ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Love Again (รักอีกครั้ง)

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1

    • อัปเดตล่าสุด 28 เม.ย. 57


    1


    ทำไมหมอนั้นมันน่าหมั้นไส้ขนาดนี้คิดว่าหล่อนักหรือไง เก๊กได้เก๊กดี…..…

    จะกลั้นแกล้งกันไปถึงไหน ฉันไปทำอะไรให้นายยะ………

    ไอ้จอมเผด็จการ……

    ฮิตเลอร์กับชาติมาเกิดหรือไง……

    ……

    ……

    “คุณวัตสันถ้าคุณมีเวลามากมานั่งเหม่อมากละก็ ผมแนะนำให้ลาออกไปนั่งอมนิ้วบนโซฟานุ่มๆพร้อมกับชงโก้โก้ดื่มซะ เนื้อหาที่ผมสอนไปคงเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาภายใต้ผมฟูๆของคุณคงเต็มไปด้วยก้อนสมองไร้รอยหยัก ผมไม่แปลกใจหรอกที่คุณเป็นเพื่อนกับคุณเรดคริฟนิสัยขี้เกียจสันหลังยาวพอๆกัน”

    กรื้ดดดด!!! เอ็มม่ากรีดร้องในใจ เมื่อได้ฟังคำสมประมาทจากปากหนาๆของอาจารย์ประจำวิชาประวัติศาสตร์ศิลปะ ที่จริงเขาน่าจะเอามีดมาแทงเธอเสียให้รู้แล้วรู้รอด ดีกว่ามายืนด่าเธอต่อหน้านักศึกษาเกือบห้าสิบชีวิต ความโกรธทำเอาเธอหน้าชาพาลไปหยิกเจ้าเพื่อนตัวดีเจ้าของนามสกุล”เรดคริฟ”ที่กำลังนอนผลุบโต๊ะน้ำลายไหลยืดอย่างผาสุก

    “ตื่นเดียวนี้นะ! แดน”เอ็มม่ากัดฟันพูด ตามองตรงไปยังเป้าหมายหน้าห้อง …….ท่ากอดอกแววตาเย็นชามุมปากยิ้มเหยียด ยังเป็นท่าเดิมที่ใช้กับเธอตั้งแต่เท้าเล็กเหยียบลงบนห้องนี้

            เป็นโชคดีของเธอกับการได้รับทุนเรียนต่อปริญญาโท หลังจากจบปริญญาตรีด้วยคะแนนดีเด่น การใช้ชีวิตในรั้วมหาลัยชื่อดังกับคณะศิลปะและการออกแบบ  หลักสูตรสองปีกับค่าเทอมมหาโหดจนเธอแทบกระอักเลือดตาย  ต้องขอขอบคุณทุนการศึกษาของบริษัทยักษ์ใหญ่กับข้อแลกเปลี่ยนกับการเป็นทาส เฮ้ย! ลูกจ้างรับใช้ในสัญญาสี่ปีเต็ม อย่างน้อยถ้าจบไปคงไม่เวิ้งว้างเหมือนเพื่อนหลายๆคน เสียอยู่ข้อเดียวคือ…..อาจารย์จอมเผด็จการเขาคอยแต่ตั้งหน้าตั้งตาเกลียดขี้หน้าเธออย่างไม่ทราบสาเหตุ ถ้าเป็นไปได้อยากจะเดินเข้าไปขยุ้มปกเสื้อแล้วตะคอกถาม

    …..จะเอายังไงไอ้ขี้เก๊ก ฉันไปทำอะไรให้นายนักหนา แต่ที่ทำได้คือการก้มหน้าก้มตาพับเพียบน้อมรับชะตากรรม ก็ใครใช้ให้วิชานี้เป็นวิชาหลักกันเหล่าคิดแล้วก็อยากจะร้องไห้ให้น้ำท่วมโลก

              หยิกคงไม่พอเอ็มม่าเริ่มเปลี่ยนเป็นเขย่าแขนแรงๆ จนทำให้นายตัวดีจอมขี้เส้าชันตัวขึ้นมารับกับโลกแห่งความเป็นจริง เขาขยี้ผมยุ่งๆพร้อมกับลืมตามองไปรอบห้องจนสัมผัสรังสีอำมหิตกลุ่มใหญ่ที่แผ่ออกมาจากร่างสูงใหญ่ภายใต้ชุดสูทสีดำเข้ม

    “ตายละว้า! เอ็มมี่ทำไมเธอไม่ปลุกฉัน” แดนพูดเสียงสั่น

    “พูดอย่างกับว่านายปลุกง่ายนักละ แล้วใครใช้ให้หลับวิชานี้ยะ” เอ็มม่าปัดเสียงเขียวเมื่ออยู่ดีๆเพื่อนหนุ่มก็โยนความผิดมาให้หน้าตาเฉย

    ส่วนเจ้าของรังสีโหดมองดูทั้งคู่เถียงกันด้วยแววตาครุกกรุ่น เขาพูดเสียงเรียบ “หึ..พวกคุณทำให้ผมเสียเวลาในการสอนมามากพอแล้ว เอาเป็นว่ามันคงเป็นการดีที่จะให้พวกสมวงกลวงได้มีเวลาศึกษาเพิ่มเติม” อาจารย์หนุ่มมองไปรอบห้องเพื่อบอกเป็นนัยๆว่าทุกคนต้องร่วมกันรับผิดชอบ “ รายงานเกี่ยวกับศิลปะยุคโรมันหนึ่งเล่มส่งในวันศุกร์ก่อนเที่ยงถ้าผมตรวจเจอเล่มที่เหมือนกันเพราะลอกกันมาก็เตรียมรับเอฟผมไปได้เลย”

              หลังจากลับร่างจอมเผด็จการเสียงโห่ดังขึ้นทั่วทุกสารทิศ ตัวต้นเหตุนั่งสั่นเป็นเจ้าเข้าเมื่อได้รับคลื่นความถี่ราวกับสึนามิลูกใหญ่ที่พัดโหมปะทะชายฝั่งเสียงก่นด่าระงมไปทั่ว เพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งที่รู้จักคุ้นเคยกันดีในงานปาร์ตี้ตะปบมือกระแทกบนบ่ากว้างๆของไอ้คนก่อเหตุ ยังกับสิงโตเจ้าป่าพร้อมขย้ำเหยื่อ

    ชายหนุ่มเจ้าของชื่อ แดนเนียล เรดคริฟ หันไปมองด้านหลังช้าๆพร้อมกับใบหน้าเจียมเนื้อเจียมตัวที่เต็มไปด้วยความใสซื่อบริสุทธิ์ดังทารก ส่วนอีกคนแยกเขี้ยวกลับอย่างรู้ทัน

    ….เอ็งอย่าคิดว่าข้าจะใจอ่อน หมดคาบแกตายแน่ไอ้ตัวซวย! แดนเนียลรับ กระแสจิตจากแววตาได้โดยไร้คำพูด

     

    ชายหนุ่มผมสีดำออกน้ำตาล จมูกโด่งได้รูป เข้ากับดวงตาสีเขียวอ่อน โอดครวญกับความสะเพร่าประมาทเลินเล่อของตนเองที่เผลอปล่อยช่องทางให้อาจารย์คู่ปรับเล่นงานเข้า แถมถูกบังคับแกมขมขู่ให้จัดงานปาร์ตี้สนุกสุดเหวี่ยงสิ่งสำคัญที่สุดคือทุกอย่างต้องฟรี ย้ำว่าฟรี

    ……ให้ตายเถอะ! ถึงเขาจะมีเงินถุงเงินถังถึงขั้นระดับมหาเศรษฐี แต่มันก็ไม่ยุติธรรมเหมือนกันที่ต้องคอยส่งเครื่องบรรณาการทุกๆครั้งที่เป็นต้นเหตุให้ทั้งห้องเดือดร้อน เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยในชีวิตถ้าไม่บังเอิญเจอไอ้จอมเผด็จการอย่างอาจารย์ อลัน ริคแมน

    เอ็มม่าเหลือบมอง “แดนเนียล เรดคริฟ”ที่เธอชอบเรียกเขาว่า “แดนนี่” ทายาทสืบทอดบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการออกแบบ ไม่น่าเชื่อว่าคนหนึ่งร่ำรวยเหมือนอยู่บนฟ้าส่วนอีกคนยกจกเดินดินจะคบกันถึงขั้นเป็นเพื่อนสนิทตัวติดกันราวกับปาท่องโก๋ บ่อยครั้งสาวๆที่หวังในตัวเพื่อนหนุ่มส่งความอิจฉาริษยาผ่านทางสายตามาทำเอาเธอร้อนๆหนาวๆไปด้วย ทำให้เธอไม่ค่อยอยากไปไหนมาไหนกับเขาสักเท่าไหร่

    “นี้ทำไมคนอย่างนั้นถึงมาอาจารย์ได้วะ! ความยุติธรรมมันอยู่ตรงไหนเอะอะอะไรก็โทษแต่ฉัน” คนพูดทำท่าหัวเสียก้าวฉับๆด้วยความโมโห

    “เลิกพล่ามซะทีเถอะแดนพูดซ้ำไปซ้ำมายังกับเทปตกร่อง เอาเป็นว่าเธอก็ก้มหน้ายอมรับชะตากรรมไปเถอะเหลืออีกไม่กี่เดือนก็จะจบแล้ว อย่าทำตัวมีปัญหามากเลย แล้วอีกอย่างเลิกเดินเร็วได้ไหมฉันเดินตามไม่ทัน”

    “โธ่ยัยเตี้ย!

    “เอ้อไอ้คนสูงยาวเข่าดี” เอ็มม่าประชด…..ใครมันจะไปกล้าด่าผู้มีพระคุณสำหรับอาหารในมื้อที่จะถึงนี้ละ

    “งอนเหรอยัยตัวเล็ก” แดนเนียลส่งเสียงง้อพร้อมกับเดินช้าลงอย่างเอาใจเมื่อใกล้จะถึงร้านอาหารประจำของทั้งสอง

    “เปล่า….

    “งอนแน่เลยเอาเป็นว่าฉันจะเลี้ยงไอศกรีมรสโปรดเธออีกหนึ่งถ้วยใหญ่เลยเป็นไง”

    “แดนนี่ฉันไม่ใช่เด็กนะจะได้เอาขนมมาล่อได้!

    “อื้องั้นเหรอ งั้น แถมเค้กสักชิ้นเป็นไงคนสวย”คนง้อเพิ่มข้อเสนอต่อรองไปอีกข้อ ทำเอาคนถูกง้อดวงตาวาวเป็นประกาย จากที่เป็นเพื่อนกันมาเกือบจะสี่ปีเขารู้ว่าภายใต้หัวฟูๆ นั้นกำลังประมวลผลราวกับเครื่องคิดเลข และแน่นอนต้องเป็นฝ่ายเธอที่ได้รับผลประโยชน์สูงสุด

    “ห่อกลับเพิ่มได้หรือเปล่าแดน”เอ็มม่าทำตาโตเหมือนกับแมวตัวอ้วนสีส้ม แบบที่เห็นในภาพยนตร์ชื่อดัง

    “ได้สิ ยัยตัวเล็ก” เพื่อนชายเอ็นดูตากลมโตบ๊องแป๊ว เขาไม่มีวันชนะลูกอ้อนของเธอได้เลยหรือไง

     
     

              ร้านอาหารขึ้นชื่อบริเวณรอบมหาลัย ข้างในตกแต่งประดับประดาออกสไตล์วินเทจย้อนยุคบวกกับการออกแบบจัดวางให้มีความเป็นส่วนตัวเพื่อดึงดูดลูกค้าสาวๆ รวมไปถึงเหล่าผู้ชายที่กำลังทำคะแนนเอาใจแฟนสาวด้วยร้านอาหารน่ารักบรรยากาศโรแมนติก แต่สิ่งสำคัญที่สุดเป็นสิ่งล่อตาล่อใจสาวกของหวาน ตู้โชว์วางเรียงเค้ก และขนมหวานหลากหลายชนิดสไตล์โฮมเมด ขนมปังอบใหม่ออกจากเตาทุกเช้าครีมรสหวานละมุ่นลิ้น ทอปปิ้งหลายหลายแบบ ช็อคโกแลตรสเข้มข้นสร้างสรรค์มาจากปาติซิเย่ฝีมือดี เสียดายตรงที่ราคาสุดแสนจะแพงจนแทบจะฉีกหูยาจกประเภทเธอจนหลุดจากศีรษะ ที่จริงสำหรับคนทั่วไปมันอาจจะไม่ได้แพงขนาดนั้นแต่สำหรับคนที่ทำงานหัวเป็นเกลียว ขาเป็นน๊อตอย่างเธอมันก็เกิดอาการเสียดายเงินขึ้นมาตงิดๆ

    “ แดนนี่เพื่อนรัก ขอบคุณนายมากเลย ฉันรับรองด้วยเกรียติของนักออกแบบสาวดาวรุ่งพุ่งแรงปานผีพุ่งใต้ ถ้าฉันได้เงินเดือนเดือนแรกจะพานายไปเลี้ยงที่หรูๆ เอาแบบคุ้มค่าที่คอยดูแลปราณีเด็กตาดำๆให้กินอิ่ม กินอร่อย นายนี้มันหน้าตาดีแถมยังใจดีที่หนึ่งเลย”คนพูดยกนิ้วโป้งประกอบฉากให้สมจริงยิ่งขึ้น

    “พอๆ ยัยเอ็มมี่หยุดชมฉันได้แล้ว นี้ฉันแทบจะลอยไปติดบนเพดานแล้ว…..ที่จริงถ้าเธอจะตอบแทนฉันเปลี่ยนไปทำงานที่บริษัทฉันแทนเป็นไง”แดนเนียลถามด้วยสีหน้าลุ้นๆ

    “ไม่ได้หรอก นายก็รู้ฉันต้องทำงานให้กับทางบริษัทนั้น อีกอย่างฉันไม่อยากถูกหาว่าเป็นเด็กเส้นกวยจั๊บของว่าที่ประธานบริษัทในอนาคตฉันก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกันนะยะ”เอ็มม่าแขวะ

    “เอาอย่างนี้ตัวเล็กฉันจะไม่เกี่ยวข้องกับการรับสมัครแน่นอน คนมีความสามารถอย่างเธอใครๆก็อยากได้ตัวไปทำงานอยู่แล้ว”เพื่อนหนุ่มหว่านล้อมอย่างไม่ยอมแพ้…..คนอย่างเขาอยากได้ก็ต้องได้

              เอ็มม่ายิ้มรับ ซ้อมเงินมันวาวตักลงบนก้อนเค้กสีขาวสลับชั้นสีน้ำตาอ่อน เป็นเค้กทิรามิสุรสโปรดของเธอแถมยังเป็นเค้กขึ้นชื่อของที่นี้ “เอาเป็นว่าฉันจะลองคิดดูนะแดน” จบประโยคเธอก้มหน้าก้มตากินอย่างครุ่นคิด…….ไม่ใช่ว่าไม่รู้ว่าเพื่อนหนุ่มคนนี้คิดไปไกลกับเธอแค่ไหน แต่ถ้าเพียงเธอคิดเหมือนเขาเรื่องมันคงง่ายกว่านี้

              มหาลัยวันแรกของระดับชั้นปริญญาตรี หญิงสาวผมลอนหยิกฟูปั้นจักรยานสีน้ำตาลทรงเก่าคันโตความคลาสสิคของมันเข้ากันดีกับสไตล์การแต่งตัวของเธอ ต่างจากอีกคนรสเฟอร์รารี่รุ่นล่าสุดหลุดออกจากแคตตาล็อคหมาดๆ ทำเอาคนในหาลัยจ้องตาเป็นมันเอี้ยวคอตามจนคอแทบเคล็ด ทั้งอยากจับจองเป็นเจ้าของรถทั้งอยากนั่งเคียงข้างหนุ่มหล่อสุดเพอร์เฟค  

    …….ถ้าวันนั้นรถไม่ติด

    …….ถ้าวันนั้นเบรกจักรยานคู่ใจไม่เสีย

    คงไม่มีวันที่จักรยานสุดคลาสสิคตกยุคริอาจเด็ดดอกฟ้าลวนลามจุมพิตเข้าให้กับรถหรูสีแดงเพลิงดังโครมคราม ทำเอาเจ้าของรถหัวเสียเปิดประตูก้าวกระแทกพื้นมาอย่างยัวะจัดถลกแขนเสื้อพร้อมต่อยตีเต็มที่

    บทสรุปจักรยานเธอพังเป็นแถบ ล้อเป็นล้อ โครงเป็นโครงทอดซากอนาถราวกับเป็นโบราณวัตถุ พอๆกับเจ้าของมันที่แขนขาถลอกปอกเปิก…..ส่วนรถหรูนะเหรอไร้รอยขีดข่วนเงางามไม่มีรอยบุบสลายแม้แต่น้อย

     
     

    แดนเนียลมองยัยตัวเล็กด้วยแววตาเอ็นดู ไม่รู้ว่าตัวแค่นี้ยัดอาหารมากมายกายกองไปบรรจุไว้ที่ไหน เขาเคยนึกสงสัยว่าในกระเพาะน้อยๆภายใต้หน้าท้องแบนราบคงเต็มไปด้วยน้ำกรดที่แรงที่สุดในโลกก็เป็นได้

     เขาไม่รู้ว่าหลงรักเธอตั้งแต่เมื่อไหร่อาจจะเป็นตอนที่เธอนอนล้มแอ้งแม้งเคียงคู่เศษซากอารยะธรรมโบราณที่เธอเรียกมันว่าจักรยาน และขอย้ำอีกครั้งว่ามันคลาสสิคหายากมาก กระโปรงสไตล์ยิบซีขาดริ้วยังกับผ้าขี้ริ้วผืนโต ดวงตากลมโตสีน้ำตาลซีดเซี่ยวมองดูท้ายรถยนต์อย่างไม่ห่วงสภาพตัวเอง ก่อนจะทำสายตาน่าสงสารเหมือนลูกแมวทำเอาเขาตกอยู่ในภวังค์ความน่ารักเข้าอย่างจัง

    มารู้ตัวอีกทีร่างเล็กนั้นก็มาอยู่ในอ้อมแขนหนา เขาอุ้มเธอขึ้นรถพร้อมทยานออกตัวด้วยความเร็ว

    …………ครั้งแรกที่จุดหมายไม่ใช่เส้นชัยแต่เป็นโรงพยาบาล

    ……..นั้นทำให้เขารู้จักเธอ “เอ็มม่า วัตสัน”

     

    พนักงานสาวในชุดสีดำเรียบส่งยิ้มให้ลูกค้าประจำ พร้อมกับยืนกล่องเค้กในถุงกระดาษให้ลูกค้าสาว แต่ก็เหมือนเช่นเคยชายหนุ่มที่ยืนเล่นผมฟูๆอย่างเมามันคว้าไปถือก่อนทุกครั้ง

    “ วันนี้จะไปทำงานอีกแล้วเหรอ”แดนเนียลถามพยายามไม่ใช่น้ำเสียงไม่พอใจ

    “เอ้า..ถามแปลกๆ ก็แน่นอนสิไม่ทำแล้วจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าเช่าอพาทเมนท์ละแดน แล้วไม่ต้องเลยนะ ไม่ต้องมาตื้อฉันไปทำงานที่นายหาให้เลย

              แดนเนียลที่กำลังจะอ้าปากพูด สะดุดกึกเมื่อหญิงสาวดักคออย่างรู้ทันร่างเล็กเดินเปิดประตูออกจากร้านเมื่อพูดจบ เขารีบเดินตามแทรกตัวผ่านประตูก่อนจะงับปิด

    “เฮ้รอก่อนเอ็มมี่ ให้ฉันไปส่งเธอไหม?

              เอ็มม่าหันหลังส่ายหัวเป็นคำตอบ เร่งฝีเท้าไปตามทางฟุตบาท…….คนอย่างเธอ คำว่าเด็กเส้นไม่เคยมีในหัว

    “เฮ้แล้วขนมเค้กนี้ละ ไม่เอาแล้วหรอ?” แดนเนียลรีบตะโกนบอกเมื่อเห็นเธอเริ่มทิ้งระยะห่างไปไกล ร่างนั้นหยุดกึกเมื่อสิ้นเสียงเรียกก่อนจะทะยานตัวเข้ามาคว้าของไปอย่างรวดเร็ว

              ………..แต่ถ้าเป็นของ “ฟรี” รับรองไม่พลาด



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×