ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Love Again (รักอีกครั้ง)

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 3

    • อัปเดตล่าสุด 5 พ.ค. 57


    3

     

     

    ห้องรับรองลูกค้าระดับวีไอพีถูกปูด้วยพรมสีแดงเลือดหมู โซฟาขนาดใหญ่ล้อมรอบกันเป็นรูปครึ่งวงกลม โต๊ะกระจกสีใสวางยาวไปตามทางโค้งของโซฟาเว้นทางเดินเล็กๆสองข้างไว้ให้เดินเข้าออกอย่างสะดวกด้านหน้าพวกเขาเป็นเวทีขนาดเล็กมีเสาสีดำยาวจรดเพดาน ภายในห้องติดเครื่องปรับอากาศอุณหภูมิกำลังพอดี หลังจากให้ทิปพนักงานไปปึกใหญ่สักพักก็กลับมาพร้อมกับอาหารหรูหรา

              ประตูเปิดออกอีกครั้งปรากฏชายชราร่างอ้วนท้วมในชุดสูทสีขาว สวมหมวกปีกกว้างสีน้ำตาลเหมือนคาวบอยรอยยิ้มถูกฉีกกว้างอย่างเป็นมิตร แตกต่างจากแววตารี่เล็กลงข้างหลังยังมีลูกน้องติดตามอีกเป็นพรวน

    “ สวัสดีทุกท่านผมคาลอสโซเป็นเจ้าของที่นี้ยินดีที่ได้พบ”ชายชราในชุดขาวกล่าวเสียงกังวานดูมีอำนาจทำเอาแขกทั้งห้ามองหน้ากันเลิกลัก

    “อ่อ! ครับ ผมอีวาน เบตัน เจ้าของบริษัท....ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ”ชายหนุ่มสูทแดงผมสีน้ำตาลเข้มลุกขึ้นจับมือแนะนำตัวเป็นคนแรกรอยยิ้มกว้างๆบวกกับบุคลิกที่ออกแนวขี้เล่นทำให้บรรยากาศภายในห้องสดใสมากขึ้น

    “ผม ครอส เมเยอร์ ได้ยินเรื่องคุณมาตั้งนานแล้วเป็นเกรียติอย่างยิ่ง” ชายผมสีแดงอ่อนในชุดสูทหรูสีน้ำเงินขลิบทอง ร่างเล็กบอบบางดูไร้เรี่ยวแรงจมูกโค้งงอกล่าวอย่างประจบประแจงทำเอาคนฟังยิ้มกริ่มพร้อมกับถามกลับ

    “แล้วที่ได้ยินมาในทางด้านดี หรือด้านเลวละครับ คุณเมเยอร์”

              ครอส เมเยอร์ ทำหน้าซีดหัวเราะเก้อหันเหไปแนะนำคนข้างๆแทน “นี้เพื่อนผม คาลอส คริสโตเฟอร์  ทำงานทางด้านการขนส่ง” จบประโยคชายหนุ่มร่างอวบแต่ไม่ถึงกับอ้วนแผละจนน่าเกลียดใบหน้าอวบอูม เขาหัวเราะเสียงดังกังวานพร้อมกับยืนมือไปจับอย่างจริงใจ “ยินดีที่ได้รู้จักครับถ้าทางคุณสนใจที่จะส่งของอะไรก็ได้สามารถติดต่อผมได้เลยนี้นามบัตรครับ”

              คาลอสโซยิ้มกริ่มกับความนัยที่ส่งผ่านมา ส่งของอะไรก็ได้รวมถึงของผิดกฎหมายด้วยสินะมือเหี่ยวย่นรับแผ่นนามบัตรมาก่อนจะส่งต่อให้ลูกน้อง

    “ผม วิลเลียม สมิธ ครับคุณคาลอสโซ” ชายหนุ่มหน้าตาเข้มแนะนำตัวเรียบๆ บุคลิกนิ่งจนดูหยิ่งเข้ากับชุดสูทสีน้ำเงินเข้มเกือบดำ

    คาลอสโซมองคนตรงหน้าอย่างเป็นมิตร…. เขารับได้ลูกค้าทุกประเภท พวกหยิ่งผยองคิดว่าตัวเองดีเลิศเขาก็เห็นมานักต่อนักแล้ว พวกอวดร่ำอวดรวยเมื่อเสียพนันติดหนี้ในคาสิโนต่างพากันมาเลียแข้งเลียขาพอๆกับลูกหมาเว้าวอนขอความเห็นใจชายชราเจ้าของคลับหันไปมองคนสุดท้ายคนนี้สินะอาจารย์

    ชายหนุ่มในชุดเรียบดูสง่าความสูงร้อยแปดสิบกว่ากับโครงร่างใหญ่หนาใบหน้านิ่งยาวเข้ากับจมูกโด่งเป็นสัน ดวงตาทรงสามเหลี่ยมเต็มไปด้วยความเย็นชา เขานิ่งไปนานจนโดนอีวานกระทุ้งแขนใส่

    “เซเวอรัส สเนป (ชื่อปลอม)คงไม่ต้องแนะนำหรอกใช่ไหม ถึงยังไงคุณก็คงศึกษาประวัติผมมาอยู่แล้ว” เขายักไหล่ริมฝีปากบางยิ้มเหยียดอย่างรู้ทัน

    “ฮ่าๆๆ ก็กันไว้ก่อนก็ดีกว่าไม่ใช่เหรอครับคุณอาจารย์ แต่รับรองเลยนะครับเรื่องนี้ไม่มีทางรู้ถึงหูคนนอกแน่นอน”คาลอสโซกล่าวอย่างอารมณ์ดีผายมือเชิญทุกคนไปยังโซฟา

              ไฟภายในห้องถูกรี่ลงให้ดูสลัวลึกลับมากขึ้นทุกคนนั่งเอกเขนกสบายอารมณ์ คาลอสทานอาหารตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย ส่วนคนที่เหลือจับกลุ่มพูดคุยกับเจ้าของคลับเพื่อเพิ่มความสนิทสนมรวมทั้งวิลเลียมที่ตอนแรกดูหยิ่งแต่สักพักเริ่มพูดคุยมากขึ้นทำให้คาลอสโซยิ้มพึ่งใจ แตกต่างจากอาจารย์หนุ่มที่นั่งนิ่งราวกับหินผาลูกใหญ่

              ถ้าให้เปรียบ ครอส เมเยอร์ เหมือนตัวอะไรคงเป็น งูหางกระดิ่ง ปากบางพูดยกยอปอปั้นเจ้าของคลับจนแทบจะทำให้ร่างอ้วนพองโตลอยไปติดเพดาน

    คาลอสโซลูบเคราไปมาอย่างรู้ทัน ……พวกเจ้าเล่ห์ ก่อนจะหันไปสนใจอีวาน เบตัน ที่ดูท่าทางแล้วจะเป็นแกนนำของกลุ่ม

    “คุณคาลอสโซครับ ข้อเสนอที่ผมขอไปได้หรือเปล่าครับ”อีวานยิ้มถามน้ำเสียงเต็มไปด้วยเลศนัยนัยน์ตาแพรวพราว

    คาลอสโซยิ้มก่อนตอบ“ได้แน่นอนอยู่แล้วครับมีอะไรบางที่ทางเราจะจัดสรรให้ลูกค้าไม่ได้บ้างอดทนรออีกนิดนะครับ สาวๆกำลังเตรียมตัวสร้างความประทับใจอยู่ครับ”

    “จริงหรือครับ ผมชักอยากจะเห็นแล้วสิ”ครอสถูมือไปมา แววตากระหายสื่อถึงความต้องการอย่างเปี่ยมล้น

    บางคนหัวเราะร่วมบทสนทนาทำให้บรรยากาศภายในห้องคึกครื้นมากขึ้น เสียงชนแก้วดังขึ้นเป็นระยะ

              ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงสำหรับการแนะนำทำความรู้จักกับลูกค้ากลุ่มใหม่ คาลอสโซหันไปพยักหน้าส่งสัญญาณให้กับลูกน้องที่ยืนอยู่หน้าประตู รอยยิ้มระบายไปทั่วหน้าที่เหี่ยวย่น

    ประตูสีเงินแวววาวเปิดอ้าออกการเยื้องย่างของเหล่าสตรีในชุดน้อยชิ้นมีเสียงโห่เป่าปากเป็นการต้อนรับ สาวสวยหลากสไตล์ที่ถูกคัดเกรดมาเป็นอย่างดียืนเรียงแถวอวดสัดส่วนกรีดกรายด้วยท่าเย้ายวนยกเว้นคนสุดท้ายที่ยืนก้มหน้านิ่งแตกต่างจากคนอื่นนั้นสามารถดึงความสนใจชายผมบอร์นสูทดำได้

     ……..ผู้หญิงชั้นต่ำ เรดคริฟมันคงบำเรอไม่พอละสิถึงมาทำงานประเภทนี้ หึ

    หญิงสาวหน้าเรียวหวานได้รูป ปลายจมูกเชิดขึ้นเล็กน้อยทำให้ดูเป็นคนไม่ยอมใคร ปากอวบอิ่มถูกทาทับด้วยลิปสติกสีแดงเข้มร้อนแรงดวงตากลมโตกรีดด้วยอายไลเนอร์สีดำเพิ่มความโฉบเฉี่ยวคมเข้ม ผมที่เคยปล่อยฟูผ่านการจัดทรงด้วยจักรยานกลับดัดเป็นลอนสวย มาพร้อมกับเสื้อสายเดียวสีแดงเพลิงตัดกับผิวขาวเนียนอมชมพูกางเกงยีนส์สั้นแนบไปกับบั้นท้ายได้รูปอวดปลีนองเรียวเล็กปิดท้ายด้วยร้องเท้าส้นสูงเกือบสี่นิ้วเพื่อเสริมความสง่า

    ชายหนุ่มหลายคนหยุดเริ่มส่งเสียงผิวปากไล่สายตาอันสั่นระริกเต็มไปด้วยความตื่นเต้น หมาป่าออกล่าเหยื่อ แถมยังเป็นเหยื่อชั้นดีที่สมควรถูกไล่ล่า

    ครอส กับอีวานทำท่าจะลุกเข้าไปคว้าก่อนใครเพื่อนเรียกเสียงหัวเราะภายในห้องก่อนจะหยุดเคลื่อนไหวเมื่อคาลอสโซยกมือห้าม

    “ใจเย็นสิครับ ผู้หญิงทั้งหมดเกือบสิบคนพวกคุณสามารถเลือกได้หนึ่งคนส่วนคนที่เหลือจะขึ้นไปแสดงโชว์บนเวที แล้วค่ำคืนพิเศษนี้เรามีสินค้าพิเศษที่คุณอีวาน เบตันเป็นคนเสนอขึ้นมานั้นก็คือ….การประมูลสาวบริสุทธิ์ ฮ่าๆๆ”คาลอสโซพูดก่อนจะหัวเราะตบท้ายอย่างสนุกสนานเรียกเสียงเกี้ยวกราวภายในห้องได้พอสมควร

    หญิงสาวที่ต่อแถวท้ายสุดถูกหนึ่งในลูกน้องของคาลอสโซดึงต้นแขนลากเข้าไปโชว์ตัวกลางห้อง เธอกำมัดแน่นด้วยความอับอาย

              อลันยิ้มเยาะน้ำเสียงใหญ่ทรงอำนาจเอื้อนออกจากปากหนา “คุณจะรู้ได้ไงว่าผู้หญิงที่ยืนอยู่หน้าผมบริสุทธิ์จริงเท่าที่ผมมองเธอคงผ่านอะไรมาเยอะจนชักจะนับคนไม่ได้แล้วมั้ง!!

              เจ้าของคลับยิ้มอย่างน้อยคงๆนี้ก็เริ่มมีส่วนร่วมแล้วขึ้นชื่อว่าผู้ชายยังไงก็หนีไม่พ้นเรื่องกิเลสหรอกโดยเฉพาะสิ่งที่เรียกว่า ตัณหา

    เอ็มม่าตั้งแต่เดินเข้ามาในห้องได้แต่ก้มหน้าก้มตาพยายามไม่มองภาพตรงหน้า บัดนี้ใบหน้าเล็กเงยหน้าขึ้นมาสบตาเจ้าของเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของใครบางคน

    เธออ้าปากกว้างเตรียมจะร้องขอความช่วยเหลือก่อนจะหุบลงเมื่อเห็นแววตาคนๆนั้นเต็มไปด้วยแรงดูถูกเหยียดหยาม ขอบตาหญิงสาวร้อนเผ่าพร้อมกับเชิดหน้าขึ้น……ไม่มีวันที่คนอย่างฉันจะขอร้องอะไรนาย

              คาลอสโซลุกอ้อมโต๊ะก้าวไปหาสินค้าใหม่สายตาเหมือนหมูสาดส่องโลมเลียไปทั่วหมายมั่นปั้นมือคืนต่อไปหล่อนจะต้องเป็นของเขา “ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับคุณริคแมนสินค้าใหม่ก็อย่างนี้แหละครับ…..รีบจนลืมพาไปตรวจภายใน”

    เขาหยุดพูดเล็กน้อยเมื่อประโยคเมื่อกี้ได้รับเสียงโห่ฮาก่อนจะพูดต่อ “เอาเป็นว่าหนึ่งในพวกคุณจะได้เป็นคนพิสูจน์ แต่ถ้าเธอเคยผ่านมาแล้วผมรับรองจะจ่ายเงินให้คุณในราคามากกว่าราคาการประมูลสองเท่า เริ่มต้นที่หนึ่งแสนบาทครับทุกท่าน”

              ราคาประมูลไหลลื่นอย่างต่อเนื่อง ทุกคนต่างรู้ไม่มีใครต้องการสินค้าจนตัวสั่น แต่ที่ทำเพื่อแสดงถึงอำนาจของเงินตรากดข่มผู้อื่นให้ต่ำกว่าตน ยกเว้นหินผาลูกหนึ่งที่นั่งกระดกแก้วปล่อยให้น้ำสีอำพันไหลผ่านคอแก้วแล้วแก้วเหล่าอย่างไม่สนใจไยดี

    สามล้านบาท!!!

              เสียงเงียบเกิดขึ้นชั่วขณะชายหนุ่มทั้งสี่มองไปยังคนพูด ก็แน่ละสิก็ตอนนี้ค่าประมูลยังขึ้นแค่ล้านสองกว่า บางคนผิวปากบางคนยักคิ้วหลิวตาขนาดวิลเลียมที่ชอบทำหน้าตาตายด้านยังคิ้วขมวดด้วยความสงสัย

    คาลอสโซกล่าวย้ำอีกครั้ง แต่ไม่มีใครคัดค้านเพราะทุกคนต่างกำลังอึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเหนือสิ่งใดพวกเขาไม่เคยเห็นอลันยุ่งกับสาวที่ไหนนอกจากคนๆนั้น

              พนักงานเสริฟเดินเข้าไปพร้อมกับที่รูดบัตรเครดิตตามนโยบายจ่ายสดของคาลอสโซ ชายหนุ่มหยิบกระเป๋าหนังสีดำเรียบภายในเสื้อสูทออกมา บัตรสีทองถูกยื่นให้อย่างรวดเร็ว

              อลันมองสินค้าที่เขาได้มาในราคาสามล้านอย่างนิ่งเฉย ขณะความคิดในหัวเต็มไปด้วยความสับสน ……..ทำไมฉันต้องทำแบบนี้ด้วย ให้ตายเถอะ! พนักงานคนเดิมส่งบัตรคืนพร้อมกับคาลอสโซที่ส่งสายตาสั่งสินค้าของเขาให้เดินเข้าไปหาแขกซะ

              เอ็มม่าเดินตัวลีบพยายามประคองร่างไม่ให้สะดุดล้มผ่านสายตาหื่นกระหายของแต่ละคนจนไปหยุดตรงหน้าจอมเผด็จการประจำคณะ เธอทำท่าเกๆกังๆจนชายหนุ่มตรงหน้าหงุดหงิดถึงกับกระชากร่างเล็กในนั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกับเขา

    โอ๊ย!

    เอ็มม่าร้องสะดุ้งเมือถูกมือหนักๆบีบเข้าให้ที่ข้อมือมันถูกพันด้วยผ้าสีชมพูอ่อนเพื่อปกปิดแผลจากรอยเชือก เธอสัมผัสได้ถึงความชื้นภายใต้ผ้าส่วนอีกคนสบถออกจากลำคอเบาๆแต่มันดังพอสำหรับเธอ สำออย

    สิบนาทีต่อมาทุกคนได้รับสาวสวยที่ถูกใจมาขนาบข้าง ผู้หญิงบางคนส่งสายตายั่วยวนมือไม้ลูบไล้ไปตามเสื้อสูทด้วยความเชี่ยวชาญราวกับเป็นพรสวรรค์

    เอ็มม่าเบือนหน้าหนีกับการกระทำเหล่านั้น เพลงจังหวะเร้าใจดังกระหึ่มขึ้นสาวบนฟอลล์เริ่มเต้นโยกย้ายส่ายสะโพกไปมาตามจังหวะเสียงเพลงเสาอลูมีเนียมสีเงินถูกร่างอวบอั้นเลื้อยไปมาอย่างอ้อยอิ่ง ส่วนคาลอสโซพร้อมลูกน้องเดินออกไปเปิดทางให้พวกเขาสนุกเต็มที่

              อลันไม่สนใจอะไรทั้งนั้นเหลือบมองคนข้างๆที่พยายามหลบหน้าหลบตามองพื้นอย่างกับมันมีอะไรน่าสนใจนักพลางขยับร่างออกห่างคล้ายจะรังเกียจ ….. และไม่มีวันที่เขาจะยอมให้เป็นแบบนั้น “คุณจะไปไหนไม่ทราบไม่ต้องห่วงหรอกรับรองว่าผมไม่แตะต้องคุณแน่ สกปรกจะตายผู้หญิงอย่างคุณ!

              เอ็มม่าเจ็บใจกับการดูหมิ่นพอๆกับข้อมือที่กำลังถูกบีบราวกับคีมเหล็ก เธอโต้กลับเสียงสั่นพร่า “งั้นเหรอค่ะถ้าไม่อยากแตะต้องคุณก็ปล่อยฉันได้แล้วทำอย่างนี้ เขาเรียกว่าปากไม่ตรงกับใจ”

    หึ! ชายหนุ่มพ่นลมหายใจด้วยความขัดใจ ก่อนจะสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นที่ฝ่ามือ เขาก้มลงไปมองท่ามกลางแสงสลัวจนเห็นคราบน้ำสีเข้มเหนอะเหนียว…..ยัยนี้เลือดออก

    “ส่งมือมาให้ฉันเดียวนี้ คุณวัตสัน”

    “ทำไมฉันต้องทำอย่างนั้นด้วยค่ะ หรือคุณอยากจะบีบให้มันแหลกคามือ”เอ็มม่าประชดใส่อีกฝ่ายก่อนจะร้องเสียงหลงเมื่อถูกกระชากไป

    …..ไอ้ฮิตเลอร์ ไอ้จอมเผด็จการ ไอ้มนุษย์ถ้ำไร้ความปราณี เอ็มม่าก่นด่าจนลืมสังเกตมือหนาที่ค่อยๆแกะผ้าพันข้อมือด้วยความอ่อนโยน

    อลันกัดฟันกรอดเมื่อเห็นข้อมือเนียนขาวมีรอยบาดลึกเป็นแนวยาว แถมยังมีรอยเชือกกดทับจนช้ำ เขาโยนผ้าผืนเล็กเปื้อนเลือดลงพื้นอย่างไม่ใยดีล้วงเอาผ้าเช็ดหน้าสีน้ำเงินเข้มจากกระเป๋าเสื้อสูทเพื่อพันข้อมือห้ามเลือดอย่างแผ่วเบา สายตาแหล่ไปมองข้อมืออีกข้างด้วยความหนักใจ

    …..คนอย่างนี้ทำดีกับคนอื่นเป็นด้วย หญิงสาวคิดในใจแถมเผลอมองคนข้างหน้าด้วยความสงสัย

     

     

     

                                                            

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×