ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : RELOADED! III
โกโดม อำมหิตไม่เงียบ RELOADED III
**************************************************************************
“เฮ้ย เฟริน ฉันยอมมาหานายแล้ว เล่าแผนการให้ฟังหน่อยสิ”
นักฆ่าพรวดพราดเข้ามาในห้องนอนของเจ้าหญิงแห่งบารามอสแล้วตะโกนโหวกเหวก โดยไม่ทันมองว่าในห้องว่างเปล่า ไม่มีใครอยู่
“อ้าว ไปไหนเนี่ย อุ้บส์”
ด้วยความที่อ้าปากอยู่ กลิ่นเหม็นเขียวประหลาดจึงโชยเข้าปะทะทั้งปากทั้งจมูก คิลผู้ไม่ถูกโรคกับกลิ่นปุ๋ยหมักถึงกับเซแซ่ดๆไปเกาะขอบโต๊ะ แล้วชะโงกหน้าออกไปหายใจนอกหน้าต่างพะงาบๆราวปลาสำลักอากาศ
“อะไรตายวะเนี่ย” พูดพลางน้ำตาเล็ดพลาง มือก็คว้าแก้วน้ำที่อยู่ใกล้ๆมารินน้ำใส่ดื่มไล่กลิ่นอันไม่น่าพิสมัยให้หายลงคอไป
แต่แก้วมิใช่แก้วเปล่าอย่างที่คิด พอเขากลืนของเหลวพรวดลงคอไปจนหมดแก้ว สิ่งที่มีกลิ่นและรสเหมือนใบไม้แห้งก็เข้ามาในปาก เล่นเอาสำลักน้ำแค่กๆจนตัวงอ รีบคายเจ้าสิ่งนั้นออกมาดู
“ใบอะไรเนี่ย เฟรินมันทำปุ๋ยหมักใช้ในห้องหรือไงวะ”
พอก้มตัวลง ดวงตาสีม่วงก็แลเห็นกองสีเขียวเหนียวหนึบที่อยู่บนพื้น และสิ่งที่ทำให้เขาแทบช็อคคือพบว่าตัวเองเหยียบมันไปแล้วด้วยเท้าทั้งสองข้าง รู้สึกหยุมแหยะเต็มรองเท้าแตะสำหรับใส่ในห้อง ชายหนุ่มผู้โชคร้ายจึงรีบเผ่นออกจากห้อง ปากก็บ่นพึมพำพลางเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน
“สงสัยต้องอาบน้ำใหม่ แก ไอ้เฟริน แกวางกับดักฉัน เราต้องได้เห็นดีกัน”
ระหว่างที่กำลังถอดเสื้อผ้าอยู่ในห้อง ดวงตาสีม่วงก็มองเห็นหัวถักเปียสีน้ำตาลเดินจูงมือคนหัวเงินๆไปทางคุกใต้ดิน
หรือนี่จะเป็นแผนที่ว่า เดี๋ยวล้างตัวแล้วเขาต้องรีบตามไปดู
“ไม่ไป ฉันไม่ไป”
“จะไปดีๆ หรือจะให้ฉันลากไป”
“แหมๆ โหดจังเลยพี่สาว แบบนี้ก็เร้าใจไปอีกแบบ”
คำพูดของเจ้าหญิงผมเปียทำให้โหนกแก้มขาวจัดขึ้นสีเรื่อ เขาหันไปมองอย่างรำคาญก่อนเอ่ยเสียงเข้ม
“เดินไปดีๆ อย่าเรื่องมาก”
เฟรินทั้งขำทั้งกลัว ขำคนมาดมากที่อยากกลับร่างเดิมจัดจนลากเธอเดินผ่านคนจำนวนมากโดยไม่สนใจ และกลัวที่จะต้องลงไปยังคุกใต้ดิน
คราวนี้ชามัลออกปากอนุญาตด้วยตัวเองหลังจากคาดโทษเธอยกใหญ่ แถมตัดคะแนนป้อมอัศวินซะไม่เหลือหลอ เฟรินจึงแทบจะไม่มีหนทางบ่ายเบี่ยง ได้แต่โทษความซวยและคราวเคราะห์
“ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดสักนิด ทำไมต้องมาเดือดร้อนอยู่เรื่อย” เดินไปก็บ่นหงุงหงิง
“วิธีที่จะถอนอาคมได้ ต้องอาศัยสาวบริสุทธิ์ที่มีสายเลือดของพวกเราชาวเดมอสพระเจ้าค่ะ”
หลังจากถูกข่มขวัญจนแทบจะลมใส่ โกโดมก็ยอมบอกวิธีกำจัดฤทธิ์ยาแปลงเพศแก่เจ้าชายราชบุตรเขยแห่งเดมอส
“หา” เฟรินลากเสียงโหยหวน “ไหนบอกว่าฉันแก้อาคมได้ไง แกไม่รู้หรือว่าฉันไม่ใช่หนุ่มบริสุทธิ์”
โกโดมชะงักไปวูบ แม้แต่คาโลก็หันมาจ้องหน้าเธอ เฟรินจึงได้แต่ยักไหล่
“อะไรเล่า ตอนนั้นเรายังไม่ได้คบกันสักหน่อย อย่าทำท่าเหมือนฉันนอกใจได้ไหม”
“แต่เจ้าหญิงเป็นสาวบริสุทธิ์พระเจ้าค่ะ”
เฟรินขมวดคิ้วมุ่น แล้วเดินไปคีบองครักษ์ขึ้นมาดูหน้าชัดๆ
“แกไม่ได้อยู่กับฉันตลอดเวลาสักหน่อย แล้วรู้ได้ไงว่าฉันไม่เคยทำอย่างว่าในร่างสาวน้อยนี่” พูดพลางก็เหล่มองไปที่ว่าที่ราชบุตรเขยแห่งเดมอสซึ่งยืนทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่
“ดมกลิ่นดูก็รู้พระเจ้าค่ะ”
“ไอ้กวางสัปดน”
คราวนี้เจ้าหญิงแห่งเดมอสที่หน้าแดงไปถึงใบหูขว้างองครักษ์เขากวางไปกระแทกผนังห้องดังปั้ก โกโดมคาที่อยู่ครู่หนึ่งจึงค่อยๆร่วงลงบนพื้น แล้วนิ่งสนิท
“พูดต่อสิ” น้ำเสียงเย็นชาไม่เปลี่ยน แม้ว่าจะฟังหวานขึ้น
“อย่าสะเออะพูดออกมาเชียวว่าให้ฉันสละความบริสุทธิ์ให้มัน ถึงฉันจะยอม แต่พี่สาวนี่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี”
โกโดมพยุงกายขึ้นนั่ง แล้วกระอักเลือดออกมา ก่อนจะคว้าผ้าผืนน้อยมาเช็ดปากแล้วพูดต่อ
“หามิได้พระเจ้าค่ะ ยานี้ผสมจากโลหิตของสัตว์หลายชนิด ซึ่งมีธาตุไฟเป็นหลัก การถอนอาคมต้องให้ท่านราชบุตรเขยชำระร่างกายด้วยน้ำลงอาคมที่มีอำนาจสะกดจิตธาตุไฟ แล้วให้เจ้าหญิงดูดอาถรรพ์ออกจากร่าง”
“อี๋ แกจะให้ฉันดูดเอาไอ้โคลนเขียวๆนั่นออกจากตัวมันเหรอ” หญิงสาวทำท่าขยะแขยงสุดกำลัง พลางทำท่าจะเผ่นออกจากห้อง “ฉันทำไม่ได้ แกทำเองได้ไหม แกเป็นตัวเมียรึเปล่า”
คาโลมองออกไปนอกหน้าต่าง ส่วนเฟรินก็ทำท่ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก องครักษ์ผู้ภักดีจึงเริ่มอธิบายต่อ
“ไม่ใช่พระเจ้าค่ะ เจ้าหญิงทรงจินตนาการบรรเจิดเกินไปแล้ว แค่สัมผัสชีพจรของท่านราชบุตรเขยสามแห่งพร้อมๆกันก็พอแล้วพระเจ้าค่ะ”
“ตรงไหนบ้าง” คาโลซักต่อ
“หน้าผาก แล้วก็มือทั้งสองข้างพระเจ้าค่ะ”
“เฮ้อ ดีนะที่ไม่ใช่ที่แปลกๆ”
คำพูดของเจ้าหญิงคนงามทำให้เจ้าชายคนรักหันมาทำตาดุใส่ทันที
“งั้นก็รีบไป ฉันไม่อยากอยู่ในร่างนี้อีกแม้แต่วินาทีเดียว”
“นายรู้เหรอว่าจะไปหาน้ำที่ว่านั่นได้จากไหน”
“ถามอาจารย์คิงชามัลดูเดี๋ยวก็รู้ ใช่ไหม เจ้าคนแคระเขากวาง”
“กระหม่อมคิดว่าที่คุกใต้ดินเอดินเบิร์กมีน้ำอาคมที่ว่าพระเจ้าค่ะ ถ้าลงไปได้ การล้างฤทธิ์ยาก็ง่ายนิดเดียว”
“เข้าใจแล้ว เฟรินมานี่”
“ไปไหน”
“ไปหาอาจารย์ก่อน แล้วไปที่คุกใต้ดิน”
“ไม่เอา น่ากลัวจะตาย ฉันไม่อยากเจอไอ้พวกที่ถูกขังอยู่ในนั้น”
“ทีเมื่อก่อนไม่ให้ไปล่ะดื้อจะไปให้ได้” คาโลดุเสียงเครียด “จะยอมไปดีๆหรือจะให้ฉันสาปให้นายกลายเป็นอะไรสักอย่าง”
“นายก็ไปอาบคนเดียวสิ แล้วกลับมาที่นี่ เดี๋ยวฉันจับชีพจรให้ก็ได้”
“ไปด้วยกันเดี๋ยวนี้”
ทันทีที่พูดจบ เจ้าชายแห่งคาโนวาลก็คว้าเอวเจ้าหญิงแห่งเดมอสและบารามอสลากออกจากห้องไปอย่างทุลักทุเล
ยิ่งลงไปลึก ประตูหินก็ยิ่งดูเก่าแก่ เพราะขาดการบำรุงรักษาและความชื้นทำให้เต็มไปด้วยตะใคร่ เมื่อลงไปจนสุดก็มีแม้กระทั่งมอสเรืองแสง
เฟรินลื่นล้มหลายครั้ง ให้คนข้างกายต้องช่วยพยุงจนแทบจะล้มลงมาด้วยกัน ในที่สุดคนตัวสูงก็ต้องจำใจโอบเอาไว้ทั้งตัว แรกๆเฟรินก็ดิ้นโวยวาย แต่หลังๆก็แกล้งเอาหน้าไปซุกอกนิ่มๆของคนกอดแล้วทำหน้าแบบลุงจิตทรามให้เจ้าชายแห่งคาโนวาลทรมานใจแทบคลั่ง แล้วก็นึกสมเพชตัวเองที่มาตกหลุมรักคนครึ่งหญิงครึ่งชายที่อ่อนการอบรมแบบนี้
น้ำลงอาคมหาเจอได้ไม่ยาก หรือถ้าจะให้ถูกก็คือไม่ต้องหา มันมีมากจนเหลือเฟือ เพราะเป็นบ่อน้ำใหญ่สี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีคูน้ำต่อออกไปสี่ทิศ และคูน้ำเหล่านั้นก็มีทางแยกต่อไปอีกนับไม่ถ้วน ประหนึ่งเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงคุกหินแห่งนี้
เมื่อเห็นเฟรินด้อมๆมองๆอย่างกล้าๆกลัวๆ เขาก็อธิบาย
“คูน้ำพวกนี้ล้อมรอบเขาวงกตที่ใช้ขังปีศาจเกราะดำ”
“หวังว่ามันคงไม่หลุดออกมา นายรีบๆลงไปแช่สิ”
เขาเหลือบมองหล่อนแวบหนึ่ง แล้วจึงเดินไปเมียงๆมองๆอยู่ริมน้ำ
“รออะไรล่ะ”
เมื่อได้ยินเสียงเร่ง เขาก็จุ่มมือข้างหนึ่งลงไปในน้ำ แล้วชักมือกลับโดยอัตโนมัติ
“เย็นชิบเลย” เจ้าหล่อนพูดสิ่งที่อยู่ในใจเขาออกมาทันที “นายจะลงไปทั้งแบบนั้นเหรอ ขึ้นมามีหวังหนาวตาย”
ชายหนุ่มในร่างสาวถอนหายใจเฮือก แล้วค่อยๆแกะกระดุมเสื้อ
“ฉันมีทางเลือกอื่นหรือไง นายหันไปทางอื่นสิ ฉันจะลง”
เฟรินฉีกยิ้มโรคจิตทันที
“นายจะอายอะไร ผู้หญิงด้วยกัน เดี๋ยวฉันลงเป็นเพื่อนก็ยังได้ ถอดเลยๆ”
ว่าแล้วคนพูดก็หัวเราะเอิ๊กอ๊าก ผิวขาวๆของคนฟังเปลี่ยนเป็นสีแดงแป๊ดทันที นิ้วยาวจิ้มลงบนหน้าผากของสาวคนรักโดยไม่ลังเล รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ค้างเติ่งบนใบหน้า แขนสองข้างตกลงข้างตัว เมื่อเจ้าหญิงคนงามขยับไม่ได้ คาโลก็จัดท่าให้หล่อนนั่งหันหลังให้เขา
“ขี้โกง เผด็จการ ป่าเถื่อน เอะอะอะไรก็ใช้กำลัง” เฟรินโวยวายเสียงก้อง สะท้อนไปมาตามคูหาหิน
“ฉันก็นิสัยแบบนี้แหละ นายเพิ่งรู้หรือไง”
เสียงสวบสาบของเนื้อผ้าที่เสียดสีกันและเสียงน้ำจ๋อมแจ๋มที่ได้ยินทำให้หล่อนอยากหันไปดูจนแทบคลั่ง แต่ไอ้เวทเฮงซวยของคาโลนั่นทำให้หล่อนไม่มีแรงแม้แต่จะกระดิกนิ้ว
ของดีมีจำกัด ร่างสูงเดินมานั่งลงตรงหน้าหล่อนในสภาพแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ผิวขาวแดงระเรื่อด้วยความเย็น ริมฝีปากสั่นนิดๆ ปลายนิ้วที่แตะลงที่หน้าผากเธออีกครั้งเย็นจนสะดุ้ง
“ดูดอาถรรพ์ให้ฉัน”
เขาไม่รอให้เธอตอบ มือใหญ่กว่ารวบมือเล็กทั้งสองข้างไว้ด้วยกันแล้วกุมไว้แน่น ตามที่โกโดมบอกไว้ หล่อนต้องสัมผัสเขาสามที่พร้อมๆกัน คือมือทั้งสองข้าง และหน้าผาก
หน้าผาก...
ดวงตาสีฟ้าสวยจ้องลึกลงไปในดวงตาของหล่อน ทำให้อาการกระฟัดกระเฟียดที่กำลังจะทำหยุดไปเสียเฉยๆ ยิ่งใบหน้าสวยโน้มเข้ามาใกล้ คนที่มีรสนิยมชอบพี่สาวสวยๆก็เริ่มสมองเริ่มเบลอจนนึกอะไรไม่ออก
เวลามันมองแบบนี้ ไม่เคยสู้มันได้เลยวุ้ย
ใบหน้าสวยเกินชายของคาโลขยับเข้ามาใกล้ๆเรื่อย เฟรินรู้สึกว่าหน้าร้อนผ่าว มันคงจะแดงไปถึงหูแน่ๆ เมื่อเห็นคาโลขยับยิ้มน้อยๆแบบนี้
“อะ ไอ้บ้า ยิ้มอะไรของนาย” หล่อนเอ่ยเสียงแผ่ว
“รู้จักอายเหมือนกันนี่”
“อะ ”
ไม่ทันได้เถียง เขาก็แนบหน้าผากเย็นชื้นเข้ากับหน้าผากของหล่อน ใกล้เสียจนปลายจมูกชนกัน เฟรินรู้สึกถึงไออุ่นๆที่ไหลผ่านจากร่างอดีตชายหนุ่มเข้าสู่ร่างของเธอ แล้วแล่นวนเวียนไปทั่วร่าง ทั้งเคลิบคลิ้มทั้งรู้สึกสบายจนหลับตาพริ้ม
แสงสีทองสว่างวาบ ร่างตรงหน้าเรืองแสงขึ้นทั้งตัว สว่างเจิดจ้าจนมองไม่เห็น คาโลค่อยๆถูกกลืนหายเข้าไปในอุโมงค์แห่งแสง
ความอุ่นหายไป แสงบาดตาหายไปแล้ว สัมผัสที่หน้าผากก็หายไป มือของหล่อนถูกปล่อยเป็นอิสระ หล่อนจึงค่อยๆลืมตาขึ้น แล้วก็ต้องอ้าปากค้าง
“เฟริน” คนตรงหน้าเอ่ยเสียงเข้ม
“ครับ”
“นายคงไม่ว่า ถ้าฉันจะขอองครักษ์ของนาย”
“เอ่อ คือ”
“เดี๋ยวฉันหาตัวใหม่ให้ เก่งกว่านี้ ฉลาดกว่านี้”
“เอ่อ...”
“เอาโกโดมให้ฉัน ฉันจะส่งมันลงนรก”
ขืนปล่อยก๊ากออกไปตอนนี้โดนมันจับกดน้ำแน่
เฟรินได้แต่กลั้นหัวเราะ แล้วรีบตามคนรักที่จ้ำพรวดขึ้นไปไดไปโดยไม่เหลียวหลัง
อย่างนายมันต้องเจอแบบนี้ จะได้รู้สึกสำนึกซะบ้าง
คิลอาฆาตอยู่ในใจขณะที่กำลังเดินลงไปยังคุกใต้ดิน เมื่ออาบน้ำเสร็จ เขาก็รีบหาอุปกรณ์เสริมแล้วตามเพื่อนทั้งสองลงไปที่คุกใต้ดินโดยด่วน
เมื่อไร้จิ้งจอกเก้าหาง เวรยามก็ไม่หนาแน่นดังก่อน เรียกได้ว่ามีแบบขอไปที และที่สำคัญยามที่ว่าก็คือ ครี้ด ธันเดอร์ พอบอกว่าเขาจะลงไปตามเฟรินกับคาโล นักรบแห่งไนล์ก็ปล่อยเขาเข้าไปอย่างง่ายดาย
อุปกรณ์เสริมอันคือเกราะดำก็หาง่ายยิ่งกว่าง่าย ห้องเก็บของเก่าของป้อมอัศวินมีตั้งหลายชุด เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่พิเศษ ขนาดไหนก็มีให้เลือกตามใจชอบ เสียแต่ทั้งหนักทั้งเหม็นสนิม ดาบใหญ่ยิ่งถือยิ่งหนัก ในที่สุดนักฆ่าก็เลยลากไปตามพื้น
เอาวะ มีเสียงครืดคราดแบบนี้ จะได้น่ากลัวขึ้น คราวนี้เฟรินกลัวหัวหดแน่ๆ ถือซะว่าเขาสะใจ คาโลได้กำไร
คิลกระหยิ่มยิ้มย่อง หมายมั่นปั้นมือจะหลอกเพื่อนสาวให้สมแค้น
แต่แปลกเหลือเกิน ทำไมเขาถึงง่วงซะขนาดนี้ ยิ่งเดินตาก็ยิ่งปิด จากเดินตรงๆก็กลายเป็นเดินลากขา มือเริ่มต้องเกาะผนังไปเรื่อยๆ ง่วงจนต้องหยุดพัก แล้วกลั้นใจเดินต่อ เดินๆหยุดๆจนคิลเริ่มอยากล้มเลิกแผนการแล้วกลับไปนอนแผ่ซะให้รู้แล้วรู้รอด
แต่มันก็สายเกินไป เมื่อนักฆ่าแห่งซาเรสลงบันไดขั้นสุดท้าย ร่างสวมเกราะสีดำสนิทก็ล้มลงบนพื้นหินดังแคร้งแล้วไม่ขยับอีกเลย
“อยากตายวิธีไหน”
ดวงตาสีแดงเอ่อน้ำตาของโคมุสแห่งเดมอสที่กำลังโดนมือขาวๆจับหัวไว้จับจ้องไปที่เจ้าหญิงของเขาอย่างเว้าวอน เฟรินได้แต่หลบสายตาอย่างช่วยไม่ได้
ก็ไม่อยากโดนลูกหลงไปด้วยนี่หว่า
“เอ่อ ท่านราชบุตรเขยใช่ไหมพระเจ้าค่ะ”
ดวงตาสีฟ้ากลมโตลุกวาบ แรงบีบที่มือมากขึ้นอีก ทำให้โกโดมเริ่มสำลัก
“คาโล เดี๋ยวมันก็ตายหรอก” เฟรินพยายามแก้สถานการณ์
“เดี๋ยวฉันหาตัวใหม่ให้ นายก็บอกจ้าวปีศาจไปก็แล้วกันว่ามันตายในหน้าที่”
เสียงโหดๆที่ไม่เข้ากับใบหน้าทำให้หญิงสาวหลุดหัวเราะพรืดออกมา ทำให้ดวงตาสีฟ้าใสวาวๆกลับไปจับจ้องที่ใบหน้าเธอแทน
“ขำอะไร”
“ก็...โอยไม่ไหวแล้ว เห็นนายทำท่าโหดแล้วมันน่ารักจนอดขำไม่ได้”
พูดจบก็ปล่อยก๊ากอีกรอบ
ก็ร่างตรงหน้านี้มันทั้งน่ารักน่าเอ็นดู แต่กลับเก๊กหน้าเย็นชาเหมือนตอนปกติ เห็นแล้วก็เหมือนเด็กหัวโจกซนๆที่กำลังพยศไม่มีผิด
การถอนอาคมไม่สำเร็จ แทนที่คาโลจะคืนร่างเดิม กลับกลายเป็นเด็กแปดขวบไปซะได้
ผิวขาวๆ ร่างป้อมๆ ตาใสๆ น่ารักน่าชังสมเป็นเจ้าชายน้อยผู้สูงศักดิ์ เห็นแล้วต่อมสาวมันกำเริบ คันไม้คันมืออยากคว้ามากอดเสียให้ได้
“ตลกมากใช่ไหม” เด็กชายเก๊กเสียงเข้มดุหญิงสาว แต่กลับทำให้ยิ้มของหล่อนกว้างขึ้นอีก
“นายน่าจะรีบๆมีลูกนะ ต้องน่ารักแน่ๆเลย ฉันอยากเห็น”
คำพูดหล่อนทำให้เจ้าชายน้อยแทบกุมขมับ
พูดอย่างกับเป็นเรื่องของคนอื่น ถ้ากลับร่างเดิมเมื่อไหร่คงต้องลองขอให้หล่อนคลอดลูกให้สักคน คิดแล้วก็อดเอ่ยยั่วหล่อนบ้างไม่ได้
“คงต้องรอนานหน่อย ร่างนี้คงทำให้นายท้องไม่ได้” เจ้าชายน้อยแดนนักรบพูดช้าชัดอย่างที่ไม่ต้องกลัวแปลความหมายผิด
คนฟังสำลักน้ำลายตัวเองดังแค่ก โกโดมเองก็หันไปมองราชบุตรเขยน้อยด้วยสายตาที่ไม่อยากเชื่อ ก่อนจะนิ่งคิด แล้วละล่ำละลักออกมา
“กระหม่อมนึกออกแล้ว”
“นึกออกแล้วก็ว่ามา อยากตายวิธีไหน”
“คือกระหม่อมลืมบอกขั้นตอนสำคัญไปอีกอย่าง”
ดวงตาสีฟ้าเย็นลงอย่างที่ใครเห็นก็รู้สึกได้
“ว่าไป”
“คือว่า ก่อนจะดูดอาถรรพ์ให้ท่าน เจ้าหญิงก็ต้องชำระร่างกายด้วยน้ำลงอาคมเช่นเดียวกันพระเจ้าค่ะ”
มือใหญ่คลายออก แต่ก็ยังไม่ยอมปล่อย เจ้าชายน้อยน่ารักหันไปพยักหน้าให้สาวคนรักหยิบบางอย่างที่วางอยู่ตรงมุมห้องให้
“เพราะเฟรินไม่ได้อาบน้ำนั่น ฉันเลยต้องอยู่ในร่างนี้งั้นหรือ”
“เป็นเพราะเจ้าหญิงดูดอาถรรพ์ออกมาได้เฉพาะส่วนที่เกิดจากน้ำตากุมารทองพระเจ้าค่ะ”
“อี๋ น้ำตากุมารทอง แกผสมอะไรให้ฉันนี่” เฟรินร้องยี้ลั่น
“ถ้าโกหกเอาตัวรอด ฉันจะแยกร่างเจ้าเป็นแปดส่วน” เด็กชายแดนนักรบขู่ต่อไป
“กระหม่อมพูดจริงจากก้นบึ้งของหัวใจ ท่านเป็นว่าที่พระสวามีของเจ้าหญิง กระหม่อมจะคิดร้ายได้อย่างไร” โคมุสพูดไปก็วิงเวียนจัด ใกล้เป็นลมเต็มที
“เราจะรู้ได้ไงว่าเจ้าไม่แอบหวังให้เจ้าหญิงของเจ้าแต่งงานกับชาวเดมอสด้วยกัน”
โกโดมสะอึก ได้อย่างนั้นก็ไม่เลวแฮะ
เมื่อเฟรินเริ่มเห็นว่าคาโลกำลังชี้โพรงให้กระรอก ก็ขัดคอเสียก่อนที่โกโดมจะเริ่มคิดตาม
“เรื่องแต่งงานยังอีกไกล นายคิดมากเกินไปแล้ว อย่าโหดนักเลยน่า” หญิงสาวปลอบเสียงหวาน
“แค่นี้ที่คาโนวาลไม่นับว่ามากเกินไป”
เฟรินถอนหายใจเฮือก แล้วหยิบของที่เด็กชายต้องการให้ โกโดมถูกจับยัดเข้าไปในกรงดักหนูที่แสนคับแคบทันที
“เจ้าหญิง ช่วยกระหม่อมด้วยพระเจ้าค่ะ”
“ถ้าถอนอาคมสำเร็จ ฉันจะกลับมาปล่อย แต่ถ้าไม่ ฉันจะส่งเจ้าให้ท่านพ่อ”
คำทิ้งท้ายของเจ้าชายแห่งคาโนวาลทำให้องครักษ์จากเดมอสหน้าซีดเผือด
“ฉันก็อยากจะช่วยนะ แต่นายทำลูกเขาเป็นแบบนี้ พยายามแก้ตัวเองก็แล้วกัน”
คำทิ้งท้ายของเจ้าหญิงแห่งเดมอสทำให้โกโดมน้ำตาไหล
ท่านราชบุตรเขยเอายาเปลี่ยนเพศราดตัวเอง กระหม่อมผิดด้วยหรือ จะว่าไป เจ้าหญิงเองนั่นแหละที่เป็นคนสั่งให้เขาทำมันขึ้นมา
แต่วางใจเถิดพระเจ้าค่ะ กระหม่อมจะไม่ให้การซัดทอดถึงพระองค์แม้แต่นิดเดียว
“การดูดอาถรรพ์ครั้งแรกล้มเหลว ต่อไปการถ่ายพลังจะติดขัด อาจจะไม่สามารถถอนอาคมได้ภายในหนเดียว ขอให้ท่านราชบุตรเขยใจเย็นๆแล้วลองใหม่หลายๆครั้งนะพระเจ้าค่ะ” โกโดมร้องบอกอีกครั้ง ก่อนที่คนทั้งสองจะออกจากห้อง
**************************************************************************
“เฮ้ย เฟริน ฉันยอมมาหานายแล้ว เล่าแผนการให้ฟังหน่อยสิ”
นักฆ่าพรวดพราดเข้ามาในห้องนอนของเจ้าหญิงแห่งบารามอสแล้วตะโกนโหวกเหวก โดยไม่ทันมองว่าในห้องว่างเปล่า ไม่มีใครอยู่
“อ้าว ไปไหนเนี่ย อุ้บส์”
ด้วยความที่อ้าปากอยู่ กลิ่นเหม็นเขียวประหลาดจึงโชยเข้าปะทะทั้งปากทั้งจมูก คิลผู้ไม่ถูกโรคกับกลิ่นปุ๋ยหมักถึงกับเซแซ่ดๆไปเกาะขอบโต๊ะ แล้วชะโงกหน้าออกไปหายใจนอกหน้าต่างพะงาบๆราวปลาสำลักอากาศ
“อะไรตายวะเนี่ย” พูดพลางน้ำตาเล็ดพลาง มือก็คว้าแก้วน้ำที่อยู่ใกล้ๆมารินน้ำใส่ดื่มไล่กลิ่นอันไม่น่าพิสมัยให้หายลงคอไป
แต่แก้วมิใช่แก้วเปล่าอย่างที่คิด พอเขากลืนของเหลวพรวดลงคอไปจนหมดแก้ว สิ่งที่มีกลิ่นและรสเหมือนใบไม้แห้งก็เข้ามาในปาก เล่นเอาสำลักน้ำแค่กๆจนตัวงอ รีบคายเจ้าสิ่งนั้นออกมาดู
“ใบอะไรเนี่ย เฟรินมันทำปุ๋ยหมักใช้ในห้องหรือไงวะ”
พอก้มตัวลง ดวงตาสีม่วงก็แลเห็นกองสีเขียวเหนียวหนึบที่อยู่บนพื้น และสิ่งที่ทำให้เขาแทบช็อคคือพบว่าตัวเองเหยียบมันไปแล้วด้วยเท้าทั้งสองข้าง รู้สึกหยุมแหยะเต็มรองเท้าแตะสำหรับใส่ในห้อง ชายหนุ่มผู้โชคร้ายจึงรีบเผ่นออกจากห้อง ปากก็บ่นพึมพำพลางเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน
“สงสัยต้องอาบน้ำใหม่ แก ไอ้เฟริน แกวางกับดักฉัน เราต้องได้เห็นดีกัน”
ระหว่างที่กำลังถอดเสื้อผ้าอยู่ในห้อง ดวงตาสีม่วงก็มองเห็นหัวถักเปียสีน้ำตาลเดินจูงมือคนหัวเงินๆไปทางคุกใต้ดิน
หรือนี่จะเป็นแผนที่ว่า เดี๋ยวล้างตัวแล้วเขาต้องรีบตามไปดู
“ไม่ไป ฉันไม่ไป”
“จะไปดีๆ หรือจะให้ฉันลากไป”
“แหมๆ โหดจังเลยพี่สาว แบบนี้ก็เร้าใจไปอีกแบบ”
คำพูดของเจ้าหญิงผมเปียทำให้โหนกแก้มขาวจัดขึ้นสีเรื่อ เขาหันไปมองอย่างรำคาญก่อนเอ่ยเสียงเข้ม
“เดินไปดีๆ อย่าเรื่องมาก”
เฟรินทั้งขำทั้งกลัว ขำคนมาดมากที่อยากกลับร่างเดิมจัดจนลากเธอเดินผ่านคนจำนวนมากโดยไม่สนใจ และกลัวที่จะต้องลงไปยังคุกใต้ดิน
คราวนี้ชามัลออกปากอนุญาตด้วยตัวเองหลังจากคาดโทษเธอยกใหญ่ แถมตัดคะแนนป้อมอัศวินซะไม่เหลือหลอ เฟรินจึงแทบจะไม่มีหนทางบ่ายเบี่ยง ได้แต่โทษความซวยและคราวเคราะห์
“ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดสักนิด ทำไมต้องมาเดือดร้อนอยู่เรื่อย” เดินไปก็บ่นหงุงหงิง
“วิธีที่จะถอนอาคมได้ ต้องอาศัยสาวบริสุทธิ์ที่มีสายเลือดของพวกเราชาวเดมอสพระเจ้าค่ะ”
หลังจากถูกข่มขวัญจนแทบจะลมใส่ โกโดมก็ยอมบอกวิธีกำจัดฤทธิ์ยาแปลงเพศแก่เจ้าชายราชบุตรเขยแห่งเดมอส
“หา” เฟรินลากเสียงโหยหวน “ไหนบอกว่าฉันแก้อาคมได้ไง แกไม่รู้หรือว่าฉันไม่ใช่หนุ่มบริสุทธิ์”
โกโดมชะงักไปวูบ แม้แต่คาโลก็หันมาจ้องหน้าเธอ เฟรินจึงได้แต่ยักไหล่
“อะไรเล่า ตอนนั้นเรายังไม่ได้คบกันสักหน่อย อย่าทำท่าเหมือนฉันนอกใจได้ไหม”
“แต่เจ้าหญิงเป็นสาวบริสุทธิ์พระเจ้าค่ะ”
เฟรินขมวดคิ้วมุ่น แล้วเดินไปคีบองครักษ์ขึ้นมาดูหน้าชัดๆ
“แกไม่ได้อยู่กับฉันตลอดเวลาสักหน่อย แล้วรู้ได้ไงว่าฉันไม่เคยทำอย่างว่าในร่างสาวน้อยนี่” พูดพลางก็เหล่มองไปที่ว่าที่ราชบุตรเขยแห่งเดมอสซึ่งยืนทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่
“ดมกลิ่นดูก็รู้พระเจ้าค่ะ”
“ไอ้กวางสัปดน”
คราวนี้เจ้าหญิงแห่งเดมอสที่หน้าแดงไปถึงใบหูขว้างองครักษ์เขากวางไปกระแทกผนังห้องดังปั้ก โกโดมคาที่อยู่ครู่หนึ่งจึงค่อยๆร่วงลงบนพื้น แล้วนิ่งสนิท
“พูดต่อสิ” น้ำเสียงเย็นชาไม่เปลี่ยน แม้ว่าจะฟังหวานขึ้น
“อย่าสะเออะพูดออกมาเชียวว่าให้ฉันสละความบริสุทธิ์ให้มัน ถึงฉันจะยอม แต่พี่สาวนี่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี”
โกโดมพยุงกายขึ้นนั่ง แล้วกระอักเลือดออกมา ก่อนจะคว้าผ้าผืนน้อยมาเช็ดปากแล้วพูดต่อ
“หามิได้พระเจ้าค่ะ ยานี้ผสมจากโลหิตของสัตว์หลายชนิด ซึ่งมีธาตุไฟเป็นหลัก การถอนอาคมต้องให้ท่านราชบุตรเขยชำระร่างกายด้วยน้ำลงอาคมที่มีอำนาจสะกดจิตธาตุไฟ แล้วให้เจ้าหญิงดูดอาถรรพ์ออกจากร่าง”
“อี๋ แกจะให้ฉันดูดเอาไอ้โคลนเขียวๆนั่นออกจากตัวมันเหรอ” หญิงสาวทำท่าขยะแขยงสุดกำลัง พลางทำท่าจะเผ่นออกจากห้อง “ฉันทำไม่ได้ แกทำเองได้ไหม แกเป็นตัวเมียรึเปล่า”
คาโลมองออกไปนอกหน้าต่าง ส่วนเฟรินก็ทำท่ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก องครักษ์ผู้ภักดีจึงเริ่มอธิบายต่อ
“ไม่ใช่พระเจ้าค่ะ เจ้าหญิงทรงจินตนาการบรรเจิดเกินไปแล้ว แค่สัมผัสชีพจรของท่านราชบุตรเขยสามแห่งพร้อมๆกันก็พอแล้วพระเจ้าค่ะ”
“ตรงไหนบ้าง” คาโลซักต่อ
“หน้าผาก แล้วก็มือทั้งสองข้างพระเจ้าค่ะ”
“เฮ้อ ดีนะที่ไม่ใช่ที่แปลกๆ”
คำพูดของเจ้าหญิงคนงามทำให้เจ้าชายคนรักหันมาทำตาดุใส่ทันที
“งั้นก็รีบไป ฉันไม่อยากอยู่ในร่างนี้อีกแม้แต่วินาทีเดียว”
“นายรู้เหรอว่าจะไปหาน้ำที่ว่านั่นได้จากไหน”
“ถามอาจารย์คิงชามัลดูเดี๋ยวก็รู้ ใช่ไหม เจ้าคนแคระเขากวาง”
“กระหม่อมคิดว่าที่คุกใต้ดินเอดินเบิร์กมีน้ำอาคมที่ว่าพระเจ้าค่ะ ถ้าลงไปได้ การล้างฤทธิ์ยาก็ง่ายนิดเดียว”
“เข้าใจแล้ว เฟรินมานี่”
“ไปไหน”
“ไปหาอาจารย์ก่อน แล้วไปที่คุกใต้ดิน”
“ไม่เอา น่ากลัวจะตาย ฉันไม่อยากเจอไอ้พวกที่ถูกขังอยู่ในนั้น”
“ทีเมื่อก่อนไม่ให้ไปล่ะดื้อจะไปให้ได้” คาโลดุเสียงเครียด “จะยอมไปดีๆหรือจะให้ฉันสาปให้นายกลายเป็นอะไรสักอย่าง”
“นายก็ไปอาบคนเดียวสิ แล้วกลับมาที่นี่ เดี๋ยวฉันจับชีพจรให้ก็ได้”
“ไปด้วยกันเดี๋ยวนี้”
ทันทีที่พูดจบ เจ้าชายแห่งคาโนวาลก็คว้าเอวเจ้าหญิงแห่งเดมอสและบารามอสลากออกจากห้องไปอย่างทุลักทุเล
ยิ่งลงไปลึก ประตูหินก็ยิ่งดูเก่าแก่ เพราะขาดการบำรุงรักษาและความชื้นทำให้เต็มไปด้วยตะใคร่ เมื่อลงไปจนสุดก็มีแม้กระทั่งมอสเรืองแสง
เฟรินลื่นล้มหลายครั้ง ให้คนข้างกายต้องช่วยพยุงจนแทบจะล้มลงมาด้วยกัน ในที่สุดคนตัวสูงก็ต้องจำใจโอบเอาไว้ทั้งตัว แรกๆเฟรินก็ดิ้นโวยวาย แต่หลังๆก็แกล้งเอาหน้าไปซุกอกนิ่มๆของคนกอดแล้วทำหน้าแบบลุงจิตทรามให้เจ้าชายแห่งคาโนวาลทรมานใจแทบคลั่ง แล้วก็นึกสมเพชตัวเองที่มาตกหลุมรักคนครึ่งหญิงครึ่งชายที่อ่อนการอบรมแบบนี้
น้ำลงอาคมหาเจอได้ไม่ยาก หรือถ้าจะให้ถูกก็คือไม่ต้องหา มันมีมากจนเหลือเฟือ เพราะเป็นบ่อน้ำใหญ่สี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีคูน้ำต่อออกไปสี่ทิศ และคูน้ำเหล่านั้นก็มีทางแยกต่อไปอีกนับไม่ถ้วน ประหนึ่งเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงคุกหินแห่งนี้
เมื่อเห็นเฟรินด้อมๆมองๆอย่างกล้าๆกลัวๆ เขาก็อธิบาย
“คูน้ำพวกนี้ล้อมรอบเขาวงกตที่ใช้ขังปีศาจเกราะดำ”
“หวังว่ามันคงไม่หลุดออกมา นายรีบๆลงไปแช่สิ”
เขาเหลือบมองหล่อนแวบหนึ่ง แล้วจึงเดินไปเมียงๆมองๆอยู่ริมน้ำ
“รออะไรล่ะ”
เมื่อได้ยินเสียงเร่ง เขาก็จุ่มมือข้างหนึ่งลงไปในน้ำ แล้วชักมือกลับโดยอัตโนมัติ
“เย็นชิบเลย” เจ้าหล่อนพูดสิ่งที่อยู่ในใจเขาออกมาทันที “นายจะลงไปทั้งแบบนั้นเหรอ ขึ้นมามีหวังหนาวตาย”
ชายหนุ่มในร่างสาวถอนหายใจเฮือก แล้วค่อยๆแกะกระดุมเสื้อ
“ฉันมีทางเลือกอื่นหรือไง นายหันไปทางอื่นสิ ฉันจะลง”
เฟรินฉีกยิ้มโรคจิตทันที
“นายจะอายอะไร ผู้หญิงด้วยกัน เดี๋ยวฉันลงเป็นเพื่อนก็ยังได้ ถอดเลยๆ”
ว่าแล้วคนพูดก็หัวเราะเอิ๊กอ๊าก ผิวขาวๆของคนฟังเปลี่ยนเป็นสีแดงแป๊ดทันที นิ้วยาวจิ้มลงบนหน้าผากของสาวคนรักโดยไม่ลังเล รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ค้างเติ่งบนใบหน้า แขนสองข้างตกลงข้างตัว เมื่อเจ้าหญิงคนงามขยับไม่ได้ คาโลก็จัดท่าให้หล่อนนั่งหันหลังให้เขา
“ขี้โกง เผด็จการ ป่าเถื่อน เอะอะอะไรก็ใช้กำลัง” เฟรินโวยวายเสียงก้อง สะท้อนไปมาตามคูหาหิน
“ฉันก็นิสัยแบบนี้แหละ นายเพิ่งรู้หรือไง”
เสียงสวบสาบของเนื้อผ้าที่เสียดสีกันและเสียงน้ำจ๋อมแจ๋มที่ได้ยินทำให้หล่อนอยากหันไปดูจนแทบคลั่ง แต่ไอ้เวทเฮงซวยของคาโลนั่นทำให้หล่อนไม่มีแรงแม้แต่จะกระดิกนิ้ว
ของดีมีจำกัด ร่างสูงเดินมานั่งลงตรงหน้าหล่อนในสภาพแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ผิวขาวแดงระเรื่อด้วยความเย็น ริมฝีปากสั่นนิดๆ ปลายนิ้วที่แตะลงที่หน้าผากเธออีกครั้งเย็นจนสะดุ้ง
“ดูดอาถรรพ์ให้ฉัน”
เขาไม่รอให้เธอตอบ มือใหญ่กว่ารวบมือเล็กทั้งสองข้างไว้ด้วยกันแล้วกุมไว้แน่น ตามที่โกโดมบอกไว้ หล่อนต้องสัมผัสเขาสามที่พร้อมๆกัน คือมือทั้งสองข้าง และหน้าผาก
หน้าผาก...
ดวงตาสีฟ้าสวยจ้องลึกลงไปในดวงตาของหล่อน ทำให้อาการกระฟัดกระเฟียดที่กำลังจะทำหยุดไปเสียเฉยๆ ยิ่งใบหน้าสวยโน้มเข้ามาใกล้ คนที่มีรสนิยมชอบพี่สาวสวยๆก็เริ่มสมองเริ่มเบลอจนนึกอะไรไม่ออก
เวลามันมองแบบนี้ ไม่เคยสู้มันได้เลยวุ้ย
ใบหน้าสวยเกินชายของคาโลขยับเข้ามาใกล้ๆเรื่อย เฟรินรู้สึกว่าหน้าร้อนผ่าว มันคงจะแดงไปถึงหูแน่ๆ เมื่อเห็นคาโลขยับยิ้มน้อยๆแบบนี้
“อะ ไอ้บ้า ยิ้มอะไรของนาย” หล่อนเอ่ยเสียงแผ่ว
“รู้จักอายเหมือนกันนี่”
“อะ ”
ไม่ทันได้เถียง เขาก็แนบหน้าผากเย็นชื้นเข้ากับหน้าผากของหล่อน ใกล้เสียจนปลายจมูกชนกัน เฟรินรู้สึกถึงไออุ่นๆที่ไหลผ่านจากร่างอดีตชายหนุ่มเข้าสู่ร่างของเธอ แล้วแล่นวนเวียนไปทั่วร่าง ทั้งเคลิบคลิ้มทั้งรู้สึกสบายจนหลับตาพริ้ม
แสงสีทองสว่างวาบ ร่างตรงหน้าเรืองแสงขึ้นทั้งตัว สว่างเจิดจ้าจนมองไม่เห็น คาโลค่อยๆถูกกลืนหายเข้าไปในอุโมงค์แห่งแสง
ความอุ่นหายไป แสงบาดตาหายไปแล้ว สัมผัสที่หน้าผากก็หายไป มือของหล่อนถูกปล่อยเป็นอิสระ หล่อนจึงค่อยๆลืมตาขึ้น แล้วก็ต้องอ้าปากค้าง
“เฟริน” คนตรงหน้าเอ่ยเสียงเข้ม
“ครับ”
“นายคงไม่ว่า ถ้าฉันจะขอองครักษ์ของนาย”
“เอ่อ คือ”
“เดี๋ยวฉันหาตัวใหม่ให้ เก่งกว่านี้ ฉลาดกว่านี้”
“เอ่อ...”
“เอาโกโดมให้ฉัน ฉันจะส่งมันลงนรก”
ขืนปล่อยก๊ากออกไปตอนนี้โดนมันจับกดน้ำแน่
เฟรินได้แต่กลั้นหัวเราะ แล้วรีบตามคนรักที่จ้ำพรวดขึ้นไปไดไปโดยไม่เหลียวหลัง
อย่างนายมันต้องเจอแบบนี้ จะได้รู้สึกสำนึกซะบ้าง
คิลอาฆาตอยู่ในใจขณะที่กำลังเดินลงไปยังคุกใต้ดิน เมื่ออาบน้ำเสร็จ เขาก็รีบหาอุปกรณ์เสริมแล้วตามเพื่อนทั้งสองลงไปที่คุกใต้ดินโดยด่วน
เมื่อไร้จิ้งจอกเก้าหาง เวรยามก็ไม่หนาแน่นดังก่อน เรียกได้ว่ามีแบบขอไปที และที่สำคัญยามที่ว่าก็คือ ครี้ด ธันเดอร์ พอบอกว่าเขาจะลงไปตามเฟรินกับคาโล นักรบแห่งไนล์ก็ปล่อยเขาเข้าไปอย่างง่ายดาย
อุปกรณ์เสริมอันคือเกราะดำก็หาง่ายยิ่งกว่าง่าย ห้องเก็บของเก่าของป้อมอัศวินมีตั้งหลายชุด เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่พิเศษ ขนาดไหนก็มีให้เลือกตามใจชอบ เสียแต่ทั้งหนักทั้งเหม็นสนิม ดาบใหญ่ยิ่งถือยิ่งหนัก ในที่สุดนักฆ่าก็เลยลากไปตามพื้น
เอาวะ มีเสียงครืดคราดแบบนี้ จะได้น่ากลัวขึ้น คราวนี้เฟรินกลัวหัวหดแน่ๆ ถือซะว่าเขาสะใจ คาโลได้กำไร
คิลกระหยิ่มยิ้มย่อง หมายมั่นปั้นมือจะหลอกเพื่อนสาวให้สมแค้น
แต่แปลกเหลือเกิน ทำไมเขาถึงง่วงซะขนาดนี้ ยิ่งเดินตาก็ยิ่งปิด จากเดินตรงๆก็กลายเป็นเดินลากขา มือเริ่มต้องเกาะผนังไปเรื่อยๆ ง่วงจนต้องหยุดพัก แล้วกลั้นใจเดินต่อ เดินๆหยุดๆจนคิลเริ่มอยากล้มเลิกแผนการแล้วกลับไปนอนแผ่ซะให้รู้แล้วรู้รอด
แต่มันก็สายเกินไป เมื่อนักฆ่าแห่งซาเรสลงบันไดขั้นสุดท้าย ร่างสวมเกราะสีดำสนิทก็ล้มลงบนพื้นหินดังแคร้งแล้วไม่ขยับอีกเลย
“อยากตายวิธีไหน”
ดวงตาสีแดงเอ่อน้ำตาของโคมุสแห่งเดมอสที่กำลังโดนมือขาวๆจับหัวไว้จับจ้องไปที่เจ้าหญิงของเขาอย่างเว้าวอน เฟรินได้แต่หลบสายตาอย่างช่วยไม่ได้
ก็ไม่อยากโดนลูกหลงไปด้วยนี่หว่า
“เอ่อ ท่านราชบุตรเขยใช่ไหมพระเจ้าค่ะ”
ดวงตาสีฟ้ากลมโตลุกวาบ แรงบีบที่มือมากขึ้นอีก ทำให้โกโดมเริ่มสำลัก
“คาโล เดี๋ยวมันก็ตายหรอก” เฟรินพยายามแก้สถานการณ์
“เดี๋ยวฉันหาตัวใหม่ให้ นายก็บอกจ้าวปีศาจไปก็แล้วกันว่ามันตายในหน้าที่”
เสียงโหดๆที่ไม่เข้ากับใบหน้าทำให้หญิงสาวหลุดหัวเราะพรืดออกมา ทำให้ดวงตาสีฟ้าใสวาวๆกลับไปจับจ้องที่ใบหน้าเธอแทน
“ขำอะไร”
“ก็...โอยไม่ไหวแล้ว เห็นนายทำท่าโหดแล้วมันน่ารักจนอดขำไม่ได้”
พูดจบก็ปล่อยก๊ากอีกรอบ
ก็ร่างตรงหน้านี้มันทั้งน่ารักน่าเอ็นดู แต่กลับเก๊กหน้าเย็นชาเหมือนตอนปกติ เห็นแล้วก็เหมือนเด็กหัวโจกซนๆที่กำลังพยศไม่มีผิด
การถอนอาคมไม่สำเร็จ แทนที่คาโลจะคืนร่างเดิม กลับกลายเป็นเด็กแปดขวบไปซะได้
ผิวขาวๆ ร่างป้อมๆ ตาใสๆ น่ารักน่าชังสมเป็นเจ้าชายน้อยผู้สูงศักดิ์ เห็นแล้วต่อมสาวมันกำเริบ คันไม้คันมืออยากคว้ามากอดเสียให้ได้
“ตลกมากใช่ไหม” เด็กชายเก๊กเสียงเข้มดุหญิงสาว แต่กลับทำให้ยิ้มของหล่อนกว้างขึ้นอีก
“นายน่าจะรีบๆมีลูกนะ ต้องน่ารักแน่ๆเลย ฉันอยากเห็น”
คำพูดหล่อนทำให้เจ้าชายน้อยแทบกุมขมับ
พูดอย่างกับเป็นเรื่องของคนอื่น ถ้ากลับร่างเดิมเมื่อไหร่คงต้องลองขอให้หล่อนคลอดลูกให้สักคน คิดแล้วก็อดเอ่ยยั่วหล่อนบ้างไม่ได้
“คงต้องรอนานหน่อย ร่างนี้คงทำให้นายท้องไม่ได้” เจ้าชายน้อยแดนนักรบพูดช้าชัดอย่างที่ไม่ต้องกลัวแปลความหมายผิด
คนฟังสำลักน้ำลายตัวเองดังแค่ก โกโดมเองก็หันไปมองราชบุตรเขยน้อยด้วยสายตาที่ไม่อยากเชื่อ ก่อนจะนิ่งคิด แล้วละล่ำละลักออกมา
“กระหม่อมนึกออกแล้ว”
“นึกออกแล้วก็ว่ามา อยากตายวิธีไหน”
“คือกระหม่อมลืมบอกขั้นตอนสำคัญไปอีกอย่าง”
ดวงตาสีฟ้าเย็นลงอย่างที่ใครเห็นก็รู้สึกได้
“ว่าไป”
“คือว่า ก่อนจะดูดอาถรรพ์ให้ท่าน เจ้าหญิงก็ต้องชำระร่างกายด้วยน้ำลงอาคมเช่นเดียวกันพระเจ้าค่ะ”
มือใหญ่คลายออก แต่ก็ยังไม่ยอมปล่อย เจ้าชายน้อยน่ารักหันไปพยักหน้าให้สาวคนรักหยิบบางอย่างที่วางอยู่ตรงมุมห้องให้
“เพราะเฟรินไม่ได้อาบน้ำนั่น ฉันเลยต้องอยู่ในร่างนี้งั้นหรือ”
“เป็นเพราะเจ้าหญิงดูดอาถรรพ์ออกมาได้เฉพาะส่วนที่เกิดจากน้ำตากุมารทองพระเจ้าค่ะ”
“อี๋ น้ำตากุมารทอง แกผสมอะไรให้ฉันนี่” เฟรินร้องยี้ลั่น
“ถ้าโกหกเอาตัวรอด ฉันจะแยกร่างเจ้าเป็นแปดส่วน” เด็กชายแดนนักรบขู่ต่อไป
“กระหม่อมพูดจริงจากก้นบึ้งของหัวใจ ท่านเป็นว่าที่พระสวามีของเจ้าหญิง กระหม่อมจะคิดร้ายได้อย่างไร” โคมุสพูดไปก็วิงเวียนจัด ใกล้เป็นลมเต็มที
“เราจะรู้ได้ไงว่าเจ้าไม่แอบหวังให้เจ้าหญิงของเจ้าแต่งงานกับชาวเดมอสด้วยกัน”
โกโดมสะอึก ได้อย่างนั้นก็ไม่เลวแฮะ
เมื่อเฟรินเริ่มเห็นว่าคาโลกำลังชี้โพรงให้กระรอก ก็ขัดคอเสียก่อนที่โกโดมจะเริ่มคิดตาม
“เรื่องแต่งงานยังอีกไกล นายคิดมากเกินไปแล้ว อย่าโหดนักเลยน่า” หญิงสาวปลอบเสียงหวาน
“แค่นี้ที่คาโนวาลไม่นับว่ามากเกินไป”
เฟรินถอนหายใจเฮือก แล้วหยิบของที่เด็กชายต้องการให้ โกโดมถูกจับยัดเข้าไปในกรงดักหนูที่แสนคับแคบทันที
“เจ้าหญิง ช่วยกระหม่อมด้วยพระเจ้าค่ะ”
“ถ้าถอนอาคมสำเร็จ ฉันจะกลับมาปล่อย แต่ถ้าไม่ ฉันจะส่งเจ้าให้ท่านพ่อ”
คำทิ้งท้ายของเจ้าชายแห่งคาโนวาลทำให้องครักษ์จากเดมอสหน้าซีดเผือด
“ฉันก็อยากจะช่วยนะ แต่นายทำลูกเขาเป็นแบบนี้ พยายามแก้ตัวเองก็แล้วกัน”
คำทิ้งท้ายของเจ้าหญิงแห่งเดมอสทำให้โกโดมน้ำตาไหล
ท่านราชบุตรเขยเอายาเปลี่ยนเพศราดตัวเอง กระหม่อมผิดด้วยหรือ จะว่าไป เจ้าหญิงเองนั่นแหละที่เป็นคนสั่งให้เขาทำมันขึ้นมา
แต่วางใจเถิดพระเจ้าค่ะ กระหม่อมจะไม่ให้การซัดทอดถึงพระองค์แม้แต่นิดเดียว
“การดูดอาถรรพ์ครั้งแรกล้มเหลว ต่อไปการถ่ายพลังจะติดขัด อาจจะไม่สามารถถอนอาคมได้ภายในหนเดียว ขอให้ท่านราชบุตรเขยใจเย็นๆแล้วลองใหม่หลายๆครั้งนะพระเจ้าค่ะ” โกโดมร้องบอกอีกครั้ง ก่อนที่คนทั้งสองจะออกจากห้อง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น