ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Genius - อาจารย์โหดนักเรียนโคตรอัจฉริยะ Ver.2

    ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 11 – Marrians

    • อัปเดตล่าสุด 13 เม.ย. 49


    การประชุมทางโทรศัพท์



    "ยังงั้นเหรอ ชัชชัยมันระเบิดประเทศไทยทิ้งเลย"

    "ใช่ครับอาจารย์ช่วง โดยไม่ได้ปรึกษาใครก่อนเลยด้วย"

    "สถานกวดวิชาของเราก็อยู่ในประเทศไทยร่วมสิบสาขา"

    "ทำยังงี้เราขาดทุนมหาศาลเลยนะ"

    "ในความเห็นของดิฉัน อุไรวรรณ คิดว่าควรจะกำจัดเขาทิ้งนะคะ"

    "ไม่เป็นไรหรอกครับ อาจารย์อุ๊ มันกับพวกลูกน้องท่าทางจะหนีออกมาไม่ทัน ซี้แหงแก๋อยู่กลางกรุงเทพ"

    "แล้วทำไมมันถึงต้องระเบิดทั้งประเทศเลยล่ะ"

    "สาเหตุนี้ไม่ได้รับรายงานมาเหมือนกันครับ"

    "ช่วยไม่ได้นะ พวกเราเหลือกันแค่ 11 คนแล้ว ประจำตำแหน่งเดิมของตนต่อไป แล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น "

    "ครับ/ค่ะ"



    …"เด็กไทยไม่สามารถฉลาดได้โดยไม่เรียนพิเศษเลย"

    …"การที่จะฉลาดได้นั้น ไม่ใช่ว่าจะทำได้ทุกคน แต่มันถูกกำหนดไว้ตั้งแต่เกิดแล้ว"

    …"สถานกวดวิชาหลายๆที่ได้บีบบังคับให้เด็กไปเรียนพิเศษ โดยต้องจ่ายค่าเรียนอันแสนแพงออกไป"

    …"โรงเรียนของพวกเราก็เป็นหนึ่งในเหยื่อของการกระทำนั้น"

    …"และตอนนี้ พวกเราได้วางแผนแก้แค้นแด่รร.ที่ล่มสลายไป"



    The Genius – Season 2

    Chapter 11 – Marrians



    "About 2 hours ago , Reuter News Agency reported us that the entire country of Thailand has been totally destroyed without any suspects and till now we still have no idea about the primary cause or number of victims , which are guessed at sixty million. Further information will be informed to you ASAP."



    "เฮ้ยๆ.." ปิงพูดขึ้นมาคนแรกหลังจากเบสต์เพิ่งปิดวิทยุไป ตอนนี้เฮลิคอปเตอร์ทั้ง 4 ลำของพวกเขากำลังลอยลำอยู่ทางทะเลทรายตอนเหนือของตะวันออกกลางแล้ว

    "ตะกี้เราได้ฟังว่า Thailand ไม่ผิดเพี้ยนใช่มั้ย" เบสต์ไม่เชื่อหูตัวเอง

    "เรา 6 คนได้ยินเหมือนกันแหละ"  นิ้งซึ่งนั่งอยู่ข้างหลังสุดช่วยยืนยัน "รร.ถูกทำลาย แล้วไหนยังจะประเทศไทยอีก"

    "คิดว่าเกี่ยวกับพวกช่วงมั้ย" น้ำเพชรถามแทรกขึ้นมา

    "มีโอกาสล่ะน่ะ"

    "แย่ล่ะสิ ทีมในประเทศไทยล่ะ" เมย์อินเตอร์โฟนมาจากเฮลิคอปเตอร์ลำข้างๆ

    "ซวยแล้ว ลองโทรเร็ว เข้ามือถือทั้ง 4 คนนั่นเลย" เบสต์รีบฉวยไมค์มาตอบ

    ปิงหยิบมือถือของตนออกมา แล้วกดหาเบอร์ของเพื่อนที่ขาดการติดต่อไปด้วยความเร่งรีบ "เจนนี่ยังไงก็วิ่งเร็วได้ ....แต่เร็วแค่นั้น จะหนีพ้นมั้ยนะ"

    "ทุกลำชะลอความเร็วก่อน เราส่งทีมเตยได้แค่นี้แหละ ใกล้กว่านี้พายุทรายจะพาเฮลิคอปเตอร์ตก จบเห่กันหมด" เสียงของบูม1แทรกขึ้นมาทางวิทยุ

    เฮลิคอปเตอร์ทั้ง 4 ลำเริ่มบินเลียดพื้น ต่ำลงเรื่อยๆ ท่ามกลางลมแรงที่พัดพาทรายปลิวไปมา กระทบกับกระจกหน้าลำจนแทบมองไม่เห็นข้างล่าง พวกเขาลงจอดถึงพื้นไม่ได้ด้วยความที่เป็นพื้นทราย ซึ่งอ่อนเกินไปที่จะนำลงและบินขึ้นได้อย่างปลอดภัย บันไดจากเฮลิคอปเตอร์ลำของเมย์ถูกโยนลงมาจนถึงพื้น เก่งไต่ลงมาคนแรก ก่อนจะตามด้วยเตย โอ๋ และมิ้น จนครบ 4 คน

    "โชคดีนะทั้ง 4 คน" เข้มยื่นหน้าออกมาจากด้านบนแล้วโบกมือให้พวกเขา ซึ่งตอนนี้ต้องเอามือมาป้องตาเพื่อไม่ให้ทรายเข้าตา

    ไม่นานเฮลิคอปเตอร์ทั้ง 4 ลำก็กลับขึ้นสู่ท้องฟ้า จนเสียงเครื่องค่อยๆเบาลงจนเงียบไป

    "ยังงี้จะไปเดินได้ยังไง" เก่งตะโกนต้านเสียงลมที่พัดแรงมากจนหูอื้อ

    "นี่เลยนี่เลย" โอ๋พูดพร้อมกับล้วงมือลงไปในกระเป๋าเสื้อ "แว่นตาไปไหนก็ได้" (มีแสงสีแดงสลับเหลืองหมุนไปมาเป็นฉากหลัง)

    "ด้วยแว่นตานี้นะ จะทำให้พวกเรามองเห็นได้ชัดเจนชัดแจ๋ว ไม่ต้องกังวลไม่ว่าจะเป็นน้ำ ทราย หิมะ ฝุ่น ควัน อะไรเลยล่ะ"

    "นี่เธอเป็นโดเรมอนรึไงเนี่ย" มิ้นที่รับแว่นตามาอย่างเก้ๆกังๆถามขึ้น

    โอ๋หัวเราะ "ฮะๆๆๆ ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกน่า มีอยู่ไม่กี่อย่างเอง"

    "งั้นมีอะไรอีกล่ะ" เตยทำตาวาวเมื่อเห็นกระเป๋าเสื้อของโอ๋ใส่ของที่มีขนาดใหญ่ๆได้เกินจริง

    "ไว้ถึงเวลาค่อยเอาออกมาดีกว่านะ ขี้เกียจควานหาน่ะ แหะๆ"

    แล้วทั้ง 4 ก็นำแว่นที่มีกรอบสีแดง ขาแว่นสีดำ ปิดมิดชิดทั้ง 2 ข้างสวม แล้วเดินต่อไป

    "จากข้อมูลที่ดูมาจากคอมพัช เราจะต้องมุ่งหน้าไปทางนี้ราว 30 นาที แล้วจะเจอสิ่งก่อสร้างตั้งอยู่กลางทะเลทราย" เก่งหยิบกระดาษจากกระเป๋ากางเกงที่จดด้วยลายมือขึ้นมาอ่าน

    "ซึ่งนั่นก็ต้องเป็นฐานทัพของเคมีอุ๊อย่างไม่ต้องสงสัย" เตยต่อประโยคให้

    โดยรอบพวกเขาเท่าที่สายตาจะมองถึง เต็มไปด้วยเนินทรายสลับลดหลั่นกันจนถึงเส้นขอบฟ้า เสียงลมพัดอื้ออึงดังอยู่ข้างๆหู แสงแดดแรงกล้าในช่วงยามบ่ายแผดเผาผิวอย่างไม่ปราณี จนกระทั่ง 10 นาทีต่อมา พวกเขาก็เจอสิ่งก่อสร้างรูปทรงแปลกๆ และสร้างขึ้นด้วยความวิจิตรพิสดารจนแทบไม่น่าเชื่อว่าเป็นฝีมือมนุษย์

    "นั่นอะไรน่ะ" มิ้นชี้นิ้วไปยังอาคารรูปทรงกลม ทำจากวัสดุแวววาวสีเงิน และไม่ได้แตะพื้น แต่กลับลอยอยู่เลียดๆได้อย่างน่าอัศจรรย์ พาดด้วยตัวอักษรแปลกประหลาดที่พวกเขาอ่านไม่ออก และยังไร้ร่องของสิ่งมีชีวิตอย่างมนุษย์อย่างเห็นได้ชัด บริเวณบนสุดมีเสาอากาศมากมาย และมีจานดาวเทียมมหึมากางหันหน้าขึ้นท้องฟ้าอยู่

    "ข้อมูลผิดพลาดเหรอเนี่ย เราเดินมา 10 นาทีเองนะ" เก่งขยำกระดาษแล้วทิ้งลงพื้น

    "เอาล่ะ ถึงจนได้ พวกเราเข้าไปเด็ดหัวไอ้อุ๊กันเถอะ" มิ้นเอ่ยแล้ววิ่งนำหน้าทุกคนไปก่อน

    ทั้ง 4 คนค่อยๆเข้าไปในตัวอาคารทางบันไดที่อยู่ใกล้ที่สุด ทางข้างในซับซ้อนมาก มีบันไดและลิฟต์อยู่เต็มไปหมด ดูเหมือนจะถูกสร้างเพื่อใช้วิจัยและเก็บข้อมูลต่างๆ พวกเขาตัดสินใจที่จะขึ้นไปข้างบน ซึ่งน่าจะเป็นที่ตั้งของหอควบคุม แน่นอนว่าพวกเขาเข้ามาลึกเกินกว่าจะจำทางเดินออกไปได้แล้ว แต่จนถึงตอนนี้ กลับไม่เจอใครเลยสักคน

    "ชี่...มีเสียงคนมา" โอ๋ยื่นมือมากันทุกคนไว้ ทั้งหมดรีบเอาตัวเข้าชิดกำแพง

    เสียงการสนทนาที่ไม่เสนาะหูเอาซะเลยใกล้เข้ามาเรื่อยๆ มันไม่ใช่เสียงพูดของคน มันแหลมสูงและจับใจความไม่ได้ พวกเขาเหงื่อตกและหัวใจเต้นแรงเร็ว หายใจถี่ขึ้น เมื่อเจ้าของเสียงกำลังจะเดินผ่านบริเวณที่พวกเขาซ่อนตัวอยู่

    และสิ่งมีชีวิตที่รูปร่างประหลาดพิสดารอุบาทว์จิตที่สุดในชีวิตพวกเขา 2 ตัว ได้เดินผ่านไป เตยเผลอกรี๊ดออกมาแต่โอ๋เอามือปิดปากเธอไว้ทัน เก่งตาลุกโพลง มิ้นเบือนหน้าหนี ทั้ง 4 คนอยู่ในอาการช็อคพอๆกัน มันมี 3 ขา สูงประมาณ 2 เมตร ทั้งลำตัวมีสีเงิน หัวใหญ่โตผิดขนาดมนุษย์ ตาสีเขียว ปากเล็กเท่ารูเข็ม แขนขายาวเก้งก้าง เท้าและมือเป็นพังผืด

    ราว 5 นาทีผ่านไป กว่าจะมีใครพูดอะไรขึ้นอีกครั้ง

    "เมื่อกี้มันตัวอะไรกัน" เก่งเอ่ยขึ้นคนแรก

    "ลูกน้องอุ๊เหรอ....ดูยังไงก็ไม่ใช่หุ่นยนต์นะ" โอ๋ทำท่าครุ่นคิด "เราเดินตามพวกมันไปดีกว่า"

    ระหว่างระเบียงที่ทอดยาวไปข้างหน้า 2 ฝั่งซ้ายขวาเป็นที่ว่างลึกที่มืดสนิทและมองไม่เห็นก้น ดูเหมือนพวกเขามาถูกทางแล้ว บริเวณนั้นมิ้นเหลือบไปเห็นป้ายซึ่งมีโลกอยู่ในนั้นด้วย คู่กับดาวอีกดวงหนึ่งมีสีแดงเพลิง เขาจึงเรียกให้อีก 3 คนดู

    "อืม....ดูยังไง นี่มันก็ดาวอังคารนะ" เตยออกความเห็น

    "ใช่ แล้วไอ้ตัวอักษรยึกยือนี่ล่ะ" เก่งชี้ไปที่แถบของสัญลักษณ์แปลกประหลาดบนสุดของป้าย

    โอ๋ล้วงกระเป๋าอีกครั้ง "นี่เลยนี่เลย วุ้นแปลภาษา" (แสงสีแดงสลับเหลืองหมุนไปมารอบๆอีกครั้ง) "ถ้าใช้วุ้นนี้นะ ไม่ว่าจะฟังพูดอ่านเขียน เราก็สามารถเข้าใจได้ทุกภาษาเลยล่ะ" เธอแบ่งให้เพื่อนๆไปกิน เมื่อทั้งหมดเคี้ยวเรียบร้อยแล้วก็หันไปมองป้ายอีกครั้ง

    "เอ่อ...-โครงการ ยึดครองดาวโลก แห่งสาธารณรัฐดาวอังคาร- มันเขียนยังงี้จริงๆเหรอเนี่ย" เตยอ่านราวกับไม่เชื่อสายตาตัวเอง

    "ก็นะ วุ้นนี้ไม่ผิดพลาดอยู่แล้ว แล้วดูสิ มันมีรูปดาวอังคารคู่กับโลกเราระเบิด จะให้คิดเป็นอะไร"

    กว่าพวกเขาจะรู้สึกตัวว่ามีสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดนั่นเดินมาหา ก็สายไปเสียแล้ว มันควักปืนอะไรสักอย่างมายิงทั้ง 4 คน และสติพวกเขาก็ดับวูบไป





    To be Continued

    ตอนต่อไป โลกแตก แผนร้ายของ อ.อุอุ๊

    ...ในอีกไม่ถึง 20 นาที โลกนี้จะถึงกาลสิ้นสูญ...



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×