ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : คำสั่งฆ่า สยามถูกทำลาย
ท่ามกลางแสงแดดจ้าแห่งวันอาทิตย์ ใจกลางกรุงเทพอันคลาคล่ำไปด้วยผู้คน มีกลุ่มเด็ก 4 คนกำลังเดินดูของตามร้านค้าต่างๆในย่านสยามสแควร์
...............Center Point of Siam Square, Bangkok
Present Day
“กำลังนึกถึงการเลือกตั้งประธานนักเรียนวันพรุ่งนี้ จะทำยังไงถ้าพวกเราแพ้ล่ะ” แม๊กเอ่ยถามทุกคนขณะที่พวกเขาอยู่แถวซอย 2
“หึ คิดๆแล้วก็น่าหัวเราะอยู่เหมือนกัน” ตองตอบแบบเจ้าเล่ห์
“ไม่เป็นไรหรอกน่า เมื่อเช้าเราบนกะพ่อขุนไว้แล้ว พรุ่งนี้ยังไงเราก็ได้ปราศรัยก่อนนี่ ต้องยกให้เป็นหน้าที่เต้แล้วล่ะ” มิ้นซึ่งเป็นหญิงคนเดียวในกลุ่มเสริมต่อ
“สบายมาก แต่เมื่อเช้าเราทำเชือกรองเท้าขาดว่ะ ไม่ใช่ลางร้ายใช่มั้ยเนอะ ฮ่าๆๆ” เต้ขานรับ
“ถ้าใช่ นายจะยอมให้ไอ้หงอนิกมันมาเป็นประธานนักเรียนเหรอ”
“เหอะๆ ไม่มีทางซะล่ะ”
“กินอะไรกันก่อนมั้ย จะเที่ยงแล้ว” มิ้นตัดบท
ทั้งหมดเข้าร้านอาหารที่ใกล้พวกเขาที่สุดในตอนนี้ คือร้านดู๋ดี๋สยาม ถึงแม้หน้าร้านจะดูบรรยากาศเป็นกันเองและกว้างขวางสะอาดเรียบร้อย แต่ทางด้านหลังที่พวกเขาเข้ากลับไม่ใช่อย่างนั้นเลยแม้แต่น้อย โสโครกและคับแคบ มีแต่พนักงานนั่งอยู่เต็มไปหมด โชคยังดีที่ยังมีโต๊ะว่างพอสำหรับ 4 คน
ตองหยิบเมนูมาเปิดดู พลิกไปมาและทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ก่อนจะกระซิบถามเต้ว่า “เฮ้ย มันต่างกันยังไงวะ” ตองชี้ไปที่ 4 รูป 4 เมนู ซึ่งถึงแม้จะดูออกว่าลักษณะการเรียงเส้นมันไม่เหมือนกัน แต่ข้อเท็จจริงที่มันมีเหมือนกันก็คือทั้ง 4 รูปเป็นก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก ไม่แห้ง และ 33 บาทเท่ากัน
“อ๋อ รูปแรกเป็นก๋วยเตี๋ยวหมูครับ ถัดมาเป็นไก่ ถัดมาอีกเป็นปลา รูปสุดท้ายเป็นเนื้อครับ” พนักงานที่ดูเหมือนจะเข้าใจว่าพวกเขาสงสัยอะไรกันก็รีบตอบทันที
“อ้อเหรอคะ แหม รูปสวยจนดูไม่ออกเลยเนอะ” มิ้นพูดแบบประชดประชันเต็มที่
หลังจากทั้งหมดสั่งอาหารกันอย่างงงๆและคืนเมนูให้กับพนักงานไป พวกเขาก็คุยกันต่อ
“ไม่ได้อคติเลยนะ แต่มีใครคิดเหมือนเราบ้างว่าชื่อพรรคของไอ้นิกมันแปลกๆนะ” ตั้นพูดขึ้นมา
“เออใช่ ชื่ออะไรนะ ลืมไปแล้ว” เต้ที่กำลังดึงกระดาษทิชชู่เล่นถาม
“คุณมัดดัย น่ะ” มิ้นตอบแบบเซ็งๆ
“คุณมัดดัย เอาสมองส่วนไหนคิดวะ”
“ก๊ากกก คุณมัดดัย ถ้าไม่ได้จะไม่แปลกใจเลย”
“เดี๋ยว ทุกคน ชื่อนี้มันมีอะไรแฝงอยู่นะ” เต้แทรก ทำเอาทุกคนเงียบ
“เราลองมาไล่ทีละตัวนะ” เต้หยิบกระดาษออกมาจากกระเป๋าสีดำของเขา พร้อมปากกา 1 ด้าม ก่อนจะเขียนชื่อพรรค คุณมัดดัย ของคู่แข่งของเขาลงไป “นี่เป็นปริศนา ขอเวลาฉันคิดหน่อย”
“คุณ....หมายถึงประโยชน์ ความดี คุณ....ไหน แล้วทำไมต้องมัดดัย คุณมัดดัย....เพราะมัดดัยมันมีประโยชน์ เพราะเป็นความดี ไม่ ไม่ นั่นไร้สาระ ถ้าจะมัดดัย คุณจะต้องหมายถึง...หมายถึงอะไร”
“สรรพนามบุรุษที่ 2” ตองช่วยตอบให้เพราะรำคาญเต็มที
“เออใช่ ต่อไป มัด มัดมันอะไร แล้วยังไง  มัดดัย เดี๋ยวก่อน มัด ดัย คุณ ฉันนึกอะไรบางอย่างออก คุณกำลังมัด มัดกับดัย ดัยถ้าเป็นชื่อคน มันก็อาจจะกำลังฆาตกรรม”
“เดี๋ยวสิ หมายความว่ายังไง ฆาตกรรม” ตั้นถามขึ้นมา
“ก็มัดนอกจากจะทำให้แน่นและอึดอัดแล้ว มันอาจจะเชื่อมโยงไปถึงการฆ่าด้วยการ มัด รัด เลยก็ได้ .....ถ้าไม่ใช่อย่างนั้น มัดอาจจะหมายถึง....”
“m-u-s-t ต้อง” ตั้นตอบเนิบๆ
“...ไอ้โง่” เสียงสบถเบาๆของตอง
“ก็ถ้าไม่ใช่คุณมัด ก็ต้องคุณต้องน่ะแหละ ลองตัวสุดท้ายสิ” ตั้นเสริม
เต้พูดต่ออย่างไม่เกรงใจใคร “ดัยล่ะ ดัย ดัยก็คือดัย มันไม่มีความหมายนี่  แต่ทำไมไม่มีความหมาย”
“ก็เพราะมัน must น่ะสิ”
“เดี๋ยวๆ must เป็นภาษาอังกฤษ งั้น ดัย ก็ไม่ได้เป็นภาษาไทย แต่มันเป็นคำในภาษาอังกฤษ มันอาจเป็น di dai dy ไม่ๆๆๆๆ มันอาจเป็น di dai die ..die คุณมัดดัย และถ้าหากเรานำทั้ง 3 คำที่แปลแล้วมาเรียงกัน เราก็จะได้ประโยคมาประโยคหนึ่ง ที่เขาแฝงความนัยไว้ในนั้น ใน 3 พยางค์ของชื่อพรรค.....”
“คุณ must die”.........มิ้นรีบพูดขึ้นมาก่อน
เมื่อได้ยินดังนั้นเต้ถึงกับถอนหายใจ ตองทำท่าไม่รู้ไม่ชี้ ตั้นยังคงครุ่นคิดอยู่ ขณะที่มิ้นแอบหัวเราะ
“ขำอะไรน่ะมิ้น”
“ก็มันมีคนสติดีสักกี่คนกันที่จะใส่เจตนาตัวเองไว้ในชื่อ”
“เออจริง ถ้ามันกะจะฆ่านักเรียนทุกคนจริงๆ มันจะตั้งชื่ออย่างนั้นทำแมวอะไร”
“นายก็รู้นี่ว่าไอ้นิคแม่งเพี้ยน”
“ฮะๆๆๆ ไอ้บ้าเอ๊ย”
แต่ยังไม่ทันที่ทั้ง 4 คนจะได้สติดี ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อคนที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆเขาถูกระดมยิงตายจากข้างนอกร้าน กระจกด้านหน้าแตกเป็นเสี่ยงๆ  เคาเตอร์ถูกยิงเป็นรูลึก เศษไม่แตกกระจาย ควันฟุ้งไปทั่ว เสียงปืนทั้งลูกซอง แม็กนั่ม ปืนกล ดังกระหึ่มไปทั่วบริเวณ ทั้ง 4 คนรีบวิ่งไปยังทางออกหลังร้านทันที
“นี่มันอะไรกันเนี่ย”
“ไว้ก่อนได้มั้ย วิ่งเร็ว”
ทันใดนั้นพวกเขาก็รู้สึกว่ามีเสียงระเบิดดังขึ้นด้านหลัง โต๊ะเก้าอี้ปลิวว่อนกระจาย ไฟเริ่มไหม้ลามไปทั่ว ผู้คนหน้าร้านวิ่งหนีกันอลหม่าน ลูกค้าและแม่ครัวในร้านตายเรียบ ระเบิดยังคงลงตามมาอีกหลายลูก อาคารรอบข้างเริ่มพังทลาย มีเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งบินเลียดหลังคาร้านดู๋ดี๋สยามอยู่ และมีคนใช้โทรโข่งตะโกนลงมาพูดกันคนข้างล่าง
“ถ้าพวกแกยังไม่ตาย แกไม่สามารถหนีท่านนิคพ้นหรอก ไม่ช้าก็เร็ว คนของเราจะต้องสังหารพวกแกได้แน่ จำเอาไว้ ตั้น เต้ มิ้น ตอง นี่เป็นแค่การเตือนล่วงหน้า ไม่มีใครหยุดยั้งแผนการของท่านนิคได้”
“ได้ยินมันมั้ย วิ่งโว้ยยยวิ่ง” ตองตะโกนลั่น
และเฮลิคอปเตอร์ลำนั้นก็บินสูงขึ้น ก่อนที่คนในเครื่องจะหยิบกล่องสีดำใบโตโยนลงมา ทันทีที่กล่องกระทบพื้น ก็เกิดแรงระเบิดมหึมา มากกว่าลูกที่แล้วๆมา เสียงระเบิดดังจนกระจกรอบข้างแตก ควันไฟดำทะมึนลอยขึ้นสู่ฟ้า ขี้เถ้าปลิวว่อนทั่วอากาศ แรงระเบิดไล่ตามหลังพวกของตองมาเรื่อยๆ มนเผาผลาญทุกสิ่งที่มันวิ่งผ่าน พวกเขาวิ่งย้อนขึ้นมาทางไปสยามดิสคัฟเวอรี่ จนเมื่อพวกของตองมาถึงบันไดเลื่อนขึ้นรถไฟฟ้า แรงระเบิดก็เลยไปถึงบริเวณถนน รถที่วิ่งผ่านระเบิดลุกไหม้ และระเบิดติดกันเป็นทอดๆ นับสิบคัน พวกเขาได้แต่ยืนตะลึงเมื่อบันไดเลื่อนพาขึ้นไปจนสุด
“เราจะทำยังไงกับนิคดีล่ะเนี่ย” มิ้นถามพร้อมเอามือปาดเหงื่อ
“เราจะหยุดมัน” ตองตอบง่ายๆห้วนๆ
To be Continued
...............Center Point of Siam Square, Bangkok
Present Day
“กำลังนึกถึงการเลือกตั้งประธานนักเรียนวันพรุ่งนี้ จะทำยังไงถ้าพวกเราแพ้ล่ะ” แม๊กเอ่ยถามทุกคนขณะที่พวกเขาอยู่แถวซอย 2
“หึ คิดๆแล้วก็น่าหัวเราะอยู่เหมือนกัน” ตองตอบแบบเจ้าเล่ห์
“ไม่เป็นไรหรอกน่า เมื่อเช้าเราบนกะพ่อขุนไว้แล้ว พรุ่งนี้ยังไงเราก็ได้ปราศรัยก่อนนี่ ต้องยกให้เป็นหน้าที่เต้แล้วล่ะ” มิ้นซึ่งเป็นหญิงคนเดียวในกลุ่มเสริมต่อ
“สบายมาก แต่เมื่อเช้าเราทำเชือกรองเท้าขาดว่ะ ไม่ใช่ลางร้ายใช่มั้ยเนอะ ฮ่าๆๆ” เต้ขานรับ
“ถ้าใช่ นายจะยอมให้ไอ้หงอนิกมันมาเป็นประธานนักเรียนเหรอ”
“เหอะๆ ไม่มีทางซะล่ะ”
“กินอะไรกันก่อนมั้ย จะเที่ยงแล้ว” มิ้นตัดบท
ทั้งหมดเข้าร้านอาหารที่ใกล้พวกเขาที่สุดในตอนนี้ คือร้านดู๋ดี๋สยาม ถึงแม้หน้าร้านจะดูบรรยากาศเป็นกันเองและกว้างขวางสะอาดเรียบร้อย แต่ทางด้านหลังที่พวกเขาเข้ากลับไม่ใช่อย่างนั้นเลยแม้แต่น้อย โสโครกและคับแคบ มีแต่พนักงานนั่งอยู่เต็มไปหมด โชคยังดีที่ยังมีโต๊ะว่างพอสำหรับ 4 คน
ตองหยิบเมนูมาเปิดดู พลิกไปมาและทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ก่อนจะกระซิบถามเต้ว่า “เฮ้ย มันต่างกันยังไงวะ” ตองชี้ไปที่ 4 รูป 4 เมนู ซึ่งถึงแม้จะดูออกว่าลักษณะการเรียงเส้นมันไม่เหมือนกัน แต่ข้อเท็จจริงที่มันมีเหมือนกันก็คือทั้ง 4 รูปเป็นก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก ไม่แห้ง และ 33 บาทเท่ากัน
“อ๋อ รูปแรกเป็นก๋วยเตี๋ยวหมูครับ ถัดมาเป็นไก่ ถัดมาอีกเป็นปลา รูปสุดท้ายเป็นเนื้อครับ” พนักงานที่ดูเหมือนจะเข้าใจว่าพวกเขาสงสัยอะไรกันก็รีบตอบทันที
“อ้อเหรอคะ แหม รูปสวยจนดูไม่ออกเลยเนอะ” มิ้นพูดแบบประชดประชันเต็มที่
หลังจากทั้งหมดสั่งอาหารกันอย่างงงๆและคืนเมนูให้กับพนักงานไป พวกเขาก็คุยกันต่อ
“ไม่ได้อคติเลยนะ แต่มีใครคิดเหมือนเราบ้างว่าชื่อพรรคของไอ้นิกมันแปลกๆนะ” ตั้นพูดขึ้นมา
“เออใช่ ชื่ออะไรนะ ลืมไปแล้ว” เต้ที่กำลังดึงกระดาษทิชชู่เล่นถาม
“คุณมัดดัย น่ะ” มิ้นตอบแบบเซ็งๆ
“คุณมัดดัย เอาสมองส่วนไหนคิดวะ”
“ก๊ากกก คุณมัดดัย ถ้าไม่ได้จะไม่แปลกใจเลย”
“เดี๋ยว ทุกคน ชื่อนี้มันมีอะไรแฝงอยู่นะ” เต้แทรก ทำเอาทุกคนเงียบ
“เราลองมาไล่ทีละตัวนะ” เต้หยิบกระดาษออกมาจากกระเป๋าสีดำของเขา พร้อมปากกา 1 ด้าม ก่อนจะเขียนชื่อพรรค คุณมัดดัย ของคู่แข่งของเขาลงไป “นี่เป็นปริศนา ขอเวลาฉันคิดหน่อย”
“คุณ....หมายถึงประโยชน์ ความดี คุณ....ไหน แล้วทำไมต้องมัดดัย คุณมัดดัย....เพราะมัดดัยมันมีประโยชน์ เพราะเป็นความดี ไม่ ไม่ นั่นไร้สาระ ถ้าจะมัดดัย คุณจะต้องหมายถึง...หมายถึงอะไร”
“สรรพนามบุรุษที่ 2” ตองช่วยตอบให้เพราะรำคาญเต็มที
“เออใช่ ต่อไป มัด มัดมันอะไร แล้วยังไง  มัดดัย เดี๋ยวก่อน มัด ดัย คุณ ฉันนึกอะไรบางอย่างออก คุณกำลังมัด มัดกับดัย ดัยถ้าเป็นชื่อคน มันก็อาจจะกำลังฆาตกรรม”
“เดี๋ยวสิ หมายความว่ายังไง ฆาตกรรม” ตั้นถามขึ้นมา
“ก็มัดนอกจากจะทำให้แน่นและอึดอัดแล้ว มันอาจจะเชื่อมโยงไปถึงการฆ่าด้วยการ มัด รัด เลยก็ได้ .....ถ้าไม่ใช่อย่างนั้น มัดอาจจะหมายถึง....”
“m-u-s-t ต้อง” ตั้นตอบเนิบๆ
“...ไอ้โง่” เสียงสบถเบาๆของตอง
“ก็ถ้าไม่ใช่คุณมัด ก็ต้องคุณต้องน่ะแหละ ลองตัวสุดท้ายสิ” ตั้นเสริม
เต้พูดต่ออย่างไม่เกรงใจใคร “ดัยล่ะ ดัย ดัยก็คือดัย มันไม่มีความหมายนี่  แต่ทำไมไม่มีความหมาย”
“ก็เพราะมัน must น่ะสิ”
“เดี๋ยวๆ must เป็นภาษาอังกฤษ งั้น ดัย ก็ไม่ได้เป็นภาษาไทย แต่มันเป็นคำในภาษาอังกฤษ มันอาจเป็น di dai dy ไม่ๆๆๆๆ มันอาจเป็น di dai die ..die คุณมัดดัย และถ้าหากเรานำทั้ง 3 คำที่แปลแล้วมาเรียงกัน เราก็จะได้ประโยคมาประโยคหนึ่ง ที่เขาแฝงความนัยไว้ในนั้น ใน 3 พยางค์ของชื่อพรรค.....”
“คุณ must die”.........มิ้นรีบพูดขึ้นมาก่อน
เมื่อได้ยินดังนั้นเต้ถึงกับถอนหายใจ ตองทำท่าไม่รู้ไม่ชี้ ตั้นยังคงครุ่นคิดอยู่ ขณะที่มิ้นแอบหัวเราะ
“ขำอะไรน่ะมิ้น”
“ก็มันมีคนสติดีสักกี่คนกันที่จะใส่เจตนาตัวเองไว้ในชื่อ”
“เออจริง ถ้ามันกะจะฆ่านักเรียนทุกคนจริงๆ มันจะตั้งชื่ออย่างนั้นทำแมวอะไร”
“นายก็รู้นี่ว่าไอ้นิคแม่งเพี้ยน”
“ฮะๆๆๆ ไอ้บ้าเอ๊ย”
แต่ยังไม่ทันที่ทั้ง 4 คนจะได้สติดี ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อคนที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆเขาถูกระดมยิงตายจากข้างนอกร้าน กระจกด้านหน้าแตกเป็นเสี่ยงๆ  เคาเตอร์ถูกยิงเป็นรูลึก เศษไม่แตกกระจาย ควันฟุ้งไปทั่ว เสียงปืนทั้งลูกซอง แม็กนั่ม ปืนกล ดังกระหึ่มไปทั่วบริเวณ ทั้ง 4 คนรีบวิ่งไปยังทางออกหลังร้านทันที
“นี่มันอะไรกันเนี่ย”
“ไว้ก่อนได้มั้ย วิ่งเร็ว”
ทันใดนั้นพวกเขาก็รู้สึกว่ามีเสียงระเบิดดังขึ้นด้านหลัง โต๊ะเก้าอี้ปลิวว่อนกระจาย ไฟเริ่มไหม้ลามไปทั่ว ผู้คนหน้าร้านวิ่งหนีกันอลหม่าน ลูกค้าและแม่ครัวในร้านตายเรียบ ระเบิดยังคงลงตามมาอีกหลายลูก อาคารรอบข้างเริ่มพังทลาย มีเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งบินเลียดหลังคาร้านดู๋ดี๋สยามอยู่ และมีคนใช้โทรโข่งตะโกนลงมาพูดกันคนข้างล่าง
“ถ้าพวกแกยังไม่ตาย แกไม่สามารถหนีท่านนิคพ้นหรอก ไม่ช้าก็เร็ว คนของเราจะต้องสังหารพวกแกได้แน่ จำเอาไว้ ตั้น เต้ มิ้น ตอง นี่เป็นแค่การเตือนล่วงหน้า ไม่มีใครหยุดยั้งแผนการของท่านนิคได้”
“ได้ยินมันมั้ย วิ่งโว้ยยยวิ่ง” ตองตะโกนลั่น
และเฮลิคอปเตอร์ลำนั้นก็บินสูงขึ้น ก่อนที่คนในเครื่องจะหยิบกล่องสีดำใบโตโยนลงมา ทันทีที่กล่องกระทบพื้น ก็เกิดแรงระเบิดมหึมา มากกว่าลูกที่แล้วๆมา เสียงระเบิดดังจนกระจกรอบข้างแตก ควันไฟดำทะมึนลอยขึ้นสู่ฟ้า ขี้เถ้าปลิวว่อนทั่วอากาศ แรงระเบิดไล่ตามหลังพวกของตองมาเรื่อยๆ มนเผาผลาญทุกสิ่งที่มันวิ่งผ่าน พวกเขาวิ่งย้อนขึ้นมาทางไปสยามดิสคัฟเวอรี่ จนเมื่อพวกของตองมาถึงบันไดเลื่อนขึ้นรถไฟฟ้า แรงระเบิดก็เลยไปถึงบริเวณถนน รถที่วิ่งผ่านระเบิดลุกไหม้ และระเบิดติดกันเป็นทอดๆ นับสิบคัน พวกเขาได้แต่ยืนตะลึงเมื่อบันไดเลื่อนพาขึ้นไปจนสุด
“เราจะทำยังไงกับนิคดีล่ะเนี่ย” มิ้นถามพร้อมเอามือปาดเหงื่อ
“เราจะหยุดมัน” ตองตอบง่ายๆห้วนๆ
To be Continued
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น