ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แจจุงพี่เลี้ยงที่ร๊ากกกกกกกก (TVXQ SUJU)

    ลำดับตอนที่ #10 : แจจุงพี่เลี้ยงที่ร๊ากกกกกกกก part 9

    • อัปเดตล่าสุด 27 ธ.ค. 50


    Part   9
     
     
    10 วันต่อมา ณ คฤหาสน์ตระกูลชอง
     
    “กลับมาแล้วครับ” มุนบินเอ่ยอย่างห่อเหี่ยว
     
    “เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” แจจุงเอ่ยถามอย่างเอ็นห่วง
     
    “ไม่เป็นไรครับ อายูชอนกลับมาหรือยังครับ” มุนบินเอ่ยถามแจ
     
    “ยังเลยครับ” แจจุงตอบอย่างเซ็ง
     
    จะไปนานเกินไปแล้วนะครับ คุณยูชอน-แจจุงคิด
     
    “งั้นขอตัวขึ้นห้องก่อนนะครับ พี่โบแจครับผมไม่รับของว่างนะครับ” มุนบินเอ่ยจบก้อเดินขึ้นบันไดไป
     
    แปลกมากๆ เป็นอะไรแน่ๆ สงสัยต้องปรึกษาคุณยูชอนซะแล้ว แจจุงคิด แล้วจึงเดินไปหยิบโทรศัพท์เพื่อโทรหายูชอน
     
    “สวัสดีครับ คุณยูชอน” แจจุงเอ่ยทักอย่างสุภาพ
     
    “ว่าไงโบแจ มีอะไรรึเปล่า” ยูชอนถามอย่างแปลกใจ เพราะตั้งแต่วันนั้นโบแจไม่เคยโทรหาเค้าเลย
     
    “คือว่า ผมรู้สึกว่าคุณหนูเศร้าๆ แปลกๆ เลยจะโทรมาขออนุญาตพามุนบินไปเที่ยวครับ” แจจุงบอกอาการของมุนบินแล้วก่อเลยขออนุญาตพาไปเที่ยวด้วยเลย
     
    “ได้สิ แล้วมุนบินเป็นอะไรมากหรือเปล่า เออช่ายให้คนขับรถขับไปให้ละกัน หรือจะให้ผมขับไปให้หล่ะ” ยูชอนเอ่ยอย่างเป็นห่วง
     
    “ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมพาคุณมุนบินไปเองได้ ไม่มีปัญหาครับ” แจจุงตอบ
     
    “งั้นก้อขอบใจนายมากนะ งั้นชั้นฝากดูแลมุนบินด้วยนะ ถ้ามีปัญหาอะไรโทรหาชั้นได้ 24 ชั่วโมงเลยนะ” ยูชอนเอ่ยก่อนจะวางโทรศัพท์ไป
     
    ยูชอนสรุปนายห่วงมุนบินหรือเปล่าเนี่ย ไปอยู่บ้านชั้นไม่ยอมกลับบ้านกลับช่อง แจจุงคิดแล้วหมั่นไสจึงโทรหาซินเพื่อถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเซียะและยูชอน
     
    “เจ๊ เป็นไงบ้าง ไม่โทรหาเค้าเลยนะ” แจจุงถามทันทีที่รู้ว่าอีกฝ่ายรับโทรศัพท์
     
    “เหนื่อยจะตายแล้ว เมื่อไรแจจะกลับมาช่วยหล่ะเนี่ย” ซินเอ่ยอย่างเหนื่อยหล้า
     
    “อ้าว ก้อให้เซียะไปช่วยสิ” แจจุงถามกลับอย่างงง เพราะเค้ารู้จากมุนบินว่าครูจุนซูลาหยุดตั้งแต่วันที่ยูชอนป่วยจนตอนนี้ยังไม่ยอมไปทำงานเลย
     
    “ก้อน้องชายเธอ เอาแต่ดูแลพระสวามีจนออกนอกหน้า แรกๆมิคมันจะไปทำงานก้อไม่ให้ไป กลับบ้านก้อไม่ยอมให้กลับ จนหายดี คราวนี้เซียะไล่เท่าไรก้อไม่ยอมกลับ ไปๆมาๆ ฮันเลยจะดูแลทุกอย่างในบริษัทแทนมิคเลย ไม่ได้เจอกันเกือบอาทิตย์แล้วเนี่ย” ซินบ่นอย่างเซ็งๆ
     
    “เอาน่า อีกไม่นาน คุณยุนโฮก้อกลับแล้ว เดี๋ยวเค้าคงเรียกน้องชายเค้ากลับบ้านเองแหละ” แจจุงเอ่ยปลอบใจซิน
     
    “เออ สาธุ ขอให้เป็นอย่างนั้นเถอะ อยู่บ้านก้อเหงาแล้วก้อเลียนจะอ้วก คนนึงก้อเอาใจสุดฤทธิ์ อีกคนก้อหยอดคำหวานสุดจะอ้วก เห็นแล้วหมั่นไส้ แต่เอาเถอะ ว่าแต่เธอเถอะเป็นไงบ้าง” ซินเล่าอย่างเซ็งๆ พร้อมกับถามแจกลับ
     
    “ก้อดีอ่ะ เรื่อยๆ ไม่เห็นมีอะไรเลย มุนบินก้อน่ารักดี” แจจุงเอ่ยเรื่อยเปื่อย
     
    “จริงหรอ ไม่แพลงฤทธิ์เลยหรอ แปลกมาก” ซินถามอย่างตกใจ
     
    “แหม ก้อมีบางแต่ไม่ร้ายแรงอะไรมากนัก แต่ตอนนี้ดีกันแล้ว พรุ่งนี้ผมกะจะพาไปเที่ยวพักผ่อนสักหน่อย   เออ เจ๊แค่นี้ก่อนนะว่างๆเดี๋ยวโทรไปหาใหม่” แจจุงเอ่ยขอตัว
     
    “ได้ๆ อย่าลืมกลับมาบ้านบ้างหล่ะ พี่คิดถึง” ซินเอ่ยขึ้น
     
    “ครับ ผมก้อคิดถึงพี่นะ ฝากบอกเซียะด้วยว่าคิดถึง แค่นี้นะครับ สวัสดีครับ” แจจุงพูดก่อนวางโทรศัพท์ไป
     
    อย่างนี้นี่เอง มิหน้าไม่ยอมกลับมาดูหลานเลย เอาเถอะชั้นจะดูแลให้ละกัน แลกกับที่ทำให้เซียะมีความสุข แจจุงคิด
     
    ตอนสายๆของวันต่อมา
     
    “มุนบินครับ ตื่นได้แล้วครับ เดี๋ยววันนี้พี่จะพาไปเที่ยวนะครับ” แจจุงเอ่ยพร้อมกับเขย่าตัวมุนบิน
     
    “จริงหรอครับ งั้นผมไปอาบน้ำก่อนนะครับ” มุนบินที่งังเงียในตอนแรก พอได้ยินว่าจะได้ไปเที่ยวก้อตื่นขึ้นในพริบตา พร้อมกับรีบลุกไปอาบน้ำ
     
    ตอนนี้มุนบินสนิทกับแจจุงมากๆ เพราะเค้ารู้สึกว่าคนๆนี้เก่งทุกเรื่อง ไม่ว่าความสวยหรือเรื่องอาหาร พี่แจก้อสู้ผู้หญิงได้สบาย หรือด้านวิชาการ พี่แจก้อสอนเค้าทำการบ้านได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นตอนนี้พี่แจไม่ใช่แค่พี่เลี้ยงสำหรับเค้า แต่เหมือนเป็นพี่ของเค้าจริงๆแล้ว
     
    ขณะที่ทั้งสองเดินออกจากบ้าน
     
    “วันนี้พี่จะพาผมไปเที่ยวที่ไหนครับ” มุนบินเอ่ยถามอย่างน่ารัก
     
    “ไปสวนสนุกดีมั้ยครับ หรือมุนบินอยากไปที่ไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า” แจจุงเอ่ยถามขึ้น
     
    “ไปสวนสนุกแหละดีแล้วครับ ผมชอบ” มุนบินเอ่ยพร้อมส่งยิ้มน่ารักๆไปให้แจจุง
     
    ณ สวนสนุกแห่งหนึ่ง
     
    “พี่โบแจ มาทางนี้ครับ” มุนบินเรียกแจจุงพร้อมกับลางไปทางม้าหมุนทันที
     
    “ครับ ใจเย็นๆก้อได้ครับ เรายังมีเวลาอีกทั้งวันครับ” แจจุงตอบพลางยิ้มให้เด็กน้อย
     
    “ไม่ได้หรอกครับ ผมอยากเล่นหลายอย่าง” มุนบินตอบกลับด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
     
    “ได้ครับ งั้นเราไปเล่นกันเลยนะครับ เด๋วไม่ทัน” แจจุงตอบพร้อมกับกระชับมือของเด็กน้อยไว้
     
    “ครับ” มุนบินหันมายิ้มให้แจจุงแก้มแทบปริ
     
     
    ขณะแจจุงขับรถกลับบ้าน
     
    “คุณหนูครับ เป็นอะไรเล่าให้พี่ฟังได้มั้ย”
     
    “ผมบอกพี่โบแจกี่ครั้งแล้ว ให้เลิกเรียกคุณหนู ให้เรียกมุนบิน ไม่งั้นจะอาละวาดจริงๆด้วย”
     
    “ครับ แล้วสรุปมุนบินอะไรครับ”
     
    “ก้อ ... ที่โรงเรียนเค้ากำลังจะจัดงานวันแม่และให้พาคุณแม่ไปด้วย แต่มุนบินไม่มีแม่ ฮือ...ฮือ
    มุนบินไม่รู้จะทำไงดี มุนบินไม่อยากโดนเพื่อนล้อว่าเป็นลูกไม่มีแม่” มุนบินพูดพลางก้มหน้าร้องไห้
     
    “ไม่เป็นไรนะครับ เอางี้มั้ยเดี๋ยวพี่ไปเป็นเพื่อนเอง ถึงมุนบินไม่มีแม่แต่ก้อมีพี่อยู่ข้างๆนะครับ ดีมั้ยครับ”แจจุงถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพลางลูบหัวเพื่อปลอบเด็กน้อยที่ยังไม่เลิกสะอื้น
     
    “ดีครับ แต่วันนั้นพี่แจเป็นแม่ให้มุนบินทั้งวันเลยได้มั้ยครับ มุนบินอยากมีแม่ในวันแม่สักครั้งนึง นะครับ”มุนบินพูดพลางส่งสายตาอ้อนไปที่แจจุง
     
    “เออ จะดีหรือครับ พี่เป็นแค่พี่เลี้ยงนะครับ” แจจุงถามอย่างเศร้าๆ ไม่ใช่ว่าเค้ารังเกียจเด็กคนนี้นะ จริงๆเค้ารักเด็กคนนี้เหมือนลูกตัวเองซะด้วยซ้ำ แต่ยังไงเค้าก้อไม่คู่ควรเป็นแม่ให้เด็กคนนี้หรอก
     
    “ไม่เป็นไรครับ ถ้าพี่โบแจลำบากใจ ผมก้อแค่อยากมีแม่อย่างคนอื่นเค้าบ้าง วันเดียวก้อยังดี เพราะแม่จากผมไปตั้งแต่ผมยังจำความไม่ได้” มุนบินพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า และ ก้มหน้าลงราวกับจะร้องไห้
     
    เมื่อแจจุงเห็นเช่นนั้นจึงยอมตกลงทันที
     
    “ก้อได้ครับ เพราะฉะนั้นอย่าทำหน้าเศร้าอีกนะครับ” แจจุงตกลงและกอดปลอบเด็กน้อย
     
    “ขอบคุณครับ” แจจุงซึ้งใจมาก เพราะนี่คือคำขอบคุณคำแรกที่เค้าได้มา
     
     
     
    ณ คฤหาสน์ตระกูลชอง
     
    “เป็นไงบ้าง วันนี้ไปเที่ยวที่ไหนมาบ้าง เล่าให้อาฟังบ้างสิ” เมื่อเห็นหลานชายหัวแก้วหัวแหวนเดินเข้ามาก้อถาม เพราะอยากรู้ว่าไปทำอะไรมา หลานชายที่ไม่ยอมพูดกับใครเลย ถึงยิ้มหล่าเดินเข้ามา
     
    “ไปสวนสนุกมาครับ สนุกมากเลย” มุนบินตอบด้วยน้ำเสียงน่ารัก แล้วก้อฉีกยิ้มส่งให้พูดเป็นอาตบท้าย
     
    “อืม แล้วไงอีก ไม่น่ามีแค่นี้นะ เพราะก่อนไปหน้าเป็นตูด แต่กลับมาหน้าบานเป็นจานเปล” ยูชอนเอ่ยล้อหลานชาย
     
    “ก้อปีนี้มุนบินจะมีแม่ในวันแม่แล้วนิคครับ” มุนบินเอ่ยพร้อมดื่มน้ำผลไม้ที่แจจุงไปเตรียมมาให้
     
    “ห๊ะ คุณแม่ที่ไหน ไปเอาใครมาเป็นแม่” ยูชอนเอ่ยถามเสียงเครียด
     
    “ผมเองครับ ขอโทษด้วยนะครับที่ถามไม่ได้ขออนุญาตคุณก่อนที่จะตกลงกับคุณหนู”แจจุงกล่าวขอโทษพร้อมโค้งให้ยูชอน
     
    “มุนบิน เรียกว่ามุนบิน พี่โบแจถ้าไม่ยอมเรียกอย่างนี้ ห้องทำงานอายูชอนเละแน่”มุนบินพูดพลางเท้าเอว
     
    “ครับ มุนบิน”แจจุงรับคำ เพราะ ยูชอนพยักหน้าอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่ข้างหลานชาย
     
    “เออ ดีแล้ว”ยูชอนเอ่ยขึ้นเมื่อมุนบินมองหน้า
     
    “ครับ”แจจุงรับคำ
     
     
    พอตกเย็นมุนบินจึงลากแจจุงไปดูรูปของแม่ที่ห้องนอนแม่
     
    “แม่มุนบินสวยมั้ยครับ” มุนบินถาม
     
    “สวยครับ สวยมากเลย” แจจุงตอบพลางจ้องมองทีรูป เค้ารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้มีเสน่ห์ดีจังเลย
     
    “ครับ คุณแม่คงเป็นนางฟ้าที่สวยมากเลย” มุนบินพลางก้มหน้าร้องไห้
     
    “ร้องไห้ทำไมครับ เด๋วตาบวมแล้วไม่หล่อนะครับ” แจจุงปลอบพร้อมกับแหย่เด็กน้องเพื่อเรียก
    รอยยิ้มจากเด็กน้อย
     
    “คุณแม่ไม่ ฮึก.....รักผม ถึง ฮึก.....จากผมไปใช่มั้ยครับ ฮือ...... เพราะผมดื้อ ฮึก....ช่ายมั้ยครับ” มุนบินพลางร้องไห้ไปด้วย
     
    “ไม่หรอก คุณแม่เค้าดูแลอยู่บนสวรรค์นะมุนบิน เพราะแม่พี่เคยบอกไว้ก่อนท่านเสียว่า ท่านตายแล้วท่านจะรอดูเราอยู่บนสวรรค์ แล้วท่านก้อจะมาเยี่ยมเรา อยู่ข้างเรา เพียงแต่เราไม่เห็นท่านเท่านั้น” แจจุงพูดปลอบพร้อมกระชับเด็กน้อยแน่
     
    แล้วแจจุงก้อเล่าเรื่องในวัยเด็กมากมายให้มุนบินฟัง เล่าไปเล่ามากลายเป็นแจจุงที่นั่งร้องไห้โดยมีมุนบินตัวน้อยคอยลูบหัว ปลอบอยู่ ทั้งสองไม่รู้ว่ามีใครบางคนมาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดและยิ้มไปกับภาพตรงหน้าเมื่อเห็นพี่เลี้ยงและหลานชายตัวเองกอดกันกลมแถมยังร้องไห้ทั้งคู่
     
     
    ในงานวันแม่
     
    วันนี้มุนบินตื่นมาปลุกแจจุงตั้งแต่เช้าและขอแจเรียกแจว่าแม่ แจอนุญาต เพราะเด็กตัวน้อยออดอ้อนเต็มที่แล้วยังทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เมื่อเค้าปฏิเสธ
     
    เมื่อมาถึงโรงเรียนมุนบินลากแจจุงไปที่ห้องแล้วเซียะก้อต้องตกใจเมื่อพี่ชายของตัวเองมาเป็นแม่ให้มุนบิน
     
    “พี่โบแจมาได้ไงอ่ะ”เซียะตะโกนออกมาอย่างตกใจ
     
    “เบาๆ สิ มุนบินยังไม่รู้ว่าเราเป็นพี่น้องกัน” แจจุงดุน้องเบา กลัวคนอื่นได้ยิน
     
    “อืม ขอโทษทีตกใจไปหน่อย” เซียะก้อเลยลดเสียงลงมาด้วย
     
    “ดูทำท่าสิ เหมือนโลมาผวาคลื่นไปได้”แจจุงแขวะน้องตัวเองเอาฟกษ์เอาชัยสักหน่อยหลังจาก
    ไม่ได้กันหลายอาทิตย์
     
    “ครูจุนซู รู้จักคุณแม่หรอครับ” มุนบินถามพลางเอียงคอหน่อย ดูน่ารักมากในสายตาของสอง
    หนุ่มหน้าสวย
     
    “คุณแม่” เซียะ ถามเสียงสูง แล้วเหล่มองหน้าพี่ชายของตน
     
    “ไม่หรอกครูเค้าคงจำคนผิดแหละครับ ไปกันเถอะ” แจจุงตอบแล้วรีบพาเด็กน้อยเข้าไปในห้อง
     
    เมื่อแจเดินเข้าไปในห้อง เค้าก้อโดนเพื่อนๆมุนบินทักโน่นทักนี่ เพราะหน้าตาที่สวยมากทำให้เด็กๆเพ้อกันไปเลยมุนบินไม่ชอบให้เพื่อนๆของตนยุ่งกับแจจุง เลยปีบขึ้นไปนั่งตักแสดงความเป็นเจ้าของทันที หลังจากนั้นไม่นานงานวันแม่ก้อเริ่มขึ้น
     
    “เมื่อวันก่อนเราให้นักเรียนทำการ์ดวันแม่กัน นักเรียนทุกคนเอาการ์ดไปให้คุณแม่ได้เลยจ๊ะ” เซียะต้องด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน
     
    “คุณแม่ครับ นี่การ์ดวันแม่ผม ผมทำให้แม่ครับ แต่ผมไม่มีรูปแม่เลยแอบถ่ายแล้วเลือกรูปที่ผมชอบมาทำครับ” มุนบินพูดจบก้อส่งการ์ดให้แจพร้อมกับเขย่าตัวขึ้นแล้วหอมแก้มแล้วส่งสายตาไปให้เด็กอีกหลายคนที่มองมายังแจจุง ทำให้แจอึ้ง ใครเป็นแฟนไอ้เด็กนี่ตายแน่ นี่ขนาดเป็นคุณแม่จำเป็นยังห่วงขนาดนี้แล้วแฟนจะห่วงขนาดไหนเนี่ย แต่เมื่อเปิดดูข้างในก้อต้องอึ้งกว่า เพราะ รูปที่เค้าเห็นคือรูปตัวเองตอนหลับ แต่เสื้อเลิกขึ้นไปถึงไหนต่อไหน ทำให้แจจุงหน้าแดงขึ้นทันที
     
    “แม่ ชอบรูปนี้มั้ยครับ” มุนบินถามพร้อมส่งสายตาหวิบหวับไปหาแจจุงหลังจากถามคำถามจบ
     
    “ชอบครับ” แจจุงจำต้องตอบไปยังงั้น ทั้งที่ตอนนี้เค้าอายจะตายอยู่แล้ว
     
    ตอนเย็นวันนั้นเอง ณ ตระกูลชอง
     
    “กลับมาแล้วครับ” เสียงที่คุ้นเคยดังมาจากประตูหน้าบ้าน แจจุงที่จัดโต๊ะอาหารอยู่จึงมองไป และคนนั้นก้อคือ เจ้านายของบ้านนั้นเอง
     
    “ทานข้าวมาหรือยังครับ ถ้ายังผมจะได้จัดสำรับเผื่อ” แจจุงถามอย่างนอบน้อม
     
    “ยังครับ ผมจะกลับมาทานข้าวฝีมือที่รักอ่ะครับ” ยุนโฮพูดพลางมั่วนิ่มไปกอดข้างหลังร่างบาง
     
    “ปล่อยเดี๋ยวนี้ เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะครับ” แจจุงสั่งเสียงแข็ง พร้อมกับแกะมือร่างสูงออก
     
    “ป๊ะป๋า กลับมาแล้ว” มุนบินร้องพร้อมกับวิ่งลงมาจากชั้นสอง
     
    “ค....ครับ” ยุนโฮหน้าซีดและรีบปล่อยมือจากเอวร่าวบางทันที
     
    “เหนื่อยมั้ยครับ เดี๋ยวเราทานข้าวพร้อมกันนะครับ” มุนบินหันไปถามยุนโฮเสียงใส
     
    “เห้อ ทานครับ” ยุนโฮถอนหายใจอย่างโล่งอก เพราะ เค้ามั่นใจว่ามุนบินไม่เห็น เพราะถ้าเห็นบ้างแตกไปแล้ว
     
    “พี่โบแจครับ ช่วยไปเอาจานข้าวมาให้ป๋าหน่อยนะครับ” มุนบินหันไปบอกแจจุง
    “ได้ครับ”แจจุงรับคำแล้วเดินออก
     
    เมื่อแจจุงเดินเข้าห้องครัวไป มุนบินหันหน้าพร้อมกับทำตาเขียวใส่พ่อตัวเองทันที
     
    “ป๋าตามมาเรามี เรื่องต้องคุยกัน” มุนบินพูดพลางเดินไปห้องทำงานของยุนโฮ
     
    ตายแน่ตู อย่างงี้ไอ้หนูเห็นชัวร์ ลูกใครวะดุชิบเลย ยุนโฮคิดพลางเดินตามลูกชายไปอย่างเศร้าๆ
     
    “ป๋าทำไรพี่โบแจ ผมเห็นนะครับ อธิบายเหตุผลมาเดี๋ยวนี้” มุนบินถามทันทีที่ยุนโฮปิดประตูห้อง
     
    “ก้อ...เออ...คือ...ป๋า” ยุนโฮอำอึ้ง
     
    “บอกมาเดี๋ยวนี้ไม่งั้นมีเรื่องแน่ๆ” มุนบินพูดอย่างโมโห
     
    “เออ ..คือ..” ยุนโฮพยายามอธิบาย แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง
     
    “ไม่ต้องอธิบายแล้วครับ เพราะตอนนี้พี่แจเค้าเป็นพี่ชายผมแล้ว ดังนั้นป๋าก้อต้องรักพี่แจเหมือนลูกเท่านั้น ห้ามคิดเกินเลย” มุนบินพูดเหมือนสั่ง
     
    “ก้อได้ครับ” ยุนโฮเอ่ยรับอย่างเสียไม่ได้ เพราะมุนบินกำลังจ้องตาถลนเพื่อเอาคำตอบ
     
    ก๊อก...ก๊อก....ก๊อก
     
    “เชิญทานข้าวได้แล้วครับ” แจจุงโผล่เพียงแค่หน้าเข้าไปเพื่อเรียกสองพ่อลูกไปกินข้าว
     
    “คร้าบ ไปเดี๋ยวนี้แหละครับ” มุนบินเอ่ยรับแล้วก้อหันไปหายุนโฮเพื่อกระซิบอะไรบางอย่าง
     
    “อย่าลืมที่ผมบอกนะครับ ไม่งั้นป๋าเละแน่ เพราะยังไงผมก้อเข้าข้างพี่แจอยู่แล้ว” มุนบินกระซิบจบก้อวิ่งออกไปหาแจจุง
     
    หลังจากที่ทั้งยุนโฮ และมุนบินกินข้าวเสร็จก้อเดินไปห้องนอนของตนเพื่ออาบน้ำ
     
    แจจุงที่เดินเข้าไปจัดเตียงและจัดชุดให้มุนบินเสร็จก้อเดินไปจัดของให้ยุนโฮต่อขณะที่แจจุงกำลังจัดที่นอนอยู่นั้น
     
    “ป๋าอยู่มั้ยครับ คืนนี้ผมขอนอนด้วยนะครับ” มุนบินเอ่ยขึ้นทันทีที่เปิดประตูเข้ามา
     
    “คุณยุนโฮอาบน้ำอยู่ครับ มุนบิน” แจจุงเอ่ยตอบกลับทันที
     
    “แม่ครับ คืนนี้ผมนอนห้องนี้นะครับไม่ต้องเป็นห่วง” มุนบินเอ่ยพร้อมกับยิ้มๆ
     
    “แหม มีความสุขจังนะครับ” แจจุงเอ่ยอย่างล้อๆ
     
    “โธ่ พี่แจก้อ วันนี้ผมมีทั้งแม่ ฟ็อดด ในวันแม่ แล้วยังมีป๋าให้นอนกอดอีก”มุนบินเอ่ยอย่างเขินๆ
     
    สักพักยุนโฮที่อาบน้ำเสร็จก้อเดินออกมา
     
    “อ้าว ว่าไงครับมีอะไรหรือเปล่าเนี่ย” ยุนโฮเอ่ยถามเมื่อเห็นทั้งโบแจและมุนบินอยู่ในห้องของเค้าพร้อมกัน
     
    “ไม่มีอะไรหรอกครับ       ป๋า คืนนี้เค้าขอนอนด้วยนะครับ” มุนบินเอ่ยอย่างน่ารัก
     
    “ทำไมจะไม่ได้หล่ะ ห๊ะ เจ้าชายน้อยของป๋า” ยุนโฮเอ่ยพลางหลั้งมุนบินเข้ามากอด
     
    “แล้วไม่ชวนพี่ชายนู๋นอนด้วยหรอคับ เดี๋ยวพี่ชายนู่ก้อน้อยใจแย่หรอก” ยนโฮเอ่ยอย่างเข้าเล่ห์
     
    “คุณแม่ครับ คืนนี้นอนด้วยกันนนะครับ” มุนบินพูดอย่างออดอ้อน เมื่อนึกได้ว่าก่อนหน้านี้เค้าขอร้องให้พี่แจนอนเป็นเพื่อนในวันแม่
     
    “ไม่เป็นไรหรอกครับ มุนบินนอนกับคุณยุนโฮหล่ะดีแล้ว พ่อลูกได้อยู่ด้วยกันไงครับ” แจจุงอธิบาย
     
    “โบแจไม่อยากกับมุนบินหรอครับ” มุนเอ่ยถามเสียงสั่น
     
    “ไม่ใช่นะครับ ทำไมมุนบินคิดยังงั้นหล่ะครับ” แจจุงเอ่ยถามอย่างตกใจ
     
    “ก้อแม่ไม่ยอมนอนกับผม เพราะรำคาญผมใช่มั้ยครับ” มุนบินเอ่ยอย่างน้อยใจ
     
    “ไม่ใช่อย่างนั้น พี่  เอออ ..แม่รักมุนบินจะตาย มุนบินออกจะน่ารักใครจะรำคาญลงละครับ มุนบินฟังแม่นะ ลูกเป็นเด็กที่น่ารักที่สุด ทุกครั้งที่หนูดื้อ หนูก้อมีเหตุผล ถ้าไม่ใช่เพราะความเจ้าชู้ของพ่อหนู ก้อเพราะหนูไม่พอใจใครสักคน เพราะฉะนั้นอย่าพูดอย่างนี้อีกนะครับ ไม่งั้นแม่จะโกรธจริงๆด้วย” แจจุงเอ่ยอธิบายอย่างยืดยาวเป็นหางว่าว แต่ก้อแอบแขวะหมีที่อยู่ข้างๆด้วยความหมั่นไส้
     
    “งั้นคืนนี้แม่นอนกับผมนะครับ” มุนบินเอ่ยอย่างมีความสุข
     
    “เออ ..... ก้อได้ครับ” แจจุงเอ่ยอย่างเสียไม่ได้
     
    “เย้ แม่น่ารักที่สุดเลย” มุนบินร้องอย่างดีใจแล้วก้อกระโกอดแม่ของเค้าทันที เมื่อยุนโฮเห็นดังนั้นก้อเนียนเข้ามากอดด้วย
     
    “ป๋าเกี่ยวไรด้วยอ่ะ มากอดแม่ผมทำไม” มุนบินเอ่ยถามาเมื่อรู้ว่าหมีทำเนียนมากอดกับเค้าด้วย
     
    “เออ .... ก้อป๋าดีใจไงครับ ที่ได้นอนกอดลูกสองคนพร้อมกัน” ยุนโฮเอ่ยเพื่อหาทางรอด เพราะสายตาจับพิรุธของมุนบินช่างน่าเสียวสันหลังมาก
     
    “แล้วไป อย่าลืมนะครับถึงผมจะเรียกพี่แจว่าแม่ แต่พี่โบแจก้อเป็นลูกของ)นะครับ ห้ามทำอะไรเกินเลยด้วย” มุนบินเอ่ยสั่งยุนโฮทันที
     
    “คร้าบบบบบ คุณลูกบังเกิดเกล้า” ยุนโฮเอ่ยตอบอย่างทะเล้น
     
    “งั้นเราไปนอนกันเถอะครับ” มุนบินพูดจบก้อพาแจจุงขึ้นเตียงนอน
     
    แจรู้สึกโล่งอกมากที่มุนบินนอนคั่นระหว่างเค้าและยุนโฮ
     
    555555 คืนนี้รอดปากหมี และมือปลาหมึกแน่นอน เพราะยังไงมุนบินก้อคงไม่ปล่อยให้ป๋าสุดรัสุดหวง ทำอะไรเค้าต่อหน้าแน่นอน แจจุงคิดแล้วก้อหลับตานอน
     
    ทำไงดี คิดสิว่ะ ไอ้ยุน ทำไงก้อได้ให้มุนบินยอม ไม่ขัดขวางเค้าอ่ะ ยุนโฮคิดแล้ว
     
    ออ นึกออกแล้ว ตอนนี้คนที่น่าจะช่วยเค้าได้มากที่สุดคือจุนซู ครูที่มุนบินสุดแสนจะเชื่อฟัง   ดังนั้นยุนโฮจึงเดินไปที่ห้องทำงานและโทรหายูชอนทันที
     
    “ว่าไง พี่ลมอะไรหอบมาเนี่ย” มิคเอ่ยกวนทันทีที่รับโทรศัพท์
     
    “เออ ขอคุยกับจุนซูหน่อยดิ อยู่ป่าว” ยุนเอ่ยถามทันที
     
    “ไม่ได้ พี่มีไรบอกผมก้อได้ เซียะไม่อยู่” มิคเอ่ยกลับทันที พร้อมกับเรียกสีหน้างงๆจากเซียะที่นั่งอยู่ข้างๆ
     
    “แล้วจะกลับมาเมื่อไร งั้นเดี๋ยวชั้นโทรมาใหม่ละกัน” ยุนโฮเอ่ยดักคอ เพราะเค้ารู้ว่ามิคต้องอยู่กับเซียะแน่นอน แต่ที่บอกว่าไม่อยู่ เพราะไม่อยากให้เค้าคุยตั้งหาก
     
    “เอาไว้พรุ่งนี้ละกันนะพี่ยุนโฮ เดี๋ยวเซียะกลับบบบบ” มิคตอบ แต่ก้อโดนเซียะแย่งโทรศัพท์ทันทีที่รู้ว่าคนที่จะคุยกับเค้าคือยุนโฮ
     
    “ว่าไงครับ พี่ยุน” เซียะเอ่ยถามด้วยเสียงที่แสนจะน่ารัก เรียกสายตาค้อนๆจากมิคได้เป็นอย่างดี
     
    “ออ พี่มีอะไรจะปรึกษาอ่ะ คือพี่ชอบพี่เลี้ยงของมุนบินคนนี้อ่ะ แต่มุนบินขัดขวาง เซียะว่าพี่จะทำไงดี” ยุนโฮถามด้วยเสียงเศร้าๆ
     
    “พี่ชอบเค้ามากเลยหรอครับ คือที่ผมถาม เพราะผมก้อได้ยินชื่อเสียงพี่มาไม่น้อยเหมือนกัน” เซียะเอ่ยถามอย่างจริงจัง
     
    “พี่ชอบเค้าจริงๆนะ เซียะ พี่ไม่เคยมีความรู้สึกอย่างนี้มานานมากแล้ว อยากเห้นหน้าตลอด อยากอยู่ด้วย อยากคุย อยากกอด วันๆมีแต่หน้าเค้าลอยไปลอยมาจนพี่ทำงานทำการไม่ได้เลย”ยุนโฮอธิบายความรู้สึกของเค้าให้เซียะฟังทันที
     
    เมื่อเซียะได้ยินเช่นนั้น เซียะจึงตัดสินใจช่วยยุนโฮทันที โดยไม่รู้ว่าพี่เลี้ยงคนใหม่ของมุนบินคือพี่ชายของตน
     
    “ได้ครับงั้นเดี่ยวผมจะช่วยพี่ แต่ผมขอเวลาคิดคืนนึงนะครับ” จุนซูเอ่ยขึ้น
     
    “ขอบคุณมากๆนะ ไว้ว่างๆเดี๋ยวพี่จะพาไปเลี้ยงข้าวละกัน” ยุนเอ่อย่างดีใจ
     
    “ไม่เป็นไรหรอกครับ งั้นแต่นี้นะครับ ราตรีสวัสดิ์ครับ” เซียะเอ่ยก่อนวางโทรศัพท์ไป
     
    “พี่ยุนเค้ามีเรื่องอะไรหรอ” มิคเอ่ยถามทันทีที่เซียะวางโทรศัพท์ลง
     
    “ไม่มีอะไรหรอก เรานอนกันดีกว่า” เซียะเอ่ยพร้อมกับลงตัวลงนอนและหลับไปโดยไม่สนใจคนที่ทำหน้าบึ้งหน้างออยู่ข้างๆ
     
     
    ตอนสายๆของวันต่อมา
     
    “มุนบินครับ โทรศัพท์ครับ จากครูจุนซู” แจจุงเรียกมุนบินพร้อมกับยื่นโทรศัพท์ให้มุนบิน
     
    “ว่าไงครับ อยู่ทำไมถึงโทรมาได้ อายูชอนเป็นอะไรหรอครับ” มุนบินถามอย่างแปลกใจ
     
    “ไม่มีอะไรหรอก พี่คิดถึงหนูเฉยๆหน่ะ จะปิดเทอมแล้ว คิดไว้ยังว่าอยากไปเที่ยวไหน” จุนซูเอ่ยถามอย่างใจดี
     
    “ผทมกะจะไปเที่ยวทะเล หรือน้ำตกกับพี่โบแจสักสองสามวันนะครับ แต่ยังไม่ได้ขออนุญาตใครเลย ยังไม่ได้บอกพี่โบแจด้วย” มุนบินเอ่ยอย่างน่ารัก
     
    “พี่โบแจเนี่ยใครอ่ะ มุนบิน ดูมุนบินรักเค้าจังเลย” เซียะเอ่ยถามอย่าแปลกใจ
     
    “พี่โบแจเป็นพี่เลี้ยงคนใหม่ครับ ทั้งสวย ทั้งทำกับข้าวเก่ง เก่งทุกอย่างเลย” มุนบินเอ่ยอย่างภูมิใจ
     
    ทำไมคุยไปคุยมามันเหมือนพี่แจจังเลย ทั้งชื่อเรียก ทั้งทำกับข้าว แต่คงไม่ใช่หรอ พี่แจจะไปเป็นพี่เลี้ยงเด็กได้ไง แต่เมื่อวันแม่พี่แจก้อมากับมุนบินนะ หรือว่า ไม่หรอกไม่น่าเป็นไปได้ เซียะคิดไปมาอย่างสับสนอยู่คนเดียว
     
     
    “ขนาดนั้นเลยหรอ แล้วอย่างนี้ได้ถ้าคุณโบแจ เค้าลาออกมุนบินคงเหงาแย่แน่เลย” เซียะพร้อมคอยสังเกตน้ำเสียงของเด็กน้อย
     
    “ไม่มีทาง พี่โบแจเค้าไม่ไปไหนหรอก พี่เค้าต้องอยู่กับผมตลอดไป” มุนบินโวยวายขึ้นทันที่
     
    “อ้าว แล้วคุณโบแจเค้าก้อต้องแต่งงาน มีชีวิตของเค้าเองเหมือนกันนะมุนบิน เค้าจะอยู่กับมุนบินตลอดได้ไง” เซียะเอ่ยขึ้น
     
    “แล้วผมจะทำไงให้พี่แจเค้าอยู่กับผมตลอดไปหล่ะครับ” มุนบินเอ่ยถามอย่างจนปัญญา
     
    “เออ พี่ก้อไม่รู้เหมือนกัน ลองเอางี้มั้ย มุนบินลองให้ป๋ามุนบินจีบคุณโบแจสิ ถ้าจีบติดมุนบินก้อได้คุณโบแจเค้าเป็นแม่เลยนะ คุณโบแจเค้าก้อจะอยู่กับมุนบินตลอดไปเลยนะ” เซียะเอ่ยอย่างเจ้าเล่ห์
     
    (โห่ คราวนี้ เซียะมาเจ้าเล่ห์ อ๊ากกกกกกกก เป็นไปไม่ได้)
     
    “ผมขอคิดดูก่อนละกันนะครับ พี่จุนซูผมทำการบ้านอยู่แค่นี้นะครับ” มุนบินเอ่ยก่อนจะวางโทรศัพท์ไป
     
    ทำไงดี เค้าไม่อยากเสียพี่โบแจไป แต่ก้อไม่อยากให้ป๋ารักคนอื่นเหมือนกัน เออ แต่ถ้าป๋าพี่โบแจแล้ว พี่โบแจรักเราก้อดีเหมือนกัน เพราะปกติป๋าก้อไม่ค่อยอยู่บ้านอยู่แล้ว แต่พี่แจสิอยู่ทุกวันเลย แต่ป๋าเจ้าชู้อ่ะ ถ้าป๋าทำพี่แจเสียใจแล้วพี่แจหนีไปเค้าจะทำไงดี ลองเค้นป๋าเลยละกัน ขี้เกียจคิดแล้ว มุนบินคิดได้ดังนั้นก้อรีบวิ่งไปห้องทำงานของยุนโฮทันที
     
    ก๊อก...ก๊อก....ก๊อก
     
    “ป๋าว่างมั้ยผมมีอะไรจะคุยด้วยหน่อย” มุนบินพูดพลางเดินไปห้องทำงานของยุนโฮ
     
    เกิดอะไรขึ้นอีก ตูทำอะไรผิดฟ่ะ ก้อยังไม่ได้ทำอะไรเลยหนิยุนโฮคิด
     
    “ป๋าคิดยังไงกับพี่โบแจ บอกผมมาเดี๋ยวนี้” มุนบินถามทันทีที่เดินมาถึงโต๊ะทำงานอขงยุนโฮ
     
     ลูกใครวะ โอ้ย ตูเป็นพ่อนะเฟ้ย ไม่ใช่นักโทษ บอกว่าไงดีอ่ะ ความจริงเราสนใจโบแจตั้งแต่ที่เห็นครั้งแรกแล้ว แต่เพิ่งมั่นใจ เพราะระหว่างที่เค้าทำงานที่ต่างประเทศนั้น เค้าคิดถึงแต่หน้าของหนุ่มคนนี้ เค้าจึงรีบทำงานทั้งหมดและมอบหมายงานให้หัวหน้าแต่ละฝ่ายดูแลและให้รายงานผลทุก 3วัน ทำให้เค้าจะเลื่อนกำหนดกลับเกาหลีได้เร็วมาก และทำให้เค้าอยู่เกาหลีได้นานขึ้นด้วย แต่พอกลับมาต้องเจออุปสรรคตัวฉกาด เอาไงดี เอาวะ บอกไปเลย ตายเป็นตายเผื่อคนสวย
     
    “ก้อ...เออ...คือ...ป๋า” ยุนโฮอำอึ้ง
     
    “บอกมาเดี๋ยวนี้ไม่งั้นมีเรื่องแน่ๆ” มุนบินพูดอย่างโมโห
     
    ป๋าเป็นไรเนี่ย ปกติถึงโกหกก้อคิดเร็วหนิ แล้วนี่เกิดอะไรขึ้น มุนบินคิดอย่างแปลกใจ
     
    “ก้อได้ครับ” ยุนโฮเอ่ยรับอย่างเสียไม่ได้ เพราะมุนบินกำลังจ้องตาถลนเพื่อเอาคำตอบ
     
    “คือป๋าชอบพี่โบแจเค้าอ่ะลูก” ยุนโฮพูดจบก้อหลับตาปี้
     
    อ๊ากกกกกกกกก บอกไปแล้ว ตายเป้นตายเพื่อคนสวย ยุนโฮคิดพร้อมกับหลับตาปี้
     
     
    TBC
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×