ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7 : OS&SF] This is 2JAE

    ลำดับตอนที่ #2 : SF : ต้นไม้ร้อยปี PART 2 [2JAE]

    • อัปเดตล่าสุด 19 เม.ย. 58


     








    [ SF ]  ต้นไม้ร้อยปี PART 2

    Pairing : Jaebum x Youngjae [2JAE]

    Author : Francez_




     

                คุณหมอครับเสียงของผู้ช่วยแพทย์ดังขึ้น ทำให้คนตัวสูงในชุดกราวน์ต้องเงยหน้าจากกองรายชื่อคนไข้ของหมู่บ้านแถบชานเมืองขึ้นมามองบุคคลที่เอ่ยเรียกเขา แจบอมขมวดคิ้วมุ่นพลางมองคนตรงข้ามอย่างสงสัย






                ครับ? คุณหมอหนุ่มรูปหล่อไฟแรงอย่าง อิม แจบอม ครางตอบรับคนตรงข้ามที่เรียกเขา






                ช่วงนี้คุณหมอหายไปไหนบ่อยๆหรอครับ คุณผู้ช่วยอย่าง มาร์ค ต้วน เลิกคิ้วถามคนตัวสูงอย่างสงสัย ส่วนแจบอมที่พอได้ยินคำถามนั้นเขาก็อดที่จะนึกไปถึงต้นเหตุของคำถามนั้นไม่ได้ บุคคลคนนั้นที่ทำให้เขาต้องไปหาทุกวี่วัน...






                ผมไปที่ต้นไม้ใหญ่ท้ายหมู่บ้านน่ะครับ คนตัวสูงตอบอีกคนพร้อมรอยยิ้มมุมปาก ส่วนเจ้าของคำถามได้แต่มองอีกคนอย่างงงๆ แต่ก็ไม่ได้ซักถามอะไรต่อ





    มาร์ค ต้วน หันไปให้ความสนใจกับงานที่เขาได้ทำค้างไว้ คนตัวสูงค่อยๆเช็คจำนวนยาต่างๆที่เขาสั่งไปว่าครบถ้วนดีหรือไม่






                ส่วนอิม แจบอมก็ได้แต่เหล่มองเพื่อนร่วมงานของตนที่ตั้งใจทำงานอย่างขยันขันแข็ง แจบอมเหยียดขาไปข้างหน้าพลางบิดตัวไปมาเพื่อลดความเมื่อล้าจากการที่เขาต้องนั่งเช็ครายชื่อผู้ป่วยของเขาเป็นเวลานาน เจ้าตัวค่อยๆบรรจงเก็บงานที่เขาทำเสร็จให้เข้าที่ตามเดิม





    ร่างสูงโปร่งหยัดตัวลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปที่ชั้นหนังสือไม่ใกล้ไม่ไกลจากโซฟาที่มาร์คนั่งอยู่มากนัก แจบอมไล่นิ้วอ่านชื่อของสันหนังสือแต่ละเล่มอย่างพินิจเพื่อหาหนังสือที่เขาถูกใจมานั่งอ่าน ก่อนที่เขาจะมาสะดุดกับชื่อหนังสือเล่มหนึ่ง แจบอมขมวดคิ้วมุ่น มันเหมือนมีอะไรบางอย่างที่ทำให้คนตัวสูงต้องหยิบหนังสือเล่มนั้นออกมาดู






                หน้าปกสีทึบที่ชวนให้คนมองรู้สึกหม่นหมอง กับตัวหนังสีแดงสดที่ดูน่าพิศวง มันสามารถทำให้ อิม แจบอม รู้สึกขนลุกขึ้นมาเสียดื้อๆ...






                วิญญาณ แจบอมพึมพำชื่อของหนังสือเล่มนั้นออกมาเบาๆ แต่ก็ทำให้คนที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวยาวได้ยิน มาร์คเงยหน้ามองคนตรงข้ามด้วยความสงสัยก่อนที่เขาจะเหลือบมองไปที่หนังสือในมือของเพื่อนร่วมงานของเขา






                อยู่ดีๆความคิดหนึ่งก็แวบเข้ามาในหัวของมาร์ค...






                คุณหมอเคยได้ยินชาวบ้านพูดเรื่องสิ่งลี้ลับมั้ยครับ มาร์คเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย ส่วนแจบอมที่ได้ยินดังนั้นก็นึกย้อนไปถึงเรื่องที่ชาวบ้านเคยคุยกันเมื่อตอนกลางวันที่มาตรวจกับเขา...






                ใช่เรื่องผีสางที่หาตัวตายตัวแทนรึเปล่าครับ ชายร่างโปร่งตอบคำถามอีกคนด้วยคำถาม แจบอมยืนพิงกับตู้หนังสือแล้วเงยหน้ามองอีกคน





    อ่าใช่ครับ ผมว่าคุณควรหาพระสักองค์มาติดตัวไว้นะครับ ช่วงนี้ผีสางนางไม้ยิ่งชุมๆกันอยู่ มาร์คพูดด้วยสีหน้าเครียดๆ มันคงไม่ดีแน่ถ้าจะให้คนในเมืองอย่าง อิมแจบอม มาเจออะไรอย่างนี้





    ไม่ใช่ว่ามาร์คกลัว เขาไม่เคยหวาดกลัวกับเรื่องแบบนี้ อาจจะเพราะว่าเขาอาศัยอยู่ในที่แห่งนี้มาตั้งแต่เกิด โตมากับประเพณีต่างๆของหมู่บ้านตั้งแต่เด็ก เรียนรู้และมีชีวิตอยู่กับสิ่งพวกนี้มานาน เขารู้...เขารู้ว่าเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้ มันสามารถเป็นไปได้เสมอ...





                ผมไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้สักเท่าไหร่ ฮ่าๆๆ แต่ไว้ผมจะลองหาพระมาติดตัวไว้ละกัน คุณจะได้สบายใจ คนตัวสูงพูดไปหัวเราะไป ส่วนตัวแล้วแจบอมไม่เคยเชื่อเรื่องอะไรแบบนี้อยู่แล้ว เขาคิดเสมอว่าสิ่งลี้ลับพวกนี้ไม่เคยมีจริง...






              เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถจับต้องได้






                เอ้อ คุณมาร์คครับ คุณหมอหนุ่มเอ่ยเรียกใครอีกคนที่นั่งอยู่บนโซฟา เจ้าของชื่อหันมาหาคนที่เรียกเขาอย่างสงสัย แจบอมเห็นดังนั้นเลยเอ่ยถามสิ่งที่เขาอยากรู้มานาน คุณพอจะรู้จักคนที่ชื่อยองแจบ้างมั้ยครับ






                ยองแจ? มาร์คพึมพำชื่อนั้นเบาๆ






                ครับ ชเวยองแจ คนตัวสูงย้ำชื่อของบุคคลนั้นอีกรอบ พลางมองหน้าคนตรงข้ามอย่างต้องการคำตอบ มาร์คกรอกตาไปมาเพื่อประมวลผลหาเจ้าของชื่อนั้นก่อนจะตัวจะหันมาตอบแจบอม






                ตั้งแต่ผมเกิดมาที่หมู่บ้านนี้ ผมยังไม่เคยเจอใครที่ชื่อ ชเว ยองแจ เลยนะครับ






                แจบอมขมวดคิ้วมุ่นในคำตอบของอีกคน จะเป็นไปได้ยังไง ในเมื่อคนที่เขาเจออยู่ทุกวันก็คือ ชเว ยองแจ นี่





    อืม...บางทียองแจที่เขารู้จักอาจจะอยู่หมู่บ้านข้างๆก็ได้...

                












     

                ท่านพี่ เด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักเอ่ยเรียกพี่ชายหน้าหวานของตนเบาๆ คนโดนเรียกหันไปมองน้องชายตัวเองพร้อมกับรอยยิ้มหวานประจำตัวของเขา






                ว่าไงแบมแบม ชเว ยองแจมองหน้าน้องชายตัวเองอย่างสงสัย ขาเรียวสวยค่อยๆก้าวเดินไปที่ปุยเมฆที่เขาเหยียบอยู่อย่างช้าๆ ก่อนที่เจ้าตัวจะมาหยุดยืนอยู่ที่ด้านหน้าของบุคคลที่ทั้งตัวมีแต่สีขาว ผ้าที่พันรอบๆตัวไปจนถึงลาดไหล่เล็กข้างหนึ่งบวกกับมงกุฏที่ทำจากดอกไม้สดมาประดับไว้อยู่บนศีรษะเล็ก ยิ่งทำให้คนตรงหน้ายองแจน่ามองยิ่งขึ้นไปอีก






                ท่านพี่ไม่ควรไปยุ่งกับมนุษย์คนนั้น แบมแบมเอ่ยเสียงเรียบพลางลอบถอนหายใจเบาๆ เมื่อสิ่งที่เขาได้รับกลับมาคือการที่คนเป็นพี่ยิ้มบางๆมาให้ก่อนที่ยองแจจะทอดมองไปรอบๆตัวของพวกเขา






                ยองแจมองไปรอบบริเวณไม่ได้สนใจน้องตัวเองต่อ เจ้าตัวกวาดตามองรอบบริเวณที่เขายืนอยู่ ที่กว้างๆไม่มีอะไรเลย นอกเสียจากกลุ่มเมฆสีขาวสวยที่พวกเขาใช้เป็นพื้นในการเดินหรือบางทีพวกเขาอาจจะเหาะเหินไปมา ยองแจหันกลับมามองใบหน้าน่ารักที่ยู่ปากเข้าหากันอย่างไม่พอใจ ยองแจหัวเราะเบาๆให้กับท่าทีของน้องชาย






                ไม่เป็นไรหรอกน่า






                ท่านพี่...ท่านก็รู้ว่าเทพอารักษ์อย่างเราไม่ควรที่จะไปยุ่งเกี่ยวกับมนุษย์พวกนั้น มันจะทำให้เราแปดเปื้อน พลังเทพของเราจะเสื่อมลง...






                ข้ารู้ เจ้าไม่ต้องกังวลไปหรอก ข้าไม่ได้ไปหามนุษย์คนนั้นทุกเวลาเสียหน่อย






                ข้ารู้ว่าท่านพี่คุมพลังได้ดี ข้ารู้ว่าท่านควรที่จะลงไปหรือขึ้นมาจากที่ตรงนั้นตอนไหน แต่ข้าแค่เป็นห่วง ข้ากลัวว่าถ้าท่านพี่จินยองรู้ว่าท่านลงไปพบปะกับมนุษย์เข้าท่านอาจจะ...






                อย่ากังวลไปสิน้องข้ายองแจส่ายหน้าเบาๆให้กับความขี้เป็นห่วงของน้อง มือบางเอื้อมไปจับเบาๆที่ปอยผมด้านหลังแล้วลูบเบาๆ ในขณะที่คนเป็นน้องก้มหน้านิ่งๆ






                กฏของพวกเราเหล่าเทพ ห้ามรักและมีความสัมพันธ์ใดๆกับมนุษย์เด็ดขาด แบมแบมขยับริมฝีปากพูดช้าๆด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง ทำให้ยองแจต้องชะงักไปกับประโยคของคนเป็นน้อง คนหน้าหวานลอบถอนหายใจเบาๆ ไม่ว่าจะกี่ครั้งที่เขานึกถึงกฏข้อนี้ของเหล่าเทพ หัวใจดวงน้อยที่มันไม่น่าจะมีของเขาถึงต้องกระตุกและต้องเต้นด้วยความเจ็บปวดเช่นนี้...






                ชเว ยองแจ ไม่เคยเข้าใจเลยจริงๆ






                อีกอย่างที่ท่านพี่ควรรู้...เด็กหนุ่มด้านหน้ายองแจพูดขึ้นมาอีกรอบ หน้าแล้งกำลังใกล้เข้ามา ฝนกำลังจะหยุดตก และพลังของพวกเราจะหายไปครึ่งหนึ่ง






                หัวใจดวงน้อยกระตุกขึ้นมาอีกคราเมื่อจบคำนั้นของคนเป็นน้อง ชเว ยองแจเม้มริมฝีปากบางเข้าหากันก่อนจะก้มหน้ามองไปที่ปลายเท้า






                เมื่อใดก็ตามที่สายฝนไม่โปรยปราย เมื่อครานั้นพลังของเราจะหายไปครึ่งชีวิต






                เสียงของพี่ชายที่พร่ำบอกเขาเสมอดังแวบเข้ามาในหัว ชเว ยองแจ หลับตาลงนิ่งๆ เขาพยายามสะกดกลั้นอารมณ์และความเจ็บปวดของเขาให้กลับลงไปอยู่ที่เดิม เขาไม่ควรจะรู้สึกเช่นนี้...






                เพราะฝนคือพลังของเหล่าเทพ มันคือสิ่งเดียวที่จะทำให้ยองแจลงไปบนโลกมนุษย์อย่างปลอดภัยได้

     

     














     

                แจบอมมองฝนที่กำลังกระหน่ำตกไม่หยุดหย่อนอยู่ในที่ที่เดิมที่เขามักจะมาในเวลานี้ คนตัวสูงเหยียดขายาวของตัวเองไปด้านหน้าก่อนที่เขาจะล้มตัวลงนอน แจบอมปิดเปลือกตาลงช้าๆก่อนที่เขาจะเข้าสู่ห้วงนิทราไป






                หลับไปได้สักพักเขาก็รู้สึกเหมือนมีอะไรมาอยู่ข้างๆใบหน้าคม แจบอมกระพริบตาปริบๆเพื่อปรับภาพด้านหน้าให้ชัดเจน คนตัวสูงลอบมองใบหน้าหวานใสที่อยู่ห่างจากใบหน้าคมของเขาไม่ถึงคืบ มือบางของยองแจไล่วนไปมาที่ใบหน้าของเขาเบาๆพร้อมกับที่คนตัวเล็กด้านหน้าส่งรอยยิ้มหวานมาให้






                พลันนาทีนั้นหัวใจของแจบอมก็เต้นกระหน่ำรัว ยิ่งกว่ามีใครสักคนมารัวกลองชุดใส่...






                เอ่อ คุณ... คนตัวสูงอ้ำๆอึ้งๆ อยู่ดีๆเขาก็ทำตัวไม่ถูกขึ้นมา






                หลับสบายมั้ย เด็กหนุ่มหน้าหวานเอ่ยถามอีกคนด้วยรอยยิ้ม






                ก็สบายดี เอ่อ ผมหลับไปนานมั้ย แจบอมเอ่ยถามคนตัวเล็ก ทำให้ยองแจต้องส่ายหน้าเบาๆเป็นคำตอบกลับไป






                อยู่ดีๆความเงียบก็เข้าปกคลุมคนทั้งสอง ต่างคนต่างอยู่ในความคิดของตัวเอง คนตัวสูงลอบมองใบหน้าหวานข้างตัวก่อนที่เขาจะขยับเข้าไปใกล้ๆ มือหนาเอื้อมไปวางบนพื้นที่อยู่ด้านหลังของคนตัวเล็กกว่า ยองแจหัวเราะเบาๆให้กับท่าทีของคนข้างตัวก่อนที่คนหน้าหวานจะเอาศีรษะกลมๆของตัวเองซบลงไปที่ไหล่แกร่ง ยองแจค่อยๆชันเข่าขึ้นมาบริเวณอกของตนก่อนที่เขาจะหลับตาลงนิ่งๆแล้วกอดเข่านั้นไว้






                เป็นอีกครั้งที่แจบอมต้องลอบมองใบหน้าหวานด้วยรอยยิ้ม






                ไม่รู้ว่ามันเริ่มตั้งแต่ตอนไหน เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาอยู่กับยองแจ เมื่อนั้นเขาจะต้องยิ้มให้กับคนข้างตัวตลอด...






                คุณยองแจครับ คนตัวสูงขยับริมฝีปากพูดเบาๆให้คนข้างกายได้ยิน ทำให้ยองแจต้องหันไปเอียงคอมองคนตัวสูงด้วยตาแป๋วๆ ผมคิดว่า...






                    “...






                ผมกำลังตกหลุมรักคุณ...






                แจบอมจ้องมองใบหน้าหวานสวยด้วยสายตาที่จริงจัง หัวใจคนตัวสูงเต้นระรัวอย่างบ้าคลั่งเขาเผลอกลั้นหายใจไปเสี้ยววินาที ก่อนที่เขาจะพูดคำนั้นออกไป แจบอมลอบมองยองแจอีกครั้ง ซึ่งคนข้างกายก็มีทีท่าไม่ต่างกัน ยองแจนิ่งงันทันทีเมื่อจบประโยคนั้น แต่แววตาของคนตัวเล็กกับทอประกายและวูบไหว ก่อนที่เจ้าตัวจะเผยรอยยิ้มกว้างออกมา ชเวยองแจก้มหน้าลงเพื่อบดบังความรู้สึกดีใจของเขาที่มันค่อยๆปะทุขึ้นมาเรื่อยๆ






                แจบอมเลิกคิ้วมองคนตัวเล็กอย่างสงสัยกับปฏิกิริยาที่เขาได้รับ ก้มหน้าแล้วยิ้มแบบนี้...นี่คือเขินหรือว่าอะไร...






                แล้วคุณล่ะ คิดเหมือนผมหรือเปล่า คนตัวสูงเอ่ยถามอีกรอบ ริมฝีปากหนาอยู่ห่างจากใบหูเล็กที่กำลังแดงระเรื่อไม่ถึงคืบเสียด้วยซ้ำ แจบอมยกมือข้างหนึ่งเกลี่ยเบาๆเข้าที่ปอยผมด้านข้างของคนตัวเล็ก พยายามจับเส้นผมส่วนเกินที่มันดูไม่เข้าทรงให้กับเข้าที่ตามเดิม ไล่นิ้วเรียวไล่วนไปมาเรื่อยๆจนถึงแก้มอูมที่กำลังขึ้นสี






                เหมือนกัน... ยองแจพยักหน้าขึ้นลงเบาๆพลางพูดเสียงแผ่ว แจบอมเผลอยิ้มกว้างออกมาอีกรอบ ความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัว อยู่ดีๆเขาก็อยากแกล้งคนตัวเล็กตรงหน้าขึ้นมาเสียดื้อๆ






                หืม ว่าไงนะครับชายร่างโปร่งโน้มตัวลงไปใกล้ๆคนตัวเล็ก ริมฝีปากหนาเฉียดผ่านแก้มอูบของอีกคนที่อยู่ใกล้ๆ จนในที่สุดริมฝีปากหยักของ อิม แจบอม ก็แนบเข้ากับข้างแก้มเนียนขาวของ ชเว ยองแจ






                ทำอะไรเนี่ยคนหน้าหวานยู่ปากอย่างไม่พอใจ ยองแจตวัดหางตามองคนตัวสูงอย่างเคืองๆ พลางปัดมือของอีกคนให้ห่างจากตัว แต่สิ่งที่คนตัวเล็กได้รับกลับมาคือการที่คนตัวสูงยื้อข้อมือเล็กของเขากลับไปไว้ข้างอก ชเวยองแจพยายามดิ้นให้หลุดออกจากการเกาะกุม แต่ก็ไม่เป็นผล






                ปล่อยได้แล้วน่า ยองแจพูดเสียงแข็ง เจ้าตัวตวัดสายตามองคนข้างตัวอีกครั้งก่อนที่จะออกแรงดึงข้อมือบางของตัวเองออกมา ไม่ว่าจะกี่ครั้งที่ยองแจพยายามจะดึงมือกลับคนตัวสูงก็ต้องตามมาดึงข้อมือของเขาไปทุกที






                ยองแจสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆพยายามรวบรวมแรงที่เขามีทั้งหมดให้ไปอยู่รวมกันที่ฝ่ามือบาง คนตัวเล็กออกแรงดันเข้าไปที่หน้าอกหนาของแจบอม ไม่รู้ว่าเพราะแรงที่ยองแจใช้มีมากเกินไปหรือว่าเป็นแจบอมที่ยังไม่ทันตั้งตัว มันสามารถทำให้ร่างทั้งร่างของอิมแจบอมล้มไปนอนราบกับเสื่อน้ำมันที่พวกเขานั่งอยู่ และด้วยความที่ข้อมือบางของเขายังไม่หลุดออกจากการเกาะกุมของคนตัวสูง เลยทำให้แรงดันที่ยองแจผลักไปตอนแรกกลายเป็นคนตัวเล็กเองที่ต้องล้มทับคนตัวสูงกว่า






                อุ่ย... ยองแจร้องออกมาเสียงแผ่ว มือบางยันเข้ากับเสื่อน้ำมันเพื่อพยุงตัวเองไม่ให้หน้าหวานของตัวเขาทิ่มลงไปโดนกับใบหน้าคมเข้มของคนตัวสูง






                แจบอมเงยหน้าขึ้นมองคนที่กำลังนอนคร่อมเขาอยู่ คนตัวสูงลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดๆ เมื่อเขาไล่สายตาไปทั่วใบหน้าหวานสวย ตาเรียวเล็กที่เวลายิ้มจะเป็นเส้นตรงๆ จมูกรั้นที่ตอนนี้ขึ้นสีแดงนิดๆ ดูเข้ากันดีกับเส้นผมสีอ่อนที่ล้อมกรอบใบหน้าหวาน แจบอมไล่มองคนด้านบนไปเรื่อยๆก่อนที่จะมาหยุดอยู่ตรงที่ริมฝีปากบางสีอมชมพู แจบอมเผลอกลืนน้ำลายลงคออีกครั้ง เมื่อริมฝีปากนั้นเผยอออกน้อยๆเหมือนกำลังเชิญชวนเขาให้เข้าไปลิ้มลองดูสักครั้ง






                แจบอมผงกหัวตัวเองขึ้นมากดจูบเบาๆบนริมฝีปากบางของยองแจ คนตัวเล็กหลับตาพริ้มเพื่อรอรับสัมผัสนั้นอย่างใจเย็น ริมฝีปากหนาค่อยๆไล้วนอยู่บนริมฝีปากสีสวยของอีกคนอย่างเนิ่นนาน ไม่มีการรุกร้ำ และไม่ได้เร่งรีบ พวกเขาปล่อยให้ความรู้สึกเป็นตัวขับเคลื่อนการกระทำต่างๆแทน






                คนตัวเล็กยกมือขึ้นลูบเบาๆที่ข้างแก้มของอีกคน เมื่อทั้งคู่ถอนริมฝีปากออกมาแล้ว แจบอมไม่ปล่อยให้อีกคนได้พักหายใจนานคนตัวสูงจัดการประกบจูบลงไปที่เดิมอีกครั้งและอีกครั้ง






                ซึ่งการกระทำดังกล่าวมันสามารถทำให้คนตัวเล็กลืมทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว เขาลืม...ว่าตัวเองอยู่ในสถานะที่ไม่ควรมากระทำเช่นนี้กับมนุษย์ตรงหน้า เขาลืมทุกอย่าง...แม้กระทั่งผลของการกระทำของเขาที่มันกำลังจะตามมาในภายหลัง

     














     

     

                แย่แล้ว แย่แน่ๆ แบมแบมพึมพำกับตัวเองเบาๆ มือเล็กยกขึ้นลูบที่เส้นผมแล้วไล่ลงมาตามใบหน้า คนตัวเล็กทอดมองไปด้านล่างกลุ่มเมฆ ปรากฏเป็นภาพของพี่ชายหน้าหวานกับมนุษย์คนหนึ่ง ถ้าท่านพี่จินยองรู้เข้าต้องแย่แน่ๆ ข้าจะทำเยี่ยงไรดี...






                ทำอะไรรึ เสียงทุ้มที่ดังขึ้นด้านหลังทำให้คนที่กำลังบ่นกับตัวเองต้องหันไปมองด้วยใบหน้าที่แสนตกใจ





                ท่านพี่...






                ว่าไง หืม? พี่ชายคนโตถามย้ำอีกครั้ง ยิ่งทำให้เทพอารักษ์พันธุ์ไม้อย่างแบมแบมลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ คนตัวเล็กได้แต่เหล่มองพี่ชายที่ขึ้นชื่อเรื่องการรักษากฏของเหล่าเทพอย่างไม่วางตา ระดับพลังเทพของจินยองสูงกว่าเขากับพี่รองอย่างยองแจมาก พี่คนโตสามารถทำอะไรก็ได้เพื่อรักษากฏของเทพไว้ให้คงอยู่ ไม่มีใครกล้าแหกกฏ






                เว้นก็แต่ท่านพี่ยองแจ...






                แล้วยองแจหายไปไหน เจ้าเห็นรึเปล่า






              ซวยแล้ว!!






                แบมแบมได้แต่คิดในใจ คนตัวเล็กรีบดึงผ้าม่านที่เปิดไว้ให้ปิดลง ผ้าม่านผืนนี้คือผ้าม่านที่กลั้นระหว่างโลกมนุษย์กับโลกที่พวกเขาอยู่ พวกเขาสามารถมองเห็นอะไรหลายๆอย่างได้จากตรงนี้






                รวมถึงภาพที่พี่ยองแจกำลังอยู่กับชายคนนั้น...






                จินยองมองคนเป็นน้องอย่างนึกสงสัย ตากลมโตที่กรอกไปมายิ่งเพิ่มความงุนงงของจินยองให้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวบวกกับที่แผ่นหลังบางของแบมแบมค่อยๆเคลื่อนตัวไปบังผ้าม่านนั่นไว้อีก






                เจ้ามีอะไรปิดบังข้ารึเปล่า






                เปล่า! ข้าไม่มี!”






                จินยองเลิกคิ้วอย่างสงสัยสัย ไม่มีแล้วจะขึ้นเสียงใส่เขาทำไมกัน






                ไม่มีก็ไม่มี แล้วนี่ยองแจไปไหน จินยองถามย้ำอีกครั้ง ก่อนที่เจ้าตัวจะยกมือขึ้นตบเข้าที่หน้าผากมนเบาๆ อย่าบอกนะ ว่าหนีลงไปเที่ยวเล่นที่โลกมนุษย์อีกแล้ว






                จินยองบ่นออกมาเบาๆ เขาชินเสียแล้วกับการที่น้องชายคนกลางของเขาชอบหายไปไหนต่อไหน ชเว ยองแจ ไม่ชอบอยู่ในกรอบ น้องชายของเขาชอบความเป็นอิสระ จินยองถอนหายใจออกมาเบาๆ โชคดีที่ว่ากฏของเหล่าเทพไม่ได้ห้ามเรื่องการลงไปบนโลกมนุษย์ มิเช่นนั้น เกรงว่าจินยองคงต้องทำโทษคนเป็นน้องแน่ๆ






                แล้วนั่นเจ้าจะบังม่านทำไม ถอยออกมาสิ ข้าจะเข้าไปดูว่าตอนนี้น้องของข้าทำอะไรอยู่






                ไม่ได้ๆ ท่านพี่จะดูไม่ได้!!” แบมแบมร้องเสียงหลง พยายามดันคนเป็นพี่ให้ออกห่างจากบริเวณนั้นโดยเร็ว ยื้อกันไปมาสักพักคนเป็นพี่ก็ทนไม่ไหว จินยองจัดการจับเข้าที่ข้อมือบาง ตาเรียวของจินยองเหลือบมองเข้าที่ข้อมือของแบมแบมสักพัก ก่อนที่มือน้อยๆของคนตัวเล็กจะปรากฏเป็นโซ่เหล็กที่มัดไว้อย่างหลวมๆ






                จินยองเปิดผ้าม่านสีครีมออก คนตัวสูงเพล่งมองสักพักเพื่อหาตำแหน่งของน้องชายตัวดี ก่อนที่เจ้าตัวจะเบิกตากว้างอย่างตกใจ เมื่อเขาเห็นคนเป็นน้องกำลังเอ่อ...จูบ กับมุนษย์





              ฮะ! ยองแจจูบกับมนุษย์งั้นหรอ!!






                ความรู้สึกของจินยองหลังจากที่เขาตกใจคือความโกรธ...จินยองไม่ได้โกรธที่น้องลงไปเที่ยวเล่นตามประสา แต่จินยองโกรธ โกรธที่น้องทำผิดกฏของพวกเรา ชายหนุ่มหลับตาลงแล้วพยายามตั้งสมาธิให้มั่นคง ฉับพลันนาทีนั้นร่างโปร่งของจินยองก็หายวับไปกับตา






                แย่แล้ว แบมแบมพูดเสียงสั่น เจ้าตัวเล็กจำไม่ได้เสียแล้วว่าวันนี้เขาพูดคำนี้ไปกี่ครั้ง...

     














     

     

                คุณแจบอมยองแจที่อยู่ในอ้อมกอดของแจบอมเงยหน้าถาม เขาลอบมองชายหนุ่มที่กำลังเหม่อมองไปด้านนอก เม็ดฝนที่กำลังซาลงบอกให้ยองแจรู้ว่าเวลาของเขาใกล้จะหมดเต็มที






                ครับ คนตัวสูงหันมาเลิกคิ้วถาม มือสากยกขึ้นลูบเบาๆที่กลุ่มผมนิ่ม






              แจบอมชอบเหลือเกิน เขาชอบเวลาที่มียองแจอยู่ข้างกาย...






                ถ้าเกิดวันหนึ่งผมหายไป... คนตัวเล็กเอ่ยเสียงแผ่ว ชเว ยองแจ กำลังคิดว่าเวลาที่เขาจะได้อยู่ใกล้ๆอีกคนกำลังจะหมดไป เขาควรจะกลับไปอยู่ในที่ของเขาได้แล้ว...






                คนตัวสูงเมื่อได้ฟังประโยคนั้นของยองแจก็ใช้นิ้วชี้ของตนแตะเข้าเบาๆที่กลีบปากสวย แจบอมส่ายหน้าเบาๆให้กับอีกคน อยู่ดีๆเขาก็รู้สึกหวิวๆที่ใจแปลกๆเมื่อคนตัวเล็กพูดเช่นนี้






                อย่าพูดอย่างนี้สิครับ






                คุณรู้มั้ยว่าทำไมผมถึงชอบฝน ยองแจเงยหน้ามองคนข้างกาย มือบางทั้งสองข้างยกขึ้นจับที่ใบหน้าคม แจบอมนั่งนิ่ง ปล่อยให้คนตัวเล็กได้พูดตามที่เจ้าตัวต้องการ เพราะฝนสามารถทำให้ผมลงมาพบกับคุณได้






                คนตัวสูงเลิกคิ้วมอง แจบอมไม่เข้าใจ






                คุณพูดอะไร





                ผมไม่เหมือนคุณ... ยองแจสูดลมหายใจเข้าปอด เขาเผลอกลั้นหายใจไปเสี้ยววิ พยายามรวบรวมคำพูดที่เขาตั้งใจจะบอกคนตรงหน้าผมไม่ใช่มนุษย์ ผมไม่เหมือนคุณ เราไม่เหมือนกัน เราแตกต่าง






                “…”





                ผม






                ชเว ยองแจ เสียงทุ้มดังขึ้นด้านหน้าของพวกเขาทั้งสอง ยองแจหันไปมองทำให้ตาเรียวเล็กเบิกกว้างด้วยความตกใจ ต่างจากแจบอมที่ขมวดคิ้วด้วยความงุนงง






                คนตรงหน้าเป็นใคร แล้วที่ยองแจพูดเมื่อกี๊หมายถึงอะไร






                ท่านพี่…” คนตัวเล็กพึมพำเสียงแผ่ว ยองแจมองคนเป็นพี่ด้วยความตกใจ ก่อนที่เจ้าตัวจะรีบออกมายืนอยู่ด้านหน้าของที่หลบฝนจำเป็น พอเห็นแบบนั้นแจบอมเลยรีบตามออกมาด้วย






                    “เจ้าคิดว่าเจ้ากำลังทำอะไรอยู่!!!” จินยองตวาดลั่น ตาเรียวเหลือบมองคนที่ยืนข้างกายของคนเป็นน้อง ก่อนที่มุมปากหยักจะยกยิ้มออกมาอย่างเหยียดๆ






                ข้า...






                    “เพราะมนุษย์ข้างกายเจ้าใช่มั้ย เจ้าถึงได้ทำผิดกฏของพวกเรา!!” จินยองตวัดสายตาไปมองคนตัวสูงข้างน้องชายอีกครั้ง ฉับพลันร่างทั้งร่างของแจบอมก็ทรุดลงกับพื้นหญ้า คนตัวสูงร้องออกมาเบาๆเมื่อความเจ็บแปลบบริเวณหน้าท้องเริ่มคลืบคลานเข้ามาทำให้เขารู้สึกเจ็บ ยองแจที่เห็นดังนั้นรีบทรุดตัวลงมาดู คนตัวเล็กจับเข้าที่ไหล่ของแจบอมด้วยความเป็นห่วง






                คุณไหวมั้ย คนตัวเล็กเอ่ยถามเสียงแผ่วมือบางยกขึ้นลูบไปมาที่ต้นแขนเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดที่แจบอมกำลังพบเจอ เป็นเพราะเขาแท้ๆ...






                ผมไหว... แจบอมตอบกลับ ชายร่างโปร่งพยายามหยัดตัวเองลุกขึ้นยืนในท่าเดิม แม้ว่าเรี่ยวแรงที่เขาเคยมีจะค่อยๆหาไปทีละน้อยก็ตาม






                จินยองกรอกตาไปมา มือเรียวสวยข้างขวายกขึ้นมากลางอากาศก่อนจะออกแรงสะบัดเบาๆ ทำให้ร่างทั้งร่างของแจบอมกระเด็นไปแถวพุ่มไม้ ยองแจเบิกตากว้างขาเรียวเล็กรีบก้าวเข้าไปดู แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อพี่ชายของตนดีดนิ้วเบาๆให้เกิดเสียงทำให้เถาวัลย์ค่อยๆผุดออกมาจากต้นหญ้าแล้วรัดเข้าที่ข้อเท้าของยองแจอย่างแน่นหนา





    คนตัวเล็กทรุดตัวลงนั่งพยายามแกะเถาวัลย์นั้นให้หลุดออกไป แม้ว่าเขาจะตั้งสมาธิให้แน่วแน่สักเพียงใดก็ไม่สามารถหลุดออกจากการเกาะกุมนี้ไปได้เลย






                พลังของเขาสู้ท่านพี่จินยองไม่ได้เลยสักนิด





                ยองแจเหลือบมองคนรักที่กำลังพยายามลุกขึ้นยืนแล้วเดินมาหาเขาอย่างยากลำบาก ยองแจมองอีกคนด้วยดวงตาที่กำลังมีน้ำใสๆคลออยู่ แจบอมค่อยๆเดินเข้ามาหายองแจอย่างช้าๆ ก้าวมาได้เพียงสามก้าวร่างทั้งร่างของเขาก็ทรุดลงกับพื้นทันที






                จินยองวาร์ปไปยืนคั่นสายตาของคนทั้งสองที่กำลังมองกันอย่างสื่อความหมาย ชายร่างโปร่งตวัดหางตามองยองแจด้วยสายตาที่จริงจัง ก่อนที่เจ้าตัวขยับริมฝีปากอย่างช้าๆให้ได้ยินกันเพียงแค่สองคน






                เจ้าก็รู้ ว่าข้าไม่มีทางทำอะไรเจ้า... จินยองยกมือขึ้นลูบที่ใบหน้าหวาน นิ้วเรียวเกลี่ยปอยผมที่เข้ามาบดบังดวงตาคู่สวยที่เริ่มมีน้ำตาซึมให้ออกไป ข้าทำร้ายเจ้าไม่ได้...






                อย่าทำอะไรคุณยองแจ แจบอมพูดออกมาเบาๆ เรียกสวยตาคมสวยของจินยองให้หันไปมองอีกครั้ง จินยองเพ่งมองไปที่แขนทั้งสองข้างของแจบอมก่อนที่จะค่อยๆมีไม้เลื้อยพันธุ์ต่างๆขึ้นมารัดเข้าที่ลำแขนของคนตัวสูง แจบอมร้องออกมาเสียงหลงเมื่อไม้เลื้อยพวกนั้นรัดแขนของจนเจ็บแปลบไปหมด จินยองตวัดหางตาไปมองที่ต้นไม้ร้อยปี ฉับพลันร่างทั้งร่างของแจบอมก็ลอยเคว้งขึ้นกลางอากาศไปปะทะกับต้นไม้สูงใหญ่ ก่อนที่ไม้เรื้อยพวกนั้นจะพันร่างของคนตัวสูงให้แนบไปกับลำต้นของต้นไม้ร้อยปี






                ข้าขอสั่งอย่างเด็ดขาด!! ห้ามเจ้าลงมาบนโลกมนุษย์ไม่ว่าเหตุใดก็ตาม!! และห้ามเจ้าลงมาพบกับชายผู้นี้!!”






                ข้า...ข้าทำไม่ได้ คนตัวเล็กพูดเสียงแผ่ว น้ำตาที่คลออยู่ที่ดวงตาเริ่มไหลลงมาอย่างช้าๆ ยองแจสูดน้ำมูกเข้าจมูก พยายามควบคุมเสียงตัวเองไม่ให้สั่น






                แต่เจ้าต้องทำ!!” จินยองตวาดขึ้นมาอีกครั้ง มือเรียวบีบเข้าที่ปลายคางของคนเป็นน้องเบาๆ เพื่อให้ยองแจเงยหน้ามาสบตากับเขา






                ท่านพี่ได้โปรดใจเย็น แบมแบมที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนจับเบาๆเข้าที่ข้อมือของจินยองแล้วเอ่ยปราม ตากลมโตจ้องมองพี่ชายอย่างอ้อนวอน จินยองเลยสะบัดมือออกจากใบหน้าหวานของยองแจ คนเป็นพี่ถอยออกมาจากแบมแบมที่ค่อยๆพยุงยองแจให้ลุกขึ้นยืน ก่อนที่เจ้าตัวจะพูดย้ำให้คนที่ทำผิดกฏฟังอีกครั้ง






                เจ้าห้ามลงมาที่นี่อีกเด็ดขาด!!”






                พอจบคำนั้น จินยองก็หันหลังเดินไปที่ต้นไม้ร้อยปี ชายร่างโปร่งใช้พลังของตัวเองให้ร่างแจบอมที่กำลังตรึงไว้กับต้นไม้สูงใหญ่ให้ลงมาคุกเข่าลงต่อหน้าเขา สภาพของคนตัวสูงแทบไม่เหลือสภาพเดิมด้วยซ้ำ ใบหน้าที่มีแต่รอยฟกช้ำที่เกิดจากการกระแทก แล้วไหนจะตามร่างกายมีรอยบาดแผลที่เกิดจาดหนามและอะไรต่างๆทิ่มแทง






                จินยองไม่ได้อยากทำให้มนุษย์ตรงหน้าต้องมีสภาพเช่นนี้ แต่เพราะว่าหน้าที่ เขาจำเป็นต้องทำ






                จินยองก้มหน้ามอง เช่นเดียวกับที่แจบอมก็เงยหน้ามองอีกคนด้วยความไม่เข้าใจ ก่อนที่ใบหน้าคมคายของแจบอมจะเหลือบมองยองแจที่กำลังร้องไห้ออกมาอย่างหนักหน่วงในอ้อมกอดของผู้ชายตัวเล็กคนหนึ่งยองแจเงยหน้ามามองเขา สายตาทั้งสองคู่สบตากันอย่างช้า คำพูดมากมายที่อยากจะบอกออกมาส่งผ่านกันตามสายตาของคนทั้งคู่






                ขอโทษ ยองแจขยับริมฝีปากพูดอย่างช้าๆโดยไม่มีเสียง สายตาของคนหน้าหวานเห็นน้ำใสๆไหลออกมาจากดวงตาคมอย่างช้าๆ ยองแจซบลงเข้ากับราดไหล่ของแบมแบมก่อนจะร้องไห้ออกมาอย่างบ้าคลั่ง






                เจ้าจงลืมเหตุการณ์ที่เคยกระทำกับยองแจทั้งหมด ลืมว่าน้องชายข้าเคยมีตัวตน ลืมเรื่องของพวกข้า ลืมสิ่งที่เจ้ากำลังพบเจอในวันนี้ เจ้าจงกลับไปใช้ชีวิตของเจ้าเช่นเดิม






                จินยองพูดออกมาอย่างเรียบนิ่ง พอจบคำนั้นร่างของแจบอมก็ฟุบลงไปนอนกับพื้นทันที สติสัมปะชัญญะที่เคยมีหายไปหมดอย่างกับร่างๆนี้ของแจบอมกำลังไร้วิญญาณอาศัยอยู่






                ขอโทษ ขอโทษ ขอโทษ...ฮึก ขอโทษ






                ยองแจพูดคำนั้นออกมาอย่างไม่หยุดยั้ง มือบางของแบมแบมลูบเข้าที่หลังของคนเป็นพี่เพื่อปลอบประโลม แม้จะไม่สามารถช่วยบรรเทาความทุกข์ที่ยองแจกำลังพบเจอได้เลยสักนิดก็ตาม






                สุดท้ายเรื่องทั้งหมดก็ต้องจบลงเช่นนี้...                      





    เพราะว่าเทพอารักษ์ต้นไม้ร้อยปีอย่าง ชเว ยองแจ ไม่มีทางที่จะอยู่ร่วมกันกับมนุษย์ธรรมดาๆอย่าง อิม แจบอม ได้











    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
    อูยยยย เราบอกแล้วว่าจะมั่วกับฟิคเรื่องนี้ไปด้วยกัน5555555555
    เรื่องนี้น่าจะจบประมาณตอนที่ 4 ฝากติดตามกันด้วยนะครับบ 
    แท็ก #ดอทจ ขอบคุณ



    mx -xine
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×