ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    I`m Kimera -

    ลำดับตอนที่ #1 : -1- I`m black phoenix.

    • อัปเดตล่าสุด 15 พ.ย. 49



                            วันที่ 1 มกราคม ปี 0125....

                             หิมะสีขาวที่ตกลงมาจากฟากฟ้าทำให้เบื้องล่างมีหิมะหนาเป็นตันพรก่อนที่บุรุษร่างผอมอายุประมาณ 30 ผู้หนึ่งเดินออกมาจากตู้ขบวนรถตู้สุดท้ายของคณะละครสัตว์ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหิมะหนาเตอะ ซึ่งเมื่อเขามองดูกองหิมะแล้วเขาก็ทำหน้าเบ้ทันที ก็แหงล่ะเขาเป็นคนทำความสะอาดนี่น่า

                              "อา...ให้ตายทีเถอะ ขี้เกียจโกยหิมะออกเป็นบ้าวันปีใหม่ทั้งทีจะไม่ให้เราพักบ้างรึไงกันนะ"ชายคนนั้นบ่นพร้อมขยับหมวกเก่าคร่ำคร่าและเสื้อกันหนาวสีดำให้กระชับยิ่งขึ้นแล้วหยิบที่โกยหิมะออกมา

                              "ปึก"!!!!!!!

                                 เท้าของเขาไปสะดุดอะไรบางอย่างที่ถูกกองหิมะหนาทับไว้อย่างมิดชิด

                                 "ใครมาทิ้งหินโสโครกไว้ที่หน้ารถอีกฟะ"ชายคนนั้นสบถก่อนจะปัดกองหิมะออกเผยให้เห็นตะกร้าใบหนึ่งที่ถูกปิดไว้แบบมิดชิดพร้อมกับดาบสีดำเล่มโตที่ถูกวางไว้ข้างๆ ซึ่งตลอดชีวิตของเขาก็พึ่งจะเคยเห็นดาบสีดำก็คราวนี้ล่ะ

                                 "ขอกินรึเปล่าเนี่ย/แล้วนี่ดาบอะไร"ชายคนนั้นยกตะกร้าขึ้นมาพิจารณาดูก่อนจะค่อยๆเปิดฝาตะกร้า

                                 "นะ...นี่มัน!!!!"ชายผู้นั้นตกใจปล่อยที่โกยหิมะก่อนจะวิ่งไปที่ตู้ที่อยู่หน้าสุด ของขบวนรถ

                                         ...................................

                                 "ก๊อก ๆๆๆ"

                                 เสียงเคาะประตูอย่างร้อนรนทำให้ชายวัยกลางคนร่างท้วมหนวดยาวหัวล้านที่กำลังนอนหลับสบายตื่นขึ้นมาอย่างเหนื่อยหน่ายกับลูกน้องตนเอง

                                 "อะไรกันนักกันหนา"ชายร่างท้วมสบถก่อนจะหยิบเสื้อคลุมแล้วเดินไปเปิดประตูไม้บานใหญ่

                                 "มีอะไร"ชายร่างท้วมถามเสียงห้วน

                                 "ทะ...ท่านเอาไปดูเองเถอะ"ชายคนนั้นว่าก่อนจะเดินเข้ามาด้านในและส่งตะกร้าให้ด้วยความกลัง
     
                                 "เป็นไปไม่ได้...ไม่น่าเชื่อเลย ว่าจะมีคิเมร่าแบบนี้อยู่ด้วย"ชายร่างท้วมเบิกตากว้างอย่างตกตะลึงจนเกือบปล่อยตะกร้าลงพื้นแล้วหยิบจดหมายในนตะกร้ามาอ่าน

                       แด่ท่านผู้เก็บเด็กคนนี้ได้

                                   ขอให้ท่านเลี้ยงเด็กคนนี้ไว้ด้วยเพราะเราไม่สามารถเลี้ยงเด็กคนนี้ได้เพราะเขาเป็นคิเมร่า อีกหนึ่งอย่างเขาจะเป็นตัวแปรสำคัญโปรดเข้าใจด้วยนะค่ะ

                                                                                            จาก แม่ของเด็ก...

                                 "แล้วท่านจะทำไงกับเด็กนี่ละครับ"ชายร่างผอมถาม

                                 "ทำไงน่ะเหรอ....ก็ต้องเลี้ยงไว้น่ะซิ "คนเป็นเจ้านายตอบแบบไม่คิดมาก

                                 "ห๊า!!...ท่านจะ...จะเลี้ยงเด็กนี่น่ะเหรอ"คนทำความสะอาดร้องเสียงหลง จนคนเป็นเจ้านายต้องรีบเอามืออุดปาก

                                  "ก็แหงอยู่แล้ว ในจดหมายที่เหน็บมาข้างลำตัวเด็กนี่มันบอกว่าให้ช่วยเลี้ยงด้วยไม่งั้นเด็กนี่ถูกฆ่าแน่ แถมไอ้คนเขียนจดหมายดันบอกมาว่าเด็กนี่คือตัวแปรสำคัญก็เท่านั้นแล้วก็กฎหมายที่นี่ดันออกมาว่าให้เลี้ยงเด็กที่เก็บได้เป็นเวลา 14 ปี"ชายร่างท้วมยักไหล่ก่อนจะอุ้มเด็กมาดู"อีกอย่างคิเมร่าก็ไม่ได้เลวร้ายไปซะทุกตัวหรอก"ชายร่างท้วมว่าก่อนจะจับเด็กที่ตอนนี้กำลังหลับหมุนไปรอบ

                                  "แล้วเขาจะเป็นตัวแปรสำคัญยังไงกันล่ะครับ"คนทำความสะอาดถามอย่างงงๆ

                                  "ใครจะไปรู้เล่า...แต่คงอาจจะเป็นเรื่องที่เปลี่ยนแปลงโลกได้เลยมั้งน่ะ"ชายร่างท้วมพูดก่อนจะยิ้มที่หาดูได้ยากยิ่งออกมาจากมุมปาก 

                                   "แต่นี้มันเป็นสัตว์ในตำนานที่ว่ากันว่าเป็นตัวนำโชคร้ายเลยนะ"ชายร่างผอมพูดก่อนเอานิ้วจิ้มไปที่เด็ก

                                   "แล้วแกเชื่อนิทานปรัมปรานั้นเรอะ "ชายร่างท้วมว่าทำให้คนทำความสะอาดหน้าจ่อยเพราะเพิ่งนึกออกว่ามันจะแน่เร้อที่พ่อแม่เล่าให้ฟังมา
     
                                   "แล้วท่านจะบอกเด็กนี่มั้ยว่าเขาเป็นคิเมร่า"

                                   "อย่าดีกว่า มันจะทำให้เด็กนี่ช้ำใจเปล่าๆ ทางที่ดี"

                                   "งั้นท่านจะตั้งชื่อเด็กนี่ว่าอะไรล่ะ"คนทำความสะอาดถาม

                                   "ดาร์คุ...ดาร์คุ นี่แหละถึงจะเหมาะกับเด็กนี่ คิเมร่าฟินิกซ์ดำผู้มีเปลวไฟสีดำ".....

                                               ....................................

                                     วันที่ 31 ธันวาคม ปี 0138....

                                      เนื่องจากเป็นวันใกล้จะปีใหม่ทำให้คนทั้งหลายแหล่วิ่งวุ่นกันอยู่ในเมือง บ้างก็ซื้อของ บ้างก็หาของมาประดับร้านทุกที่มีแต่ไฟระยิบระยับเต็มไปหมด

                                       "ฮัดเช้ย"เด็กชายอายุ 13 ปีเกือบ 14 ผู้มีตาสีดำดุจนิลกาล รวมถึงผมยาวมัดรวบที่สีดำตามนั้น เสื้อแขนกุดสีดำคอใหญ่ กางเกงสีฟ้าอ่อน รองเท้าบู๊ดสีน้ำตาล  ถุงมือสีน้ำเงินและเสื้อคลุมหนังสัตว์ที่ได้มาจากสัตว์ที่ตายแล้วในคณะละครสัตว์ กำลังนั้นอยู่บนฟุตบาทใกล้ที่ทำการไปรษณีย์เก่าๆ ในเมือง ลูเรน ซึ่งห่างไกลจากความรุ่งเรืองและเทคโนโลยีทันสมัย 

                                          ถึงแม้ว่า เด็กชายจะทำงานอยู่ในคณะละครสัตว์ที่ควรจะได้พักผ่อนเพื่อการแสดงแต่ก็ต้องออกมาเอาของซะได้ เพราะเขาก็ฝึกให้ทำทุกอย่างในคณะเพื่อตอบแทนบุญคุณผู้ที่เก็บเขามาเลี้ยงแม่จะไม่ได้มากก็ตามทีเถอะ 




                                       "กุบ กับ กุบ กับ" เสียงรถม้าเดินเข้ามาก่อนจะหยุดอยู่ด้านหน้าเด็กชายที่กำลังสั่งน้ำมูกอยู่

                                       "ไอ้หนูมาจากคณะละครสัตว์ใช้มั้ย"ชายเจ้าของรถม้าถาม

                                       "ครับ"เด็กชายยืนขึ้นแล้วตอบ

                                       "ดี เอานี่ไป ของที่สั่ง 120000 ดีเซนค่าส่งและค่าซื้อ"เจ้าของรถม้าว่าก่อนที่เด็กชายจะรับพัสดุมาและยื่นเงินให้คนขายของไป

                                       "อ้อ...ใช่ระวังกลุ่มโจรกามานด้วยล่ะ เห็นว่าไอ้พวกนี่มันร้ายมากแถมรัฐบาลก็ไม่ทำอะไรซักที"เจ้าของเกวียนเตือนด้วยหน้าตาที่เป็นกังวลปนบูดบึ้งเพราะกลัวจะเจอขโมย

                                        "ขอบคุณครับ"เด็กชายพูดอย่างอารมณ์ดีแล้วก็เดินไปที่ตั้งของคณะละครสัตว์ โดยไม่รู้ว่ามีกลุ่มคนผู้คอยจ้องจะขโมยแอบดูอยู่ห่างๆ.....

                                             ..................................

                                         วันที่ 1 มกกราคม ปี 0139...เวลากลางคืน

                                          ถึงแม้วันนี้จะมีคนฉลองกันเยอะแยะมากมายบ้างก็กินเหล้าบ้างก็ซื้อของขวัญให้คนรักหรือลูกตนเองแต่ว่าก็ยังมีคนที่เครียดกันอยู่สองคนที่กำลังลำบากใจอยู่เรื่องหนึ่ง

                                          "คงถึงเวลาที่จะต้องมอบดาบเล่มนี้คืนให้เด็กนั้นแล้วก็คงต้องบอกความจริงทุกอย่างด้วย"ชายร่างท้วมหัวล้านพูดเหนื่อยๆก่อนจะหยิบดาบเล่นนึงขึ้นมาดู

                                           "คงงั้นแหละครับเพราะถึงยังไงเด็กนั้นก็ต้องรู้อยู่แล้ว อีกอย่างนี่ก็ครบ 14 ปีแล้วด้วยตามกฏหมาย"คนทำความสะอาดว่าก่อนจะถอนหายใจเหือกใหญ่

                                           ก๊อกๆ

                                           "เข้ามา"ชายร่างท้วมพูดเหนื่อยๆ

                                           "คุณโบต ฮะ ผมไปซื้อของที่จะเอามาประดับงานแสดงนะฮะ"เด็กชายว่า

                                           "เอาสายไฟกับน้ำแข็งแห้งนะดาร์คุ"ชายร่างท้วมพูด

                                           "ครับ"เด็กชายรับคำ 

                                           "ถึงยังไงซะดาร์คุก็คงต้องรู้อยู่ดี"ชายร่างท้วมว่าก่อนจะส่ายเอามือกุมขมับ

                                           "ก๊อกๆๆ"

                                           "เดี๋ยวผมเปิดเองครับ"คนทำความสะอาดว่าก่อนจะเดินไปเปิดประตูไม้

                                           "สวัสดีและ...บ๊าย บาย"ผู้มาเยือนยิงปืนใส่หัวคนทำความสะอาดกระจุยก่อนจะเดินข้ามศพเข้าไปหาชายร่างท้วม

                                           "กะ....แกต้องการอะไร"โบตพูดเสียงสั่นด้วยความกลัวก่อนจะหาอาวุธใกล้ตัวแถวนั้น

                                           "ฮะ ฮะ เราไม่ต้องการอะไรมาหรอก ส่งเงินและของมีค่าทั้งหมดของแกมาซะ!"ชายคนนั้นพูดก่อนจะจับชายร่างท้วมมัดแล้วสั่งให้ลูกน้องไปค้นทั่งคณะละครสัตว์

                                                    ...............................

                                             "ขอสายไฟกับน้ำแข็งแห้งครับ"ดาร์คุที่อยู่ในร้านขายของชำพูดก่อนที่คนขายจะหยิบสายไฟและน้ำแข็งแห้งส่งมาให้ก่อนที่เด็กชายจะยื่นตังค์ให้

                                              "โชคดีมีชัยนะไอ้หนู"คนขายของชำว่าก่อนโบกมือให้อย่างอารมณ์ดี ระหว่างมองเด็กชายวิ่งผ่านไป

                                               "ครับ"เด็กชายหันมายิ้มให้ก่อนจะวิ่งไปที่ขบวนคณะละครสัตว์โดยไม่รู้ว่าที่นั้นดันมีผู้บุกรุกเข้าให้แล้ว

                                                    ...............................

                                                "กลับมาแล้วฮะ"ดาร์คุเปิดประตูเข้าไปแต่ก็พบกับความว่างเปล่าและรอยเลือดถูกทิ้งอยู่

                                                 "ละ...เลือดนี่แล้วทำไม"เด็กชายทิ้งของที่ซื้อมาแล้วจากนั้นก็รีบวิ่งไปดูตู้อื่นแต่ก็ไม่พบผู้คนอาศัยอยู่แต่สิ่งที่พบแทนก็คือข้าวของที่กระจุยกระจายและรอยเลือดเต็มไปหมด

                                                 "หายไปไหนกันอ่ะ"เด็กชายเริ่มสังหรณ์ใจไม่ดีก่อนจะวิ่งไปที่ลานแสดงของคณะละครสัตว์ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป

                                                 "กะ...แกเป็นใคร"เด็กชายมองอย่างตกตะลึงเมื่อเห็นคนชุดดำยืนอยู่หน้าพวกของเขาที่กำลังถูกจับมัดอยู่ด้วยสภาพกึ่งเป็นกึ่งตายแถมภายในลานแสดงก็พังยับเยิน

                                                 "อ๊ะ อ่า ไหงมีคนไม่รู้จักพวกเรากันอีกว่ะ!"พูดจบชายผู้ใส่เสื้อคลุมสีดำก็ชักปืนออกมาก่อนยิงเข้าไปที่ด้านบนหน้าอกซ้ายด้วยความพลาดเข้าอย่างจังทำให้กระสุนเฉียดหัวใจไปประมาณสิบห้าเซนติเมตรก่อนที่เด็กชายจะสลบไป

                                                "ดะ...ดาร์คุ อย่าทำอะไรเค้า...อู๊ฟ"โบตตะโกนที่ก็เจอปากกระบอกปืนอุดปากไว้

                                                "เงียบๆไว้ซะ! อย่าพูดมาก มันน่ารำคาญ"ชายผู้ใส่เสื้อคลุมสีดำตะคอกก่อนจะเลื่อนระดับปืนลงมาจากปากมาที่ท้อง"นี่คือการสั่งสอนที่แกดันพูดมากไม่เข้าท่า"แล้วเขาก็ยิงเข้าที่ท้องของโบตเข้าให้

                                                "อ๊ากกกกกกกกกกกกก"

                                                "เฮ้อ เจเรส ถ้าพวกมันพูดมากก็ฆ่าทิ้งซะสิรอหาพระแสงอะไรกันฟะ"บุรุษผู้หนึ่งเดินเข้ามาหาชายชุดดำนามเจเรส

                                                "ลูกพี่จะฆ่ามันเลยดีมั้ยขอรับ"เจเรสว่า

                                                "ตามใจ ไหนๆพวกรัฐบาลก็ไม่ได่ว่าอะไรอยู่แล้ว เอ๊าพวกแกรออะไรอยู่เล่าไอ้เจเรสมันฆ่าคนเดียวไม่ไหวนะโว๊ย ฮ่าๆๆๆ"หัวหน้ากลุ่มโจรว่าก่อนจะเดินออกไปปล่อยให้ลูกน้องของเขาที่ตอนนี้กำลังแสยะยิ้มอย่างยินดีปรีดาพร้อมกับลงมือฆ่าทันที!

                                                 ..................................

                                                 "อ่า~.........อู๊ฟ!!!"เด็กชายตื่นขึ้นท่ามกลางความมืดมิดก่อนจะเอามือไปกุมแผลที่หน้าอกกับที่ท้องซึ่งคาดว่าซี่โครงน่าจะหักซัก 2-3 ซี่ก่อนจะพยุงตัวเองขึ้นมา

                                                 "ทุกคนอยู่ไหนกันหมด"เด็กชายตะโกนแต่กลับมีแค่เสียงสะท้อนกลับมาและความเจ็บที่หน้าอกเท่านั้น ทำให้ชักสังหรณ์ใจไม่ดี ก่อนที่เขาจะเดินไปรอบๆ "ทุกคนอยู่มั้ย"เด็กชายตะโกนแต่ไม่มีคนตอบ

                                                 "ดะ....ดาร์คุ...นั้นดาร์คุใช่มั้ย"เสียงแหบแห้งดังมาจากอีกฝากมุมหนึ่งของลานแสดงทำให้เด็กชายรีบรุดไปดูแล้วก็ต้องตกตะลึงเมื่อตามตัวผู้มีพระคุณเขานั้นเต็มไปด้วยรอยแผลเวอะหวะเต็มไปหมดพร้อมกับลมหายใจที่แผ่วลงไปทุกที

                                                 "คะ...คุณโบตฮะ ทำไมมันถึงเป็นแบบนะ...นี้ไปได้"ดาร์คุถามเสียงตะกุกตะกักก่อนจะวิ่งทั้งๆที่เจ็บไปหาเทียนแล้วจุดมันขึ้นมาก่อนจะฉีกเสื้อผ้าตัวเองออกมาพันแผลให้แต่ว่าเลือดก็ไม่หยุดไหล

                                                  "ทำ...ทำไมมันเป็นแบบนี้!"

                                                  "อย่างพยายามเลยดาร์คุ....ยังไงซะฉันก็ไม่พ้นวันนี้อยู่แล้ว"บุรุษร่างท้วมว่าก่อนจะยิ้มอย่างอ่อนโยน

                                                  "ฮึกๆ ทำไมมันเป็นแบบนี้ไอ้พวกนั้นมันเป็นใครกัน ทำไมมันต้องทำเราขนาดนี้ด้วย"ดาร์คุพูดเสียงสั่นด้วยความแค้น

                                                   "กลุ่มโจรกามาน แค่กๆ"โบตพูดก่อนจะไอออกมาเป็นเลือด เนื่องจากอวัยวะภายในที่บอบช้ำ

                                                   "ละ...แล้วทำไมมันต้องมาทำกับพวกเราแบบนี้ด้วยหรือว่าเป็นเพราะผมเองที่ไม่ระวังไปชูของมีค่าให้พวกมันแอบดู"ดาร์คุพูดแล้วร้องไห้เพราะนึกว่าเป็นความสับเพร่าของตนเองที่ทำให้พวกพ้องต้องรับกรรม

                                                    "ไม่ใช่ความผิดใครทั้งนั้นแหละน่า...ดาร์คุ แค่กๆ ไหนๆฉันก็จะตายแล้วจะพูดอะไรกับเจ้าเป็นประโยคสุดท้าย แค่กๆ"โบตที่ตอนนี้กำลังตาพร่าเรือนเนื่องจากเสียเลือดมาก
     
                                                     "อยะ...อย่าพูดอะไรที่มันไม่ดีแบบนั้นซิฮะ"ดาร์คุพูดก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมาเป็นสาย

                                                     "คนเรานะ..มันก็ต้องมีเกิดแก่เจ็บตายเป็นธรรมดานะดาร์คุ เจ้าน่ะคือผู้รอดฉะนั้นต้องอยู่ต่อไปอย่างเข้มแข็ง"โบตพูดก่อนจะหลับตาที่มีน้ำตาคลอเบ้าลง "อ้อ ใช่มีของอย่างนึงที่ฉันต้องให้"โบตพูดก่อนจะหยิบดาบใหญ่ที่อยู่ข้างตัวที่มีสีดำที่มีอักขระโบราณสลักไว้บนตัวดาบก่อนจะยื่นให้ดาร์คุด้วยรอยยิ้ม

                                                      "นี่คือสิ่งที่ฉันเก็บได้ตอนที่เจ้าถูกทิ้งที่นี่ และตอนนี้ก็มันก็ถึงเวลาที่จะต้องคืนให้เจ้าแล้ว อีกอย่างที่ฉันจะพูดอย่างแสดงความสามารถเด็ดขาด"พูดจบลมหายใจของชายร่างท้วมก็สิ้นทันที

                                                      "คะ...คุณโบตฟื้นซักทีซิฮะ ผมไม่อยากได้นะของขวัญวันเกิดแบบนี้น่ะ ผมรักคุณนะฮะ รักเหมือนพ่อแม่เลย ฉะนั้นฟื้นขึ้นมาเถอะฮะ ขอร้อง ผมไม่อยากได้แบบนี้เลย ผะ...ผมไม่เอานะ ไม่เอา! ฮือๆๆๆ"ดาร์คุที่ตอนนี้ก้มหน้าเอากำปั้นต่อยไปที่พื้นหลายทีหลายหนพร้อมกับน้ำตาที่ไหลพรากๆ


                                                      (จงมีชีวิตอยู่อย่างเข้มแข็งต่อไป....)เสียงของโบ๊ตดังขึ้นมาในหัวก่อนที่ปีกสีดำที่ลุกเป็นไฟจะงอกเงยขึ้นมาจากกลางหลังด้วยอารมณ์โกรธ

                                                       
                                                       "ก๊ากๆๆ การฆ่านี้มันดีจริงๆเล้ย เอิ๊ก"โจรห้าร้อยสองคนที่เดินเข้ามาในลานแสดงพร้อมด้วยสภาพเมาเละเทะ"เฮ้ย แล้วนั้นใครกันฟะ เห้น ที่ราวจะต้องจั่งจอนมันซะหน่อยม้างน่ะที่บังอาจมาหยามทฃถิ่มเรา ย้าก!!!"แล้วโจรสองคนก็วิ่งถือขวดเหล้าเป็นอาวุธเข้าไปหาเด็กชายที่ตอนนี้กำลังอยู่ในอารมณ์โกรธสุดขีด ที่ถุกพรากคนที่เขารักไป

                                                        "ตายซะ อ๊ากกกกกกกกกก!!!!!!"ยังไม่ทันที่โจรสองคนจะใช้ขวดเหล้าฟาดไปที่เด็กชายก็โดนลูกไฟแห่งความโกรธที่อยู่ในมือเผาเป็นเถ้าธุลีเข้าให้

                                                        "หรือว่าแกคือ...!!!!????"ยังไม่ทันพูดขาดคำโจรสองคนก็สลายหายไปในอากาศ........

                                                        ............................

                                                       "เสียงอะไรกัน"หัวหน้ากลุ่มโจรที่กำลังนั้งกินเหล้าสูบบุหรี่อยู่ท่ามกลางกองไฟพูดอย่างหงุดหงิด

                                                       "ยะ...แย่แล้วหัวหน้า มีคิเมร่าอยู่ที่นี่"ลูกน้องที่วิ่งมารายงานสภาพพูดอย่างเหนือยหอบก่อนจะชี้ไปที่เด็กชายอายุสิบสี่แล้ววิ่งหนีไปอีกทาง

                                                       "บ๊ะ แกเป็นใครกันวะถึงได้กล้ามาหยามหัวหน้ากลุ่มย่อยของกลุ่มโจรกามานแบบฉัน ห๊ะ !!!!!"พูดจบหัวหน้ากลุ่มโจรย่อยก็ชักปืนไรเฟิลกับมีดสั้นออกมาจากซอง พร้อมกับที่เด็กชายจับดาบที่เหน็บไว้ที่เข็มขัดออกมา

                                                       "เหอะ อย่างดาบจะมีน้ำหน้ามาสู้อะไรปืนได้ ที่นี่บ้านนอกคงจะมีแต่ดาบละซิท่างั้น...ตายซะเหอะ"ก่อนที่หัวหน้ากลุ่มโจรจะปล่อยกระสุนปืนเฟิลออกไป

                                                       "เหอะ! ที่แท้ก็เด็กธรรมดานี่เองไม่รุ้ไอ้พวกนั้นจะกลัวอะไรกันนักกันหนา"หัวหน้ากลุ่มโจรว่าก่อนจะเป่าปากกระบอกปืนที่มีควันพุ่งออกมา

                                                       ตึก ...ตึก ....ตึก!!!!!

                                                       เสียงฝีเท้าที่ย่างก้าวเข้ามาหาหัวหน้ากลุ่มโจร

                                                       "เป็นไปไม่ได่น่า!!!!!"หัวหน่ากลุ่มโจรพูดเสียงสั้น

                                                       "แต่มันก็เป็นไปแล้ว"เด็กชายว่าก่อนจะเอาดาบปักที่หัวใจของหัวหน้ากลุ่มโจรที่มัวตกใจอยู่ทันที

                                                        "อั่ก!!!...เหอะ แต่ว่าเรื่องมันไม่จบแค่นี้หรอกน่าถ้าองค์กรรู้เรื่องละก็แกได้ตายแน่ ฮ่าๆๆ"หัวหน้ากลุ่มโจรว่าก่อนจะสิ้นใจพร้อมกับร่างของเด็กชายที่ล้มลงสลบอยู่ตรงนั้นรวมถึงเสียงไซเรนของตำรวจและโรงพยาบาลได้มาถึง.....

                                                      ....................................


                                                       2  เดือน 15 วันต่อมา

                                                       "นี่จะไปแล้วเรอะ ร่างกายก็ยังไม่ได่รักษาจนหายดีนะ"แพทย์ที่อยู่ในห้องคนไข้คนหนึ่งถามคนไข้ผู้ซึ่งตอนนี้ใส่เสื้อผ้าเดิมๆของตนเองเรียบร้อยแล้วก่อนที่จะเก็บดาบมาสะพายไว้ด้านหลัง

                                                       "ครับ แต่คุณหมอช่วยหยุดพูดซักทีเถอะฮะ คุณหมอุถามผมมา 257 ครั้งแล้วนะฮะ"เด็กชายว่าก่อนจะเดินออกจากโรงพยาบาลไปที่สุสานของเมืองที่เงียบสงัดเหมาะแก่การพักผ่อน ก่อนจะไปหยุดอยู่ ณ ป้ายหลุมศพประดับอยู่และที่เขียนไว้ว่า

                                               โบต ซินัส

                                                0092-0138

                                                        "คุณโบตฮะ ตามที่คุณบอกไว้ว่าจงมีชีวิตอย่างเข้มแข็งต่อไป ฉะนั้นผมจะออกเดินทางตามหาคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เองฮะ ขอบคุณมากนะฮะตลอดเวลาที่อยู่คณะละครสัตว์ผมจะไม่ลืมพระคุณเลย....ลาก่อนฮะ"เด็กชายพูดก่อนจะเช็ดน้ำตาหน้าหลุมศพที่เขามาเยี่ยมตลอดสองเดือนครึ่งและการนี่จะเป็นการเจอกันครั้งสุดท้ายก่อนที่เด็กชายจะเดินจากเมืองนี้ไปพร้อมกับหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข

                                             ณ เวลานั้นจุดเริ่มต้นแห่งตำนานได้เริ่มขึ้นแล้ว..... 
                                                              

                                                       ...................................

                                                      

                                             

                                                

                                               

                                               

                                                 

                                          

                                   

                             

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×