คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : SF : ต้นไม้ร้อยปี PART 4 [2JAE] -END-
[ SF ] ต้นไม้ร้อยปี PART 4
Pairing : Jaebum x Youngjae [2JAE]
Author : Francez_
แบมแบมถอนหายใจออกมาอย่างจนปัญญา เขาไม่รู้จะทำยังไงให้คนตรงหน้าตามเขามาแบบไม่มีข้อแม้สักที เด็กหนุ่มตวัดหางตามองแจบอม ก่อนที่ร่างทั้งร่างของคนตัวสูงจะทรุดลงกับพื้นแล้วเข้าสู่ห้วงนิทราไปในเวลาต่อมา
“หลับไปสักพักนะเจ้ามนุษย์”
เป็นเวลากว่าสามวันที่คนตัวเล็กยังนั่งคุดคู้อยู่ในที่แห่งเดิมหลังจากที่จินยองพาเขามาทำโทษที่นี่ ห้องมืดแคบๆที่ไม่มีแสงไฟส่องสว่างให้เห็นแม้แต่นิดทำให้คนที่นั่งอยู่รู้สึกหดหู่ในใจไม่น้อย เจ้าตัวเช็ดน้ำใสๆที่หางตาเรียวเล็กออกเบาๆก่อนจะกอดขาของตัวเองให้แน่นขึ้นกว่าเดิม
ยองแจเหม่อลอยไปในความมืด ดวงตาเรียวเล็กแทบจะไม่ปรากฏภาพใดๆเลยด้วยซ้ำ ตอนนี้เขาเหมือนคนตาบอด...
“ยองแจเป็นไงบ้าง” เสียงทุ้มที่คุ้นเคยเอ่ยถามบุคคลที่ยืนคุมผู้กระทำผิดอยู่หน้าห้อง แต่ยองแจก็หาได้สนใจไม่ คนตัวเล็กก้มหน้าลงเข้าหาหัวเข่าเล็กและฟุบหน้าลงไป
“ท่านยองแจไม่ยอมกินอะไรเลยครับ”
“งั้นหรอ...”
บทสนทนาสั้นๆของจินยองกับผู้คุมจบลงเพียงแค่นั้น ก่อนที่ประตูห้องจะเปิดกว้างขึ้น แสงสว่างที่สาดส่องเข้ามาในห้องทำให้ยองแจต้องหรี่ตาลงเนื่องจากว่าอยู่ในที่มืดๆมาหลายวัน เจ้าตัวกระพริบตาเบาๆก่อนจะเงยหน้ามองพี่ชายที่ยืนกอดอกจ้องมองมาที่เขาอยู่ ยองแจเสหน้าหนี
“ออกมาได้แล้ว”
“ข้าไม่ออก ข้าจะอยู่ที่นี่” ยองแจบ่นเสียงอู้อี้ในลำคอ ก่อนที่เจ้าตัวจะทิ้งตัวลงนอนไปที่พื้นแข็งๆในห้องแห่งนั้น จินยองถอนหายใจออกมาอย่างจนปัญญา
เขาไม่อยากจะขังยองแจไว้ในที่แห่งนี้เลย
ชายหนุ่มพยักหน้าเบาๆให้ผู้คุมปิดประตูลงเหมือนเดิม ซึ่งผู้คุมก็ทำตามแต่โดยดี จินยองหันหลังเดิน ขาเรียวยาวค่อยๆก้าวเดินเพื่อออกจากที่แห่งนี้
“นี่มันที่ไหน เฮ้! คุณ” ชายร่างสูงเอ่ยถามคนข้างกายอย่างไม่หยุดยั้ง แบมแบมถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่ายพลางยกมือขึ้นตบหน้าผากตัวเองเบาๆ
หลังจากที่แบมแบมใช้มนต์สะกดให้แจบอมหลับไปได้สักพัก คนตัวเล็กก็รีบพาร่างที่ไม่มีสติมาที่ๆพวกมนุษย์ไม่สามารถขึ้นมาได้ทันที มันเป็นสถานที่ ที่เหมือนจะอยู่บนโลกมนุษย์แต่ไม่ว่าจะค้นหาสถานที่นี้จาก GPS หรืออะไรก็แล้วแต่กลับไม่มีชื่อของสถานที่นี้ปรากฏเลย
ก็นั่นแหละ มันอยู่ระหว่างสวรรค์กับโลกมนุษย์
จะไปหาเจอได้ยังไง
มนุษย์ธรรมดาๆไม่มีทางเข้ามาในพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ได้หรอก
แบมแบมถอนหายใจออกมาเบาๆ เขาไม่รู้ว่าตนคิดถูกหรือคิดผิดที่พามนุษย์บ้านี่มาด้วยกัน เขาแค่อยากให้ความทรงจำของ อิม แจบอม กลับมาเป็นเหมือนเดิม กลับมาจำความรักที่เคยมีให้กับ ชเว ยองแจ ให้ได้ก็เท่านั้น
แบมแบมว่าเขาควรเปลี่ยนจากเทพอารัษ์พันธุ์ไม้ไปเป็นคิวปิคเทพแห่งความรักแทน...
เด็กหนุ่มสาวเท้ายาวๆมาตามทางเดิน คนตัวเล็กกวาดตามองไปรอบๆที่ไร้เหล่าเทพองค์อื่นเลย หายไปไหนกันหมด คนตัวเล็กได้แต่คิดในใจพลางเหลือบมองคนด้านหลังที่เดินตามเขาไม่ห่างในขณะที่ริมฝีปากหยักก็เอ่ยถามเขาไม่หยุด
“สรุปคุณพาผมมา--“
ยังไม่ทันจบประโยคร่างสูงก็ต้องเงียบลงไปทันที เนื่องจากมือบางของแบมแบมยกขึ้นมาปิดไว้ที่ปากเขา ชายหนุ่มเลิกคิ้วมองก่อนจะแกะมือนั้นออก “อะไรของคุณ...”
“ชู่วว เงียบๆก่อน” แบมแบมพูดเสียงเบาๆให้ได้ยินกันสองคน เด็กหนุ่มฟุบตัวลงเข้าไปในพุ่มไม้ใกล้ๆก่อนจะลากแจบอมให้ก้มตามไปด้วย
แบมแบมจดจ้องไปยังร่างสูงที่กำลังเดินขึ้นบันไดมา ก่อนจะก้มตัวลงต่ำกว่าเดิมเมื่อจินยองเดินผ่านพุ่มไม้ที่พวกเขาหลบอยู่ แบมแบมพรูลมหายใจอย่างโล่งอกที่พี่ชายของเขามองไม่เห็น เด็กหนุ่มหันไปมองแจบอมที่กำลังทำหน้ามึนๆ พลางจับที่ต้นแขนแกร่งเบาๆให้ยืนขึ้นมา ก่อนที่แบมแบมจะพาร่างสูงโปร่งไปที่ทางลงบันได
บันไดที่จะพาไปสู่ห้องมืด
ห้องที่ไม่มีอิสระภาพ หดหู่ โดดเดี่ยว และไม่มีแสงสว่างใดๆ
เป็นสถานที่ที่เอาไว้ทำโทษผู้ที่รักในอิสระมากๆ ยกตัวอย่างเช่น ท่านพี่ยองแจ...
ซึ่งเรื่องนี้ท่านพี่จินยองคงรู้ดี เจ้าตัวเลยเลือกที่จะผนึกพลังของท่านพี่ยองแจไว้และพามาขังไว้ที่นี่
เพราะสำหรับท่านพี่ยองแจ...แค่นี้มันก็เกินพอแล้วจริงๆ...
“เดินลงไป แล้วไปช่วยท่านพี่ยองแจขึ้นมาให้ได้!!” แบมพูดเสียงดัง มือข้างหนึ่งยกกำปั้นขึ้นมากลางอากาศเพื่อบอกกลายๆว่าให้แจบอมสู้ คนตัวสูงได้แต่มองอย่างงงๆแต่ก็เดินลงบันไดแต่โดยดี “ผู้คุมหน้าห้องเป็นพวกปลายแถว ไม่มีพลังของเทพ ข้าเชื่อว่าเจ้าจะใช้มือเปล่าสู้กับพวกนั้นได้นะ ขอให้โชคดี!”
แบมแบมตะโกนไล่หลัง คนตัวสูงได้พยักหน้าขึ้นลงอย่างรับรู้ ก่อนที่สองขายาวจะก้าวลงบันไดไปเรื่อยๆ
พอขาก้าวลงมาที่ชั้นล่างสุด ตาเรียวคมเข้มก็กวาดมองรอบบริเวณอย่างพินิจทันที แจบอมหรี่ตาลง จับจ้องไปยังเปลวไฟที่ถูกจุดไว้ตามผนังโบราณ แสงไฟสลัวๆสามารถทำให้เห็นทางเดินแคบๆตรงหน้ามากขึ้น ชายหนุ่มค่อยๆก้าวเดินตามแสงไฟไปเรื่อยๆ ก่อนจะมาหยุดอยู่ตรงทางเลี้ยวไปทางซ้าย แจบอมเอาแผ่นหลังกว้างชิดกับกำแพง ก่อนที่เขาจะค่อยๆเพ่งมองไปที่ทางเลี้ยวว่ามีใครอยู่หรือไม่
“เจ้ามาทำอะไร ไม่รู้รึไงว่าที่นี่เป็นเขตหวงห้าม” เสียงเรียกเบาๆจากข้างหลังทำให้แจบอมต้องหันไปมอง ตาขวาของคนโดนเรียกเริ่มกระตุกสองสามทีเพื่อบอกว่าลางร้ายกำลังใกล้เข้ามา แจบอมส่งยิ้มเจื่อนๆไปให้ ในขณะที่สองมือก็ยกขึ้นกลางอากาศอย่างไม่รู้ตัว
“เห้ย!! นี่มันมนุษย์นี่!!”
ชายร่างยักษ์ตรงหน้าแจบอมตะโกนออกมาจนสุดเสียง แจบอมได้ยินเสียงวิ่งมาจากทางเลี้ยว ซวย!! คนตัวสูงได้แต่สบถกับตัวเองในใจ ก่อนที่เจ้าตัวจะกรอกตาไปมาอย่างใช้ความคิดเพื่อหนีจากสถานการณ์นี้
ถึงจะไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ แต่เขาก็โดนใครไม่รู้ลากให้มาช่วยคนที่ชื่อยองแจแล้ว ไม่มีทางที่แจบอมจะกลับไปมือเปล่าโดยที่ไม่ได้ช่วยคนๆนั้นให้ออกมาได้หรอก
หรือบางที...ชื่อนี้อาจจะมีอะไรบางอย่างที่ทำให้แจบอมอยากพบเจอกับเจ้าของชื่อก็ได้...ไม่งั้นเขาคงไม่เอาตัวเองมาเสี่ยงขนาดนี้...
“เกิดอะไรขึ้น!” เสียงของชายร่างยักษ์อีกคนดังขึ้น ทำให้คนตรงหน้าแจบอมหันไปมอง แจบอมยกยิ้มก่อนที่เจ้าตัวจะประทับฝ่าเท้าของตัวเองลงไปบนตัวของชายตรงหน้า
“นี่มันมนุษย์ มันเข้ามาได้เยี่ยงไรก็ไม่รู้” ชายที่โดนแจบอมประทับฝ่าเท้าใส่พูดออกมาหลังจากที่ตนล้มลงไปกองกับพื้นแล้ว แจบอมทำหน้าตื่นเมื่อเขาหันไปมองก็พบกับอาวุธครบมือของชายอีกคน
“เฮ้! มีอะไรก็ค่อยๆพูดค่อยๆจากันสิ วางอาวุธลงก่อนพวก” แจบอมพยามปรามคนตรงหน้าให้ใจเย็นลง มือหนาปัดไปเบาๆที่ปลายหอก สายตาคมเหลือบไปเห็นกุญแจห้องอะไรสักอย่างที่ถูกห้อยไว้บนตัวของชายผู้นั้น
นั่นใช่กุญแจที่ขังยองแจไว้รึเปล่า
หลังจากที่ความคิดนั้นเข้ามาในหัว เจ้าตัวสไลด์ตัวเองเข้าไปขัดขาของชายถือหอกโดยเร็ว มือข้างหนึ่งกระตุกเบาๆที่กุญแจพวงนั้นให้มาอยู่ในมือตัวเอง ง่ายไปรึเปล่า คนตัวสูงก้มมองคนที่ล้มลงไปอย่างหมดท่า แจบอมยิ้มเยาะก่อนจะเดินไปที่ทางเลี้ยว
แต่สองขาที่กำลังก้าวเดินกลับต้องหยุดชะงัก เมื่อชายร่างยักษ์คนแรกมันใช้ดาบยาวๆที่เหน็บข้างเอวไว้ตอนแรกขึ้นมาล็อคไว้ที่ลำคอของเขา ในขณะนั้นร่างยักษ์เบอร์สองก็ค่อยๆเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับเชือกในมือ แจบอมเริ่มออกแรงดิ้นก่อนที่เจ้าตัวจะศอกไปที่หน้าท้องของร่างยักษ์เบอร์หนึ่งไปแรงๆ สองขาเริ่มออกแรงวิ่งไปที่ทางเลี้ยวโดยเร็ว มือหนากำกุญแจในมือให้แน่นขึ้นกว่าเดิม
เขาเหลือบมองไปด้านหลังเห็นชายร่างยักษ์ทั้งสองวิ่งตามเขามาเรื่อยๆ แจบอมกรอกตาไปมาอย่างใช้ความคิด ก่อนที่เขาจะเหลือบไปเห็นประตูห้องหนึ่งที่เปิดคาไว้ คนตัวสูงวิ่งเข้าไปใกล้แล้วล็อคกลอนประตูลง
ฟึ่บ
“เห้ย!” หลังจากที่เขาลงกลอนประตูเสร็จแล้วหันหน้ามาอีกทางเพื่อเดินต่อก็ต้องร้องเสียงหลงขึ้นมาทันที เมื่ออยู่ๆหอกที่มาจากไหนก็ไม่รู้ถูกปามาโดนประตูที่อยู่ด้านหลังแจบอม คนตัวสูงหลับตาปี๋ด้วยความตกใจ ก่อนจะพรูลมหายใจออกมาแรงๆอย่างโล่งอกเมื่อหอกพวกนั้นแค่เฉียดผ่านตัวเขาไปเท่านั้น
ตาคมหรี่ลงเพื่อจะหาที่มาของหอกพวกนี้ ก่อนที่แจบอมจะเบิกตากว้างออกมาอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง
“โห...” สองขายาวเริ่มเดินเข้าไปใกล้ๆสิ่งที่ทำให้ชายร่างสูงตะลึง ก่อนที่แจบอมจะหมอบตัวลงกับพื้นเมื่อสิ่งนั้นเริ่มส่งอาวุธร้ายแรงเข้ามาหาเขาอีกรอบ
คนตัวสูงพยายามเดินเบี่ยงไปทางซ้ายเพื่อหลบเลี่ยงอาวุธที่ถูกส่งออกมาจากกำแพงยาว ซึ่งกำแพงดังกล่าวเป็นกำแพงที่มีรูหลายๆรู อาวุธที่ถูกส่งมายิงเขาก็ออกมาจากช่องเล็กๆพวกนี้ ยังดีที่มันถูกส่งมาในแนวเดียวเท่านั้นคือแนวตรง และเวลาที่หอกพวกนั้นถูกส่งออกมาในรอบใหม่ก็จะใช้เวลาประมาณ 10 วินาทีหลังจากที่ยิงมาในรอบก่อนหน้าแล้ว แจบอมเลยสามารถหลบหลีกมันได้ทัน
อิม แจบอม กวาดตามองดูรอบๆเพื่อหาทางหนี ก่อนที่คิ้วเรียวคมจะขมวดเข้าหากันแน่นเมื่อห้องที่เขาเข้ามามันเป็นทางตัน
ชายหนุ่มทาบมือลงกับกำแพงหนาบริเวณที่ไม่มีช่องส่งอาวุธ แจบอมลูบๆคลำๆขึ้นลงกับกำแพงหนา พลางคิดในใจ ‘มันต้องมีกลไกอะไรสักอย่างที่จะพาเขาออกจากที่นี่ได้สิ’
แต่จนแล้วจนรอดแจบอมก็ไม่ยักจะเจอสิ่งที่เขาตามหาสักที
หรือเขาจะดูหนังมากไป...?
แจบอมได้แต่คิดในใจ พลันวินาทีนั้นคนตัวสูงก็ได้ยินเสียงอึกทึกครึกโครมกับเสียงฝีเท้าหลายๆคู่กำลังวิ่งเข้ามาใกล้ แจบอมเริ่มร้อนรนอีกครั้ง มือหนายกขึ้นจับกำแพงสะเปะสะปะ ก่อนเขาจะออกแรงดันสิ่งนั้นไปแรงๆ
“เห้ย!” แจบอมร้องลั่น เมื่ออยู่กำแพงหนาที่ไม่มีทีท่าว่าจะเปิดออกได้ อยู่ดีๆก็เอนลงไปกับพื้นทำให้ร่างสูงร้องออกมาเสียงหลง แจบอมรีบคลานตัวเองออกจากกำแพงที่ล้มลงมาเมื่อมันเริ่มจะขยับอีกครั้ง แจบอมหยัดตัวลุกขึ้นก่อนจะมองกำแพงสูงที่บัดนี้กลับไปตั้งตรงเหมือนเดิมแล้ว
ทำไมวันนี้มีแต่เรื่องให้เขาตกใจทั้งวัน...
“ฮึก ฮึก...ฮือ”
เสียงสะอื้นเบาๆที่ดังเข้ามาในโสตประสาททำให้แจบอมต้องหันไปหาต้นตอของเสียง ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นเห็นที่เหมือนจะถูกปิดตายไว้ ถ้ามองดูให้ดีแทบจะไม่มีรูหรือช่องระบายอากาศเลยด้วยซ้ำ
แจบอมค่อยๆย่างเท้าเดินเข้าไปใกล้ เสียงสะอื้นไห้เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆเมื่อระยะห่างเริ่มลดลง คนตัวสูงกำเข้ากับลูกกุญแจในมือแน่น เขาเผลอกลั้นหายใจไปเสี้ยววิ
ไม่รู้ว่ารอบนี้เขาจะเจอกับอะไรอีก...
คนตัวสูงจับเข้าที่ประตูสีทึบ ก่อนจะพยายามเปิดมันออกแต่ก็ไม่เป็นผล ตาคมเหลือบไปเห็นแม่กุญแจที่ล็อคไว้อยู่ คนตัวสูงเลยได้ทีไขกุญแจในมือทันที
ประตูสีทึบถูกเปิดออกกว้าง ด้านในห้องมืดมากจนแจบอมต้องเพ่งมองเจ้าไป เสียงสะอื้นไห้เริ่มเปลี่ยนเป็นเสียงพูดสั่นๆของคนที่อยู่ด้านใน
“ฮึก...ข้าบอกว่าจะไม่ออกไปไง!” เสียงหวานตะหวาดใส่เขาจนคนร่างสูงสะดุ้งเฮือก ก่อนที่คนตัวเล็กด้านในจะตวัดหางตามามองเขาที่ยืนอยู่ แจบอมมองกลับอย่างสงสัย ก่อนที่ดวงตาเรียวเล็กของอีกคนจะเบิกกว้างขึ้น ร่างเล็กตรงหน้ารีบวิ่งเข้ามากอดเขาไว้ด้วยความดีใจ “คุณแจบอม...”
ชายหนุ่มที่ไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับสถานการณ์นี้ได้แต่ลูบแผ่นหลังขึ้นลงเพื่อปลอบคนในอ้อมกอด และถ้าแจบอมจำไม่ผิด...เด็กคนนี้น่าจะเป็นคนที่เคยบุกบ้านเข้าเมื่อหลายวันก่อน...
เอาจริงๆนะ แจบอมไม่รู้จริงๆว่าคนตรงหน้าคือใคร
คนตัวสูงผละตัวออกจากอ้อมกอดนุ่มนิ่ม ก่อนที่มือหนาจะเอื้อมไปจับไว้ที่ข้อมือบาง
“ชื่อยองแจใช่มั้ย? โอเค...งั้นเราออกจากที่นี่กันเถอะ” แจบอมเอ่ยถามคนตรงหน้า ก่อนที่เขาจะได้รับการพยักหน้ากลับมาเป็นคำตอบ คนตัวสูงกระชับมือที่จับกันไว้แล้วรีบพาคนข้างตัวออกจากสถานที่แห่งนี้โดยเร็ว
พอพาคนตัวเล็กเดินมาได้ไม่ถึงสามก้าวขาเรียวยาวก็ต้องหยุดชะงัก ถ้าจะให้แจบอมเดินกลับไปทางเดิมไม่มีทางซะหรอก ตอนนี้ไอ้พวกร่างยักษ์นั่นคงรอเขาอยู่ที่เดิมแน่ๆ แจบอมหันไปมองคนตัวเล็กข้างกายส่งสายตามองประมาณว่ามีทางอื่นที่จะสามารถพาเราออกจากที่นี่ได้มั้ย ยองแจเลยพยักหน้าหงึกหงักก่อนที่คนตัวเล็กจะเป็นคนเดินจูงมือหนาของแจบอมให้เดินไปด้วยกัน
อ่า...ทำไมหัวใจเต้นแรงอย่างนี้
ใช้เวลาไม่นานคนทั้งคู่ก็สามารถออกมาจากห้องมืดได้ แจบอมเหลือบมองยองแจที่ยกข้อมือขึ้นปาดน้ำตารอบดวงตาเรียวรีนั่นอย่างฉงน ปากหยักกำลังจะเอ่ยพูดบางอย่างกับอีกคนแต่ก็ต้องหยุดชะงัก
“ไง...” เสียงทุ้มดังขึ้นไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่พวกเขายืนอยู่มากนัก แจบอมเงยหน้ามองร่างสูงโปร่งที่ยืนอยู่ บนใบหน้าของชายหนุ่มปรากฏเป็นรอยยิ้มเหยียดๆที่มุมปาก แจบอมยกมือขึ้นกุมที่ศีรษะของตนเองเมื่อความรู้สึกเจ็บแปลบเริ่มคลืบคลานเข้ามา
“ท่านพี่...” เด็กที่ชื่อยองแจพึมพำเสียงแผ่ว พอดีกับที่ร่างสูงของแจบอมทรุดลงกับพื้นพอดี ยองแจย่อตัวลงมาหาด้วยความตกใจพร้อมกับเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงที่ร้อนรน “คุณแจบอม! คุณเป็นอะไร!”
“ผมไม่รู้”
“งื่อ อื้อๆ...ฮื่ออ” แจบอมเงยหน้าขึ้นมองที่มาของต้นเสียงแปลกๆนั้น ทั้งๆที่มีหนาก็ยังจับอยู่ที่ศีรษะ ภาพเบื้องหน้าของชายหนุ่มปรากฏร่างของเด็กหนุ่มที่ลักพาตัวเขามาในที่แห่งนี้กำลังถูกตรึงไว้กับเสาสูงๆบนริมฝีปากบางของเจ้าตัวก็มีผ้ามัดไว้แน่น คนตัวเล็กได้แต่ดิ้นไปมาพร้อมพูดเสียงอู้อี้ที่ฟังไม่ได้ศัพท์
“เงียบน่าแบมแบม” จินยองหันไปสั่งแบมแบม ก่อนที่ตาเรียวคมจะปรายมองแจบอม “ไม่คิดว่าเจ้าจะขึ้นมาถึงที่นี่ได้ ไง...จำเรื่องทั้งหมดได้แล้วรึ”
“...”
“แต่ข้าคิดว่าเจ้าคงจำไม่ได้หรอก” พูดจบเจ้าของประโยคก็เดินเข้ามาใกล้ ทำให้ยองแจต้องบีบมือที่จับต้นแขนแจบอมไว้แน่น “มนุษย์คนนี้ยังจำเจ้าไม่ได้หรอก ยองแจ”
“ข้ารู้...” ยองแจพึมพำเสียงแผ่ว มือบางที่จับต้นแขนแกร่งกำแน่นขึ้นกว่าเดิมจนแจบอมต้องเบ้หน้าออกด้วยความเจ็บ ตอนนี้ร่างกายของเขาเจ็บแปลบไปทั้งตัวจนไม่รู้ว่าส่วนไหนที่เจ็บที่สุดแล้วกันแน่ รวมทั้งหัวใจเจ้ากรรม อยู่ดีๆก็เหมือนมันจะเต้นช้าลงๆเรื่อยๆ...
ไม่ใช่ไม่รู้ว่าเขาลืมเรื่องบางอย่างที่สำคัญมากๆไป
ตั้งแต่วันนั้นที่ยองแจบุกเข้ามาหาเขากลางดึก วันนั้นที่คนตัวเล็กประทับริมฝีปากจูบเขา ตอนนั้นที่เขาตื่นขึ้นมาเจอ ยอมรับเลยว่าแจบอมตกใจมาก หัวใจเต้นแรงจนแทบบ้า หลังจากวันนั้นเขาก็เอาแต่เฝ้าฝันถึงใบหน้าของเด็กน้อยคนนั้น และทุกๆคืนเขาจะฝันถึงเรื่องบางอย่างกับใครบางคน
ใครบางคน...ที่แจบอมก็ไม่รู้ว่าจะใช่คนเดียวกับคนที่อยู่ข้างๆเขาตอนนี้รึเปล่า
อิม แจบอม จำใบหน้าคนในฝันไม่ได้...
“โอ้ย…” ชายหนุ่มร้องออกมาดังลั่น สมองเต้นตุบๆเหมือนจะแตกเสียให้ได้ เสียงร้องถามด้วยความเป็นห่วงกับเสียงอู้อี้ที่แบมแบมพยายามจะบอกอะไรเขาดังเข้ามาในโสตประสาทให้ได้ยิน แต่แจบอมก็แทบไม่รับรู้อะไรเลยสักนิด
“คุณแจบอม!” ยองแจตะโกนออกมาดังลั่น น้ำเสียงที่เจ้าตัวใช้ดูร้อนรนและเป็นห่วงคนตัวสูงมาก ยิ่งจินยองเห็นภาพตรงหน้ามากเท่าไหร่ เขาก็ได้แต่นึกอิจฉาแจบอมมากขึ้นเท่านั้น
ตั้งแค่เล็กจนโต จินยองรู้ว่าเขาเป็นพี่ที่กดดันและบังคับน้องมากเกินไป เขาขัดขวางการมีอิสระของยองแจทุกอย่าง ไม่ใช่ว่าจินยองเกลียดคนเป็นน้อง แต่เขาอยากให้ยองแจให้ความสนใจเขามากกว่านี้...
จินยองก็แค่พี่ชายธรรมดาคนหนึ่ง ที่ต้องการความรักจากน้องชายมากก็เท่านั้นเอง
ถึงพวกเราจะเป็นเทพ...แต่พวกเราก็มีความรู้สึกเหมือนกันนะ
“ชเว ยองแจ!” แต่ถึงในใจจินยองจะคิดแบบนั้น แต่ด้วยหน้าที่และสถานะตอนนี้ เขาควรทำตามกฏของเหล่าเทพ
จินยองกระชากที่ต้นแขนของคนตัวเล็กให้ออกห่างจากแจบอมและผลักออกไปไกลๆ เสียงร้องโอดโอยของยองแจดังเข้ามาให้ได้ยิน แต่จินยองก็ไม่ได้สนใจ เจ้าตัวสาวเท้าเข้าไปใกล้ๆคนที่นั่งกุมศีรษะไว้อยู่ ก่อนที่เขาจะจับใบหน้าของแจบอมให้หันมาสบตาตัวเอง จินยองเพ่งมองไปที่ดวงตาคู่คมของคนที่นั่งอยู่ พลันวินาทีนั้นอิม แจบอมก็ดิ้นทุรนทุลายเพราะความทรมานที่เกิดขึ้นในร่างกายทันที
“ท่านพี่! อย่า!” ยองแจที่เห็นรีบวิ่งเข้ามาใกล้ทำให้จินยองต้องตวัดสายตามอง
“หยุดอยู่ตรงนั้น!!”
ร่างกายของคนตัวเล็กหยุดนิ่งอยู่กับที่ทันทีที่คนเป็นพี่พูดจบประโยค น้ำใสๆรอบดวงตาเริ่มคลออยู่ที่ดวงตา มันเป็นอย่างครั้งก่อน...เหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นแล้ว ยองแจร้องโฮออกมาเสียงดังลั่น เมื่อนึกไปถึงจุดจบของเหตุการณ์นี้...แจบอมจะจำเขาไม่ได้และพวกเขาจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน...
ถึงตอนนี้คนร่างสูงจะยังจำยองแจไม่ได้ แต่เขาเชื่อว่าต้องมีอะไรบางอย่างที่สามารถช่วยพวกเขาได้
กึกกึก กึก
เสียงขลุกขลักที่ได้ยินทำให้คนตัวเล็กที่ถูกหยุดไว้นิ่งต้องหันไปมอง เจ้าตัวเห็นน้องชายตัวดีกำลังพยายามทำให้ตัวเองหลุดจากการถูกเกาะกุม จนในที่สุดเจ้าตัวเล็กก็หลุดออกมาจากเสาสูงที่ตรึงร่างของเขาไว้ได้ มือบางของแบมแบมกระชากผ้าปิดปากออก
“เพียงจุมพิตเบาๆที่ริมฝีปากหนึ่งครา พร้อมกับเอ่ยปากบอกความรู้สึกที่อยู่ใต้จิตใจ บัดนั้นความทรงจำของผู้ที่ลืมจะหวนคืนมา”
ยองแจได้แต่มองหน้าแบมแบมอย่างฉงนกับคำพูดนั้น น้ำตาสีใสเริ่มไหลลงอาบแก้มลงมาเรื่อยๆ
“นั่นคือวิธีฟื้นความทรงจำ!! เร็วๆเข้าสิท่านพี่!!” แบมแบมเอ่ยอย่างเร่งเร้า ทำให้ตาเรียวรีของยองแจเบิกกว้างขึ้นอย่างตกใจ
“ละ...แล้วข้าจะทำยังไง ข้าขยับขาไม่ได้!”
“ยังไงดี ยังไงดีๆ” แบมแบมเดินวนไปมาอย่างใช้ความคิด ตาเรียวรีคู่สวยของยองแจได้แต่มองน้องอย่างต้องการความช่วยเหลือ ก่อนที่เจ้าตัวจะทอดมองไปที่คนรักของตนที่บัดนี้กำลังโดนท่านพี่จินยองทำร้ายร่างกายยกใหญ่
“ขอร้องล่ะ...ปล่อยข้าไปทีเถิด ฮึก ข้าเป็นห่วงเขาจนแทบบ้าอยู่แล้ว” ยองแจได้แต่พึมพำเสียงแผ่วกับตัวเอง และเหมือนฟ้าดินจะเป็นใจ จากตอนแรกที่ขาเรียวสวยถูกตรึงไว้บัดนี้กลับขัยบได้อย่างไม่น่าเชื่อ
เด็กหนุ่มหยัดตัวลุกขึ้นยืน ก่อนจะก้าวเดินไปหาคนทั้งสองอย่างรวดเร็ว ยองแจเข้าไปขวางสายตาคมที่จินยองกำลังจับจ้องไปที่ร่างสูงตรงหน้า คนเป็นพี่ได้แต่ขมวดคิ้วอย่างขัดใจ
“พอแล้ว...ได้โปรด เห็นแก่ข้าเถอะท่านพี่...” น้ำเสียงหวานใสของคนเป็นน้องที่ส่งมาอ้อนวอนเขา ทำให้จินยองหยุดชะงัก มือข้างขวาค้างกลางอากาศพลางมองหน้ายองแจอย่างไม่รู้จะทำยังไงดี “ข้าขอล่ะ ได้โปรด...”
จบคำนั้นร่างทั้งร่างของยองแจก็ทรุดตัวลงคุกเข่าลงต่อหน้าเขา จินยองเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ส่วนแจบอมที่อยู่ด้านหลังของคนตัวเล็กก็ทรุดตัวลงตามไปด้วยเพราะเรี่ยวแรงที่เคยมีมันได้หมดลงแล้ว แจบอมใช้ศีรษะของตนเองพิงไว้กับที่ราดไหล่เล็ก
“รัก...” คนตรงหน้าแจบอมครางเสียงแผ่ว ก่อนที่ใบหน้าหวานจะค่อยๆใกล้ลงมาจนในที่สุดริมฝีปากทั้งสองก็แนบสนิทกัน แจบอมลอบมองใบหน้าหวานใสอย่างหวงแหนและคิดถึง ก่อนที่ตาเรียวคมจะค่อยๆหลับลงอย่างช้าๆ พร้อมกับภาพความทรงจำที่เคยเกิดขึ้นไหลทะลักเข้ามาในหัว
แจบอมค่อยๆผละตัวเองออกจากริมฝีปากนุ่มนิ่มนั่น มือข้างหนึ่งยกขึ้นเกลี่ยเบาๆที่แก้มอูม
“ผมจำได้แล้ว” เสียงทุ้มเอ่ยพูดชัดๆให้คนฟังได้ยิน ส่วนยองแจก็ได้แต่เผยรอยยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจ น้ำตาเจ้ากรรมเริ่มไหลลงมาอาบแก้มอีกครั้ง ก่อนที่ชายหนุ่มจะก้มลงมาชิมความหอมหวานที่ริมฝีปากสีสดนั่นอีกครั้ง
“พอได้แล้วจินยอง” น้ำเสียงคุ้นหูดังขึ้นมาไม่ใกล้ไม่ไกล ทำให้เจ้าของชื่อต้องหันไปมอง
“ท่านมหาเทพ...”
“ใช่ ข้าเอง” ท่านมหาเทพที่จินยองพูดถึงเอ่ยปากพูดพร้อมกับที่ริมฝีปากหยักจะเผยรอยยิ้มอบอุ่นให้แก่อีกคน
“ท่านมาได้เยี่ยงไร...”
“ข้ามาได้ยังไงไม่สำคัญหรอก สำคัญที่ว่า ตอนนี้ เวลานี้ เจ้าทำเกินไปแล้วจริงๆ” มหาเทพตรงหน้าแจบอมพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น ในขณะที่ดวงหน้าใสของคนพูดก็ยังมีรอยยิ้มประทับไว้อยู่ “ข้ารู้ว่าเจ้ารักในหน้าที่และกฏของเรา แต่เจ้าไม่คิดว่าสิ่งที่เจ้าทำมันเกินไปหน่อยหรือ”
“ข้า...”
“ปล่อยยองแจให้รักกับมนุษย์ผู้นี้เถอะ”
“แต่...มันผิดกฏ”
มหาเทพส่ายหน้าเบาๆให้เป็นคำตอบ ก่อนที่ท่านผู้สูงศักดิ์จะปรายมองคนทั้งสองที่นั่งอยู่ไม่ไกลจากที่พวกเขายืนอยู่มากนัก รอยยิ้มหวานถูกส่งไปให้ทั้งสอง ยิ่งทำให้ยองแจที่โอบกอดคนตัวสูงไว้ในอ้อมอกกอดแน่นขึ้นกว่าเดิม
“ข้ารู้ว่าเจ้ารักษากฏของเหล่าเทพยิ่งชีวิต แต่เจ้าไม่ผิดหรอก ถ้าจะปล่อยให้สองคนนี้รักกัน...” มหาเทพหันมามองจินยองอีกครั้งพร้อมกับเอ่ยปากพูด ยิ่งทำให้ความสงสัยของจินยองเพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่า “เพราะยองแจถูกกำหนดมาให้รักกับมนุษย์ตั้งแต่แรก”
จินยองได้แต่พยักหน้าหงึกหงักอย่างเข้าใจ ถ้าท่านมหาเทพพูดเช่นนี้ จินยองก็คงทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมรับ ตาคมทอดมองไปที่คนทั้งสองที่บัดนี้ยิ้มให้กันอย่างดีอกดีใจ ตามร่างกายของแจบอมปรากฏรอยบาดแผลมากมายที่เกิดขึ้นเพราะเขา ส่วนใบหน้าของยองแจก็มีน้ำใสๆไหลออกมารอบดวงตาไม่ขาดสาย
จินยองว่าเขาก็ทำเกินไปจริงๆแหละ
มหาเทพค่อยย่างเท้าเดินเข้าไปใกล้ๆบุคคลทั้งสอง ที่ว่างที่มหาเทพเคยยืนอยู่กลับถูกแทนที่ด้วยแบมแบมที่เดินมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ คนเป็นน้องจับเข้าที่บ่าแกร่งก่อนจะหันมายิ้มให้เขา ส่วนจินยองก็ได้แต่พรูลมหายใจออกมาช้าๆ
“เจ้าจำคำขอพรหนึ่งข้อที่ข้าเคยให้เจ้าขอได้มั้ย” มหาเทพเอ่ยถามยองแจ คนโดนถามได้แต่พยักหน้าขึ้นลงช้าๆ รอยยิ้มกว้างประดับอยู่บนใบหน้าของคนถาม “ตอนนี้อยากจะขอพรรึยังล่ะ”
ยองแจนั่งนิ่งอย่างครุ่นคิด สายตาหวานเหลือบมองคนที่อยู่ในอ้อมกอด เช่นเดียวกับแจบอมที่มองมาทางเขาก่อนจะยิ้มหวานให้
จริงๆก็ไม่ต้องคิดหรอก...คำตอบมัดเจนอยู่แล้ว...
“ข้าขอให้ ชเว ยองแจ ได้อยู่กับ อิม แจบอม อย่างมีความสุขบนโลกมนุษย์”
มหาเทพตรงหน้ายิ้มหวาน คำตอบของเจ้าตัวเล็กตรงหน้าไม่ต่างจากที่เขาคิดไว้ตอนแรก สายตาอบอุ่นของมหาเทพทอดมองคนตรงหน้าทั้งสองด้วยรอยยิ้ม
“สมดังปราถนา”
2 เดือนต่อมา
คนตัวเล็กนอนหลับตาพริ้มอยู่ใต้ต้นไม้ร้อยปี ที่ที่เขากับชายคนหนึ่งได้พบกันครั้งแรก พอคิดถึงเรื่องก่อนหน้านี้ก็ทำให้ใบหน้าหวานของ ชเว ยองแจ ก็เผยรอยยิ้มกว้างขึ้นมาเสียไม่ได้
ตั้งแต่วันนั้นที่มหาเทพให้พรกับเขา ทุกๆอย่างก็คืนเข้าสู่สภาวะปกติ อิม แจบอม ได้ลงมาอยู่บนโลกมนุษย์เช่นเดิม ส่วนท่านพี่จินยองถึงจะฟึดฟัดไม่ยอมให้เขาลงมาแต่ก็ยอมแต่โดยดีเพราะคำพูดของท่านมหาเทพ แบมแบมกามเทพตัวน้อยของเขา เจ้าตัวเล็กนี่ดูท่าจะยินดีเป็นพิเศษ เจ้าตัวตามตื๊อท่านมหาเทพอยากขอพรเพื่อจะเปลี่ยนตัวเองเป็นคิวปิคบ้างซึ่งท่านมหาเทพไม่ยอม
เพราะการขอพร ย่อมได้ขอเฉพาะคนที่ถูกเลือกเท่านั้น
และยองแจเป็นหนึ่งนั้น
จุ้บ
เสียงบางอย่างกับสัมผัสเบาๆที่ริมฝีปากทำให้คนตัวเล็กต้องเงยหน้าขึ้นมามอง อิม แขบอม ส่งรอยยิ้มกว้างมาให้เขาจนตาเรียวคมกลายเป็นเส้นตรง
“หลับสบายมั้ย” จบคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบของแจบอม เจ้าตัวก็ทรุดตัวลงนั่งข้างๆเขาทันที คนตัวสูงยันเข่าข้างหนึ่งขึ้นมาไว้ระดับอกก่อนที่จะเอาคางเรียวของตัวเองเกยไว้บนหัวเข่านั้น “เหมือนฝันเลยเนอะ”
“อะไร...”
“เรื่องที่เกิดขึ้นน่ะ เหมือนฝันเลย” แจบอมเอ่ยเสียงแผ่ว สายตาคมยังไม่ละออกจากใบหน้าของคนตัวเล็กเลยแม้แต่วินาทีเดียว มือหนาข้างหนึ่งยกเกลี่ยปอยผมด้านข้างของยองแจขึ้นไปทัดหู “ได้อยู่กับคุณก็เหมือนฝัน”
เด็กหนุ่มได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆให้กับอีกคน ใบหน้าหวานเสมองไปทางอื่นเพราะความร้อนที่เริ่มมารวมกันอยู่ที่ข้างแก้ม ทั้งๆที่คำพูดของแจบอมก็ไม่ได้ลึกซึ้งอะไรมากมาย แต่ไม่รู้ทำไมยิ่งแจบอมพูดมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งหลงไหลในตัวของคนตรงหน้ามากขึ้นเท่านั้น
“ผมมีอะไรบางอย่างจะบอกคุณ...” ยองแจหันหน้ากลับมามองที่ใบหน้าคม ตาเรียวเล็กเผลอหลุบต่ำลงเพราะเขาไม่รู้ว่าเรื่องที่ตนจะพูดควรพูดออกไปดีหรือไม่
ความลับอีกอย่างของ ชเว ยองแจ...
“ครับ?” แจบอมครางถาม คิ้วเรียวคมเลิกถามอย่างสงสัย
“จริงๆแล้ว...ผม...”
คนตัวเล็กพูดเสียงแผ่ว ตาเรียวเล็กเผลอหลุบต่ำลงอีกครั้ง ยิ่งทำให้คนฟังเผลอหัวใจเต้นแรงเพราะความอยากรู้
“ผม...ผมแอบมองคุณแจบอมก่อนที่เราจะเจอกัน...” น้ำเสียงหวานใสพร้อมกับอาการหลบตาของยองแจ สามารถทำให้คนร่างสูงอย่าง อิม แจบอม เผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว ตาคมเหลือบไปเห็นใบหูขาวที่บัดนี้ขึ้นสีแดงระเรื่อให้เห็นชัดเจน
ชเว ยองแจ จะน่ารักเกินไปแล้ว
“คุณไม่รู้หรอก...ว่าผมต้องทำใจนานแค่ไหนกว่าจะกล้าลงมาหาคุณได้...” เสียงเล็กๆของยองแจยังพร่ำบอกเขาไม่หยุด แจบอมที่ไม่รู้ว่าจะทำยังไงเลยจับใบหน้าของอีกคนให้หันมาสบตากับเขา ตาคมเพ่งมองไปที่ดวงตาเรียวรีของคนตัวเล็กที่อยู่ใกล้ๆ แจบอมเผลอเม้มปากแน่น
เขาชอบเวลาคนตัวเล็กยิ้มให้
เขาชอบน้ำเสียงของคนๆนี้
เขาชอบดวงตาเรียวเล็กที่มองเขาอย่างสื่อความหมาย
เขาชอบริมฝีปากบางน่าลิ้มลองของอีกคน
อิม แจบอม ชอบทุกอย่างที่เป็น ชเว ยองแจ
คนตัวเล็กหลับตาพริ้มเมื่อปากหยักของคนตรงหน้าค่อยๆเคลื่อนเข้ามาใกล้ สัมผัสแผ่วเบาที่ริมฝีปากบางให้ความรู้สึกเหมือนมีผีเสื้อหลายล้านตัวบินวนในช่องท้องอย่างน่าประหลาด ร่างกายเหมือนลอยเคว้งอยู่กลางอากาศได้ทั้งๆที่ตัวของเขาไม่มีปีกที่ใช้โบยบิน
สิ่งที่พวกเขาสัมผัสได้ตอนนี้คือ ความสุข
ความสุขที่กำลังเอ่อล้นในหัวใจของทั้งสอง
ท่ามกลางธรรมชาติที่มีเพียงพวกเขา
ภายใต้ต้นไม้ร้อยปี
ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์...สถานที่ที่ทำให้พวกเขาทั้งสองได้มาเจอกัน
พร้อมกับหัวใจสองดวง ที่เต้นเป็นจังหวะเดียวกันตั้งแต่แรกพบ
- THE END -
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ตอนจบมาแล้ว วู้ววว
สรุปเทพยองแจก็ได้อยู่กับมนุษย์อิมแจบอมอย่างมีความสุข ฮึก น้ำตาจะไหล
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตัวเองแต่งแล้วรู้สึกว่าจินตนาการตัวเองล้ำเลิศมาก
55555555555555
แล้วก็เรื่องจินยอง
จะบอกว่าจินยองไม่ได้มีปมอะไรนะคะ เผื่อมีใครสงสัยว่าจินยองฝังใจอะไรรึเปล่าถึงได้ขัดขวางความรักของสองคนนี้นัก
จินยองเป็นแค่พี่ชายที่ชอบเรียกร้องความสนใจจากน้องด้วยการขังเอาไว้ในกรอบที่ตัวเองสร้างไว้เฉยๆค่ะ
สุดท้ายนี้ ขอบคุณที่ติดตามฟิคกากๆของคนกากๆอย่างเรา
เจอกันเรื่องหน้าที่ไม่รู้จะมาเมื่อไหร่.........
เผื่อใครอยากรู้จัก........ท่านมหาเทพ.......
55555555555555555555555555555
ความคิดเห็น