ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Unlucky Boy! ขอโทษครับ... ผมไม่ใช่ผู้ชายขายน้ำ! [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #7 : [07] Them Different

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.ค. 54




    [07] Them Different… พวกเขาแตกต่างกัน

     
     
     
     
                หลังจากที่พิธีกรกล่าวเรียกชื่อผมจบ เสียงปรบมือก็ดังกึกก้องต้อนรับ ผมสูดหายใจลึกๆเรียกขวัญกำลังใจอีกครั้งก่อนจะก้าวเดินออกไป เสียงของไอ้พวกทะโมนกู่ร้องโห่ฮิ้วราวกับนี่เป็นปาหี่อะไรซักอย่าง ไอ้ห่าพวกนี้จะอยู่เงียบๆไม่ได้รึไงวะนั่น แต่ก็อย่างว่าล่ะครับถ้าพวกมันเงียบน้ำคงท่วมโลกแน่ แผ่นป้ายสีดำที่อยู่ในมือไอ้ซันและของคนอื่นสี่ห้าอันยกชูขึ้น
     
                ผมถึงกับน้ำลายฝืด หน้าร้อนวูบขึ้นมาด้วยความอายเพราะไอ้พวกเชี่ยพวกนั้นเล่นห่าไรไม่รู้เรื่อง
     
                ผมที่มาหยุดยืนอยู่ตรงแท่นพิธีส่งสายตาคาดโทษให้พวกมันแล้วขมุบขมิบปากส่งไปให้พออ่านออกได้ว่า เดี๋ยว-พวก-มึง-ตาย
     
                ป้ายในมือไอ้ซันเขียนไว้ว่า ‘Princess Aung~ ตัวใหญ่ๆสีชมพูแปร๋นสะท้อนแสง แต่ที่ผมเคืองที่สุดคือไอ้คำแรกกับหัวใจดวงโตตัวสุดท้ายนั่นแหละ คิดมาได้นะมึง! ไม่รวมถึงอีกสี่ห้าอันที่ไอ้พวกแสบยืนหน้ากระดานถือกันอยู่พร้อมโชว์ฟันขาวกวนตีน แต่ละข้อความของพวกมันน่ากระทืบทั้งนั้น!
     
    ไปซุ่มทำกันตอนไหนวะ? มึงคอยกูก่อนเถอะ ลงไปกูเผาทิ้งหมดแน่!
     
    ผมละสายตากออกจากพวกมันแล้วไล่ลงมาเรื่อยๆยังผู้ฟังที่นั่งอยู่ เคลื่อนตั้งแต่แถวสุดท้ายแต่มาหยุดนิ่งที่แถวสอง ผมแทบจะลืมหายใจเมื่อคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นคือ เนย์!! ผู้หญิงที่ผมเอ่ยคำว่ารักด้วยมาปีกว่า และต้องใช้คำว่าเลิกกันเมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อนนี้! เธอมาทำอะไรที่นี่! เนย์มองมาที่ผมนิ่งๆ เธอเพียงแค่ยิ้มเบาบางที่มุมปากเล็กน้อย เนย์ยังดูน่ารักเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนสำหรับผม แต่ที่เธอเปลี่ยนไปมีอย่างเดียวคือหัวใจของเธอที่ไม่มีผมในนั้นอีกต่อไปแล้ว
     
    เป็นผมเองที่เบือนสายตาหนีไปจากเธอก่อน เพราะไม่อาจจะทนมองได้ มันเป็นเรื่องปกติของคนเพิ่งเลิกกันใช่มั้ยล่ะครับ ผมพยายามรวบรวมกำลังใจและสติที่หายไปชั่วขณะกลับมาอีกครั้ง
     
    ไม่ใช่เวลาที่จะคิดถึงเรื่องเก่าที่ผ่านมาแล้ว ตอนนี้ผมมีหน้าที่สำคัญที่ต้องทำอยู่
     
    ผมหันไปมองข้างเวที ตรงนั้น... แซทยังยืนอยู่ที่เดิม เขายิ้มและชูนิ้วโป้งมาให้ผม
     
    ผมหายใจและตั้งสติอีกครั้งก่อนจะเริ่มกล่าวในสิ่งที่ฝึกซ้อมมาเกือบสัปดาห์
     
    สวัสดีครับ คณะครู นักเรียนและแขกผู้มีเกียนติทุกท่าน ผม นาย อรัณย์ สุริยหทัย ตัวแทนของนักเรียนชั้นม.6 จะมาเป็นตัวแทนกล่าวเปิดงานในวันนี้…” น้ำเสียงผมที่เคยเรียบและเป็นโทนเดียวกันจนชวนง่วง บัดนี้มันแปรเปลี่ยนเป็นเสียงที่นุ่มและเว้นจังหวะจะโคน ปรับลดระดับอย่างชำนาญ ในที่สุดก็ทำได้!
     
    หลักๆต้องขอบคุณไอ้แซทมันเลย และที่ขาดไม่ได้คือมิสศรีที่คอยเคี่ยวเข็ญผมจนวินาทีสุดท้ายนั่นแหละ ขอบคุณคร๊าบบบ
     
    ในงานวันนี้ผมขอนำเสนอหมวดต่างๆที่มีกิจกรรมมากมายและสาระสิ่งดีๆที่มีประโยชน์แก่ทุกท่านในทุกหมวด
     
    ผมกล่าวต่อไปโดยมีไอ้พวกทโมนยืนกลั้นหายใจ สงสัยกลัวผมแป้ก บางคนก็เย้วๆเชียร์จนออกนอกหน้า หนึ่งในนั้นก็ไอ้ซันล่ะครับ! และผู้คนที่นั่งฟังอยู่อย่างตั้งใจก็เงียบกริบ ปล่อยเสียงของผมให้ดังไปเรื่อยๆ
     
    แซทผละลงมาจากข้างเวทีแล้วเดินค้อมตัวลัดเลาะมายังที่นั่งผู้ชม ผมมองตามมันที่ทำหน้าแหยๆ เอ่ยปากขอโทษคนนู้นทีคนนี้ทีเวลาไปชนอะไรเข้าแล้วก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มขำๆ
     
    ก็ตัวมันใหญ่ที่นั่งมันก็แคบๆ ยังเสือกกระแดะลงมาอีกนะมึงนะ
     
    จนสุดท้ายมันก็มานั่งข้างหน้าข้างๆมิสศรี ที่ตรงนั้นทำให้ผมเห็นหน้ามันที่มีรอยยิ้มฉายอยู่ชัดเจน แต่ผมกลับรู้สึกโหวงไปทันที
     
    ทำไมต้องเลือกนั่งตรงนั้นด้วย?
     
    ผมจะไม่ขัด จะไม่คิดหรืออะไรใดๆ ถ้าแซทไม่ได้นั่งอยู่ด้านหน้าเนย์
     
    เมื่อผมมองไปที่แซท ผมก็จะเห็นเนย์
     
    ถ้าผมมองเนย์ ผมก็จะเห็นแซท...
     
    ความรู้สึกกระอักกระอ่วนตีมวนไปทั่วท้องก่อนจะแล่นมาจุกอยู่ตรงคอจนเสียงผมเริ่มเบาและแหบไปเล็กน้อย
     
    ผู้หญิงคนที่ผมเคยรักและไม่มั่นใจว่าจะยังรักอยู่รึเปล่านั่งข้างหลังผู้ชายที่ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นทุกทีเวลาอยู่ใกล้
     
    ความรู้สึกสับสนประหลาดก่อขึ้นอีกครั้งภายในตัวผม ในเมื่อคนทั้งคู่เป็นคนที่ผมเห็นความสำคัญเท่าๆกัน ไม่มีใครแพ้ใครเลยซักนิด
     
    ผมเบือนหนีไปจากตรงนั้นอีกครั้ง เหม่อมองเลยข้ามไปทำให้เสียงที่เคยติดขัดเริ่มดีขึ้น
     
    บอกกับตัวเองว่าไม่มีใครอยู่ตรงนั้น...
     
    เหมือนตลกร้ายเลย ว่ามั้ยครับ? ทั้งๆที่ทุกอย่างกำลังเริ่มดีขึ้นมา แต่สุดท้ายก็แย่ลง ความรู้สึกเก่าๆกลับมาทำให้ความรู้สึกใหม่ๆที่เริ่มเกิดขึ้นหยุดเติบโตอยู่กับที่และต่อสู้กันภายใน แต่ผมก็ไม่เห็นแววว่าฝ่ายไหนจะชนะ เพราะทั้งสองไม่อาจเปรียบเทียบกันได้เลย
     
    ผมขอขอบคุณแขกผู้มีเกียรติทุกท่านอีกครั้งนะครับ และขอให้สนุกกับงานในวันนี้ ขอบคุณครับประโยคสุดท้ายถูกกล่าวพร้อมกับเสียงปรบมือที่กึกก้องเหมือนตอนแรก ผมปรายตามองไปยังบริเวณที่แซทกับเนย์เคยนั่งอยู่ แต่กลับหายไปทั้งสองคน
     
    ดีแล้วล่ะ เพราะไม่ว่าจะเป็นใคร ตอนนี้ผมก็ไม่อยากจะพบเห็นอยู่ดี
     
    เลยไปที่มิสศรีนั่งยิ้มและพยักหน้าให้ผม จนผมรู้สึกใจชื้นขึ้น ถึงแม้จะผิดพลาดติดขัดไปบ้างแต่ถ้าเป็นแบบนี้ก็ถือว่ายังโอเคอยู่
     
    ไอ้พวกทะโมนเป็นกลุ่มสุดท้ายที่หยุดปรบมือ ผมค้อมตัวลงให้ทุกคนอีกครั้งก่อนจะเดินลงจากเวที
     
    แต่ไม่มีคนที่ยิ้มรอรับผมแม้แต่คนเดียว... แซทไม่ได้ยืนรอผมอยู่ ไม่มีแม้เงา
     
    จริงสินะ... มันคงไปทำอะไรที่มันต้องทำ
     
    จะให้มัวมายุ่งเรื่องผมได้ซะที่ไหนล่ะ
     
    แต่ผมไม่เข้าใจตัวเองบางอย่าง ทำไมถึงเห็นคำสัญญานั่นสำคัญนักนะ
     
    ผมนี่มันงี่เง่าจริงๆ หวังอะไรอยู่ในใจนะเรา...
     
     
     
    อัง มึงทำให้กินได้หน่อยดิวะ เสียของไอ้มี่หันมาบ่นเมื่อผมใช้ไม้พายทำข้าวเกรียบปากหม้อขาดเป็นอันที่สิบกว่าตั้งแต่เริ่มทำ
     
    หลังจากที่ผมกล่าวเปิดงานจบ ก็จรลีมาสิงสถิตในหมวดคหกรรมกับไอ้มี่เนี่ยแหละครับ เพราะมันสบายสุด แถมยังได้กินฟรี(จุดประสงค์เลวชิบ)
     
    กูไม่ได้เป็นแม่บ้านแม่เรือนอย่างมึงนิผมเถียงพลางมองข้าวเกรียบปากหม้อที่ถูกแบ่งไว้สองฝั่งในถาดแล้วเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน ฝั่งหนึ่งดูสวยงามน่ากิน(แหงซะ ฝีมือไอ้มี่) อีกฝั่งไส้ทะลัก แป้งขาด และอะไรต่อมิอะไร ประมาณว่าถ้าทำขายมึงเตรียมตัวเจ๊งแน่ ซึ่งทั้งหมดนั่นผมทำเองทั้งหมด ก็คนมันได้แค่นี้อ่ะครับ!
     
    มึงอย่ามาอ้าง ของงี้ใครๆก็ทำได้มีแต่มึงเนี่ยแหละที่ไม่มีปัญญา
     
    เออ กูผิด กูแม่งไม่ได้เรื่องไอ้ห่า ก็กูมันคนมือหนักนี่หว่า น้อยใจเว้ย! แทนที่จะให้กำลังใจนะกลับมาด่ากู
     
    แค่นี้ทำงอนนะมึงไอ้มี่ประชด แต่มันไม่มีท่าทีจะง้อผมเลยซักนิด
     
    เฮิร์ทเหอะ!
     
    ผมใช้ช้อนตักอันที่ไส้แตกมากินอันนึงก่อนจะเช็ดมือที่เปื้อนลงบนผ้ากันเปื้อนสีชมพูที่ใส่อยู่
     
    มีความสุข ทำไปแดกไป ไม่หวังกำไร หวังแต่แดก!
     
    สาวๆ ทำอะไรกันอยู่จ้ะ เสียงโบร๋วๆ โฮ่งๆ ของไอ้หมาพีทที่มีไอ้หมาเมาส์เดินอยู่ข้างหลังดังมาแต่ไกล
     
    ไอ้พวกนี้แม่งเห่าเรี่ยราด!
     
    สาวเตี่ยมึงดิผมหันไปขู่แล้วยกไม้พายมันเยิ้มสีเดียวกับผ้ากันเปื้อนชี้หน้ามัน มืออีกข้างเท้าเอวหาเรื่อง
     
    แบบที่ว่า... ไม่มีความเป็นกุลสตรีเลยซักนิด(ก็ผมแมนอ่ะ)
     
    สองหมามองหน้ากันอย่างมีเลศนัยแล้วหัวเราะหึๆในลำคอ
     
    พวกมึงนี่เป็นที่เชิดหน้าชูตาของห้องว่ะคำพูดแปลกๆของไอ้เมาส์ทำให้ผมขมวดคิ้ว
     
    อะไรของมึงวะ
     
    เปล๊าพวกมันพูดเสียงสูงพร้อมกันแล้วทำหน้ากวนตีนก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ๆพวกผม
     
    แม่ง ถ้าผมไม่ใช่ผู้ชายใจอารีย์นะ เอาไม้พายเคาะหัวพวกมันแล้ว!
     
    พวกมึงมาก็ดีละ อุดหนุนพวกกูหน่อยไอ้มี่แทรก
     
    มันมักทำสถานการณ์ที่ผมชอบทำให้แย่ลงๆ ให้ดีขึ้นๆ เสมอ
     
    เพื่อนดีๆก็มีในโลกครับ! แตกต่างกับผมที่คอยทำให้อะไรเลวร้ายลง ก็มีไอ้มี่เนี่ยแหละช่วยแก้สถานการณ์ให้ทุกที
     
    ไอ้สองหมาก้มหน้าลงดูข้าวเกรียบปากหม้อสองฝั่งที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงอย่างพินิจ
     
    กูว่าไอ้เละๆเนี่ย ไอ้อังทำไอ้พีทพูดแล้วมองฝั่งที่ไส้แตกแป้งเหี่ยวแหยงๆ คิดเหมือนกูเหอะ ไอ้ที่ดูดี น่ากินเนี่ยไอ้มี่ทำชัวร์ป้าบ ไอ้เมาส์เสริม
     
    สัด ชาติที่แล้วมึงเป็นแฝดพี่แฝดน้องกันเหรอวะ เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย
     
    ไอ้แฝดหมานรกส่งมาเกิด!
     
    ผมจัดการใช้มือที่ว่างอยู่โบกหัวมันไปคนละทีด้วยความหมั่นไส้ โทษฐานบังอาจมาสบประมาทอาหารที่ผมอุส่าต์พยายามทำสุดริด
     
    ลูกผู้ชายฆ่าได้ หยามไม่ได้เว้ย!!”
     
    ไอ้สัดอัง มือหนักชิบหายไอ้เมาส์บ่นน้ำตาเล็ดแล้วลูบหัวป้อยๆ
     
    ก็มึงมาเห่าใส่กูก่อนนะ นี่ยังไม่รวมคดีเรื่องป้ายเชี่ยๆนั่นด้วยนะมึงไอ้คนต้นคิดเรื่องป้ายไม่ใช่ไอ้ซันคนเดียวแน่ครับ อย่างน้อยต้องมีไอ้สองหมาเนี่ยแหละหัวโจก ส่วนไอ้ก๊วนชอบกวนก็คอยสำทับ
     
    คิดเล็กคิดน้อยเป็นผู้หญิงนะมึง ผมอยากจะเคาะหัวพวกมันอีกซักรอบ! ไอ้เชี่ยพวกนี้เป็นไรครับ ชอบยัดเยียดเพศแม่ให้ผมกันจัง
     
    เดี๋ยวกูเปลี่ยนใจเป็นแต๋วขึ้นมาจริงๆละพวกมึงจะหนาว จะทะลวงประตูหลังรายตัวเลยไอ้สาด!
     
    พวกมึงอยากรู้มั้ยล่ะว่าผู้หญิงตอนมีเมนส์เป็นไงผมพูดเสียงเหี้ยมแค่นยิ้มสยองให้ จนพวกมันกลืนน้ำลายเอื๊อกเพราะรู้ว่าผมเอาจริง เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับไอ้อัง!
     
    ส่วนไอ้มี่ก็ทำตัวกลมกลืนในเหตุการณ์ ยืนทำข้าวเกรียบปากหม้อเงียบๆไม่สะทกสะท้านเหมือนไม่มีมันอยู่ตรงนั้นด้วย
     
    อัง กูกลัวมึงละเนี่ยไอ้พีทว่าแล้วยกมือขึ้นไหว้ปลกๆ ไอ้มี่ เอาให้พวกกูคนละกล่องดิ๊จากนั้นมันก็เปลี่ยนเรื่องไปหาไอ้มี่แทนครับ เอาไอ้มี่เป็นตัวช่วยซะงั้น
     
    เอาตัวรอดจากเงื้อมไม้พายผมไปได้หวุดหวิด
     
    อ่ะ ของพวกมึง คนละห้าสิบไอ้มี่ส่งข้าวเกรียบปากหม้อสองกล่องให้ไอ้สองหมา
     
    ไอ้พีทกับไอ้เมาส์ที่รับมาทำตาโตเพราะราคาที่แพงเว่อร์ จริงๆพวกผมขายกันกล่องละยี่สิบครับ แต่ไอ้มี่ขึ้นราคาแก้เผ็ดไอ้สองตัวแทนผมเงียบๆ
     
    เคยได้ยินมั้ยครับ ความนิ่งสยบทุกสิ่ง...
     
    วันหลังผมจะเอาไอ้มี่เป็นตัวอย่างบ้าง เผื่อแม่งจะจัดการไอ้พวกเลวนี่ได้เหมือนมัน
     
    เฮ้ยๆ ทำไมมันแพงจังวะไอ้พีทโวยวาย
     
    ดูมัน ไม่ใช่ว่าจนนะครับบ้านมัน รู้สึกว่าเป็นลูกท่านหลานเธอซะด้วย แต่แค่นี้ทำบ่น ไอ้เมาส์มันก็ได้แต่บ่นอุบอิบนิดหนึ่งแต่ก็ตักเข้าปากแล้วยอมควักแบงค์ห้าสิบมาจ่ายโดยดี แต่ไอ้พีทหมาหนึ่งมันเรื่องมาก ไม่ยอมจ่าย ไม่ยอมคืนของ เป็นลูกค้าเอาเปรียบผู้ผลิตครับ เดี๋ยวกูจะแจ้ง สคผ.! สำนักคุ้มครองผู้ผลิต!! (มีด้วยเหรอวะ?)
     
    มึงจ่ายมาซะดีๆไอ้มี่พูดแล้วแบมือรอรับเงิน
     
    เออ มึงจะแดกแล้วชิ่งเหรอวะ กูฟ้องมัสเซอร์อ่ะสัดผมรีบเสริมทัพ นานๆทีได้ข่มไอ้พีทครับ ขอเอาคืนบ้างเหอะว่ะ
     
    แต่ก่อนที่มันจะยอมจ่ายเงินผม ตัวมาร(ผมคิดว่างั้นนะ)ก็เข้ามาแทรก... ไอ้ประธานสุดเพอร์เฟ็คเดินยิ้มเด่นมาแต่ไกล ไอ้พีทเห็นรีบปรี่เข้าไปเลียแข้งเลียขาทันที
     
    แซทๆ มาพอดีเลย เลี้ยงข้าวเกรียบปากหม้อกูหน่อยดิมันรีบดึงเสื้อไอ้แซทแล้วให้เดินมายังที่พวกผมยืนอยู่
     
    หมาจริงๆมันน่ะ!
     
    แซทสบตาผมแล้วยิ้มให้นิดๆ แต่ผมทำปากเบะใส่มัน
     
    มึงจะมาทำไมตอนนี้! ไอ้เวรร!
     
    หวัดดีครับ พี่มี่ พี่เมาส์ ...อัง
     
    แซท มึงดูๆ ของที่เมียมึงทำ แม่งกินไม่ได้แล้วยังขายแพงอ่ะได้ทีแม่งฟ้องใหญ่ครับ แต่มันขัดหูตรงที่อะไร เมียๆ นะ? ไอ้พีทไอ้หมาปากเปราะ!!
     
    ถ้ากูเป็นเมียไอ้แซทโลกคงถล่ม ฟ้าคงทลาย ประตูหลังกูก็จะโดนทะลวง!
     
    มันดูหมิ่นไม่พอ ใช้นิ้วชี้ๆพร้อมกับสายตาดูแคลนเสียเต็มประดา ไอ้เมาส์ที่ยืนกินอยู่ถึงกับหัวเราะ ไอ้แซทก็ยืนยิ้มๆ ตามประสามันไป
     
    ผมน่ะเหรอ หน้าบูดไปแล้ว!
     
    เท่าไหร่ครับแซทหันไปถามไอ้มี่ที่คงกำลังคิดว่าจะเก็บเงินที่ใครดีอยู่
     
    ห้าสิบ
     
    พอจบประโยค แซทก็ควักเงินออกมาให้แต่โดยดี ผมถึงกับส่งเสียงจึ๊ในลำคออย่างไม่พอใจ หมั่นไส้มันที่ทำตัวเสี่ยไม่ก็พ่อพระมีเมตตาเลี้ยงข้าวไอ้หมาตาดำๆอย่างไอ้พีท บางครั้งตั้งแต่ผมรู้จักมันมาผมก็เคยคิดนะว่าแซทอาจจะเสแสร้งแกล้งทำเป็นคนดี แต่พอระยะเวลาผ่านไป มันก็พิสูจน์คนได้จริงๆ เพราะมันก็เป็นแบบนี้เสมอต้นเสมอปลาย ใครมีอะไรให้ช่วยก็ช่วย ไม่เคยเกี่ยงงอน ไม่เคยบ่น พ่อพระตัวจริงเสียงจริงเลยมันน่ะ!!
     
    โอ้ย สมกับเป็นผัวเพื่อนกูจริงเลยเว้ยไอ้น้องคนนี้!” ไอ้พีทส่งเสียงดี๊ด๊าหางกระดิกดิ๊กๆ ถ้าไอ้แซทหรือมันเป็นผู้หญิงคงหอมซ้ายหอมขวาซักทีสองทีเลยมั้งนั่น มันตักข้าวเกรียบเข้าปากแล้วเคี้ยวอย่างอร่อยโชว์ผมที่ยืนหน้าเซ็งก่อนที่จะลากไอ้เมาส์เดินออกไปเพราะเสร็จภารกิจเห่าเรี่ยราดแล้ว
     
    ส่วนไอ้คนที่ได้ตำแหน่งสามีก็ไม่ทักท้วงอะไร ยืนยิ้นแล้วมองตามไปก่อนจะเดินมาตรงหน้าผม
     
    มึง ไม่คิดจะแก้ตัวเลยนะผมแขวะ นี่อยากเป็นสามีกูจนตัวสั่นจริงๆใช่มะ
     
    หึหึ...มันไม่ตอบ มองผมแบบแปลกๆจนน่าขนลุกแล้วหัวเราะในลำคอ
     
    แต่ลองคิดดูสิ เจอตีนแน่
     
    ครับๆ แซทพยักหน้าหงึกหงักแล้วก้มตัวรับแกล้งทำเป็นว่ากลัวผมจริงๆ
     
    แล้วมายืนเกะกะหน้าร้านไมวะ ไม่ซื้อก็ออกไปเลยไปๆ
     
    ผมออกปากไล่เพราะตัวไอ้แซทแม่งบดบังทรรศนียภาพจนมิดร้าน ถึงแม้จะเรียกสายตาจากเด็กคอนแวนต์ที่ผ่านไปมาได้มากโขอยู่ก็ตาม บางคนก็ทำท่าจะเดินเข้ามาแต่ไม่กล้า บางคนก็แอบใช้มือถือถ่ายรูปเงียบๆ แซทมันดังข้ามไปฝั่งโน้นเหมือนกันนะครับ บางครั้งเล่นเน็ตยังเจอรูปมันหราอยู่ในกระทู้เน็ตไอดอลเลย
     
    ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงรู้สึกภูมิใจนิดๆ ที่เด็กโรงเรียนตัวเองสร้างชื่อ แต่ตอนนี้ สำหรับกรณีที่คนๆนั้นเป็นไอ้แซทเทอร์เดย์ตรงหน้าผม ผมไม่รู้สึกยินดีหรือดีใจเลยซักนิด มันทั้งไม่พอใจและหมั่นไส้ด้วยซ้ำไป
     
    ผมเป็นคนจิตใจคับแคบแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันวะเนี่ย?
     
    แต่ไอ้แซทดูไม่ทุกข์ร้อนอะไร หรือไม่มันก็ไม่รู้ตัวว่ามีคนสนใจมันอยู่
     
    ใครบอกผมไม่ซื้อ เอามาซักกล่องสิผมมองมันตาขวางๆ(หงุดหงิดอะไรซักอย่างตั้งแต่เมื่อกี้) แล้วหยิบกล่องโฟมขึ้นมาจะตักข้าวเกรียบที่วางไว้ในถาดใส่ให้มัน
     
    ไม่ใช่อันนั้น อันนี้สิแซทจับมือผมให้หยุดแล้วชี้ไปที่ส่วนที่ผมทำไส้แตกวางเละอยู่
     
    กินได้ที่ไหน มึงบ้าไงผมสวนแต่ไอ้แซทส่ายหน้าไปมายืนกรานเหมือนเด็กๆตัวเล็กเอาแต่ใจ
     
    ก็อยากกินอันที่อังทำนี่นา
     
    ตัวก็ควายละนะมึงนะ... ยังจะอ้อนอีก
     
    ผมรำคาญเลยจัดการสนองนี๊ดมันตักไอ้เจ้าเละให้มันจนหมดถาดสมใจอยาก
     
    ไม่อร่อยแล้วอย่ามาบ่นผมพูดลอยๆ ตอนมันกำลังจะตักเข้าปาก
     
    ไอ้แซทค่อยๆเคี้ยวลิ้มรสทีละนิด ทำหน้านิ่งๆจนผมอ่านไม่ออกว่ามันรู้สึกยังไง บางทีมันก็ยิ้ม บางทีมันก็คิ้วขมวด เอาซักอย่าง... กูงงครับ!
     
    มัน...น้ำเสียงของแซทฟังดูเครียดๆแล้วเว้นจังหวะไปให้ผมกลั้นหายใจเล็กน้อย .....อร่อยมากๆคำเฉลยออกมาพร้อมรอยยิ้ม แซทตักเข้าปากอีกชิ้นพลางมองหน้าผมเหมือนคนได้ชัยชนะ
     
    เอาซะกูใจหายใจคว่ำนะมึง!
     
    เล่นบ้าไรมึงเนี่ย ห๊ะ
     
    อังทำไรก็อร่อยอยู่แล้วน่ามันพูดเอาใจผมอ้อนๆเมื่อเห็นว่าผมเริ่มทำหน้างอ
     
    เป็นโชคดีของโรงเรียนนี้หรือยังไงที่ได้ประธานโคตรเพอร์เฟ็ค(ผมกัดฟันพูดอยู่นะ) แถมยังปากหวานบัดซบแบบนี้!
     
    เออ ดี งั้นจ่ายมาสองร้อย ห้ามขาดแต่เกินได้ผมหัวเราะหึแล้วยิ้มมุมปากให้มัน
     
    เฮ้ยๆ ทำไมของพี่พีทแค่ห้าสิบเองนะแซทท้วง แต่ผมยิ้มกว้างกว่าเดิม ถึงทีกูละนะ!
     
    ก็ท่านประธานอุส่าต์แวะมาทั้งทีก็กรุณาเมตตาหน่อยเถอะครับผมพูดเสียงดัดจริตแบบสุภาพ มองหน้ามันที่ขมวดคิ้วโดนกดราคาจนแพงยับ จ่ายสองร้อยแลกกับขนมเละตุ้มเป๊ะที่ผมทำ
     
    มันไม่เอาเปรียบผู้บริโภคไปหน่อยเหรอ
     
    ไม่หรอก ใช่ป่ะพวกเรา!!” ผมหันไปถามความเห็นพวกรุ่นน้องในหมวดที่นั่งเตรียมของจัดนู่นจัดนี่อยู่ด้านหลัง ช่ายย~” พวกมันก็ตอบรับพร้อมกันเป็นเสียงเดียวทั้งๆที่ไม่รู้ว่าผมหมายถึงอะไร ดีมากพวกมึง เสร็จงานเดี๋ยวกูเลี้ยงน้ำคนละแก้ว(มีงบแค่นี้ครับ)
     
    ไอ้แซทถอนหายใจ(สะใจที่สุ๊ด) ก่อนจะหยิบแบงค์ร้อยสีแดงสองใบส่งให้ผม ผมก็เอามาแปะๆตามของอย่างกวนตีน
     
    เงินจากท่านประธานน๊า ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า~”
     
    แต่สองร้อยไม่ใช่แค่ค่าขนมอย่างเดียวหรอกนะ ต้องขายอย่างอื่นให้ด้วย...ไอ้แซทพูดเบาๆพลางกระหยิ่มยิ้มย่องจนผมที่ลันล้าสุขอุราอยู่ชะงัก มองหน้ามันค้าง... แล้วเหล่ไปมองไอ้มี่ที่ยืนอยู่ข้างๆในรัศมีที่คงได้ยินคำพูดแปลกๆนั้นแต่มันยืนเฉย ทำเป็นหูทวนลม โล่งใจที่คนข้างๆผมเป็นไอ้มี่ ถ้าเป็นคนอื่นนี่คงเค้นผมตายว่าไอ้แซทหมายถึงอะไร
     
    แต่ว่า ไอ้เลวแซทมึงจะมาพูดอะไรตรงนี้และตอนนี้วะ!
     
    ทั้งๆที่ผมจะเป็นฝ่ายแกล้งมันได้สำเร็จแล้วแท้ๆ แต่สุดท้ายผมก็โดนมันต้อนจนมุมอีกจนได้ ให้ตายสิ! ไอ้วายร้ายนี่ทำไมมันเจ้าเล่ห์นักวะ ผมตามความคิดไม่ทันมันซักที!
     
    ~ และฉันจะทำอย่างไรต่อจากนี้ วันเวลาดีดีที่มี่หมดความหมาย และฉันจะทนได้นานสักแค่ไหน กับช่วงเวลาที่มันเดียวดายไม่มีเธอ ~
     
    ไม่ใช่ริงโทนของใครที่ไหน แต่เป็นของผมเอง ผมเปลี่ยนตั้งแต่เลิกกับเนย์วันแรกแล้วล่ะครับ ก็เพลงมันโดน! ฟังแล้วก็เจ็บจี๊ดนิดๆ แต่ก็ชอบ(โรคจิต) ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วแนบหู ใช้คอหนีบไว้เพราะทำขนมอยู่
     
    ฮัลโหล
     
    ไอ้สาดดดด มึงจะมาดูมั้ย!” เสียงไอ้ไดรส์ดังเข้ามา ดังจนผมร้องโอยออกมาเบาๆ ไอ้เชี่ยนี่ ถ้าหูกูพังไปจะทำไงวะ คุยโทรศัพท์ดีๆเหมือนชาวบ้านเค้าไม่เป็นนะมึง
     
    ดูเชี่ยไรผมถามมันกลับไปเสียงขุ่น ยังไม่หายแค้นมันจากเมื่อกี้
     
    สัด มึงจำไม่ได้ไงว่าเพื่อนมึงเป็นประธานแบนด์
     
    เออ กูจำได้ แล้วไงวะเวรนี่พูดอะไรกูไม่เข้าใจ ช่วยสาธยายให้กูกระจ่างทีเหอะครับ
     
    ไอ้กลวง! กูจะขึ้นร้องแล้วโว้ย อีกห้านาทีขึ้น มาไม่มาก็เรื่องของมึง ถ้ามาก็ลากไอ้มี่มาด้วยนะพูดจบมันก็วางสายไปทันที(มันกลัวเปลืองเงินครับ) พร้อมกับเสียง ปิ้งป่อง! ดังขึ้นในหัวผม แต่ข้องใจไหนมันบอกว่าแค่ซ้อมให้แบนด์ที่จะขึ้นวะ แล้วกลายเป็นมันขึ้นแทนเฉย สงสัยแม่งมีแอ็กซิเดนท์... ไม่ไปดูมันก็กะไรอยู่ อยากดูเหมือนกันไม่เห็นมันร้องมันเล่นมานานละ
     
    แต่อีกห้านาที... ไม่ใส่เกียร์หมาคงไม่ทันว่ะ!
     
    ไอ้มี่ ไอ้ไดรส์มีร้องมึงวางมือเร็ว!” ผมหันไปบอกไอ้มี่ซึ่งมันก็พยักหน้าแล้ววางอุปกรณ์ลง
     
    ไอ้โป้ง! มึงช่วยขายของแทนพวกกูด้วย แปบนึง!” ผมหันไปบอกรุ่นน้องม.4ที่อยู่ซุ้มหมวดเดียวกันให้ช่วยทำแทน โยนขี้ให้มันเนี่ยแหละ ส่วมพวกผมก็ออกไปเสวยสุข ก็ลำบากมานานละ ไอ้โป้งก็งงๆ ไปนิดๆ แต่ก็อืมอำรับคำไป
     
    มึงก็เลิกแดกได้แล้วครับคุณประธานผมหยิบกล่องโฟมในมือไอ้แซทวางลงกับโต๊ะ ไปกับพวกกูด้วย ดูเพื่อนพี่ชายมึงร้องเพลง!”
     
    จบประโยคผมก็คว้าแขนพวกมันสองตัวแล้วออกวิ่ง กลัวไม่ทัน... เพราะระยะทางไม่ใช่ใกล้ๆ ถ้าไปช้าเดี๋ยวแม่งได้ยืนที่ไม่ดี เดี๋ยวมองไม่เห็น(กูเตี้ยไง!) แล้วไอ้ไดรส์ก็โกรธอีก เวลามันโกรธอ่ะง้อยาก ผมขี้เกียจด้วย รำคาญไอ้คุณหนูใจน้อยชิบหาย(ฉายาที่เพื่อนในห้องร่วมกันตั้งนะ ไม่ใช่ผมคนเดียว)!






         to be continued.....




    ------------------------------------------------------------------------------------+

    Happy Birthday to me~ Happy Birthday to me ~~~
    วันนี้วันเกิดวอลนัตเองค่ะ! ฮ่าๆๆ ขอให้ตัวเองมีความสุข ให้ซักวันสติชมารักเค้าบ้าง(เพ้อๆ..)
    ขอให้แซทอังอยู่กับวอลนัตตลอดไป~ ขอให้หนุ่มกางเกงน้ำเงินสองคนนั้นเป็นแรงบันดาลใจที่ยืดยาว(ห้ามเลิกกัน ไม่ยอม!)
    ...ผู้อ่านขอพรให้วอลนัตด้วยนะคะ! อิอิ!!!

    เวลาเราคบใครมาประมาณปีกว่า มันก็ยากจะลืมจริงมั้ยคะ ถ้าในระหว่างนั้นมีแต่ความทรงจำดีๆ
    เพราะงั้นเป็นธรรมดาค่ะที่อังจะรู้สึกสับสนและกลัวไปบ้าง...
    ของแบบนี้มันลืมกันไม่ได้หรอกค่ะ แต่พระเอกของเรา... นายแซทก็เป็นตัวชะโลมใจที่ดี
    อีกไม่นานหรอกค่ะ อีกไม่นาน ต้องสมหวังแน่ๆ อิอิ

    ส่วนพีทกับเมาส์เป็นสองคาแรคเตอร์ที่วอลนัตชอบเช่นกันค่ะ เลยมาเพิ่มบทบาทให้ในตอนนี้
    สองแฝดหมานี่น่ารักจริงนะเออ.. ว่างั้นมั้ยคะ?
    ส่วนไดรส์ที่ได้คะแนนเสียงล้นหลามเช่นกันก็โผล่มาแล้วค่ะหลังจากที่หายไปนาน
    แต่ถึงมาแค่เสียงก็ยังคงเรทติ้งเนอะ... คุณหนูใจน้อย หึหึ

    ส่วนใครที่รีเควสมุมมองแซท รอหน่อยนะคะ ขอให้อะไรลงตัวแล้วมีให้อ่านแน่นอนค่ะ
    แล้วก็เรื่องของเซย์กับมี่!! จะลงตอนหน้าดีมั้ยน๊า? จะเป็นสเปเชี่ยลให้นะคะ
    เพราะเรื่องราวของคู่นี้น่ารักจริงๆค่ะ วอลนัตรับรอง!!

    มาแล้วค่ะ ช้าไปซักนิด หลังจากไปเที่ยวมา... 
    วันนี้ขออนุญาตเขียนทอล์ตยาวๆนะคะ เพราะคิดถึงทุกคนจริงๆ มีเรื่องมาบ่นให้ฟังเยอะเลยล่ะ
    พัทยาก็เหมือนเดิมค่ะ อย่างที่ทุกคนรู้จักและพบเห็น (มันไม่เคยเปลี่ยนแหละนะ555)
    ไปพักที่บ้านที่ม๊าซื้อไว้ที่นั่นค่ะ นอนทั้งวัน เล่นไพ่(??)ทั้งวัน อย่าไปแจ้งตำรวจนะคะ เดี๋ยวโดนจับ!



    พล่ามมายาวมากแล้ว ถ้าใครอ่านจนจบ รักที่สุดเลยค่ะ! 
    ฮ่าๆๆ งั้นวันนี้ไปนะคะ พบกันตอนหน้าค่ะ! จุ๊บๆ




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×