ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 6 ทหารก็ทหารเถอะ ไม่ยอมแพ้หรอกน่า
Chapter 6 ทหารก็ทหารเถอะ ไม่ยอมแพ้หรอกน่า
“โอ๊ะโอ ดูท่าทางทางนั้นจะเริ่มแล้วนะ” เตยและพรรคพวกซึ่งตอนนี้อยู่ข้างรั้วกรมทหารราบ 11 เอ่ยขึ้น เมื่อมีกลุ่มควันมหาศาลลอยขึ้นไกลๆ
“งั้นเราจะยอมแพ้ได้ไงกัน รีบๆเข้าเถอะ”  โอ๋ตอบรับ
ขณะนี้คนทั้งหมด 24 คนเดินเป็นกลุ่มยาวข้างๆรั้วสีเงินที่ทอดยาวขนานกับถนนพหลโยธิน มันคือรั้วของกรมทหารราบที่ 11 ซึ่งแน่นอนว่ามียุทโธปกรณ์บรรจุอยู่ในนั้นมากมาย ไฟถนนเริ่มเปิดแล้วเพราะความมืดในเวลาพลบค่ำ ทางข้างหน้าเริ่มสลัวขึ้น พวกเขาอยู่ห่างประตูใหญ่ราว 200 เมตร
“แต่ทำไมต้องลงไม้ลงมือกันขนาดนั้น?” อรทำลายความเงียบ
“ขนาดไหน” ตุ๊กถามย้อน
“ก็ขนาดที่ควันมันเป็นกลุ่มใหญ่ขนาดนั้นไง ดูเหมือนแรงระเบิดจะพอๆกะที่สยามเมื่อกลางวันเลยนะ”
“หรือไม่ก็มากกว่า” ผลบวบต่อประโยคให้
“นั่นล่ะ มีแต่พระเจ้าที่รู้”
กลุ่มพวกเขาเดินย่ำเตาะแตะมาจนถึงทางเข้าใหญ่ ซึ่งมีทหารยามเข้ากะเวรอยู่ 2 นาย นายหนึ่งคอยเลื่อนราวลูกกรงให้รถเข้า ลักษณะผอมสูงในชุดสีเขียวขี้ม้า อีกรายหนึ่ง ดูเตี้ยและท้วมกว่า นั่งอยู่ในป้อมยาม ทั้ง 2 คนดูจะติดอาวุธพร้อมหยิบตลอดเวลา
“เอกซเปลลิอาร์มัส!!!” จิ๊บตะโกนและชี้นิ้วไปทางทหาร แต่ทว่าไร้ผลใดๆ
“ซวยแล้วมั้ยล่ะ!!” หลายคนร้องขึ้น
จิ๊บสะดุ้งโหยงแล้วหันไปหาทุกคน “อ้าว เราว่ามันน่าจะใช้ได้นี่นา”
“นั่นน่ะมันคาถาปลดอาวุธในแฮร์รี่ แต่นี่มันใช่ที่หน้ายยยยยยยย” นิ้งสวนกลับ “คราวหน้าใช้หมื่นราตรีดีกว่านะ”
“เฮ้ย พวกเธอมาทำอะไรแถวนี้” ทหารที่อยู่ใกล้พวกเขาที่สุดเดินอาดๆเข้ามาถาม
“พวกเรา.....จะมา...เอ่อ.....อะไรดีล่ะ” เข้มพูดติดขัดเมื่อหาเหตุผลที่ฟังขึ้นไม่ได้
“มาตีหัวพ่อ ตื๊ดดด ยังไงล่ะ ฮึ่ยย่ะ!!” เก่งวิ่งตอบขึ้นจากด้านหลังแล้ววิ่งหน้าตั้งไปตบหัวทหารคนนั้น สร้างความงุนงงเป็นเยี่ยงนัก “ไอ้ทหารบ้าบอเอ๊ย เพราะรด.ของพวกแกนี่แหละ ทำให้พวกเราต้องเสียเวลาทั้งชีวิตไปร่วม 20 วันเลยนะรู้มั้ย!!!”
ทหารอีกคนเข้ามาสมทบ ทั้งคู่ชักปืนออกมา “ทุกคนยกมือขึ้น หันหลังแล้วไสหัวไปซะ ไม่งั้นพ่อยิงไส้แตกแน่”
“เพื่อนๆหมอบลง!!” เก่งหันไปบอกทุกคนแล้วแลบลิ้นใส่ทหาร
“ไอ้เด็กเวรรร” ว่าแล้วทหารตัวสูงก็ยิงปืนไปบริเวณขาของเก่ง เสียงไกปืนดังสนั่นไปทั่วบริเวณ
แต่กระสุนหยุดลงและตกลงสู่พื้น เมื่อมันพุ่งเข้าชนกับวัตถุหนืดๆข้นๆบางอย่างที่โผล่ขึ้นมาจากดิน ห้อมล้อมตัวเก่งไว้ ทั้งสองคนระดมยิงมาอีกหลายนัด แต่ทุกนัดก็ได้รับการป้องกันจากบาเรียลึกลับนั่นตลอด
“นี่มันอะไรกันเนี่ย” เขาพูดเสียงสั่น ปืนร่วงจากมือลงพื้น
“หึหึ อย่าดูถูกผู้ใช้ขี้เป็นอันขาด นี่แหละ การป้องกันอันไร้ช่องโหว่ของบาเรียขี้” เก่งพูดและเดินไปเตะกระบอกปืน
ทหารหน้าซีด เหงื่อแตกพลั่ก มือเท้าสั่นระริก “ตะกี้แกพูดว่าไงนะ....”
“ขี้ไงไอ้โง่ ต่อจากนี้พวกแกคงได้หลับสบายแล้วล่ะ” บอสซึ่งหมอบอยู่ห่างออกไปตอบแทนเก่ง
“ตายด้วยขี้เนี่ยนะไอ้สัด สบายชิบหายเลย” แบงค์ซึ่งมักจะขัดคอบอสอยู่เสมอพูดขึ้นบ้าง
“ขี้แอทแทคคคคค” ว่าแล้วก็มีขี้สีน้ำตาลเหลืองเหลวๆ ไหลหนืดขึ้นมาจากพื้นห่อล้อมตัวทั้งสองคนไว้ เสียงอู้อี้ๆฟังไม่รู้เรื่องหลุดรอดออกมาแว่วๆ เมื่อพวกเขาถูกหุ้มจนไม่เหลือแม้แต่รู้อากาศ
เก่งรวบรวมสมาธิ ก่อนกำมือออกไปข้างหน้า พูดด้วยน้ำเสียงเลือดเย็นสุดขีด “โลงศพขี้”
และขี้ที่หุ้มทหารอยู่ก็ระเบิดขึ้น ทั้งสองคนที่อยู่ข้างในแหลกไม่มีชิ้นดี เมื่อซากทั้งหมดรั่วลงพื้น มันก็ละลายหายไปโดยไม่เหลือแม้แต่ร่องรอยไว้
“เสร็จซะที ไปกันต่อเถอะ” ปิงลุกขึ้นจากท่าหมอบ ทุกคนที่เหลือลุกตามกัน
ทั้งหมดเดินมาสักพักจนถึงป้ายบอกทางทำด้วยอะลูมิเนียม สูงเลยหัวพวกเขา จากป้ายอ่านได้ว่า โรงเก็บเฮลิคอปเตอร์ ไปทางซ้ายอีก 350 เมตร พวกเขาจึงมุ่งหน้าไปตามที่ป้ายบอก ระหว่างถนนเล็กๆที่ทอดยาวนั้น การสนทนาเริ่มอีกครั้ง
“นายว่ามันคุ้นๆมั้ย ไอ้ท่าเมื่อกี๊น่ะ” บูม1กระซิบถามบูม2
“เออกุก็ว่างั้น แม่งเหมือนเคยเห็นที่ไหนแวบๆ” บูม2ตอบรับ “รู้สึกฉายาเก่งมันจะอะไรนะ....อ้อ อุจจาระแห่งห้องน้ำชาย”
“เอาน่า คนเขียนบอกมาว่าไม่มีใครนึกออกหรอก ซึ่งมันคงไม่ใช่อย่างนั้นหรอก” เก่งซึ่งไม่น่าจะได้ยินทั้งคู่คุยกันพูดแทรกขึ้นมา
เมื่อถึงหน้าโรงเก็บเฮลิคอปเตอร์ พวกเขาก็เห็นกลุ่มคนดำๆกลุ่มนึงเข้าแถวกันเป็นระเบียบ ซึ่งมองไม่ชัดเพราะความมืดเข้าบดบัง แต่จากขนาดแล้ว น่าจะมีอยู่ร่วม 50 คนเลยทีเดียว ดูเหมือนจะเป็นเหล่าทหารที่รอฟังคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา
“ที่นี้แหละ ตาเราบ้าง” จิ๊บหลับตา “หมื่นราตรี!!!!”
และกลุ่มคนทั้งหมดเบื้องหน้าพวกเขาก็ล้มลงกองกับพื้นพร้อมกันหมด จิ๊บกระโดดไชโยและวิ่งนำหน้าทุกคนไป “เร็วเข้านะทุกคน หมื่นราตรีคงทำให้พวกนี้หลับได้อีก 10 นาที”
ข้างในโรงเก็บเฮลิคอปเตอร์ดูอับชื้นและมืดทึม จนทำให้มองไม่เห็นอะไรเลย
“ไฟมา!!” บูม2 พูดเบาๆ และไฟก็ลุกขึ้นทั้งแขนของเขา “สว่างแบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย”
แสงสว่างที่เกิดขึ้นเผยให้เห็นเฮลิคอปเตอร์จำนวน 4 ลำที่เขรอะไปด้วยสนิม ตู้เก็บอุปกรณ์ ล็อกเกอร์นักบิน และแผงควบคุมบริเวณมุมโกดัง ที่น่าจะเอาไว้ใช้เปิดหลังคา เพื่อนำเฮลิคอปเตอร์ออก
“....ใครขับไอ้เศษเหล็กนี่เป็นบ้าง” ตั้มถามขึ้น
มิ้นรีบตอบทันที “...ภูมิมีวิชาศึกษาสายฟ้า เออแต่ตอนนี้มันไม่อยู่”
“ทุกคนลืมเราไปแล้วเหรอ” เมย์ชี้นิ้วเข้าหน้าตัวเองแล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“อ๊ะ ใช่แล้ว! เมย์มีวิชาก๊อปปี้นี่” น้ำเสียงของเจนแสดงถึงความโล่งอก
“ก็นะ แต่คงต้องใช้เวลานานกว่าภูมิหลายนาทีเลยล่ะ” เมย์พูดจบก็หยิบแว่นขึ้นมาใส่และท่องคาถา
“Ich bin Poom” “ศึกษาสายฟ้า ซีร็อกซ์เวอร์ชั่น!!”
เวลาผ่านไปหลายนาที เมย์ก็รู้สึกตัวขึ้น แต่เธอพยุงตัวเองได้ดีกว่าภูมิหลายเท่า
“Sharing Ability!!!” บูม1เอ่ยขึ้น แล้วชี้นิ้วไปที่ตัวเอง บูม2 และเบสท์ “แค่นี้เรา 3 คนก็ขับเปนเหมือนเมย์แล้ว แต่มันอยู่ได้แค่ชั่วโมงเดียวนะ รีบหน่อยๆก็ดี”
“ตอนนี้เราเจอปัญหาใหม่แล้วว่ะ” บูม2บอกทุกคน
“หยุดนะ ทั้งหมดเลย!!” ทหารหมู่ใหญ่ที่ดูจะคลายจากมนต์หมื่นราตรีของจิ๊บ ระดมเล็งปืนมาที่กลุ่ม 125
“หึ แย่จังเลยนะ” แบงค์ถอนหายใจ “ผู้หญิงทุกคนถอยไปก่อน”
“ใครจะนึกว่าต้องมาสู้กันตรงนี้เลย” บอสพูดแล้วว่งเข้าใสทหารกลุ่มนั้น
“แยกร่างงงงงงง!!!” ร่างของบอสแยกออกเป็น 10 คน ทหารเริ่มยิงปืนเข้าใส่
“เวพอน ครีเอท!!” แบงค์แปลงมือตัวเองเป็นปืนกลและยิงกราดกลับ
“ดูถูกกันเกินไปแล้ว บาเรียขี้!!!” เก่งซึ่งวิ่งตามมาติดๆช่วยไว้ทัน
เบสเมื่อได้จังหวะก็ใช้วิชาของตนบ้าง “ปลดอาวุธ!!!” บอสและร่างโคลนเริ่มแจกหมัดใส่พวกทหารที่ไร้อาวุธ
“จัดงานศพให้แม่งเลยดีกว่า” บูม2พูดแล้วชี้นิ้วจุดไฟทหารที่กำลังสู้นัวเนียอยู่ “มหางานศพเพลิง”
“หลอนจิต!!” มิ้นช่วยสะกดจิตหยุดการเคลื่อนไหวอยู่ด้านหลัง
“สลาตันหมัดเมา!!!” โหน่งใช้มือที่สามารถยืดได้หาจังหวะต่อยอยู่ข้างๆมิ้น
“เมย์ บูม1 บูม2 เบสต์ ถอยมาก่อนเร็ว ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปก่อนเลย” ตั้มตะโกนเรียกทั้ง 4 คนออกมาจากการต่อสู้ “โหน่ง ยื่นมือไปเปิดหลังคาที” โหน่งจึงยืดมือสุดแรงไปกดสวิตซ์มุมโกดังที่อยู่ไกลออกไปมาก
เมื่อหลังคาเปิดจนสุด เมย์และทีมก็นำเฮลิคอปเตอร์ขึ้น
“จังหวะนี้แหละปิง เอาเลย” ตั้มตะโกน
“เทเลพอตหมู่!!!” และพวกเขาทุกคนก็หายตัวไปอยู่บนเฮลิคอปเตอร์
“ยังไงเนี่ยยย ยังไม่สะใจเลย” บอสซึ่งยุบร่างโคลนไปแล้วพูดขึ้นอย่างเซ็งๆ
เฮลิคอปเตอร์ทั้ง 4 ลำค่อยๆบินขึ้น เหนือกองทหารที่นอนโอดครวญกับพื้นด้วยความเจ็บปวด
“เอาล่ะ มุ่งหน้าสู่แอฟริกา!!” เมย์ยิ้มร่าแล้วเดินเครื่องเต็มกำลัง
To be Continued...
“โอ๊ะโอ ดูท่าทางทางนั้นจะเริ่มแล้วนะ” เตยและพรรคพวกซึ่งตอนนี้อยู่ข้างรั้วกรมทหารราบ 11 เอ่ยขึ้น เมื่อมีกลุ่มควันมหาศาลลอยขึ้นไกลๆ
“งั้นเราจะยอมแพ้ได้ไงกัน รีบๆเข้าเถอะ”  โอ๋ตอบรับ
ขณะนี้คนทั้งหมด 24 คนเดินเป็นกลุ่มยาวข้างๆรั้วสีเงินที่ทอดยาวขนานกับถนนพหลโยธิน มันคือรั้วของกรมทหารราบที่ 11 ซึ่งแน่นอนว่ามียุทโธปกรณ์บรรจุอยู่ในนั้นมากมาย ไฟถนนเริ่มเปิดแล้วเพราะความมืดในเวลาพลบค่ำ ทางข้างหน้าเริ่มสลัวขึ้น พวกเขาอยู่ห่างประตูใหญ่ราว 200 เมตร
“แต่ทำไมต้องลงไม้ลงมือกันขนาดนั้น?” อรทำลายความเงียบ
“ขนาดไหน” ตุ๊กถามย้อน
“ก็ขนาดที่ควันมันเป็นกลุ่มใหญ่ขนาดนั้นไง ดูเหมือนแรงระเบิดจะพอๆกะที่สยามเมื่อกลางวันเลยนะ”
“หรือไม่ก็มากกว่า” ผลบวบต่อประโยคให้
“นั่นล่ะ มีแต่พระเจ้าที่รู้”
กลุ่มพวกเขาเดินย่ำเตาะแตะมาจนถึงทางเข้าใหญ่ ซึ่งมีทหารยามเข้ากะเวรอยู่ 2 นาย นายหนึ่งคอยเลื่อนราวลูกกรงให้รถเข้า ลักษณะผอมสูงในชุดสีเขียวขี้ม้า อีกรายหนึ่ง ดูเตี้ยและท้วมกว่า นั่งอยู่ในป้อมยาม ทั้ง 2 คนดูจะติดอาวุธพร้อมหยิบตลอดเวลา
“เอกซเปลลิอาร์มัส!!!” จิ๊บตะโกนและชี้นิ้วไปทางทหาร แต่ทว่าไร้ผลใดๆ
“ซวยแล้วมั้ยล่ะ!!” หลายคนร้องขึ้น
จิ๊บสะดุ้งโหยงแล้วหันไปหาทุกคน “อ้าว เราว่ามันน่าจะใช้ได้นี่นา”
“นั่นน่ะมันคาถาปลดอาวุธในแฮร์รี่ แต่นี่มันใช่ที่หน้ายยยยยยยย” นิ้งสวนกลับ “คราวหน้าใช้หมื่นราตรีดีกว่านะ”
“เฮ้ย พวกเธอมาทำอะไรแถวนี้” ทหารที่อยู่ใกล้พวกเขาที่สุดเดินอาดๆเข้ามาถาม
“พวกเรา.....จะมา...เอ่อ.....อะไรดีล่ะ” เข้มพูดติดขัดเมื่อหาเหตุผลที่ฟังขึ้นไม่ได้
“มาตีหัวพ่อ ตื๊ดดด ยังไงล่ะ ฮึ่ยย่ะ!!” เก่งวิ่งตอบขึ้นจากด้านหลังแล้ววิ่งหน้าตั้งไปตบหัวทหารคนนั้น สร้างความงุนงงเป็นเยี่ยงนัก “ไอ้ทหารบ้าบอเอ๊ย เพราะรด.ของพวกแกนี่แหละ ทำให้พวกเราต้องเสียเวลาทั้งชีวิตไปร่วม 20 วันเลยนะรู้มั้ย!!!”
ทหารอีกคนเข้ามาสมทบ ทั้งคู่ชักปืนออกมา “ทุกคนยกมือขึ้น หันหลังแล้วไสหัวไปซะ ไม่งั้นพ่อยิงไส้แตกแน่”
“เพื่อนๆหมอบลง!!” เก่งหันไปบอกทุกคนแล้วแลบลิ้นใส่ทหาร
“ไอ้เด็กเวรรร” ว่าแล้วทหารตัวสูงก็ยิงปืนไปบริเวณขาของเก่ง เสียงไกปืนดังสนั่นไปทั่วบริเวณ
แต่กระสุนหยุดลงและตกลงสู่พื้น เมื่อมันพุ่งเข้าชนกับวัตถุหนืดๆข้นๆบางอย่างที่โผล่ขึ้นมาจากดิน ห้อมล้อมตัวเก่งไว้ ทั้งสองคนระดมยิงมาอีกหลายนัด แต่ทุกนัดก็ได้รับการป้องกันจากบาเรียลึกลับนั่นตลอด
“นี่มันอะไรกันเนี่ย” เขาพูดเสียงสั่น ปืนร่วงจากมือลงพื้น
“หึหึ อย่าดูถูกผู้ใช้ขี้เป็นอันขาด นี่แหละ การป้องกันอันไร้ช่องโหว่ของบาเรียขี้” เก่งพูดและเดินไปเตะกระบอกปืน
ทหารหน้าซีด เหงื่อแตกพลั่ก มือเท้าสั่นระริก “ตะกี้แกพูดว่าไงนะ....”
“ขี้ไงไอ้โง่ ต่อจากนี้พวกแกคงได้หลับสบายแล้วล่ะ” บอสซึ่งหมอบอยู่ห่างออกไปตอบแทนเก่ง
“ตายด้วยขี้เนี่ยนะไอ้สัด สบายชิบหายเลย” แบงค์ซึ่งมักจะขัดคอบอสอยู่เสมอพูดขึ้นบ้าง
“ขี้แอทแทคคคคค” ว่าแล้วก็มีขี้สีน้ำตาลเหลืองเหลวๆ ไหลหนืดขึ้นมาจากพื้นห่อล้อมตัวทั้งสองคนไว้ เสียงอู้อี้ๆฟังไม่รู้เรื่องหลุดรอดออกมาแว่วๆ เมื่อพวกเขาถูกหุ้มจนไม่เหลือแม้แต่รู้อากาศ
เก่งรวบรวมสมาธิ ก่อนกำมือออกไปข้างหน้า พูดด้วยน้ำเสียงเลือดเย็นสุดขีด “โลงศพขี้”
และขี้ที่หุ้มทหารอยู่ก็ระเบิดขึ้น ทั้งสองคนที่อยู่ข้างในแหลกไม่มีชิ้นดี เมื่อซากทั้งหมดรั่วลงพื้น มันก็ละลายหายไปโดยไม่เหลือแม้แต่ร่องรอยไว้
“เสร็จซะที ไปกันต่อเถอะ” ปิงลุกขึ้นจากท่าหมอบ ทุกคนที่เหลือลุกตามกัน
ทั้งหมดเดินมาสักพักจนถึงป้ายบอกทางทำด้วยอะลูมิเนียม สูงเลยหัวพวกเขา จากป้ายอ่านได้ว่า โรงเก็บเฮลิคอปเตอร์ ไปทางซ้ายอีก 350 เมตร พวกเขาจึงมุ่งหน้าไปตามที่ป้ายบอก ระหว่างถนนเล็กๆที่ทอดยาวนั้น การสนทนาเริ่มอีกครั้ง
“นายว่ามันคุ้นๆมั้ย ไอ้ท่าเมื่อกี๊น่ะ” บูม1กระซิบถามบูม2
“เออกุก็ว่างั้น แม่งเหมือนเคยเห็นที่ไหนแวบๆ” บูม2ตอบรับ “รู้สึกฉายาเก่งมันจะอะไรนะ....อ้อ อุจจาระแห่งห้องน้ำชาย”
“เอาน่า คนเขียนบอกมาว่าไม่มีใครนึกออกหรอก ซึ่งมันคงไม่ใช่อย่างนั้นหรอก” เก่งซึ่งไม่น่าจะได้ยินทั้งคู่คุยกันพูดแทรกขึ้นมา
เมื่อถึงหน้าโรงเก็บเฮลิคอปเตอร์ พวกเขาก็เห็นกลุ่มคนดำๆกลุ่มนึงเข้าแถวกันเป็นระเบียบ ซึ่งมองไม่ชัดเพราะความมืดเข้าบดบัง แต่จากขนาดแล้ว น่าจะมีอยู่ร่วม 50 คนเลยทีเดียว ดูเหมือนจะเป็นเหล่าทหารที่รอฟังคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา
“ที่นี้แหละ ตาเราบ้าง” จิ๊บหลับตา “หมื่นราตรี!!!!”
และกลุ่มคนทั้งหมดเบื้องหน้าพวกเขาก็ล้มลงกองกับพื้นพร้อมกันหมด จิ๊บกระโดดไชโยและวิ่งนำหน้าทุกคนไป “เร็วเข้านะทุกคน หมื่นราตรีคงทำให้พวกนี้หลับได้อีก 10 นาที”
ข้างในโรงเก็บเฮลิคอปเตอร์ดูอับชื้นและมืดทึม จนทำให้มองไม่เห็นอะไรเลย
“ไฟมา!!” บูม2 พูดเบาๆ และไฟก็ลุกขึ้นทั้งแขนของเขา “สว่างแบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย”
แสงสว่างที่เกิดขึ้นเผยให้เห็นเฮลิคอปเตอร์จำนวน 4 ลำที่เขรอะไปด้วยสนิม ตู้เก็บอุปกรณ์ ล็อกเกอร์นักบิน และแผงควบคุมบริเวณมุมโกดัง ที่น่าจะเอาไว้ใช้เปิดหลังคา เพื่อนำเฮลิคอปเตอร์ออก
“....ใครขับไอ้เศษเหล็กนี่เป็นบ้าง” ตั้มถามขึ้น
มิ้นรีบตอบทันที “...ภูมิมีวิชาศึกษาสายฟ้า เออแต่ตอนนี้มันไม่อยู่”
“ทุกคนลืมเราไปแล้วเหรอ” เมย์ชี้นิ้วเข้าหน้าตัวเองแล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“อ๊ะ ใช่แล้ว! เมย์มีวิชาก๊อปปี้นี่” น้ำเสียงของเจนแสดงถึงความโล่งอก
“ก็นะ แต่คงต้องใช้เวลานานกว่าภูมิหลายนาทีเลยล่ะ” เมย์พูดจบก็หยิบแว่นขึ้นมาใส่และท่องคาถา
“Ich bin Poom” “ศึกษาสายฟ้า ซีร็อกซ์เวอร์ชั่น!!”
เวลาผ่านไปหลายนาที เมย์ก็รู้สึกตัวขึ้น แต่เธอพยุงตัวเองได้ดีกว่าภูมิหลายเท่า
“Sharing Ability!!!” บูม1เอ่ยขึ้น แล้วชี้นิ้วไปที่ตัวเอง บูม2 และเบสท์ “แค่นี้เรา 3 คนก็ขับเปนเหมือนเมย์แล้ว แต่มันอยู่ได้แค่ชั่วโมงเดียวนะ รีบหน่อยๆก็ดี”
“ตอนนี้เราเจอปัญหาใหม่แล้วว่ะ” บูม2บอกทุกคน
“หยุดนะ ทั้งหมดเลย!!” ทหารหมู่ใหญ่ที่ดูจะคลายจากมนต์หมื่นราตรีของจิ๊บ ระดมเล็งปืนมาที่กลุ่ม 125
“หึ แย่จังเลยนะ” แบงค์ถอนหายใจ “ผู้หญิงทุกคนถอยไปก่อน”
“ใครจะนึกว่าต้องมาสู้กันตรงนี้เลย” บอสพูดแล้วว่งเข้าใสทหารกลุ่มนั้น
“แยกร่างงงงงงง!!!” ร่างของบอสแยกออกเป็น 10 คน ทหารเริ่มยิงปืนเข้าใส่
“เวพอน ครีเอท!!” แบงค์แปลงมือตัวเองเป็นปืนกลและยิงกราดกลับ
“ดูถูกกันเกินไปแล้ว บาเรียขี้!!!” เก่งซึ่งวิ่งตามมาติดๆช่วยไว้ทัน
เบสเมื่อได้จังหวะก็ใช้วิชาของตนบ้าง “ปลดอาวุธ!!!” บอสและร่างโคลนเริ่มแจกหมัดใส่พวกทหารที่ไร้อาวุธ
“จัดงานศพให้แม่งเลยดีกว่า” บูม2พูดแล้วชี้นิ้วจุดไฟทหารที่กำลังสู้นัวเนียอยู่ “มหางานศพเพลิง”
“หลอนจิต!!” มิ้นช่วยสะกดจิตหยุดการเคลื่อนไหวอยู่ด้านหลัง
“สลาตันหมัดเมา!!!” โหน่งใช้มือที่สามารถยืดได้หาจังหวะต่อยอยู่ข้างๆมิ้น
“เมย์ บูม1 บูม2 เบสต์ ถอยมาก่อนเร็ว ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปก่อนเลย” ตั้มตะโกนเรียกทั้ง 4 คนออกมาจากการต่อสู้ “โหน่ง ยื่นมือไปเปิดหลังคาที” โหน่งจึงยืดมือสุดแรงไปกดสวิตซ์มุมโกดังที่อยู่ไกลออกไปมาก
เมื่อหลังคาเปิดจนสุด เมย์และทีมก็นำเฮลิคอปเตอร์ขึ้น
“จังหวะนี้แหละปิง เอาเลย” ตั้มตะโกน
“เทเลพอตหมู่!!!” และพวกเขาทุกคนก็หายตัวไปอยู่บนเฮลิคอปเตอร์
“ยังไงเนี่ยยย ยังไม่สะใจเลย” บอสซึ่งยุบร่างโคลนไปแล้วพูดขึ้นอย่างเซ็งๆ
เฮลิคอปเตอร์ทั้ง 4 ลำค่อยๆบินขึ้น เหนือกองทหารที่นอนโอดครวญกับพื้นด้วยความเจ็บปวด
“เอาล่ะ มุ่งหน้าสู่แอฟริกา!!” เมย์ยิ้มร่าแล้วเดินเครื่องเต็มกำลัง
To be Continued...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น