่งไปไม่ตอบทันทีพระราชาแห่งบารามอสก็รีบต่อความโดยไม่รอช้า
“ฉันไม่ได้บังคับเธอหรอกนะ  ถ้าจะไปก็บอกฉันก่อนอาหารค่ำวันนี้  ไปได้”
“ฮะ...เพคะ”  คำตอบรับทำให้พระเจ้าตาคิ้วกระตุกก่อนที่ร่างบางจะเดินงงๆออกมา
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น