ไม่มีอะไรที่ได้มาเปล่าๆ - ไม่มีอะไรที่ได้มาเปล่าๆ นิยาย ไม่มีอะไรที่ได้มาเปล่าๆ : Dek-D.com - Writer

    ไม่มีอะไรที่ได้มาเปล่าๆ

    เรื่องดีๆในการดำเนินชีวิต ออกแนวธรรมะหน่อยนะ

    ผู้เข้าชมรวม

    305

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    305

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  21 ก.พ. 51 / 18:52 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ไม่มีอะไรที่ได้มา เปล่า ๆ
      โดย พระไพศาล วิสาโล

      มีนิทานเรื่อง หนึ่งเล่าสืบต่อกันมาว่า

      ชายผู้หนึ่งได้มอบตัวเป็นศิษย์กับ อาจารย์ผู้เคร่งครัดในการบำเพ็ญพรต
      หลังจากฝึกปฏิบัติมาได้หลายปี อาจารย์ก็ อนุญาตให้ชายผู้นี้
      ไปบำเพ็ญตบะแต่ผู้เดียวบนภูเขาอีก ลูกหนึ่งซึ่งอยู่ไกลออกไป

      ชายผู้นี้ปลีกตัวหลีก เร้นบำเพ็ญพรตอย่างจริงจัง
      ทุกคืนเขาจะถอดเสื้อซึ่งมี อยู่ตัวเดียวพาดไว้ที่ขอบหน้าต่างกระท่อม
      เช้าวันหนึ่ง เขาตื่นมาพบว่าเสื้อของเขาถูกหนูกัดขาดเป็นริ้ว
      เขาปะ ซ่อมเสื้อนานเป็นวัน วันรุ่งขึ้นก็พบว่าเสื้อตัวนั้นถูกหนูกัด อีก
      คราวนี้ขาดวิ่นจนเกินกว่าจะซ่อมได้ เขาจึงไปขอ เสื้อจากชาวบ้านมาใส่
      แต่แล้วก็ถูกหนูกัดจนยับเยิน อีก

      ในที่สุดเขาจึงตัดสินใจไปขอแมวจากชาวบ้านมาไว้ ที่กระท่อม
      เขาไม่ต้องกังวลเรื่องหนูอีก แล้ว
      แต่คราวนี้เขาต้องไปขอนมวัวจากชาวบ้านเพื่อมา เลี้ยงแมว
      ผ่านมาได้หนึ่งสัปดาห์เขาก็มีความคิดขึ้นมา ว่า
      การไปขอนมวัวจากชาวบ้านเป็นเรื่องยุ่งยาก หาวัวมา เลี้ยงจะดีกว่า
      แต่เมื่อมีวัวแล้วก็ต้องหาหญ้าให้มัน ด้วย
      เขาเกี่ยวหญ้าให้วัวอยู่พักใหญ่ก็รู้สึกว่าเสีย เวลาปฏิบัติ
      จึงไปจ้างลูกสาวชาวบ้านมาเกี่ยวหญ้าแทน ไม่นานเงินที่เก็บไว้ก็ร่อยหรอ
      เขาจึงแก้ปัญหาด้วยการ แต่งงานกับสาวชาวบ้านเสียเลย
      จะได้ไม่ต้องเสียเงิน จ้าง แถมยังได้คนมาช่วยงานบ้านด้วย
      ทีนี้เมื่อแต่งงาน แล้วก็ต้องช่วยกันทำมาหากิน เขาจึงเลิกบำเพ็ญพรต
      และ กลายเป็นพ่อค้าในที่สุดก็กลายเป็นเศรษฐี

      แล้ววัน หนึ่งอาจารย์ก็มาเยี่ยมลูกศิษย์
      เขาแปลกใจที่เห็น คฤหาสน์ขึ้นมาแทนที่กระท่อม
      และแปลกใจยิ่งขึ้นที่เห็น ลูกศิษย์ในคราบเศรษฐี
      อาจารย์ถามลูกศิษย์ว่าเกิดอะไร ขึ้น คำตอบของลูกศิษย์ก็คือ
      "
      พูดไปอาจารย์อาจไม่เชื่อ แต่ไม่มีทางอื่นอีกแล้วที่ผมจะรักษาเสื้อของผมได้"

      นิทานเรื่องนี้ ให้คติสอนใจทั้งพระและชาวบ้าน

      ชายผู้นี้เริ่มต้นด้วย การเป็นนักพรตที่ยากจน
      แต่ลงท้ายกลับกลายเป็นผู้ครอง เรือนที่มั่งคั่ง
      วิถีชีวิตที่หันเหเบี่ยงเบนจนกลาย เป็นตรงกันข้ามนั้น
      เริ่มต้นด้วยเหตุเพียงเล็กน้อย นั่นคือการหาแมวมาจับหนู
      ปัญหาของเขาในตอนนั้นคือเสื้อ ขาดเพราะถูกหนูกัด
      แต่แทนที่เขาจะต่อกรงหรือทำกับดัก จับหนู เขาเลือกที่จะใช้แมวมาจัดการหนู
      วิธีนี้ทุ่นแรง ทุ่นเวลา แต่ปัญหาที่ตามมาคือต้องหานมมาเลี้ยงแมว
      การ หาวัวมาเลี้ยงแก้ปัญหาที่ว่าได้ แต่ภาระที่ตามมาคือต้องเกี่ยวหญ้าให้ วัว
      การจ้างคนมาเกี่ยวหญ้าทำให้เขาไม่เหนื่อยและมีเวลา บำเพ็ญพรตได้มากขึ้น
      แต่ปัญหาที่ตามมาคือต้องหาเงินมา จ่ายคนงาน
      ชายผู้นี้แก้ปัญหาดังกล่าวด้วยการแต่งงานกับ คนงานเสียเลย
      แต่เขาก็ต้องแลกด้วยการละทิ้งชีวิตนัก บวช
      ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพียงเพราะเขาเลือกใช้วิธีที่ คิดว่าสะดวกสบายที่สุดในการรักษาเสื้อ!

      ความสะดวกสบายนั้นไม่เคยได้มาเปล่า ๆ ฟรี ๆ
      มันมักจะ พ่วงเอาปัญหาหรือภาระอย่างใดอย่างหนึ่งตามมาด้วยเสมอ
      รถยนต์อาจทำให้ไปไหนมาไหนได้สะดวก แต่ก็ทำให้ต้องทำงานหนัก ขึ้น
      เพื่อหาเงินมาผ่อนรถ (รวม ทั้งซื้อน้ำมันที่แพงขึ้นเรื่อย ๆ)
      และทำให้มีเรื่อง หนักอกหนักใจมากขึ้น จะไปไหนก็คอยเป็นห่วงรถ
      จะเข้า เมืองก็หาที่จอดรถได้ยาก ชาวบ้านหลายคนพอออกรถแล้วนอนหลับได้ยาก ขึ้น
      เพราะกังวลว่างวดหน้าจะหาเงินจากที่ไหนมา จ่าย

      เงินเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ชีวิต สะดวกสบายมากขึ้น
      แต่บ่อยครั้งความสะดวกสบายดัง กล่าว
      ก็ทำให้ชีวิตหันเหเบี่ยงเบนทีละเล็กละ น้อย
      กว่าจะรู้ตัวก็ไปคนละทิศละทาง แล้ว

      มีคนจำนวนไม่น้อยที่คิดว่าเมื่อรวยแล้ว ชีวิตจะมีความสุข
      เพราะมีความสะดวกสบาย ทุกอย่าง
      แต่พอรวยเข้าจริง ๆ ชีวิตกลับทุกข์ยิ่งกว่า ตอนที่ยังไม่รวยด้วยซ้ำ
      เหมือนกับคนที่ตั้งเป้าหมายไป เชียงใหม่ แต่กลับพบว่าตัวเองอยู่ที่ปัตตานี
      ความร่ำ รวยทำให้เขาสะดวกสบายมากขึ้นก็จริง
      แต่จิตใจกลับมี เรื่องกังวลหม่นหมองมากขึ้น ไหนจะเป็นห่วงทรัพย์สมบัติ
      ไหนจะกลุ้มใจที่เจอแต่คนที่หมายจะเอาประโยชน์จาก ตน

      มีร้อยก็ทุกข์ร้อย มีล้านก็ทุกข์ ล้าน
      ตรงนี้พระพุทธองค์ได้เคยตรัสสอนนางวิสาขา ว่า
      "
      ผู้มีสิ่งเป็นที่รัก ๑๐๐ ก็มีทุกข์ ๑๐๐....ผู้ไม่ มีสิ่งเป็นที่รัก ก็ไม่มีทุกข์"
      . . .

      "
      ไม่ มีใครในโลกนี้ที่ได้ ๒๐ ล้านบาทมาเปล่า ๆ ฟรี ๆ
      ได้ อย่าง ก็ต้องเสียอย่าง(หรือหลายอย่าง)

      ดังนั้น ก่อนที่อยากจะได้อะไร ถามตัวเองดูบ้างว่า
      มีอะไรบ้าง ที่อาจจะต้องเสียไปเพื่อแลกกับสิ่งนั้น
      และเราพร้อม หรือยังที่จะเสียสิ่งเหล่านั้นไป"

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×