ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : [04] Never aware
[04] Never aware
กูไม่เคยรู้ตัว!!
เคยคิดมั้ยครับว่าเวลาในช่วงกลางคืนมันดูเหมือนจะเร็วกว่าช่วงกลางวัน นอนๆฝันๆอยู่แปบเดียวต้องตื่นขึ้นมาอีกซะแล้ว ทำไมกลางคืนไม่มีซักยี่สิบชั่วโมงนะ ทำไม ทำไม... ผมจะได้ไม่ต้องตื่นมาเจอกลางวันที่ฝันร้ายแบบนี้
“คุณตัวแทน มึงไม่ไปซ้อมเหรอคร๊าบบ” เสียงไอ้ซันลอดเข้ามาในโสตประสาทของผมที่กำลังฟุบหลับอยู่กับโต๊ะ ผมรู้สึกถึงแรงเจ็บๆหนักๆที่หัว... มันปลุกผมด้วยการโบกหัว!
ไอ้สาด มือมึงก็ไม่ใช่จะบาง ทั้งหยาบทั้งหนา อี๊ ดันมาโบกหัวน้อยๆของกูซะได้ จำไว้นะมึง เดี๋ยวกูจะเอาคืน! ซักวัน ซักวัน!
ไอ้พวกนี้พอรู้ว่าผมเป็นตัวแทนม.6พูดเปิดงานอะไรนั่นก็ตั้งสรรพนามใช้เรียกผมใหม่ทันทีทันใด ไอ้คนต้นคิดน่ะเป็นใครไม่ได้นอกจากไอ้ตัวปากหมา... ไอ้ซัน!
ผมงัวเงียมองไอ้สามตัวที่นั่งล้อมรอบกันอยู่ครบกระบวน
“ไม่เอาอ่ะ กูขี้เกียจ” ผมบ่นพลางขยี้ตาให้หายง่วง แม่ง ช่วงนี้นอนเท่าไหร่ก็รู้สึกไม่พอ
“อ้าว เฮ้ย ถ้ามึงทำม.6ขายขี้หน้านะ กูตื๊บมึงคนแรก” ไอ้ซันพูดแล้วทำท่าเป็นเรื่องใหญ่ แทนที่ถ้าผมพลาดมันจะเข้ามาปลอบผมว่าไม่เป็นไรตามประสาเพื่อน กลับจะตื๊บตอกย้ำเฉย นี่หรือคือเพื่อน ไอ้เวร
“สาด ระดับกู”
“ชมรมมึงมีไรให้กูทำมั่งป่ะ” ผมหันไปถามไอ้ไดรส์ที่นั่งอ่านโน้ตอยู่ วันๆมันอ่านแต่โน้ตดนตรี แถมเอามาอ่านทีเป็นปึกๆ มึงเอาไปเก็บไว้ส่วนไหนของสมองหมดวะนั่น กูอยากรู้จากใจจริง ก็เหมือนกับไอ้มี่ไอ้ซันที่เอาแต่อ่านการ์ตูน ไปบ้านพวกมันทีนั่งๆอยู่ก็ผวากลัวหนังสือการ์ตูนบนชั้นนับร้อยกว่าเล่มหล่นลงมาทับตายคาที่ มันเยอะจนน่ากลัวครับจริงๆ... ส่วนผมน่ะเหรอ No Books in life เป็นคนที่จดจ่อกับอะไรนานๆไม่ค่อยได้ครับ สมาธิสั้นขั้นสุดท้าย...
“อย่างมึงไปนั่งเฉยๆกลางห้องก็พอแล้วไอ้อัง” ประโยคของไอ้ไดรส์ทำผมขนลุกพิลึก... อะไรของมันวะ
“กูไม่เข้าใจ”
ไอ้ไดรส์ฉีกยิ้มมุมปากแบบเจ้าเล่ห์จนผมยะเยือกไปทั้งตัว
“มึงไปนั่งเฉยๆ เด็กในชมรมกูก็มีกำลังใจซ้อมโขละ” กูยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่ะครับ!! กำลังใจเกี่ยวอะไรกับกู?!
“ไอ้อังแม่งโง่ไม่เคยรู้ตัว” ไอ้ซันมันแทรกขึ้นแล้วหันไปสบตาไอ้ไดรส์วิบวับยิ้มสยองกันอยู่สองคน ผมขมวดคิ้วจนแทบจะผูกเป็นโบว์กับท่าทางของพวกมัน
“มึงแกล้งหรือซื่อบื้อจริงๆวะ มึงไม่เคยรู้เหรอว่ามึงน่ะ... ป็อบแค่ไหนในชมรมกู” ไอ้ไดรส์เฉลยคำตอบให้ผมได้รู้ในที่สุด... แต่คำตอบของมันทำผมมึนตึ้บ
“กูเนี่ยนะ มึงบ้าป่ะ”
“เออ มึงนั่นแหละ! แม่ง ทุกวันนี้กูเบื่อชิบหายเวลาพวกมันถามว่าพี่อังทำไมไม่มาบ้างเลยอะไรของพวกมันนั่นน่ะ” ไอ้ไดรส์พรั่งพรูออกมาเสียงไม่สบอารมณ์เหมือนเก็บกดมานาน
ยังไงผมก็ไม่อยากจะเชื่ออยู่ดีนั่นแหละ มันจะเป็นไปได้ไง เด็กหนุ่มหน้าตาธรรมดา(ที่ผมคิดเองเออเอง)อย่างผมเนี่ยนะ
แม่ง อำกูเหอะ!
“โกหก กูไม่เชื่อ”
“เชี่ย ด่ากู... งั้นไปพิสูจน์ตอนนี้เลยยังไงกูจะไปชมรมอยู่และ ถ้าแม่งเป็นอย่างที่กูบอกเอามาสองร้อยนะสัด” พูดจบไอ้ไดรส์มันก็ลากผมออกจากห้องเลยมุ่งตรงไปห้องชมรมแบนด์อย่างเร็วด่วน ไอ้เรื่องที่แม่งจะพิสูจน์จริงไม่จริงผมก็อยากรู้ แต่ไอ้สองร้อยมันแม่งๆนะครับ ว่ามั้ย ห่าพวกนี้ชอบหากินกับตัวกู
มันแม่งลากผมแล้วจ้ำพรวดๆ ขามันยาวมันก็โอเค แต่ขาผมสั้นกว่ามันเยอะนี่แทบจะวิ่งตาม ไม่อยากจะบอกว่ากูสะดุดเกือบจูบหลังมึงตั้งหลายรอบ จะรีบไปไหนวะสาด เห็นใจกูบ้าง!! กูเกิดมาเตี้ย! ไม่สูงอย่างมึง!
ในที่สุดมันก็ลากผมมาถึงห้องชมรมได้ครับ แม่ง กูโดนคนลากไปมาสองวันติดแล้วนะ กูเป็นคนของประชาชนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ผมขัดขืนยื้อยุดเต็มที่แล้วนะ แต่มันแต่ละตัวนี่แรงช้างสารหรือตัวห่าไรไม่รู้ ลากกูทีแทบปลิว...
พอไอ้ไดรส์ผลักประตูเข้าไปเท่านั้นแหละ พวกรุ่นน้องที่จับกลุ่มนั่งเล่นนั่งคุยกันก็แตกฮือเหมือนฝูงผึ้งมองไอ้ไดรส์เหมือนเห็นผี แต่พอตัวผมโผล่ออกจากหลังไอ้ไดรส์พวกมันก็แทบจะวิ่งกรูมาทางผม... กูเริ่มจะเชื่อมึงละ ไอ้ไดรส์
ผมไม่เคยเลยนะที่จะนั่งสังเกตว่าตัวเองเป็นยังไง แล้วใครสนใจบ้าง ผมก็ทำตัวปกติกับทุกคนนั่นแหละ แต่พอมาวันนี้ผมเริ่มคิดจะเปลี่ยนนิสัยตัวเองนิดๆแล้วแฮะ
“พี่อัง คิดถึงจังเลยครับ” เหอ มึงเป็นใคร?
“ได้ยินว่าเป็นตัวแทนม.6 ดีจริงๆเลยนะครับ” เสียงจากเด็กม.4ตัวสูงๆที่ผมเห็นหน้าบ่อยแต่ไม่รู้ชื่อ มันอาจจะเคยแนะนำแล้วแต่ผมจำไม่ได้หรอกครับ แค่เพื่อนรุ่นเดียวกันก็จำแทบไม่หวาดไม่ไหว สมองปลาทองอย่างผมมันได้แค่นี้แหละ อาเมน... เจ้านั่นไม่พูดเปล่าเข้ามาเบียดกระแซะข้างตัวผม หลังจากนั้นไอ้พวกเด็กนี่ก็เข้ามารุมล้อม ที่พวกมึงหลงใหลได้ปลื้มกูอ่ะ กูก็รู้สึกดีนะ(หลงตัวเองชั่วขณะละครับ) แต่ทำงี้กูจะขาดอากาศหายใจตาย มึงสงสารกูบ้างเห้อ...
ไอ้ไดรส์ที่เมื่อกี้อยู่ข้างผมแม่งเดินหนีเอาตัวรอดไปคนเดียวตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ ช่วยกูที กูจะไม่เหยียบที่นี้แล้ว... ชมรมมึงสยองสาด
“ขอโทษนะ ขอพี่ไปคุยกับไดรส์ก่อนได้มั้ย” ผมดัดเสียงสุภาพเต็มที่ ส่งสายตาวิงวอนไปให้รอบตัว พวกมันก็ยิ้มกว้างแล้วหลีกทางให้แต่โดยดี ยังดีที่มันว่านอนสอนง่าย ไม่งั้นผมต้องขาดออกซิเจนตายตรงนั้นแน่ๆ
ผมรีบเดินเร็วๆไปนั่งแหมะข้างไอ้ไดรส์ที่โซฟา มันนั่งสบายใจเฉิบยักคิ้วให้ผมอยู่
ไอ้สาดกูซึ้งแล้ว! เด็กชมรมมึงน่ากลัวชิบหาย!
“ไงมึง” มันพูดเสียงกวนตีน ทำเอาผมหันไปแยกเขี้ยวใส่มันทีนึง
“ถ้ามึงจะลากกูมาที่นี่อีก กูขอตายดีกว่า... คงได้ตายสงบกว่ามาตายที่นี่”
“สม ไม่เชื่อกูแต่แรก” ไอ้ไดรส์หัวเราะร่วนแล้วนั่งอ่านโน้ตในมือมันต่อ ผมถอนหายใจอย่างปลงสังเวชกับชีวิต... ป็อบในหมู่เพศเดียวกันมันขนลุกพิลึก! ผมก็ว่าผมมาดแมนแฮนซั่มนะ แต่ทำไมเป็นงี้ไปได้เนี่ย
ผมกวาดมองทั่วห้องที่ไอ้พวกนั้นแยกย้ายกันไปคนละมุมเพื่อซ้อม สายตาเผลอไปหยุดอยู่ที่ไอ้เด็กที่เช็คแซ็คอยู่ดีๆมันก็หันมาสบตากับผมแล้วยิ้มพรายอย่างมีความนัยจนผมแอบสะดุ้งนิดๆ ก่อนจะเปลี่ยนไปมองไอ้ไดรส์แทน
มองไอ้พวกนั้นเดี๋ยวมันนึกว่าผมส่งสายตาให้มันอีก... กูกลัวชมรมพิลึกนี่ว้อย!
“อ่ะมึง” ไอ้ไดรส์หยิบแฟ้มสีดำข้างตัวยื่นให้ผม อะไรของมันครับนั่น
มันขมวดคิ้วกับหน้าตาเหรอหราของผมก่อนจะยื่นหน้ามาใกล้ๆ...
ทำแบบนี้กูเสียวนะเฮ้ย!!
“มึงเอาไปให้ไอ้มี่ทีดิ ตอนนี้อยู่โถงตึกข้างล่างมั้ง... หาเรื่องออกจากชมรมกูด้วยไง กูสงสารมึงว่ะ” แผนแยบยลของไอ้ไดรส์ทำให้ผมยิ้มกว้าง โอ้ย มึงช่วยกู กูรักมึงที่สุด!
ผมรีบรับมาแล้วเดินออกจากห้องที่มีรังสีแปลกๆแผ่รอบๆนั่นอย่างรวดเร็ว ถึงแม้จะมีเสียงเรียกจากไอ้เด็กพวกนั้นยังไง ผมก็ไม่คิดจะหันไปมองอีก...
ผมเดินลงมาข้างล่างเห็นพวกเด็กช่วยกันจัดซุ้มทำนู่นทำนี่ แต่ไม่เห็นหัวไอ้มี่แม้เงา... มันไปอยู่ไหนวะ ไหนไอ้ไดรส์บอกว่าทำงานอยู่ที่นี่ไง... พอดีที่ผมเหลือบไปเห็นไอ้แจ็ค เพื่อนในห้องผมอีกคนพอดี มันกำลังชี้นิ้วสั่งน้องให้วางกระถางดีๆตามสไตล์เผด็จการของมัน
ไม่รอช้าผมรีบปรี่เข้าไปหามันทันที
“ไอ้แจ็ค” ผมเรียก แล้วมันหันมาเลิกคิ้วมองผมงงๆ “มึงเห็นไอ้มี่ป่ะ”
ไอ้แจ็คทำหน้าคิดก่อนจะตอบผม “เห็นเดินออกไปหน้าตึกกับไอ้เซย์สภา อยู่แถวๆนั้นมั้ง” มันพาดพิงถึงไอ้เซย์หนึ่งในคณะกรรมการนักเรียนในสภาที่เป็นฝ่ายกฎ ขอบอกว่าโคตรโหด เป็นรุ่นน้องแท้ๆ กล้าว๊ากผมซะเต็มที่ตอนชายเสื้อหลุดไปนิดเดียว ผมนี่ซูฮกมันเลยกับความเนี๊ยบ ว่าแต่... ไอ้มี่ไปมีปัญหาอะไรกับมันวะ?
“เออ ขอบใจ”
ผมพยักหน้าหงึกหงักรับคำมันก่อนจะเดินไปหน้าตึก พอมาก็ไม่เห็นมีใคร ไอ้ห่าพวกนี้ชอบหลอกกู แต่ก่อนที่ผมจะเดินกลับก็เหมือนมีเสียงคนสองคนคุยกันแว่วเข้ามาในหู หนึ่งในนั้นเป็นเสียงเพื่อนสนิทผม... ไอ้มี่!
ผมเดินย่องๆไม่ให้เกิดเสียงดังให้พวกมันไหวตัว ผมติดราบกับกำแพงก่อนจะชะโงกหน้าไปมองนิดๆ ตรงนั้นที่พวกมันคุยกันอยู่เป็นมุมอับ ซึ่งผมก็เพิ่งรู้ว่าโรงเรียนมีมุมแบบนี้อยู่ด้วย (อยู่มาหลายปีแม่งไม่รู้ห่าไรเลย)
ภาพที่ผมเห็นเกือบทำให้อุทานออกมาแต่ดีที่ใช้มืออุดปากไว้ทัน
ไอ้เซย์กำลังกอดไอ้มี่อยู่! เชี่ย!!!!!!
กูอึ้ง ทึ่ง และเสียวป๊าด!!
เจอของดีเข้าแล้วไงกู
“มี่หายโกรธเซย์แล้วใช่มั้ย” ประโยคที่ดูสนิทสนมกลมเกลียวบวกน้ำเสียงหวานหยดย้อยทำให้ผมกลืนน้ำลายเอื๊อก
“อือ หายโกรธแล้ว ปล่อยเลย เดี๋ยวมีใครมาเห็น” ไม่ทันละมึง กูเห็นเต็มๆสองตาและไม่มีวันลืม!!!
พวกมันผละออกจากกันแล้วตั้งท่าจะเดินมาตรงที่ผมยืนอยู่ ผมรีบก้าวถอยหลังแล้ววิ่งปรู๊ดไปหน้าตึกที่เดิม เพียงเสี้ยววินาทีพวกมันก็โผล่มาจากมุมตึกนั้น ไอ้มี่ที่เห็นผมมีสีตกใจเล็กน้อย ผมยืนหอบทำท่าชะเง้อมองรอบๆก่อนจะแกล้งไปจ๊ะเอ๋ไอ้มี่กับไอ้เซย์พอดี
“มึงมาทำไรแถวนี้” ไอ้มี่ถามเมื่อเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม โดยมีไอ้เซย์ตามมาอยู่ข้างๆ มองหน้าผมที่มีเหงื่อแตกพลั่กนิ่งๆ
“กูมาตามหามึง” ผมบอกแล้วยกแฟ้มสีดำชูขึ้นให้มันดู “ไอ้ไดรส์ให้เอานี่มาให้มึง”
“เหรอ” ไอ้มี่พูดแล้วทำหน้าเหมือนโล่งใจ ก่อนจะหันไปพูดกับไอ้เซย์ “เซย์ไปทำงานเหอะ พี่มีธุระ” สรรพนามเปลี่ยนไปทันทีจากเมื่อกี้ที่ผมได้ยิน! แอบน้อยใจนิดๆที่มันไม่เคยเล่าอะไรให้ผมฟังเลย กูเป็นเพื่อนมึงอยู่มั้ยวะเนี่ย
“ครับพี่มี่ สวัสดีครับพี่อัง” ไอ้เซย์รับก่อนจะเดินไปโดยมีผมกับไอ้มี่ที่มองตาม
“เอาแฟ้มมาดิ” ไอ้มี่พูดแล้วแบมือขอ แต่ผมยิ้มพรายแล้วนำไปไว้ด้านหลังตัวเอง
“กูไม่ให้จนกว่ามึงจะบอกว่ามึงกับไอ้เซย์เป็นไรกัน” ไอ้มี่เบิกตาโตตกใจกับคำพูดของผม
“กูเปล่า มึงเพ้อเจ้อเชี่ยไรเนี่ย” แหนะ ยังปฏิเสธอีกสาด มึงไม่รอดจากเงื้อมมือกูหรอก...
ปีศาจจอมวางแผนเริ่มกลับสู่ร่างผมอีกครั้ง
“เออ กูเพ้อเจ้อที่เห็นมึงกับไอ้เซย์กอดกันกลมจนแทบจะรวมร่างเมื่อกี้” ไอ้มี่ที่ทำตาโตอยู่แล้วคราวนี้แทบจะถลนออกมาเลยครับ สม ปิดบังกูดีนัก ตกใจไปเหอะ!
ผมหัวเราะร่วนกับชัยชนะของตัวเอง
“มึงจะเล่าให้กูฟังได้ยัง”
“เออ กูกับมันคบกัน” ไอ้มี่ยอมรับออกมาในที่สุด
“ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ”
“ตั้งแต่เปิดเทอม” เฮอะ! เดือนกว่าแล้วมันไม่คิดจะปริปากบอกผมซักคำ เก็บเงียบอมพะนำอยู่คนเดียว น้อยใจครับน้อยใจ!
“ทำไมมึงไม่เคยเล่าให้พวกกูฟังเลยวะ” ผมถามอย่างไม่เข้าใจ ไอ้มี่ก็หูตกหางตกหงอไปเลย
“กูกลัวพวกมึงรังเกียจ...” ผมอยากจะเอาแฟ้มฟาดหัวมันซักทีถ้าไม่เห็นว่ามันทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แบบนั้นแล้วล่ะก็... มันคิดได้ไงวะนั่น ถึงผมจะไม่มีวิสัยทัศน์ด้านนี้แต่ไอ้มี่ยังไงก็เป็นเพื่อน ถ้าขาดกันเพราะเรื่องแค่นี้แม่งก็ควายแล้ว
“มึงโง่ว่ะ รู้ตัวป่ะ” ผมบ่นใส่มันที่ยังก้มหน้า “กูจะรังเกียจมึงได้ไง มึงเป็นเพื่อนกูนะ ไม่ใช่ตัวห่าไร ทีหลังมีเรื่องไรบอก เงียบไว้แล้วกูมารู้เองแบบนี้กูโกรธเหอะ น้อยใจมึงด้วย มึงเข้าใจป่ะ”
“อือ...” ไอ้มี่รับคำเสียงหงอยๆ ...ผมพูดแรงไปเปล่าวะ?
“สาด มึงอย่ามาทำซึม กูหมั่นไส้” ผมจัดการโบกหัวมันหนึ่งที เรียกไอ้มี่คนเดิมให้กลับมา แล้วก็ได้ผล...
“เชี่ย กูเจ็บ เอาแฟ้มมาเลยมึง กูเล่าแล้ว” หายง่อยปุ๊บเล่นตัวเงินตัวทองปั๊บเลยนะมึง!
“ไม่!!” ผมปฏิเสธแล้วชูแฟ้มในมือขึ้นหัว ถึงมันสูงกว่าผมแต่ก็แค่ห้าหกเซ็นเท่านั้นล่ะ มันพยายามเอื้อมให้ถึงเมื่อผมชูแล้วเอนไปทางด้านหลัง ไอ้ห่านี่ความสามารถสูงกว่าที่ผมคิดเยอะ
ผมหัวเราะก๊ากส่วนไอ้มี่ก็โวยวายใหญ่ จนมันกระโดดขึ้นเท่านั้นแหละ...
ฟ๊าว...
ปึก!!!
แฟ้มในมือผมหลุดลอยจากไปข้างหลัง พร้อมกับเสียงของกระทบกัน ผมหันไปมองช้าๆ ใบหน้าซีดเผือด เหงื่อแตกพลั่ก
เป็นเรื่องแล้วไง กูไม่ได้ตั้งใจนะครับท่าน...
ผู้ชายคนหนึ่งทรุดตัวนั่งจับหน้าของตัวเองอยู่ ข้างๆนั้นมีแฟ้มสีดำเจ้ากรรมวางแผ่ไม่ห่าง รูปร่างและเค้าโครงนั้นผมจำมันได้แม่นเป็นอย่างดีเลยทีเดียว
คนที่โดนแฟ้มอรหันต์ของผมก็คือ... ไอ้นรกส่งมาเกิด ไอ้แซท!
ทำไมเวลาเจอกันต้องมีเหตุการณ์แย่ๆเกิดขึ้นทุกทีด้วยวะ กูกับมันทำเวรทำกรรมร่วมกันอะไรกันมาเนี้ย ชาติที่แล้วมึงเป็นเนื้อคู่กูเหรอ แสดเอ้ย!
ไอ้แซทหยิบแฟ้มสีดำแล้วค่อยๆลุกขึ้นเดินมาหาผมกับไอ้มี่ ผมไม่เห็นหน้ามันว่าตอนนี้จะทำหน้ายังไงเพราะมันเอามือปิดอยู่ สงสัยแม่งจะเจ็บมาก ก็โดนเข้าไปเต็มรักขนาดนั้น
“เฮ้ย ขอโทษษษษษษ..ษษ” ผมตะโกนก่อนจะไหว้ปลกๆ แล้วหันหลังวิ่งไปอีกทางแทนที่จะวิ่งเข้าไปดูอาการมัน
ตอนนี้รู้แค่ว่าแม่งอับอาย ทั้งคนที่อยู่รอบๆนั้น ไอ้มี่ และสำคัญที่สุดคือไอ้แซท!! ไม่รู้ว่ามันจะโกรธจะเคืองอะไรรึเปล่าที่ผมทำแบบนี้ คิดอีกทีก็ช่วยไม่ได้เสือกยื่นหน้ามารับเอง(เห็นแก่ตัวชิบหาย) ผมไม่ผิด ใช่ ผมไม่ผิด!
กูต้องหนี!! ต้องหนีไปสงบสติอารมณ์ก่อน ไม่ไหวแล้ว อายสาดดดดด!!!
ผมวิ่งอย่างรวดเร็วโดยไม่แคร์สายตาใครทั้งนั้น ทิ้งไอ้แซทกับไอ้มี่ไว้ทางด้านหลังโดยไม่หันไปมองอีก
ตั้งแต่เจอกับไอ้แซทผมก็ต้องคอยระแวง หนีหัวซุกหัวซุนทุกที ให้ตายเหอะ!
ท้ายที่สุดผมก็มาหยุดอยู่ที่โรงยิมโรงเรียน... ผมเดินเข้าไปแล้วนั่งบนสแตนด์ข้างๆแป้นบาส ไอ้ซันที่หยุดพักการซ้อมพอดีเดินเข้ามาหาผมหน้างงๆ ว่าผมมาทำอะไรที่นี่
ผมโยนผ้าขนหนูสีขาวข้างตัวให้มันก่อนถอนหายใจอย่างเวทนาชะตาชีวิตตัวเอง
“มึงมาไมวะ เห็นไอ้ไดรส์ลากมึงไปแบนด์” ไอ้ซันถามก่อนจะมานั่งแหมะลงข้างๆ ตัวมันมีเหงื่อเหนียวๆเกาะพรายจนผมต้องขยับหนี... แหวะ สกปรก
“กูหนีคนมา...”
“ห๊ะ ใครวะ” ไอ้ซันหันมาถามอย่างอยากรู้อยากเห็น ผมหันไปมองหน้ามันแบบเนือยๆ
หน้ากูบอกบุญไม่รับขนาดนี้แล้วมึงยังจะเสือก!
“น้องชายมึงแหละไอ้สาด ทำกูปวดหัวอยู่นี่”
“น้องกู... ไอ้แซทอ่ะนะ มึงไปทำไรมันอ่ะ” ดูมันคิด... แทนที่จะถามว่ามันทำอะไรผม กลับถามว่าผมไปทำอะไรน้องมัน เชี่ย เข้าข้างกันจัง กูเกลียดพี่น้องคู่นี้ที่สุดเลยโว้ย!
“กูขี้เกียจเล่า มึงไปไกลๆดิ๊ กูจะนอน” พูดจบผมก็ใช้เท้าถีบเอวไอ้ซันแล้วเหยียดตัวนอนลงกับสแตนด์ แขนข้างหนึ่งใช้เป็นหมอน อีกข้างก็ก่ายหน้าผากเหมือนหมดอาลัยในชีวิต
ไอ้ซันขำก๊ากก่อนจะเดินลงไปในสนามอีกครั้งทิ้งผมไว้ให้นอนคิดฟุ้งซ่านไปต่างๆนานา
กูจะทำไงดี เจอมันอีกครั้งไม่รอดแน่! โดนอภิสิทธิ์ประธานไล่ออกแน่! ก็ไปทำกับมันไว้ขนาดนั้นนี่หว่า
เวรกรรมอะไรของกูครับเนี่ย ไอ้อัง!
“นาย อรัณย์ สุริยหทัย ม.6/4 เชิญมาที่ห้องคณะกรรมการนักเรียนตอนนี้ด้วยค่ะ” เสียงจากลำโพงในโรงยิมทำเอาผมที่กำลังจมอยุ่กับความคิดสะดุ้ง เมื่อฟังแล้วกลายเป็นชื่อผมเอง!
ถึงเวลาเชือดกูแล้วใช่มั้ยเนี่ย? ให้เวลาทำใจหน่อยก็ไม่ได้ ไอ้แซทแม่งใจร้าย!
ผมกระเด้งตัวลุกแล้วเดินออกไปอย่างไร้วิญญาณ กูอยากตายให้รู้แล้วรู้รอดตอนนี้เลย...
ไอ้ห่า จะมาเรียกกูเองก็ไม่ได้ ป่าวประกาศลั่นซะทั่วโรงเรียน กูซึ้งมึงจริงๆ...
“ประธานมันตามตัวมึงแล้ว รีบไปดิวะ!” ไอ้ซันที่อยู่กลางสนามหัวเราะลั่นอย่างสะใจ ผมหันไปชูนิ้วกลางให้มันหนึ่งดอกข้อหากวนตีนไม่รู้เวลา แม่ง เห่าไม่รู้กาลเทศะ กูกำลังเฮิร์ทขั้นรุนแรงอยู่นะมึง
ในใจก็พาดพิงไปถึงบุคคลที่สามที่มีเรื่องต้องมาวอแวตลอดเวลา มึงจะจองล้างจองผลาญอะไรกูนักหนา!
ไอ้แซทเทอร์เด๊ย์!!!
to be continued....
---------------------------------------------------------------------------------+
กลับมาอีกครั้ง... หลังจากที่วอลนัตไปตามฝันมา (???) ไม่ใช่อะไรหรอกค่า ไปนั่งซุ่มแต่งนิยายที่จะลองส่งประกวดของ Natty อยู่ อ่า... แต่ก็ยังไม่เสร็จซักที... เขียนตอนแรกเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังไม่ปรู๊ฟอักษรหรือตรวจทานเลย... นิยายแฟนตาซีเขียนยากเหมือนกันเนอะ.... พลอตก็ร่างไว้คร่าวๆ (แค่คร่าวๆจริงๆ) ต้องเขียนเรื่องย่ออีก เพราะงั้นเลยต้องนั่งใส่รายละเอียดให้เสร็จ แต่คิดถึงมิตรนักอ่านทุกท่านเลยมานั่งเขียนตอนเช้าๆ ให้ก่อน... ขอโทษทุกคนจริงๆนะคะที่ทำให้รอ อังกับแซทมาแล้วค่า! อิอิ
หลังจากวันนี้อาจจะไม่ค่อยอัพเหมือนเดิมนะคะ เพราะขอไปตามฝันต่อ! รอไม่นานหรอกค่ะ จะพยายามทำให้เร็วที่สุด อิอิ
สำหรับวันนี้ บ๊ายบายค่ะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น