คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : SHODOWS : After Party
Chapter 2
“น่าแปลกนะ”อยู่ๆชายหนุ่มก็เอ่ยขึ้น เขาซึ่งโอบเฮอร์ไมโอนี่อยู่ด้านหลัง มือใหญ่เกาะกุมมือเล็กๆนั่น และส่ายสะโพกเบาๆไปตามเพลง ทั้งคู่กำลังเต้นรำใน อาฟเตอร์ปาร์ตี้งานแต่งของพวกเขา
“แปลก...เรื่องอะไรเหรอ”หญิงสาวถามขึ้น เขายังไม่ตอบเพียงยิ้มบางๆส่งให้เธอ จมูกโด่งก้มไปหอมแก้มภรรยาของเขาฟอดใหญ่อย่างรักใคร่ และนั่นทำให้เธอหัวเราะเพื่อกลบเกลื่อนความเขินอาย “แปลกที่ว่า...เรารักกันได้ และก็แต่งงานกัน”
“มันแปลกงั้นเหรอ คงจะใช่ในความคิดของคนอื่นๆ”เดรโกเลิกคิ้วอย่างสงสัย
“แล้วเธอคิดว่ามันแปลกมั้ย? หมายถึงว่ามันมีความเป็นไปได้งั้นเหรอ”เขาถามกลับ
“ถ้าเป็นฉัน ฉันมองความแปลกที่ว่านั่น นั้นคือโชคชะตามากกว่า”เธอว่า
“โชคชะตา...ฉันแปลกใจที่เธอเชื่ออย่างนั้น เธอคือ เฮอร์ไมโอนี่”เดรโกหัวเราะออกมา เพราะเขาไม่คิดว่าคนอย่างเฮอร์ไมโอนี่จะเชื่อเรื่องอะไรพวกนี้ ส่วนใหญ่เธอจะยึดสิ่งที่เชื่อถือได้เท่านั้นและเกลียดการพยากรณ์หรือเรื่องโชคชะตาอะไรนั่น
“อย่าหัวเราะสิ ฉันคิดว่าอย่างนั้นจริงๆเดรโก โชคชะตาที่ทำให้เรารักกัน ”หญิงสาวที่งดงามของเขายิ้มพิมพ์ใจออกมา เขารู้ว่าเธอมีความสุขมาก และเขาก็เชื่ออีกว่าเขาช่างโชคดีมากแค่ไหนที่ได้หญิงสาวตรงหน้ามาครอบครอง เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ เธอสวยมีเสน่ห์ ไม่แม้รูปลักษณ์ภายนอกเพียงเท่านั่นเธอยังมีสติปัญญาอันเฉลียวฉลาด รอบรู้ แววตาที่รู้ทันไปเสียหมดนั่น ทำเขาเข่าอ่อนได้อย่างง่ายดาย และนี่เป็นเรื่องแปลกอีกอย่างที่เขายอมสยบต่อเธอ เขี้ยวเล็บของเขาถูกเธอตัดไม่ป็นชิ้นดี แต่เขาก็ยินดีที่จะให้เธอทำกับเขา เดรโกไม่รู้ว่ารักเฮอร์ไมโอนี่ได้มากมายแค่ไหน แต่ที่เขาสัมผัสได้คือ เขาอยากมีเธออยู่ในอ้อมกอดของเขาไปตลอดชีวิต
“เฮอร์ไมโอนี่ ยินดีด้วยนะจ้ะ”นางมอลลี่กอดหญิงสาวพร้อมหยิบผ้าเช็ดหน้าชายลูกไม้ มาซับที่หัวตาเพื่อสะกดกลั้นน้ำตาแห่งความยินดีเอาไว้
“โธ่ ไม่เอาน่ามอลลี่ที่รัก คุณไม่ควรเสียน้ำตานะ นี่คืองานแต่งของเฮอร์ไมโอนี่”อาเธอร์ วิสลีย์ ชายผู้ซึ่งมีผมล้านเลี่ยนโอบกอดภรรยาของเขาพื่อปลอบโยน
“ฉันรู้ ฉันรู้ค่ะ ก็แค่ยินดีกับเธอเท่านั้น หนูรู้มั้ยจ้ะว่า...หนูน่ะเหมือนลูกสาวฉันอีกคนเลยนะ ที่ฉันร้องไห้ก็เพราะฉันดีใจที่หนูได้เป็นฝั่งเป็นฝา”ทำนบน้ำตาของนางมอลลี่ดูเหมือนจะแตกอยู่มะรอมมะร่อ เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มอย่างซาบซึ้งใจ ไม่เพียงนางมอลลี่จะมองเธอเป็นครอบครัวเดียวกันกับเธอเท่านั้น อันที่จริงหญิงสาวผูกพันกับครัวอบครัววิสลีย์มากมายเหลือเกิน ทุกปิดเทอมเธอจะได้ไปพักผ่อนกับครอบครัวนี้และเพื่อนรักทั้งสองของเธอ
“น่าเสียดายนะ รอนมางานแต่งของหนูไม่ทัน เขาฝากขอโทษแทนเขาด้วยจ้ะ”มืออวบวางนาบที่แก้มนวลของหญิงสาว
“หนูรู้ค่ะ ช่วงนี้รอนมีตารางการแข่งแน่นมาก เขาส่งนกฮูกมาบอกเมื่อสองวันที่แล้ว”เธอเข้าใจเขา ตอนนี้รอนเป็นคีปเปอร์ให้กับทีมชัดลีย์ แคนนอนส์ ตารางการแข่งแน่นขนัดซะจนเขายังไม่มีเวลากระดิกไปไหนได้ แม้แต่จะไปเดทกับสาวๆที่รอเขาเป็นขบวนก็ตามเถอะ
ชายหนุ่มผมสีดำที่ยุ่งเหยิงตลอดเวลากำลังเดินโอบเอวมาพร้อมกับจินนี่ แฮร์รี่ได้หมั้นหมายกับน้องเล็กของบ้านวิสลีย์เมื่อสองเดือนที่แล้ว และจะแต่งงานกันในอีกหกเดือนข้างหน้า ภายหลังจากที่แฮร์รี่จะได้เลื่อนตำแหน่งไปเป็นรองหัวหน้ามือปราบมารที่เขาทำงานอยู่
“ไง แฮร์รี่ ฉันขอบคุณเธอจริงๆที่ช่วยมาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวให้กับเดรโก เขาไม่มีใครแล้วจริงๆ”หญิงสาวหยุดนิดหนึ่ง หลุบสายตาลงต่ำ
“ฉันยินดีที่จะทำมัน จริงๆนะเฮอร์ไมโอนี่ ฉันไม่ได้พูดเพื่อเอาใจเธอ”แฮร์รี่พยักหน้า แม้ว่าเขาและมัลฟอยเคยเป็นศัตรูกันตอนอยู่ที่ฮอกวอตส์ เกลียดขี้หน้ากันเสียยิ่งกว่าอะไรดี แต่หลังจบเรื่องราวร้ายๆเพิ่งที่ผ่านพ้นไป มันทำให้เขารู้จักการให้อภัยมากขึ้น เขาไม่อยากสูญเสียสิ่งใดๆไปอีก เพียงเพราะความเกลียดชังที่จะเป็นตัวแปรให้กับเหตุการณ์ต่างๆและนั่นจะทำให้เกิดสิ่งเลวร้ายตามมา ดังเช่น ลอร์ดโวลเดอมอร์ที่เคยเกลียดชังทุกคน จนมันสั่งสมเป็นความแค้นใจและทำให้เกิดสิ่งต่างๆมากมายและการสูญสีย ซึ่งนับชีวิตกันไม่ถ้วน
“เธอควรยิ้มเยอะๆเข้าไว้ คนสวย”จินนี่ตบไหล่เธอเบาๆ เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มกว้างออกมา เธอดีใจอย่างที่สุดเมื่อคนที่เธอรักดั่งครอบครัวมาแสดงความยินดีในงานแต่งเล็กๆของเธอและเขา แม้ว่างานมันจะเล็กแต่ความอบอุ่นที่ได้รับมามันช่างใหญ่โตเสียจนหัวใจของเธอพองโตเกินกว่าที่จะใส่ลงไปในหม้อปรุงยาใบใหญ่ได้หมด
“ที่รัก”มือใหญ่ของเดรโกคว้าเอวของเฮอร์ไมโอนี่มาอยู่ในอ้อมกอด”เหนื่อยหรือยัง?”เขาถาม แต่ดวงตาสีเงินมองมาที่เธอมันกลับวิบวับชอบกล ทำให้ริ้วสีชมพูเกิดขึ้นข้างแก้มของหญิงสาวอย่างไม่ตั้งใจนัก
“โว้ๆ อย่าเพิ่งรีบร้อนจะได้ไหม คืนนี้มันยังอีกยาวไกลนัก สหายเอ๋ย”เสียงจอร์จ วิสลีย์ดังขึ้น ทำให้กลุ่มคนที่รายล้อมคนทั้งคู่หัวเราะเสียงครืน ทุกคนยืนยิ้มและมองภาพชายหญิงคู่หนึ่งที่มองตากันอย่างลึกซึ้งโดยไม่ได้เอ่ยคำใดๆออกมา ราวกับจิตรกรรมที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อกันและกัน อย่างช่างน่าบังเอิญและน่าแปลกใจ
เมื่อสิบนาทีก่อนเดรโกเดินมายังโซนเครื่องดื่มเพื่อหาแชมเปญสักแก้วให้กับเจ้าสาวของเขา หางตาของเขาเหมือนเห็นอะไรบางอย่างเหมือนในเงาตะคุ่มๆอยู่หลังม่านโปร่งที่ริมระเบียง เขาละมือจากเครื่องดื่ม และเดินไปอย่างสงสัย คิ้วที่เคยขมวดมุ่นคลายลงเมื่อเห็นภาพเบื้องหน้า ร่างของหญิงนางหนึ่งนั่งหลังตรงสง่าบนเก้าอี้ไม้แกะสลัก ผมเหยียดตรงสีดำที่มีผมสีขาวแทรกอยู่หนึ่งปอย มันปลิวปะทะลมในยามกลางคืนเบาๆ เสี้ยวหน้าข้างหนึ่งต้องแสงจันทร์พอให้เห็นว่าเธอคนนั้นเป็นใคร และแน่นอนว่าเดรโกรู้จักเธอดีทีเดียว นางนาร์ซิสซานั่นเอง
“แม่”เขาเรียกเธอเบาๆ แต่ดังพอให้นางนาร์ซิสซาหันมาสนใจเขาได้ทันที
“ว่าไงเดรโก ออกมาทำไมเหรอ”เธอเอ่ยเสียงนุ่ม มองลูกชายอย่างเอื้ออาทร
“แม่ออกมาข้างนอกทำไมครับ เดี๋ยวไม่สบายหรอก”ว่าแล้วเดรโกจึงถอดสูทสีเข้มออกเพื่อคลุมไหล่ให้กับแม่ของเขา เพื่อป้องกันลมที่มาปะทะร่างของเธอ เขาเป็นห่วงนางนาร์ซิสซามาก เพราะเขาเหลือแม่เพียงคนเดียวในครอบครัวเท่านั้น
“น่าเสียดาย...ที่พ่อของลูกไม่ได้อยู่ดูลูกถึงวันนี้นะ”อยู่ๆเธอก็เอ่ยขึ้นมา ดวงตาสีหมอกจางๆที่ถอดแบบมากับนายลูเซียส จ้องมองเธออย่างอ่านไม่ออก
“เขา...เขาต้องคงไม่พอใจมากแน่ๆครับ”เดรโกพูดออกมาอย่างขมขื่น
“ไม่หรอกเดรโก พ่อเขาจะไม่โกรธลูกอย่างแน่นอน”เธอยังคงยิ้มอยู่ เธอรู้ว่าลูกชายของเธอคิดอย่างไร เขาคิดว่าพ่อไม่ได้รักเขา แต่อันที่จริงแล้วลูเซียสรักเดรโกมาก แต่การแสดงออกของเขามันตรงกันข้ามนักกับความรู้สึกที่แท้จริง
“เอาล่ะ เลิกพูดเรื่องนี้เสียที ”นางนาร์ซิสซาโอบลูกชายตัวโตของเธอและจูบที่ขมับของเขาเบาๆแล้วลุกเข้าไปในงานและเดินไปที่โต๊ะที่พ่อแม่ของเฮอร์ไมโอนี่นั่งอยู่ เดรโกนั่งอยู่ที่เดิมนั่นนานกว่าห้านาที เพื่อคิดอะไรหลายๆอย่างที่ผ่านเข้ามา ก่อนที่จะลุกไปหาภรรยาของเขา
นาฬิกาโบราณตีบอกเวลาว่าเที่ยงคืนแล้ว ร่างสองร่างตะกองกอดอยู่ในความมืดบนเตียงสี่เสาขนาดใหญ่ เฮอร์ไมโอนี่อยู่ในชุดนอนสีชมพูอ่อนบางเบากึ่งนั่งกึ่งนอนในอ้อมกอดของเดรโก เขาลูบแขนของเธอเบาๆอย่างทะนุถนอม แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมาทั้งสิ้นเหมือนตกอยู่ในภวังค์ของความคิดอยู่เงียบๆ ดวงตาสีอัลมอลต์ เงยมองใบหน้าเรียวของสามีหมาดๆของเธออย่างสงสัย
“เดรโก เธอกำลังคิดอะไรอยู่เหรอ”เธอถาม นั่นทำให้เขาหลุดออกมาจากห้วงความคิด เขาเสมองไปยังดวงหน้าสวยสดของเธอ คิ้วคมเข้มของเธอขมวดหากันอย่างฉงนสงสัย เดรโกยกริมฝีปากขึ้นมาและยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“ฉันคิดว่า ฉันจะมีลูกกับเธอสักกี่คนดี ฉันชอบเด็กผู้หญิงน่ะ เธอว่าไง”รอยแต้มขึ้นสีตามแก้มของเธอแม้มันจะมืดสลัวแต่เขาพอมองเห็นว่าเธอเขินอายแค่ไหน เขาเอ็นดูในความไร้เดียงสาของภรรยาสาว
“ทะ...ที่จริงฉันอยากมีลูกเยอะๆ มันคงจะอบอุ่นดี”เธอตอบและก้มหน้าด้วยท่าทางงกๆเงิ่นๆ เขายิ้มออกมาจนเห็นฟันขาวเรียงสวยแทบทุกซี่ เดรโกเชยคางเพื่อให้เธอสบตากับเขา ดวงตาสีเงินส่องประกายอย่างมีความหมาย เฮอร์ไมโอนี่กัดริมฝีปากล่างอย่างประหม่า การกระทำนั้นยิ่งทำให้เดรโกรู้สึกถึงความร้อนรุ่มในกายแบบแปลกๆ แต่เขารู้ดีว่าเขาต้องการอะไร เร็วเท่าความคิดริมฝีปากบางซีดครอบครองปากอวบอิ่มนั่น ขบเม้มอย่างหมั่นเขี้ยว พอให้หญิงสาวสะดุ้งได้ เธอตีที่แขนเขาเบาๆซึ่งมันไม่เจ็บเลยสักนิด เดรโกรวบร่างภรรยามาโอบกอดและจับให้เธอนั่งคร่อมบนตัวเขาโดยที่ทั้งคู่ยังคงควานหาความหวานในปากของกันและกันอย่างไม่รู้จักเบื่อ มือเรียวไล้ไปตามเอวคอดกิ่วและค่อยๆขึ้นไปยังหน้าอก ซึ่งมีเพียงผ้าบางๆของชุดนอนกั้นเพียงเท่านั้น ตอนนี้ชายหนุ่มถอนจูบและไล้ริมฝีปากมายังซอกคอขาวนวล จูบหนักๆและขบเนื้อนิ่มอย่างถือสิทธิ์ ในตอนแรกเขาคิดว่าจะเริ่มกับเธออย่างอ่อนโยนและถนุถนอมที่สุด แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าปิศาจตนใดเข้าสิงเขา เขาแทบอยากจะกลืนกินเธอทั้งตัว ไม่ว่ากลิ่นหอมที่ติดกายของเธอ หรือสัญชาตญาณดิบในร่างมนุษย์อย่างเขากันแน่ที่เป็นสิ่งกระตุ้นให้เขาเริ่มรุนแรงกับเธอ เขาขบกรามแน่นเพื่อสะกดความรู้สึกบางอย่างเอาไว้ ไม่!เขาต้องค่อยเป็นค่อยไปกับเธอ เธอยังไม่เคย...เรื่องอย่างว่า น่าแปลกมากที่เดรโกรอเฮอร์ไมโอนี่ได้จนถึงคืนวันแต่งงานของทั้งสอง เขาคิดว่าเพราะเขารักเธอ จึงถนอมเธอไว้จนถึงวันนี้ แม้ว่าที่ผ่านๆมาเขามีโอกาสที่จะทำมัน แต่เขาไม่ทำ ชายหนุ่มรู้ว่าภรรยาเขาหัวโบราณแค่ไหน
ชายหนุ่มเริ่มตั้งสติ เขาจูบเธออีกครั้งอย่างเชื่องช้า เธอสั่นน้อยๆเดรโกเลื่อนมาจูบมาหน้าผากมนอย่างปลอบขวัญ และกระซิบเบาๆที่ข้างหูของเธอ
“อย่าเกร็งเฮอร์ไมโอนี่ เดี๋ยวมันจะดีเอง”ลมหายใจอุ่นรดมาที่หูของเธอ เธอรู้สึกจักกะจี้แปลกๆ มือเรียวโอบรอบคอของเขาเผยอริมฝีปากให้ขยับรับกับปากของเขาได้อย่างถนัด มือของเดรโกขยับมาที่หน้าอกอิ่มอีกครั้ง มือใหญ่เค้นคลึงไปมา เสียงครางดังขึ้นเบาๆจากลำคอ เขาผละจูบและก้มไปที่หน้าอก ใช้ลิ้นไล้ดุนที่ยอดถันข้างหนึ่งผ่านเนื้อผ้า มืออีกข้างยังคงคลึงที่หน้าอกอีกข้าง เฮอร์ไมโอนี่เริ่มครางเต็มเสียงแต่ก็พยายามเม้มปากเพื่อหยุดเสียงที่น่าอายออกมาในทันที
“อย่า อย่าทำอย่างนั้น ฉันอยากให้เธอครางเพื่อฉัน...”
ความคิดเห็น