ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (ฟิกบารามอส) ยิ้มหน่อยน่า คาโล

    ลำดับตอนที่ #15 : พระราชวังแห่งคาโนวาล

    • อัปเดตล่าสุด 19 ต.ค. 48


    อัพรวด

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



    “แสบนักนะนังนี่”



    มือใหญ่อุดทั้งปากและจมูกจนหล่อนแทบหายใจไม่ออก เจ้าหญิงคนงามถูกลากเข้าไปในตรอกแคบๆมืดทึบที่มีชายฉกรรจ์หลายคนรออยู่



    โลเคชั่นยอดฮิตในการทำชั่ว



    ทำไมทหารคาโนวาลมันไม่เข้ามาช่วยสาวน้อยอ่อนแอที่โดนอุ้มฟะ หรือที่นี่จะนิยมฉุดลากผู้หญิงแบบที่ไอ้เจ้าชายมาดมากนั่นชอบทำ



    เฟรินคิดอย่างเซ็งๆ ขณะที่ร่างถูกเหวี่ยงไปกระแทกกำแพงจนแทบจุก



    “จะเอาไงดี” เสียงแหบห้าวน่าขนลุกเปิดประเด็น



    “ปาดคอมันเลยดีไหม” คนที่เคยถูกหล่อนซัดออกความเห็น



    “เดี๋ยวๆ หน้าตาน่ารักแบบนี้เอามาเล่นให้สนุกก่อนแล้วค่อยฆ่าทิ้งดีกว่า”



    ความเห็นนั้นทำเฟรินขนลุกซู่





    หยะแหยงโว้ย





    “งั้นข้าก่อน” ผู้เสียหายคนเดิมพูด



    “ข้าต่างหาก แกสัญญาแล้ว”



    “ข้าอาวุโสที่สุด ต้องข้าก่อนสิ”



    ชายกลุ่มนั้นเถียงกันเหมือนกับว่าหล่อนไม่ได้อยู่ตรงนั้นด้วย จนสาวน้อยผู้ถูกรุมแย่งเริ่มหมดความอดทน



    “ไม่ต้องแย่งกันหรอกพี่ชาย เข้ามาพร้อมๆกันนั่นแหละ มันจะได้มีรสชาติหน่อย” ดวงตาคู่สีน้ำตาลตวัดมองไปยังเหยื่อรายเก่า แล้วก็ยิ้มเหยียด “หมอนั่นไม่ไหวเลย นกกระจอกยังไม่ทันกินน้ำ”



    หลายคนในกลุ่มหัวเราะไปกับคำพูดของเฟรินแต่ก็ต้องหุบลงทันควันเมื่อดาบเล่มโตโผล่มาในมือของสาวน้อยร่างบาง ซัดวูบเดียวคนที่อยู่ด้านหน้าหมอบไปแล้วสอง



    “สองคนนี่ก็บ่มีไก๊เหมือนกันนี่”



    คำพูดไม่สมหญิงและเรี่ยวแรงที่ไม่น่าเชื่อทำให้หนึ่งในคนที่เหลืออุทานออกมา



    “หรือว่าแกเป็นกระเทย”



    “ไอ้พวกบ้า ฉันไม่ใช่กระเทยโว้ย”



    สิ้นคำ เฟรินก็ระบายความเครียดใส่เหล่านักเลงแห่งคาโนวาลจนหมอบกระแต นอนกองระเนระนาดเหมือนขยะกองโต เหลือเพียงคนสุดท้ายที่รับดาบของเธอเอาไว้ได้



    แคร้ง! เสียงโลหะปะทะกันอีกรอบ



    “ไม่เลวนี่นังหนู ไม่คิดเลยว่าจะได้มาเจอยอดฝีมือในที่แบบนี้”



    “ฉันก็คิดเหมือนแกนั่นแหละ”



    เหงื่อของเฟรินไหลโซมกาย นักดาบตรงหน้าไม่ใช่จะเก่งมากมาย แต่เธอกำลังตาลายขึ้นเรื่อยๆ



    “รับมือ!”



    นักเลงแห่งคาโนวาลที่ดูเหมือนจะเคยเป็นนักรบตวาดลั่น เฟรินกัดฟันรวบรวมพลังเฮือกใหญ่วาดดาบออกไป กระแสพลังนั้นตัดทั้งดาบและคู่ต่อสู้จนกระเด็นไปกระแทกผนังแน่นิ่งไม่ไหวติง แต่ปลายดาบที่สวนเข้ามานั้นก็เรียกรอยเลือดซิบๆที่ไหล่ขวาของหล่อน



    “เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับท่านเฟริน เดอเบอโรว์ คนนี้ ที่ไม่เอาถึงตายนี่นับว่าปราณีมากแล้วนะ” เฟรินเตะชายโครงของคนที่ทำท่าจะลุกขึ้นมาสู้ต่อจนต้องล้มลงไปนอนตามเดิม “จะบอกอะไรให้ ไอ้ดาบเล่มนี้น่ะฆ่ามาแล้วเป็นพันเป็นหมื่น”



    พูดเองก็เจ็บเอง ความหลังอันน่าเจ็บปวดย้อนกลับมาให้จิตใจเศร้าหมอง เฟรินเดินออกมาที่ถนนใหญ่ที่เนืองแน่นด้วยผู้คนที่เริ่มมาตั้งร้านรวงเพื่อขายในงานฉลอง พลางกวาดสายตาไปทางพระราชวัง



    ทำไมนายมันเจอยากเจอเย็นอย่างนี้วะคาโล



    เลือดค่อยๆไหลย้อยจากต้นแขนลงมาจนหยดลงสู่พื้น แสงแดดจ้าทำให้ตาพร่าพราย ความเหนื่อยล้าทำให้รู้สึกปวดเมื่อย เหงื่อเย็นๆไหลโชกไปทั่วตัว





    แล้วสาวน้อยในอาภรณ์อย่างชายที่ขาดวิ่นก็ล้มลงท่ามกลางฝูงชน



















    แพขนตางอนงามกระพริบเปิดขึ้นช้าๆ  ภาพแรกที่ปรากฏสู่สายตาคือม่านบางๆสีนวลที่พลิ้วไหวไปตามแรงลม



    ทีนี่ที่ไหน?



    หญิงสาวพยายามยันกายขึ้นแต่ก็ต้องทรุดลงเพราะรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งร่าง ไม่มีเรี่ยวแรง กล้ามเนื้อและกระดูกปวดเมื่อยไปหมด



    ดวงตาสีน้ำตาลคู่โตกวาดมองไปรอบๆห้องที่สร้างความรู้สึกไม่คุ้นเคย



    บ้านเศรษฐีใจบุญที่ไหนนี่



    การตกแต่งหรูหราละเอียดลออและเต็มไปด้วยของล้ำค่า แต่กลับให้บรรยากาศเคร่งขรึมหนักแน่น มือบางค่อยๆรวบรวมกำลังเอื้อมไปเลิกผ้าม่านบางพลิ้วที่เกะกะสายตาออกเพื่อจะดูให้ชัดๆ แต่ก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อมือข้างนั้นถูกคว้าหมับ



    “นายฟื้นแล้ว” เสียงที่คุ้นเคยของคนที่คิดถึง เรียกให้ดวงตาสีน้ำตาลเบิกกว้าง



    “คาโล...”





    เจอซะที





    ทำไมเหมือนน้ำตาจะไหลซะให้ได้



    หญิงสาวรีบข่มความรู้สึกอ่อนไหวเอาไว้



    “ฉันหิวน้ำ” เสียงที่ลอดออกมาจากลำคอเบาและแหบแห้ง



    มือใหญ่คว้าเหยือกน้ำข้างเตียงมารินใส่แก้วให้หล่อนทันใด พลางค่อยๆพยุงร่างบางขึ้นนั่งพิงหมอน



    เมื่อดื่มน้ำไปหลายอึกก็ค่อยรู้สึกสดชื่นขึ้นนิดหน่อย พอที่ปากพล่อยๆจะขยับอีกรอบ



    “เจ็บไปทั้งตัวเลย” พูดพลางหลับตาลง “หรือฉันจะโดนไอ้พวกนั้นกลับมารุมยำตอนสลบ”



    “พวกไหน?” คิ้วเข้มขมวดมุ่น “นายเจ็บตัวเพราะไข้ขึ้นสูง” เสียงตอบราบเรียบแต่แฝงด้วยความอ่อนโยนจนคนฟังแอบลอบยิ้ม “แผลที่ไหล่ไปโดนอะไรมา นายนี่มันขยันหาเรื่อง”



    ”แหะๆ นิดหน่อยน่ะ ฉันปราบเหล่าร้ายให้ประเทศแก ว่าแต่ที่นี่ที่ไหน?”



    “พระราชวังแห่งคาโนวาล”



    “อืม...แล้วฉันมาอยู่นี่ได้ไง”



    “ฉันต่างหากที่ต้องถามนาย” ร่างสูงทิ้งตัวลงนั่งพิงพนักเก้าอี้แล้วกอดอกวางมาดอย่างที่ถนัด



    เขาต้องควบม้าไปตามเส้นทางระหว่างคาโนวาลกับบารามอสอยู่หลายวัน เพื่อตามหาแม่ตัวยุ่งตามที่คิงชามัลแจ้งมาอย่างลับๆ ว่าหนีออกจากวังไปแล้ว



    แต่ชายหนุ่มมั่นใจว่าเธอต้องมาหาเขา



    เอาปัญหามาโยนให้คนอื่นแก้ ทุกที



    แต่หลายวันก็หาไม่พบ เมื่อเจ้าตัวดีเก่งนักหนาในการหลบซ่อน ครั้นกลับมาเห็นคนน่าสงสัยที่กำแพงวัง คาโลจึงตัดสินใจย้อนกลับมาดูให้แน่ใจ แล้วก็ให้ใจหายวาบเมื่อเห็นร่างที่คุ้นเคยนอนหมอบอยู่บนพื้น หมวกกระเด็นหลุดออก เส้นผมสีน้ำตาลยาวเหยียดแผ่สยาย



    เสียงวี๊ดว้ายจากสาวๆดังลั่นเมื่อเจ้าชายคนดังเข้าไปช้อนร่างที่สลบไสลไม่ได้สติไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะพาเข้าไปในวัง









    “จะมาทำไมไม่บอกฉัน” เมื่อเห็นหญิงสาวเงียบ ชายหนุ่มก็เป็นฝ่ายถาม



    “ก็ถามยามหน้าบ้านนายสิ“นึกแล้วเฟรินก็ยังหงุดหงิดไม่หาย



    “เขาทำตามหน้าที่” คาโลตอบนิ่งๆ



    เฟรินทำเสียงครืดคราดในลำคออย่างไม่พอใจ แล้วก็ชะงักนิดหนึ่งเมื่อนึกถึงเรื่องสำคัญขึ้นมาได้



    “คาโล เรื่องหมั้น...”



    ใช่  เรื่องหมั้น



    ดวงตาสีน้ำตาลเบิกกว้างหันมามองคนที่จ้องมาอยู่ก่อนแล้ว  อะไรบางอย่างในดวงตานั้นที่ทำให้หล่อนกลืนน้ำลายเอื๊อกแต่ก็ต้องแข็งใจพูดออกมา



    “ไม่มีแล้ว” ชายหนุ่มพูดพลางถอนหายใจเบาๆ



    ไม่มีแล้ว! หมายความว่าไง  ยังไม่ได้ทำอะไรเลยนี่หว่า



    “ทำไม...”



    “นายตั้งใจแบบนี้อยู่แล้วไม่ใช่หรือไง” คาโลประชดพลางแย้มรอยยิ้มเหยียด แต่พอเห็นคนป่วยทำตาปริบๆก็ต้องใจอ่อน “นายป่วยแบบนี้ งานก็เลยต้องยกเลิก”



    บทจะง่ายก็ง่ายขึ้นมาเชียว ก่อนหน้านี้คิดแทบตายก็คิดไม่ออก



    ไม่รู้จะทำยังไงให้หมอนี่ไม่เสียใจ



    “นายคงหิว เดี๋ยวฉันไปบอกให้เค้าเอาอะไรมาให้กิน



    “คาโล”



    มือเล็กคว้ามือใหญ่เอาไว้จนเจ้าของต้องหันกลับมามอง



    “อะไร”



    “นายคิดถึงฉันไหม”



    คำถามซื่อๆแต่จริงจังกับตาใสๆทำให้ใบหน้าของเจ้าชายแห่งคาโนวาลขึ้นสีเรื่อก่อนจะจางหายไปอย่างรวดเร็ว



    “คิดจนปวดหัว เอาแต่ทำเรื่องยุ่ง”



    แม้คำตอบจะไม่น่าพอใจนัก แต่เฟรินก็ยิ้มรับด้วยรู้ว่ามันแปลว่า



    ‘คิดถึงมาก’



    “รู้ไหม ฉันก็คิดถึงนาย”



    พูดเองเขินเอง เจ้าตัวจึงหน้าแดงระเรื่อ คำพูดเบาๆจากสาวน้อยเรียกรอยยิ้มบางขึ้นมาบนใบหน้าคมคาย มือใหญ่ลูบเบาๆที่หน้าผากมนอย่างรักใคร่แล้วจุมพิตเบาๆก่อนจะเดินออกไป



    “คาโล” เสียงหวานยังรั้งไว้



    “อะไร” คาโลรีบหยุดเผื่อจะได้ฟังอะไรหวานๆจากคนที่นานๆจะพูดอะไรดีๆอีก



    “เอาแอปเปิ้ล”



    ใบหน้ารูปสลักกลับสู่สภาพเดิมทันควัน  เสียงแผ่วๆยังคงดังตามหลังมา



    “เย็นๆนะ”















    คนป่วยช่างเอาแต่ใจจนน่าหมั่นไส้ เมื่อนางกำนัลเอามาให้ก็ทำท่าอิดออดไม่ยอมกิน



    “ป้อนฉันหน่อย”



    “ไม่ นายกินเอง”



    เสียงหัวเราะคิกคักจากด้านหลังทำให้โหนกแก้มขาวๆเริ่มมีสีเรื่อ



    “ฮื้อ ไม่เอา ฉันไม่มีแรงนะ นายนี่ชอบใจดำกับฉันอยู่เรื่อย”



    เสียงคิกคักดังมาอีกระลอก เรียกให้สายตาดุๆต้องหันไปปรามจนเหล่าสาวๆต้องรีบเผ่นออกไปจากห้อง แล้วคนใจดำก็จำใจต้องป้อนผลไม้ในจานให้เจ้าตัวดีจนได้ เรียกรอยยิ้มขันและแววตาพราวระริกจากคนที่ไม่เจียมตัวว่าป่วย



    “ฉันหลับไปกี่วันเนี่ย ทำไมไม่มีแรงเลย”



    “สามวัน”



    “แล้วงานวันเกิดนาย”



    “เรียบร้อยแล้วตอนที่นายหลับอยู่”



    “ไม่ใช่สามวันสามคืนหรือ”



    “นั่นมันรวมงานหมั้นด้วย”



    “อืม” เฟรินค่อยๆขยับตัวลงนอนโดยมีมือใหญ่ขยับผ้าห่มมาคลุมให้



    “ฉันเป็นอะไร ทำไมมีไข้ตั้งสามวันแล้วไม่หาย”



    ดวงตาสีฟ้าคู่สวยมองหล่อนนิ่ง คิ้วเข้มขมวดมุ่นอย่างใช้ความคิด  จะว่าไปมันก็แปลกจริงๆ  หมอหลวงที่มาตรวจอาการก็หาสาเหตุไม่พบ  หรือว่ามันจะโดนอาคมอะไรเข้า  แต่เขาก็ไม่รู้สึกถึงกลิ่นไอเวทย์มนตร์อะไรเลย







    หญิงสาวหลับไปโดยทิ้งให้คนเฝ้าเริ่มรู้สึกไม่สบายใจขึ้นเรื่อยๆอย่างระงับไม่อยู่



    //////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////



    มาเม้นกันเยอะๆนะคะ เดี๋ยวตอนหน้ามีสมนาคุณพิเศษให้...................................................................................................คาโล

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×