ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Love Again (รักอีกครั้ง)

    ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 4

    • อัปเดตล่าสุด 5 พ.ค. 57


     

    4

     

             

                        ความเย็นภายในห้องอาจกำลังพอดีสำหรับคนทั่วไปยกเว้นหญิงสาวที่ตอนนี้กำลังเริ่มสั่นจากพิษบาทแผลและเสื้อผ้าน้อยชิ้นพวกนี้ ทำให้คนที่นั่งข้างๆเริ่มสังเกตเห็นแต่จะให้เขาทำตัวสุภาพบุรุษกับหญิงสาวประเภทนี้ต่อหน้ากล้องวงจรปิดที่จับตามองอยู่ก็ไม่ได้เสียด้วยเสียงถอนหายใจครั้งใหญ่กับการตัดสินใจของตนเอง

    “กอดผมสิคุณวัตสัน”

    “อะอะไรนะค่ะ”

              อลันนึกอยากจะเขกหัวน้อยๆนั้นกับการหูไม่ดีในภาวะคับขัน เขาโน้มตัวเข้าไปกระซิบเสียงแหบพร่าที่ข้างหูนั้นจมูกโด่งคลอเคลียไปกับผมลอนสีน้ำตาลนั้น “ผมบอกให้คุณกอดผม เดี่ยวนี้!

              หญิงสาวใจสั่นรัวกับการกระทำเหล่านั้นเหมือนกำลังต้องมนต์ โดยไม่รู้สึกตัวร่างเล็กถูกดึงเข้าไปกอดอย่างกะทันหันใบหน้าเล็กกระแทกแนบเข้ากับแผงอกหนาจนเธอได้ยินเสียงหัวใจของเขา

              เอ็มม่าหน้าออกสีพยายามดันตัวออกมา “อาจารย์จะทำอะไรค่ะ ปล่อยนะค่ะ”

    “ไม่เรียกผมว่า คุณแล้วเหรอคุณวัตสัน”

    “ฉันไปเรียกอาจารย์ว่าคุณตอนไหนค่ะ”เธอไม่ยอมรับก็ใครให้เขาแสดงท่าทางไม่รู้จักกันมาก่อนเหล่าแถมยังเหยียดหยามเธออีก

    “นี้ถ้าเรียนอยู่ผมอยากจะหักคะแนนคุณจริงๆ”

    “ค่ะไว้ให้กลับไปเรียนได้ก่อนนะค่ะ อาจารย์จะตัดคะแนนสั่งรายงานจับฉันถ่วงน้ำก็ตามสบาย”เธอยียวนกลับ

    “จำที่พูดไว้ก็แล้วกัน แต่ตอนนี้เล่าเรื่องทั้งหมดให้ผมฟังก่อน”

     

                    ทีวีจอเล็กแสดงภาพมุมต่างๆหนึ่งในนั้นเป็นภาพชายหนุ่มกับหญิงสาวนั่งกอดกันกลมดิกคาลอสโซมองผ่านอย่างไม่สนใจเกือบสิบนาทีที่เขาเฝ้ามองก่อนจะเลือนเก้าอี้ออกบิดตัวไปมาพยักหน้าส่งหน้าที่ให้เลขาผิวดำทำงานต่อ เขาตบไหล่เลขาหนุ่มอย่างเป็นกันเอง “ดูแลให้เรียบร้อยละโรอัลด์

              โรอัลด์รับคำลับหลังชายชราดวงตายิ้มกริ่ม งานนี้รับรองมันส์พะยะค่ะ

           

            เอ็มม่ากอดเขาแน่นเหมือนประชดแขนทั้งสองข้างสอดเข้าไปใต้สูทให้ข้อมือได้รับความอบอุ่นมากที่สุดพอๆกับที่เลือดเปรอะเปื้อนไปตามเสื้อเชิ้ตนั้น อยากให้กอดมากใช่ไหม เดียวเอ็มมี่จัดให้

            อลันเริ่มรู้สึกเหมือนเสื้อชื้นเป็นจุดๆ เขาก้มหน้ามองแขนของอีกคนที่สอดเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้แสบนักนะยัยตัวร้าย

    “คุณวัตสัน คุณสังเกตไหมว่าในห้องนี้มีกล้องวงจรปิดด้วย”

    “อะไรนะค่ะ”

    “อย่าหันไปมองสิ! รู้ไหมถ้าพวกนั้นติดใจสงสัยว่าผมไม่ทำอะไรคุณเลยนอกจากนั่งกอดอย่างเดียวผมอาจจะช่วยคุณออกจากที่นี้ไม่ได้”อลันขู่ทั้งที่ในใจแอบขำกับท่าทางลุกลีลุกลนของอีกฝ่าย

    “ว่าไงนะค่ะ งั้นฉันควรทำยังไงละค่ะ”

    “จูบผมสิ”

    “ห๊าอะไรนะค่ะ”เอ็มม่าตกใจสมองเบลอคิดอะไรไม่ออกชั่วครู่สายตาวนเวียนไปตามปากหนาก่อนจะดึงสติกับมา ……..เขาทำให้เธอใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย

    “ผมบอกให้คุณจูบผม”

    “ทำไมฉันต้องจูบอาจารย์”

    “ทุกคนจะได้เชื่อสนิทใจผมจะได้เรียกตัวคุณออกจากที่นี้ได้โดยใช้ข้ออ้างว่าผมติดใจคุณไง

              เอ็มม่าหมั่นไส้คนตรงหน้าขึ้นมาตงิดปกติเงียบขรึมก็ดีอยู่แล้วอย่างน้อยก็รับมือถูก แต่มาแนวนี้บอกตรงๆปรับตัวแถมไม่ทัน ผมติดใจคุณกล้าพูดนะอาจารย์ “ตกลงค่ะบอกไว้ก่อนเลยฉันไม่ได้อยากจะอะไรกับอาจารย์หรอกนะ แต่มันคือความจำเป็นล้วนๆ”

    “หึ แน่อยู่แล้วผมก็ไม่ได้อยากจูบคุณนักหรอกยื่นหน้ามาจะได้จบไวๆ”อลันยิ้มเยาะทำเอาใจคนฟังปวดหนึบขึ้นมา

              หญิงสาวยื่นหน้าไปให้คนตรงหน้าจงใจท้าทายอย่างเห็นได้ชัดก่อนจะเริ่มหายใจติดขัดเมื่อเขาโน้มหน้าลงมา เธอแถบจะหลับตาทันทีความกล้าเมื่อกี้ไม่รู้จางหายไปตอนไหน

              ริมฝีปากหนาหยักได้รูปประกบแผ่วเบาบนริมฝีปางบางอวบอิ่ม ชายหนุ่มบดขยี้เล็กน้อยทำเธอปั่นป่วนอ้าปากจะทักท้วงแต่นั้นเป็นการเปิดโอกาสให้ลิ้นหนาชอนไชเข้าไปในโพรงปางเล็กๆนั้น เขาเอียงศีรษะไปอีกด้านหนึ่งเพื่อจะได้สัมผัสเธออย่างเต็มที่ลิ้นหนาตวัดลิ้นของอีกคนหลอกล่อนำพาไปยังโพรงปากของตัวเอง และเธอก็ติดกับ

              เสียงเปิดประตู เสียงล้อเข็นรถอาหารก็ไม่สามารถปลุกพวกเขาได้คนในห้องเริ่มทยอยหันมาสนใจกันทีละคน พนักงานหนุ่มหน้าตกกระคนเดิมปรายตามองเล็กน้อยก่อนจะหันไปส่งซิกให้อีวาน

              อีวานลุกขึ้นจากอ้อมกอดสาวอวบอั้นผมสีทองด้วยความเสียดายแต่หน้าที่ย่อมสำคัญกว่า…..และคืนนี้พวกเขาต้องไม่ผิดพลาด  

            ชายหนุ่มทั้งสามคนเริ่มลุกขึ้นตามท่ามกลางความสงสัยของสาวๆในห้องใบหน้าสวยเคลือบเครื่องสำอางเริ่มหวั่นวิตก ก่อนทีจะมีคนสติแตกไปเสียก่อนอีวานรีบเข้าไปควบคุมสถานการณ์ทันที ส่วนครอส เมเยอร์ เจ้างูหางกระดิ่งของคาลอสโซเดินไปจ้องอลันด้วยใบหน้าหงุดหงิด ……..นี้คุณเพื่อนจะเล่นละครไปถึงไหน

              อลันถอนริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่งมือหนาพยุงวางแนบที่แผ่นหลังเพราะกลัวร่างเล็กจะตกใจผงะหงายหลังไปดูเหมือนเธอจะค่อยๆรู้สึกตัวหันไปมองรอบห้องด้วยความตื่นกลัวใบหน้าขึ้นสีแดงเรื่อเมื่อเห็นคนที่ชื่อครอสมองจ้องตาไม่กระพริบ

    “เอาเป็นว่าเสร็จงานแล้วไปเปิดห้องเถอะ เล่นอะไรแปลกๆไม่เห็นจะต้องจูบกันก็แต่ก็ดีไปอย่างนะเนียนมากอลัน”ครอสกล่าวชมเชยแววตากระจ่างสดใสไม่มีแววตาเจ้าเล่ห์เหมือนอย่างที่เข้ามาตอนแรก

    “หึ เลิกสนใจฉันแล้วไปทำหน้าที่ของนายให้ดีซะก่อนเถอะ”อลันย้อนด้วยน้ำเสียงนิ่งจนดูไร้อารมณ์ ส่วนอีกฝ่ายหยักไหล่เดินจากไปแบบไม่ยี่หระ

    “เดี่ยวๆ ที่เขาพูดมาทั้งหมดอย่าบอกนะ….”เอ็มม่าสะดุดกึกในหัวเต็มไปด้วยคำว่าโดนหลอกดังสะท้อนไปมา

    “ไอ้คนฉวยโอกาส”

    “เงียบไปเลยคุณวัตสัน ตอนนี้ผมมีงานที่ต้องทำเลิกทำตัวไร้สาระแล้วก็อยู่นิ่งๆอย่าสร้างปัญหาเป็นอันขาด”อลันพูดทิ้งท้ายไม่สนใจเธออีกต่อไป ก่อนจะเดินเข้าไปช่วยพนักงานขนย้ายของลงจากรถเข็น

    ผู้หญิงทั้งหมดลงไปนั่งจับกลุ่มเป็นก้อนที่ขอบเวทีอย่างพร้อมใจ เพราะส่วนใหญ่ไม่ได้เต็มใจมาทำงานที่นี้รวมถึงส่วนน้อยที่ไม่อยากมีปัญหากับตำรวจสากล

    เอ็มม่าลากตัวเองไปนั่งข้างผู้หญิงคนหนึ่งที่กังลังยิ้มด้วยน้ำตาก่อนจะโอบไหล่เธอไว้เบาๆ “ขอบคุณนะค่ะที่ช่วยฉันในห้องแต่งตัว”

    หญิงแปลกหน้าพยักหน้าก่อนพูด “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ! คุณถือว่าเป็นตัวนำโชคของแท้เลยเข้ามาวันแรกก็เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น”

    “ไม่หรอกค่ะฉันมันตัวซวยถ้าฉันไม่เกิดมาคงไม่มีใครตาย”เอ็มม่ากระซิบกับตัวเองอย่างแผ่วเบา ฉันมันตัวซวย

     

     

            ขณะนั้นภายในห้องกำลังวุ่นวายกับการเตรียมตัวอีวานถอดเสื้อนอกออกเปลี่ยนมาเป็นเสื้อเกาะกั้นกระสุนสีดำรอบตัวเต็มไปด้วยอาวุธพอๆกับวิลเลียม

    ……….แต่ต่างกันที่อีกคนยิ้มกริ่มสนุกสนาน ส่วนอีกคนเคร่งเครียดนิ่งเงียบปากพึมพำเป็นบทสวดมนต์ 

              คาลอส คริสโตเฟอร์โยนเสื้อสูททิ้งไปอย่างไม่ใยดีเสื้อเชิ้ตเปียกจนเห็นเป็นรอยเหงื่อ ความเครียดกดดันจนเขาคว้าแซนวิสในจานขึ้นมากัดกินกวมๆอย่างมูมมาม บนตักมีเครื่องคอมพิวเตอร์ฉบับพกพากะทัดรัด มืออีกข้างที่ว่างอยู่กำลังรัวแป้นพิมพ์เพื่อตัดสัญญาณภายในบริเวณนี้ทั้งหมด และหน้าที่ที่สำคัญที่สุดคือการแฮกเข้าสู่ระบบของคาลอสโซเพื่อดึงรายชื่อผู้ซื้อขายยาออกมาให้หมด เขาเช็ดคราบอาหารที่พุงตัวเองแก้เครียด

            ครอส เมเยอร์ แสดงสีหน้าจริงจังไม่มีแววกลิ้งกลอกอีกต่อไปเขาเริ่มส่งสัญญาณรหัสลับให้กับตำรวจบริเวณรอบนอก และคนที่แฝงตัวเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ว่าในอีกห้านาทีจะมีการบุกจู่โจมจากทางด้านนอกและด้านในอย่างพร้อมเพียงกัน เขาแจกจ่ายเครื่องมือสื่อสารในรูปแบบหูฟังไร้สายให้กับทุกคนก่อนจะไปประจำตำแหน่งของตนเอง ภายในใจยังภาวนาว่าข้อมูลที่หามาได้จะไม่มีอะไรผิดพลาด….. เพราะถ้ามันไม่บรรลุเป้าหมายแผนที่วางไว้มาเกือบสองปีได้อันตรธานหายไปพร้อมกับตำแหน่งของเขาอย่างแน่นอน

              อลัน ริคแมนกอดอกมองเพื่อนเข้าทำงานด้วยความใจเย็นบรรยากาศตึงเครียดทำให้เหงื่อเม็ดเล็กเกาะพราวที่ขมับ เขากอดอกยื่นพิงที่ผนังปืนสองกระบอกในซองยึดไว้กับขอบกางเกงสแลค เสื้อกั้นกระสุนดูเบาจนกลัวว่ามันจะพุ่งทะลุตัวเขา ไม่กลัวตายแต่มันยังไม่พร้อมตราบใดที่ยัยนั้นยังไม่ปลอดภัยดี

              ชายหนุ่มพยายามสลัดความคิดที่ว่าเขาเป็นห่วงเธอ เดินอ้อมไปหยิบเสื้อของตนเองก่อนจะตรงดิ่งไปหาร่างเล็กที่นั่งกอดเข่าบริเวณมุมห้อง

              เอ็มม่ามองดูเขาคลุมเสื้อให้เธอพร้อมจะผละตัวจากไป ถ้าบังเอิญมือเล็กไม่คว้าหมับเข้าที่ข้อมือของอาจารย์หนุ่มเสียก่อน เธออ้ำอึ้งอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่คิดไม่ออกได้แต่ส่งสายตาให้เขาอย่างเป็นห่วง

    …..

    “เดี่ยวจะกลับมารับ ห้ามวุ่นวายเข้าใจไหม”

              คำสั่งราวกับเธอเป็นเด็กน้อยอายุสี่ห้าขวบ แต่ทำไมอบอุ่น

     

            วิลเลียมหันมามองอลันด้วยแววตานิ่งพร้อมกับเอ่ยออกมา “อลันอยู่ที่นี้เถอะ นายวางมือแล้วฉันไม่อยากให้นายต้องเสี่ยง” อีวาน ครอส และคาลอสต่างพยักหน้าเห็นด้วยกับสิ่งที่พูดไป

    “เรายังเป็นทีมเดียวกันอยู่หรือเปล่า?” คำถามเรียบๆจากคนปากหนักเรียกรอยยิ้มให้กับทุกคน

              อีวานกระแอมพยักหน้าให้ทีละคนเพื่อเตรียมความพร้อม และเมื่อทุกอย่างพร้อมก็เหลือแค่ ลุยอย่างเดียว

           

     

     

     

     

     

     

    สะกดจิตตัวเองเรื่องนี้ต้องน่ารัก ต้องโรแมนติก ต้องไม่มีฉากโหดร้าย

    คิดว่าสรรพนามมันแปลกๆไหมค่ะ แต่ในเรื่องเอ็มม่าอายุเกินยี่สิบกว่าแล้วจะให้เรียกว่าหนูก็ดูไม่ค่อยจะเหมาะ

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×