ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : แต่งงาน!
    แต่งงาน  แต่งงาน  แต่งงาน ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
!
    คำนี้วิ่งวนเวียนอยู่ในใจเจ้าชายคาโลนับร้อยรอบราวกับฝูงตั๊กแตนยักษ์เขมือบโลก  ดวงตาสีฟ้าสวยเบิกกว้างค้างอยู่หลายวินาที  ก่อนจะก้มลงมองใบหน้าหวานที่กำลังมองหน้าเขาอยู่
เฟรินยิ้มแย้มอย่างที่เขารู้สึกว่าน่ารักจนแทบอดใจไม่ไหว  ดวงตากลมโตที่ทอดมองมาหวานซึ้งเป็นประกายระยิบระยับ  เลือดสาวสูบฉีดจนแก้มใสๆแดงระเรื่อ  คาโลมองความงามที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมด้วยความรู้สึกราวกับต้องมนต์สะกด  โดยเฉพาะริมฝีปากจิ้มลิ้มสีกุหลาบ  ซึ่งขยับแย้มพูดอะไรบางอย่างที่เขาฟังแทบไม่รู้เรื่องแล้ว
“ห่างกันตั้งเดือนฉันคงคิดถึงนายแย่”
คำหวานๆของสาวคนรักทำให้หัวใจของชายหนุ่มเต้นแรง  แม้เนื้อหาจะไม่ค่อยเข้าหูเท่าไหร่เพราะเขาเอาแต่ซึมซับความนุ่มนวลในอ้อมแขน
“เป็นของฉันนะคาโล”
ไม่เข้าก็ต้องเข้าแล้วงานนี้ 
สมองที่หยุดทำงานไปชั่วครู่กลับมาทำงานอีกครั้งเมื่อเจอประโยคเด็ดที่เหมือนฟ้าผ่าของหญิงสาวตรงหน้า  ก่อนที่สติจะกระเจิงไปอีกรอบเมื่อเจ้าหล่อนโน้มใบหน้าเขาลงมาพลางประกบริมฝีปากอ่อนนุ่มกับริมฝีปากของเขา
เจ้าชายน้ำแข็งถึงกับตัวแข็งทื่อ
เขาอยากจะหันหน้าหลบแต่มือบางประคองใบหน้าเขาไว้อย่างแน่นหนา  แล้วก็ค่อยๆเลื้อยขึ้นไปบนเรือนผมสีเงินละเอียด  มือใหญ่ขยับจับไหล่แม่จอมยุ่งไว้หมายจะดันออกแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเจ้าตัวแสบรุกรานเขาอย่างอ่อนหวานจนเขาอดตอบสนองไม่ได้ 
คิดอะไรไม่ออก
แขนแข็งแกร่งขยับโอบร่างบางไว้อย่างแนบแน่นจนร่างเล็กแทบจะฝังลงในตัวเขา  เฟรินค่อยๆถอนริมฝีปากออกช้าๆ  มือหล่อนเลื่อนลงไปที่ไหล่เขาแล้วก็ออกแรงผลักจนร่างสูงหงายหลังลงไปบนพื้นหญ้านุ่มโดยมีเจ้าหล่อนปีนป่ายอยู่ด้านบน
“เฟริน ”  เจ้าชายแห่งคาโนวาลเริ่มรู้สึกตัว
เสียงเรียกนั้นถูกเมินเฉยด้วยจูบที่ร้อนแรงยิ่งกว่าครั้งแรก  จูบที่ดุดันเร่าร้อนบดเบียดริมฝีปากเขาอยู่เนิ่นนานก่อนที่จะไล่ลงไปตามลำคอขาว  มือเล็กขยับปลดกระดุมเสื้อของชายหนุ่มออกพลางกดริมฝีปากบางลงไปที่ซอกคอจนเกิดรอยแดงหลายแห่ง
“เฟริน!”  คาโลสะดุ้งพลางดันร่างบนตัวเขาออก “นายทำอะไร”  โหนกแก้มขาวๆของหัวหน้าป้อมอัศวินขึ้นสีแดงจัด  แต่หญิงสาวที่กระทำอุกอาจกลับยิ้มร่า
“ของขวัญแต่งงานให้คิงบาโรพ่อนายไง  เขาจะได้รู้ว่านายมีเจ้าของแล้ว” 
คำตอบนั้นทำให้เลือดในกายที่ร้อนรุ่มแทบจะแข็งเป็นน้ำแข็งในพริบตา
“เฟริน  นายบ้าไปแล้วเรอะ”
“อะไรกันคาโล  นายไม่ชอบหรอกหรือ”  ดวงหน้าหวานงอง้ำ  คิ้วเรียวเลิกขึ้นเหมือนถูกลูบคม  “งั้นลองแบบนี้มั้ย”
เฟรินแนบหน้าลงบนแก้มของชายหนุ่มพลางไล่ริมฝีปากไปตามคางและสันกรามได้รูปจนไปหยุดอยู่ที่ใบหู  มือเรียวแทรกเข้าไปในสาบเสื้อสัมผัสแผงอกแข็งแกร่งแผ่วเบา  แล้วค่อยๆไล้เวียนวนให้ชายหนุ่มสะท้านขนลุกเกรียว
“อย่า  เดี๋ยวมีคนมาเห็น” เสียงทุ้มปนเปไปกับเสียงถอนหายใจหนักๆ
“ไม่มีใครเห็นหรอกน่า”  หญิงสาวงับใบหูที่กลายเป็นสีแดง  เรียกเสียงอุทานแผ่วจากลำคอ
ไม่ใช่ที่นี่!
เป็นความคิดเดียวที่เจ้าชายแห่งคาโนวาลจะคิดได้
“เฟริน!”
เสียงตะโกนเบาๆที่เหมือนจะตะโกนให้ตัวเองฟังซะมากกว่าจะบอกหน่วยจู่โจมที่กำลังปฏิบัติงานบนร่างเขา ได้หยุดการเคลื่อนไหวทั้งปวง 
ร่างบางยังคงนอนนิ่งอยู่บนตัวเขา  คาโลโอบร่างนั้นไว้แน่นอย่างกลัวใจว่าหล่อนจะลุกขึ้นมาทำอะไรแผลงๆอีก ชั่วครู่จึงค่อยๆคลายอ้อมกอด
“เฟริน”  ดวงตาสีฟ้าเหลือบมองใบหน้าหวานที่แนบอยู่ข้างแก้ม  แล้วก็ต้องค้างอีกรอบ
ดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้นปิดสนิท
งืม  งืม  งืม 
ร่างบางพลิกไปพลิกมาอย่างรำคาญแสงแดดที่สาดส่องแยงตา  เสียงกุกกักที่ดังไม่หยุดยิ่งน่ารำคาญจนต้องลืมตาดูทั้งๆที่ง่วงแสนง่วง
แองจี้
หล่อนกำลังลากกระเป๋าใบโตออกไปจากห้อง  ดวงตาสีน้ำตาลก้มลงมองตัวเองในชุดนอนก่อนจะกระพริบอย่างงุนงง
เอ  เมื่อวานกลับมานอนได้ไงหว่า
คาโล
เฮ้ย!!!!!!
หัวขโมยเด้งผึงลงจากเตียงเหมือนโดนน้ำร้อนจนแม่มดสาวต้องหันมามองอย่างแปลกใจ  แต่ยังไม่ทันจะเอ่ยปากถาม  เจ้าตัวแสบก็เผ่นแผลวออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว  แล้วก็ได้ยินเสียงเปิดประตูห้องดังโครม
“โทษทีว่ะคาโล  เมื่อคืนฉันเมา”
เฟรินหลับหูหลับตาตะโกนออกไปทันทีที่หล่อนพังประตูเข้าไปในห้องหัวหน้าป้อมได้  แต่เมื่อมองให้ชัดๆ  ห้องนี้เหลือเพียงนักฆ่าแห่งซาเรสที่นอนคุดคู้อยู่บนเตียง  ไร้วี่แววของเจ้าชายแห่งคาโนวาล
“คาโลมันกลับบ้านไปตั้งแต่เช้าแล้ว”  คิลซึ่งงัวเงียขึ้นมานั่งช่วยให้ความกระจ่าง
“ว่าไงนะ”
“นายไปทำอะไรมันเข้าล่ะ  เมื่อคืนมันกลับมาหน้าตาเลอะเทอะไปหมด”
เลอะ?
คิ้วเรียวขมวดมุ่นก่อนจะคลายออกพลางยิ้มแหยเมื่อนึกอะไรได้ลางๆ
สีทาปากของเขาเอง
“เห็นมันว่าจะไปคุยอะไรกับอาจารย์คิงชามัลก่อนแล้วไปเลย”
หัวขโมยสาวยืนนิ่ง
คงจะเป็นเรื่องเชิญเธอไปงานวันเกิดมัน...มั้ง
คงไม่ใช่....
ซวย  ซวย  ซวยแหล่ว  มันคงไม่เอาจริงหรอกนะ
หญิงสาวรู้สึกปวดหัวตุบๆจนต้องเดินโซเซไปนั่งบนเตียง 
เมื่อคืนกินเข้าไปมากพอดู  เธอยืนดวดวิสกี้เพียวๆไปหลายแก้วกว่าจะกล้าเข้าไปลองดีกับโรเวน
คาโล
ตอนคุยกับมันก็รู้สึกมึนๆ
เธอทำอะไรลงไปหรือเปล่าหว่า  จำไม่ค่อยได้ 
เฟรินนั่งกุมขมับอย่างจนปัญญา  พอดีแองเจลิน่าโผล่เข้ามาตรงประตู
“เฟริน  เมื่อคืนนายเมาหลับ  คาโลเอานายมากองไว้ตรงหน้าห้องแล้วก็ไป”
“อย่างนั้นหรือ”
หน้าหวานพยักหงึกๆพลางนึกไปถึงเรื่องราวที่ยังค้างอยู่ในสมอง
เธอหกล้ม  ใช่ๆ เธอหกล้ม
แล้วมันก็รักษาให้  ต่อจากนั้นเธอก็นึกครึ้มโดดกอดมัน
จำได้ว่ามันน่ารักสุดๆ  ใจดีสุดๆ  จนเธออดใจไม่ไหว
แล้ว...แล้ว...แล้ว  เธอพูดอะไรบางอย่างออกไป
อะไรที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าความตาย
เธอขอมันแต่งงาน
เกวียนเทียมม้าคันหรูที่บรรจุเจ้าหญิงคนสำคัญกับพระสหายทายาทนักฆ่าผู้โด่งดังค่อยๆแล่นออกจากเอดินเบิร์กสู่บารามอส 
ชาวบ้านที่พบเห็นต่างยืนยันกันเป็นเสียงเดียวว่าเจ้าหญิงคนสวยทำหน้าเหมือนปลาตาย
    คำนี้วิ่งวนเวียนอยู่ในใจเจ้าชายคาโลนับร้อยรอบราวกับฝูงตั๊กแตนยักษ์เขมือบโลก  ดวงตาสีฟ้าสวยเบิกกว้างค้างอยู่หลายวินาที  ก่อนจะก้มลงมองใบหน้าหวานที่กำลังมองหน้าเขาอยู่
เฟรินยิ้มแย้มอย่างที่เขารู้สึกว่าน่ารักจนแทบอดใจไม่ไหว  ดวงตากลมโตที่ทอดมองมาหวานซึ้งเป็นประกายระยิบระยับ  เลือดสาวสูบฉีดจนแก้มใสๆแดงระเรื่อ  คาโลมองความงามที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมด้วยความรู้สึกราวกับต้องมนต์สะกด  โดยเฉพาะริมฝีปากจิ้มลิ้มสีกุหลาบ  ซึ่งขยับแย้มพูดอะไรบางอย่างที่เขาฟังแทบไม่รู้เรื่องแล้ว
“ห่างกันตั้งเดือนฉันคงคิดถึงนายแย่”
คำหวานๆของสาวคนรักทำให้หัวใจของชายหนุ่มเต้นแรง  แม้เนื้อหาจะไม่ค่อยเข้าหูเท่าไหร่เพราะเขาเอาแต่ซึมซับความนุ่มนวลในอ้อมแขน
“เป็นของฉันนะคาโล”
ไม่เข้าก็ต้องเข้าแล้วงานนี้ 
สมองที่หยุดทำงานไปชั่วครู่กลับมาทำงานอีกครั้งเมื่อเจอประโยคเด็ดที่เหมือนฟ้าผ่าของหญิงสาวตรงหน้า  ก่อนที่สติจะกระเจิงไปอีกรอบเมื่อเจ้าหล่อนโน้มใบหน้าเขาลงมาพลางประกบริมฝีปากอ่อนนุ่มกับริมฝีปากของเขา
เจ้าชายน้ำแข็งถึงกับตัวแข็งทื่อ
เขาอยากจะหันหน้าหลบแต่มือบางประคองใบหน้าเขาไว้อย่างแน่นหนา  แล้วก็ค่อยๆเลื้อยขึ้นไปบนเรือนผมสีเงินละเอียด  มือใหญ่ขยับจับไหล่แม่จอมยุ่งไว้หมายจะดันออกแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเจ้าตัวแสบรุกรานเขาอย่างอ่อนหวานจนเขาอดตอบสนองไม่ได้ 
คิดอะไรไม่ออก
แขนแข็งแกร่งขยับโอบร่างบางไว้อย่างแนบแน่นจนร่างเล็กแทบจะฝังลงในตัวเขา  เฟรินค่อยๆถอนริมฝีปากออกช้าๆ  มือหล่อนเลื่อนลงไปที่ไหล่เขาแล้วก็ออกแรงผลักจนร่างสูงหงายหลังลงไปบนพื้นหญ้านุ่มโดยมีเจ้าหล่อนปีนป่ายอยู่ด้านบน
“เฟริน ”  เจ้าชายแห่งคาโนวาลเริ่มรู้สึกตัว
เสียงเรียกนั้นถูกเมินเฉยด้วยจูบที่ร้อนแรงยิ่งกว่าครั้งแรก  จูบที่ดุดันเร่าร้อนบดเบียดริมฝีปากเขาอยู่เนิ่นนานก่อนที่จะไล่ลงไปตามลำคอขาว  มือเล็กขยับปลดกระดุมเสื้อของชายหนุ่มออกพลางกดริมฝีปากบางลงไปที่ซอกคอจนเกิดรอยแดงหลายแห่ง
“เฟริน!”  คาโลสะดุ้งพลางดันร่างบนตัวเขาออก “นายทำอะไร”  โหนกแก้มขาวๆของหัวหน้าป้อมอัศวินขึ้นสีแดงจัด  แต่หญิงสาวที่กระทำอุกอาจกลับยิ้มร่า
“ของขวัญแต่งงานให้คิงบาโรพ่อนายไง  เขาจะได้รู้ว่านายมีเจ้าของแล้ว” 
คำตอบนั้นทำให้เลือดในกายที่ร้อนรุ่มแทบจะแข็งเป็นน้ำแข็งในพริบตา
“เฟริน  นายบ้าไปแล้วเรอะ”
“อะไรกันคาโล  นายไม่ชอบหรอกหรือ”  ดวงหน้าหวานงอง้ำ  คิ้วเรียวเลิกขึ้นเหมือนถูกลูบคม  “งั้นลองแบบนี้มั้ย”
เฟรินแนบหน้าลงบนแก้มของชายหนุ่มพลางไล่ริมฝีปากไปตามคางและสันกรามได้รูปจนไปหยุดอยู่ที่ใบหู  มือเรียวแทรกเข้าไปในสาบเสื้อสัมผัสแผงอกแข็งแกร่งแผ่วเบา  แล้วค่อยๆไล้เวียนวนให้ชายหนุ่มสะท้านขนลุกเกรียว
“อย่า  เดี๋ยวมีคนมาเห็น” เสียงทุ้มปนเปไปกับเสียงถอนหายใจหนักๆ
“ไม่มีใครเห็นหรอกน่า”  หญิงสาวงับใบหูที่กลายเป็นสีแดง  เรียกเสียงอุทานแผ่วจากลำคอ
ไม่ใช่ที่นี่!
เป็นความคิดเดียวที่เจ้าชายแห่งคาโนวาลจะคิดได้
“เฟริน!”
เสียงตะโกนเบาๆที่เหมือนจะตะโกนให้ตัวเองฟังซะมากกว่าจะบอกหน่วยจู่โจมที่กำลังปฏิบัติงานบนร่างเขา ได้หยุดการเคลื่อนไหวทั้งปวง 
ร่างบางยังคงนอนนิ่งอยู่บนตัวเขา  คาโลโอบร่างนั้นไว้แน่นอย่างกลัวใจว่าหล่อนจะลุกขึ้นมาทำอะไรแผลงๆอีก ชั่วครู่จึงค่อยๆคลายอ้อมกอด
“เฟริน”  ดวงตาสีฟ้าเหลือบมองใบหน้าหวานที่แนบอยู่ข้างแก้ม  แล้วก็ต้องค้างอีกรอบ
ดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้นปิดสนิท
งืม  งืม  งืม 
ร่างบางพลิกไปพลิกมาอย่างรำคาญแสงแดดที่สาดส่องแยงตา  เสียงกุกกักที่ดังไม่หยุดยิ่งน่ารำคาญจนต้องลืมตาดูทั้งๆที่ง่วงแสนง่วง
แองจี้
หล่อนกำลังลากกระเป๋าใบโตออกไปจากห้อง  ดวงตาสีน้ำตาลก้มลงมองตัวเองในชุดนอนก่อนจะกระพริบอย่างงุนงง
เอ  เมื่อวานกลับมานอนได้ไงหว่า
คาโล
เฮ้ย!!!!!!
หัวขโมยเด้งผึงลงจากเตียงเหมือนโดนน้ำร้อนจนแม่มดสาวต้องหันมามองอย่างแปลกใจ  แต่ยังไม่ทันจะเอ่ยปากถาม  เจ้าตัวแสบก็เผ่นแผลวออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว  แล้วก็ได้ยินเสียงเปิดประตูห้องดังโครม
“โทษทีว่ะคาโล  เมื่อคืนฉันเมา”
เฟรินหลับหูหลับตาตะโกนออกไปทันทีที่หล่อนพังประตูเข้าไปในห้องหัวหน้าป้อมได้  แต่เมื่อมองให้ชัดๆ  ห้องนี้เหลือเพียงนักฆ่าแห่งซาเรสที่นอนคุดคู้อยู่บนเตียง  ไร้วี่แววของเจ้าชายแห่งคาโนวาล
“คาโลมันกลับบ้านไปตั้งแต่เช้าแล้ว”  คิลซึ่งงัวเงียขึ้นมานั่งช่วยให้ความกระจ่าง
“ว่าไงนะ”
“นายไปทำอะไรมันเข้าล่ะ  เมื่อคืนมันกลับมาหน้าตาเลอะเทอะไปหมด”
เลอะ?
คิ้วเรียวขมวดมุ่นก่อนจะคลายออกพลางยิ้มแหยเมื่อนึกอะไรได้ลางๆ
สีทาปากของเขาเอง
“เห็นมันว่าจะไปคุยอะไรกับอาจารย์คิงชามัลก่อนแล้วไปเลย”
หัวขโมยสาวยืนนิ่ง
คงจะเป็นเรื่องเชิญเธอไปงานวันเกิดมัน...มั้ง
คงไม่ใช่....
ซวย  ซวย  ซวยแหล่ว  มันคงไม่เอาจริงหรอกนะ
หญิงสาวรู้สึกปวดหัวตุบๆจนต้องเดินโซเซไปนั่งบนเตียง 
เมื่อคืนกินเข้าไปมากพอดู  เธอยืนดวดวิสกี้เพียวๆไปหลายแก้วกว่าจะกล้าเข้าไปลองดีกับโรเวน
คาโล
ตอนคุยกับมันก็รู้สึกมึนๆ
เธอทำอะไรลงไปหรือเปล่าหว่า  จำไม่ค่อยได้ 
เฟรินนั่งกุมขมับอย่างจนปัญญา  พอดีแองเจลิน่าโผล่เข้ามาตรงประตู
“เฟริน  เมื่อคืนนายเมาหลับ  คาโลเอานายมากองไว้ตรงหน้าห้องแล้วก็ไป”
“อย่างนั้นหรือ”
หน้าหวานพยักหงึกๆพลางนึกไปถึงเรื่องราวที่ยังค้างอยู่ในสมอง
เธอหกล้ม  ใช่ๆ เธอหกล้ม
แล้วมันก็รักษาให้  ต่อจากนั้นเธอก็นึกครึ้มโดดกอดมัน
จำได้ว่ามันน่ารักสุดๆ  ใจดีสุดๆ  จนเธออดใจไม่ไหว
แล้ว...แล้ว...แล้ว  เธอพูดอะไรบางอย่างออกไป
อะไรที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าความตาย
เธอขอมันแต่งงาน
เกวียนเทียมม้าคันหรูที่บรรจุเจ้าหญิงคนสำคัญกับพระสหายทายาทนักฆ่าผู้โด่งดังค่อยๆแล่นออกจากเอดินเบิร์กสู่บารามอส 
ชาวบ้านที่พบเห็นต่างยืนยันกันเป็นเสียงเดียวว่าเจ้าหญิงคนสวยทำหน้าเหมือนปลาตาย
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น