ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic LSK- ลูกศิษย์ทั้งสิบสองคนของสิบสองเทพอัศวิน

    ลำดับตอนที่ #12 : ตอนที่เก้า- First Day Battle [2] ตัวต่อตัว (100%แย้วว) (อิส อะ ลืมแก้...)

    • อัปเดตล่าสุด 25 พ.ย. 53



              "การต่อสู้...เริ่มได้!" คำห้าพยางค์นี้เป็นดั่งคำประกาศิต เพราะเมื่อมันถูกเอ่ยขึ้นมา ผู้ที่เชี่ยวเรื่องการต่อสู้ระยะประชิดก็บุกเข้าหาอีกฝ่ายตามแผนทันที

              เด็กชายนามวัลเดอราล ฟอร์ทได้วิ่งไปหาคู่ต่อสู้ของเขา ซึ่งก็คือยูลิซิส เบเนโทนาช เพื่อนของคู่หูของเขาพร้อมกับดาบที่ตัวเองเป็นเจ้าของ

              แต่ยังเริ่มวิ่งไปได้ไม่เท่าไหร่ นัยน์ตาสีรัตติกาลของเขาก็ต้องเบิกกว้างอย่างตกใจ...

              ...หายไปแล้ว!...

              และในช่วงวินาทีนั้นเอง ด้วยความที่ตนมีปฏิกิริยาตอบสนองเป็นเลิศทำให้เขาหันหลังแทบจะทันที พร้อมจะตั้งรับกับอะไรบางอย่างที่จะมาถูกตัวเขาในไม่ช้า

              เคร้ง!

              เสียงกระทบกันของดาบสองเล่มสองเจ้าของดังขึ้น ก่อนที่ยูลิซิสจะออกแรงกดดาบใส่อีกฝ่ายมากขึ้น แต่วัลเดอราลก็กดดาบกลับเช่นกัน จนมือสั่นกึกๆ กันอยู่สักพักราวกับดาบจะหลุดออกจากมือไปให้ได้ สุดท้ายทั้งคู่ก็จัดการกระโดดไปด้านหลังของตัวเองเพื่อตั้งหลักใหม่

              เร็ว...นี่คือคำแรกในความคิดของเด็กชายหัวเม่น...คนตรงหน้านี่คิดจะเผด็จศึกในพริบตาเลยรึไงกัน...

              'ระวังความเร็วมันด้วยละกัน' คำเตือนของวินเซนท์ลอยเข้าหัว เล่นเอาเขากัดฟันอย่างรำคาญใจ

              "จะบุกอีกรอบล่ะนะ" ยูลิซิสพูดน้ำเสียงกวนประสาท ก่อนที่จะหายไปอีกรอบแค่เพียงกะพริบตา

              นัยน์ตาสีรัตติกาลของวัลเดอราลตวัดฉับไปด้านหลังก่อนที่สมองจะสั่งเสียอีก แต่ก็ต้องชะงักอีกรอบเมื่อเจ้าความเร็วเปลี่ยนทิศ...ทางขวา

              ...ไม่ใช่สิ ซ้ายต่างหาก!

              เคร้งๆๆ!

              เสียงดาบกระทบกันสามครั้งติดโดยมียูลิซิสเป็นผู้รุก ส่วนวัลเดอราลก็ใช่ย่อยเพราะเขาสามารถตั้งรับได้ทั้งหมด ก่อนที่จะเริ่มการรุกอย่างเร็ว และเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนเห็นแค่ประกายของคมดาบสะท้อนแสง

              "รุกเร็วดี แต่ลงดาบไม่ค่อยแรงเลยนะ" ยูลิซิสติยิ้มๆ แต่ดาบในมือก็ยังตั้งรับได้ทุกกระบวนท่าอย่างสบายๆ เล่นเอาวัลเดอราลสบถอย่างหัวเสีย

              "ปากมากจริง"

              คนถูกด่าเลิกคิ้ว "ข้าอุตส่าห์ติเพลงดาบเจ้าให้เข้าที่เข้าทาง ยังมาว่าข้าอีกเหรอ" ว่าแล้วก็ทำหน้าเศร้า แต่กลับกระชับดาบในมือให้แน่นขึ้น "คนหวังดีขนาดนี้ยังมาด่ากันได้"

              ...ไอ้แหลเอ้ย!... วัลเดอราลสบถในใจ พลางชักมีดสั้นออกจากเป้ที่ตัวเองไม่ได้เป็นเจ้าของ โดยที่ไม่ทันสังเกตสายตาของอีกฝ่ายที่เปลี่ยนไป จากความขี้เล่นร่าเริงเป็นประกายจริงจัง

              "คราวนี้...ข้าขอเอาจริงขึ้นอีกนิดหนึ่งนะ"

              เด็กชายผมน้ำเงินว่าเสร็จก็หายตัวไปทันที ทำให้ความคิดของวัลเดอราลที่จะสกัดความเร็วของยูลิซิสล้มเหลวในพริบตา!




    ในขณะเดียวกัน....

             ฟึ่บๆๆ

              เสียงการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วของวินเซนเทียส ที่ตอนนี้เร็วมากจนเห็นเป็นสายสีดำขยับไปที่ต่างๆ พร้อมกับธนูที่ถูกยิงโดยเด็กชายผมสีเงินยวง นัยน์ตาสีฟ้าหรี่ลงเพื่อจะเล็งให้ได้ดีๆ ...แต่ก็ต้องพบว่ามันช่างเปล่าประโยชน์ เพราะดูเหมือนอีกฝ่ายจะหลบได้อยู่ร่ำไป

              เป็นครั้งแรกที่อาเบลมีความรู้สึกอยากจะหักธนูทิ้งแล้ววิ่งไปหักขาอีกฝ่ายที่มัวแต่หลบอยู่เสียให้ได้ และแน่นอน เจ้าตัวรู้ขีดจำกัดของตัวเองว่าไม่มีทางวิ่งเร็วเท่าอีกฝ่ายแน่ๆ เลยได้แต่ยิงธนูไปเรื่อยๆ เพื่อสกัดไม่ให้เข้ามาหาตัว

              ทางวินเซนเทียสเองก็ยีหัวตัวเองจนผมที่ถูกรวบไว้ยุ่งเหยิงดูไม่เป็นทรงพลางกัดฟันกรอดอย่างนึกขัดใจขั้นรุนแรง

              ...เมื่อไหร่จะไปถึงตัวซะที เขาขี้เกียจวิ่งมากนะจะบอกให้

              สิ่งที่วินเซนเทียสคิดจะทำคือวิ่งไปให้ถึงอีกฝ่าย แล้วจัดการสับต้นคอซะให้จบๆ จะได้สิ้นเรื่อง แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะรู้ทางจึงยิงสกัดไม่ให้เข้ามาใกล้ แถมจงใจเล็งที่เท้าทำให้เขาต้องกระโดดหลบไปข้างหลังตัวเองแล้วค่อยขยับเข้าไปอีก ก่อนที่จะโดนแบบเดิมอีกครา ซ้ำไปซ้ำมาไม่รู้จักจบสิ้น

              แถมพอจะวิ่งเลี้ยวไปข้างหลังก็โดนฝนธนูห่าเบ้อเริ่มบังคับให้มาอยู่ข้างหน้าอีก...

              เจอแบบนี้เข้าไปมันน่าหงุดหงิดน้อยซะเมื่อไหร่ล่ะ!
    ____________________

                  วินเซนเทียสเหลือกตาอย่างเหลืออด คนความอดทนต่ำอย่างเขาทนเข้าวัฐจักรแบบเดิมๆ ตั้งสิบกว่ารอบได้ก็ถือว่าบุญโขแล้วแท้...แต่อีกฝ่ายจะบีบให้เขาเข้าวัฐจักรแบบเดิมเป็นครั้งที่ยี่สิบ

                  โธ่! เจอแบบนี้ไปใครมันจะไปทนไหวเล่า

                  แต่ถ้าบุกจากข้างหน้าไม่ได้ ลองใช้เวทนิดหน่อยเป็นไร...ความคิดนี้แวบเข้ามาในหัวของเด็กผมส้มอมเหลืองที่ยังคงวิ่งหลบไปมา ...แถมยังมีสิทธิ์โดนตัดสินไม่ให้เป็น เพราะเทพอัศวินครีอุส ‘ใช้เวทไม่เป็น’ ด้วย ถ้าเป็นแบบนี้ก็น่าจะตัดสิทธิ์โดยอัตโนมัติน่ะนะ

                  หัวว่ามือก็ไป เขารวบรวมพลังเวทน้ำแบบเบาะๆ ทำมือเป็นรูปปืน เล็งเล็กน้อย แล้ว...ยิง!

                  แต่ว่า...น่าเสียดายอย่างสุดซึ้ง เพราะตอนที่ยิงเขาดันสะดุดก้อนหินเกือบล้มแต่ก็ทรงตัวทัน ทำให้ที่ๆ เล็งอยู่ก็พลาด จากแถวๆ คอ ไปโดนที่ไหล่ขวาไปโดยปริยาย

                  ...พลาดเป้ายังพอว่า แต่อานุภาพดันลดจากระดับที่ยิงต้นคอคนให้สลบได้เป็นระดับปืนฉีดน้ำด้วยนี่สิน่ากลุ้ม

                  นัยน์ตาสีฟ้าของอาเบล ยูประกายขบขันเล็กน้อย ก่อนที่จะเอื้อมมือไปหยิบธนูที่แล่งอีก แต่ก็ต้องเบิ่งตากว้างอย่างตกใจ...

                  เมื่อพบว่าธนูของเขา...หมดแล่งแล้ว...

                  ฝ่ายวินเซนเทียสที่ไม่เห็นมีอะไรยิงมาอีกก็ได้เร่งสปีดตัวเองเพื่อบรรลุแผนที่ตัวเองตั้งไว้!

                  เคร้งๆๆๆๆ!

                  เสียงประดาบดังลั่นไปทั่วลานพร้อมกับภาพของสองเด็กหนุ่มที่ต้านแรงดาบของแต่ละฝ่ายไม่ให้มาโดนตัวเอง วัลเดอราลกัดฟันกรอด นัยน์ตาสีรัตติกาลจ้องเขม็งไปที่อีกฝ่ายอย่างเคร่งเครียด

                  ถ้าไม่ใช่ว่าเขามีปฏิกิริยาตอบสนองคมพอล่ะก็...ป่านนี้เขาคงหลบคมดาบไม่พ้นแล้วล่ะ!

                  นัยน์ตาสีเงินของยูลิซิสฉายประกายรักสนุกอย่างไม่ปิดบัง ในเมื่อเขาเองก็ไม่ได้เจอคู่ต่อสู้ที่ถูกใจเขามานานพอควรแล้วเหมือนกัน

                  แต่เสียดายที่นี่ไม่ใช่เวลามาเล่น...เขาฉุกคิดขึ้น...ตอนนี้ต้องทำให้อีกฝ่ายสลบหรือไม่ก็ให้บาดเจ็บจนไม่สามารถตอบโต้ได้ก่อน ซึ่งอย่างหลังตัดไปได้เลย เขาไม่คิดจะทำให้คู่หูของวินเซนเทียสบาดเจ็บจนให้เพื่อนสนิทของเขามารักษาเองแน่ๆ

                  ...เพราะเขาขี้เกียจฟังคำบ่นของวินซ์ รวมทั้งต้องมานั่งเฝ้าคนไข้เป็นเพื่อนน่ะสิ

                  ถ้าอย่างนั้น...ยูลิซิสยิ้มออกมา กระโดดไปด้านหลังเหมือนจะตั้งหลัก แต่ก็พูดประโยคไม่คาดฝันออกมา

                  “ข้าจะตั้งรับอย่างเดียวในเวลาสองนาที ถ้าทำให้ข้าบอกยอมแพ้ไม่ได้ เจ้าก็จะเป็นฝ่ายแพ้เอง”

                  คู่ต่อสู้ของเขาที่ได้ยินก็ชะงัก หรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วพูดเสียงห้วนๆ อย่างนึกรำคาญ “คิดว่าข้ายอมรึยังไงกัน”

                  ยูลิซิสแค่ยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ “ยอมไม่ยอมก็ไม่รู้ล่ะ ข้าเสนอไปแล้ว เจ้าต้องทำลูกเดียว” ว่าแล้วก็กระชับดาบในมือให้แน่นขึ้น ก่อนที่จะยกดาบขึ้นมาหกสิบองศากับพื้น ยักคิ้วราวท้าทาย

                  “เห็นแก่ตัวเห็นๆ” วัลเดอราลสบถพลางส่ายหน้า

                  ...มีเวลาแค่สองนาทีสินะ งั้นใช้สองมือเลยละกัน...

                  เมื่อแน่ใจว่ายูลิซิสจะไม่โจมตี เขาก็ถอดกระเป๋าสะพายของวินเซนเทียสออกจากหลัง แล้วเริ่มค้นของทันที ฝั่งยูลิซิสที่เพิ่งเห็นกระเป๋าก็ขมวดคิ้ว

                  ...ของวินซ์ไม่ใช่เหรอ...ยูลิซิสคิด แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

                   “ดาบ...อยู่ไหนกันฟระ” วัลเดอราลพึมพำเบาๆ พลางค้นไปที่เก็บมีดสั้น ลูบๆ คลำๆ ข้างในอีกสองสามรอบ ก่อนที่จะเจอด้ามอะไรยาวๆ ใต้ผ้า จึงเลิกออกมาดูก็พบดาบอีกสองเล่ม เขาจึงหยิบขึ้นมาหนึ่งเล่มแล้วขมวดคิ้ว

                  สุดท้ายก็เลือกดาบเล่มนั้น แต่เขาก็ยังไม่โจมตี

                  เขาขุดๆ ค้นๆ ของในกระเป๋าอีก จนส่งเสียงกุกๆ กักๆ ที่เป็นเสียงเหล็กกระทบกันดังขึ้น แล้วหยิบเอามีดสั้นทั้งหลายแหล่เหน็บไว้บนเข็มขัดพลางทำหน้าปุเลี่ยน

                  ...กระเป๋าอะไรกัน ยัดของได้สุดยอดจริงๆ...

                  แน่นอนว่าไม่ใช่แค่วัลเดอราลที่คิดแบบนั้น เพราะแม้แต่ยูลิซิสที่กำลังยืนรอให้อีกฝ่ายมาโจมตีก็ทำตาโตเท่าไข่ห่าน มุมปากกระตุกกึกๆ เหมือนกับได้เจอสิ่งพิสดารยังไงยังงั้น

                  ...องค์มหาเทพ วินซ์เป็นพวกชอบของมีคมเหรอเนี่ย...เด็กชายผมน้ำเงินรำพึงในใจพลางเหลือบตามองวินเซนเทียสที่ตอนนี้กำลังหลบธนูต่อไปอย่างไม่ลดละด้วยความเร็วสูง ก่อนที่จะหันขวับเมื่อเสียงของคู่ต่อสู้ดังขึ้น

                  “เตรียมตัวได้แล้ว!”

                  เคร้ง!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×