ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1 เตรียมอุดมล่มสลาย สยามถูกทำลาย
เมื่อทุกคนแทรกตัวมาถึงบริเวณสนามฟุตบอลซึ่งเต็มไปด้วยฝุ่นฟุ้งจนแทบมองไม่เห็นทาง เพราะแรงเดินของผู้คน พวกเขาก็หามุมบริเวณหนึ่งแล้วเกาะกลุ่มกันไว้ ในขณะที่กระแสคนยังคงหลั่งไหลไปเรื่อยๆ เสียงพูดคุยอึกทึกครึกโครมดังไปทั่วบริเวณ
ที่ตึก 1 ในห้องประชุม อาจารย์ทุกคนยืนล้อมโต๊ะด้วยสีหน้าเคร่งเครียด บนโต๊ะมีกระดาษแผ่นใหญ่หลายแผ่นวางอยู่ บรรยากาศในห้องอบอ้าวและเงียบสนิท
“เราได้รับคำขู่จากสมาคมกวดวิชาแห่งประเทศไทย” ผอ.เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ “พวกเขาพบว่าอัตรานักเรียนในเว็บไซต์ต่อต้านการเรียนพิเศษ เป็นนักเรียนเตรียมถึง 79%”
“พวกมันต้องการอะไร?” อาจารย์ผู้ชายสูงอายุคนหนึ่งถามขึ้นมา
“พวกเขาต้องการให้นักเรียนทุกคนในโรงเรียนเราไปเรียนพิเศษ ที่ไหนก็ได้” ผอ.ตอบกลับอย่างประหม่า
“แต่นั่นมันบ้าบอชัดๆ เรื่องอะไรจะให้เด็กที่มันฉลาดอยู่แล้วไปเรียนพิเศษ เงินสะพัดไม่พอหรือไง” อาจารย์อีกคนหนึ่งแทรกขึ้นมา
“นั่นแหละที่ดิฉันบอกเค้าไป”  ผอ.ถอนหายใจ
“แล้วมันว่ายังไงคะ” อาจารย์คนเดิมพูดต่อ
“ก็ขู่ทำลายโรงเรียนเราไง พวกเขาบอกจะทำลายไม่ให้เหลือซาก แต่ยังไง เมื่อไหร่ เรายังไม่รู้”
อาจารย์หลายคนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ก่อนจะมีคนถามขึ้นมา “แล้วเราจะทำยังไงต่อไปครับ”
“จากพรุ่งนี้ไปเราคงต้องปิดโรงเรียนไปก่อน จนกว่าจะสามารถหาที่ยุติได้ ส่วนตอนนี้เราต้องเริ่มประชุมหาทางรับมือกับทุกสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น ทุกคนเข้าประจำที่ได้แล้ว....”
ที่สนามฟุตบอล ฝูงชนเริ่มหยุดเคลื่อนที่แล้ว ความเงียบค่อยๆก่อตัวขึ้น แสงแดดแรงจ้ายามบ่ายยังคงสาดส่องลงมาอย่างไม่เกรงใจใคร
“พวกนายได้ยินเสียงอะไรมั้ย” เก่งเงี่ยหูฟังแล้วถามทุกคน
ภูมิซึ่งเล่นมือถืออยู่เงี่ยหูตามสักพักแล้วตอบว่า “นั่นสิ ดูเหมือนจะมาจากท้องฟ้านะ”
“เครื่องบินไง ไม่เคยได้ยินกันรึ” มิ้นท์ตอบเนือยๆ ใบหน้ามองไปทางกลุ่มคนเบื้องหน้า
“แต่มันดังขึ้นเรื่อยๆนี่” เก่งย้อน
“เออจริง”
เสียงหึ่งๆคล้ายฝูงเครื่องบิน ดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ และในที่สุดมันก็ปรากฏภาพเครื่องบินลำสีดำเป็นขบวนเรียงกัน 5 ลำ กำลังจะบินผ่านเหนือหัวพวกเขา แต่ตำแหน่งดูเหมือนจะอยู่ต่ำเกินกว่าจะบินธรรมดา
“สังหรณ์ใจไม่ดีเลย” นิ้งพึมพำทั้งที่ดวงตาจ้องมองเครื่องบินบนท้องฟ้า “พวกเราไปอยู่ที่อื่นกันดีกว่ามั้ย กลางแจ้งยังงี้ร้อนก็ร้อน แถมยังรู้สึกแปลกๆอีก”
“เห็นด้วย!” 4-5 คนตอบรับพร้อมกัน
ชาว 125 ทุกคนค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากสนามฟุตบอล วิ่งตัดไปทางตึก 55 ปี พวกเขาไปหยุดอยู่ที่เต็นท์โรงอาหารบริเวณนั้น และยังไม่ทันที่จะหายเหนื่อยดี สิ่งที่น่าตกใจที่สุดในชีวิตพวกเขาได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
แสงสว่างวาบเกิดขึ้นบริเวณสนามฟุตบอล เสียงดังสนั่นหวั่นไหวจนกระจกตึกรอบข้างแตกไม่เหลือชิ้นดี ทุกคนรีบหมอบลงกับพื้น เอามืดอุดหูและจมูก มันคือระเบิดจากเครื่องบินที่พวกเขาเห็น 5 ลำเมื่อสักครู่นี้ ไฟลุกทั่วสนามฟุตบอล นักเรียนร่วม 4000 คนไฟลุกทั่วตัว ล้มลงกลิ้งเกลือกไปมากับพื้น เสียงร้องโอดโอยระงมไปทั่วบริเวณ ลูกกรงที่ล้อมรอบสนามฟุตบอลระเบิดแตกกระจายไปคนละทาง แสตนด์เชียร์ปลิวว่อนมาทับเด็กกลุ่มหนึ่งบริเวณนั้น ควันไฟดำทะมึนลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า รัศมีร้อนผ่าวแผ่กระจายมาถึงบริเวณที่ทุกคนหมอบอยู่
“อยู่ไม่ได้แล้ว ทุกคนวิ่งออกจากที่นี่เร็ว!!” เสียงเพื่อนคนหนึ่งที่ฟังไม่ออกว่าใครตะโกนขึ้น ทุกคนผุดขึ้นยืนและวิ่งอย่างรวดเร็วไปทางประตูหลัง ในหัวแต่ละคนล้วนมีแต่ความงุนงงไม่แพ้กัน
และระเบิดอีกหลายลูกก็ลงหลังจากที่พวกเขาออกมาจากบริเวณรร.ได้ไม่ถึงนาที หอประชุมพังทลายลงไม่เหลือชิ้นดี โรงยิม ตึก 9 ราบเป็นหน้ากลอง ไม่เหลือแม้แต่ตึก 60 ปี หรือแปลงเกษตรตึก 2 และตึก 1 ถล่มลง โต๊ะเก้าอี้ปลิวว่อนไปทั่ว ไฟไหม้ไปทุกบริเวณ ต้นจามจุรีและต้นโพธิ์ไฟลุกท่วมเป็นท่อนแดงเพลิง แรงระเบิดลามไปถึงจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และถนนพญาไท รถทุกคันที่วิ่งอยู่เสียหลักและชนกันระเนระนาด บ้างก็ระเบิดไปบ้างเพราะสะเก็ดระเบิดก็มี วิทยาเขตอุเทนถวายถูกกวาดเรียบ ผู้เคราะห์ร้ายล้มตายก่อนที่จะรู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น ขี้เถ้าลอยเคว้งคว้างอยู่ในอากาศ ส่งกลิ่นเหม็นหืนชวนคลื่นไส้อาเจียน แรงระเบิดยังคงพุ่งไปเรื่อยๆ เผาผลาญและทำลายทุกสิ่งที่มันวิ่งผ่าน มาบุญครองเริ่มเอียงตัวและทรุดลงก่อนจะพังครืนลงมาส่งเสียงดังกระหึ่มจนทำให้รถไฟฟ้าเสียการควบคุมและพุ่งลงไปทางถนนราชเทวี สะพานหัวช้างขาดและถล่มลงสู่คลองแสนแสบ รางรถไฟฟ้าขาดลงมาทับรถที่จอดแน่นิ่งอยู่บนถนนบริเวณนั้น สยามดิสคัฟเวอรี่และสยามเซ็นเตอร์เมื่อได้รับแรงสั่นสะเทือนก็พังลงตามตึกอื่นๆ ฝูงชนหล่นกระเด็นออกมาจากตึก สถานีรถไฟฟ้าสยามหล่นทับกันลงมาจนถึงพื้น สยามสแควร์ทั้งหมดถูกแรงระเบิดกวาดเรียบเป็นทะเลเพลิงร้อนแสนสาหัส ไม่มีใครรอดออกมาได้แม้แต่คนเดียว สาธิตปทุมวันได้รับแรงระเบิดอย่างรุนแรงเนื่องจากอยู่ใกล้ศูนย์กลาง มันคือความตายที่พาดผ่านทุกอณูของบริเวณนั้น เศษตึกกองกันเป็นภูเขาจนจำเค้าเดิมไม่ได้ ควันสีดำโขมงลอยอยู่ทั่วบริเวณ
ชาว 125 ซึ่งรอดตายจากระเบิดอย่างหวุดหวิดหมอบคุดคู้อยู่แถวสนามม้า รถบนถนนอังรีดูนังต์ ชนกันเป็นทิวแถว ในขณะที่ทัศนวิสัยรอบด้านเป็นศูนย์เพราะเต็มไปด้วยควันจากแรงระเบิด
หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงดังสั่นมาจากในกลุ่มควัน เป็นเสียงแหบกร้านจนฟังแทบไม่รู้เรื่อง แต่เป็นน้ำเสียงที่แผงไว้ด้วยความสะใจยิ่งนัก
“นี่คือการขู่ เด็กไทยโง่ๆทั้งหลายเอ๋ย วันนี้อารยธรรมเตรียมอุดมได้สูญสิ้นลงอย่างสิ้นเชิงแล้ว ถ้าไม่อยากให้รร.ของพวกแกต้องถูกทำลายลง จงไปเรียนพิเศษซะ!!!!”
และที่มาของเสียงนั้นก็เริ่มขยับตัว มันใหญ่มากจนพื้นบริเวณนั้นเขย่าสั่นราวกับแผ่นดินไหว ขยับตัวขึ้นไปเรื่อยๆ จนทุกคนเห็นว่ามันสามารถบินได้!!! เมื่อมันบินออกมาจากบริเวณกลุ่มควัน ก็ปรากฏภาพหุ่นยนต์ขนาดใหญ่ยักษ์ ที่เท้ามีไอพ่น มีเปลวไฟพุ่งออกมาตลอดเวลา ขาและแขนมีเกราะสีแดงหุ้มอยู่ในขณะที่ตัวก้านด้านในสีดำ ตรงหน้าอกมีปุ่มแสงหลายปุ่มคล้ายๆอุลตร้าแมน และมีเกราะหนามากอยู่เช่นกัน ซึ่งทั้งตัวดูเหมือนจะสร้างจากเหล็กกล้าทรงพลัง ห้องควบคุมอยู่บริเวณหัว และมีป้ายทำจากเหล็กแบนห้อยลงมา ถึงกับทำให้ชาว 125 ตกตะลึง
Robo ช่วง by APPLIED PHYSICS
1 ใน สมาชิกองค์กรสอนพิเศษเพื่อธุรกิจแห่งประเทศไทย
ในขณะที่พวกเขาได้แต่ยืนตะลึง โรโบช่วงก็ค่อยๆบินขึ้นไปจนมีขนาดเหลือเล็กเท่าหัวไม้ขีด
“นี่...นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย” เข้มถามทั้งๆที่ยังอ้าปากค้าง
“รร.เรา ถูกมัน....ทำลายในพริบตาเดียว” พัชพูดต่ออย่างตะกุกตะกัก
“แล้วพวกอาจารย์ล่ะ...” อิ๊กคิวฉุกถามขึ้นมา
หลายคนมองหน้ากันเหมือนจะเข้าใจในทันที “พวกนายก็รู้...เวลาแค่นั้น ใครก็หนีไม่ทันหรอก”
ดวงตาหลายคนเริ่มรื้นน้ำตา บางคนส่งเสียงสะอื้นเล็กๆออกมา บ้างก็ขาสั่นด้วยความหวาดกลัว แต่ละคนมีบาดแผลจากการถูกสะเก็ดระเบิดอยู่ประปราย หลังจากนั้นไม่มีใครพูดอะไรเลยอยู่นานสองนาน
“....พวกเรา ไปกันเถอะ” ตั้มพูดหลังจากรวบรวมสติได้แล้ว
“ไปไหน ไปทำอะไรล่ะ” แอนตวาดกลับ
“เราจะหยุดพวกมัน” เก่งแทรกขึ้นมาด้วยเสียงดัง
“ใช่ ใช่!” เสียงหลายๆคนเริ่มตะโกนด้วยความฮึกเหิม
พวกเขาเริ่มออกเดินอย่างช้าๆ มุ่งหน้าไปทางสยามสแควร์ ซึ่งตอนนี้เหลือแต่เพียงซากปรักหักพัง บริเวณนั้นเงียบสนิท นอกจากเสียงเดินของพวกเขา และเสียงเปลวไฟที่ยังคุอยู่....
คน 43 คนที่ไม่มีอาวุธและไม่มีอาหาร กำลังเดินหน้าไป....
มันเป็นการเริ่มต้นของความพ่ายแพ้แห่งอารยธรรม
มันเป็นการเริ่มต้นของการล้างเผ่าพันธุ์นักเรียน...
ที่ตึก 1 ในห้องประชุม อาจารย์ทุกคนยืนล้อมโต๊ะด้วยสีหน้าเคร่งเครียด บนโต๊ะมีกระดาษแผ่นใหญ่หลายแผ่นวางอยู่ บรรยากาศในห้องอบอ้าวและเงียบสนิท
“เราได้รับคำขู่จากสมาคมกวดวิชาแห่งประเทศไทย” ผอ.เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ “พวกเขาพบว่าอัตรานักเรียนในเว็บไซต์ต่อต้านการเรียนพิเศษ เป็นนักเรียนเตรียมถึง 79%”
“พวกมันต้องการอะไร?” อาจารย์ผู้ชายสูงอายุคนหนึ่งถามขึ้นมา
“พวกเขาต้องการให้นักเรียนทุกคนในโรงเรียนเราไปเรียนพิเศษ ที่ไหนก็ได้” ผอ.ตอบกลับอย่างประหม่า
“แต่นั่นมันบ้าบอชัดๆ เรื่องอะไรจะให้เด็กที่มันฉลาดอยู่แล้วไปเรียนพิเศษ เงินสะพัดไม่พอหรือไง” อาจารย์อีกคนหนึ่งแทรกขึ้นมา
“นั่นแหละที่ดิฉันบอกเค้าไป”  ผอ.ถอนหายใจ
“แล้วมันว่ายังไงคะ” อาจารย์คนเดิมพูดต่อ
“ก็ขู่ทำลายโรงเรียนเราไง พวกเขาบอกจะทำลายไม่ให้เหลือซาก แต่ยังไง เมื่อไหร่ เรายังไม่รู้”
อาจารย์หลายคนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ก่อนจะมีคนถามขึ้นมา “แล้วเราจะทำยังไงต่อไปครับ”
“จากพรุ่งนี้ไปเราคงต้องปิดโรงเรียนไปก่อน จนกว่าจะสามารถหาที่ยุติได้ ส่วนตอนนี้เราต้องเริ่มประชุมหาทางรับมือกับทุกสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น ทุกคนเข้าประจำที่ได้แล้ว....”
ที่สนามฟุตบอล ฝูงชนเริ่มหยุดเคลื่อนที่แล้ว ความเงียบค่อยๆก่อตัวขึ้น แสงแดดแรงจ้ายามบ่ายยังคงสาดส่องลงมาอย่างไม่เกรงใจใคร
“พวกนายได้ยินเสียงอะไรมั้ย” เก่งเงี่ยหูฟังแล้วถามทุกคน
ภูมิซึ่งเล่นมือถืออยู่เงี่ยหูตามสักพักแล้วตอบว่า “นั่นสิ ดูเหมือนจะมาจากท้องฟ้านะ”
“เครื่องบินไง ไม่เคยได้ยินกันรึ” มิ้นท์ตอบเนือยๆ ใบหน้ามองไปทางกลุ่มคนเบื้องหน้า
“แต่มันดังขึ้นเรื่อยๆนี่” เก่งย้อน
“เออจริง”
เสียงหึ่งๆคล้ายฝูงเครื่องบิน ดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ และในที่สุดมันก็ปรากฏภาพเครื่องบินลำสีดำเป็นขบวนเรียงกัน 5 ลำ กำลังจะบินผ่านเหนือหัวพวกเขา แต่ตำแหน่งดูเหมือนจะอยู่ต่ำเกินกว่าจะบินธรรมดา
“สังหรณ์ใจไม่ดีเลย” นิ้งพึมพำทั้งที่ดวงตาจ้องมองเครื่องบินบนท้องฟ้า “พวกเราไปอยู่ที่อื่นกันดีกว่ามั้ย กลางแจ้งยังงี้ร้อนก็ร้อน แถมยังรู้สึกแปลกๆอีก”
“เห็นด้วย!” 4-5 คนตอบรับพร้อมกัน
ชาว 125 ทุกคนค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากสนามฟุตบอล วิ่งตัดไปทางตึก 55 ปี พวกเขาไปหยุดอยู่ที่เต็นท์โรงอาหารบริเวณนั้น และยังไม่ทันที่จะหายเหนื่อยดี สิ่งที่น่าตกใจที่สุดในชีวิตพวกเขาได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
แสงสว่างวาบเกิดขึ้นบริเวณสนามฟุตบอล เสียงดังสนั่นหวั่นไหวจนกระจกตึกรอบข้างแตกไม่เหลือชิ้นดี ทุกคนรีบหมอบลงกับพื้น เอามืดอุดหูและจมูก มันคือระเบิดจากเครื่องบินที่พวกเขาเห็น 5 ลำเมื่อสักครู่นี้ ไฟลุกทั่วสนามฟุตบอล นักเรียนร่วม 4000 คนไฟลุกทั่วตัว ล้มลงกลิ้งเกลือกไปมากับพื้น เสียงร้องโอดโอยระงมไปทั่วบริเวณ ลูกกรงที่ล้อมรอบสนามฟุตบอลระเบิดแตกกระจายไปคนละทาง แสตนด์เชียร์ปลิวว่อนมาทับเด็กกลุ่มหนึ่งบริเวณนั้น ควันไฟดำทะมึนลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า รัศมีร้อนผ่าวแผ่กระจายมาถึงบริเวณที่ทุกคนหมอบอยู่
“อยู่ไม่ได้แล้ว ทุกคนวิ่งออกจากที่นี่เร็ว!!” เสียงเพื่อนคนหนึ่งที่ฟังไม่ออกว่าใครตะโกนขึ้น ทุกคนผุดขึ้นยืนและวิ่งอย่างรวดเร็วไปทางประตูหลัง ในหัวแต่ละคนล้วนมีแต่ความงุนงงไม่แพ้กัน
และระเบิดอีกหลายลูกก็ลงหลังจากที่พวกเขาออกมาจากบริเวณรร.ได้ไม่ถึงนาที หอประชุมพังทลายลงไม่เหลือชิ้นดี โรงยิม ตึก 9 ราบเป็นหน้ากลอง ไม่เหลือแม้แต่ตึก 60 ปี หรือแปลงเกษตรตึก 2 และตึก 1 ถล่มลง โต๊ะเก้าอี้ปลิวว่อนไปทั่ว ไฟไหม้ไปทุกบริเวณ ต้นจามจุรีและต้นโพธิ์ไฟลุกท่วมเป็นท่อนแดงเพลิง แรงระเบิดลามไปถึงจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และถนนพญาไท รถทุกคันที่วิ่งอยู่เสียหลักและชนกันระเนระนาด บ้างก็ระเบิดไปบ้างเพราะสะเก็ดระเบิดก็มี วิทยาเขตอุเทนถวายถูกกวาดเรียบ ผู้เคราะห์ร้ายล้มตายก่อนที่จะรู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น ขี้เถ้าลอยเคว้งคว้างอยู่ในอากาศ ส่งกลิ่นเหม็นหืนชวนคลื่นไส้อาเจียน แรงระเบิดยังคงพุ่งไปเรื่อยๆ เผาผลาญและทำลายทุกสิ่งที่มันวิ่งผ่าน มาบุญครองเริ่มเอียงตัวและทรุดลงก่อนจะพังครืนลงมาส่งเสียงดังกระหึ่มจนทำให้รถไฟฟ้าเสียการควบคุมและพุ่งลงไปทางถนนราชเทวี สะพานหัวช้างขาดและถล่มลงสู่คลองแสนแสบ รางรถไฟฟ้าขาดลงมาทับรถที่จอดแน่นิ่งอยู่บนถนนบริเวณนั้น สยามดิสคัฟเวอรี่และสยามเซ็นเตอร์เมื่อได้รับแรงสั่นสะเทือนก็พังลงตามตึกอื่นๆ ฝูงชนหล่นกระเด็นออกมาจากตึก สถานีรถไฟฟ้าสยามหล่นทับกันลงมาจนถึงพื้น สยามสแควร์ทั้งหมดถูกแรงระเบิดกวาดเรียบเป็นทะเลเพลิงร้อนแสนสาหัส ไม่มีใครรอดออกมาได้แม้แต่คนเดียว สาธิตปทุมวันได้รับแรงระเบิดอย่างรุนแรงเนื่องจากอยู่ใกล้ศูนย์กลาง มันคือความตายที่พาดผ่านทุกอณูของบริเวณนั้น เศษตึกกองกันเป็นภูเขาจนจำเค้าเดิมไม่ได้ ควันสีดำโขมงลอยอยู่ทั่วบริเวณ
ชาว 125 ซึ่งรอดตายจากระเบิดอย่างหวุดหวิดหมอบคุดคู้อยู่แถวสนามม้า รถบนถนนอังรีดูนังต์ ชนกันเป็นทิวแถว ในขณะที่ทัศนวิสัยรอบด้านเป็นศูนย์เพราะเต็มไปด้วยควันจากแรงระเบิด
หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงดังสั่นมาจากในกลุ่มควัน เป็นเสียงแหบกร้านจนฟังแทบไม่รู้เรื่อง แต่เป็นน้ำเสียงที่แผงไว้ด้วยความสะใจยิ่งนัก
“นี่คือการขู่ เด็กไทยโง่ๆทั้งหลายเอ๋ย วันนี้อารยธรรมเตรียมอุดมได้สูญสิ้นลงอย่างสิ้นเชิงแล้ว ถ้าไม่อยากให้รร.ของพวกแกต้องถูกทำลายลง จงไปเรียนพิเศษซะ!!!!”
และที่มาของเสียงนั้นก็เริ่มขยับตัว มันใหญ่มากจนพื้นบริเวณนั้นเขย่าสั่นราวกับแผ่นดินไหว ขยับตัวขึ้นไปเรื่อยๆ จนทุกคนเห็นว่ามันสามารถบินได้!!! เมื่อมันบินออกมาจากบริเวณกลุ่มควัน ก็ปรากฏภาพหุ่นยนต์ขนาดใหญ่ยักษ์ ที่เท้ามีไอพ่น มีเปลวไฟพุ่งออกมาตลอดเวลา ขาและแขนมีเกราะสีแดงหุ้มอยู่ในขณะที่ตัวก้านด้านในสีดำ ตรงหน้าอกมีปุ่มแสงหลายปุ่มคล้ายๆอุลตร้าแมน และมีเกราะหนามากอยู่เช่นกัน ซึ่งทั้งตัวดูเหมือนจะสร้างจากเหล็กกล้าทรงพลัง ห้องควบคุมอยู่บริเวณหัว และมีป้ายทำจากเหล็กแบนห้อยลงมา ถึงกับทำให้ชาว 125 ตกตะลึง
Robo ช่วง by APPLIED PHYSICS
1 ใน สมาชิกองค์กรสอนพิเศษเพื่อธุรกิจแห่งประเทศไทย
ในขณะที่พวกเขาได้แต่ยืนตะลึง โรโบช่วงก็ค่อยๆบินขึ้นไปจนมีขนาดเหลือเล็กเท่าหัวไม้ขีด
“นี่...นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย” เข้มถามทั้งๆที่ยังอ้าปากค้าง
“รร.เรา ถูกมัน....ทำลายในพริบตาเดียว” พัชพูดต่ออย่างตะกุกตะกัก
“แล้วพวกอาจารย์ล่ะ...” อิ๊กคิวฉุกถามขึ้นมา
หลายคนมองหน้ากันเหมือนจะเข้าใจในทันที “พวกนายก็รู้...เวลาแค่นั้น ใครก็หนีไม่ทันหรอก”
ดวงตาหลายคนเริ่มรื้นน้ำตา บางคนส่งเสียงสะอื้นเล็กๆออกมา บ้างก็ขาสั่นด้วยความหวาดกลัว แต่ละคนมีบาดแผลจากการถูกสะเก็ดระเบิดอยู่ประปราย หลังจากนั้นไม่มีใครพูดอะไรเลยอยู่นานสองนาน
“....พวกเรา ไปกันเถอะ” ตั้มพูดหลังจากรวบรวมสติได้แล้ว
“ไปไหน ไปทำอะไรล่ะ” แอนตวาดกลับ
“เราจะหยุดพวกมัน” เก่งแทรกขึ้นมาด้วยเสียงดัง
“ใช่ ใช่!” เสียงหลายๆคนเริ่มตะโกนด้วยความฮึกเหิม
พวกเขาเริ่มออกเดินอย่างช้าๆ มุ่งหน้าไปทางสยามสแควร์ ซึ่งตอนนี้เหลือแต่เพียงซากปรักหักพัง บริเวณนั้นเงียบสนิท นอกจากเสียงเดินของพวกเขา และเสียงเปลวไฟที่ยังคุอยู่....
คน 43 คนที่ไม่มีอาวุธและไม่มีอาหาร กำลังเดินหน้าไป....
มันเป็นการเริ่มต้นของความพ่ายแพ้แห่งอารยธรรม
มันเป็นการเริ่มต้นของการล้างเผ่าพันธุ์นักเรียน...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น