ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรื่องวุ่นๆของคน&ปีศาจ

    ลำดับตอนที่ #2 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 31 พ.ค. 54


        
          แสงแดดยามบ่ายอ่อนลงไปมากแล้ว  แต่ต้นไม้ใหญ่น้อยที่อยู่รอบตัวฉันยังคงสงบเยือกเย็น 
    เสียงขับขานของนกใหญ่น้อยยังคงไพเราะอยู่เช่นเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลง  สายลมอ่อนๆพัดหอบเอากลิ่นดินกลิ่นหญ้ามาปะทะใบหน้าเบาๆทำให้เส้นผมสีนำตาลไหม้ที่ปล่อยยาวเคลียหลังปลิวบางๆตามสายลม
                   เฮ้อ! ฉันชอบบรรยากาศแบบนี้จริงๆ
                   พลัวะ!
                   "เฮ้ยยืนทำมิวสิกอะไรอยู่"
                   ฉันเซไปตามแรงผลัก(ตบ) ก่อนจะหันไปมองไอ้คนที่กล้าทำแบบนี้กับฉันซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากไอ้เพื่อนตัวดี  ไอ้เดซี่!
                  "ไอ้เด  แกทำฉันหมดอารมณ์เลยนะเว้ย"
                  "เออ   ฉันทำแกหมดอารมณ์  แต่แกทำคนทั้งคันรถเขาเสียเวลา"
                  ดูมันย้อนฉัน ไอ้เพื่อนไม่รักดี  
                  แต่พอฉันเหลือบไปดูรถทัวร์ก็มีคนยื่นหน้าออกมาดูเราอย่างเซ็งๆ ประมาณว่าถ้าฉันไม่รีบไปขึ้นรถภายใน 1 นาที มีเฮแน่
                  มาแนะนำตัวกันสักนิดนะคะ
                  ฉัน นันทิชาพึ่งจะอยู่ชั้นม.ปลายปีนี้ และก็ได้มาเข้าค่ายอาสาสมัครรักษาธรรมชาติที่เป็นกิจกรรมแรกในการเข้าเรียนที่นี่ ตัวฉันเองก็ชอบเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว ดังนั้นพอมีรุ่นพี่มาชวนฉันก็ตกปากรับคำทันที แต่จะให้มาคนเดียวมันก็กะไร จึงได้ลากนางสาวเดซี่เพื่อนรักเพื่อนเลิฟที่คบกันมาตังแต่เกิดมาด้วย ไอ้นี่มันหว่งกิน บอกจะเลี้ยงไอศกรีมหน่อยเดียวมันก็หอบผ้าหอบผ่อนตามฉันมาทันที
                  "เสด็จได้รึยังเพคะ"
                  เดซี่พูดพลางถอนสายบัว ได้อย่างน่าหมั่นไส้ที่สุด
                  "เออ!เขารอกันอยู่ก็ไม่บอกแต่แรก"
                  "แกมันก็น่าจะรู้ ว่าเขาจะกลับกันแล้ว  แกจะมายืนทำบ้าอะไรแถวนี้ ฉอดๆๆๆๆๆๆ"
                  พอมันพูดก็ใส่ฉันเป็นชุดเลย
                  "เออๆๆรู้แล้วน่า"
                   และฉันก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่เดินตามหลังมันไป
                  ปึก!
                  "โอ๊ย!"
                  ฉันยกมือขึ้นลูบหัวตัวเองเบาๆ  อะไรกันฟะ! ทำไมวันนี้มีแต่คนปะทุษร้ายหัวสวยๆของฉันจัง ถ้าความจำเสื่อมไปใครจะรับผิดชอบฟะ
                  ฉันคิดพลามก็มองหาสิ่งที่มาปะทุษร้ายฉัน  
                  อืม  เอะ! เจอแล้ว  หนังสือนี่ ใครบังอาจเอามาฟาดหัวฉันนะ  อย่าให้เจอตัวเชียว ฮืม!
                  แล้วฉันก็ก้มลงเก็บหนังสือขึ้นมาดู  มันเป็นหนังสือปกแข็งสีน้ำตาลเข้ม ที่หนาขนาดขว้างหัว....แตกได้  มันดูเป็นของที่เก่ามาก แต่สภาพยังใช้ได้ดีอยู่ 
                  อืม  เอาไปขายให้พวกนักสะสมของเก่าน่าจะได้หลายตังพอดู  
                  ขณะที่ฉันกำลังก้มๆเงยๆดูหนังสืออยู่นั้นไอ้เดก็เรียนมาอีกทีฉันเลยต้องละความสนใจจากมันเก็บใส่กระเป๋าแล้ววิ่งไปขึ้นรถ ก่อนที่ไอ้เดมันจะพ่นไฟใส่ฉันอีกรอบ  ส่วนหนังสือนี่นะหรอ ฮิฮิฮิ
    ถือซะว่าเป็นของแถมที่ฉันเจ็บตัวก็ละกันน้อ ฮิฮิฮิ...


    ณ มุมหนึ่งที่คนธรรมดาไม่อาจมองเห็นได้
         
                   " บ้าจริง!  พลาดจนได้ "
                   เสียงสถบด้ายความไม่พอใจดังขึ้นจากชายในชุดคลุม ก่อนจะค่อยๆกลืนหายไปกับความมืดที่โรยตัวลงปกคลุมผืนป่า




                     " เจ๊ชา!  มีของฝากเค้าไหม "
                     เสียงไอ้น้อง love ดังมาก่อนตัว เมื่อรถทัวร์จอดสนิทที่หน้าบ้านเท่านั้นยังไม่พอมันยังเข้ามาแย่งกระเป๋าไปถือจากมือฉันอีก
                      " ไงเจ๊  มีของฝากเค้าไหม "
                      มันทำหน้าระรื่นเข้ามาถามฉัน  ฉันเลยประเคนกำปั้นให้มันด้วยความรักอย่างสุดซึ้งจากพี่สาวคนนี้
                     " แกจะบ้ารึไง  ฉันไปเข้าค่ายอาสาสมัคร รักษาธรรมชาตินะ วันๆเห็นแต่ต้นไม้ ดิน ฟ้า จะไปมีของฝากให้แกได้ยังไง" 
                    ฉันแว้ดมันไป ปัญญาอ่อนจริงๆ (น้องใครวะ) ไอ้วัฒน์มันหยุดยืนอยู่ตรงปากประตูที่จะเข้าบ้านแล้วหันมามองฉัน
                    "สรุปไม่มีของฝาก"  ดูมัน ยังมีหน้ามาถามอีก
                    "ก็เออสิ! ฉันไม่ได้ไปฝรั่งเศส หรือ สวิสฯนี่จะได้มีของฝาก"
                   ไอ่วัฒน์ทำหน้าเซ็งๆ ก่อนวางกระเป๋าฉันทิ้งโครม แล้วหันมาบอกหน้าตาเฉยว่า
                    " ขอโทษนะเจ๊ ฉันติดธุระ เล่นเกมส์ยังไม่จบ "
                   แล้วมันก็วิ่งจูด หายเข้าไปในห้องนั่งเล่นทันที
                    " ไอ้วัฒน์ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"  ไอ้น้องบ้า!



                    " พอเถอะน่า ไอ้ชา  จ้องมันจนตาจะหลุดออกจากเบ้าอยู่แล้ว"
                    เสียงเฮียวินที่นั่งอ่านหนังสือพูดออกมาอย่างรำคาญที่ฉันเอาแต่นั่งจ้องไอ้วัฒน์อย่างเคืองๆ  โดยที่ไอ้น้องตัวดีไม่สนใจฉันสักนิด เอาแต่เล่นเกมส์  ฮืม! สักวันฉันจะแอบเอาเกมส์มันไปทิ้ง

                   อ้อ ลืมบอกไป ฉันมีพี่ชายอยู่คนหนึ่ง นั่นก็คือ เฮียวิน  นฤวิน  แก่กว่าฉัน 2 ปี  เฮียมีผมสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำ รับกับใบหน้าขาวสะอาดแต่คมเข้ม  มาดขรึมๆแบบผู้ใหญ่ก็ทำให้เป็นที่สะดุดตาของสาวๆได้ไม่ยาก ยังบวกความสูงกว่า 185 เซนติเมตรอีกจึงทำให้มีสาวๆมากรี๊ดกร๊าดได้ไม่หยุดไม่หยอน
                  ส่าวนอีตาน้องชาย นาย นนท์รวัฒน์  หรือก็คือไอ่วัฒน์นั่นเอง ก็อ่อนกว่าฉัน 1 ปี (มันถึงไม่ค่อยฟังฉันเท่าไร) มันมีผมสี ไม้มะฮอกนี กับสีผิวที่เข้มกว่าเฮียวินนิดหน่อยอย่างคนที่ออกกำลังกายดี(หรือมันไปตีกับใครเขามาก็ไม่รู้เหมือนกัน) รับกับใบหน้าที่ติดจะอารมณ์ดี ขี้เล่น บากกล่อนหน่องๆก็เป็นเหตุให้สาวๆอกหักไปหลายรายเหมือนกัน

                 นิสัยของเฮียวินกับไอ้วัฒน์ต่างกันลิบลับ แต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน นั่นคือ ความสูง ตอนนี้ไอ้วัฒน์ก็ปาไป 170 เซนติเมตรแล้ว ก็มีแต่ฉันนี่แหละที่สูง 165 ซ.ม เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะพยายามยืดเท่าไร กินนมเป็นโหลๆก็ไม่เปลียนแปลง  เฮ้อ! ชั่งไม่ยุติธรรมเอาชะเลย ทิ้งความเตี้ยเอาไว้ให้ฉัน
                 " เออ!  เฮีย ป๋ากะม่าจะกลับเมื่อไหร่อะ " เมื่อไอ้วัฒน์ไม่สนใจฉันเลยเปลี่ยนเรื่องไปถามเฮียวินแทน
                 " เห็นว่าเลื่อนกำหนดเดินทางนะ  ไม่มีกำหนด "
                 " อ่าว  งั้นป๋ากับม่าก็มาไม่ทันวันเกิดเค้าอะดิ "
                 " งั้นมั้ง " คำตอบของเฮียสั้นๆ แล้วก็ก้มหน้าอ่านหนังสือต่อ
                 โห่  ป๋ากะม่าก็งี้ทุกทีอะ
                  ฉันทำหน้ามุ่ย แล้วมองหนังสือมากมายที่อยู่ตรงหน้าเฮียวิน ซึ่งมีแต่ หนังสือ หนังสือ และหนังสือ เยอะแยะเต็มไปหมด
                  เอะ! หนังสือ จริงสิ หนังสือเล่มนั้น   พอคิดได้ฉันก็หันมาบอกกับเฮียวินทันที
                  " เฮีย เค้าไปนอนแล้วนะ " 
                  พูดจบฉันก็วิ่งขึ้นห้องทันที


    ที่ห้อง

               โครม!
                อะไรวะ! มันจะเปิดไม่ได้เลยรึไง ไอ้หนังสือบ้านี่ ฉันทั้งทุบทั้งตี แต่ไอ้ล๊อกบ้านี่ก็ไม่ยอมเปิดออดสักทีสุดท้ายมันก็ต้องลงไปนอนแอ๊งแมงที่พื้นแทนบนโต๊ะ
                " เจ๊!ระเบิดลงห้องเจ๊รึไง "
                เสียงไอ้วัตณ์ที่อยู่ห้องข้างๆตะโกนมาเพราะเสียงที่ฉันโยนหนังสือลงพื้นแต่ฉันก็ไม่ได้สนใจ  เกือบชั่วโมงแล้วที่ฉันพยายามเปิดล๊อกหนังสือ ตอนนี้ก็นั่งหอบอยู่บนเก้าอี้มองไอ้หนังสือเจ้าปัญหา
                มันจะเปิดไม่ได้เลยรึไงนะ  ฮึ! เอาไหม่ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น สู้ สู้ๆ สู้ๆเฮ้ย! เออ....ไม่ใช่นักสุ้พันธ์ข้ามเหนียว   ลองใหม่ละกัน
                แล้วฉันก้อเดิน ไปหยิบหนังสือเล่มนั้นขึ้นมาอีกที ครามนี้ฉันเอาไฟฉายอันเล็กๆส่องไปที่ล๊อกกุญแจดูทุกซอกทุกมุม และทันใดนั้นฉันก้อเจออะไรบางอย่าง
                อืม...อะไรหว่า
                ฉันใช้ไฟฉายจี้ไปที่ล๊อกทันที และใช้แว่นขยายส่องดู มันมีลักษณะเป็นตัวอักษรที่คุ้นๆแต่อ่านไม่ยักออก
                ไรอะ.....ตึ่นเต้นๆOoO
                 อืม....จะว่าไปมันดูเหมือนจะเป็นภาษาอักกฤษแฮะ...จะอ่านยังไงละเนี้ย?....เอะ!จริงสิ
                 พอคิดได้ดังนั้นฉันก้อรีบวิ่งไปหน้ากระจกแล้วใช้แว่นขยายส่องที่ตัวหนังสือที่อยู่บนตัวล๊อกแล้วส่องเข้าไปในกระจกอีกที  คราวนี้ฉันก้อสามารถอ่านอักษรปริศนาออกทันที
                 อืม....F...O.R ..EST   ......SA....C..RE....D
                 อืม.....อ่านว่าไงหว่า อย่าหาว่าฉันโง่เลยฉันแค่ไม่สันทัดภาษาต่างชาติแค่นั้นเอ๊งงงง
                 และด้วยควมาพยายามอันแรงกล้า(อยากรู้อยากเห็นนั้นแหละ)ฉัก้อสามารถอ่านมันออกจนได้ ฮู่เล!........
                 " ฟอเรสท์   เซเคร็ด "
                 และทันใดนั้นตัวล๊อกก้อหายไปกับตา
                 " เฮ้ย!"
                 ฉันตกใจจนทิ้งหนังสือลงกับพื้นดังโครม  พร้อมกับกระโดดหลบออกห่างเป็นเมตร  แล้วได้แต่มองหนังสือผีสิง(เปลี่ยนชื่อด้วยความหวาดกลัวสุดใจ) จ้องมองหนังสือที่ค่อยๆเปิดออกโดยที่ฉันไม่ได้แตะแม้แต่น้อย  นี่ฉันโดนผีหนังสือหลอกคาบ้านตัวเองหรอเนี่ย!..........
                  หมอกควันสีขาวค่อยๆแผ่ออกมาจากหนังสือเล่มนั้น ปกคลุมไปทั่วห้องของฉันจนแทบมองอะไรไม่เห็นแล้ว  และตรงที่ตรงหนังสือปีศาจนั้นอยู่(เริ่มมั่ว) ฉันมองเห็นร่างเงาของใครบางคนลางๆยิ่งฉันพยายามเพ่งมองเท่าไรก็กลับยิ่งมีหมอกมาบดบังมากขึ้นเท่านั้น อะไรฟ่ะไอ้หมอกนี่! แล้วฉันก็เห็นความเคลื่อนไหวของเงานั้นที่กำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้ฉันเรื่อยๆ  ก่อนสติสุดท้ายของฉันจะหลุดลอยไป








    .....................................................................................................
    เย้ๆ....ในที่สุดบทนำก็เสร็จสักที  หลังจากที่ดองมาแล้วสามชาติ
    ฝากช่วยคอมเม้นด้วยนะจร๊า.............

            
                     
                   

              
                    
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×