คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : SF : ต้นไม้ร้อยปี PART 1 [2JAE]
[ SF ] ต้นไม้ร้อยปี PART 1
Pairing : Jaebum x Youngjae [2JAE]
Author : Francez_
“ตกอะไรตอนนี้วะเนี้ย!!”
ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งสบถกับตัวเองเบาๆ สองขายาวรีบวิ่งเข้าไปหลบฝนใต้ต้นไม้ใหญ่ คนตัวสูงยกกระเป๋าข้างกายขึ้นมากอดไว้แนบอก ใบหน้าคมเข้มมีเส้นผมสีดำขลับที่เปียกชื้นล้อมกรอบใบหน้าอยู่ แต่ก็ไม่สามารถลดความหล่อเหลาที่เขามีให้น้อยลงได้เลย
ตาเรียวคมกระพริบตาปริบๆเพื่อสำรวจรอบบริเวณที่เขายืนอยู่ เจ้าตัวไล่มองตั้งแต่รั้วที่สูงประมาณเข่าเรียงกันล้อมรอบต้นไม้ใหญ่ที่เขาใช้เป็นที่หลบฝน หญ้าสีเขียวที่ปลูกไว้แทนพื้นซีเมนต์ดูเข้ากันอย่างดีกับดอกไม้ต้นเล็กๆที่มีขึ้นไม่มากนัก ตรงกลางของที่ๆเขายืนอยู่คือต้นไม้สูงใหญ่อายุน่าจะราวๆร้อยกว่าปีได้
ส่วนภายนอกรั้วปรากฏภาพสถานที่กว้างๆ มีต้นไม้ต้นใหญ่ต้นเล็กขึ้นสลับกันบ้างประปราย เป็นสถานที่ที่ห่างไกลจากตัวหมู่บ้านที่ อิม แจบอม อาศัยอยู่มากพอสมควร มันเลยเป็นสาเหตุของการที่ไม่ค่อยมีผู้คนสัญจรมาแถวนี้เลยแม้แต่คนเดียว
อิม แจบอม เงยหน้ามองสายฝนที่ตกลงมาอย่างไม่หยุดยั้ง ต้นไม้สูงใหญ่แทบจะไม่สามารถป้องกันเขาออกจากฝนที่กระหน่ำตกได้เลย เมื่อสายฝนทั้งเม็ดใหญ่และเล็กกระเด็นเข้ามาโดนตัวของเขาอย่างไม่หยุดหย่อน เจ้าตัวพยายามกระเถิบเข้าไปใกล้กับที่หลบฝนจำเป็นให้มากขึ้นกว่าเดิม ถึงเขาจะเข้าไปได้อีกเพียงแค่นิดเดียวก็เถอะ...
ถ้าจะถามถึงสาเหตุของการที่เขาต้องมาติดแหง็กอยู่ตรงนี้ นั่นก็เพราะว่า อิม แจบอม คนหล่อเดินหลงทาง..อาจจะด้วยความที่เขาเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านที่ห่างไกลจากเมืองหลวงแห่งนี้บวกกับที่เขาไม่ได้รู้ทางเลยแม้แต่นิดดียว และด้วยความที่เขาอยากจะออกมาสำรวจรอบๆด้วยความคึกคะนอง ตอนนั้นเขาเพียงแค่หยิบกล้องตัวโปรด กระเป๋าตังค์ และสิ่งของจำเป็นต่างๆยัดใส่กระเป๋าแล้วรีบเดินออกมาจากที่พักเลย จะว่าไป..เขาไม่ได้บอกแม้กระทั่งผู้ใหญ่บ้านที่ดูแลเขาเลยว่าเขาออกมาผจญภัยกับโลกกว้าง...
แล้วจะกลับยังไงล่ะทีนี้
แจบอมได้แต่คิดในใจ ตาคมเหลือบมองใบไม้ใบหญ้าที่ปลิวไปตามแรงลม จนกระทั่งสายตาเขาไปหยุดอยู่ที่เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ถือร่มสีขาวโปร่งใสกำลังเงยหน้ายืนมองฝนเม็ดเล็กๆนั้นตกลงกระทบตามพื้นโลก เส้นผมสีกากีที่เปียกปอนลู่ลงมาล้อมกรอบใบหน้าหวานสวย แจบอมมองภาพนั้นด้วยแววตานิ่งงัน ดวงตาเรียวคมเข้มมีแววสั่นไหวอย่าเห็นได้ชัด
บุคคลตรงหน้าร่างสูงเผยรอยยิ้มกว้างออกมาเมื่อหยาดฝนเม็ดเล็กล่วงหล่นกระทบลงบนใบหน้าของตัวเอง ตาเรียวสวยหลับตาลงช้าๆอย่างต้องการซึมซับความรู้สึกของเม็ดฝนนี้
ไม่รู้ว่าเนิ่นนานเท่าไหร่ที่เขาเอาแต่จ้องมองคนด้านหน้า รู้ตัวอีกทีเขาก็ไม่สามารถละสายตาออกจากใบหน้าหวานสวยของคนตัวเล็กได้อีกแล้ว มันเหมือนราวกับว่าตัวเขานั้นกำลังโดนมนต์สะกด...
“เอ่อ คุณ...ไม่เข้ามาหลบฝนข้างในหรอครับ” แจบอมเอ่ยถามเสียงตะกุกตะกัก หลังจากที่เขาเรียกสติของตัวเองให้กลับมาเหมือนเดิมสำเร็จ
คนตรงหน้าแจบอมหันมามองเขาด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ไม่แสดงอารมณ์ใดๆให้เห็นเลย ต่างจากเมื่อสักครู่ที่เจ้าตัวดูเพลิดเพลินกับการมองดูหยาดฝนลิบลับ คนตัวเล็กจับจ้องไปที่ร่างสูงอย่างฉงนก่อนที่ขาเรียวสวยทั้งสองข้างจะค่อยๆก้าวเดินเข้าไปหาอีกคนอย่างเชื่องช้า แต่ทุกย่างก้าวของคนหน้าหวานสามารถทำให้ก้อนเนื้อด้านซ้ายที่เรียกว่าหัวใจของ อิม แจบอม เต้นระรัวขึ้นมาอย่างน่าประหลาด
นี่เขากำลังเป็นอะไร
“ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลย” เจ้าของคำพูดหยุดฝีเท้าลงตรงหน้าคนตัวสูงกว่าแล้วเงยหน้าขึ้นมาถาม
“ผมเพิ่งย้ายมาน่ะ” คนตัวสูงเอ่ยตอบอีกคน เขาค่อยๆเขยิบตัวให้คนตัวเล็กได้เดินเข้ามายืนข้างๆเขาใต้ต้นไม้ใหญ่ด้วยกัน ส่วนอีกคนที่เห็นดังนั้นก็ค่อยๆย่างเท้าเข้าไปยืนข้างๆ
คนตัวเล็กที่ถือร่มมาในตอนแรกหุบร่มลงแล้วถือไว้ข้างตัว ตาเรียวเล็กมองรอบๆบริเวณอย่างเลื่อนลอยไม่ได้สนใจประโยคก่อนหน้าที่อีกคนพูดไว้กับตนเลย
ความเงียบเริ่มเข้าปกคลุมคนทั้งสอง จนแจบอมทนกับความเงียบไม่ไหว บวกกับที่เขาเองก็อยากที่จะรู้จักคนข้างตัวเพื่อผูกสัมพันธไมตรี คนตัวสูงกรอกตาไปมาอย่างใช้ความคิด เขาพยายามที่จะชวนคนข้างตัวคุย
“เอ่อ...ทำไมถึงมายืนตากฝนอยู่แบบนี้ล่ะครับ”
ถามอะไรของมึงวะแจบอม ถามชื่อสิ ถามชื่อ!!
“เพราะฝนคือพลัง” เสียงเรียบนิ่งที่ตอบกลับมาทำเอาแจบอมชะงักกึก คำตอบของอีกคนสามารถทำให้เขาขมวดคิ้วมุ่นด้วยความงุนงง แจบอมหันไปมองหน้าคนข้างตัวอย่างต้องการคำตอบ แต่สิ่งที่เขาได้รับกลับมาคือความเงียบที่อีกคนส่งมาให้เขาเท่านั้น
“ฝนจะหยุดตกแล้ว” คนตัวเล็กหน้าหวานขยับริมฝีปากพูดอย่างเชื่องช้า โดยที่ใบหน้าสวยไม่ได้หันมามองที่เขาเลยแม้แต่นิดเดียว แจบอมเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่กำลังมีฝนกระหน่ำตกลงมาไม่หยุด คนตัวสูงหันไปเลิกคิ้วให้กับคนข้างตัว
ฝนตกหนักขนาดนี้ จะไปหยุดตกง่ายๆได้ยังไงกัน
คนตัวสูงได้แต่คิดในใจ โดยที่ไม่มีคำตอบใดๆหลุดออกมาจากคนหน้าหวานทั้งสิ้น และหลังจากนั้นไม่นาน คนตัวเล็กก็ก้าวเท้าออกมาจากที่ที่ตนเคยยืนอยู่ ก่อนที่เจ้าตัวจะค่อยๆก้าวขากลับไปที่ที่เขาเคยจากมา
“อ่า เดี๋ยวก่อนครับ” แจบอมเอ่ยรั้งอีกคนไว้ จนคนตัวเล็กที่ก้าวขาออกไปเพียงสามก้าวต้องหันกลับมามองอย่างสงสัย “คุณ...ชื่ออะไรหรอครับ”
คนตรงหน้าแจบอมอ้าปากเตรียมที่จะพูดออกมาแต่เจ้าตัวก็ต้องปิดปากลงเหมือนเดิมอีกครั้ง แจบอมที่มองภาพนั้นอยู่ถึงขั้นต้องกลั้นหายใจอย่างลุ้นๆ ว่าคนตรงหน้าเขาจะยอมบอกชื่อเสียงเรียงนามให้เขาได้รับรู้หรือไม่
อยากรู้จัก...
คนตัวเล็กเหลือบมองด้านบนต้นไม้ใหญ่เหนือศีรษะของแจบอม ลำต้นของต้นไม้เก่าแก่ปรากฏรอยสลักตัวหนังสือบางอย่างเอาไว้
“ชเวยองแจ นั่นคือชื่อของผม” พูดแค่นั้นคนตัวเล็กก็หันหลังเดินกลับทันที ส่วนแจบอมที่ได้รับคำตอบอย่างที่หวังไว้ก็ได้แต่ร้องเฮ้ในใจดังๆ เขาพยายามที่จะเก็บอาการดีใจไว้ไม่น้อย...
และด้วยความดีใจที่มีมากเกินไปของเจ้าตัว ทำให้เขาไม่ได้สังเกตุลอยสลักบนตัวต้นไม้นั้นเลย
ตัวหนังสือเพียงไม่กี่ตัว...ที่อ่านออกเสียงว่า...
-ชเวยองแจ-
แจบอมกลับมาที่ต้นไม้ใหญ่อีกครั้งในวันต่อมา อาจจะเพราะเขาคิดว่าเขาอาจจะได้เจอคนตัวเล็กหน้าหวานนามว่า ชเว ยองแจ อีกเขาเลยเลือกที่จะมา คนตัวสูงกวาดตามองรอบๆสถานที่เพื่อมองหาคนตัวเล็ก โดยที่ขายาวก็ค่อยๆก้าวข้ามรั้วเพื่อเดินเข้าไปด้านใน
ตาคมมองหาเท่าไหร่คนตัวสูงก็ไม่ยักจะเจอคนที่ตามหาสักที เขาเลยเลือกที่จะหยิบกล้องคู่ใจขึ้นมากดถ่ายวิวรอบๆไปพลางๆ
ความรู้สึกของแจบอมมันบอกว่า ยังไงๆวันนี้เขาก็ต้องได้เจอยองแจอีกแน่ๆ
คนตัวสูงถ่ายภาพความงามของธรรมชาติไปเรื่อยๆ ทั้งท้องฟ้า ก้อนเมฆ ดอกไม้ใบหญ้า ที่ให้ความรู้สึกร่มเย็นและสงบสุขอย่างเพลิดเพลิน จนแจบอมยกยิ้มที่มุมปากขึ้นมา เขาชอบธรรมชาติมากจริงๆ
ครืนน
หลังจากที่แจบอมเพลิดเพลินกับการถ่ายรูปไปได้สักพัก เสียงท้องฟ้าขู่คำรามก็ดังขึ้นมาให้เขาได้ยิน ไม่นานนักฝนเม็ดเล็กและใหญ่ก็กระหน่ำตกลงมาทันที แจบอมรีบวิ่งไปหยิบกระเป๋าที่เขาพกติดตัวมาด้วย จากนั้นก็รีบวิ่งไปยืนหลบฝนตรงที่ที่เขาเคยยืนไว้เมื่อวานอย่างโดยเร็ว
เอาอีกแล้ว ฝนตกอีกแล้ว
แจบอมได้แต่สบถกับตัวเองในใจ เจ้าตัวทรุดตัวลงนั่งยองๆใต้ต้นไม้สูงใหญ่พร้อมๆกับที่ตาเรียวคมเข้มกรอกไปมาด้วยคามเซ็งและเสียดาย เซ็ง...ที่ฝนตก เสียดาย...เพราะไม่ได้เจอยองแจ
“คุณอีกแล้ว” เสียงหนึ่งดังขึ้นมาในขณะที่เขากำลังก้มหน้าคิดอะไรเพลินๆ ยองแจย่อตัวลงในระดับสายตาของแจบอม นิ้วชี้เรียวสวยยกขึ้นชี้หน้าของอีกคนพร้อมกับตาแป๋วๆที่คนตัวเล็กส่งมาให้ คนหน้าหวานตรงหน้าแจบอมกระชับร่มที่พิงไว้กับราดไหล่เล็กไว้ไม่ห่างกับมืออีกข้างที่จับไว้ตรงส่วนปลายของที่จับร่ม
“ยองแจ...”
“อื้ม ผมเอง” ยองแจพยักหน้าขึ้นลงอย่างช้าๆ ท่าทีกระตือรือร้นที่ต่างจากเมื่อวานอย่างเห็นได้ชัดทำเอาแจบอมยิ้มไม่หุบ “คุณมาทำอะไรที่นี่อีก”
“ผมหรอ เอ่อ...ถ่ายรูปน่ะ” แจบอมตอบอีกคนพร้อมๆกับที่มือหนาของเขายกกล้องในมือให้อีกคนได้ดู ถึงแม้ว่าคำตอบของแจบอมที่ตอบอีกคนไปจะเป็นเพียงแค่เหตุผลรองก็เถอะ จะให้เขาพูดไปได้ยังไงว่าเขาอยากที่จะเจอคุณยองแจอีกน่ะ...
“คุณชอบถ่ายรูปหรอ” ยองแจเอียงคอถามอย่างน่ารัก ท่าทีของคนตัวเล็กตรงหน้าสามารถทำให้หัวใจของแจบอมกระตุกได้ง่ายๆ
“ใช่ครับ ผมชอบถ่ายรูป” คนตัวสูงยื่นกล้องในมือให้อีกคน “สนใจถ่ายมั้ยล่ะครับ”
ชเว ยองแจ พยักหน้าหงึกหงักหลังจากจบคำถามของแจบอม จนคนตัวสูงอดที่จะอมยิ้มน้อยๆให้กับปฏิกิริยาของคนตรงหน้าไม่ได้
“มาครับ เดี๋ยวผมสอน” คนตัวสูงกว่าหันไปพูดกับคนตัวเล็กที่ถือกล้องของเขาพลิกไปมา มือหนาถือวิสาสะจับเข้าที่มือเรียวสวยของยองแจอย่างลืมตัว คนสูงกว่าอ้อมไปด้านหลังของอีกคนก่อนที่เขาจะจับกล้องตัวโปรดให้อยู่ในระดับพอดีกับสายตาคนตัวเล็ก
“การถ่ายรูปให้ออกมาสวย...มันต้องใช้ใจถ่าย” คนตัวสูงขยับริมฝีปากพูดกับคนตัวเล็กกว่า ปากหยักของคนตัวสูงห่างจากใบหูขาวสวยไม่ถึงคืบด้วยซ้ำ...จะว่าไป...ท่านี้เหมือนแจบอมกำลังยืนกอดคนตรงหน้าจากด้านหลังเลยแฮะ...
ชเว ยองแจ พยักหน้าหงึกหงักอย่างเข้าใจ มือบางเบนกล้องไปทางซ้ายทีขวาทีอย่างนึกสนุก กล้องที่อยู่ในมือปรากฏภาพของสายฝนที่กำลังตกมาไม่หยุดหย่อน ยิ่งทำให้ยองแจยิ้มออกมาอย่างปิดไว้ไม่อยู่
แจบอมทอดสายตาคมมองดูคนตัวเล็กที่กำลังสนุกกับการเล่นกล้องของเขา มือหนาละออกจากมือขาวเนียนอย่างนึกเสียดาย ก่อนที่เขาจะค่อยๆถอยออกมายืนห่างจากคนตัวเล็กกว่า
“คุณ...ชื่อแจบอมใช่มั้ย” เสียงหวานเอ่ยถามเขาออกมาเบาๆ พร้อมกับที่มือเรียวสวยกดลงไปที่ชัตเตอร์ของกล้องขนาดพอดีมือ แจบอมเผยยิ้มกว้างออกมาเมื่อคนตัวเล็กรู้จักชื่อเขา
“อ่าห้ะ ใช่ครับ” คนตัวสูงกว่าหันไปตอบอีกคนพร้อมด้วยรอยยิ้มจนตาคมกลายเป็นเส้นตรง “ว่าแต่ คุณรู้ชื่อผมได้ยังไง ผมว่าผมยังไม่ได้บอกคุณเลยนะ”
แจบอมถามออกไปอย่างนึกสงสัย เขาจำได้ ว่าเขายังไม่ได้บอกชื่อของตัวเองไป...
“ไม่มีอะไรที่ผมไม่รู้หรอกครับ…” ชเว ยองแจ เอ่ยเสียงเรียบนิ่งขัดกับใบหน้าหวานที่ตอนนี้กำลังส่งยิ้มมาให้เขาอย่างเป็นมิตร ถึงแม้ว่าคำพูดของคนตัวเล็กจะทำให้แจบอมงงอยู่ไม่น้อย แต่พอเขาได้เห็นคนตรงหน้ายิ้ม ความสงสัยของเขาก็หายไปจนหมดสิ้น
อ่า...แจบอมว่าตอนนี้เขาคงตกหลุมรักรอยยิ้มนี่แล้วแน่ๆเลย...
วันเวลาล่วงเลยไปจนเกือบเดือนที่แจบอมมาหาคนตัวเล็กกว่าที่ต้นไม้ใหญ่ มันเป็นกิจวัตรประจำวันของคนตัวสูงไปเสียแล้ว ว่าหลังจากที่เขาเสร็จงานในหมู่บ้านหรือทำอะไรอยู่ก็แล้วแต่ พอตกเย็นเขาจะต้องมาหาคนตัวเล็กกว่าตลอด
ถึงบางวันจะเจอบ้างไม่เจอบ้างก็เถอะ...
ซ่า
“อะไรวะ ตกอีกแล้ว” แจบอมบ่นออกมาเบาๆ เขาชินเสียแล้วกับเวลาที่เขามาที่ต้นไม้ร้อยปีทีไร ฝนเจ้ากรรมจะต้องกระหน่ำตกลงมาทุกที
แต่แจบอมก็หาได้แคร์ไม่...
คนตัวสูงค่อยๆก้าวเท้าเดินเข้าไปในซุ้มหลบฝนที่เขากับยองแจช่วยกันสร้างไว้เพื่อทำเป็นที่หลบฝนจำเป็น แจบอมจับไปที่ท่อนไม้แข็งแรงที่ปักไว้กับดินใต้ต้นไม้ร้อยปี ก่อนที่คนตัวสูงจะค่อยๆก้มลงแล้วรอดผ่านผ้าใบพลาสติกสีสวยเข้าไปนั่งด้านใน
พอเข้ามานั่งด้านในได้คนตัวสูงก็ยกยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจในผลงานของตัวเองกับใครอีกคนหนึ่ง แจบอมกวาดตามองท่อนไม้ที่ถูกปักไว้ทั้งสี่ด้านอย่างมั่นคงก่อนที่คนตัวสูงจะเงยหน้ามองผ้าใบพลาสติกสีฟ้าสลับขาวที่อยู่เหนือศีรษะและด้านหลังเพื่อใช้ป้องกันสายฝนที่ตกลงมากระทบลงบนร่างกาย ผูกด้วยกับเชือกปอสีน้ำตาลอ่อนเพื่อใช้ยึดผ้าใบกับท่อนไม้ให้เข้ากัน ส่วนด้านล่างที่คนตัวสูงกำลังนั่งอยู่ก็ปูด้วยเสื่อน้ำมันลายพื้นๆสีธรรมดาไม่ได้หวือหวาอะไรมากมาย
ถึงมันจะใช้กันฝนไม่ได้ถึงร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ยังดีกว่าที่เขาจะต้องยืนคุยเล่นกลางฝนกับยองแจล่ะน่า พอทำอย่างนี้ มันก็ยังพอมีที่ให้นั่งเล่นนั่งคุยเยอะกว่าเดิมอีก
แจบอมเท้าคางมองสายฝนที่กำลังกระหน่ำตกไม่หยุดจากด้านนอก ตาเรียวคมเข้มเหม่อมองท้องฟ้าไปเรื่อยๆอย่างไม่สนใจสิ่งรอบข้าง พลันแวบหนึ่งที่ความคิดบางอย่างก็เข้ามาในหัว...ตั้งแต่ที่เขาเจอกับสถานที่แห่งนี้ แจบอมแทบจะนับวันที่ฝนไม่ตกได้เลยด้วยซ้ำ...
ฝนมันตกแทบจะทุกวัน...
และวันที่ฝนตก เขาก็มักจะเจอกับ...
...ยองแจ...
แต่วันไหนถ้าฝนไม่ตก วันนั้นคือวันที่เขาจะไม่ได้เจอกับคนตัวเล็ก แถมวันที่ฝนตกมันก็จะตกเวลาที่แจบอมเดินมาถึงต้นไม้ใหญ่นี่ทุกที
แจบอมขมวดคิ้วมุ่นแล้วส่ายหน้าไปมาให้กับความคิดของตน ก่อนที่เจ้าตัวจะหัวเราะออกมาเบาๆกับความคิดบ้าๆของตัวเขาเอง มันก็แค่เรื่องบังเอิญล่ะน่า
“หวัดดี” เสียงเล็กๆเอ่ยขึ้นเบาๆที่ข้างหูของคนตัวสูงกว่า แจบอมหันไปมองก่อนจะพบกับยองแจที่หันมายิ้มให้เขาพร้อมกับรอยยิ้มแบบที่แจบอมชอบ “รอนานมั้ย”
“ไม่อ่ะ ผมก็เพิ่งมาถึงเหมือนกัน” คนตัวสูงหันไปตอบคนข้างตัวพร้อมกับรอยยิ้มจนเห็นตาเป็นขีด ส่วนยองแจก็พยักหน้าขึ้นลงเบาๆพร้อมกับรอยยิ้มกว้างที่ประดับอยู่บนใบหน้าหวานอยู่ตลอดเวลา คนตัวเล็กทรุดตัวลงนั่งข้างๆแจบอมพลางเหยียดขาไปข้างหน้าแล้วยืดตัวเพื่อไล่ความเมื่อยล้าออกไป
แจบอมออกแรงสะกิดไปที่ลาดไหล่เล็กของคนข้างตัวเบาๆ ส่วนคนโดนสะกิดก็หันมามองหน้าอีกคนอย่างงงๆ และไม่ทันที่ยองแจจะได้ตั้งตัวหรือถามอะไรต่อ มือหนาของร่างสูงตรงหน้าก็ยื่นไปที่ด้านหลังศีรษะของเขา ยองแจเอียงคอมองอีกคนอย่างสงสัย แต่คำตอบที่ได้กลับเป็นเพียงแค่รอยยิ้มกว้างๆของคนตัวสูงเท่านั้น
อิม แจบอม อมยิ้มน้อยๆเมื่อเห็นปฏิกิริยาของคนตัวเล็ก ก่อนที่เจ้าตัวจะดีดนิ้วของตัวเองให้เกิดเสียงหนึ่งทีก่อนที่เขาจะชักมือกลับมาอยู่ที่ด้านหน้าของยองแจเหมือนเดิม
“ว้าว...” ยองแจร้องออกมาเบาๆกับตนเอง เมื่อมือหนาของแจบอมถือดอกไม้ดอกหนึ่งไว้ตรงหน้าของเขา คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมองอีกคนก่อนจะเอ่ยถามเสียงแผ่ว “คุณเล่นมายากลเป็นด้วยหรอ”
“ก็นิดหน่อยครับ ผมเคยฝึกตอนเด็กๆ” แจบอมตอบอีกคนด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือไปที่หลังศีรษะของคนตัวเล็กอีกครั้งแล้วดีดนิ้วเบาๆจนเกิดเป็นเสียง แจบอมชักมือกลับมาที่เดิม แต่คราวนี้บนมือหนาของคนตัวสูงกว่าปรากฏเป็นตุ๊กตาหมีสีขาวตัวเล็กไว้บนฝ่ามือหนา
แจบอมยกยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจในผลงานของตัวเอง ก่อนที่เจ้าตัวพยักหน้าเบาๆให้คนตัวเล็กรับดอกไม้และตุ๊กตาในมือของตนไปถือไว้
“ผมให้”
คนตัวเล็กก้มหน้าลงก่อนจะพึมพำขอบคุณด้วยเสียงเบาๆ จากนั้นแจบอมก็ชวนคนข้างตัวคุยไปเรื่อยๆ จนเวลาล่วงเลยไปหลายชั่วโมง สายฝนด้านนอกก็ค่อยๆตกเบาลงและเบาลง จนในที่สุดก็หยุดไป
ยองแจหยัดตัวลุกขึ้นยืนออกมาด้านนอกที่หลบฝนจำเป็น ซึ่งแจบอมเห็นดังนั้นก็เดินตามคนตัวเล็กออกมาทันที
“ผมต้องไปแล้ว” ชเว ยองแจ เอ่ยพร้อมกับรอยยิ้มกว้างอีกครั้ง ซึ่งแจบอมก็พยักหน้ารับแต่โดยดี แม้เขาจะยังไม่อยากจากอีกคนไปก็ตามที...
“เจอกันพรุ่งนี้นะครับ” คนตัวสูงขยับริมฝีปากพูดเบาๆให้คนตัวเล็กได้ยิน ก่อนที่เจ้าตัวจะหันหลังเดินกลับที่พักของเขา ยองแจยกมือขึ้นโบกลาคนตัวสูงที่หันมามองเขาอีกครั้งในขณะที่กำลังเดินอยู่ คนตัวเล็กหัวเราะน้อยๆให้กับอีกคน ก่อนที่เขาจะค่อยๆย่างเท้าเดินไปที่หลังต้นไม้ร้อยปีเมื่อแจบอมเดินหายไปจนลับสายตาของเขาแล้ว
ชเว ยองแจ ถอนหายใจออกมาเบาๆให้กับตนเอง มือเรียวสวยข้างหนึ่งถือดอกไม้และตุ๊กตาหมีไว้แนบอก ก่อนที่เจ้าตัวจะหลับตาลงนิ่งๆอย่างมีสมาธิ หลังจากนั้นไม่นาน ร่างทั้งร่างของชเวยองแจก็หายวับไปกับอากาศ...
หายไป ไม่แม้แต่จะมีร่องลอยใดๆปรากฏ
เสมือนว่าไม่เคยมีผู้ใดเคยอาศัยอยู่ในที่แห่งนี้มาก่อน...
- - - - - - - - - - - -
สวัสดีปีใหม่ไทยยย 5555555555555555555
วันนี้ฤกษ์ดีได้ลง SF เรื่องใหม่ ทั้งๆที่เรื่องเก่ายังไม่จบ...
ฝากเรื่องนี้เอาไว้ในอ้อมอกอ้อมใจทุกคนนะคะ แล้วเราจะมั่วกับฟิคนี่ไปด้วยกัน LOL
แท็กฟิค >>> #ดอทจ
ความคิดเห็น