คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่1.......
1……….
ม.ต้น
ทามกลางบรรยากาศยามเย็นที่พลุกพล่านไปด้วยเด็กหญิงใส่เสื้อคอบัวผูกโบและเด็กชายขาสั้นสีน้ำตาล ต่างเดินเข้าเดินออกร้าน ‘เจ้ไอครีม’ มักเป็นเรื่องปกติทุกวันอยู่แล้ว เนื่องด้วยร้านตั้งอยู่ใกล้โรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่ง ในยามเลิกเรียนเช่นเวลานี้จำมีเหล่าวัยเด็กสาวเด็กหนุ่มเข้ามาใช้บริการไม่ขาดสาย
ตริ๊ง ตริ๊ง
เสียงโมบายหน้าร้านดังขึ้นเบาเป็นระยะทุกครั้งที่มีลูกค้าเดินเข้าเดินออก เป็นสันญาณแจ้งเตือนเหล่าผู้ให้บริการที่ดี ว่า เฮ้!ลูกค้ามาแล้ว (ไม่ใช่ละ) ทั้งๆที่ตอนฉันมาใช้บริการร้านนี้ในช่วงแรกๆที่มาเข้าเรียนใหม่ๆ เคยถาม ‘เจ้ครีม’ เหมือนกันว่าไม่รำคาญหรือไง ไม่ว่าใครจะเข้าจะออกก็มีเสียง ตริ๊งๆต่องๆอยู่นั้น เลยได้คำตอบเด็ดกลับมาว่า
‘ จะได้ตื่นตัวไว้ไง เวลาใครจะมายกเค้าเจ้ เจ้จะได้ยิงหัวมันกระจุย’ แกพูดโดยที่หน้านี่แบบว่าไม่มีอะไรจริงจังไปกว่านี้แล้วอะ พร้อมกับยกปืนในมือขึ้นโชว์ด้วยนะ แต่ประทานโทษ ปืนยิงแก๊สคะ แล้วสักพักแกก็บอกว่าล้อเล่นแล้วหัวเราะคนเดียวฮ่าฮ่า แต่ฉันนี้แป๊กสนิท ตั้งแต้เกิดมาไม่เคยเห็นใครเล่นมุขได้แป๊กขนาดนี้มาก่อน แต่นานๆเข้าฉันกลับไม่นึกรำคาญออกจะให้อารมณ์แนวๆสบายๆเย็นๆเป็นธรรมชาติซะงั้น ซึ่งฉันคิดว่ามันคงเป็นเพราะความเคยชินละนะ
แต่ถึงเจ้าของร้านจะรั่วยังไงร้านนี้ก็มีลูกค้ามาใช้บริการไม่ขาดสาย เนื่องด้วยเค้กและเครื่องดื่มของที่นี่โดยเฉพราะ ‘สตอเบอร์รี่สมูทตี้โยเกอร์ต’(ของโปรดฉัน)อร่อยไม่แพ้ ของดังๆตามห้างเลยแถมยังราคาย่อมเยาพอให้เด็กที่ไม่มีรายได้อย่างฉันสามารถซื้อกินได้ แต่ที่เด็ดสุดคงจะเป็นที่บรรยากาศของร้าน
ด้านหน้าร้านจะมีโต๊ะเก้าอี้ตัวเล็กๆน่ารักให้นั้งแบบโอเฟ่นแอร์หากใครสนใจจะรับวิตามินดีในยามเย็นก็สามารถนั้งได้ ภายในร้านส่วนหน้าร้านจะกรุหระจกใสทั้งแถบ ให้มองบรรยากาศพรุกพร่านยามเย็น ตกแต่งด้วยสไตล์ที่….เออ! จะว่ายังไงดีละ เป็นบางมุมดีไหม เพราะบางมุมนี่โทนทีหวานจ้าโรแมนติกหยดย้อย เหมะสำหรับคู่รักมาเดทกัน บางมุมก็เป็นมุมเบาๆสบายๆสำหรับผู้ใหญ่ที่มาพักผ่อน หากใครมีฟุตบอลในสายเลือดก็มีมุมให้นั้งเมือนกัน หรือจะออกแนวแฟนซีหน่อยๆเจ้ครีมก็จัดให้ได้
เอาเป็นว่าเจ้แกจัดมั่วตามนิสัยแกแหละ แต่มันกลับลงตัวและเป็นจุดสนใจของลูกค้ามาก ทำให้มีเหล่าขาสั้นผู้โบว์เป็นลูกค้าประจำไม่ขาดสาย ซึ่งนั้นก็รวมฉันด้วย
น่าแปลกใช่ไหมละว่าร้านดี(?)แบบนี้ตั้งอยู่ได้ยังไง และเจ้แกอยู่ได้จนไม่ขาดทุนต้องปิดกิจการไปก่อนหรอ ข้อนี้ฉันก็สงสัย และเมื่อสงสัยเราก็ต้องถามตามประสานักเรียนที่ดีหรือสอเสือใส่เกือกก็ไม่รู้ ฮ่า….
‘ถ้าเจ้ไม่ขายแล้วจะมีใครขายให้หนู…’ เอิ่ม เจ้แกว่าไม่มีใครต้อนรับลูดค้าอย่างเราปะวะ
‘เอาจริงๆมันก็เป็นความสุขของเจ้ละนะที่ได้เห็นช่วงชีวิตนี้ของวัยหนูๆนะ การมาโรงเรียนมีเพื่อนเรียนเพื่อนเล่นเพื่อนที่คอยให้คำปรึกษาที่พ่อแม่ไม่สามารถให้ได้นะมันดีนะ ใช่ว่าหนูๆจะได้อยู่มัธยมศึกษาไปเรื่อยๆซะเมื่อไหร่ หนึ่งปีมีหนึ่งครั้งนะจ๊ะขอบอก เพราะงั้นก็เก็บช่วงเวลาดีๆไว้ไปนานๆละ ส่วนเรื่องเจ็งไม่เจ็ง….แค่หนูๆมาเป็นลูกค้าเจ้ตล๊อดๆเจ้ก็ไม่เจ็งแล้วจริงไหม ว่าแล้วก็สั่งเค้กเพิ่มดีกว่าเนอะเราจะได้อยู่คู่กันไปนานๆ’
แล้วเจ้แกก็จบประโยคคำพูดด้วยรอยยิ้มพิฆาตพร้อมหักคอพวกฉันซื้อเค้กคนละชิ้น ส่วนไอ้ความหมายแฝงในคำพูกแกนะ ต้อนนั้นฉันไม่ค่อยเข้าใจหรอก ก็อย่างว่าฉันยังเด็กอะใสๆเกิน(?)
ตริ๊ง ตริ๊ง
อาฮ่า คราวนี้ฉันไม่สนใจเสียงโมบายหน้าร้านไม่ได้แล้ว เพราะอะไรนะหรอ ก็เพราะ ‘เป้าหมาย’ ของฉันมาแล้วนะสิ
อ่า ฉันยังตกหล่นข้อมูลส่วนตัวไปสินะ ฉันนางสาว(พึ่งได้มาเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ใช้ให้คุ้มหน่อย)ตามิฬา เคล้าเครือ เรียนฉันว่า ตานี เพราะงั้นใครจะด่าฉันเป็นผีตานีเชิญจ้า ด่ามาโลด ฉันไม่แคร์สื่อ ว่าแต่คนด่าไปทำหนังหน้าให้ได้ครึ่งของผีตานีอย่างฉันละกัน หึๆ ฉันยอมรับไม่อ้อมค้อมว่าฉัน สวย (แว๊บ หลบเปลือกทุเรียน) เอาจริงๆก็ฉันสวยนะแหละ แต่ชีวิตนี้ฉันอุทิตให้สาวก ‘วาย’ นะเออ ไม่รู้เป็นไงเห็นผู้ชายรักกันแล้วมันฟิ๊นฟิน ฮิฮะ ฮิฮะ! (เสียงหัวเราะแห่งความชั่วร้าย)
นอกเรื่องเยอะละมาที่ประเด็นเด็ดของเราดีกว่า
เด็กหนุ่มสองคนที่เดินเข้ามาตกอยู่ในสายตาดั่งเรดาร์ของฉันกับนังเชอร์รี่เบท(ความจริงมันชื่อพิเชษฐ์แต่บังคับให้เพื่อนพ้องน้องพี่เรียกเชอร์รี่เบท ซึ่งชื่อที่มันให้เรียกแม่งยาวกว่าชื่อจริงมันอีก) ที่แสกนกลิ่นไอความวายตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้วมาในร้าน
เป้าหมายของเรานั้นชื่อ ‘ เท่’ ซึ่งมันก็ทำตัวเท่สมกับชื่อเจ้าตัวนั้นแหละ เรียนมัธยมปีที่สามตอนต้นเหมือนกันแต่คนละห้อง หน้าตาดีกีฬาเด่นเรียนใช้ได้ก็ไม่เป็นเรื่องแปลกที่เจ้าตัวจะป๊อบในหมู่นักเรียนหญิง และยิ่งยัย ‘อุ้ม’ นางเพื่อนซี้หญิงแท้หนึ่งเดียวของฉันด้วยแล้ว เรียกว่ามันตกหลุมรักตั้งแต่พบหน้าวันประฐมนิเทศชั้นม.1 ยันจะจบชั้นม.สามในอีกไม่กี่อาทิตย์หน้านี่แล้วก็ว่าได้ มันตามกรี๊ดติดขอบสนามทุกนัดที่เท่ลงแข่งฟุตบอล พร้อมกับก๊วนแฟนคลับ นักเรียนหญิงอีกหลายคน
และความรักของมันคงแน่นอกเกินจะทนไหวไอ้อุ้มมันจึงบอกกับฉันว่าจะไปสารภาพรักกับเท่(แม่เจ้า!) งานงอกแล้วไง
มันคงจะไม่เกิดเหตุอันไดขึ้น ถ้าหากเรดาร์ของฉันและนังเชอร์รี่เบทจะไม่ส่งสัญญาณ ปิ๊บ ปิ๊บ ขึ้นมาพร้อมกัน ด้วยความที่ใครๆก็รู้ใช่ปะ ว่าฉันนะ เจ้าแม่ขาวาย ส่วนนังเพื่อนรักเชอร์รี่เบทนะ…เอิ่ม ก็รู้ๆกันอยู่นะรับสัญญาณได้พร้อมกันมันคงมิธรรมดาใช่ปะ ตอนแรกก็กะไม่บอกมันหรอกแต่พอมาวันนี้มันเอาจริงคงไม่บอกไม่ได้และ ด้วยความรักเพื่อนจึงเกิดการท้าพิสูจน์นี้ขึ้น เป็นเหตุให้สามหน่อ(?) มานั่งหลบมุมอยู่เช่นนี้แล
“ท่าเดิน…..โคตรเท่ ผ่าน”
“เสื้อผ้า…..อืม ไม่เนียบจนเกินไป ชื้นเหงื่อตอนเตะบอลนิดๆชวนเซ็กซี่ ผ่าน”
“ท่ากิน…..นิ้วไม่กรีด จีบไม่เป็น ผ่าน”
“คำพูด….”ไอ้อุ้มมันก้มๆเงยๆแอบสังเกตพฤติกรรมหนุ่มในใจมันแล้วขีดฆ่าตามหัวข้อ ‘จับแอ๊บ’ ที่ฉันกับนังเชอร์รี่รีดหัวข้อไว้ให้ สีหน้าแช่มชื่นขึ้นตามลำดับที่หัวข้อถูกขีดฆ่าไปเรื่อยๆต่างจากก่อนหน้านี้ที่ฉันบอกมันว่าเรดาร์วายฉันกะดิก สุดท้ายมันก็เงยหน้ามายิ้มเยอะฉันกับนังเชอร์รี่ “โคตรสุภาพน่ารัก อันนี้ฉันพิสูจน์มากับตัวเองแล้ว หมดข้อกังขาของพวกแกปะ เท่อะแมนร้อยๆยะ”
ฉันกับนังเชอร์รี่หันมาสบตากันปุบแล้วหันกับไปมองโต๊ะเป้าหมายใหม่
“เออ ผ่านหมด แต่แกลืมดูไรไปปะ”
“ดูอะไรของแกวะ” ไอ้อุ้มทำหน้างงๆ มองฉันทีมองโต๊ะเท่ที แล้วก็ทำหน้าประมาณฉันไม่เก็ตอะ
“รี่….”
“รี่เร้อ อะไรของแก เชอร์รี่เบทยะ”ฉันพูดไม่ทันจบก็โดนนังพิเชษฐ์เชอร์รี่เบทขัดขึ้นมาก่อนฐานที่หดชื่อมันเหลือคำเดียว ก็ชื่อมันยาวอะขี้เกียจเรียก(คนเขียนขี้เกียจพิมพ์ด้วยละ 555)
“เออ เหมือนกันแหละ ชี้ทางสว่างให้มันหน่อยดิ”
“ชิชะ นังตานี……..ส่วนแกไอ้อุ้ม เบิกเนตรแกดูซะว่าเขามากับใคร หุ่นบางร่างน้อยแบบนั้น โอโมปานขัดสารฟอกขาวมา หน้าใสเนียนกิ๊กปากบางแดงระเรืองยิ่งกว่าชะนีอย่างหล่อน แต่ประทานโทษหาใช่ชะนีไม่เป็นหนุ่มน้อยน่าเจี๊ยยะ แล้วดูโซนที่เขานั่งเถอะแกเอ๊ยยยย โลกนี้สีชมพูมีแต่เรา……..นั๊น นั้นๆป้อนเค้กกันอะแก๊รรรรร”
ภาพเด็กหนุ่มสองคนคนหนึ่งผิวเข้มหน่อยจากการเล่นกีฬากลางแจ้งใบหน้าคมที่มองดูก็รู้ว่าหากโตขึ้นมาจะต้องหล่อเฟอร์แน่ๆ กับอีกคนที่ คงจะเป็นประมาณหล่อน่ารักละมั้ง ผิวขาวๆปากแดงระเรืองนั่งหน้ามุ้ยมองอีกคนที่แย่งช้อนกินเค้กไปเพื่อพยายามป้อนเจ้าตัวอย่างไม่ค่อยพอใจ แต่ก็ยอมอ้าปากให้ป้อน ส่วนคนป้อนก็หัวเราะเสียงดังเมื่อได้ป้อนสมใจ บวกกับสภาพโต๊ะ เก้ออี้ เอกเซสเซอร์รี่รอบๆตัว
อ่า……แบบว่าฟีโรโมนวายฟุ้งกระจายค๊า พวกเขาดูหวานชื้นรื้นจิตใจมากมายอะ รวมทั้งจิตใจฉันด้วยอะนะ อย่างที่ว่าไว้ไง เห็นผู้ชายรักกันแล้วมันฟิ๊นฟิน
“ฉันนับถือเขานะแก พามานั่งร้านแบบนี้แสดงว่าเขาไม่กลัวที่จะต้องปิดบังใคร ฮ้า ฉันโคตรปลื้มผู้ชายแบบนี้อะแก” จากไอ้อุ้มที่ชอบเท่นักหนา ตอนนี้เปลี่ยนมาที่ฉันแล้วค้า ฮ่าฮ่า ฟินจริงไรจริง
ส่วนไอ้อุ้มเพื่อนรักนะหรือ…..สตั้นส์ไปสิบวิตั้งแต่ประโยคแรกของนังรี่ละ ก่อนจะปล่อยโฮวิ่งออกจากร้านไป ทิ้งให้ฉันกับนังรี่หันมามองหน้ากันอย่างปลงๆ และต้องหารค่าเค้กให้ไอ้อุ้มไปตามระเบียบ ไม่รู้มันล้างแค้นที่พวกฉันทำให้มันใจสลายหรือเปล่า ความรักตลอกสามปีของมันจึงจบลงด้วยประการฉะนี้แล
ม.ปลาย
กรี๊ดดดดดด กรี๊ดกกกกกก
ตุม ตุมตุม โป๊งโป๊งชึ่ง ตุมตุมโป๊งโป๊งชึ่ง
‘พี่ที กรี๊ด พี่เตย์ กรี๊ด พี่ทีพี่เตย์กรี๊ดกรี๊ด’
อ่า ไม่ต้องสงสัยเลยคะว่าต้อนนี้เราอยู่ที่ไหน นอกจากข้างสนามบาสเก็ตบอลที่กำลังมีการแข่งขันระหว่างโรงเรียนเพื่อคัดเลือกทีมที่จะเข้าไปชิงถ้วยระดับภูมิภาคต่อไป
เหล่านักกีฬาที่ลงแข่งในสนามคือรุ่นพี่ชั้นม.5และม.6 แสตนเชียร์ทั้งสองฝั่งจึงเต็มไปด้วยเหล่ารุ่นน้องชั้มม.4ของทั้งสองโรงเรียน ที่แห่แหนกันมาให้กำลังใจนักกีฬาอย่างเนืองแน่น ทำให้บรรยากาศครึกครื้นสนุกสนาน? เพราะเหมือนว่ากีฬาจะไม่ดงไม่ดูกันแล้ว เอามันส์ในอารมณ์เมิงเชียร์ข่มมากุเชียร์ขู่กลับ น่าหวันว่ากองเชียร์จะยกพวกตีกันเอง (ฮ่าๆๆ)
ถามถึงฉันกับนังรี่นะหรือ
คุณเทยน้อยทนถึกและบึกบึนอย่างมันก็โน่น สวมวิกเอลโฟเป็นสีๆ แต่สะสีขอบอกเจ็บมาก สามชุดหมีสีรุ้งยืนโปกธงประจำไรงเรียนอยู่จ้า หน้าตาหูเหอ ขอบอกใครมาตามหนี้มันงานนี้รับรองไม่มีทางเจอมันแน่ ใครจะจำมันได้ จัดหนักจัดเต็มขนาดนัน
ส่วนฉันนะหรอ เห็นนังรี่มันไปเป็นตัวตลกเชียร์ทีมแบบนั้นคงนึกภาพฉันใส่ชุดเชียร์ สวยเริดใช่ไหมล๊า ประทานโทษคะผิดถนัด
ฉันอยู่ในชุด….เอิ่ม ม.ต้นที่เพิ่งโล๊ทิ้งเมื่อไม่ถึงปีตอนขึ้นม.ปลาย หน้าตานี้อย่างเฟิ้งค๊า จัดเต็มไม่แพ้นังรี่เพราะมันเป็นคนจัดให้เอง(U_U) สวยๆอย่างฉันทำไมไม่ไปเป็นหรีดนะหรอ ฉันชอบให้ผู้ชายรักกันไงเลยไม่อยากโชว์หนังหน้าตัวเอง ฮุฮุฮุ เอาจริงๆก็เพราะนังรี่แหละ
‘ฉันไม่สวย แกก็ห้ามสวย’ มันว่างั้น ด้วยประกาศิตของคุณเพื่อนรัก ฉันจึงกลายมาเป็นนังเฟิ้งเจ็ดซอยก็ไม่ปาน
เรื่องอายเอยนะหรอ ฮุฮุฮุ คอนกรีตเจ็ดชั้นจะสู้หน้าฉันได้รึเปล่าเถอะ เพราะงั้นมีกี่ท่า ท่ายากท่าง่ายท่าฟิชเจอริ่งฉันกับนังรี่จัดเต็มจ้า
ฮุเร่ฮุเร่ฮาฮา ฮุร่าฮุร่าเฮ่เฮ่ ส่ายนมส่ายใข่
‘กรี๊ด พี่ทีเท่ พี่เตย์หล่อ สู้ตายสู้ตายสู้ๆ กรี๊ดดดดดดดด’ ถ้าฉันเป็นสองพี่ท่านที่มีรายนามนี้คงขวัญบินตั้งแต่ได้ยินเสียงกรี๊ดแล้วละ ไม่ข่งไม่แข่งมันละกีฬา
เมื่อมีฉันกับนังรี่คงขาดอีกหนึ่งหน่อไม่ได้……แต้แด…..ไอ้อุ้มนั้นเอง และเสียงเชียร์เมื่อกี้ก็มีมันรวมอยู่ในนั้นด้วย เออ….ไม่ใช่แค่รวมจ้า มันคว้าโทรโข่งนำเชียร์บรรดา ‘ติ่ง’ เองเล๊ย!
ด้วยความที่โรงเรียนของพวกเราเป็นโรงเรียนใหญ่ จึงมีตั้งแต่ชั้นมัธยมต้นถึงมัธยมปลายรวมกัน หลังจากจบม.ต้นฉันกับสองเพื่อนรักก็ต่อม.ปลายที่นี่เลยก๊วนสามแซบจึงคงอยู่มิสลายโต๊ แล้วมันก็จะมีใช่ปะ พวกรุ่นพี่ที่ป๊อบๆอะ ประมาณหน้าตาดีกีฬาเด่นเน้นกิจกรรมอะไรเทืองนี้ เขาก็จะมี ติ่ง เนื้อที่งอกออกมาโดยที่บางทีเจ้าตัวก็ไม่รู้เรื่อง คอยตามเชียร์ตามกรี๊ดอัพเดตทุกกิจกรรมที่ทำ
หลังจากไอ้อุ้มมันอกหัก? จากเท่ได้ แค่อาทิตย์เดียว(ได้ข่าวแกชอบเขามาสามปีตัดใจง่ายจริงวุ้ย) มันก็มานั่งเวิ่นเว้อให้ฟังหลังจากที่ไปดูพวกรุ่นพี่เขาซ้อมบาสกัน
‘ ฮ้า หล่อจริง ฮู้ หล่อจัง นี่ฉันเอาตาหามีแววไปซ่อนไว้ที่ไหนตั้งสามปีนะ ถึงไม่เคยพานพบประสบเจอพ่อเทพบุตรเช่นนี้ ซิกแพกเป็นลอนกล้ามนิดๆน่าขยำย่ำยี อู้ คิดแล้วลายไหล’
‘ก็เอาไปมองไอ้เท่ไง’
‘อ้ายยย นังรี่’ แล้วมันก็วิ่งไล่นังรี่รอบโต๊ะโทษฐานที่ทำฝันมันสลายกลางคันไดยการจี้แผลเก่า และแล้วมันก็ไปเป็นส่วนหนึ่งของติ่งพี่เขาอย่างเป็นทางการ อาเมน
“ไงแก เส้นเสียงสึกแล้วมั้ง”
ฉันเอ่ยทักไอ้อุ้ม เมื่อนักกีฬาขอเวลานอก กองเชียร์ฉันอย่างพวกฉันก็ของเวลาพักเหมือนกัน พอเดินมาถึงที่วางขวดน้ำก็เห็นไอ้อุ้มมันนั่งอยู่ก่อนแล้วฉนกับนังรี่เลยเข้าไปนั่งขนาบมัน
“ถ้าเพื่อพี่ทีพี่เตย์ ฉันย๊อมมมม” พร้อมกับคำว่ายอมมันก็บิดตัวไปมา นังรี่มันคงหมั่นใส้เลยดับฝันมันซะเลย
“ฉันว่าแกอย่างเพ้อไปเลยดีกว่าวะ”
“อะไรของแกรี่” และก็ได้ผลทันควัน ไอ้อุ้มมันหันขวับส่งสายตาจิกกัดนังรี่ทันที
“แกก็ถามตานีมันดูดิ ใช่ปะแก” นังเชอร์รี่เบทมันไม่ยอมตอบไอ้อุ้มแต่โยนกลองมาให้ฉันแทน พร้อมสายตาประมาณว่าเรามันคนภาษาเดียวกัน
“อะ อะไรตานี” ไอ้อุ้มทำหน้าหวาดๆใส่ฉัน ฉันว่ามันคงขยาดฉันกับนังรี่ไม่น้อยละเรื่องเท่อะ
“แกดูนะ” ฉันพูดพร้อมกับจับหน้ามันหันไปทางพ่อเทพบุตรของมัน “นั้น ส่งผ้าส่งน้ำนวดให้กัน”
“กะ ก็ธรรมด๊า เพื่อนทั่วไปก็ทำแบบนี้กันทั้งมนั้น” เสียงสั่นๆในตอนแรกและแอบสูงในตอนท้าย
“ใช้ เพื่อนทั่วไปก็ทำกัน แต่ทีนี้เรดาร์ฉันมันกะดิกไงแก” ฉันทำตาวิบวับใส่ไอ้อุ้มให้มันจิตตกเล็กน้อยถึงปลานกลาง ฮุฮุ ฉันชั่วยอมรับ
“ระ เรดาร์แกเจ๊งงงง”
“พิสูจน์ปะละ……ได้เวลาแกออกโรงนังรี่ หึหึ” ฉันกับนังรี่หัวเราะหึๆอย่างชอบใจ ส่วนไอ้อุ้นหน้าซีดเป็นไก่ต้มค้างปีเรียบร้อยโรงเรียนตานีเชอร์รี่เบท เพราะคำว่า พิสูจน์ของฉัน
และแล้วการแข่งขันในครึ่งแรกก็จบลง เหล่านักกีฬาที่ลงสนามก็ทยอยกลับไปนั่งพักให้น้ำให้ท่ายังฝั่งของตัวเอง บางคนก็ยืดแข้งยืดขา เบาๆเพื่อคลายกล้ามเนื้อ บางคนก็ฟังคำแนะนำจากโค้ชผู้ควบคุมอยู่
“เฮ้ย!เชี่ยไรวะ” เสียงอุทานดังมาจากพี่เตย์หนึ่งในพ่อเทพบุตรของไอ้อุ้ม ที่หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาแล้วไม่ได้แค่ผ้าเช็ดหน้าอย่างเดียว ดันได้งูปลอก ที่นังรี่มันแอบเนียนเอาไปซ่อนไว้ใต้ผ้าติดมือมาด้วย
“ฮ่าๆๆ เอาแล้วไงเมิง ไปแอบเสยถัวดำใครแล้วไม่ยอมรับ จนเขามาแก้แค้นป่าววะ” พี่ทีที่ยืนอยู่ใกล้ๆเดินหัวเราะฮ่าๆเข้ามาพร้อมกับเก็บงูปลอมขึ้นมาล้อพี่เตย์ด้วย
“เชี่ยที! วอนโดนกูเตะมึง เอางูห่านี่ไปไกลๆเลย เชี่ย” พี่เตย์หัวฟัดหัวเหวี่ยงเดินไปอีกทางหลังจากด่าพี่ทีแล้ว ส่วนคนโดนด่านะยืนหัวเราะฮ่าๆเป็นคนบ้าอยู่ที่เดิม
ส่วนคนสังเกตการณ์ที่ดอดหนีเชียร์ลงมาดูใกล้ๆก็ได้ยินได้เห็นเหตุการณ์ ทุกอย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋ อันได้แก ฉัน นังรี่ ไอ้อุ้มที่ไม่กงไม่กลับไปรวมกลุ่มกับติ่งมันละหลังจากที่ได้ยินฉันกับนังรี่บอกว่าจะพิสูจน์
“เป็นไงแก พี่เตย์โคตรแมน พี่ทีโคตรกวนไม่มีทางเป็นเด็ดๆ”
“ยังไอ้อุ้ม สงครามยังไม่จบอย่าพึ่งนับศพทหาร หึหึ” แล้วสีหน้าที่แช่มชื่นขึ้นของไอ้อุ้มก็ซีดสลดปานผักโดนน้ำร้อนลวกทันไดที่ได้ยินคำพูดฉัน
หลังจากจบการแข่งขันที่ปรากฏว่าเทพีแห่งชัยชนะยืนอยู่ข้างโรงเรียนฉัน ทำให้ผ่านเข้ารอบต่อไปอย่างสวยงาม เหล่านักกีฬาและกองเชียร์ก็ต่างพากันแยกย้ายสลายตัว
ฉันกับนังสองเพื่อนรักแอบตามพี่ทีและพี่เตย์มาเงียบๆ พอปลอดคน(แลดูแกจะมาปล้นเขาอะ) ฉันก็เป็นหัวขบวนเดินนำเข้าไปหาพี่ทั้งสองทันที
“พี่ทีคะ หนูของงูปลอมคืนด้วยคะ” และไม่พูดพร่ำทำเพลงฉันก็เอ่ยปากของูจากพี่ทีทันที หลังจากที่แอบส่องเห็นว่าพี่แกเป็นคนเก็บไป
พี่แกก็ดีแสนดี ควานมือลงไปในกระเป๋าหยิบงูมาส่งคืนให้ฉันยิ้มๆ พร้อมกับหันไปเรียกพี่เตย์
“เฮ้ย เตย์โจทย์มึงปรากฏตัวแล้ววะ เจ้าของงูมึง” แล้วพี่แกก็หัวเราะฮ่าๆ
ส่วนฉันนะหรอ ยืนยิ้มพิมพ์ใจรับงูจากมือพี่แกแล้วส่งคืนนังรี่แบบชิลๆ ไม่มีกงไม่มีกลัวที่เอ่ยปากแสดงความเป็นเจ้าของอิงูปลอกนี่(ความจริงของนังรี่มัน มันติดของเล่นชิ้นนี้มันว่าเป็นเครื่องรางนำโชค ซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้าย)
ที่ฉันไม่กลัวพี่ท่านทั้งสองนะหรือ ยังไงดีละฉันว่ามันใช่อะ แล้วพี่แกก็ดูใจดีด้วย ถึงพี่เตย์จะดูดุๆไปนิดก็เถอะ แต่พี่เขาก็น่ารักดีอะ(ผู้ชายที่ฉันคิดว่าน่ารักมักจะมีฟีโรโมนวายคุคุคุ)
“พี่เป็นเกย์ปะคะ” คำถามทะลุกลางปล้องของฉันทำเอาแอบเห็นไอ้อุ้มทำท่าจะเข้ามาล่าตัวฉันออกไป แต่โดนนังรี่ล็อกตัวไว้ก่อน ส่วนคนถูกถามนะหรอ พี่ทีแกยืนยิ้มตาพราวระยับมองตาฉันนิ้งๆ(คนอะไรยิ้มได้ตลอดศก)ก่อนบอกคำตอบ
“พี่ไม่ได้เป็นเกย์น้อง”
“แต่พี่กับพี่เตย์ดูแคร์กันแปลกๆนะคะ”ฉันยังไม่ลดละในข้อสงสัย ไม่ใช่ว่าฉันอยากสอเสือใส่เกือกมากมายหรอกนะ แต่ฉันเป็นประเภทที่ข้องใจต้องถามให้กระจ่างไม่งั้นมันอึดอัด(หรอ)
“ฮ่าๆๆ” คราวนี้พี่ทีหัวเราะลั่น หันไปเหล่มองพี่เตย์ที่ทำหน้าแปลกๆพิกล แล้วกลับมาตอบฉันแบบจริงจัง “พี่ไม่ได้เป็นเกย์น้อง…..แต่พี่แค่รักมันและมันก็เป็นเมียพี่”พอจบคำตอบพี่ทีเท่านั้นละ
พลั่ก!
โครม!
กรี๊ดดดดด!
อ่าเรามาบรรยายเป็นซ๊อตกันดีกว่า พอพี่ทีตอบแบบนั้นปุ๊บบาทาเบอร์สี่สิบสองของพี่เตย์ก็ลอยมาประทับที่แผ่นหลังทันที(ยังอุส่ารู้เบอร์ร้องเท้าเขาอีกแนะ)ทำให้พี่ทีเซเซดๆๆล้มโครม ส่วนซาวแอฟเฟคที่ตามหลังมานะหรือจะเป็นของใคร ถ้าไม่ใช่เหล่าชะนีน้อยสามหน่ออย่างพวกฉัน สองสียงคือฉันกับนังรี่กรี๊ดด้วยความสมใจ ส่วนไอ้อุ้มกรี๊ดร้องด้วยใจสลายเมื่อเทพบุตรได้กันเอง มันคงเฮอร์ตอย่างแรง
หลังจากกรีดร้องเสร็จแล้วฉันกับนังสองเพื่อนซี้ผู้หยังรู้ความจริง? ก็เดินเข้าไปช่วยแซะพี่แกขึ้นมาจากพื้นคอนกรีต ท่าทางจะจุกมิใช่น้อยตรีนพี่เตย์น้อยซะเมื่อไหร่แถมเมื่อกี้ก็ถีบเต็มแรงแบบไม่มีกักเลยด้วย ถ้าพี่ทีสะโพกเคลื่อนนี่ฉันไม่แปลกใจเลย ส่วนคนทำนะหรือเดินหน้าแดงนำลิ้วไปไกลแล้ว ทิ้งซากสามีไว้ให้พวกฉันแซะ
“ไอดอลหนูเลยพี่ โคตรเจ๋งอะหนูขอสมัครเป็นติ่งพี่เลย” ฉันพูดกับพี่ทีด้วยใจเคารพยิ่ง นับถือพี่แกจากใจจริงเลย
“ฮ่าๆๆ อย่าเลยน้อง พี่ยังไม่อยากมีเนื้องอก เอาเป็นว่าเป็นรุ่นน้องซี้ปึกของพวกพี่ก็แล้วกัน” พี่แกยังมีหน้ามาหัวเราะฮ่าๆอีก ทั้งที่พึ่งโดนตรีนพี่เตย์มาแท้ๆ นี่ถ้าไม่รักกันจริงพี่ทีคงลุกขึ้นมาจระเข้ฟาดหางก้านคอพี่เตย์ไปแล้วไม่มานั่งหัวเราะแบบนี้หรอก แต่นี่ดูท่าแล้วน่าจะได้ก้านคอกัดซะมากกว่า ฮ่าฮิ้ว!(แลดูคลับคล้ายเป็นขี้เมานะเออ)
ผลสรุปความคลั่งไคลของไอ้อุ้มครั้งนี้นะหรอ…..มันก็คลั่งพี่ๆต่อไป แต่เป็นแบบพี่น้องนะมีแข่งนัดไหนมันตามเชียร์ตามกรี๊ดตามเก็บทุกแมตช์ แน่นอนว่ามันต้องลากพวกฉันไปด้วย ซึ่งพวกฉันก็ไม่ปฎิเสธเพราะพี่ทีบอกว่าพวกฉันเป็นรุ่นน้องซี้ปึกไง พี่ๆเขาเทคแคร์โคตรดีมากอะ โดยเฉพราะพี่เตย์ที่เห็นดุๆแต่โคตรใจดีขอบอก(แต่โหดเฉพราะกะพี่ทีฮ่าๆ)เป็นพี่ทีซะอีกที่ชอบแกล้งพวกเราแรงๆในบางครั้ง ฉันจึงเข้าใจว่าทำไมพี่เตย์โหดกับพี่ที
และการที่พวกเราสนิทกะพี่ทีพี่เตย์มันก็ทำให้เราสนิทกับพี่ๆคนอื่นไปด้วย ฮึฮึ ใครมันกล้ามาหาเรื่องพวกฉันในรุ่นนั้นนะรับรอง มีหนาวในกันบ้างละฮุฮุ
มหาวิทยาลัย
“ไอ้รี่ๆๆๆๆๆๆ ตานีๆๆๆๆๆๆ” ง่า เสียงแปดหลอดที่คุ้นเคยแบบนี้ไม่ต้องหันไปดูก็รู้ได้ว่าเป็นไอ้อุ้ม(อีกแล้ว)นั้นเอง
หลังจากที่เราจบจากมัธยมปลายก็มาถึงทางแยกที่เชื่อว่าหลายๆคนต้องเคยเดินผ่าน เพื่อเลือกเส้นทางในความฝันในชีวิตวันข้างหน้าของทุกคน
ไม่เว้นแม้แต่สามเกลออย่างพวกเราที่จะทำตัวติดกันไร้สาระไปวันๆเหมือนเด็กมัธยมอีกแล้ว ไอ้อุ้มที่ดูเหมือนมันจะไร้สาระแบนั้นแต่ดูเหมือนความคิดของมันจะไม่ไร้สาระไปตามพฤติกรรมที่มันแสดงออก เพราะมันบอกกับพวกฉันว่า
‘ฉันจะไปเป็นแม่พิมพ์ของชาติ!’
ใช่แล้ว มันจึงเลือกเข้าเรียนคณะคุรุศาสตร์เอกประถมวัยด้วยนะเออ ซึ่งมันทำให้ฉันคิดถึงเยาวชนของชาติที่มีไอ้อุ้มเป็นแม่พิมพ์ เอิ่ม! เมื่อมันมีความตั้งใจดีเราก็ละไว้ในฐานที่เข้าใจละกันนะ
เส้นทางของฉันกับนังเชอร์รี่เบทไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไหร่ เพราะเราเลือกเข้าเรียนในคณะบริหารธุรกิจเหมือนกัน แต่แยกวิชาเอกเท่านั้น ฉันมาทางการตลาดส่วนนังรี่มันเรียนการจัดการเพื่อที่จะกลับไปดูแลกิจการของที่บ้าน มันเคยบอกฉันกับไอ้อุ้มไว้ว่า
‘ป๊ามีฉันเป็นลูกชายคนเดียว ถึงฉันจะอยากเป็นลูกสาวมากกว่าก็เถอะแต่ฉันก็ต้องกลับไปดูแลป๊ากะม๊ายามแก่อะแก แต่พูดก็พูดเถอะถ้าป๊าฉันเล่นท่ายากกว่านี้นะฉันคงเกิดมาสาวสะพรั่งกว่านี้อะแก’ นังรี่ใส่อารมณ์อย่างแรงตอนที่พูดเรื่องท่ายากท่าง่ายของป๊ามัน จนประโยคที่เหมือนจะดูดีตอนแรกออกทะเลไปไกล แต่ก็ถือว่ามันตั้งใจดีละนะ
เหตุผลของฉันก็คล้ายๆกับนังรี่นะแหละ เห็นอย่างนี้ฉันก็เป็นคุณหนูใหญ่แห่งสวน ‘ชื่นจิตมนัส’ เชียวนะ ที่บ้านฉันทำสวนกล้วยเป็นหลัก แล้วก็มีพวกผักผลไม้บางชนิดผสมด้วยอะนะ ซึ่งกล้วยที่ได้เราก็จัดส่งทั่วประเทศจ้า แล้วแต่ออเดอร์แต่ละที่นะ ตอนนี้ฉันก็ยังไม่ค่อยรู้เรื่องกับพ่อหรอก เพราะตอนนี้พ่อยังเป็นหัวเรือใหญ่ของไร่อยู่ละนะ
แต่เอวบางร่างน้อยหน้าสวยผิวผ่องอย่างฉันจะให้ไปทำสวนปลูกกล้วยขุดเผือกขุดมันนะหรอ ไม่มีทางซะละ! ฉันจึงเรียนการตลาดเพื่อช่วยส่งกล้วยไทยไปกล้วยโลก? ถึงจะดูเหมือนฉันเหยียบขี้ไก่ไม่แตกแต่ฉันก็มีความตั้งใจดี จริงๆนะ(= =) และนี่ก็เป็นเหตุให้พวกเราสามเกลอจบลงที่นั่งม้าหินอ่อนหน้าตึกคณะบริหารธุรกิจแถมพ่วงนังว่าที่แม่พิมพ์ของชาติอย่างไอ้อุ้มมาด้วยอีกคน
ว่าแต่พักนี้ไอ้อุ้มมันมาเร่ร่อนรอบๆตัวพวกฉันบ่อยถึงบ่อยมากอะนะ ชนิดที่ว่าแทบหายใจรดต้นคอ เลิกชั่วโมงเมื่อไหร่เป็นได้เห็นมันหน้าตึกคณะทุกที ดุจดั่งสต๊อกเกอร์ก็ไม่ปาน คณะมันไม่มีเรียนว่างมากขนาดนี้เลยหรอวะ
“แกรู้จักโฟร์วิลที่เป็นเดือนคณะแกปะ” ไอ้อุ้มมันถามลอยๆโดยไม่ระบุตัวบุคคลที่ว่าแกนั้นเป็นใคร แต่สายตามันนี่จี้ฉันกับนังรี่สุดๆ อ่านโค้ดลับจากสายตาตามประสาเพื่อนซี้ได้ว่า ‘แกทั้งสองคนใดคนหนึ่งต้องตอบฉันมาบัดนาว’
“แล้วแกถามถึงมันทำไม” นังรี่เป็นคนโยนคำถามถามทางกับไปที่ไอ้อุ้มก่อน ส่วนผลตอบรับนะหรือ
พลุบ!
ไอ้อุ้มมันกระโดดเด้งมากอดแขนฉันหมับพร้อมส่งสายตาแป้วแหวมาให้ฉันทันที มันทำให้ฉันต้องลอบหันไปสบตากับนังรี่ด้วยรู้สึกเหมือนว่ากำลังจะมีงานงอก
“ตานี เขามาจีบแกจริงปะ”
‘เขา’ที่ไอ้อุ้มมันเอ่ยถึงก็นายโฟร์วิล หนุ่มหน้าหล่อคมเข้ม ผิวสีแทนบอดี้ฮอต ที่มาจากภาคอิสานของประเทศ ซึ่งตอนนี้กำลังเป็นขวัญใจของรุ่นพี่รุ่นน้องทั้งหญิงแท้หญิงทียมไปทั่วมหาวิทยาลัย จนคว้าตำแหน่งเดือนคณะ จากการประกาดที่ผ่านมาอย่างสดๆร้อน และนี่คงเป็นเป้าหมายของไอ้อุ้มที่มันมาวนเวียนเร่รอนอยู่หน้าตึกคณะฉันทุกวันปานผีไม่มีศาลเยี่ยงนี้
“เปล่า เพื่อนกัน แกไปเอาข่าวนี้มาจากไหนเนี่ย” ฉันลอกเลียนแบบดาราเวลาตอบนักข่าวมาทั้งดุ้น ก่อนจะย้อยถามมันนิ่มๆและเริ่มเข้าใจ จุด วัตถุ และเป้าประสงค์ของมันแล้ว
“อ่าว! ก็คนเขาลือกันให้แซดทั่วมหา’ลัยว่า โฟร์วิลมาจีบคนในกลุ่มแก แล้ว….ถ้าไม่จีบแก….เขา…จีบใคร” ยิ่งพูดเสียงไอ้อุ้มก็ยิ่งเบาลงเรื่อยๆ คงเพราะระลึกได้มั้ง ว่าพวกเราพึ่งเข้าปีหนึ่งเป็นเฟรชชี่น้องใหม่อยู่จะรู้จักใครมากมาย และกลุ่มที่ฉันคบอยู่ทุกวันนี้นะ นอกจากฉันที่เป็นผู้หญิงก็มีนังรี่และอีกคนที่บอบบางตัวเล็กตาโตแก้มน่ารักแก้มใสปานก้นเด็กทารกอีกคนมันชื่อ ‘ปิ๊กอัพ’ แล้วมันก็หาได้เป็นชะนีแค่อย่างไดไม่
“เฮ้อ! ไอ้อุ้มเอ้ย นั้นมันมากันโน้นแล้วแกอยากเคลียร์ปะ ฉันจะพิสูจน์ให้” นังรี่มันไม่อยากตอกย่ำไอ้อุ้มเลยแม้แต่นิดเดียวจริงๆนะ หลังจากมันพูดว่าจะพิสูจน์ก็หันไปหา โฟร์วิลกับปิ๊กอัพที่เดินมาถึงพร้อมกับทรุดตัวลงนั้งทันที
ดูเหมือนไอ้อุ้มมันจะมีปฎิกิริยากับคำว่าพิสูจน์ที่ออกมาจากปากนังเชอร์รี่มาก เพราะมันสะดุ้งเหมือนมีใครเอาไฟมาลงก้น พยายามทำท่าเหมือนจะห้ามนังเชอร์รี่เบทแต่ไม่ทันการ
“วิล ช่วยไขข้อข้องใจให้คนแถวนี้หน่อยสิ ว่าแกจีบใครกันแน่”
โฟร์วิลทำท่างงนิดๆ เลิกคิ้วขึ้นเท่ๆซึ่งท่าไอ้อุ้มมันอยู่ในอาการปกติคงได้กรี๊ดสลบแน่น แต่ตอนมันอยู่ในอาการเกือบๆสตั๊นส์ไปแล้ว โฟร์วิลยิ้มนิดๆก่อนจะตอบคำถามที่เป็นเหมือนตัวตัดสินอาการของไอ้อุ้มว่าจะอยู่หรือไป
“ฉันจีบอัพนะ แล้วเมื่อกี้มันก็ตอบตกลงแล้วด้วย” ฮู้เร่ ปริศนาถูกไขกระจ่างแจ้งแล้วจ้า ว่าใครคือนางเอก?
ส่วนไอ้อุ้มนะหรอ แข็งค้างเป็นหินตั้งแต่เห็นรอยยิ้มของโฟร์วิลไปแล้วจ้า ก็นะมีวายตัวแม่และนังเชอร์รี่เบทอย่างพวกฉันเป็นเพื่อนมันก็คงได้รับดีเอ็นเอเราดาร์ไปบ้างละฟะ ถึงมันจะค่อยข้างรู้สึกตัวช้าไป…เอิ่ม ไม่นิดละก็เถอะ
“แก ฉันว่าความจริงไอ้อุ้มมันก็เรดาร์ดีเยี่ยมนะแก ชอบใครปุบแม่งโป๊ะแตกทุกราย” นังรี่มันแอบกระซิบฉันเป็นการส่วนตัวไม่ให้ไอ้อุ้มได้ยิน จะว่าไปก็จริงของมันนะ
แล้ววันนั้นไอ้อุ้มก็วิญญาณหลุดลอยเดินกลับตึกคณะมันดุจดั่งซอมบี้ก็ไม่ปาน อาเมน (U_U)
ปัจจุบัน
เสียงโมบายหน้าประตูร้านดังไม่ขาดสายในช่วงเวลาเลิกเรียนแบบนี้ นั้นแสดงให้เห็นว่าร้านไอครีมยังรักษาฐานลูกค้าได้อย่างเหนี่ยวแน่นคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ภาพเหล่าเด็กนักเรียนผูกโบว์ขาสั้นทำให้ฉันคิดถึงวันเวลาเก่าๆอย่างช่วยไม่ได้ แม้ว่ามันจะผ่านมาแล้วกว่าสิบปี หากภาพความทรงจำต่างๆไม่เคยจางไปจากใจฉันเลย
ยังจำได้ดีถึงคำพูดประโยคนั้นที่เจ้ครีมพูดกับฉัน ซึ่งในช่างเวลานั้นฉันไม่ค่อยเข้าใจหรอก แต่ ณ วันนี้ฉันเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งเลยทีเดียว และสัญญากับตัวเองว่าจะรักษามันไว้ให้ดีที่สุด
รวมถึงหญิงสาวตัวเล็กบอบบางเจ้าของความสูงร้อยหกสิบเมตร ที่ฉันกับนังรี่ชอบว่ามันเตี้ยตั้งแต่สมัยสิบปีที่แล้วจนวันนี้มันก็ยังไม่พัฒนาขึ้น เจ้าของดวงตากลมโตคิ้วบาง จมูกเป็นสั้นนิดๆรับกับปากรูปกระจับ บวกกับใบหน้านวลกระจ่างใสแต่ในเวลานี้หม่นหมองราวกับโดนราหูอมก็ไม่ปาน มองผ่านๆก็นึกว่ามันเป็นเด็กมัธยมได้เหมือนกัน ทั้งที่ความจริงเจ้าตัวเป็นถึง ‘คุณครูอุ้ม’ ของเด็กๆหลายคน
อ่า เห็นสีหน้าและบรรยากาศอึมครึมปานร่องความกดอากาศต่ำกำลังแรงก่อนพายุจะมารอบตัวมันแล้วทำให้ฉันไม่กล้าพูดอะไรออกไปตั้งแต่เข้ามานั่งในร้านได้สิบนาทีแล้ว เห็นสัณชาตญานในตัวฉันมันร้องเตือน ไอ้อุ้มมันเอาอีกแล้วครับท่าน ดุจดั่งเดจาวู งานนี้มันน่าจะหางานยักษ์มาให้ฉันอีกเป็นแน่!
ความคิดเห็น