ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [CLOSE] MUSEUM ย้ายไป AU #JARK

    ลำดับตอนที่ #5 : Museam : The Art of Painting

    • อัปเดตล่าสุด 27 ส.ค. 59


    T
    B

    The Art of Painting



    Johannes Vermeer. The Art of Painting. Oil on Canvas. 1662




                   บาโรค (Baroque) คือช่วงศิลปะยุคหนึ่งที่เจริญตามรอยเรเนซองส์ เดิมทีบาโรคมีความหมายที่เป็นลบด้วยซ้ำ เพราะมันหมายถึงหอยมุกรูปร่างแปลกประหลาด ผิดปกติ และนั่นนำมาสู่มูฟเม้นต์ใหญ่ช่วงหนึ่งของศิลปะ

                บาโรคไม่มีตรงกลาง ความเปรียบต่างของแสงที่ต่างกันอย่างคอนทราสชัดเจนในผลงาน ความเข้มข้นของแสงและเงา อารมณ์ของภาพที่อัดแน่น คือสเน่ห์ของยุคนี้ มันเป็นที่นิยมอย่างมากในยุโรปช่วงหนึ่ง สามารถพบเจอศิลปะยุคนี้ได้ตามอิตาลี สเปน ฝรั่งเศส รวมถึงเนเธอร์แลนด์

                ชายคนหนึ่งชื่อโยฮันเนส เวอร์เมียร์ ช่วงชีวิตของเขามีผลงานน้อยมาก เมื่อเทียบกับศิลปินในยุคนั้นๆ เขาเป็นศิลปินชาวดัชท์ เขามีผลงานน้อยกว่า 40 ชิ้นตลอดช่วงชีวิต แต่ความน่าประทับใจของเวอร์เมียร์ ผลงานของเขาแปดชิ้นของเขาถูกจัดเป็นมาสเตอรพีซ

                ที่ Kunsthistorisches Museum ในออสเตรีย มีผลงานที่เขารักมากชิ้นหนึ่ง มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับผลงานชิ้นนั้นที่ยืนยันว่าเวอร์เมียร์รักผลงานชิ้นนี้มาก อย่างที่หลายๆคนคิด ศิลปินมีช่วงชีวิตที่ไม่ดีนักหรอก ช่วงหนึ่งของชีวิตเวอร์เมียร์ เขาเป็นหนี้ก้อนโต เจ้าหนี้เสนอทางเลือกให้เขาขายผลงานแลกกับการปลดหนี้ แต่เขาไม่ขาย

                ผลงานชิ้นนั้นคือ The Art of Painting

                ภาพวาดสีน้ำมันที่มีตัวละครสองคน ที่โฟร์กราวน์หรือด้านหน้า มีภาพชายคนหนึ่งหันหลังให้กับรูปภาพ เห็นได้ชัดว่าอาชีพของเขาคือศิลปินแน่แท้ และไม่ต้องทาย นั่นคือเวอร์เมียร์แน่นอน มันเป็นสัญลักษณ์ตั้งแต่เรเนซองส์ที่ศิลปินจะแอบซ่อนรูปของตนเองไว้ในผลงาน แต่ในกรณีนี้เวอร์เมียร์เอาตัวของเขาเป็นองค์ประกอบใหญ่

                มองลึกลงไป คุณจะเจอสุภาพสตรีคนหนึ่งในชุดสีฟ้า ในมือข้างนึงเธอถือเครื่องดนตรี อีกข้างนึงเธอแนบหนังสือไว้แนบอก เธอไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาแน่ ไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนที่มีโอกาสได้เล่นดนตรีและอ่านหนังสือออกในยุคนั้น

                ผ้าม่านทางด้านซ้ายแสดงให้เห็นถึงความเป็นส่วนตัวของการวาดภาพในครั้งนี้ เวอร์เมียร์แต่งตัวเรียบร้อยเกินไป เขาไม่ได้วาดภาพนี้ในสตูดิโอของเขาแน่นอน คาดการณ์ได้ว่าเขาต้องถูกเชิญมาวาดภาพให้ห้องสุภาพสตรีชั้นสูงคนนี้

                แจ็คสันล้างพู่กันในน้ำสะอาด ตามองโมเดลที่อยู่ตรงหน้า สงสัยว่าเขานั่งนิ่งๆแบบนี้ได้เป็นเวลานานได้ยังไง โมเดลในวันนี้เป็นผู้ชาย แต่เขาหน้าสวย ถ้าแต่งเป็นผู้หญิง แจ็คสันก็เชื่อว่าเป็นผู้หญิง แจ็คสันบรรยายไม่เก่งหรอก อยากให้ความคิดของเขามีเครื่องตีพิมพ์ออกมา

                เครื่องตีพิมพ์นั่นก็คือฝีมือเขานั่นแหละ ว่าจะบรรยายโมเดลคนนี้ลงบนแคนวาสอย่างไร

                แจ็คสันมองโมเดล ที่มองมาทางเขาอยู่พอดี

                ก่อนจะหลบตา ไปสนใจจานสี

                จะวาดอย่างไรให้คนอื่นเห็นอย่างที่เขาเห็นนะ

                คนมากมายอยู่ในห้อง แต่แจ็คสันรู้สึกเหมือนอยู่กันเพียงสองต่อสองกับโมเดลเท่านั้น รู้สึกเหมือนเป็นเวอร์เมียร์ที่ต้องวาดรูปอยู่ในห้องกับสตรีในชุดสีฟ้าคนนั้น

                นางแบบคนนี้แจ็คสันแตะต้องไม่ได้

                ยิ่งกว่าคำสาป แต่มันคือความต่างชั้นของฐานะ

                มาร์ค, โมเดลคนนั้นเป็นถึงคุณชายของบ้าน ส่วนแจ็คสันเป็นเพียงเด็กคนหนึ่งที่ทำงานในบ้านของคุณชาย ที่ได้มีโอกาสเรียนหลังสือก็เท่านั้น การเอื้อมไปสัมผัสเจ้านายกลายเป็นซึ่งที่ไม่ควรอย่างยิ่ง

                อยากจะบอกให้โมเดลเลิกมองแบบนั้นมาที่เขาสักที ต่อให้ ณ ตอนนี้คือคลาสของเขา แจ็คสันก็ไม่อาจเอื้อมไปเด็ดดอกฟ้าเด็ดขาด หากเด็ดดอกไม้ออกจากต้น ดูแลไม่ได้ ดอกไม้ก็โรยราเร็วไปโดยเปล่าประโยชน์

                ผสมสีที่ได้ตามต้องการ ลงสีนั้นลงบนดวงตาคู่ที่ปรารถนาจะมอง

                ริมฝีปาก มองแบบของจริง สลับกับแบบร่างบนแคนวาส ก่อนจะแต่งเติมสีที่เห็นจากต้นแบบ

                แจ็คสันยิ้มเมื่อได้ระบายมันลงไป เสี้ยวหนึ่งในความฝัน หมายมั่นอยากจะสัมผัส

                ตกแต่งส่วนของใบหน้าอย่างประณีต คล้ายกับค่อยๆสัมผัสดวงหน้าสวยในจินตนาการ

                ไม่มีส่วนใดที่มีที่ติเลย

                แจ็คสันถอยออกมาดูผลงานจากไกลๆ เพื่อต้องการเทียบกับแบบ

                ลมหายใจติดขัด เมื่อร่างบางคลี่ยิ้มให้ ต้องกับแสงแดด

                เขาจึงเข้าใจการใช้แสงของเวอร์เมียร์

                ถึงคราวที่ต้องเริ่มลงมือตามส่วนของร่างกาย

                มาร์คอยู่ในชุดเรียบง่ายตามยุคสมัย ไม่ได้แต่งเติมอะไร แต่แค่นี้ก็ดูเลอค่ามากพอแล้ว

                ล้างพู่กันอันใหม่ เปลี่ยนเบอร์พู่กัน แล้วเริ่มผสมสีใหม่

                จังหวะที่เริ่มแต่งแต้มสีลงไปตามร่างกายของแบบร่างบนแคนวาส เขาปรารถนาในแผ่นแคนวาสคือร่างกายของแบบในวันนี้ หวังอย่างไร้ซึ่งความเป็นจริง ให้พู่กันราคาแสนธรรมดานี้คือมือของเขาที่ลูบไล้ไปตามร่างกายที่แสนมีค่า

                ตั้งใจลงสี เก็บทุกรายละเอียด รู้สึกได้ถึงการปวดตรงไหล่เพราะความเกร็ง

                แต่ความเจ็บปวดนั้นแสนธรรมดา

                เมื่อเทียบกับความต้องการที่จะถ่ายทอดสิ่งในความคิดให้ผู้คนได้สัมผัส

                ไม่ใช่ทุกครั้งที่จิตรกรมีโอกาสได้วาดภาพอย่างเป็นส่วนตัว เวลาในคลาสเริ่มถอยหลังลง แจ็คสันเริ่มไม่มีเวลาที่จะได้มองมาร์คด้วยสายตาจาบจ้วงแบบนี้อีกแล้ว งานได้เท่าไรก็ต้องวางตามคำสั่งของโปรเฟซเซอร์ โมเดลสมควรได้พัก และเขาสมควรต้องพอ

                จุ่มพู่กันลงในขวดโหลที่น้ำตอนนี้เป็นสีสกปรก

                เก็บข้าวของแล้วต้องเดินจากไป

                ไหล่ถูกแตะเบาๆ จนเจ้าของต้องหันไป

                คุณมาร์ค โมเดลวันนี้นั่นเอง

                “ขอดูหน่อยสิ” เขาขอร้อง ตาเป็นประกาย

                แจ็คสันคลี่ยิ้ม ก่อนส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่ได้ครับ มันยังไม่เสร็จ”

                เหมือนเช่นเวอร์เมียร์ปฏิเสธที่จะขาย แจ็คสันไม่ต้องการให้มาร์คที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ให้ใครได้มอง

                นี่คือ The Art of Looking at Him


    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

    Foolstop says: 

    ฟิคไม่เน้นขาย เน้นความอยากเขียนเอง วันนี้ขอแนะนำภาพวาดสีน้ำมันในยุคบาโรคค่ะ ส่วนตัวชอบยุคนี้เป็นพิเศษ ชอบความคอนทราสของสี แสงและเงาสวยมาก รูปภาพนี้เคยโผล่ไปในฟิคไอพอดตอนเพอร์เฟ็คไม่รู้มีใครจำได้รึเปล่า 

    ฟิคเรื่องนี้เหมือนฟิคชมโฉมมาร์ค (อีกแล้ว) ที่จริงคอนเท้นท์ของรูปนี้จริงๆไม่ชัดเจนค่ะ เหมือนเวอร์เมียร์อยากเล่าชีวิตการเป็นศิลปินมากกว่า ลักษณะเหมือนที่เล่าไปว่ามันไม่น่าจะใช่สตูดิโอของเวอร์เมียร์ เพราะจิตรกรคงไม่แต่งตัวจัดเต็มวาดรูปอยู่ที่สตูฯของตัวเอง ลักษณะท่าทางน่าจะไปวาดให้คนสำคัญ นักประวัติศาสตร์ศิลปะหลายคนชี้ว่าน่าจะเป็น  Clio, The muse of History ตามตำนานกรีกค่ะ อันนี้เราไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเธอ ขอไม่ลงลึกแล้วกัน จุดคำสัญของเรื่องนี้อยู่ที่แผนที่ค่ะ อันนี้เราไม่ได้พูดถึงก็ขอข

    แต่ที่เอาภาพนี้มาเขียนคือมันสวยอ่ะ ดูทิศทางของแสงดิ โคตรชัดอ่ะ \TwT/ รูปภาพนี้เจ๋งชนิดที่ว่าครั้งหนึ่งฮิตเลอร์เป็นเจ้าของเชียวน้า

    Hashtag #museumjark , contact me @foolstop10



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×