ลำดับตอนที่ #11
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : บารามอสและพระเจ้าตาชามัล
    ลืม  ลืม  ลืมมมมมมม!
    ลืมได้ยังไงวะ
    เรื่องสำคัญขนาดนี้
    เพราะมันคนเดียว 
    ถ้ามันไม่รีบร้อนกลับคาโนวาลไปโดยไม่ทันพูดกันให้รู้เรื่อง มีหรือเธอจะกลุ้มจนลืมเรื่องคอขาดบาดตายแบบนี้
   
“คาโลไม่ได้รีบร้อนอะไรสักหน่อย นายตื่นสายเอง รู้ไหมว่าตอนนี้มันบ่ายสามแล้ว”
    เสียงแองเจลิน่าดังขึ้นหลังจากเธอนั่งหน้าซีดโดยมีนักฆ่านั่งมองเงียบๆ  ก่อนจะเริ่มโวยวายโทษคนที่จากไปเร็วเกินเหตุ
    “ก็  มัน  มัน  โธ่เว้ยแองจี้  เธอไม่เข้าใจหรอก ฉันกับมันมีเรื่องสำคัญมากต้องเคลียร์กัน”
    “เรื่องอะไร” คิลเลิกคิ้วอย่างงงๆก่อนจะลุกไปล้างหน้าล้างตา
    เรื่องอะไร
    เรื่องอะไรจะบอกแก ไอ้คิล
    หัวขโมยไม่ยอมตอบเอาแต่ก้มหน้างุดให้เพื่อนสองคนในห้องมองตากันแล้วก็เดาไปสารพัด  เมื่อเห็นเฟรินเอาแต่เงียบแม่มดสาวแห่งวิทซ์จึงหันกายเดินออกไป
    “ฉันไปล่ะเฟริน  เจอกันเทอมหน้า”
    “อืม” หญิงสาวผมสีน้ำตาลยังคงจมอยู่ในโลกส่วนตัวจึงไม่แม้แต่จะมองส่งเพื่อนสาว
   
ความเลินเล่อกับอาการณ์เมาค้างนั้นเป็นสาเหตุให้เธอต้องมาเต้นเร่าๆอยู่ตอนนี้
    ร่างบางในชุดเจ้าหญิงรุ่มร่างเดินไปเดินมาเหมือนเสือติดจั่นในห้องรับนั่งเล่นอันแสนหรูหราแห่งพระราชวังบารามอสจนดวงตาสีม่วงที่นั่งมองอยู่นานแล้วเริ่มฉายแววหงุดหงิด
    “นายจะเดือดร้อนอะไรนักหนา  กะอีแค่ลืมแหวนไว้ที่แองเจลิน่า”
   
“นายไม่เห็นสภาพฉันรึไงวะคิล” เจ้าตัวแยกเขี้ยวพลางจิ้มไปที่หน้าอกตัวเองอย่างหงุดหงิด
“แล้วมันไม่ดีตรงไหน” นักฆ่าแห่งซาเรสยังคงไม่เก็ท
“ไม่ดีตรงไหน” หญิงสาวทวนคำถามเสียงสูงปรี๊ด “นายไม่เห็นเหรอว่าฉันต้องใส่ไอ้กระโปรงบ้านี่ทุกวันแล้วก็ห้ามออกไปจากวังเด็ดขาด ทีนี้ล่ะไอ้คิลเอ๋ย  แผนการเที่ยวโน่นเที่ยวนี่เคล้านารีแสนเพลินใจที่ฉันว่าจะพาแกไปก็เป็นอันล่มสนิทแน่”
“ไม่จริงน่า” พอรู้ว่าไอ้แผนการเที่ยวโน่นเที่ยวนี่ที่เคยคุยกันไว้จะล่ม คิลก็ชักเริ่มไม่สนุก  ถึงแม้ว่าเขาจะจำไม่ได้ว่ามันมีการเคล้านารีแสนเพลินพ่วงมาด้วยตั้งแต่เมื่อไหร่
“ไม่ถึงขนาดนั้นมั้ง  นายอย่ามองโลกในแง่ร้ายไปหน่อยเลย”
“ฉันไม่ได้มองโลกในแง่ร้ายแต่ฉันรู้เฟ้ย” เจ้าตัวแสบเถียงอย่างมีอารมณ์  “นายไม่มาเป็นฉันนายไม่รู้หรอกว่าไอ้ร่างผู้หญิงนี่มันแย่แค่ไหน  ใครๆก็มากะเกณฑ์ให้ฉันต้องเป็นอย่างโน้นเป็นอย่างนี้”
เสียงหวานสั่นเครือเหมือนจะร้องไห้  คิลจึงเลือกที่จะเงียบแล้วหันไปทางอื่น
พอได้ตะโกนออกไปความกังวลก็เหมือนจะลดลง  ก่อนจะถอนหายใจอย่างปลงๆ แล้วก็เดินไปนั่งข้างๆเพื่อนรักที่สะดุ้งโหยงอย่างไม่ทันอารมณ์สาวของเจ้าหญิงคนสวย
“คิล”
“เออๆ ฉันมันไม่เข้าใจนาย”
“โทษทีที่ฉันโวยวายไปหน่อย”
คำขอโทษที่คาดไม่ถึงทำให้นักฆ่าต้องหันมามอง 
“ถึงฉันจะเป็นผู้ชายไม่ได้ก็ยังดีที่มีนายอยู่”
ดวงตาสีน้ำตาลกลมโตสบกับดวงตาสีม่วงที่มองมาแล้วก็ยิ้มขำๆพลางเอื้อมมือไปตบไหล่เพื่อนรักป๊าบๆแล้วก็กระโดดแผลวไปด้านหน้า
“กลุ้มไปก็เท่านั้น” ดวงตาสีน้ำตาลกลับมาเป็นประกายระริกเหมือนเคย “เอาวะ  ร่างนี้ก็ร่างนี้  เรามาหาวิธีออกไปเที่ยวข้างนอกกันดีกว่า”
ไม่ทันสิ้นเสียง  ประตูห้องบานโตก็เปิดออกพร้อมใบหน้าที่แสนจะคุ้นเคยของคิงชามัลตามด้วยหญิงแก่อีกหลายคน
“จะไปไหนอีก  เฟลิโอน่า” เสียงเรียบๆแบบข่มอารมณ์ดังขึ้นจากปากกษัตริย์แห่งบารามอส
เจ้าตัวดีได้แต่หัวเราะแหะๆแล้วก็ยืนทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยมโดยไม่รู้ตัว  คิลก็ต้องรีบยืนขึ้นเพื่อรักษามารยาท
“เจ้าชายคาโลได้บอกเธอหรือยังว่าเดือนหน้าจะมีงานฉลองวันเกิดที่คาโนวาล”
“ทราบแล้วค...เพคะ”
เฟรินลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก  เรื่องที่คาโลคุยกับผู้มีศักดิ์เป็นตาของเธอคงจะเป็นเรื่องนี้เอง
ดวงตาของผู้สูงวัยลอบมองปฏิกิริยาของหลานสาวแล้วก็หรี่ลงนิดๆ
“แปลว่าพวกเธอตกลงกันเรียบร้อยดีแล้ว”
“เพคะ”
ก็หมอนั่นมันบอกเธอไว้แล้วนี่นะ
“งั้นฉันก็ไม่มีอะไรต้องพูดอีก  แต่ในฐานะตา  ฉันว่าเธอควรจะรีบบอกฉันให้เร็วกว่านี้  และจะให้ดีที่สุด  พวกเธอควรมาพร้อมกัน”
เรื่องใหญ่ขนาดนั้น  แค่ไปเที่ยวงานวันเกิด
“แล้วบอกจ้าวเอวิเดสรึยัง”
“อ่า...ยังฮะ เอ้ยเพคะ”
ท่านพ่อจะอยากรู้ไอ้เรื่องนี้ด้วยหรือ
“ไม่ไหวเลย” คิงแห่งบารามอสพูดพลางส่ายหัว “ไว้ตาจะส่งข่าวไปเอง  ระหว่างนี้ก็เรียนรู้เรื่องมารยาทกับป้าของเธอไปก่อน” 
“มารยาท!”  เสียงเจ้าตัวดีเหวอเต็มที่พลางหันไปมองหน้าเพื่อนซี้ที่แหงนมองเพดานอย่างไม่รู้จะช่วยยังไง
ตายแน่ๆ  ถ้าต้องเรียนไอ้เรื่องงี่เง่านั่น  เดือนนี้มีหวังอดเที่ยวเต็มๆ  แถมยัยป้าสองคนนี้ก็ดูน่าสยองกว่าพี่ผีสาวของไอ้คาโลไม่รู้กี่เท่า
หน้าตาเรียบเฉยแต่เหี่ยวเหมือนกิ้งก่าตากแห้ง  ผมมวยรวบตึงจนคิ้วดูเบี้ยวๆ  แถมยืนมาตั้งนานไม่มีกระดิกตัวสักนิด  หรือว่าจะเป็นหุ่นมนุษย์ไม้  แต่เรื่องนั้นช่างเถอะ
ที่แน่ๆ ไม่สวย
“ใช่มารยาท”  ผู้สูงวัยตอบอย่างใจเย็น “ฉันคิดดูแล้ว ถ้าไม่อบรมเธอซะใหม่  คาโนวาลต้องตำหนิมาทางนี้แน่”
ตำหนิ  เรื่องอะไรจะมาตำหนิแขกที่มาร่วมงาน
เฟรินนึกสงสัยไอ้พิธีรีตองของพวกเจ้าๆซะเหลือเกิน  แต่ก็เลือกที่จะเงียบเพราะรู้นิสัยตาของเธอดี  แต่พอคิดว่าจะต้องเข้าคอร์สที่น่าสยดสยองนั่นก็อดเถียงเสียงอ่อยๆไม่ได้
“ไม่ต้องหรอกฮะ...เอ้ย เพคะ ไม่ต้องสอนผม..เอ๊อะ.หม่อมฉันหรอก  รับรองว่าหม่อมฉันจะยืนนิ่งๆเรียบร้อยๆ  ไม่พูดไม่จา จะไม่ให้มีอะไรเสื่อมเสียมาถึงบารามอสได้เด็ดขาด”
“เธอจะทนได้นานแค่ไหนเชียวเฟลิโอน่า” คิงชามัลไม่ยอมเชื่อเจ้าหลานสาวทโมนคนนี้ง่ายๆ
“พีธีมันนานขนาดนั้นเชียวหรือฮะ” คิ้วเรียวขมวดอย่างสงสัย พร้อมกับเริ่มสังหรณ์แปลกๆ
“สามวันสามคืน” คำตอบเรียบๆที่ทำให้ผู้เป็นหลานร้องเสียงหลง
“สามวันสามคืน!” ดวงตาสีน้ำตาลเบิกกว้าง
ไอ้คาโลมันจะเว่อร์ใหญ่แล้ว  นานยังกะพิธีครองราชย์  หรือที่คาโนวาลนิยมอะไรแบบนี้  ดูไม่เห็นจะเข้ากับนิสัยคิงบาโรที่เธอเคยพบเลย
ไม่พูดอะไร  อยู่นิ่งๆสามวันสามคืน
ไม่ไหว  อกแตกตายแน่ๆ
“ไอ้คาโลมันไม่ถือหรอกฮะ มันรู้นิสัยผมดี” เจ้าตัวพูดพลางยิ้มแหย
ราชาแห่งบารามอสลอบถอนหายใจ
ดูสิ  ไม่ทันไรมันก็หลุด  จะให้ไว้ใจได้ไง  ไอ้ลิงป้อมอัศวินนี่
“เจ้าชายคาโล เฟลิโอน่า” คิงชามัลแก้ให้ “หรือเธอจะเรียกว่าท่านพี่ เจ้าพี่ หรืออะไรก็ได้ที่มันดีกว่านี้”
บรื๋อ  จะบ้าเรอะ  ให้เรียกมันยังงั้นมีหวังขนลุกตาย  พวกเจ้าๆนี่มันต้องพูดจาภาษาดอกไม้แบบนี้กันทุกคนรึไง  พลันสมองก็คิดไพล่ไปถึงคำ ‘พี่หญิง’ ของวิเวียนน้องรักแล้วก็ตัดสินใจหาทางออกต่อ
“ถ้างั้นผมจะไม่คุยกับมันฮะ”
เธอน่าจะเชื่อที่มันบอกซะตั้งแต่แรกว่าไม่มีอะไรน่าสนุก
“ไม่ได้ เสียมารยาท”
อย่างนี้ก็ไม่ได้เรอะ ก็แค่อยู่ห่างๆ  หรือทักทายแค่พอเป็นพิธีมันจะเสียมารยาทตรงไหน 
“งั้นผมไม่ไปก็ได้ฮะ”
เฟรินยอมพูดไม้สุดท้ายที่คิดได้  ถึงจะเสียดายโอกาสเที่ยวคาโนวาลที่คงไม่เรียกว่าเที่ยวนิดหน่อย  แต่ก็แลกกับโอกาสเที่ยวบารามอสให้คุ้มทั้งสองเดือนโดยไม่ต้องฝึกมารยาทงี่เง่านั่น  แต่เมื่อแลสบกับดวงตาที่ฉายแววหงุดหงิดของคนตรงหน้าแล้วก็ให้เสียวสันหลังวาบ
คิ้วของผู้เป็นตาขมวดอย่างยุ่งที่สุดก่อนมุมปากจะกระตุกอย่างข่มอารมณ์
“เธอจะไม่ไปงานหมั้นของตัวเองได้ยังไง เฟลิโอน่า”
คำประกาศิตของผู้มีศักดิ์เป็นตาทำเอาหลานสาวผู้กำลังจะหมั้นและนักฆ่าตัวแข็งทื่ออ้าปากค้างก่อนจะหุบลงเมื่อสองแม่แก่ทั้งสองจับมันหุบและลากเจ้าหญิงเฟลิโอน่า เกรเดเวล แห่งเดมอสและบารามอส เข้าห้องไปฝึกมารยาท
    ลืมได้ยังไงวะ
    เรื่องสำคัญขนาดนี้
    เพราะมันคนเดียว 
    ถ้ามันไม่รีบร้อนกลับคาโนวาลไปโดยไม่ทันพูดกันให้รู้เรื่อง มีหรือเธอจะกลุ้มจนลืมเรื่องคอขาดบาดตายแบบนี้
   
“คาโลไม่ได้รีบร้อนอะไรสักหน่อย นายตื่นสายเอง รู้ไหมว่าตอนนี้มันบ่ายสามแล้ว”
    เสียงแองเจลิน่าดังขึ้นหลังจากเธอนั่งหน้าซีดโดยมีนักฆ่านั่งมองเงียบๆ  ก่อนจะเริ่มโวยวายโทษคนที่จากไปเร็วเกินเหตุ
    “ก็  มัน  มัน  โธ่เว้ยแองจี้  เธอไม่เข้าใจหรอก ฉันกับมันมีเรื่องสำคัญมากต้องเคลียร์กัน”
    “เรื่องอะไร” คิลเลิกคิ้วอย่างงงๆก่อนจะลุกไปล้างหน้าล้างตา
    เรื่องอะไร
    เรื่องอะไรจะบอกแก ไอ้คิล
    หัวขโมยไม่ยอมตอบเอาแต่ก้มหน้างุดให้เพื่อนสองคนในห้องมองตากันแล้วก็เดาไปสารพัด  เมื่อเห็นเฟรินเอาแต่เงียบแม่มดสาวแห่งวิทซ์จึงหันกายเดินออกไป
    “ฉันไปล่ะเฟริน  เจอกันเทอมหน้า”
    “อืม” หญิงสาวผมสีน้ำตาลยังคงจมอยู่ในโลกส่วนตัวจึงไม่แม้แต่จะมองส่งเพื่อนสาว
   
ความเลินเล่อกับอาการณ์เมาค้างนั้นเป็นสาเหตุให้เธอต้องมาเต้นเร่าๆอยู่ตอนนี้
    ร่างบางในชุดเจ้าหญิงรุ่มร่างเดินไปเดินมาเหมือนเสือติดจั่นในห้องรับนั่งเล่นอันแสนหรูหราแห่งพระราชวังบารามอสจนดวงตาสีม่วงที่นั่งมองอยู่นานแล้วเริ่มฉายแววหงุดหงิด
    “นายจะเดือดร้อนอะไรนักหนา  กะอีแค่ลืมแหวนไว้ที่แองเจลิน่า”
   
“นายไม่เห็นสภาพฉันรึไงวะคิล” เจ้าตัวแยกเขี้ยวพลางจิ้มไปที่หน้าอกตัวเองอย่างหงุดหงิด
“แล้วมันไม่ดีตรงไหน” นักฆ่าแห่งซาเรสยังคงไม่เก็ท
“ไม่ดีตรงไหน” หญิงสาวทวนคำถามเสียงสูงปรี๊ด “นายไม่เห็นเหรอว่าฉันต้องใส่ไอ้กระโปรงบ้านี่ทุกวันแล้วก็ห้ามออกไปจากวังเด็ดขาด ทีนี้ล่ะไอ้คิลเอ๋ย  แผนการเที่ยวโน่นเที่ยวนี่เคล้านารีแสนเพลินใจที่ฉันว่าจะพาแกไปก็เป็นอันล่มสนิทแน่”
“ไม่จริงน่า” พอรู้ว่าไอ้แผนการเที่ยวโน่นเที่ยวนี่ที่เคยคุยกันไว้จะล่ม คิลก็ชักเริ่มไม่สนุก  ถึงแม้ว่าเขาจะจำไม่ได้ว่ามันมีการเคล้านารีแสนเพลินพ่วงมาด้วยตั้งแต่เมื่อไหร่
“ไม่ถึงขนาดนั้นมั้ง  นายอย่ามองโลกในแง่ร้ายไปหน่อยเลย”
“ฉันไม่ได้มองโลกในแง่ร้ายแต่ฉันรู้เฟ้ย” เจ้าตัวแสบเถียงอย่างมีอารมณ์  “นายไม่มาเป็นฉันนายไม่รู้หรอกว่าไอ้ร่างผู้หญิงนี่มันแย่แค่ไหน  ใครๆก็มากะเกณฑ์ให้ฉันต้องเป็นอย่างโน้นเป็นอย่างนี้”
เสียงหวานสั่นเครือเหมือนจะร้องไห้  คิลจึงเลือกที่จะเงียบแล้วหันไปทางอื่น
พอได้ตะโกนออกไปความกังวลก็เหมือนจะลดลง  ก่อนจะถอนหายใจอย่างปลงๆ แล้วก็เดินไปนั่งข้างๆเพื่อนรักที่สะดุ้งโหยงอย่างไม่ทันอารมณ์สาวของเจ้าหญิงคนสวย
“คิล”
“เออๆ ฉันมันไม่เข้าใจนาย”
“โทษทีที่ฉันโวยวายไปหน่อย”
คำขอโทษที่คาดไม่ถึงทำให้นักฆ่าต้องหันมามอง 
“ถึงฉันจะเป็นผู้ชายไม่ได้ก็ยังดีที่มีนายอยู่”
ดวงตาสีน้ำตาลกลมโตสบกับดวงตาสีม่วงที่มองมาแล้วก็ยิ้มขำๆพลางเอื้อมมือไปตบไหล่เพื่อนรักป๊าบๆแล้วก็กระโดดแผลวไปด้านหน้า
“กลุ้มไปก็เท่านั้น” ดวงตาสีน้ำตาลกลับมาเป็นประกายระริกเหมือนเคย “เอาวะ  ร่างนี้ก็ร่างนี้  เรามาหาวิธีออกไปเที่ยวข้างนอกกันดีกว่า”
ไม่ทันสิ้นเสียง  ประตูห้องบานโตก็เปิดออกพร้อมใบหน้าที่แสนจะคุ้นเคยของคิงชามัลตามด้วยหญิงแก่อีกหลายคน
“จะไปไหนอีก  เฟลิโอน่า” เสียงเรียบๆแบบข่มอารมณ์ดังขึ้นจากปากกษัตริย์แห่งบารามอส
เจ้าตัวดีได้แต่หัวเราะแหะๆแล้วก็ยืนทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยมโดยไม่รู้ตัว  คิลก็ต้องรีบยืนขึ้นเพื่อรักษามารยาท
“เจ้าชายคาโลได้บอกเธอหรือยังว่าเดือนหน้าจะมีงานฉลองวันเกิดที่คาโนวาล”
“ทราบแล้วค...เพคะ”
เฟรินลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก  เรื่องที่คาโลคุยกับผู้มีศักดิ์เป็นตาของเธอคงจะเป็นเรื่องนี้เอง
ดวงตาของผู้สูงวัยลอบมองปฏิกิริยาของหลานสาวแล้วก็หรี่ลงนิดๆ
“แปลว่าพวกเธอตกลงกันเรียบร้อยดีแล้ว”
“เพคะ”
ก็หมอนั่นมันบอกเธอไว้แล้วนี่นะ
“งั้นฉันก็ไม่มีอะไรต้องพูดอีก  แต่ในฐานะตา  ฉันว่าเธอควรจะรีบบอกฉันให้เร็วกว่านี้  และจะให้ดีที่สุด  พวกเธอควรมาพร้อมกัน”
เรื่องใหญ่ขนาดนั้น  แค่ไปเที่ยวงานวันเกิด
“แล้วบอกจ้าวเอวิเดสรึยัง”
“อ่า...ยังฮะ เอ้ยเพคะ”
ท่านพ่อจะอยากรู้ไอ้เรื่องนี้ด้วยหรือ
“ไม่ไหวเลย” คิงแห่งบารามอสพูดพลางส่ายหัว “ไว้ตาจะส่งข่าวไปเอง  ระหว่างนี้ก็เรียนรู้เรื่องมารยาทกับป้าของเธอไปก่อน” 
“มารยาท!”  เสียงเจ้าตัวดีเหวอเต็มที่พลางหันไปมองหน้าเพื่อนซี้ที่แหงนมองเพดานอย่างไม่รู้จะช่วยยังไง
ตายแน่ๆ  ถ้าต้องเรียนไอ้เรื่องงี่เง่านั่น  เดือนนี้มีหวังอดเที่ยวเต็มๆ  แถมยัยป้าสองคนนี้ก็ดูน่าสยองกว่าพี่ผีสาวของไอ้คาโลไม่รู้กี่เท่า
หน้าตาเรียบเฉยแต่เหี่ยวเหมือนกิ้งก่าตากแห้ง  ผมมวยรวบตึงจนคิ้วดูเบี้ยวๆ  แถมยืนมาตั้งนานไม่มีกระดิกตัวสักนิด  หรือว่าจะเป็นหุ่นมนุษย์ไม้  แต่เรื่องนั้นช่างเถอะ
ที่แน่ๆ ไม่สวย
“ใช่มารยาท”  ผู้สูงวัยตอบอย่างใจเย็น “ฉันคิดดูแล้ว ถ้าไม่อบรมเธอซะใหม่  คาโนวาลต้องตำหนิมาทางนี้แน่”
ตำหนิ  เรื่องอะไรจะมาตำหนิแขกที่มาร่วมงาน
เฟรินนึกสงสัยไอ้พิธีรีตองของพวกเจ้าๆซะเหลือเกิน  แต่ก็เลือกที่จะเงียบเพราะรู้นิสัยตาของเธอดี  แต่พอคิดว่าจะต้องเข้าคอร์สที่น่าสยดสยองนั่นก็อดเถียงเสียงอ่อยๆไม่ได้
“ไม่ต้องหรอกฮะ...เอ้ย เพคะ ไม่ต้องสอนผม..เอ๊อะ.หม่อมฉันหรอก  รับรองว่าหม่อมฉันจะยืนนิ่งๆเรียบร้อยๆ  ไม่พูดไม่จา จะไม่ให้มีอะไรเสื่อมเสียมาถึงบารามอสได้เด็ดขาด”
“เธอจะทนได้นานแค่ไหนเชียวเฟลิโอน่า” คิงชามัลไม่ยอมเชื่อเจ้าหลานสาวทโมนคนนี้ง่ายๆ
“พีธีมันนานขนาดนั้นเชียวหรือฮะ” คิ้วเรียวขมวดอย่างสงสัย พร้อมกับเริ่มสังหรณ์แปลกๆ
“สามวันสามคืน” คำตอบเรียบๆที่ทำให้ผู้เป็นหลานร้องเสียงหลง
“สามวันสามคืน!” ดวงตาสีน้ำตาลเบิกกว้าง
ไอ้คาโลมันจะเว่อร์ใหญ่แล้ว  นานยังกะพิธีครองราชย์  หรือที่คาโนวาลนิยมอะไรแบบนี้  ดูไม่เห็นจะเข้ากับนิสัยคิงบาโรที่เธอเคยพบเลย
ไม่พูดอะไร  อยู่นิ่งๆสามวันสามคืน
ไม่ไหว  อกแตกตายแน่ๆ
“ไอ้คาโลมันไม่ถือหรอกฮะ มันรู้นิสัยผมดี” เจ้าตัวพูดพลางยิ้มแหย
ราชาแห่งบารามอสลอบถอนหายใจ
ดูสิ  ไม่ทันไรมันก็หลุด  จะให้ไว้ใจได้ไง  ไอ้ลิงป้อมอัศวินนี่
“เจ้าชายคาโล เฟลิโอน่า” คิงชามัลแก้ให้ “หรือเธอจะเรียกว่าท่านพี่ เจ้าพี่ หรืออะไรก็ได้ที่มันดีกว่านี้”
บรื๋อ  จะบ้าเรอะ  ให้เรียกมันยังงั้นมีหวังขนลุกตาย  พวกเจ้าๆนี่มันต้องพูดจาภาษาดอกไม้แบบนี้กันทุกคนรึไง  พลันสมองก็คิดไพล่ไปถึงคำ ‘พี่หญิง’ ของวิเวียนน้องรักแล้วก็ตัดสินใจหาทางออกต่อ
“ถ้างั้นผมจะไม่คุยกับมันฮะ”
เธอน่าจะเชื่อที่มันบอกซะตั้งแต่แรกว่าไม่มีอะไรน่าสนุก
“ไม่ได้ เสียมารยาท”
อย่างนี้ก็ไม่ได้เรอะ ก็แค่อยู่ห่างๆ  หรือทักทายแค่พอเป็นพิธีมันจะเสียมารยาทตรงไหน 
“งั้นผมไม่ไปก็ได้ฮะ”
เฟรินยอมพูดไม้สุดท้ายที่คิดได้  ถึงจะเสียดายโอกาสเที่ยวคาโนวาลที่คงไม่เรียกว่าเที่ยวนิดหน่อย  แต่ก็แลกกับโอกาสเที่ยวบารามอสให้คุ้มทั้งสองเดือนโดยไม่ต้องฝึกมารยาทงี่เง่านั่น  แต่เมื่อแลสบกับดวงตาที่ฉายแววหงุดหงิดของคนตรงหน้าแล้วก็ให้เสียวสันหลังวาบ
คิ้วของผู้เป็นตาขมวดอย่างยุ่งที่สุดก่อนมุมปากจะกระตุกอย่างข่มอารมณ์
“เธอจะไม่ไปงานหมั้นของตัวเองได้ยังไง เฟลิโอน่า”
คำประกาศิตของผู้มีศักดิ์เป็นตาทำเอาหลานสาวผู้กำลังจะหมั้นและนักฆ่าตัวแข็งทื่ออ้าปากค้างก่อนจะหุบลงเมื่อสองแม่แก่ทั้งสองจับมันหุบและลากเจ้าหญิงเฟลิโอน่า เกรเดเวล แห่งเดมอสและบารามอส เข้าห้องไปฝึกมารยาท
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น