ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (ฟิกบารามอส) ยิ้มหน่อยน่า คาโล

    ลำดับตอนที่ #14 : เม้าท์แฟนบนรถม้า

    • อัปเดตล่าสุด 19 ต.ค. 48


    กลับมาแล้วค่า เรื่องโน้นก็จะอัพภายในอาทิตย์นี้ ส่วนเรื่องนี้ก็ใกล้จะจบแล้ว อีกนิดเดียว ต่อเลยดีกว่า ไม่เสียเวลาพูดแล้ว

    ฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝ



    ข่าวงานหมั้นยังไม่ได้ถูกประกาศออกไปอย่างที่เธอกลัว  มีเพียงป้ายประกาศงานฉลองวันคล้ายวันเกิดครบรอบสิบแปดปีของเจ้าชายคาโล วาเนบลี ที่ถูกติดตั้งไปทั่วเมืองแห่งนักรบ





    แสงอาทิตย์ยามอัสดงสาดส่องไปทั่ว ย้อมอาคารบ้านเรือนให้กลายเป็นสีส้มไปทั้งเมือง หญิงสาวในชุดรัดกุมหรูหราแบบผู้ชายมีอันจะกิน สวมหมวกผ้าไหมเก็บผมสลวยไว้มิดชิดเดินผ่านประตูเมืองเข้าสู่นครหลวงแห่งคาโนวาลในตอนใกล้ค่ำ



    ดีนะที่ไม่ได้แต่งตัวโทรมๆ พอเจอรถม้าผ่านมากลางเขาถึงยอมให้ขึ้น  ไม่งั้นคงต้องค้างแรมในป่าอีกหลายคืน แม้ว่าไอ้เสื้อขุนนางนี่มันจะเกี่ยวหนามมาจนรุ่งริ่งก็เถอะ



    “พวกท่านเป็นชาวคาโนวาลหรือฮะ”



    เฟรินลองแยบๆ ถามคู่รักเศรษฐีหนุ่มสาวตรงหน้าเอาไว้เผื่อมีข้อมูลอะไรเป็นประโยชน์



    ทั้งคู่แต่งกายดี ประดับประดาด้วยของล้ำค่าล่อตาโจร รถม้าที่นั่งมาก็หรูหราอย่างยิ่ง แต่กลับมีน้ำใจรับคนเดินทางที่โบกเอามั่วๆอย่างหล่อนขึ้นรถ



    สงสัยอ่อนต่อโลก ไม่ก็ฝีมือแน่จริง



    “ใช่แล้ว พวกเราเป็นชาวคาโนวาล แล้วแม่หนูล่ะ”



    แม่หนูเลยรึ ไอ้ร่างนี้



    “บารามอสฮะ”



    “แล้วมาทำอะไรที่คาโนวาล” ชายหนุ่มผู้เป็นสามีถาม



    “เอ่อ...”



    จะบอกได้ไง ว่ามาล้มงานหมั้นของเจ้าชายคนสำคัญ



    “มาเยี่ยมญาติฮะ” เฟรินตอบไปส่งๆ



    ภรรยาสาวเลิกคิ้วนิดๆพลางยิ้มอย่างเอ็นดูกับคำพูดแบบเด็กผู้ชายของเฟริน



    แม่หนูนี่คงกลัวจะไม่ปลอดภัยเลยทำตัวเป็นเด็กผู้ชาย  ดูๆไปก็หน้าตาน่ารักไม่เบา แถมเสื้อผ้าที่ใส่ก็ดูดีมีราคา คงจะเป็นลูกสาวผู้ดีมีเงินที่ไหนสักแห่งแน่ น่าแปลกที่ต้องมาเดินทางคนเดียวโดยไม่มีผู้ติดตาม



    หรือว่าหนีออกจากบ้านมา



    “แหม น่าสงสารจัง เป็นผู้หญิงแต่ต้องเดินทางคนเดียว ญาติของแม่หนูชื่ออะไรหรือ เผื่อพวกเรารู้จักจะได้ไปส่งที่บ้านให้”



    “ไม่เป็นไรหรอกฮะ ญาติผมเป็นแค่พ่อค้าเล็กๆ พวกท่านคงไม่รู้จักหรอก” เมื่อเริ่มรู้สึกว่าต้องโกหกมากขึ้น เฟรินก็รีบออกตัวแล้วถามกลับเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจออกไปจากเรื่องของตน “คาโนวาลจะมีงานอะไรหรือฮะ” ดวงตาสีน้ำตาลแกล้งกวาดมองไปรอบๆเหมือนอยากรู้อยากเห็น



    “พิธีสู่ความเป็นผู้ใหญ่ของเจ้าชายคาโล” เศรษฐีหนุ่มเป็นฝ่ายตอบ



    “หนูเคยเห็นท่านไหมล่ะ รูปงามสุดๆ” แม่สาวตรงหน้าแทรกขึ้นมาด้วยสีหน้าเคลิ้มฝันให้ผู้เป็นสามีต้องเขม่นมอง เฟรินจึงแยกเขี้ยวยิ้มแหย



    ต้องยอมรับว่ามันหล่อจนน่าหมั่นไส้



    “เคยฮะ”



    “จริงหรือ!” หล่อนจับไหล่เฟรินเขย่าจนหัวสั่นหัวคลอน



    “ก็ที่โรงเรียนพระราชาเอดินเบิร์ก”



    “จริงด้วย ถ้าไปดูหมากกระดานเกียรติยศก็ต้องได้เห็นแน่ๆอยู่แล้ว ทำไมถึงไม่เคยนึกมาก่อนนะ“หล่อนพูดด้วยน้ำเสียงที่ระงับความตื่นเต้นเอาไว้ไม่ได้ “รู้ไหม พระมารดาของเจ้าชายเป็นชาวสโนวแลนด์ เจ้าชายท่านก็เลยผิวขาวรูปหล่อยังกะเทพบุตร แถมสายตาคมๆนั่นก็บาดใจเหลือเกิน”



    ฮึ ไอ้สายตาที่ชอบเอามาแช่แข็งคนอื่นนั่นน่ะเรอะ



    “แต่ผมว่า คาโล เอ้ย! เจ้าชายคาโลดูหยิ่งๆออกนะฮะ ท่าทางไม่ค่อยเป็นมิตร”



    “แหม ก็ท่านเป็นเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ต้องมาปกครองคนอื่นจะให้ยิ้มร่าทำหน้าทะเล้นแบบเด็กผู้ชายทั่วไปได้ยังไงล่ะจ๊ะ” แฟนคลับแถวหน้าแก้ตัวให้คอเป็นเอ็น



    “เป็นที่นิยมจังนะฮะ” เฟรินเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันตอบ



    “แน่นอนสิจ๊ะ ว่าแต่หนูเรียนที่เอดินเบิร์กใช่มั้ย เคยคุยกับท่านบ้างหรือเปล่าล่ะ”



    “ก็มีบ้างฮะ”



    “แสดงว่ารู้จักท่านน่ะสิ”



    “ก็...”



    “ว่าไงล่ะ”



    “รู้จักใช่ไหมจ๊ะ” ดวงตาคู่นั้นเป็นประกายวิบวับ



    “รู้จักฮะ” หญิงสาวไม่สามารถโกหกได้อย่างที่ไม่รู้ว่าทำไม



    บางที ผู้หญิงคนนี้อาจน่าจะน่ากลัวกว่า โร เซวาเรส



    “ยอดไปเลย เธอพอจะรู้ไหมจ๊ะว่าท่านมีคนรักแล้วหรือยัง”



    ดวงตาของหัวขโมยมีประกายระริกขึ้นมาวูบหนึ่งแต่แล้วกลับเปลี่ยนเป็นลำบากใจ ซึ่งก็ไม่รอดพ้นจากสายตาคมกริบอยากรู้อยากเห็นของภรรยาสาวไปได้



    หรือว่าแม่สาวน้อยนี่จะแอบหลงรักเจ้าชายคาโล



    แหมๆ ถึงกับหนีออกจากบ้านมาตามที่หัวใจเรียกร้อง



    เศรษฐีณีด่วนสรุป ซึ่งก็แม่นยำอย่างไม่น่าเชื่อ พลาดไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น



    “ไม่ทราบฮะ แต่ผมว่ามาดอย่างมัน เอ้ย ท่านคงหาแฟนไม่ได้หรอกฮะ”



    น่ารักจริง ทำเป็นไก๋



    คิดแล้วแม่เศรษฐีสาวก็ส่งรอยยิ้มอบอุ่นทำเอาคนตอบร้อนๆหนาวๆ



    “ไม่จริงหรอก สาวๆที่นี่ใครๆก็อยากเป็นพระชายาของเจ้าชายคาโลทั้งนั้น”



    มาแล้ว เฟรินได้โอกาสวกเข้าเรื่องที่อยากถามซะที



    “ท่านยังไม่มีคู่หมายหรือฮะ”



    “ไม่มีหรอกจ๊ะ”



    “แน่ใจนะฮะ”



    “แน่ใจสิจ๊ะ ถ้ายังไม่ได้แต่งงานฉันเองก็อยากจะลองสมัครดูสักที”



    เอาเป็นว่าแฟนคลับแถวหน้ายังไม่รู้  คงยังไม่มีการประกาศอะไรออกไป



    เสียงกระแอมอย่างจงใจดังมาจากสามีผู้ทนฟังมานานจนหน้าเริ่มบูด



    “แหมที่รัก ฉันแค่ล้อเล่นจ้ะ”



    “อย่าเลย ที่เธอแอบเก็บรูปเจ้าชายไว้ในตู้เสื้อผ้า ทำไมฉันจะไม่รู้”



    “แหม ความสุขเล็กๆน้อยๆ”



    “ทีเธอยังให้ฉันเอารูปสาวๆไปทิ้งหมด”



    “ก็ดีแล้วนี่ เธอจะเก็บเอาไว้บูชารึไง”



    “แล้วเธอล่ะ...”







    “เอ่อ ผมลงตรงนี้ก็ได้ฮะ”



    เมื่อบรรยากาศบนรถเริ่มจะตุ่ย อีกทั้งยังมองเห็นตึกใหญ่หรูหราที่น่าจะเป็นพระราชวังอยู่หลังกำแพงตรงหน้า เฟรินก็รีบถอบฉากก่อนจะโดนดึงเข้าไปร่วมจนเผลอพูดอะไรออกไปมากกว่านี้



    เมื่อกล่าวขอบคุณเศรษฐีใจดีสองผัวเมียที่ยอมให้เธอโดยสารมาด้วย สาวน้อยก็รีบพุ่งไปไม่เหลียวหลัง แม้ว่าฝ่ายหญิงจะทำท่าอยากพูดอะไรอีกมาก แถมยังเชื้อเชิญเธอไปพักที่บ้านก็ตาม

        

    เสียงควบม้าดังมาจากทิศทางที่เป็นที่ตั้งของพระราชวัง เสียงฝีเท้าของม้าหลายตัวใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็วจนหัวขโมยต้องรีบเผ่นลงไปหลบข้างทาง แล้วก็แทบหลุดปากร้องจ๊ากออกมา



        เจ็บเป็นบ้า



        เพราะรีบมากเกินไปเลยไม่ทันดูหน้าดูหลังให้ดี ดันพุ่งเข้าพงหนาม



        กลุ่มชายฉกรรจ์ในผ้าคลุมสีดำสี่ห้าคนควบม้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว



        ทหารคาโนวาล



        คงไม่ใช่ว่ารู้ข่าวแล้วออกมาตามจับเธอหรอกนะ



        ป่านนี้พระเจ้าตาคงรู้เรื่องที่เธอหนีออกมาแล้วไม่รู้ว่าจะมีคนออกมาตามหรือเปล่า



        ต้องมีแหงๆ มีหรือคิงชามัลจอมโหดจะยอมปล่อยให้เธอลอยนวลหนีไปง่ายๆ



        เมื่อเห็นว่าคนกลุ่มนั้นเลยไปไกลแล้วเฟรินก็ตะเกียกตะกายออกมาจากพุ่มไม้ ตามเนื้อตัวมีรอยข่วนเป็นริ้วๆเลือดออกซิบๆ เสื้อผ้าขาดวิ่น โดยเฉพาะที่หลังที่รู้สึกว่าโดนตำเข้าไปเต็มรัก



    ไอ้ต้นไม้บ้านี่!



    ดวงตาสีน้ำตาลหรี่มองถนนเบื้องหน้าอย่างไม่ไว้ใจ  สัญชาติญาณของคนที่ชินกับการหลบหนีมาตลอดชีวิตสั่งให้เธอพยายามหลบสายตาคนให้มากที่สุด  หญิงสาวจึงเลือกเดินทางลัดเลาะชายป่าโดยไม่ขึ้นไปเดินบนถนนอีก







    ดูเหมือนว่างานฉลองของเจ้าชายแห่งคาโนวาลจะเป็นที่นิยมไม่ใช่น้อย แม้โรงแรมเล็กๆใกล้ๆพระราชวังก็มีแขกมาพักจนเต็ม หล่อนจึงจำใจต้องหาร้านนั่งสั่งอาหารกินไปก่อนเนื่องจากหิวจัดจนไม่มีแรงจะเดินอีกแม้แต่ก้าวเดียว



    ความเคยชินทำให้หัวขโมยเลือกเข้าร้านเหล้าเล็กๆที่สว่างไสวและท่าทางครึกครื้น



    เสียงเอะอะของคนเมาดังลั่น แม้จะระคายหูแต่ก็ชวนให้นึกถึงบรรยากาศเก่าๆสมัยยังเร่ร่อน



    ตอนนี้พ่อจะอยู่ที่ไหนกันนะ



    ดวงตาสีน้ำตาลเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง



    ลูกสาวทั้งคนกำลังจะโดนจับหมั้นยังไม่รีบมาออกหน้า





    คิดแล้วก็ถอนหายใจเฮือกพลางหันไปสั่งอะไรหนักๆมาดับเครียด





    คาโล



    ใบหน้าคมคายผุดขึ้นมาในห้วงสำนึกให้คนคิดนึกอายรีบปัดออกไปจากหัว



    ไอ้การหมั้นนั่นมันน่ารังเกียจขนาดนั้นจริงหรือ



    เธอไม่อยากหมั้นกับมันขนาดต่องถ่อมาถึงนี่จริงหรือ



    แล้วทำไมต้องคอยคิดถึงมันทุกวันทั้งยามหลับยามตื่น ยิ่งมีเรื่องให้กลุ้มก็ยิ่งมาวนเวียนอยู่ในหัวแทบตลอดเวลา



    คิดวนไปวนมาหลายวันก็หาคำตอบไม่ได้ ให้รู้สึกสับสนในใจนัก









    “น้องมานั่งคนเดียวไม่เหงาหรือจ๊ะ”



    ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่หน้าตาไม่เลวแต่งกายแบบนักรบเข้ามากระแซะตามประสาคนหน้าตาดีที่มานั่งร้านเหล้าเพียงลำพัง



    ไอ้ร่างสาวน้อยนี่มันช่างน่ารำคาญ ขนาดแต่งชุดผู้ชายยังมีไอ้หนุ่มมาสีให้คลื่นไส้



    เฟรินคิดอย่างนึกเคือง พลางตอบไปส่งๆโดยไม่มองหน้าอีกฝ่าย



    “ไม่เหงาหรอกพี่ชาย รอแฟนอยู่”



    “เห็นนั่งมานานไม่เห็นจะมาเลย ไปนั่งกับพวกพี่ๆไปพลางๆดีไหมจ๊ะน้อง” ชายคนนั้นยังไม่ละความพยายาม “น่านะ” มือใหญ่ตะปบลงไปบนข้อมือเรียว คนรอแฟนจึงฉุนกึกขึ้นมา



    เป็นผู้ชายอย่าริมาแต๊ะอั๋งตูนะว้อย



    เฟรินลุกพรืดอย่างรวดเร็วจนคนจีบผงะ แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มแยกเขี้ยวที่คนมองคิดว่าคือยิ้มหวานก็ลืมตัวไปกับสาวน้อยคนงามทันที



    “แหม พี่ชายใจดีแบบนี้ น้องว่าเราไปข้างนอกด้วยกันดีกว่า”



    “โห น้องใจถึงแบบนี้ พี่จะปฏิเสธให้เสียเชิงชายได้ยังไง”



    แล้วเฟรินก็ลากแขนชายคนนั้นออกไปนอกร้าน







    “บ้านพี่ชายอยู่ไหนหรือ”



    “ตรงโน้นเองจ้ะ”



    “ผ่าปฐพี!”



    ร่างใหญ่กองอยู่ปนกับขยะหลังร้าน หลังจากเล่นงานเหยื่ออารมณ์จนสาแก่ใจแล้วก็ตรงยึดบ้านนอนคืนนี้เป็นของแถม



    ไม่ใช่ขโมยแล้ว แบบนี้มันมหาโจร



    ถ้าพ่อรู้เข้ามีหวังบ่นยับ ฐานทำเสียชื่อตระกูลเดอเบอโรว์



    คิดแล้วก็หัวเราะหึๆก่อนที่จะผล็อยหลับไปอย่างอ่อนเพลีย









    หล่อนถูกเตะโด่งออกมาเป็นรอบที่สามหลังจากพยายามใช้เส้นนักเรียนโรงเรียนพระราชาเพื่อขอเข้าไปในวัง



    “ก็บอกว่าเป็นพระสหายมาจากเอดินเบิร์กไงเล่า”



    หนอย อุตส่าห์ใส่เสื้อผ้าดีๆดูมีกะตังค์มาแล้วนะ



    “แกเป็นคนที่สิบที่พูดแบบนี้”



    ไอ้พวกนักต้มตุ๋นปลายแถว ทำมุขนี้เกร่อหมด



    “ฉันพูดจริง ทำไมน้าไม่เชื่อ”



    “ทำไมฉันจะต้องเชื่อแก ถ้าพูดจริงก็เอาหลักฐานมาพิสูจน์สิ”



    เฟรินลังเลวูบ ก่อนจะตัดสินใจล้วงของในกระเป๋ากุกกัก



    “เอ้า บัตรนักเรียนโรงเรียนพระราชา ของแท้แน่นอนมีไอเวทย์ของมหาปราชญ์เลโมธีด้วย”



    ทหารหน้าวังรับไปดูแล้วก็เบ้ปาก



    “ไม่เห็นจะหายากตรงไหน หลานข้าก็มี”



    อุวะ



    ถ้าไม่ติดว่าไอ้พระราชวังเมืองนักรบนี่มันแน่นหนาสมชื่อแล้วยังมีข่ายมนต์กางซ้ำอยู่อีก เธอจะไม่เสียเวลามาพูดอยู่นี่เลย



    หัวขโมยมาแอบจดๆจ้องๆอยู่หลายวันแต่ก็ยังหาทางเล็ดลอดเข้าไปไม่ได้



    คิงบาโรนี่แน่จริง



    ถ้าแบบนี้คงจะล้มไอ้งานบ้าๆนั่นไม่ทัน อีกแค่สามวันเท่านั้นเอง แดดก็ร้อนแบบนี้ ชักจะตาลายแล้วนะว้อย จะว่าไปก็เหมือนจะป่วยๆมาหลายวันแล้ว แต่วันนี้ชักจะแย่ลง



    “น้าไปเรียกคาโลออกมาสิ เดี๋ยวก็รู้ว่าฉันพูดจริง”



    “บังอาจ! กล้าเรียกพระนามของเจ้าชายเฉยๆได้ยังไง ถึงเป็นผู้หญิงข้าก็ไม่ละเว้นหรอกนะอีหนู”



    “ขอโทษครับ น้องสาวผมมันเพี้ยนๆ”



    ยังไม่ทันที่ทหารยามหน้าพระราชวังจะจับเฟรินเข้าซังเต ชายหนุ่มร่างสูงที่เจ้าหล่อนเคยหมกกองขยะไว้ก็ปราดเข้ามากระชากร่างบางออกไปอย่างรวดเร็ว พร้อมๆกับการมาถึงของกลุ่มชายในชุดผ้าคลุมสีดำห้าคนที่เฟรินจำได้ว่าเคยพบในป่า หนึ่งในนั้นหันมามองชายร่างใหญ่ที่กำลังอุ้มหญิงสาวที่ดิ้นพราดๆส่งเสียงร้องอู้อี้ออกห่างไป







    เฟริน?



    ไม่น่าใช่ หมอนั่นมันไม่ชอบแต่งตัวดีแบบนั้น



    “คนบ้าพระเจ้าค่ะ มาอ้างว่ารู้จักกับฝ่าบาท พี่ชายมันมาลากกลับไปแล้วพระเจ้าค่ะ” ทหารยามเอ่ยเมื่อเห็นเจ้าชายมีท่าทีสนใจ



    “อืม” คำตอบราบเรียบตามนิสัย







    แล้วเจ้าชายแห่งคาโนวาลก็หายลับเข้าไปหลังประตูบานใหญ่แห่งพระราชวัง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×