ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : RELOADED! II
โกโดม อำมหิตไม่เงียบ RELOADED II
เสียงพร่ำบ่นงึมงำฟังไม่ได้ศัพท์ ประกอบกับเสียงดังโป้กๆเหมือนมีคนกำลังทุบอะไรสักอย่าง ดังมาจากมุมหนึ่งของป่า
ขณะที่สิ่งมีชีวิตร่างเล็กแต่เขาใหญ่กำลังบดสมุนไพรสีเขียวเข้มราวกับของบูดเน่าในครกประจำกาย ร่างหนึ่งก็เข้ามาด้านหลังด้วยฝีเท้าเงียบกริบสมกับอาชีพเก่า
"ทำอะไรของแกน่ะ เจ้ากวางโง่"
เงายาวเหยียดทอดลงบดบังแสงอาทิตย์จนดับมืด เมื่อโคมุสแห่งเดมอสหันไปมองก็พบกับสตรีร่างบอบบางในชุดนักเรียนหญิงของโรงเรียนพระราชา ผมสีน้ำตาลสั้นถูกรวบถักผูกโบว์เรียบร้อยอยู่ด้านหลัง ดูงดงามน่ารักราวกับคุณหนูลูกผู้ดี เสียแต่รอยยิ้มที่ประดับอยู่บนใบหน้านั้นช่างดูไม่เข้ากับลักษณะภายนอกเลยแม้แต่นิด
"กระหม่อมกำลังปรุงยาอยู่พระเจ้าค่ะ"
"ยาอะไร?"
"ยาที่จะช่วยเจ้าหญิงได้พระเจ้าค่ะ"
"หือม์" คิ้วเรียวเลิกขึ้นน้อยๆอย่างฉงน
เมื่อตำจนพอใจ โกโดมก็กรีดเลือดตัวเองลงไปสองหยดพร้อมร่ายคาถาพึมพำ แสงสีทองสว่างวาบ ท้องฟ้าร้องครืนครางสะเทือนเลือนลั่น เมือกสีช้ำเลือดช้ำหนองในครกพลันหมุนรอบตัวเองเร็วจี๋แล้วกลายสภาพเป็นก้อนกลมสีเงินยวง
โกโดมปาดเหงื่อออกพลางยืดอกอย่างภาคภูมิใจในผลงานของตน มือเล็กเอื้อมไปหยิบเม็ดกลมหยุ่นในครกมาห่อใบไม้สกปรกส่งให้เจ้าหญิงของเขา
"ถ้าท่านราชบุตรเขยจะรังแกเจ้าหญิง เอาไอ้นี่ให้เขากินพระเจ้าค่ะ"
เฟรินรับมาไว้ในมือแล้วหรี่ตามองพลางคิดสะระตะ ก่อนจะเอ่ยเสียงคล้ายตวาด
"ถ้ามันจะรังแกฉัน ฉันจะเอาปัญญาที่ไหนไปเอาไอ้นี่ยัดปากมันวะ"
"ไม่ใช่ยัดปากพระเจ้าค่ะ วิธีใช้ต้องผสมน้ำเย็นให้ดื่ม แล้วให้ท่านราชบุตรเขยแช่น้ำร้อนตาม ยาจึงจะออกฤทธิ์"
"ยิ่งเป็นไปไม่ได้เข้าไปใหญ่ ใช้ยากใช้เย็นขนาดนี้มันจะไปมีประโยชน์อะไรฮึเจ้ากวางโง่"
"โอ มีประโยชน์แน่นอน ขอเพียงเจ้าหญิงหาโอกาสได้เพียงครั้งเดียว ยาจะส่งผลตลอดไป"
"ถ้าหมอนั่นกินเข้าไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้น"
โกโดมนิ่งไปนิด ก่อนจะเอ่ยตะกุกตะกัก
"ถ้าเหล่าปีศาจเดมอสกินเข้าไปล่ะก็ จะสลบไสลไปสามวันสามคืน พอตื่นขึ้นมาจะตกเป็นทาสของผู้ที่มองเห็นเป็นคนแรก เพียงท่านใช้สายตาสะกด เขาก็จะไม่สามารถขัดท่านได้แม้แต่อย่างเดียว"
"แล้วถ้าชาวเอเดนกินเข้าไปล่ะ"
"น่าจะส่งผลเช่นเดียวกันพระเจ้าค่ะ แต่อาจจะรุนแรงกว่า"
"น่าจะ งั้นเรอะ นี่แกเอาของกิ๊กก๊อกอย่างนี้มาทดลองกับฉันเรอะ"
"กระหม่อมมิบังอาจ เจ้าหญิงสามารถถอนอาคมได้ทันทีที่เจ้าหญิงต้องการพระเจ้าค่ะ หากท่านราชบุตรเขยตกเป็นทาสของเจ้าหญิง เจ้าหญิงอยากคลายมนตร์เมื่อไร่ก็ทำได้ แต่หากอยากให้ตกเป็นทาสตลอดไป เจ้าหญิงก็ไม่ต้องคลายมนตร์"
"ขืนไปทำแบบนั้นกับหมอนั่น มีหวังสงครามเอเดนเดมอสได้ปะทุอีกรอบ ทีนี้พ่อมันคงเอาดาบปราบมารปาดคอฉันทีเดียวดับ"
"ท่านราชบุตรเขยจะไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงไปเลยพระเจ้าค่ะ เพียงแต่จะขัดคำสั่งเจ้าหญิงไม่ได้เท่านั้น"
"เอาเถอะๆ ตกลงว่าฉันจะเก็บยานี่ไว้พิจารณา แต่ใช้ยากใช้เย็นแบบนี้คงใช้ตอนฉุกเฉินไม่ได้ ฉันตามหาแกนี่เพราะมีเรื่องอยากให้ช่วย"
"เรื่องอะไรพระเจ้าค่ะ เพียงเจ้าหญิงสั่งมา กระหม่อมยินดียอมตายถวายชีวิต"
"ไม่ เรื่องนี้ไม่ถึงตาย ฉันจะเอาชีวิตสั่วๆของแกไปทำไม ก่อนอื่นแกตอบคำถามฉันมาก่อน ไอ้เวทที่สาปฉันเป็นผู้ชายนี่มันเวทอะไร"
"เวทของเอเดนพระเจ้าค่ะ สันนิษฐานว่าไฮคิงเป็นคนสั่งให้เลโมธีสาปพระองค์"
"นายทำเป็นไหม"
"กระหม่อมล้างเวทให้เจ้าหญิงยังได้ ไฉนเลยจะไม่สามารถสาปอะไรง่ายๆแบบนั้น"
"งั้นทำให้ฉันเป็นผู้ชายที"
"เอ่อ...ไม่ได้พระเจ้าค่ะ"
"ทำไม?"
"ท่านจ้าวฆ่ากระหม่อมตายแน่พระเจ้าค่ะ"
"ฉันแบคอัพแกเองน่า รับรองหัวไม่ขาด"
"เจ้าหญิงจะอยากเป็นผู้ชายไปทำไม พลังอำนาจอะไรก็ไม่มี"
"ฉันไม่ได้อยากจะฆ่าใคร ไม่ได้อยากจะเป็นใหญ่ ฉันจะเอาพลังปีศาจพวกนั้นไปทำไม"
"แล้วถ้าท่านราชบุตรเขยรังแกเจ้าหญิง ท่านก็จะไม่มีพลังต่อสู้เหมือนทุกครั้งนะพระเจ้าค่ะ"
"ถ้าฉันเป็นผู้ชาย หมอนั่นคงไม่สนใจจะรังแกฉันแล้วล่ะ"
"แต่ถ้าท่านเป็นผู้ชาย ท่านจะมีลูกกับท่านราชบุตรเขยไม่ได้นะพระเจ้าค่ะ" พูดแล้วโกโดมก็ต้องกลืนน้ำลายเอื้อก เมื่อเจ้าหญิงของเขาเริ่มแสยะยิ้มสยดสยอง
"ใครจะไปมีลูกกับไอ้หมอนั่นวะ" เฟรินตอบพลางแยกเขี้ยว มือก็ขยี้หัวอย่างหงุดหงิด ทำเอาผมเปียน่ารักเริ่มยุ่งเหยิง
"เอาเป็นว่าฉันจะเป็นผู้ชาย แกหาทางทำให้ฉันเดี๋ยวนี้"
"กระหม่อม..."
"เลือกเอาโกโดม แกกลัวพ่อที่อยู่ไกลของฉันหรือจะโดนจับแก้ผ้าห้อยหัวอยู่ตรงนี้สามวันก่อนจะโดนถ่วงน้ำ"
"เจ้าหญิงเฟลิโอน่า! ทรงโหดร้ายเหลือเกิน" โกโดมกรีดร้องอย่างหวดหวั่น ก่อนจะเอามือกุมขมับคล้ายวิงเวียนจะเป็นลม มือน้อยของเฟรินจึงรีบคีบองครักษ์จากเดมอสขึ้นมาประสานสายตา
"อ๊ะๆ อย่าริอ่านทำเป็นสลบต่อหน้าฉันเชียว ถ้าแกสำออยทำตัวเป็นกวางป่วยเมื่อไหร่ รับประกันว่าตื่นมาอีกทีแกไม่ครบสามสิบสอง ไม่สิ สามสิบสี่แน่"
โกโดมที่ดูวิงเวียนเมื่อสักครู่รีบลืมตาใสแจ๋วทันทีก่อนเอ่ยหนักแน่น
"รับด้วยเกล้าพระเจ้าค่ะ"
"สิ่งที่อยู่ในคุกใต้ดินเอดินเบิร์ก นอกจากจะมีจิ้งจอกเก้าหางแล้ว ยังมีปีศาจเกราะดำ"
อาจารย์คิงชามัลพร่ำบ่นเนื้อหาวิชาประวัติศาสตร์เอดินเบิร์กไปเรื่อยๆ เนตรคมกริบก็เหล่มองพระนัดดาตัวแสบไปด้วย
วันนี้มาแปลก
นอกจะจะใส่ชุดนักเรียนหญิงแบบเรียบร้อยติดกระดุมคอแล้วยังถักเปียสองข้างผูกโบว์สีชมพูหวานแหวว
"ปีศาจเกราะดำเชื่อว่าคือนักรบเวทที่ถูกเผาทั้งเป็นแต่ไม่ตาย ต้องอาศัยเกราะเหล็กปิดบังรอยแผลที่ถูกไฟไหม้จนถึงกระดูก ใช้พลังจิตบังคับร่างที่เน่าเสียหาย เพื่อสูบกินวิญญาณของเหยื่อที่หลงเข้าใกล้..."
เรื่องการแต่งตัวพอจะมองเมินได้ อย่างไรแม่ตัวดีก็ได้ชื่อว่ามีเจ้าชายรูปงามมาหมายปองอยู่เป็นตัวเป็นตน อยู่ดีๆจะทำตัวสมหญิงขึ้นมาก็มีทางเป็นไปได้
แต่อาการตั้งใจฟังจนเกินเหตุนี่สิ แปลกมาก แปลกเกินไป
"ปีศาจเกราะดำมีพลังจิตกล้าแข็งมาก มหาปราชญ์เลโมธีจึงต้องคุมขังไว้ในคุกน้ำใต้ดิน เพื่อให้จิตที่เป็นธาตุไฟไม่สามารถเล็ดลอดออกมาครอบงำใจคนได้..."
ระหว่างที่คิงชามัลสอนไปเพ่งหลานสาวไป เจ้าตัวก็กระซิบกับเพื่อนสนิทอย่างอกสั่นขวัญแขวน
"ทำไมเอาของน่ากลัวแบบนั้นมาไว้ใต้เท้าพวกเราวะ"
"ไม่มีที่อื่นไว้มั้ง" คิลตอบอย่างไม่ใส่ใจ
เนื้อหาวิชาที่เรียนวันนี้ทำให้เจ้าหล่อนยากจะหลับลง และคิดว่าคงจะเผื่อแผ่ไปถึงคืนนี้ด้วย เรื่องผีเรื่องวิญญาณนี่ ขืนนอนไปฟังไปมีหวังฝันร้ายละเมอโวยวายให้ขายขี้หน้า
เฟรินวางใบหน้าลงกับอุ้งมือที่รองรับตรงสองข้างแก้ม ทำท่าคล้ายนั่งเท้าคาง ที่จริงพยายามเอานิ้วอุดหูให้แน่นที่สุด แต่ก็ป่วยการ หล่อนยังได้ยินชัดทุกถ้อยทุกคำ
เมื่อชั้นเรียนจบลง ทุกคนก็ตรงกลับห้องเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า อากาศเริ่มหนาวแล้ว หากดึกกว่านี้ก็จะหนาวเกินกว่าจะอาบน้ำได้
"คิล"
สาวน้อยผมเปียกระตุกชายเสื้อเพื่อนหนุ่มที่เจ้าหล่อนทำตัวติดแจมาตั้งแต่กลางวัน
"อะไร" ดวงตาสีม่วงเหลือบมองอย่างสงสัย แล้วก็ทันเห็นเพื่อนร่วมห้องเดินตามหลังมาด้วย
"คืนนี้นอนด้วยได้ไหม ฉันมีเรื่องจะปรึกษา"
คิลส่ายหน้าอย่างเหนื่อยหน่าย แล้วจ้องหน้าจริงจัง
"นายกลัวไอ้ปีศาจเกราะดำนั่น"
"เฮ้ย ใครจะไปกลัววะ ฮ่าๆ ฉันมีเรื่องจะคุยกับนายจริงๆ" เฟรินหัวเราะหน้าแหย
"ลองไปถามรูมเมทฉันดูก็แล้วกัน ถ้าหมอนั่นตกลง ฉันก็ไม่มีปัญหา"
รูมเมทไอ้คิล
ฝันไปเถอะ เรื่องอะไรจะไปคุยกับมัน คนเฮงซวยพรรค์นั้น
"คิล แก ไอ้คนใจดำ เออๆ ฉันไม่บอกแกแล้ว สนุกคนเดียวก็ได้"
คิลหูผึ่งเล็กน้อยกับคำพูดทิ้งท้ายของเพื่อนสาว แต่ก็คิดว่ามันคงบลัฟเขาไปตามเรื่อง
เมื่อกลับมาถึงห้อง เจ้าหญิงคนงามแห่งเดมอสก็เหวี่ยงกระเป๋าโครมลงบนเตียง ทำเอาโกโดมที่กำลังนอนเอาแรงกระเด็นตกเตียง
"กลับมาแล้วหรือกระหม่อม ยาที่สั่งกระหม่อมทำเสร็จแล้ว เชิญเจ้าหญิงใช้ได้ตามใจชอบเลยพระเจ้าค่ะ"
น้ำสีเขียวแก่ข้นคลั่กส่งกลิ่นหืนอบอวลเต็มชามอ่างใหญ่วางนิ่งอยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือ แผ่ไอทมิฬน่าขยะแขยงออกมาจนเฟรินต้องย่นจมูก
"ไอ้โคลนสีเขียวนี่มันอะไร"
"ยาเปลี่ยนเพศกระหม่อม"
"ใช้ได้กี่ครั้งเนี่ย"
"ครั้งเดียวกระหม่อม"
"ครั้งเดียว อย่าบอกนะว่าให้ใช้หมดนี่"
จะไหวเหรอวะ แค่ได้กลิ่นก็แทบขย้อนของเก่า แกจงใจแกล้งฉันหรือเปล่าวะเนี่ย เจ้ากวาง
"พระเจ้าค่ะ"
"ไอ้กวางโง่ ของแบบนี้แกกินเองไป๊" เฟรินเอ่ยด้วยความหงุดหงิดมากกว่าจะหมายความตามนั้นจริงๆ
แต่ไม่ทันที่องครักษ์จากเดมอสจะเอ่ยปากอธิบายอะไร ประตูห้องก็เปิดโครมเข้ามา
เมื่อเฟรินหันไปมองร่างสูงที่กำลังย่างสามขุมเข้ามาในห้องเธอโดยไม่ได้รับอนุญาต ดวงตาก็เหลือบไปมองชามใส่ยาเปลี่ยนเพศอย่างอดไม่ได้ ทำให้คาโลมองตามโดยอัตโนมัติ
"นั่นอะไร"
"ไม่เกี่ยวกับนาย"
ท่าทางลุกลี้ลุกลนของหล่อนทำให้เขาทำท่าจะขยับเข้าไปดูของสิ่งนั้นใกล้ๆ แต่เจ้าหญิงแห่งเดมอสและบารามอสก็รีบปราดเข้ามาขวางไว้
"เข้ามาทำไม"
คาโลไม่สนใจคำพูดของหล่อน เอื้อมมือผ่านร่างของหญิงสาวไปคว้าชามนั้น เฟรินจึงรีบจับชามอีกด้านเพื่อยื้อเอาไว้
"ปล่อยมือ" เจ้าชายหนุ่มสั่งเสียงเข้ม
"เรื่องอะไร นี่มันของฉัน นายอย่ายุ่ง"
ดวงตาสองคู่จ้องกันอย่างไม่ลดละดั่งมีเพลิงเผา มือก็ยื้อแย่งชามใส่โคลนสีเขียวข้นไปมา
"ทำไมช่วงนี้นายถึงชอบหาเรื่องฉันนัก อย่าบอกนะว่านี่คือการแสดงความรักของนาย"
มือใหญ่คลายแรงลงทันทีที่ได้ยินคำพูดกระดากหู ทำให้เฟรินกระชากชามกลับได้ทันใด
แต่ชามนั้นหนักว่าที่คิดมาก พอคนที่จับด้านหนึ่งปล่อยมือ ชามก็เอียงวูบจนของเหลวในชามหกลงในด้านที่ถูกปล่อย
"เฮ้ย"
เครื่องแบบนักเรียนโรงเรียนพระราชา ถูกโคลนสีเขียวเหม็นหืนราดรดลงเต็มตัว สร้างความน่าขยะแขยงสุดจะบรรยายให้เจ้าชายหอคอยงาช้าง
"เฟริน!"
"เฮ้ยๆ อย่ามาโทษฉัน" หญิงสาวรีบขยับถอยออกไปหลายก้าว
"นี่มันยาอะไร" เสียงเอ่ยเย็นเยียบจนคนฟังหนาวเข้ากระดูก
"อย่าสนใจเลย นายรีบไปล้างดีกว่าน่า" พูดพลางคว้าแขนคนตรงหน้าลากให้เขาไปในห้องน้ำ
"ถ้านายไม่บอกว่านี่มันอะไร ฉันจะกอดนาย เดี๋ยวนี้"
"จะบ้าเรอะ"
แค่คิดก็สยอง อย่าเอาไอ้นั่นมาป้ายฉันนะโว้ย
"ยาแปลงเพศกระหม่อม" โกโดมที่เงียบอยู่นานโพล่งขึ้นมาไม่มีปี่มีขลุ่ย
"ว่าไงนะ" คาโลทวนเสียงเย็นลงไปอีก
"ก็อย่างที่ได้ยิน แล้วไงล่ะ นายไม่ได้กินมันเข้าไปซะหน่อย แค่ล้างออกก็จบเรื่องแล้ว" เฟรินเอ่ยอย่างรำคาญ
"เอ่อ มันไม่ได้ใช้กินกระหม่อม"
"ว่าไงนะ" คราวนี้เฟรินเป็นฝ่ายทวนเสียงหลง
"ยานั่นใช้ทา...กระหม่อม"
เสียงตอบของโกโดมเบาหวิว แต่เสียงร่างที่วิ่งตึงตังเข้าไปในห้องน้ำดังโครมคราม เฟรินโผล่หน้าตามเข้าไปในห้องน้ำ เมื่อเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ก็ต้องกลั้นหัวเราะไว้สุดกำลัง
"ไม่ใช่ความผิดของฉันนะ"
หญิงสาวร่างสูงเพรียว ใบหน้าคม ดวงตาสีฟ้าสวยดูเยือกเย็น ผมสีเงินสลวยสั้นระต้นคอ ผิวกายขาวดุจหิมะ ปรากฏแก่สายตา เฟรินถลาเข้าไปหาร่างนั้นซึ่งยังยืนนิ่งอึ้งแข็งค้างอยู่ในท่าเดิม
"สาวงามนี่หว่า แกน่ะ สวยขนาดนี้ฉันยอมซูฮกเลยว่ะ" พูดไปมือก็ช่วยล้างโคลนสีเขียวออกโดยไม่นึกรังเกียจ
ท่าทางมาดมั่นสง่างามของหญิงสาวตรงหน้าทำให้หล่อนดูสูงศักดิ์ไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าร่างกายจะกลายเป็นหญิง เฟรินหัวเราะคิกคักพลางก็คว้าแขนคนตรงหน้าขึ้นมากอดแน่นแล้วเอาแก้มถูซบซุกคลอเคลียดุจลูกแมวตัวน้อย
"แบบนี้เสปกฉันเลย ขอเรียกพี่สาวนะคาโล"
"ไม่ได้" ตอบพลางดันหัวกลมๆออกห่าง
"งก"
ผมสีเงินเปียกน้ำลู่แนบต้นคอ ชุดที่เปียกไปทั้งตัวทำให้ดูเซ็กซี่จนคนมองต้องส่ายหน้า แล้วเจ้าหล่อนก็เขย่งกายขึ้นหอมแก้มคนข้างๆที่ไม่ทันระวังตัวอย่างอดไม่อยู่ เจ้าชายแห่งคาโนวาลหน้าแดงก่ำ หันมาส่งสายตาดุให้แม่สาวขี้เล่น
"ตามมา"
"จะไปไหน"
"ประชุม นายก็ต้องไปด้วยเพราะอาจารย์คิงชามัลบอกให้ฉันมาเรียกนาย"
"อย่าบอกนะว่าจะไปประชุมทั้งร่างนี้"
"ในเมื่อไม่มีทางเลือก ฉันก็ต้องไป"
จะแปลกอะไร ร่างเด็กเขาก็เคยเป็น เจอร่างผู้หญิงอีกสักอย่างก็คงไม่มีใครแปลกใจ
"โดดเถอะ คาโล" เฟรินเอ่ยเสียงอ้อน
"ไม่"
"แต่ร่างกายนายไม่พร้อม แบบนี้ก็ถือว่าป่วยเหมือนกัน"
"ฉันสบายดี"
"นะๆ โดดเหอะ อยู่เป็นเพื่อนฉันที่นี่แหละ นายขยันมาทั้งปี โดดซักวันไม่มีใครตายหรอกน่า"
"ฉันไม่เหมือนนาย"
"เหมือนสิ เป็นผู้หญิงเหมือนกันไง"
สาวร่างสูงเดินออกไปจากห้องน้ำโดยที่น้ำยังหยดตึ๋งๆ เมื่อมองเห็นองครักษ์ชาวโคมุสยืนตาแป๋วอยู่ ก็เข้าไปคว้าคอขึ้นทันใด
"ทำให้ฉันกลับร่างเดิมเดี๋ยวนี้"
"กระหม่อมทำไม่ได้พระเจ้าค่ะ ท่านราชบุตรเขย"
ดวงตาสีฟ้าไม่มีแววล้อเล่น แรงบีบที่มากขึ้นทำให้โกโดมน้ำตาแทบไหล ละล่ำละลักตอบ
"แต่เจ้าหญิงทำได้พระเจ้าค่ะ"
เสียงพร่ำบ่นงึมงำฟังไม่ได้ศัพท์ ประกอบกับเสียงดังโป้กๆเหมือนมีคนกำลังทุบอะไรสักอย่าง ดังมาจากมุมหนึ่งของป่า
ขณะที่สิ่งมีชีวิตร่างเล็กแต่เขาใหญ่กำลังบดสมุนไพรสีเขียวเข้มราวกับของบูดเน่าในครกประจำกาย ร่างหนึ่งก็เข้ามาด้านหลังด้วยฝีเท้าเงียบกริบสมกับอาชีพเก่า
"ทำอะไรของแกน่ะ เจ้ากวางโง่"
เงายาวเหยียดทอดลงบดบังแสงอาทิตย์จนดับมืด เมื่อโคมุสแห่งเดมอสหันไปมองก็พบกับสตรีร่างบอบบางในชุดนักเรียนหญิงของโรงเรียนพระราชา ผมสีน้ำตาลสั้นถูกรวบถักผูกโบว์เรียบร้อยอยู่ด้านหลัง ดูงดงามน่ารักราวกับคุณหนูลูกผู้ดี เสียแต่รอยยิ้มที่ประดับอยู่บนใบหน้านั้นช่างดูไม่เข้ากับลักษณะภายนอกเลยแม้แต่นิด
"กระหม่อมกำลังปรุงยาอยู่พระเจ้าค่ะ"
"ยาอะไร?"
"ยาที่จะช่วยเจ้าหญิงได้พระเจ้าค่ะ"
"หือม์" คิ้วเรียวเลิกขึ้นน้อยๆอย่างฉงน
เมื่อตำจนพอใจ โกโดมก็กรีดเลือดตัวเองลงไปสองหยดพร้อมร่ายคาถาพึมพำ แสงสีทองสว่างวาบ ท้องฟ้าร้องครืนครางสะเทือนเลือนลั่น เมือกสีช้ำเลือดช้ำหนองในครกพลันหมุนรอบตัวเองเร็วจี๋แล้วกลายสภาพเป็นก้อนกลมสีเงินยวง
โกโดมปาดเหงื่อออกพลางยืดอกอย่างภาคภูมิใจในผลงานของตน มือเล็กเอื้อมไปหยิบเม็ดกลมหยุ่นในครกมาห่อใบไม้สกปรกส่งให้เจ้าหญิงของเขา
"ถ้าท่านราชบุตรเขยจะรังแกเจ้าหญิง เอาไอ้นี่ให้เขากินพระเจ้าค่ะ"
เฟรินรับมาไว้ในมือแล้วหรี่ตามองพลางคิดสะระตะ ก่อนจะเอ่ยเสียงคล้ายตวาด
"ถ้ามันจะรังแกฉัน ฉันจะเอาปัญญาที่ไหนไปเอาไอ้นี่ยัดปากมันวะ"
"ไม่ใช่ยัดปากพระเจ้าค่ะ วิธีใช้ต้องผสมน้ำเย็นให้ดื่ม แล้วให้ท่านราชบุตรเขยแช่น้ำร้อนตาม ยาจึงจะออกฤทธิ์"
"ยิ่งเป็นไปไม่ได้เข้าไปใหญ่ ใช้ยากใช้เย็นขนาดนี้มันจะไปมีประโยชน์อะไรฮึเจ้ากวางโง่"
"โอ มีประโยชน์แน่นอน ขอเพียงเจ้าหญิงหาโอกาสได้เพียงครั้งเดียว ยาจะส่งผลตลอดไป"
"ถ้าหมอนั่นกินเข้าไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้น"
โกโดมนิ่งไปนิด ก่อนจะเอ่ยตะกุกตะกัก
"ถ้าเหล่าปีศาจเดมอสกินเข้าไปล่ะก็ จะสลบไสลไปสามวันสามคืน พอตื่นขึ้นมาจะตกเป็นทาสของผู้ที่มองเห็นเป็นคนแรก เพียงท่านใช้สายตาสะกด เขาก็จะไม่สามารถขัดท่านได้แม้แต่อย่างเดียว"
"แล้วถ้าชาวเอเดนกินเข้าไปล่ะ"
"น่าจะส่งผลเช่นเดียวกันพระเจ้าค่ะ แต่อาจจะรุนแรงกว่า"
"น่าจะ งั้นเรอะ นี่แกเอาของกิ๊กก๊อกอย่างนี้มาทดลองกับฉันเรอะ"
"กระหม่อมมิบังอาจ เจ้าหญิงสามารถถอนอาคมได้ทันทีที่เจ้าหญิงต้องการพระเจ้าค่ะ หากท่านราชบุตรเขยตกเป็นทาสของเจ้าหญิง เจ้าหญิงอยากคลายมนตร์เมื่อไร่ก็ทำได้ แต่หากอยากให้ตกเป็นทาสตลอดไป เจ้าหญิงก็ไม่ต้องคลายมนตร์"
"ขืนไปทำแบบนั้นกับหมอนั่น มีหวังสงครามเอเดนเดมอสได้ปะทุอีกรอบ ทีนี้พ่อมันคงเอาดาบปราบมารปาดคอฉันทีเดียวดับ"
"ท่านราชบุตรเขยจะไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงไปเลยพระเจ้าค่ะ เพียงแต่จะขัดคำสั่งเจ้าหญิงไม่ได้เท่านั้น"
"เอาเถอะๆ ตกลงว่าฉันจะเก็บยานี่ไว้พิจารณา แต่ใช้ยากใช้เย็นแบบนี้คงใช้ตอนฉุกเฉินไม่ได้ ฉันตามหาแกนี่เพราะมีเรื่องอยากให้ช่วย"
"เรื่องอะไรพระเจ้าค่ะ เพียงเจ้าหญิงสั่งมา กระหม่อมยินดียอมตายถวายชีวิต"
"ไม่ เรื่องนี้ไม่ถึงตาย ฉันจะเอาชีวิตสั่วๆของแกไปทำไม ก่อนอื่นแกตอบคำถามฉันมาก่อน ไอ้เวทที่สาปฉันเป็นผู้ชายนี่มันเวทอะไร"
"เวทของเอเดนพระเจ้าค่ะ สันนิษฐานว่าไฮคิงเป็นคนสั่งให้เลโมธีสาปพระองค์"
"นายทำเป็นไหม"
"กระหม่อมล้างเวทให้เจ้าหญิงยังได้ ไฉนเลยจะไม่สามารถสาปอะไรง่ายๆแบบนั้น"
"งั้นทำให้ฉันเป็นผู้ชายที"
"เอ่อ...ไม่ได้พระเจ้าค่ะ"
"ทำไม?"
"ท่านจ้าวฆ่ากระหม่อมตายแน่พระเจ้าค่ะ"
"ฉันแบคอัพแกเองน่า รับรองหัวไม่ขาด"
"เจ้าหญิงจะอยากเป็นผู้ชายไปทำไม พลังอำนาจอะไรก็ไม่มี"
"ฉันไม่ได้อยากจะฆ่าใคร ไม่ได้อยากจะเป็นใหญ่ ฉันจะเอาพลังปีศาจพวกนั้นไปทำไม"
"แล้วถ้าท่านราชบุตรเขยรังแกเจ้าหญิง ท่านก็จะไม่มีพลังต่อสู้เหมือนทุกครั้งนะพระเจ้าค่ะ"
"ถ้าฉันเป็นผู้ชาย หมอนั่นคงไม่สนใจจะรังแกฉันแล้วล่ะ"
"แต่ถ้าท่านเป็นผู้ชาย ท่านจะมีลูกกับท่านราชบุตรเขยไม่ได้นะพระเจ้าค่ะ" พูดแล้วโกโดมก็ต้องกลืนน้ำลายเอื้อก เมื่อเจ้าหญิงของเขาเริ่มแสยะยิ้มสยดสยอง
"ใครจะไปมีลูกกับไอ้หมอนั่นวะ" เฟรินตอบพลางแยกเขี้ยว มือก็ขยี้หัวอย่างหงุดหงิด ทำเอาผมเปียน่ารักเริ่มยุ่งเหยิง
"เอาเป็นว่าฉันจะเป็นผู้ชาย แกหาทางทำให้ฉันเดี๋ยวนี้"
"กระหม่อม..."
"เลือกเอาโกโดม แกกลัวพ่อที่อยู่ไกลของฉันหรือจะโดนจับแก้ผ้าห้อยหัวอยู่ตรงนี้สามวันก่อนจะโดนถ่วงน้ำ"
"เจ้าหญิงเฟลิโอน่า! ทรงโหดร้ายเหลือเกิน" โกโดมกรีดร้องอย่างหวดหวั่น ก่อนจะเอามือกุมขมับคล้ายวิงเวียนจะเป็นลม มือน้อยของเฟรินจึงรีบคีบองครักษ์จากเดมอสขึ้นมาประสานสายตา
"อ๊ะๆ อย่าริอ่านทำเป็นสลบต่อหน้าฉันเชียว ถ้าแกสำออยทำตัวเป็นกวางป่วยเมื่อไหร่ รับประกันว่าตื่นมาอีกทีแกไม่ครบสามสิบสอง ไม่สิ สามสิบสี่แน่"
โกโดมที่ดูวิงเวียนเมื่อสักครู่รีบลืมตาใสแจ๋วทันทีก่อนเอ่ยหนักแน่น
"รับด้วยเกล้าพระเจ้าค่ะ"
"สิ่งที่อยู่ในคุกใต้ดินเอดินเบิร์ก นอกจากจะมีจิ้งจอกเก้าหางแล้ว ยังมีปีศาจเกราะดำ"
อาจารย์คิงชามัลพร่ำบ่นเนื้อหาวิชาประวัติศาสตร์เอดินเบิร์กไปเรื่อยๆ เนตรคมกริบก็เหล่มองพระนัดดาตัวแสบไปด้วย
วันนี้มาแปลก
นอกจะจะใส่ชุดนักเรียนหญิงแบบเรียบร้อยติดกระดุมคอแล้วยังถักเปียสองข้างผูกโบว์สีชมพูหวานแหวว
"ปีศาจเกราะดำเชื่อว่าคือนักรบเวทที่ถูกเผาทั้งเป็นแต่ไม่ตาย ต้องอาศัยเกราะเหล็กปิดบังรอยแผลที่ถูกไฟไหม้จนถึงกระดูก ใช้พลังจิตบังคับร่างที่เน่าเสียหาย เพื่อสูบกินวิญญาณของเหยื่อที่หลงเข้าใกล้..."
เรื่องการแต่งตัวพอจะมองเมินได้ อย่างไรแม่ตัวดีก็ได้ชื่อว่ามีเจ้าชายรูปงามมาหมายปองอยู่เป็นตัวเป็นตน อยู่ดีๆจะทำตัวสมหญิงขึ้นมาก็มีทางเป็นไปได้
แต่อาการตั้งใจฟังจนเกินเหตุนี่สิ แปลกมาก แปลกเกินไป
"ปีศาจเกราะดำมีพลังจิตกล้าแข็งมาก มหาปราชญ์เลโมธีจึงต้องคุมขังไว้ในคุกน้ำใต้ดิน เพื่อให้จิตที่เป็นธาตุไฟไม่สามารถเล็ดลอดออกมาครอบงำใจคนได้..."
ระหว่างที่คิงชามัลสอนไปเพ่งหลานสาวไป เจ้าตัวก็กระซิบกับเพื่อนสนิทอย่างอกสั่นขวัญแขวน
"ทำไมเอาของน่ากลัวแบบนั้นมาไว้ใต้เท้าพวกเราวะ"
"ไม่มีที่อื่นไว้มั้ง" คิลตอบอย่างไม่ใส่ใจ
เนื้อหาวิชาที่เรียนวันนี้ทำให้เจ้าหล่อนยากจะหลับลง และคิดว่าคงจะเผื่อแผ่ไปถึงคืนนี้ด้วย เรื่องผีเรื่องวิญญาณนี่ ขืนนอนไปฟังไปมีหวังฝันร้ายละเมอโวยวายให้ขายขี้หน้า
เฟรินวางใบหน้าลงกับอุ้งมือที่รองรับตรงสองข้างแก้ม ทำท่าคล้ายนั่งเท้าคาง ที่จริงพยายามเอานิ้วอุดหูให้แน่นที่สุด แต่ก็ป่วยการ หล่อนยังได้ยินชัดทุกถ้อยทุกคำ
เมื่อชั้นเรียนจบลง ทุกคนก็ตรงกลับห้องเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า อากาศเริ่มหนาวแล้ว หากดึกกว่านี้ก็จะหนาวเกินกว่าจะอาบน้ำได้
"คิล"
สาวน้อยผมเปียกระตุกชายเสื้อเพื่อนหนุ่มที่เจ้าหล่อนทำตัวติดแจมาตั้งแต่กลางวัน
"อะไร" ดวงตาสีม่วงเหลือบมองอย่างสงสัย แล้วก็ทันเห็นเพื่อนร่วมห้องเดินตามหลังมาด้วย
"คืนนี้นอนด้วยได้ไหม ฉันมีเรื่องจะปรึกษา"
คิลส่ายหน้าอย่างเหนื่อยหน่าย แล้วจ้องหน้าจริงจัง
"นายกลัวไอ้ปีศาจเกราะดำนั่น"
"เฮ้ย ใครจะไปกลัววะ ฮ่าๆ ฉันมีเรื่องจะคุยกับนายจริงๆ" เฟรินหัวเราะหน้าแหย
"ลองไปถามรูมเมทฉันดูก็แล้วกัน ถ้าหมอนั่นตกลง ฉันก็ไม่มีปัญหา"
รูมเมทไอ้คิล
ฝันไปเถอะ เรื่องอะไรจะไปคุยกับมัน คนเฮงซวยพรรค์นั้น
"คิล แก ไอ้คนใจดำ เออๆ ฉันไม่บอกแกแล้ว สนุกคนเดียวก็ได้"
คิลหูผึ่งเล็กน้อยกับคำพูดทิ้งท้ายของเพื่อนสาว แต่ก็คิดว่ามันคงบลัฟเขาไปตามเรื่อง
เมื่อกลับมาถึงห้อง เจ้าหญิงคนงามแห่งเดมอสก็เหวี่ยงกระเป๋าโครมลงบนเตียง ทำเอาโกโดมที่กำลังนอนเอาแรงกระเด็นตกเตียง
"กลับมาแล้วหรือกระหม่อม ยาที่สั่งกระหม่อมทำเสร็จแล้ว เชิญเจ้าหญิงใช้ได้ตามใจชอบเลยพระเจ้าค่ะ"
น้ำสีเขียวแก่ข้นคลั่กส่งกลิ่นหืนอบอวลเต็มชามอ่างใหญ่วางนิ่งอยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือ แผ่ไอทมิฬน่าขยะแขยงออกมาจนเฟรินต้องย่นจมูก
"ไอ้โคลนสีเขียวนี่มันอะไร"
"ยาเปลี่ยนเพศกระหม่อม"
"ใช้ได้กี่ครั้งเนี่ย"
"ครั้งเดียวกระหม่อม"
"ครั้งเดียว อย่าบอกนะว่าให้ใช้หมดนี่"
จะไหวเหรอวะ แค่ได้กลิ่นก็แทบขย้อนของเก่า แกจงใจแกล้งฉันหรือเปล่าวะเนี่ย เจ้ากวาง
"พระเจ้าค่ะ"
"ไอ้กวางโง่ ของแบบนี้แกกินเองไป๊" เฟรินเอ่ยด้วยความหงุดหงิดมากกว่าจะหมายความตามนั้นจริงๆ
แต่ไม่ทันที่องครักษ์จากเดมอสจะเอ่ยปากอธิบายอะไร ประตูห้องก็เปิดโครมเข้ามา
เมื่อเฟรินหันไปมองร่างสูงที่กำลังย่างสามขุมเข้ามาในห้องเธอโดยไม่ได้รับอนุญาต ดวงตาก็เหลือบไปมองชามใส่ยาเปลี่ยนเพศอย่างอดไม่ได้ ทำให้คาโลมองตามโดยอัตโนมัติ
"นั่นอะไร"
"ไม่เกี่ยวกับนาย"
ท่าทางลุกลี้ลุกลนของหล่อนทำให้เขาทำท่าจะขยับเข้าไปดูของสิ่งนั้นใกล้ๆ แต่เจ้าหญิงแห่งเดมอสและบารามอสก็รีบปราดเข้ามาขวางไว้
"เข้ามาทำไม"
คาโลไม่สนใจคำพูดของหล่อน เอื้อมมือผ่านร่างของหญิงสาวไปคว้าชามนั้น เฟรินจึงรีบจับชามอีกด้านเพื่อยื้อเอาไว้
"ปล่อยมือ" เจ้าชายหนุ่มสั่งเสียงเข้ม
"เรื่องอะไร นี่มันของฉัน นายอย่ายุ่ง"
ดวงตาสองคู่จ้องกันอย่างไม่ลดละดั่งมีเพลิงเผา มือก็ยื้อแย่งชามใส่โคลนสีเขียวข้นไปมา
"ทำไมช่วงนี้นายถึงชอบหาเรื่องฉันนัก อย่าบอกนะว่านี่คือการแสดงความรักของนาย"
มือใหญ่คลายแรงลงทันทีที่ได้ยินคำพูดกระดากหู ทำให้เฟรินกระชากชามกลับได้ทันใด
แต่ชามนั้นหนักว่าที่คิดมาก พอคนที่จับด้านหนึ่งปล่อยมือ ชามก็เอียงวูบจนของเหลวในชามหกลงในด้านที่ถูกปล่อย
"เฮ้ย"
เครื่องแบบนักเรียนโรงเรียนพระราชา ถูกโคลนสีเขียวเหม็นหืนราดรดลงเต็มตัว สร้างความน่าขยะแขยงสุดจะบรรยายให้เจ้าชายหอคอยงาช้าง
"เฟริน!"
"เฮ้ยๆ อย่ามาโทษฉัน" หญิงสาวรีบขยับถอยออกไปหลายก้าว
"นี่มันยาอะไร" เสียงเอ่ยเย็นเยียบจนคนฟังหนาวเข้ากระดูก
"อย่าสนใจเลย นายรีบไปล้างดีกว่าน่า" พูดพลางคว้าแขนคนตรงหน้าลากให้เขาไปในห้องน้ำ
"ถ้านายไม่บอกว่านี่มันอะไร ฉันจะกอดนาย เดี๋ยวนี้"
"จะบ้าเรอะ"
แค่คิดก็สยอง อย่าเอาไอ้นั่นมาป้ายฉันนะโว้ย
"ยาแปลงเพศกระหม่อม" โกโดมที่เงียบอยู่นานโพล่งขึ้นมาไม่มีปี่มีขลุ่ย
"ว่าไงนะ" คาโลทวนเสียงเย็นลงไปอีก
"ก็อย่างที่ได้ยิน แล้วไงล่ะ นายไม่ได้กินมันเข้าไปซะหน่อย แค่ล้างออกก็จบเรื่องแล้ว" เฟรินเอ่ยอย่างรำคาญ
"เอ่อ มันไม่ได้ใช้กินกระหม่อม"
"ว่าไงนะ" คราวนี้เฟรินเป็นฝ่ายทวนเสียงหลง
"ยานั่นใช้ทา...กระหม่อม"
เสียงตอบของโกโดมเบาหวิว แต่เสียงร่างที่วิ่งตึงตังเข้าไปในห้องน้ำดังโครมคราม เฟรินโผล่หน้าตามเข้าไปในห้องน้ำ เมื่อเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ก็ต้องกลั้นหัวเราะไว้สุดกำลัง
"ไม่ใช่ความผิดของฉันนะ"
หญิงสาวร่างสูงเพรียว ใบหน้าคม ดวงตาสีฟ้าสวยดูเยือกเย็น ผมสีเงินสลวยสั้นระต้นคอ ผิวกายขาวดุจหิมะ ปรากฏแก่สายตา เฟรินถลาเข้าไปหาร่างนั้นซึ่งยังยืนนิ่งอึ้งแข็งค้างอยู่ในท่าเดิม
"สาวงามนี่หว่า แกน่ะ สวยขนาดนี้ฉันยอมซูฮกเลยว่ะ" พูดไปมือก็ช่วยล้างโคลนสีเขียวออกโดยไม่นึกรังเกียจ
ท่าทางมาดมั่นสง่างามของหญิงสาวตรงหน้าทำให้หล่อนดูสูงศักดิ์ไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าร่างกายจะกลายเป็นหญิง เฟรินหัวเราะคิกคักพลางก็คว้าแขนคนตรงหน้าขึ้นมากอดแน่นแล้วเอาแก้มถูซบซุกคลอเคลียดุจลูกแมวตัวน้อย
"แบบนี้เสปกฉันเลย ขอเรียกพี่สาวนะคาโล"
"ไม่ได้" ตอบพลางดันหัวกลมๆออกห่าง
"งก"
ผมสีเงินเปียกน้ำลู่แนบต้นคอ ชุดที่เปียกไปทั้งตัวทำให้ดูเซ็กซี่จนคนมองต้องส่ายหน้า แล้วเจ้าหล่อนก็เขย่งกายขึ้นหอมแก้มคนข้างๆที่ไม่ทันระวังตัวอย่างอดไม่อยู่ เจ้าชายแห่งคาโนวาลหน้าแดงก่ำ หันมาส่งสายตาดุให้แม่สาวขี้เล่น
"ตามมา"
"จะไปไหน"
"ประชุม นายก็ต้องไปด้วยเพราะอาจารย์คิงชามัลบอกให้ฉันมาเรียกนาย"
"อย่าบอกนะว่าจะไปประชุมทั้งร่างนี้"
"ในเมื่อไม่มีทางเลือก ฉันก็ต้องไป"
จะแปลกอะไร ร่างเด็กเขาก็เคยเป็น เจอร่างผู้หญิงอีกสักอย่างก็คงไม่มีใครแปลกใจ
"โดดเถอะ คาโล" เฟรินเอ่ยเสียงอ้อน
"ไม่"
"แต่ร่างกายนายไม่พร้อม แบบนี้ก็ถือว่าป่วยเหมือนกัน"
"ฉันสบายดี"
"นะๆ โดดเหอะ อยู่เป็นเพื่อนฉันที่นี่แหละ นายขยันมาทั้งปี โดดซักวันไม่มีใครตายหรอกน่า"
"ฉันไม่เหมือนนาย"
"เหมือนสิ เป็นผู้หญิงเหมือนกันไง"
สาวร่างสูงเดินออกไปจากห้องน้ำโดยที่น้ำยังหยดตึ๋งๆ เมื่อมองเห็นองครักษ์ชาวโคมุสยืนตาแป๋วอยู่ ก็เข้าไปคว้าคอขึ้นทันใด
"ทำให้ฉันกลับร่างเดิมเดี๋ยวนี้"
"กระหม่อมทำไม่ได้พระเจ้าค่ะ ท่านราชบุตรเขย"
ดวงตาสีฟ้าไม่มีแววล้อเล่น แรงบีบที่มากขึ้นทำให้โกโดมน้ำตาแทบไหล ละล่ำละลักตอบ
"แต่เจ้าหญิงทำได้พระเจ้าค่ะ"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น