ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fic HunHan : Make you mine ภาค2- Unconditionally

    ลำดับตอนที่ #1 : fic HunHan : Make you mine ภาค2 Part I : เรื่องของเรา

    • อัปเดตล่าสุด 1 ม.ค. 58


     

    fic HunHan : Make you mine ภาค2- Unconditionally  



    Part I :  เรื่องของเรา


     







    เซฮุน


      ใบหน้าสวยที่ผมไม่อาจแน่ใจว่าเป็นเพียงภาพหลอนหรือว่าความจริง  
    คนคนหนึ่งที่เหมือนเป็นเพียงแค่คนในฝัน  การได้พบกับเค้า  รู้ว่านี่คือรักแรกพบที่ไม่อาจปล่อยให้หลุดมือ  ..มาถึงตอนนี้..   ความรักของผมกำลังเติบโตและงอกงามมากว่าสามปีแล้ว   และจะแข็งแรง  มั่นคงอยู่แบบนี้  ไม่ว่าจะอีกกี่ร้อยปี  หรือจนกว่าหัวใจของผมจะหยุดเต้นลง
       คุณคงไม่คิดว่าผมจะพูดอะไรที่ฟังแล้วชวนขนลุกแบบนี้ได้ใช่มั้ย   แน่นอน!  เด็กผู้ชายที่เพิ่งอายุ20ปี  คนที่ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นนอกจากการได้ทำสิ่งที่ตัวเองรักกับมีชานมของโปรดให้กินแบบไม่อั้น  เด็กแสบกวนประสาทเอาแต่ใจแบบผม  ใครจะนึกว่าสามารถพูดอะไรที่หวานเลี่ยนชวนคลื่นไส้แบบนี้ออกมาได้   แต่....

    มันก็เกิดขึ้นแล้วล่ะนะ  และนั่นเป็นเพราะ   ผมกำลังตกหลุมรัก  ตกลงไปลึกในแบบที่ไม่อยากปีนขึ้นมาเลย



     


    เสียงเป่านกหวีดที่ดังขึ้น บอกสัญญาณการออกตัวของนักวิ่งที่ประจำอยู่ในลู่  ผมกระโดดตัวลอยก่อนจะจ้องไปที่ช่องวิ่งเกือบสุดท้าย  ตะโกนคำพูดออกไม่มากมายแต่จำไม่ได้เพราะกำลังตื่นเต้น

    “  เร็วๆๆๆๆๆๆๆ  ลู่ฮาน!!!!   ย้า!!!!!!!!!!  เร็วๆๆๆ  ...อ๊ะ!!!  ... เย้!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! “   เสียงตะโกนดังลั่นหลุดออกมาจากลำคอที่กลายสภาพเป็นลำโพงขนาดยักษ์  ก่อนที่ผมจะพุ่งตัวอย่างรวดเร็วไปหาคนๆเดียวที่อยู่สายตา

    “  ที่หนึ่งอ้ะ!!!!!!   เสี่ยวลู่ได้ที่หนึ่งอ้ะ!!!!!!!! 

    “  หา!!??  “  เสียงหวานตอบกลับพร้อมลมหายใจที่หอบถี่  ใบหน้าชุ่มเหงื่อและผมสีบลอนด์ยุ่งเหยิงเพราะการวิ่งไม่ได้ทำให้คนรักของผมดูน่ารักน้อยลงไปซักนิด  ผมปรี่เข้าไปใกล้คนสวย คว้าต้นคอเรียวของเค้าเข้ามาเบาๆแล้วกระซิบ

    “  ได้ที่หนึ่งชัวร์   จะๆเลย “

    “  ..ยังไม่รู้หรอก..  ไปดูสกอร์บอร์ดมั้ย “  เค้าตอบพลางเดินนำหน้าไปเล็กน้อย  น้ำเสียงยังขาดหายไปบางช่วงจากการหอบหายใจ

    “   ชั้นว่ามันค่อนข้างสูสีนะ “

    “  ผมเห็นว่าอกลูฮานแตะเชือกก่อน  จะๆเลย  ที่หนึ่ง  ชัวร์! “

    “  ตาดีจังนะ “

    “  แหงดิ   ผมมองแต่ลูฮานคนเดียวนี่นา “

    “ .....”  คนสวยเงียบ  ทำตาโตใส่ผม

    “  อะไร

    “ งั้นยิ่งไม่น่าเชื่อเลย   นายมองแต่ชั้นแล้วจะรู้ได้ไงว่าไม่มีคนอื่นถึงเส้นชัยก่อนรึเปล่าน่ะ “  ผมเงียบ  คิดไปแล้วมันก็จริงอ่ะนะ

    “  เอาเหอะน่า   รู้ละกัน “

    “   มั่วว่ะ “

    " เดี๋ยวคะแนนออกมาก็รู้  “  ผมตอบพลางชี้ไปที่สกอร์บอร์ดด้านบน  จอภาพใหญ่ยักษ์เริ่มประมวณผลก่อนจะเผยให้เห็นสิ่งที่เรารอ

    ชื่อของคนรักที่สว่างจ้าอยู่เป็นอันดับแรกส่องประกายแจ่มชัดเข้าที่ตาผม  สิ่งที่เกิดขึ้นคือความรู้สึกดีใจเหมือนกับตัวเองเป็นคนที่วิ่งเข้าเส้นชัยเสียเอง  และก่อนจะรู้ตัว  ผมก็อุ้มลูฮานขึ้นจนตัวลอยแล้ว

    “  เห็นมั้ย!!!  ผมบอกแล้ว!!!  “  ผมตะโกนออกมาดังลั่น  วางคนน่ารักลงก่อนจะมองเค้าส่งยิ้มหวาน

    “  ผมบอกแล้วว่าดูลูฮานอยู่ !!  มาเลย!! มาให้หอมซะ.. “

    “  ลู่เกอ!!!  “     ไม่ทันที่แฟนตัวจริงอย่างผมจะได้แสดงความยินดี  ไอ้ลูกหมีตัวเขียวที่ไม่รู้โผล่มาจากไหนก็มาขโมยความสนใจไปจากผม  เทาวิ่งยิ้มแป้นมาแต่ไกล ก่อนจะคว้าคอเรียวๆของคนน่ารักเอาไว้  ดึงคนสวยของผมไปกอดอย่างแนบแน่น

    “  สุดยอดไปเลยลู่เกอ!!!  สุดยอดไปเลยอ้ะ!!!   

    “ 55555    ขอบใจจื่อเทา “

    “ เนี่ย! ผมเห็นคนข้างๆวิ่งนำไปก่อนนะ  แล้วก็เกอเกอเพิ่งเร่งขึ้นมาใช่ปะ  แล้ว..”

    “  อะแฮ่ม!!! “  ทันใดนั้นผมก็รู้สึกคันคอขึ้นมา  กระแอมดังลั่นแต่ไอ้หมีบ้าก็ยังพูดต่อ

    “  อะฮึ่มมม!!!  แค่กๆๆๆ  เห้ยๆ  “ 

    “  อะไรของนาย??   ชั้นคุยกะเกอเกออยู่อย่ายุ่งได้ป้ะ “  พูดจบแพนด้าตัวดีก็ถลึงตาใส่ผม  หันไปส่งยิ้มกับแฟนเพื่อนก่อนจะเริ่มต้นเปิดฉากรัวภาษาจีน

    “  อย่าพูดจีนดิ  ฟังไม่รู้เรื่อง “

    “  ก็ไม่ได้คุยให้นายรู้เรื่องนี่หว่า  บอกแล้วว่าชั้นกะลู่เกอจะคุยกัน  ไปไกลๆไป๊ “

    “  โหยยย!!  ไอ่..”

    “ไป  ไป๊ๆๆ   “  ไอ้หมีตัวดียกมือไล่ผมก่อนจะเดินกอดเอวคนสวยไปอีกทาง  ผมมองแฟนตัวเองหวังจะได้รับความช่วยเหลือแต่กลับมีเพียงยิ้มหวานและเสียงหัวเราะแบบสะใจสุดขีดกลับมา

    “  เออๆ  เอาใจกันเข้าไปนะ  “

    “  เทาจะนินทากรรมการน่ะ  เลยพูดจีน  “ คนสวยรีบอธิบาย

    “  โห เกอเกอ! บอกทำไมเนี่ย!  งี้เค้าก็รู้หมดดิ “  

     

     

     ช่วงเวลาแห่งการแข่งขันจบลงก่อนที่พวกเราทั้งหมดจะมานั่งรอการถ่ายทำของเทาที่จะเริ่มขึ้นในอีกหนึ่งชั่วโมง  ผมสังเกตุเห็นแฟนๆของพวกเราจำนวนมากที่เริ่มแผ่ขยายอาณาเขตของที่นั่งออกไปพลางนึกไปถึงช่วงปีแรกที่เราเพิ่งเดบิวต์  ต้องขอบคุณทุกคนมากๆที่คอยสนับสนุนพวกเรามาถึงทุกวันนี้  ผมยิ้มให้พี่สาวคนหนึ่งที่ชูป้ายกระดาษสะท้อนแสงเขียนชื่อผมขึ้นมา  ก่อนที่จะยิ้มกว้างออกไปอีกเมื่อเห็นว่ามันไม่ได้มีแค่ชื่อของผม

    รูปหัวใจสีชมพูขนาดใหญ่ถูกยกขึ้นมาระหว่างชื่อของผมและชื่อของอีกคนหนึ่ง  ซึ่งมันอ่านว่า ' LUHAN'  ดังนั้นเวลาอ่านรวมกันก็เลยเป็น ' SEHUN หัวใจ LUHAN '  

    "  น่าจะไปขอมาติดไว้ที่หอนะ "  ผมพูดออกมาพลางคิดไปถึงสีหน้าของคนน่ารักว่าจะออกมาเป็นอย่างไรหากเห็นป้ายนี้  แก้มขาวๆคงกลายเป็นสีแดงกร่ำ  ริมฝีปากสีเชอรี่ที่ผมชอบคงเม้มแน่นเพราะความเขิน  และแน่นอน  เค้าคงต่อยผมจนเลือดอาบแน่ถ้ารู้ว่าผมเป็นคนติดป้ายแบบนี้

    "  โคตรน่ารักเลยว่ะ   ยิ่งคิดยิ่งอยากลากกลับหอไวๆ "  ผมหันไปมองหาแฟนตัวเองที่ยังคงยืนคุยเรื่องการรับเหรียญรางวัลกับเพื่อนๆจากวงอื่นอยู่ที่อีกฟากของลู่วิ่ง  เวลามองเค้าจากที่ไกลๆมันทำให้นึกย้อนไปถึงตอนที่ผมยังแอบจ้องมองเค้าอยู่เงียบๆ  คนสวยที่ปรากฎกายต่อหน้าผมเพียงชั่ววินาที  คนที่ทำให้ผมพร่ำเพ้อถึงมาตลอดทั้งเดือนโดยที่ไม่รู้ว่าเค้าคือภาพลวงตาหรือเป็นแค่ความฝัน  คนที่ทำให้ผมตกหลุมรักทันทีที่ได้เห็น  เป็นรักแรกพบ  รักครั้งแรก  และจะเป็นรักครั้งเดียวของผมตลอดชีวิต  ผมยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงเรื่องราวของเรา  ตลกตัวเองที่วิ่งหนีเค้าแบบนั้นแถมยังทำตัวปัญญาอ่อน  นึกถึงคนสวยที่ชกผมหลังจากวันแรกที่เราจูบกัน  เห็นภาพเค้าตอนที่วิ่งหนีผม  นึกถึงเสียงหวานๆของเค้าตอนที่ตอบรับความรักของเด็กบ้าเอาแต่ใจ  จดจำค่ำคืนแรกที่เราใช้ร่วมกันบนผืนหญ้านุ่ม  ผิวขาว  กลิ่นกายหอมหวานและรสรักจากริมฝีปากที่ชวนน้ำลายสอ

    "  เฮ้อ   เมื่อไหร่จะแข่งจบซักทีว้าาา  ไอ้กีฬาสีไอด้อลเนี่ย " 

    “  หงุดหงิดชิปเป๋งเลย.. “  เสียงของใครบางคนที่ฟังดูคุ้นหูสุดๆดังมาจากด้านข้าง  มันทำให้ผมสะดุ้งตื่นจากฝันที่แสนขะเคลิบเคลิ้มก่อนที่ผมจะหันไปมองเจ้าของเสียงอย่างไม่สบอารมณ์  จะเป็นใครได้นอกจากไอ้เพื่อนแพนด้าตัวเขียว

    “  เป็นไรของนายเทา “

    “  ..ก็นั่นน่ะ.. “  เค้าพยักหน้าไปทางกลุ่มของเราที่กำลังยืนวางแผนการแข่งสำหรับรอบถัดไป  สาวๆที่อยู่ทีมเดียวกับผมคุยอย่างออกรสพร้อมกับทำท่าประกอบ   มีคนหนึ่งที่ผมคิดว่าเธอชื่อมินอากำลังพยายามซ้อมท่าส่งไม้อยู่โดยที่มีท่านลีดเดอร์ที่น่าเกรงขามของพวกผมอย่างคุณคิมจุนมยอนยืนยิ้มตาหยีอยู่ไม่ห่าง  แพคฮยอนฮยองกับชานยอลฮยองที่กำลังมองหน้ากันแล้วยิ้มเหมือนมีอะไรไม่ชอบมาพากล  และสาวๆคนอื่นๆที่กำลังหัวเราะเพราะท่าทางของมินอาที่ดูจะตกขึ้นทุกที
     

    “  ไอ้ยิ้มตาหยีนั่นน่ะ  สดชื่นเหลือเกินนะ  น่าหมั่นไส้ “  สิ่งที่ได้ยินจากปากของเทาทำเอาตาของผมเบิกกว้างขึ้นมาเล็กน้อย  เพิ่งรู้สึกว่าตัวเองสามารถทำตาโตได้เท่าคยองซูฮยองก็วันนี้

    “  เมื่อกี๊นายพูดว่าไงนะ? 

    “  ชั้นบอกว่าหมั่นไส้   ทำไมต้องหน้าบานขนาดนั้นด้วย ทีชั้นไปคุยด้วยไม่เห็นจะสดชื่นแบบนี้บ้างเลยอ่ะ “  ผมหันไปทางกลุ่มของเราอีกครั้ง  คที่ดูจะยิ้มกว้างกว่าใครก็คือท่านลีดเดอร์

    “   แหงดิ..   ก็นั่นมันสาวๆ “

    “  แต่ชันชอบเค้าก่อนนะ!! “  

    “  ..หา

    “  ชั้นชอบจุนมยอน  ชอบมาก่อนด้วย!! “   ริมฝีปากล่างของผมเหมือนกับถูกถ่วงน้ำหนักรั้งให้อ้าออกอย่างทันที  นี่ผมคิดไปเองหรือไอ้แพนด้านี่พูดผิด   

    “ น่ะ..นาย ...อะ..อะไรนะ “

    “  โห่ยยย  หูตึงไงเนี่ยโอเซฮุน!!   ก็บอกว่าชั้นชอบก่อน  คนมาก่อนก็ต้องได้ก่อนดิ “   ผมส่ายหัวไปมา  ตายังจ้องที่หน้าเขียวๆของแพนด้าแต่ไม่แน่ใจว่าปากที่อ้ากว้างตอนนี้มันปิดลงรึยัง

    “  อะไร!  มองไมอีกเนี่ย   นายไม่ได้ยินเหรอ  ชั้นบอกว่าชั้นชอบ..”

    “  ไอ้ที่จ้องเนี่ยไม่ใช่ไม่ได้ยินโว้ย!  แต่เพราะได้ยินเนี่ยแล่ะ!!  “   เพื่อนแพนด้าของผมส่ายหน้า  บ่นอะไรบางอย่างออกมาที่คราวนี้ผมฟังไม่รู้เรื่องจริงๆ

     “  ยิ่งเห็นก็ยิ่งหงุดหงิดอ่ะ  ต้องไปแยกออกมาแล้ว  “  ผมยังคงจ้องไอ้เพื่อนตัวดีไม่วางตา  นี่มันรู้รึเปล่าว่าพูดอะไรออกมา

     “  อ้ะ!  ฝากถือเสื้อหน่อยดิ  “

    “  ..  น่ะ.. นายจะไปไหน “

    “  ไปขัดขวางใครบางคนไม่ให้ส่งยิ้มหวานมากเกินไปน่ะสิ  ไอ้แบบนั้นมันของชั้นนะ  ยิ้มนั่น!  รอยยิ้มนั่นน่ะ!! “  ผมรับเสื้อฮูทสีเขียวมาอย่างงุนงง  ไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว

     “ เออ!   อย่าไปบอกใครว่าชั้นชอบจุนนี่ล่ะ  นี่บอกนายคนแรกเลยนะ "

      มันออกคำสั่ง  สายตาเหลือบมามองผมแบบฮยองที่อายุมากกว่าหนึ่งปีก่อนจะหันกลับไปจ้องแกะน้อยที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองกำลังชะตาขาดอยู่ท่ามกลางหมู่สาวสวย

    "  เข้าใจนะ  ชั้นอุตส่าห์ไว้ใจ  นายห้ามบอกใครนะ "

    "  แล้วถามชั้นมั้ยว่าอยากรู้ป่่าวอ้ะ!!! " ผมตะโกนกลับไป เรื่องความรักแบบแปลกๆของไอ้หมีตัวเขียวเพื่อนผม  มันน่ารับรู้ตรงไหน

    "  ชั้นไม่ได้สนว่านายอยากรู้รึเปล่า  แต่ชั้นแค่อยากหาแนวร่วม "   พูดจบมันก็เริ่มออกคำสั่งต่อ   ผมได้แต่ยืนนิ่ง  สับสนจนทำอะไรไม่ถูก

    "  ห้ามบอกใครนะ  เข้าใจ๊!   ไปละ "

     

     

     

     


    ลูฮาน


    ผมเดินกลับมาหลังจากการพูดคุยเรื่องรับเหรียญรางวัลจบลง  มองเห็นเด็กหัวบลอนด์นั่งเท้าคางอยู่กับพื้น  ก่อนจะนั่งลงข้างๆเค้า

    “  ทำไรอ้ะ “  ผมถามเมื่อเห็นว่าเซฮุนยกมือขึ้นมาปิดหูตัวเค้าเองก่อนจะหันไปทางกลุ่มแฟนคลับที่ส่งเสียงเชียร์อะไรบางอย่าง  แก้มสองข้างของเด็กแสบแดงกร่ำ

    “  นายเป็นไรอ่ะเซฮุน “

    “  ก็นั่นอ่ะดิ!! “ เค้าหันไปทางด้านหลังอีกครั้ง  ค้อนสายตาไปทางกลุ่มแฟนๆที่ส่งเสียงกรี๊ดดังไม่ขาดสาย

    “  หืม?  เค้าก็ส่งเสียงเชียร์กันปกตินี่  ทำไมเหรอ “

    “  เค้าบอกว่าผมน่ารักอ้ะ !!  “  พูดจบเด็กชายอายุ19ก็ยกมือขึ้นมาปิดทั้งใบหน้าที่กำลังเดือดปุดๆ  หันไปทางแฟนคลับก่อนจะ  ยกมือห้ามเพื่อให้พวกเค้าหยุดตะโกน   ผมเผลอหัวเราะออกมา  ก่อนที่นึกเรื่องสนุกๆบางอย่างขึ้นได้

    “  เอ~  แต่นายก็น่ารักจริงๆนี่นามักเน่  ไหนๆ  ทำควีโยมี่ดิ๊  “  พูดจบผมก็เกาคางเด็กน้อย  เรียกเสียงกรี๊ดที่แทบจะถล่มสนามกีฬาออกมาดังลั่น  เพื่อนๆไอดอลกลุ่มอื่นหันมามองกันหมดก่อนที่โอเซฮุนน้อยของผมจะทำท่าดิ้นพล่านแบบเด็กที่โดนขัดใจอย่างบ้าคลั่ง

    “  ลูฮานอ้ะ!!!!  “  เค้างอแง  ปัดมือผมออกแล้วหันไปโวยวายใส่กลุ่มแฟนคลับ

    “  หยุดได้แล่ว!!!  ผมอายนะ!!! “   เด็กอนุบาลโอเซฮุนตะโกนใส่แฟนๆ  แต่ดูเหมือนท่าทางแบบนี้พวกเธอจะยิ่งชอบ

     ผมหัวเราะออกมาเบาๆ  เอนตัวลงไปพิงคนรักที่ยังคงต่อสู้กับเสียงกรี๊ดของแฟนๆไม่หยุด

    “  เสี่ยวลู่อ้ะ!!  ช่วยผมดิ   อย่านอนสบายงี้ดิ “

    “  ช่วยอารายยยย   แฟนๆชมนายก็ดีแล้วนี่  จริงม้ายยย  หืม..  เบบี้เซฮุนที่แสนจะน่ารัก  “

    “  เออ!  ล้อไปเหอะนะ   ถ้าผมจุ๊บลูฮานตรงนี้ขึ้นมาดูดิ๊ยังจะกล้าล้อผมอีกมั้ย “   สิ่งที่เพิ่งจบลงทำให้ผมสะดุ้งขึ้นมาจากตักของเซฮุนทันที  หันไปมองเค้าที่ตอนนี้ทำหน้าตาชั่วร้าย

    “ อย่านะ!! 

    “  หึหึ..   ทำมายล่า~   เมื่อกี๊ยังล้อผมอยู่เลยนะ “

    “  นาย

    “   ไหนๆสตาฟก็ใช้เราสองคนโปรโมทอยู่แล้วนี่  ผมว่าเรามาทำตัวแบบตอนที่อยู่กันสองต่อสองเลยดีมั้ย  เป็นการบอกใบ้แฟนๆไปเลยว่าจริงเรื่องที่พวกเค้าคิดน่ะถูกแล้วล่ะ  “  พูดจบเด็กปีศาจก็เขยิบเข้ามาใกล้ผม  แสยะยิ้มมองมา   ผมรีบถอยทันที

    “  น่ะ..  นายไม่ทำหรอก  นี่มันคนตั้งเยอะนะ  “

    “   หึ..   พูดอะไรแบบนั้น   ฮยองก็รู้ว่าผมสนที่ไหน  “  เค้าตอบแล้วเขยิบเข้ามาอีก  คราวนี้คว้าข้อมือผมไว้ได้ก่อนที่ผมจะทันหันหนี

    “  ผมเคยบอกกับแฟนคนนึงไปว่าเสี่ยวลู่น่ะน่ารักกว่าผมอีก  แล้วเธอก็โพสลงเน็ตด้วยล่ะว่าผมชอบฮยอง  จากนั้นทุกคนก็ฮือฮากันใหญ่   งั้น..   ผมว่าเรามาตอบแทนที่แฟนๆสนับสนุนเราด้วยการจุ๊บโชว์ซักทีดีมั้ย  “

    “  โอเซฮุน!!  อย่านะ!!  “  เค้ายักคิ้ว

    “  ก็อยากแกล้งผมดีนักนี่   ทีนี้ผมจะทำให้ทุกคนรู้ไปเลยว่าคนที่น่ารักน่ะ  จริงๆคือเสี่ยวลู่ต่างหาก   เวลาเราจูบกัน  ลู่ฮานน่ะทำหน้าน่ารักมากเลยนะ “

    “  อย่านะ!! “  ผมกัดริมฝีปากแน่นก่อนจะดันหน้าอกคนเจ้าเล่ห์ที่กำลังโน้มตัวเข้ามาหาออกไป  ก่อนจะรู้ตัวว่าตอนนี้เราสองคนนั่งอยู่ในมุมที่โดนแผ่นหลังของชานยอลบังอยู่พอดี

    “  ลูฮาน..    “

    “  อย่านะ   ตรงนี้คนเต็มเลยนะ “

    “  ไม่มีใครเห็นหรอกน่า~  ชานยอลฮยองนั่งบังอยู่ด้วยนะ  “

    “  แต่..  กล้องของแฟนๆล่ะ  เต็มเลยนะ !!  

    “  ก็บอกแล้วไงว่าทุกคนชอบ “

    “  แต่ชั้นไม่ชอบอ่ะ > <   เค้ายิ้มเมื่อเห็นการโวยวายที่ดูจะไร้ความหมายของผม  นิ้วมือข้างที่ว่างไล้ลงมาตามแก้มของผมอย่างแผ่วเบา  ก่อนจะเชยคางแหลมขึ้นมาให้ริมฝีปากของเราตรงกัน

    “  ไม่ชอบเหรอ..   แต่ทำไงได้ล่ะ    ก็ผมอยากจูบลูฮานแล้วนี่นา “   สิ้นเสียงกระซิบริมฝีปากของผมก็ต้องรองรับความร้อนแรงที่แผดเผาลงมาอย่างรวดเร็ว  สัมผัสนุ่มของกลีบปากที่กดลงมาอย่างไม่ทันตั้งตัวกลายเป็นประกายเพลิงที่รุนแรงจนทำให้หัวใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ  ชั่วพริบตาของการจูบที่สิ้นสุดลงอย่างรวดเร็ว  ริมฝีปากของเราที่สัมผัสกันเพียงไม่นาน   แต่ทำไมทุกอย่างมันถึงได้ร้อนรุ่มไปหมดแบบนี้

    “  ผมบอกแล้วว่าจะเป็นผู้ชายแมนๆของลูฮาน   เพราะงั้นห้ามแกล้งผมอีกนะ “   คนใจร้ายที่ขโมยจูบผมท่ามกลางสาธารณะชนส่งเสียงทุ้มต่ำของเค้าออกมาเป็นการเตือน  ก่อนจะกระซิบย้ำมันอีกครั้ง

    “  ผมคือผู้ชายของฮยอง  จำไว้นะเสี่ยวลู่ “

     

     

     

     


    เซฮุน

     

    ตลอดระยะเวลาครึ่งชั่วโมงระหว่างการเดินทางกลับหอ  สิ่งที่ผมได้จากคนสวยคือใบหน้างอๆ  กับสายตาโกรธเคืองและความเงียบสนิท   ลูฮานไม่ยอมคุยกับผมอีกเลยหลังจากตอนนั้น  ที่สำคัญ  ยังหนีไปนั่งหลังรถกับเพคฮยอนฮยองด้วย

    “  โอเซฮุน  “  เสียงทุ้มใหญ่ของชานยอลฮยองดังขึ้นมาจากด้านหลัง  และผมรู้ทันทีว่าเค้าจะพูดอะไร

    “  นายไปก่อเรื่องอะไรให้เสี่ยวลู่ของนายเคืองอีกป้ะเนี่ย   ทำไมอยู่ๆก็มานั่งกับหมาของชั้นล่ะ “

    “   เปล่าซักหน่อย..   "

    "  หราาาาา  "  ผมหลิ่วตาให้กับเสียงประชด

    "   ก็ได้ทำไรนี่  แค่จูบเค้าเหมือนที่เราทำทุกวันอ่ะ “

    “  ..  หา..

    “  จูบไง  ก็ทำอยู่ทุกวันไม่รู้จะงอนทำไม “

    “  จูบ ?  จูบ!!   นายไปจูบกันตรงไหนอ่ะ ?!!   เราถ่ายรายการทั้งวัน  นั่งอยู่ในสนามคนตั้งเยอะแล้วไป..”  ไม่ทันจะพูดจบตาโตๆของพี่ชายตัวยาวก็เบิกโพลงขึ้นมาทันที  คงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก  พี่ชายของผมน่ะแสนรู้สุดๆอยู่แล้ว

    “   อย่าบอกนะ!! “  เค้าตะโกนออกมา  ผมพยักหน้า  

    “  นายจูบกันทั้งๆที่อยู่ในสนามเลยอ่ะนะ!!?   ต่อหน้าคนเยอะขนาดนั้นอ่ะนะ!! " ผมยักคิ้ว

    " โหยยย  ไอ้บ้า!!  แล้วกล้องที่ถ่ายรายการ  ไหนจะนักข่าว  แล้ว..แล้วไหนจะกล้องของแฟนๆ “

    “  เบาๆดิฮยอง  เดี๋ยวก็ได้ยินกันทั้งรถหรอกนะ "

    "  จะให้เบาได้ไง   หัวนายนี่มันมีอะไรอยู่ในนั้นบ้างมั้ยวะนอกจากความกวน  ทำแบบนั้นต่อหน้าทุกคนอ่ะนะ  ถ้ามีคนเห็น.."

    " ไม่มีใครเห็นหรอกน่า~  ก็ฮยองนั่นแล่ะที่มานั่งบังเราสองคนพอดี “


    “หา!? "

    " ก็ตอนที่แฟนๆล้อผมไง  ฮยองมานั่งบังผมกับลูฮานพอดีเป๊ะเลยอ่ะ "

    "  หืมม  แต่มันก็ไม่ควรเสี่ยงมั้ย
    (วะ)ไอ้บ้า!!!   ทำไมทำอะไรแบบนี้เนี่ย!!  

    “  ก็ผมหงุดหงิดที่โดนล้อนี่  มีแต่คนบอกว่าผมน่ารักเหมือนเด็กผู้หญิง   แถมยังบอกว่าลูฮานหล่อแล้วก็แมน  มีแต่สาวๆกรี๊ดตอนเค้าวิ่งชนะ   แถมตอนผมโดนล้อลูฮานยังจะไปเห็นด้วยกับแฟนๆอีก  ผมก็ต้องสั่งสอนซะมั่งว่าผมต่างหากที่เป็นคนปกป้องเสี่ยวลู่นะ “

    “  อ่อ  สอนด้วยการจูบโชว์ต่อหน้าผู้คนอ่ะนะ “

    “  ก็บอกแล้วว่าไม่มีใครเห็นอ่ะ “

    “  โอเซฮุน.. “   ชานยอลฮยองถอนหายใจออกมา

    “  นายบอกว่าไม่มีคนเห็นรึว่านายไม่เห็นว่ามีคนเห็น  หืม “   เค้าถาม  ผมไม่ตอบ

    “  สมควรแล้วล่ะที่โดนโกรธน่ะ  คราวนี้ชั้นเข้าข้างลูฮานฮยองนะ “

    “   ฮยองก็ไม่เคยเข้าข้างผมอยู่แล้วอ่ะ “

    “  ก็ถ้านายทำตัวให้น่าเข้าข้างชั้นก็คงจะเห็นใจหรอก  นี่รู้ทั้งรู้ว่าเราเดบิวต์แล้ว  ทำอะไรนายต้องระวังหน่อยดิ “ 
    เค้าถอนหายใจอีกรอบก่อนจะลงไปนั่งกอดอกมองผม  นี่คือท่าทีแบบคุณพ่อที่ชานยอลฮยองชอบทำ  และมันก็ทำให้ผมได้สติทุกครั้ง

    “  ผมรู้   ..แต่มันหงุดหงิดนี่นาเวลาใครๆมองว่าเราเหยาะแหยะ.. ฮยองก็ได้ยินว่ามันมีอะไรอีกนอกจากนั้น   ที่สำคัญ  แฟนตัวเองก็ดันไปเห็นด้วยกับคนอื่นนี่สิ “

    “  เค้าก็แค่มองว่านายน่ารักในฐานะมักเน่  ส่วนอย่างอื่นก็ไม่ต้องไปสนหรอกน่า  อีกอย่าง  เวลาที่นายทำอะไรไม่ได้ดังใจก็ยังทำท่างอแงอย่างกะเด็กสามขวบ  โดนล้อนิดหน่อยก็หูแดงหน้าแดงเอามือปิดหน้าปิดตาขนาดนั้น  ใครๆก็มองว่าน่ารักอ่ะแล่ะ ( แฟนๆนายก็มีแต่นูน่าทั้งนั้นนี่นา ทำใจเหอะโอเซฮุน )“

    “  ก็มันเป็นบุคลิกของผมอ่ะ  ผมชอบให้เค้าชมว่าเทห์มากกว่าน่ารักนะ   โดยเฉพาะลูฮานน่ะ  ผมโตจนป่านนี้แล้ว  ยังคิดว่าผมเป็นเด็กอีก “  พูดจบผมก็หันไปมองแฟนตัวเอง  ส่งสายตาอ้อนไปหาแต่ถูกเค้าค้อนกลับมาแบบเคืองสุดๆ

    “  ดูดิ!   คนบ้าอะไรเวลางอนยังน่าฟัดเป็นบ้า   คนที่น่ารักน่ะลูฮานชัดๆเลยนะ  ไม่ใช่ผมซักหน่อย “

    “  ก็นั่นมันในสายตาพวกนาย  แต่ในสายตาแฟนๆน่ะ  นายมันมักเน่ขี้อายชัดๆโอเซฮุน   แล้วก็อีกอย่าง  แฟนคลับของเราน่ะ  เค้าก็มองลูฮานฮยองว่าสวยกันทั้งนั้นล่ะ  บางคนยังบอกว่าสวยกว่าผู้หญิงอีกนะ  ไอดอลวงอื่นยังมองเหลียวหลังจนคอแทบเคล็ดกันเป็นแถบ  จีฮุนยังบอกเลยว่า ‘  ฮยองนายสวยมากเลยนะ ‘  แบบนี้อ่ะ “  ปัญหาใหม่ที่น่าหนักใจกว่าการตามง้อแฟนผุดขึ้นมาทันทีหลังจากพี่ชายพูดจบ  ผมมองเห็นภาพสายตาอันตรายนับร้อยที่จ้องมายังกวางน้อยของผม  นอกจากสาวๆที่ตามกรี๊ดเสี่ยวลู่แล้ว  ผมต้องต่อสู้กับหนุ่มๆด้วยสินะ

    “  ฮยอง..ว่าไงนะ “

    “  ชั้นบอกว่ามีแต่เพื่อนๆชมลูฮานฮยองทั้งนั้น  เค้าบอกว่าคนอะไรน่าตาดีแถมเล่นกีฬาก็เก่ง  จีฮุนยังบอกว่าถ้าว่างๆก็อยากทำความรู้จักน่ะ “

    “ จีฮุนนี่ใคร “

    “  เพื่อนชั้นไง  วันนั้นยังเจอกันที่สนามบิน “  ผมขมวดคิ้วแน่น  รู้สึกกล้ามเนื้อบนหน้าผากกระตุกนิดๆ

    “  งั้นฝากไปบอกเพื่อนฮยองนะ  ว่าคนสวยเนี่ยมีแฟนแล้ว  ถ้าอยากเล่นบอลมากก็มาชวนผม “

    “  นายแล่นบอลไม่เป็นไม่ใช่แง่ะโอเซฮุน “

    “  เป็น!   แค่เตะๆไปก็เป็นแล้ว   ฝากบอกด้วยละกัน “

    “  หึหึ...    นายก็ไปบอกเองดิ๊..”   คุณยีราฟส่งเสียงหัวเราะทุ้มใหญ่ออกมา  ทำตาเจ้าเล่ห์แล้วเริ่มกระซิบที่ข้างหูผม

    “  เพราะไม่ใช่จีฮุนเท่านั้นนะที่อยากรู้จักแฟนนายน่ะ  ไอดอลชายอีกเพียบเลยที่ตกหลุมรัก..  ..เอ๊ย..  รู้สึกชื่นชมคนสวยของนายเป็นพิเศษ  “   ผมหันไปมองหน้าพี่ชายช้าๆ  กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก

    “  รีบๆทำตัวว่านอนสอนง่ายแล้วไปง้อแฟนเลยนะโอเซฮุน  ชั้นจาได้เอาเวลาไปสวีทกับหมาของชั้นบ้าง  “

     

     




    ลูฮาน

     

    เสื้อฮูทตัวใหม่ที่ทางสไตลิสส่งมาให้ผมถูกแขวนไว้ที่หน้าประตูห้องพร้อมกับกระดาษแผ่นเล็กๆที่แปะอยู่  ผมหยิบมันขึ้นมาอ่านก่อนจะขยำทิ้งถังขยะไป

    “ ใส่ให้บ่อยเท่าที่ทำได้งั้นเหรอ   เข้าใจแล้วๆ “   ผมพูดกับตัวเองก่อนจะถือเสื้อใหม่สองสามตัวเข้ามาในห้อง  เปิดประตูแล้วก็ต้องหยุดยืนนิ่งอีกรอบ


    ใครเอาเด็กบ้าที่ทั้งเอาแต่ใจแถมยังไร้เหตุผลมาทิ้งไว้บนเตียงของผมล่ะเนี่ย


    “  จะลุกเองรึให้ชั้นเตะนายออกไป “

    “  เสี่ยวลู่~ “

    “  นับถึงสามนะ  หนึ่ง  สอง  สา.. “  ไม่ทันจะนับเสร็จเด็กบ้าก็กระเด้งออกมาจากเตียงของผม  ยืนสงบเสงี่ยมอยู่ข้างๆไม่ยอมไปไหน

    “  ลุกแล้วก็ช่วยเขยิบออกจากห้องไปด้วย  เกะกะ “

    “  โห~  ต้องไล่ผมด้วยเหรอ “

    “  เออ!   ชั้นไม่อยากคุยกะคนที่พูดไม่รู้เรื่องอย่างนาย  ออกไปเลย “

    “  ผมขอ.. “

    “  ไม่ให้อภัย

    “  หา!!  ยังไม่ทันพูดอะไรเลยอ้ะ!! 

    “  ชั้นรู้ว่านายมาทำไม  ออกไปเลย “

    “  หืมม  รู้ใจผมซะด้วยนะ  น่ารักจัง “

    “  ออกไป!!  เดี๋ยวนี้!! 

    “  ผมมาง้อนะ “

    “  ก็บอกว่าไม่ให้อภัยไง!!  ถ้าไม่ออกชั้นจะเตะนายเดี๋ยวนี้อ่ะ  ออกไม่ออก !! 

    “  แต่ผมสำนึกผิดแล้วอ่ะ  เสี่ยวลู่~ “

    “  ยังอีก!  บอกให้ออกไปไง “

    “  ผมขอโทษอ่าาาา “  พูดจบมนุษย์หมีจอมเอาแต่ใจก็พุ่งเข้ามากอดผม  กอดแน่นซะจนหายใจแทบไม่ออก

    “  ฟังผมแก้ตัวก่อนนิดนึงน้าา   แล้วจาเตะผมให้ตายไปเลยก็ยอม  “  เสียงทุ้มลากยาวในแบบที่ชวนขนลุก  จมูกโด่งตอนนี้ซุกอยู่ที่ไหล่ของผมพร้อมกับใบหน้าหล่อในแบบที่พร้อมจะร้องไห้ออกมาเมื่อไหร่ก็ได้  (อย่างหลังนี่ผมจิตนาการเอง  ก็หมอนี่ชอบทำหน้าแบบนี้ตอนงอแงนี่นา “

    “  น้าฮ้าาา   ฟังผมหน่อยน้า  แล้วผมจายอมให้เสี่ยวลู่เตะจนสลบเลย “

    “  หึ..  พูดเองนะ “  เค้ารีบผละออกมามองผมหลังจากที่คำสุดท้ายถูกพูดออกไป  ทำสีหน้าตกใจเล็กน้อยก่อนจะกลับมาส่งสายตาออดอ้อนต่อ

    " ใจคอจาเตะแฟนตัวเองได้ลงคอจริงเหรอฮ้าาาา"

    " โอ เซ ฮุน! "  เด็กแสบมองหน้าผมก่อนจะเม้มปาก  ทำตาปริบก่อนจะค่อยๆใช้นิ้วมือซนสอดมาตามร่องนิ้วของผม พยายามจับมือ

     

    “  ... มี...มีไรก็พุดๆมาดิ  ชั้นจานอนแล่ว “   ผมรีบหันหนีสายตาอันตราย ดันตัวเซฮุนออกไปให้ห่างเล็กน้อย  ถอยมานั่งบนเตียงตัวเองให้อยู่ในระยะที่เค้ากอดไม่ถึงเพราะมันคงปลอดภัยมากกว่า  ถ้าเค้าจู่โจมผมอีก  คราวนี้คงได้เคลิ้มไปด้วยแน่ๆ

    “  คือว่า..   วันนี้อ่ะ  ผมโดนล้อว่าน่ารักทั้งวันเลย  แล้วฮยองก็วิ่งได้ดีมากด้วย  แถมเท่ห์มากๆด้วย “   สิ่งที่ได้ยินหลังสุดช่วยฉุดอารมณ์ของผมให้ดีขึ้นเล็กน้อย

    “  เทห์เหรอ “

    “  อื้ม  มีแฟนๆชมแบบนี้  แล้วก็บอกว่าลูฮานแมนมากเลยตอนเล่นกีฬาน่ะ “  ผมแทบจะกลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่  ถึงแฟนๆจะชมผมเรื่องหน้าตาดีแต่ก็มักใช้คำผิดๆอยู่ตลอด  อย่างเช่นคำว่า ‘ สวยอย่างกะเทพธิดาเลย ‘  และ ‘  น่ารักมากเลย ‘ เป็นต้น

    “  แล้วไง..   เค้าชมชั้นแล้วนายไม่พอใจรึไง  มันไม่ดีรึไง “

    “ เปล่า    ก็ถ้าชมอย่างเดียวก็ไม่เป็นไรใช่มั้ยล่ะ แต่มีสาวๆตั้งหลายวงที่ชอบฮยอง  แล้วก็..    แล้วก็พวกฮยองวงอื่นๆด้วยอ่ะ “   อย่างหลังทำผมขนหัวลุก  อะไรคือฮยองวงอื่น

    “  แล้วทีนี้แฟนๆก็กรี๊ดหนักกว่าเดิม  แถมดันมาหาว่าผมน่ารัก  ทั้งๆที่ผมควรปกป้องฮยอง  ทั้งที่ผมควรจะเท่ห์มากกว่าน่ารักใช่มั้ยล่ะ “

    “  แล้วไง?  แล้วนายก็เลยมาลงที่ชั้นเหรอ “

    “  ก็ลูฮานล้อผมนี่นา  แกล้งผมอย่างกะเด็กๆ  ผมบอกแล้วไงว่าผมโตแล้วน่ะ  บอกลูฮานแล้วว่าผมจะเป็นผู้ชายที่ปกป้องเสี่ยวลู่  จะเป็นผู้ชายแมนๆของฮยอง “

    “  ชั้นก็แค่แหย่เล่นนี่นา  นายเป็นอะไรมากป้ะเนี่ย   ปกติก็แหย่เล่นประจำ  ทำไมวันนี้ต้องทำแบบนั้นด้วย..”

    “  .....”  เค้าไม่ตอบ  ทำหน้าหงอย

    “  อีกอย่าง   นายจูบ...  ..เอ่อ..   นาย..    นายทำแบบนั้นต่อหน้าคนตั้งเยอะ  มัน..”

    “  แต่ผมดูแล้วว่าไม่มีใครเห็นนะ “

    “  แต่ก็ไม่ควรทำนี่นา!   นายบอกว่าโตแล้วแต่ทำตัวเป็นเด็กแบบนี้ได้ไง!!  นายไม่เห็นว่ามีคนมองหมายความว่าไม่มีใครเห็นเหรอ!!  เราเดบิวต์แล้วนะ!!  ทำไมทำอะไรไม่คิด!  เรา..!!!  “  ผมลดเสียงลงเล็กน้อยเมื่อหันไปเห็นเซฮุนเริ่มก้มหน้าอย่างรู้สึกผิด  ลังเลว่าจะพูดอะไรต่อก่อนจะพยายามจบการสนทนาที่เริ่มตึงเครียด

    “  ..เรา.. เราเดบิวต์แล้ว...  ทำอะไรก็ต้องระวังหน่อย  จริงมั้ยล่ะ “  เค้าพยักหน้า  ยังไม่เงยขึ้นมามองผม

    “  ขอโทษนะฮะ..  ผมมันเด็กนี่นา “

    “ เซฮุน..”

    “  ผมก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะโตแล้วก็เป็นแบบที่ทุกคนต้องการ  ผมไม่ชอบเลยที่ใครๆก็มองว่าผมเด็กแล้วก็ไม่มีหัวคิด  วันนี้ตอนที่ผมส่งไม้ช้าเมเนเจอร์ฮยองก็บอกว่าผมควรจริงจังกับการแข่งให้มากกว่านี้  ทั้งที่ผมก็พยายามเต็มที่แต่ทุกคนกลับคิดว่าผมแค่เล่นๆกับทุกอย่าง  ตอนแข่งตอบคำถาม  จงแดฮยองก็ดุผมเพราะผมตอบผิด  แล้วก็บอกว่าผมไม่ตั้งใจตอบทั้งๆที่ผมแค่อยากทำให้มันดูสนุกๆไม่เครียด  ผมทำอะไรทุกคนก็คิดว่าผมไม่มีหัวคิดไปหมดเลย.. “

    “  ไม่ใช่หรอกน่า......”

    “  วันนี้ตอนเดินออกมาจากสนาม  อยู่ดีๆก็มีคนตะโกนว่าผมมันไม่เหมือนผู้ชาย   พอไปยืนกับเทาก็หาว่าผมดูนุ่มนิ่ม  แถมว่าแฟนคลับของผมว่า  ไม่รู้สนับสนุนคนอย่างผมไปได้ยังไง   ลูฮานน่ะยังดูแมนกว่าผมซะอีก...  ”  สิ่งต่างๆมากมายที่ผมไม่เคยรู้พรั่งพรูออกมาจากปากของเค้าไม่หยุด   ทังที่ผมคิดว่าอยู่เคียงข้างเซฮุนตลอดเวลา  ทำไมถึงมีเรื่องเลวร้ายแบบนี้เกิดขึ้นโดยที่ผมรู้เรื่องอะไรซักนิด

    “  ...ตอนไหนน่ะ.. ชั้นไม่เห็นรู้..”

    “  เค้าก็พูดมาเรื่อยๆนั่นล่ะ ตอนที่ฮยองไปวิ่ง  หรือแม้แต่ตอนที่ลูฮานยืนอยู่    ถึงจะไม่ชอบโดนชมว่าน่ารักแต่ผมก็ดีใจอยู่เหมือนกันที่มีแฟนคลับรักผม  แล้วก็เอ็นดูผม  แต่..  มันก็ไม่ใช่ทุกคนใช่มั้ยล่ะที่จะเป็นแฟนๆของเรา   บางคนในสนามก็คงไม่ใช่   ผมไม่ได้จะใส่ใจหรอก  ฮยองก็รู้ว่าผมไม่ได้สนใจอะไรมากอยู่แล้ว   แค่ได้เต้นบนเวที  ทำงานที่รักเรื่อยๆ  ผมก็มีความสุขแล้ว   แต่บางที..   ผมก็สงสัยว่าไปทำอะไรให้เค้าเกลียดถึงต้องพูดออกมาแบบนั้น   บุคลิกผมมันคงเหยาะแหยะจริงๆล่ะนะ   ไม่รู็ต้องพยายามอักเท่าไหร่ถึงจะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าผมก็โตเป็นผู้ใหญ่ที่เอาจริเอาจังกับงาน  “   รอยยิ้มบางๆฉาบอยู่บนใบหน้าหล่อเมื่อเซฮุนเงยขึ้นมามองผม  สิ่งที่เห็นตรงหน้าคือเด็กหนุ่มที่เพิ่งก้าวเข้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่ได้ไม่นาน  แต่เค้ากลับต้องแบกรับเรื่องมากมายในฐานะมักเน่ของวง

    ความร่าเริงที่ถูกหลายคนตัดสินว่ามันคือความไม่ตั้งใจทำงานและเป็นคนไม่จริงจัง  การมองโลกในแง่ดีของเค้าที่ทำให้ใครๆคิดว่าเค้าเป็นคนไม่เอาไหนและไม่มีหัวคิด  

    การถูกตัดสินแบบนี้มันไม่ยุติธรรมเลยสำหรับคนที่อ่อนโยนอย่างเซฮุน  

    “  ผมไม่คิดมากเวลาโดนชมว่าน่ารักหนอกนะ  แต่บางทีมันก็โกรธตอนที่ถูกตะโกนออกมาว่าเหมือนผู้หญิงรึว่าไม่แมน  55 ..ก็ตลกดี..  “

    “  ชั้นไม่เห็นรู้เลย..”

    “  ภาษาเกาหลีที่เป็นคำหยาบคายน่ะฮะ..    ตอนที่ฮยองมานั่งกับผมวันนี้ก็มีคนตะโกนออกมาด้วย  ลูฮานคงไม่รู้ศัพท์พวกนั้นหรอกฮะ  มันเป็นคำหยาบที่เอาไว้ว่าผู้ชายที่นุ่มนิ่มน่ะ  ลูฮานไม่รู้ก็ดีแล้ว “   มือหนาเอื้อมออกมาลูบหัวผมอย่างปลอบโยน  ก่อนที่เจ้าของมือจะส่งยิ้มออกมา

    “  เพราะแบบนี้เหรอชานยอลถึงมานั่งบังเรา  “

    “  มั้ง   ชานยอลฮยองถึงจะทำตัวตลกไปเรื่อย  แต่ฮยองเค้าก็คอยดูแลผมมาตั้งแต่เป็นเด็กฝึก   แถมเป็นคนความรู้สึกไวจะตาย  ผมว่าเค้าคงได้ยินน่ะล่ะ “

    “  ....เซฮุน...  ”   ความรู้สึกหนักอึ้งบางอย่างโถมลงมาทับผมทันทีหลังจากที่เรื่องทุกอย่างกระจ่างขึ้น  ทำไมผมถึงไม่รู้อะไรเลยทั้งๆที่อยู่ข้างเค้าตลอด  เซฮุนยิ้มออกมาทันทีก่อนจะลูบหัวผมอีกครั้ง   สีหน้าของผมคงแย่มาก

    “  ก็นะ..  แล้วเสี่ยวลู่ดันมาแกล้งผมอีกอ่ะ  มาเกาคางแล้วก็ล้อผมว่าน่ารัก  ผมก็เลยต้องสั่งสอนซะหน่อย “  อยู่ๆมักเน่ก็ทำเสียงร่าเริง  คงพยายามเปลี่ยนบรรยากาศอึมครึมด้วยความกวน

    “  ถ้าวันหลังล้ออีกจะทำมากกว่าจูบนะ “

    “  ขอโทษนะ...”

    “ ....”

    “  ชั้น..  ไม่รู้อะไรเลย  “  รอยยิ้มหายไปจากใบหน้าหล่อทันที   ก่อนที่จะกลับมาใหม่ในแบบที่อ่อนโยนมากขึ้น

    “  ว่าแล้วว่าถ้าบอกลูฮานก็ต้องเศร้าแบบนี้อ่ะ “

    “  ถึงชั้นจะแกล้งนาย  แต่ว่าจริงๆแล้ว..     จริงๆแล้ว..ชั้นชอบที่นายร่าเรงแบบนี้  แล้วก็ชอบที่นายมองโลกในแง่ดี   ถึงใครจะพูดไง  แต่ชั้น..    ชั้นก็รักนายที่เป็นแบบนี้อ่ะนะ “

    “  ....ลูฮาน...”

    “  เพราะงั้น..  ขอโทษนะที่ล้อนาย “

    “  ไม่ใช่แบบนั้นหรอกน่า  อย่าไปสนใจมันสิฮะ “  เค้าลูบหัวผมอีก  ก้มลงมาแตะหน้าผากของเราเข้าด้วยกัน

    “  ผมขอโทษนะที่ทำอะไรไม่ระวัง..   จริงๆผมก็หงุดหงิดนิดๆน่ะที่โดนพูดอะไรหยาบคายใส่  แต่ว่าก็อยากจุ๊บลูฮานอยู่แล้วด้วยอ่ะนะ  แบบ  ได้โอกาสพอดีเป๊ะเลย  “   เค้ายิ้มกว้าง  ผมยิ้มด้วย

    “  สรุปคือนายคิดลามกอยู่แล้วสินะ  ไม่ได้เศร้าอะไรมากมายสินะ “

    “  เศร้าดิ~   เศร้าด้วยอยากจูบด้วยไง  “  พูดจบผู้ชายที่ผมเพิ่งคิดว่าน่าเห็นใจก็หายตัวไปทันที  เหลือแต่เด็กบ้าที่กำลังขโมยหอมแก้มผม

    “  นายนี่นะ..”  ผมชกเบาๆไปที่ไหล่ของเค้า  เผลอยิ้มออกมามากขึ้นไปอีก

    “  วันหลังผมจะระวังตัว  จะไม่จุ๊บฮยองในที่ที่คนเยอะๆอีก “

    “  ก็ดี “

    “  แล้วก็จะไม่ทำตัวลามกต่อหน้าคนมากมายอีก “

    “  อื้ม  ดี “  ผมพยักหน้า  ผละออกมาจากอ้อมกอดของเซฮุนที่ไม่รู้ว่าโอบรัดตัวผมไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่

    “  แต่ถ้าคนไม่เยอะก็อีกเรื่องนะ  “

    “ ...  หา.. ” 

    “  ถ้ามองซ้ายมองขวาแล้วไม่มีคน  ต่อให้อยู่ที่สวนสาธารณะผมก็จะจูบฮยอง “

    “  โอ  เซ  ฮุน  “

    “  แล้วก็ถ้าเราไปฐานทัพลับของผมอีก  ผมก็จะเลิฟๆกับลูฮานที่สนามหญ้านั่นอีก “   ผมอ้าปากค้าง  คำว่าเลิฟๆมันกลับมาอีกครั้งพร้อมกับขนแขนของผมที่ลุกชันไปหมด

    “  ระวังตัวไว้ให้ดีละกันนะฮะลูฮาน  ที่สาธารณะแต่ไม่มีคนน่ะ  เป็นข้อยกเว้นนะรู้รึเปล่า   “

     

     

     

    เซฮุน


    วันหยุดของพวกเรากำลังจะจบลงในอีกไม่กี่วันเพราะแผนการคัมแบคถูกประกาศแล้วเมื่อเช้านี้  ผมเดินออกมาจากห้องประชุมด้วยอารมณ์ที่แจ่มใส่ปนเปไปกับความรู้สึกหดหู่ที่ต้องกลับไปซ้อมหนักแบบบ้าคลั่งอีกหน

    สิ่งที่ชวนให้ความเบิกบานของฤดูใบไม้ผลินี้สดใสมากกว่าทุกทีก็คือ  ผมไม่ต้องแยกจากคนรักในการคัมแบคครั้งนี้  พวกเราทั้ง12คนจะโปรโมทร่วมกัน  ออกรายการ  ขึ้นไลฟ์ด้วยกัน  แถมครั้งนี้บริษัทยังให้เรารับงานรายการวาไรตี้มากขึ้นด้วย  ซึ่งผมกับชานยอลฮยองรู้สึกอยากไปออกรายการแบบนี้มาตั้งนานแล้ว  มันคงสนุกจริงๆที่ได้เล่นเกมส์มากมายแล้วก็คงจะสนุกมากขึ้นด้วยเพราะคราวนี้ผมจะได้ทำกิจกรรมของวงร่วมกับฮยองทุกคนเลย


    “  เกอเกอ.. นายโอเคนะ “  เสียงของเลย์ฮยองที่ดังขึ้นมาทำให้ผมหยุดยืนอยู่ที่ชั้นล่างของโถงทางเดินภายในตึกบริษัท  มีไม่กี่คนที่เลย์ฮยองจะเรียกเกอเกอ  คนแรกก็แฟนผม  อีกคนก็.. คริสฮยอง


    “  ถ้ามีอะไรที่ชั้นทำได้  นายก็..”

    “  ไม่มีอะไรหรอกอี้ชิง   ชั้นหายไปแบบนั้นมันก็สมควร “

    “  แต่ทุกคนเข้าใจนายนะ  อย่าคิดมากเลย “

    “  ไม่ทุกคนหรอก..  นายก็รู้ว่าไม่ทุกคน “   ผมได้แต่ยืนนิ่งฟังสิ่งที่เพิ่งได้ยินจบไปอยู่ท่ามกลางความเงียบ  ไม่มีทั้งเสียงของเลยฮยอง  หรือเสียงตอบจากคริสฮยอง 

    “  ชั้นดีใจนะ..”

    “  .....”

    “   ดีใจที่นายกลับมา....”

    “  อี้ชิง...”

    “  ถึงคนที่ทำแบบนั้นจะเป็นลู่เกอ  แต่ชั้นก็ดีใจ..”

    “   ที่ชั้นไม่รับโทรศัพท์นายเพราะสุดท้ายชั้นคงไม่สามารถจะคิดอะไรได้อย่างมีเหตุผลนอกจากคิดถึงแต่นาย  ทั้งที่ชั้นอยากได้ยินเสียงนายแทบบ้า.. 

    “  ......”

    “  ...ชั้นรักนายนะ..   อย่าทำเหมือนไม่รู้สิอี้ชิง “

    “ ....  นี่มันงาน “

    “  งานกับเรื่องส่วนตัวบางทีชั้นก็แยกไม่ได้หรอก “

    “ .... “

    “  ชั้นคิดถึงอนาคต   แม่ของชั้น  บ้าน..   การทำแบบนี้ต่อไปชั้นมองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น   นายก็รู้ว่าพวกเราเป็นยังไงในสายตาพวกเค้า สัญญาของพวกเรา  ตอนฝึกนายเจออะไรมาบ้าง  รอยแผลเป็นนั่นของลูฮาน   “  คำว่ารอยแผลเป็นเหมือนจะกระชากเอาความรู้สึกตัวของผมไป  ที่ริมฝีปากของคนรัก  ผมเคยถามเค้าแล้ว  แต่..

    “  นี่มันคือความฝันของชั้นอี้ฝาน   มันคือความฝันที่เราตั้งใจฝึกมา “

    “  มันเคยเป็นความฝันของชั้นอี้ชิง   เคย..   แล้วก็ ของลู่หานด้วย “

    “  เพราะงี้นายถึงยอม   ถ้าเป็นลู่เกอนายถึงยอมฟังสินะ “

    “  ไม่ใช่ .....”

    “  ชั้นคงทำแบบนั้นไม่ได้สินะ  เพราะชั้นเองไม่เข้าใจเลยว่านายคิดอะไร  ต้องเป็นลู่เกอเกอใช่มั้ยที่นายจะฟัง “

    “  นายไม่รู้รึแกล้งไม่รู้จางอี้ชิง!!!! “  เสียงที่เหมือนอะไรบางอย่างกระแทกกับผนังของตึกทำให้ผมสะดุ้ง   การยืนฟังสิ่งที่คนอื่นคุยกันมันไม่ใช่นิสัยของผม  แต่..   ผมไม่ได้ตั้งใจทำแบบนี้    จะเดินต่อไปก็ไม่ได้  จะหันหลังกลับไปในห้องประชุมที่บอร์ดใหญ่ของบริษัทกำลังคุยงานอยู่ก็ไม่ได้  


    มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่


    สิ่งที่ผมได้ยินหลังจากนั้นคือภาษาจีนที่ผมไม่อาจจะเข้าใจ   ปกติแล้วเวลาเมมเบอร์ชาวจีนอยู่ในวงพวกเค้าจะพูดภาษาเกาหลีกันเองโดยที่พยายามไม่หลุดภาษาจีนออกมา  เลย์ฮยองบอกว่ามันดีกว่าที่จะทำให้เมมเบอร์เกาหลีรู้ในสิ่งที่พวกเค้าคุยกันเพื่อจะได้สนิทและไว้ใจกันมากขึ้น  แล้วคงจะเป็นเรื่องดีที่จะได้ทำตัวให้คุ้นเคยในการอยู่ต่างบ้านต่างเมือง ดังนั้นมันคงเป็นเพราะความเคยชินของเลย์ฮยองและคริสฮยองที่ทำให้พวกเค้าใช้ภาษาเกาหลีคุยกันในตอนแรก  แต่ในเมื่อบทสนทนาเริ่มตึงเครียดแบบนี้  พวกเค้าคงไม่ใสใจที่จะทำตัวให้กลมกลืนหรือว่าไม่สนใจเรื่องการฝึกทักษะภาษาเกาหลีอีกแล้ว


    น้ำเสียงที่เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆยิ่งทำให้ผมสงสัย  ชื่อของลูฮานที่ถูกเอ่ยออกมาเป็นระยะทำให้ผมยิ่งอยากรู้


    เลย์ฮยอง  คริสฮยอง  และ  ลูฮานของผม  การกลับมาล่าช้าของคริสฮยองที่ทุกคนบอกว่าเป็นเพราะเค้าต้องการพักผ่อนกับครอบครัว

       

    ..จริงๆแล้ว..

    มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่




    Preview P2  :  



    ..แสงสีที่สะท้อนผ่านม่านน้ำกลายเป็นประกายรุ้งที่สว่างจ้าไปทั่วบริเวณสะพาน  ผมหันไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ  จ้องดวงตากลมสวยที่ตอนนี้ยิ่งทำให้ผมลุ่มหลง  ..

     
      จูบได้มั้ย ...  ผมกระซิบ
     
      ผมจูบลูฮานตรงนี้ได้มั้ยฮะ

    ความมืดรอบกายยิ่งทำให้ผมไม่อาจสะกดความต้องการไว้ได้อีก  ท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมาย  มันทำให้ผมไม่แน่ใจว่าควรเปิดเผยความรู้สึกของเราออกไปมั้ย  การได้อยู่ในที่ที่มีเพียงแต่เราสองคนเท่านั้น  การได้ใช้เวลาตามลำพังกับเค้า ผมอยากให้ลูฮานรู้จริงๆว่าผมต้องการเค้ามากแค่ไหน

      มือของผมไล่ลงไปตามลำคอเรียวยาวของเค้า  ประคองท้ายทอยของคนรักก่อนที่จะดันเข้ามาใกล้มากขึ้น

      อยู่กับผมจนถึงเช้านะ  คืนนี้อยู่กับผมนะฮะ  ลูฮาน
     







    BY  Z


    ปล.   จะรีบมาต่อให้เร็วที่สุดค่ะ  T  T   จะได้มั้ยน้าาาาา  ตอนแรกว่าจะแปะหลังปีใหม่แต่คิดว่าถ้าหากกลับไทยคงได้แต่กินอาหารไทยแล้วก็เที่ยวๆๆๆๆช้อปๆๆๆๆจนลืมแน่เลย   ดังนั้นจึงเอามาแปะก่อนน่ะค่ะ   รู้สึกผิดที่อาจจะมาลงตอนสองให้ช้าแน่เลย  ขอโทษไว้ก่อนนะคะ    (  ก่อนที่จะรู้สึกผิดเพราะลงตอนสองช้า  เธอควรสำนึกผิดที่จบตอนหนึ่งแบบค้างคาอย่างนี้ดีกว่ามั้ยยะwriter ...  อยากบอกZแบบนี้สินะคะ  ฮุฮุ )

    NCรออยู่แต่ไม่รู้ตอนไหน  555555  ก้บอกแล้วว่าดราม่าแต่NCดุเดือดกว่าภาคแรกอีก  เค้าเตือนแล้วน้าาาาาาาาา  ถอนตัวยังทันนะคะ

    ไปแล้วค่าาาา   รักreaderน้าค้าาาาาา  

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×