ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic LSK- ลูกศิษย์ทั้งสิบสองคนของสิบสองเทพอัศวิน

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่สอง- ลมสงบก่อนพายุจะมา

    • อัปเดตล่าสุด 16 ต.ค. 53


     
              ข้าชื่อวินเซนเทียส อานาลาส หรือจะเรียกวินเซนต์ก็ได้ถ้าเจ้าต้องการ...

              ข้าล่ะเซ็งจริงๆ ใบสมัครเป็นเทพอัศวินครีอุสก็กรอกไปแล้ว ไม่สามารถไปกรอกเป็นเทพอัศวินเทมเพสได้อีก โว้ย! ทำไมมันลำเอียงอย่างนี้ ข้าอยากเป็นเทพอัศวินเทมเพส ไม่ก็เทพอัศวินเนเฟลนะ ทำไมแม่ข้าถึงอยากให้ข้าเป็นเทพอัศวินครีอุสนักนะ ข้าไม่เข้าใจ!

              เฮ้อ ทำไมมันถึงได้ซวยอย่างนี้นะ...หือ ทำไมข้าถึงไปกรอกใบสมัครอีกรอบเหรอ ก็เพราะว่าการกรอกแต่ละครั้งจะถูกปั๊มตราเทพอัศวินบนฝ่ามือข้างขวาด้วยหมึกที่ลบไม่ออก แต่มันจะหายไปเองเมื่อหมดเขตรับสมัคร ซึ่งมันก็คือ...เมื่อวาน!

              คิดแล้วมันน่าแค้นเป็นบ้า แม่นะแม่ ทำไมต้องเล่นดึงหูข้าแล้วจับลากไปที่วิหารเทพแห่งแสงสว่างด้วย ถ้าข้าไม่ถูกลากข้าก็ไม่ไปสมัครแน่นอน

              พูดถึงหู...ซี้ด เจ็บชะมัด แต่โชคดีที่หูข้าไม่ยาน

              แต่ถึงหูยานข้าคงใช้เวทรักษาเองแล้วล่ะ

              ตอนนี้ข้ากำลังเดินเล่นไปเรื่อยทั่วเมืองลีฟบัดอันสวยงาม จนข้าจำทุกซอกทุกมุมของเมืองได้แล้ว เพราะข้าได้เดินเล่นที่นี่ตั้งแต่ข้าอายุหกขวบ...แต่พอจริงๆ ถ้ารวบเวลาครบถ้วนข้าเดินเล่นที่เมืองนี้แค่สองปี เพราะครอบครัวข้าเป็นนักล่าภารกิจกันทั้งบ้าน แถมเป็นนักเวทของกลุ่มภารกิจต่างๆ ด้วย ดังนั้น พอถึงเวลาที่บ้านไม่มีใครอยู่ทีไร ข้าก็มักจะโดนพ่อไม่ก็แม่ลากไปทำภารกิจด้วยทุกที

              และเมื่อเป็นอย่างนั้น ข้าก็ได้เดินเที่ยวรอบทุกเมืองที่ข้าไป ตั้งแต่ที่เล็กๆ อย่างชุมชนเชดดี้ลีฟ จนไปถึงแคว้นใหญ่ๆ อย่างแคว้นโยแลนด์หรือแม้แต่ที่นี้...แคว้นวอลเลซ การเดินเล่นทำให้ข้าชำนาญเรื่องเส้นทางมาก ชนิดที่ว่าข้าอยู่ไหนก็ไม่มีทางหลง แต่มันก็มีข้อเสียเล็กๆ หนึ่งข้อ

              ...พอเดินเล่นไปจนจำทางและสถานที่ต่างๆ ได้ การเดินเล่นมันก็น่าเบื่อเอาการ...

              "ไง!" เสียงหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับแรงผลักเล็กน้อยที่ข้างหลังข้า แต่ในเมื่อข้ากำลังเดินอยู่ แถมไปสะดุดก้อนหินอีกข้าก็เอนตัวไปตามแรงผลัก แล้วก็...ล้มสิ!

              หมับ!

              แต่โชคยังดีที่องค์มหาเทพไม่ต้องการให้ข้าล้มหัวฟาดพื้น เลยมีคนคว้าที่แขนข้าไว้ทัน และเมื่อทรงตัวได้แล้วข้าจะหันไปโวย แต่ก็ต้องชะงักเพราะไอ้คนที่ผลักข้ามันก็ยิ้ม

              ข้ามองเด็กหนุ่มวัยเดียวกันอย่างหน่ายๆ เขามีผมสีน้ำเงินยาวถึงกลางหลัง ใบหน้าค่อนข้างคม นัยน์ตาสีเงินทอประกายขบขันมองข้า ก่อนที่จะปล่อยแขนของข้าให้เป็นอิสระ

              ข้าแยกเขี้ยวใส่ทันที "ไอ้ยูซิส จะโผล่มาดีๆ หน่อยได้รึเปล่าหา"

              "แล้วถ้าข้าบอกว่าไม่ได้ล่ะ" เจ้ายูซิส หรือ ยูลิซิส เบเนโทนาชถามกวนๆ

              "เหอะ เป็นอย่างนี้ทั้งปี แต่เอาเถอะ เจ้ามาก็ดี เดินเล่นเป็นเพื่อนข้าหน่อย" ข้าพูดน้ำเสียงเบื่อๆ "เดินเล่นที่นี่ตั้งสองปีจนจะจำทุกซอกทุกมุมของเมืองได้อยู่แล้ว"

              เขาหัวเราะร่า "ให้ข้าเดินเล่นเป็นเพื่อนเจ้าเพราะเจ้าคิดถึงข้ารึไงกัน"

              พรวด! แค่กๆๆๆ อ...ไอ้ยูซิส เพิ่งได้รู้จักกันสองวันมาพูดแบบนี้กับข้าแล้วเรอะ อีกอย่าง ข้าไม่ใช่พวกโฮโมนะเฟ้ย!

              ข้าอ้าปากค้าง มุมปากกระตุกกึกๆ ก่อนที่จะถอนใจ

              "ข้ารู้สึกว่าพวกเราได้เจอหน้ากันแค่สี่ครั้งไม่ใช่รึไง" ใช่ แค่สี่ครั้ง! สามปีที่แล้วสองวันซ้อน เมื่อวานซืน แล้วก็เมื่อวานไงล่ะ!

              "งั้นถ้าข้าบอกว่าข้าซาบซึ้งในบุณคุณของเจ้า แล้วอยากตอบแทนล่ะ ท่านว่าที่ 'เทพอัศวินครีอุส'" ยูซิสจงใจตอกย้ำข้าโดยการเน้นคำว่าเทพอัศวินครีอุสเป็นพิเศษ ฮึ่ย!

              อืม...พวกเจ้าคงจะคิดสินะว่ายูซิสซาบซึ้งอะไร ข้าจะอธิบายให้ฟังเอง

              เมื่อครั้งกระนู้น ย้อนไปประมาณสามปีที่แล้วได้ ตอนนั้นข้ากำลังเดินเล่นไปเรื่อยตามประสาคนว่างงาน...



              ข้ากำลังเดินลัลล้าอย่างมีความสุขอยู่ ข้าก็ไปได้ยินอะไรเข้านิดหน่อยตรงซอกตึก อาทิเช่น

              'เฮ้ยๆ ดูสิวะ นี่น่ะ เด็กเจ้าของร้านตัดเสื้อนะเว้ย'

              'ใช่ๆ แถมยังเย็บผ้าอะไรเป็นอีกต่างหาก ยังกับผู้หญิงเลยว่ะ'

              'ยังเป็นผู้ชายอยู่รึเปล่า นั่งถักเสื้อผ้าไปวันๆ อย่างนั้นน่ะ'

              'ไอ้เจ้านี่ชื่ออะไรนะ...รู้สึกจะชื่อ....ยูริล่ะสิ ใช่มั้ยวะ'

              แล้วตามประสาคนชอบสอดรู้เรื่องชาวบ้าน...แค่กๆ! หมายถึงตามประสาเด็กที่อยู่ในวัยเรียนรู้ ข้าก็เลยชะโงกหน้าไปดู ก็พบว่ามีเด็กผู้ชายวัยเดียวกับข้ากำลังถูกคนโตๆ ห้าคนรุมดูถูก

              พอถึงตรงนี้ ข้าขอเติมอะไรนิดหน่อยนะ ว่าข้าเกลียดการดูถูกมากถึงมากที่สุด และในเมื่อเกลียด ข้าเลยต้องกัดฟันทนไว้ไม่ให้วิ่งออกไปตั๊นหน้าห้าคนนั่นให้ตาย เพราะข้าไม่นิยมหาเหาใส่หัว

              '...ข้าชื่อยูลิซิส' จู่ๆ เขาที่ปิดปากเงียบมาตลอดก็พูดขึ้นเสียงสั่น มันไม่เหมือนกับจะร้องไห้ แต่กลับเหมือนกับ...ข่มอารมณ์

              'หา เจ้าว่าอะไรนะ' หนึ่งในห้าคนนั่นตบหัวเขาไปหนึ่งที 'ยูลิซิสงั้นเหรอ ข้าว่าชื่อนั่นไม่เหมาะกับผู้ชายนิสัยผู้หญิงอย่างเจ้าสักเท่าไหร่มั้ง ยูริยังดีกว่าอีก ใช่มั้ยพวกเรา!'

              'ยูริ! ยูริ! ยูริ!' สามคนนั้นฮัมชื่อเขาเป็นเพลง ข้าแอบเห็นตัวเขาสั่นระริก กำมือไว้เหมือนกับข่มอารมณ์โทสะ

              'ข้าบอกว่าข้าชื่อยูลิซิส หูหนวกรึไง!' สุดท้ายเขาก็ตะโกนออกมา เสร็จแล้วยังมีถ่มน้ำลายใส่เท้าของคนที่น่าจะเป็นหัวหน้าอีกต่างหาก เล่นเอาคนนั้นเดือด

              'แก...บังอาจ! เฮ้ย พวกเรา รุมไอ้ยูริมันเลยเว้ย!' คนถูกถ่มน้ำลายตะโกนสั่ง แต่ว่ายังไม่ทันเริ่มรุม หนึ่งในนั้นก็สะดุ้งเฮือก ก่อนที่จะสลบไป ทุกคนเล่นงงเป็นตาไก่แตก

              'ขอโทษที พอดีข้าสะดุดอากาศ สันมือเลยไปโดนคอเจ้านี่' ข้าขอไม่ทนมันล่ะ! ขอซัดกันให้หมอบไปเลยละกัน!

              'แก...' มันกัดฟันกรอด 'เฮอะ เพิ่มมาอีกแค่คนเดียวเป็นอะไรไป ยังไงก็เป็นสองต่อเก้า พวกเราชนะขาดลอยอยู่ดี' ว่าเสร็จก็ทำท่าอะไรสักอย่าง แล้วคนอีกห้าคนก็เดินออกมาจากซอกตึกที่อยู่ลึกเข้าไปอีก

              'เฮอะ ถ้าแน่จริงก็เข้ามาเลย!' ข้าทำท่ายั่วยุ แล้วดูเหมือนว่าพวกอันธพาลจะโกรธมาก วิ่งเข้ามาจะรุมซัดข้าจนลืมอีกคนสนิท

              ข้าทั้งชกคางคนหนึ่ง หันไปเตะท้องอีกคนหนึ่งเพื่อสู้...แต่น่าเสียดาย ที่ข้าไม่ถนัดการต่อสู้แบบไม่มีอาวุธสักเท่าไหร่ แถมข้าเองก็ลืมพกด้วย สถานการณ์ก็เลยเสียเปรียบเต็มที่

              พอข้าจะถูกอีกฝ่ายชกที่หน้าเป็นครั้งแรกนั่นล่ะ เขาก็กระโดดเตะอีกฝ่ายจนกระเด็น พอเขาจอดลงพื้น ข้าก็เพิ่งเห็นนัยน์ตาโชนแสงสีทองเหมือนตาเหยี่ยว

              และสุดท้าย...เขาก็จัดการซัดพวกนั้นจนวิ่งหนีไป...

              'ข้าชื่อยูริซิส เบเนโทนาช ยินดีที่ได้รู้จัก' เขาแนะนำตัวเองเสร็จก็ยื่นมือเพื่อเชคแฮนด์

              ข้าชะงักเมื่อเห็นสีตาของเขา ก็...นะ จากสีทองอร่ามดันเปลี่ยนเป็นสีเงินเรียบร้อย เป็นเจ้าจะทำอะไรอีกล่ะนอกจากชะงักน่ะ

              แต่ข้าก็ไม่คิดอะไรมาก เพราะแม้แต่คนนัยน์ตาสองสีข้าก็เคยเจอมาแล้ว ก็เลยทำแค่ยิ้มยิงฟันแล้วยื่นมือไปจับ  '...วินเซนเทียส ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน'

              จากที่ๆ ดูแล้ว ข้าว่ายูซิสคงเกลียดการถูกเรียกด้วยชื่อแบบนั้นเข้าไส้เลยล่ะ แต่จะว่าไป เป็นข้า ข้าก็เกลียดนะ ชื่ออย่างกับผู้หญิงเลยนี่...

              พอหลังจากเหตุการณ์นั้น ข้าก็ถูกเขาลากไปที่บ้านซึ่งเป็นร้านตัดและขายเสื้อผ้า แถมยังมีบอกอีกว่าถ้าเกิดว่าวันไหนข้ารู้สึกเบื่อ มาหาเขาที่บ้านได้ตลอดเวลาอีกต่างหาก

              วันรุ่งขึ้น ข้าไปหาเขาที่บ้านจริงๆ ไม่ใช่เพราะรู้สึกเบื่อหรอกนะ แต่อยากรู้จักกับเพื่อนคนนี้ให้มากกว่านี้

              แต่ที่ไหนได้...พอข้าไปหาก็ดันเจอกับปัญหาอีก เพราะผู้ปกครองทั้งหลายแหล่อัดเต็มร้านของยูซิสจนข้าต้องไปคลายความเข้าใจผิด แต่กว่าแม่ๆ ทั้งหลายจะเชื่อข้า ก็เล่นเอาข้าต้องใช้ชื่อตระกูลข้าเป็นเดิมพันเหมือนกัน (ไม่อยากจะบอกว่าพอแม่ข้ารู้ ข้าก็โดนบ่นจนหูชาไปเลยสามชั่วโมงเต็มๆ)

              ความจริงนามสกุลข้าก็ไม่ได้อะไรมากหรอก แค่พ่อข้าอยู่ในสังกัดหนึ่งในสามกลุ่มภารกิจที่แข็งแกร่งที่สุด...ก็เท่านั้นเอง

              พออีกวันหนึ่ง ข้าต้องเดินทางไปที่แคว้นโยแลนด์โดยที่ไม่ได้ลา เพิ่งกลับมาสัปดาห์ก่อนเอง

              "เฮ้อ" ข้าถอนหายใจ

              ยูซิสชะงัก ก่อนส่งคำถาม "เจ้าถอนหายใจทำไม"

              "...ข้ากำลังคิดว่าทำไมข้าถึงซวยนักที่ได้เจอเจ้า" ข้าว่าพลางทำสีหน้าบุญไม่รับอย่างแรง

              "เหอๆๆ งั้นเจ้าคงซวยอีกนาน เพราะข้าสมัครเป็นเทพอัศวินเทมเพสคนต่อไปซะด้วย" ว่าเสร็จก็ยิ้ม "ถ้าทั้งข้าทั้งเจ้าได้เป็นว่าที่เทพอัศวินล่ะก็ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ วินเซนต์ อ้อ ฝากใจด้วยก็ดีนะ" ยูซิสยักคิ้วให้ข้าเมื่อพูดประโยคสุดท้าย ข้าเลยจัดการเขกกบาลเขาทีหนึ่งด้วยความหมั่นไส้

              "งั้นข้าขอให้ตัวเองไม่ได้เป็นละกัน"
    __________________________________

    จบไปอีกตอน!! =w=

    พิมพ์เสร็จเข็ดคอ...อูยยย T^T (ทุบหลังตัวเองอย่างบ้าคลั่ง)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×