ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ Midsummer
เพิ่มฟิคหมักดอง
*******************************************************************
...ฤดูร้อนไม่เคยเป็นชั่วนิรันดร์...หากฤดูร้อนในปีนั้นคือชั่วนิรันดร์ในหัวใจของฉัน....
“ร้อนตับจะแตก”
นั่นเป็นคำแรกที่หมอนั่นบ่นเมื่อแบกข้าวของรุงรังกลับเข้ามาในห้อง
“ดูล่ำซำขึ้นเยอะเลยนะเฟริน เมื่อปีที่แล้วนายมีแค่กระเป๋าโทรมๆใบเดียว” คำทักทายแรกดังมาจากเพื่อนร่วมห้องผู้มีนัยน์ตาสีม่วง
นอกจากข้าวของหลายหีบที่ดูหรูหราและเครื่องแต่งกายสีขาวขลิบทองปักดิ้นงดงามแล้ว เส้นผมสีน้ำตาลที่เริ่มยาวถูกหวีเรียบและรวบไว้ด้วยริบบินยังส่งให้ดวงหน้าหวานของเจ้าตัวแลดูน่ารักดั่งเจ้าชายน้อย เสียแต่ว่าสุนัขในปากยังไม่โดนผ่าออก คำพูดคำจาจึงฟังน่าขายหน้าแทนพระประยูรญาติ
“อุวะ นายเฟริน เดอเบอโรว์น่ะมันเป็นแค่ขโมย แต่เฟริน ฟาโรเวลเป็นเจ้าชายโว้ย” ตอบพลางเหวี่ยงกระเป๋าเสื้อผ้าลงบนเตียงแล้วทิ้งตัวลงนอนข้างๆอย่างหมดแรง “ว่าแต่นายคิดจะจ้องไปถึงไหน มีมารยาทหน่อย ปรินซ์คาโล”
ดวงตาสีน้ำตาลคู่โตดูยียวนกวนประสาทไม่เคยเปลี่ยน คล้าย...ไม่สิ เหมือนกับดวงตาที่เขาโหยหานัก ซึ่งก็คงจะเป็นอย่างนั้น เพราะมันคือดวงตาคู่เดียวกัน
รอยยิ้มกว้างส่งมาที่เขา ดวงตาคู่นั้นส่งกระแสหยอกเย้าแกมท้าทาย และยังแฝงความเป็นมิตรอย่างยิ่งยวด
มันดีใจที่ได้เจอเขา ระริกระรี้จนเก็บอารมณ์แทบไม่อยู่
ความอุ่นที่ไม่คุ้นเคยแล่นวาบเข้าสู่หัวใจ เรียกรอยยิ้มบางบนใบหน้าคมคาย ก่อนจะจางหายไปเมื่อความรู้สึกกลับแปรเปลี่ยนไปเป็นความเฝื่อนขมที่บรรยายไม่ถูก มือใหญ่เผลอวางทาบลงบนอกโดยไม่รู้ตัว
ทรมาน เจ็บแปลบ หัวใจมันกระตุกวาบ
“เฟริน ฟาโรเวล เดอะ ปรินซ์ ออฟ บารามอส ”
คำทักทายพร้อมมือที่ยื่นออกไปของเขาทำให้มันเบะปาก คิ้วเรียวขมวดมุ่น มันโบกมือไปมาราวกับเหนื่อยหน่ายเสียเต็มประดาแล้วเอื้อมมือมาจับมือเขา
“นายก็รู้ว่าฉันมันไม่ชินกับพิธีรีตองของพวกเจ้าๆ ยิ่งคนทำเป็นนายฉันก็ยิ่งขนลุก”
“นายควรจะเรียนรู้ไว้ ไฮคิงสถาปนานายเป็นเจ้าชายแห่งบารามอสแล้ว”
ทันทีที่พูดจบประโยค มือมันก็กระตุกดึงมือเขาโดยแรงจนล้มคว่ำลงบนเตียงมัน จมูกของเขาได้กลิ่นหอมสดชื่นจางๆ...มันใส่น้ำหอม
“เฟริน!” เอ่ยปรามเสียงเครียด แต่คนถูกดุกลับไม่สะทกสะท้าน ยังคงหันมาเลิกคิ้วทำหน้าทะเล้นใส่เขา ดวงหน้าของคนสองคนใกล้ชิดจนลมหายใจรดกัน
“นายก็ยังพูดจาน่าเบื่อเหมือนเดิม”
“แต่ฉันว่าคาโลพูดถูกแล้ว”
เสียงกลั้วหัวเราะจากเพื่อนร่วมห้องอีกคนทำให้เฟรินสบถอุบพลิกกายหันไปแยกเขี้ยวใส่ ส่วนเขาก็พลิกตัวขึ้นนอนหงายอยู่ข้างๆมัน เจ้าตัวแสบยอมอยู่นิ่งๆพักเดียวก็เด้งผึงขึ้นมานั่ง
“เอาเตียงมาต่อกันเหอะ”
ดวงตาสีม่วงมองมาอย่างลังเล ก่อนจะพยายามสบตาเขา
“ไม่ดีมั้ง อย่าลืมสิว่านาย...”
ดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้นพราวระยับอย่างรู้ทัน มันยักไหล่แล้วหันมาพยักเพยิดกับเขา
“เป็นไรไปเล่า ผู้ชายด้วยกัน”
“แปลว่า...จ้าวเอวิเดสล้างอาคมให้นายไม่สำเร็จ” คิลถามต่อ
“เออสิวะ ไม่งั้นฉันจะมานั่งหล่ออยู่ที่นี่ได้ไง มีหวังกลายเป็นสาวน้อยอรชรอ้อนแอ้นแล้วก็โดนย้ายห้องไปแล้ว”
ดวงตาสีม่วงสบตากับเขา แต็ไม่พบร่องรอยอะไรนอกจากความสงบนิ่ง
“ไม่มีธิดาแห่งความมืดอีกแล้ว มีแต่เจ้าชายสุดหล่อผู้ไร้พิษสงจากบารามอส” น้ำเสียงติดจะระรื่น “พ่อปีศาจลงอาคมผนึกถาวรให้ฉันด้วย ต่อให้โดนแสงจันทร์ก็จะไม่กลายเป็นผู้หญิงอีก โบกมือลาสาวน้อยเฟลิโอน่าตลอดกาล”
“นายดีใจล่ะสิท่า”
“ไม่รู้สิ ฉันก็ใจแป้วไปนิดที่พ่อปีศาจดูผิดหวัง แต่อีกใจนึงก็โล่งอกที่ฉันยังกลับมาใช้ชีวิตแบบเดิมได้ แถมพอฉันกลับมาแล้วบอกพ่อมาดัสว่าล้างอาคมไม่ได้ ตาฉันก็เหมือนยกภูเขาออกจากอก รีบรับฉันเป็นหลานแทบจะเดี๋ยวนั้นเลย”
“นายจะไม่กลายเป็นผู้หญิงอีกแล้ว”
“ใช่ ตลอดไป” เสียงรับคำหนักแน่นจนเขาใจหาย “ว่าแต่พวกนายจะรีรอไปถึงเมื่อไหร่ ฉันมีของจากเดมอสมาอวดเพียบเลย” ว่าแล้วก็รื้อกระเป๋าที่อยู่ข้างๆทันที
ตลอดไป...เขาจะไม่ได้เจอเธออีก ตลอดไป
ดั่งมีหลุมดำมืดมิดผุดขึ้นในหัวใจ ดูดกลืนทั้งความอุ่น ความสุข และความปรารถนาทั้งมวลจนมลายหายไปสิ้น
ดวงตาสีฟ้าปิดลงดั่งคนไร้เรี่ยวแรง
เฟลิโอน่าหายไป แต่หัวใจเขายังอยู่ อยู่อย่างเจ็บปวดร้าวรานจนแทบแหลกสลาย
หัวใจรักที่น่าจะตายไปพร้อมกับร่างผู้หญิงใต้แสงจันทร์
*******************************************************************
...ฤดูร้อนไม่เคยเป็นชั่วนิรันดร์...หากฤดูร้อนในปีนั้นคือชั่วนิรันดร์ในหัวใจของฉัน....
โดย VANA
“ร้อนตับจะแตก”
นั่นเป็นคำแรกที่หมอนั่นบ่นเมื่อแบกข้าวของรุงรังกลับเข้ามาในห้อง
“ดูล่ำซำขึ้นเยอะเลยนะเฟริน เมื่อปีที่แล้วนายมีแค่กระเป๋าโทรมๆใบเดียว” คำทักทายแรกดังมาจากเพื่อนร่วมห้องผู้มีนัยน์ตาสีม่วง
นอกจากข้าวของหลายหีบที่ดูหรูหราและเครื่องแต่งกายสีขาวขลิบทองปักดิ้นงดงามแล้ว เส้นผมสีน้ำตาลที่เริ่มยาวถูกหวีเรียบและรวบไว้ด้วยริบบินยังส่งให้ดวงหน้าหวานของเจ้าตัวแลดูน่ารักดั่งเจ้าชายน้อย เสียแต่ว่าสุนัขในปากยังไม่โดนผ่าออก คำพูดคำจาจึงฟังน่าขายหน้าแทนพระประยูรญาติ
“อุวะ นายเฟริน เดอเบอโรว์น่ะมันเป็นแค่ขโมย แต่เฟริน ฟาโรเวลเป็นเจ้าชายโว้ย” ตอบพลางเหวี่ยงกระเป๋าเสื้อผ้าลงบนเตียงแล้วทิ้งตัวลงนอนข้างๆอย่างหมดแรง “ว่าแต่นายคิดจะจ้องไปถึงไหน มีมารยาทหน่อย ปรินซ์คาโล”
ดวงตาสีน้ำตาลคู่โตดูยียวนกวนประสาทไม่เคยเปลี่ยน คล้าย...ไม่สิ เหมือนกับดวงตาที่เขาโหยหานัก ซึ่งก็คงจะเป็นอย่างนั้น เพราะมันคือดวงตาคู่เดียวกัน
รอยยิ้มกว้างส่งมาที่เขา ดวงตาคู่นั้นส่งกระแสหยอกเย้าแกมท้าทาย และยังแฝงความเป็นมิตรอย่างยิ่งยวด
มันดีใจที่ได้เจอเขา ระริกระรี้จนเก็บอารมณ์แทบไม่อยู่
ความอุ่นที่ไม่คุ้นเคยแล่นวาบเข้าสู่หัวใจ เรียกรอยยิ้มบางบนใบหน้าคมคาย ก่อนจะจางหายไปเมื่อความรู้สึกกลับแปรเปลี่ยนไปเป็นความเฝื่อนขมที่บรรยายไม่ถูก มือใหญ่เผลอวางทาบลงบนอกโดยไม่รู้ตัว
ทรมาน เจ็บแปลบ หัวใจมันกระตุกวาบ
“เฟริน ฟาโรเวล เดอะ ปรินซ์ ออฟ บารามอส ”
คำทักทายพร้อมมือที่ยื่นออกไปของเขาทำให้มันเบะปาก คิ้วเรียวขมวดมุ่น มันโบกมือไปมาราวกับเหนื่อยหน่ายเสียเต็มประดาแล้วเอื้อมมือมาจับมือเขา
“นายก็รู้ว่าฉันมันไม่ชินกับพิธีรีตองของพวกเจ้าๆ ยิ่งคนทำเป็นนายฉันก็ยิ่งขนลุก”
“นายควรจะเรียนรู้ไว้ ไฮคิงสถาปนานายเป็นเจ้าชายแห่งบารามอสแล้ว”
ทันทีที่พูดจบประโยค มือมันก็กระตุกดึงมือเขาโดยแรงจนล้มคว่ำลงบนเตียงมัน จมูกของเขาได้กลิ่นหอมสดชื่นจางๆ...มันใส่น้ำหอม
“เฟริน!” เอ่ยปรามเสียงเครียด แต่คนถูกดุกลับไม่สะทกสะท้าน ยังคงหันมาเลิกคิ้วทำหน้าทะเล้นใส่เขา ดวงหน้าของคนสองคนใกล้ชิดจนลมหายใจรดกัน
“นายก็ยังพูดจาน่าเบื่อเหมือนเดิม”
“แต่ฉันว่าคาโลพูดถูกแล้ว”
เสียงกลั้วหัวเราะจากเพื่อนร่วมห้องอีกคนทำให้เฟรินสบถอุบพลิกกายหันไปแยกเขี้ยวใส่ ส่วนเขาก็พลิกตัวขึ้นนอนหงายอยู่ข้างๆมัน เจ้าตัวแสบยอมอยู่นิ่งๆพักเดียวก็เด้งผึงขึ้นมานั่ง
“เอาเตียงมาต่อกันเหอะ”
ดวงตาสีม่วงมองมาอย่างลังเล ก่อนจะพยายามสบตาเขา
“ไม่ดีมั้ง อย่าลืมสิว่านาย...”
ดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้นพราวระยับอย่างรู้ทัน มันยักไหล่แล้วหันมาพยักเพยิดกับเขา
“เป็นไรไปเล่า ผู้ชายด้วยกัน”
“แปลว่า...จ้าวเอวิเดสล้างอาคมให้นายไม่สำเร็จ” คิลถามต่อ
“เออสิวะ ไม่งั้นฉันจะมานั่งหล่ออยู่ที่นี่ได้ไง มีหวังกลายเป็นสาวน้อยอรชรอ้อนแอ้นแล้วก็โดนย้ายห้องไปแล้ว”
ดวงตาสีม่วงสบตากับเขา แต็ไม่พบร่องรอยอะไรนอกจากความสงบนิ่ง
“ไม่มีธิดาแห่งความมืดอีกแล้ว มีแต่เจ้าชายสุดหล่อผู้ไร้พิษสงจากบารามอส” น้ำเสียงติดจะระรื่น “พ่อปีศาจลงอาคมผนึกถาวรให้ฉันด้วย ต่อให้โดนแสงจันทร์ก็จะไม่กลายเป็นผู้หญิงอีก โบกมือลาสาวน้อยเฟลิโอน่าตลอดกาล”
“นายดีใจล่ะสิท่า”
“ไม่รู้สิ ฉันก็ใจแป้วไปนิดที่พ่อปีศาจดูผิดหวัง แต่อีกใจนึงก็โล่งอกที่ฉันยังกลับมาใช้ชีวิตแบบเดิมได้ แถมพอฉันกลับมาแล้วบอกพ่อมาดัสว่าล้างอาคมไม่ได้ ตาฉันก็เหมือนยกภูเขาออกจากอก รีบรับฉันเป็นหลานแทบจะเดี๋ยวนั้นเลย”
“นายจะไม่กลายเป็นผู้หญิงอีกแล้ว”
“ใช่ ตลอดไป” เสียงรับคำหนักแน่นจนเขาใจหาย “ว่าแต่พวกนายจะรีรอไปถึงเมื่อไหร่ ฉันมีของจากเดมอสมาอวดเพียบเลย” ว่าแล้วก็รื้อกระเป๋าที่อยู่ข้างๆทันที
ตลอดไป...เขาจะไม่ได้เจอเธออีก ตลอดไป
ดั่งมีหลุมดำมืดมิดผุดขึ้นในหัวใจ ดูดกลืนทั้งความอุ่น ความสุข และความปรารถนาทั้งมวลจนมลายหายไปสิ้น
ดวงตาสีฟ้าปิดลงดั่งคนไร้เรี่ยวแรง
เฟลิโอน่าหายไป แต่หัวใจเขายังอยู่ อยู่อย่างเจ็บปวดร้าวรานจนแทบแหลกสลาย
หัวใจรักที่น่าจะตายไปพร้อมกับร่างผู้หญิงใต้แสงจันทร์
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น