ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ] K-POP LOVE จังหวะรัก ... ♥

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 1

    • อัปเดตล่าสุด 15 เม.ย. 55





    Chapter 1





     





    อธิบายมาเลยนะ ฮงกี!!” ฮีชอลตบโต๊ะดังปังพร้อมกับจ้องหน้าเพื่อนรักที่เป็นถึงประธานบริษัท Y Idol ด้วยสายตาหาเรื่อง ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นประธานบริษัทมองใบหน้าสวยหวานด้วยความไม่ชอบใจนัก มือบางปัดป่ายหาเอกสารข้างโต๊ะก่อนจะหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งขึ้นมายื่นให้อีกคน

         ฮีชอลรับมาไล่อ่านข้อความ ในเอกสารโดยที่สมาชิกคนอื่นๆ นั่งอยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง ทุกคนรู้ว่าเวลาฮีชอลโกรธต้องไม่เข้าไปยุ่งหรือขัดเพราะจะทำให้เจ้าตัวยิ่งอารมณ์เสียกันไปใหญ่ ยิ่งเวลานี้ที่ฮีชอลขึ้นเสียงกับเพื่อนรักอย่างฮงกีด้วยแล้วล่ะก็ คงไม่ใช่เรื่องเล่นๆหรอก

         เข้าใจหรือยัง ฮงกีเอ่ยถามใบหน้าหวานเผยยิ้มขี้เล่นเหมือนทุกครั้ง ขณะยกมือประสานกันไว้และเท้าคางในเวลาเดียวกัน ฮีชอลเงยหน้ามองเพื่อนดวงหน้าหวานมีแววกรุ่นโกรธอย่างเห็นได้ชัด

         ฮงกีเป็นคนเดียวที่สามารถพูดคุยกับฮีชอลตอนกำลังอารมณ์เดือดได้เพราะบุคลิกขี้เล่น ปนเอาใจของอีกฝ่ายที่ทำเอาฮีชอลหลงถูกชะตาหัวปักหัวปำ แม้ในเวลาโกรธฮีชอลก็ไม่เคยที่จะลงไม้ลงมือกับฮงกีเลยสักครั้ง

         นายต้องเข้าใจนะชอล ตั้งแต่บริษัทของเราอนุมัติให้วง White sonata พักงานเป็นเวลาสามเดือน ยอดขายของบริษัทตกลงไปมาก แล้วนายก็เป็นคนบอกเองว่าอยากพัก อยากมีเวลาส่วนตัว

         ตั้งแต่สองเดือนที่แล้ววง White sonata ได้ประกาศพักงานทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นตัวเอ็มวี การถ่ายแบบ หรือแม้แต่งานสัมภาษณ์ ทางบริษัทสั่งระงับงานเหล่านั้นเพียงเพราะหนึ่งในสมาชิกวง White sonata ต้องการเวลาพักหายใจเหมือนคนธรรมดาทั่วๆไป

         ด้วยความที่หุ้นส่วนมากกว่าสี่สิบเปอร์เซ็นต์ของบริษัทเป็นของฮีชอลทั้งหมดการที่เขาต้องการอะไรๆ มันก็เป็นเรื่องที่ง่ายสำหรับคุณหนูตระกูลดังอย่าง คิม ฮีชอล แต่ไม่นึกว่าจะส่งผลต่อบริษัทมากมายขนาดนี้

         วงของนายต้องการพักงานชั่วคราว ทำให้วงอื่นๆในค่ายไม่พอใจมากและยังเรื่องที่เราไม่ยอมเปิดตัวศิลปินมาเป็นเวลาสิบเอ็ดปีแล้ว...

         แล้วมันเกี่ยวอะไรกันล่ะ ยอดขายลดลง เงินหมุนในบริษัทก็ลดลง การที่เดบิวต์วงใหม่พวกเราพอจะเข้าใจแต่เรื่องชื่อวงที่คล้ายกับชื่อวงของพวกเราซะขนาดนั้น.. ลีทึกเอ่ยขึ้นมาบ้างร่างบางนั่งกอดอกตรงมุมสุดของห้อง

         ปกติแล้วลีทึกจะเป็นคนสุภาพแต่ฮงกีอายุห่างกับเขาถึงสองปีและด้วยความที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่ยังไม่เดบิวต์เป็นWhite Sonata ทำให้ลีทึกค่อนข้างพูดเป็นกันเอง

         เดบิวต์วงใหม่ภายใต้ชื่อ Black sonata มันจะทำให้เรทติ้งพุ่งสูงขึ้นไงจะได้มีคนติดตามและBlack sonata ก็จะได้ดังเพียงชั่วข้ามคืน กำไรก็จะเข้าบริษัทมากมาย ทางเมมเบอร์วงนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไรเกี่ยวกับชื่อวงอยู่แล้ว ฮงกีอธิบายแบบสบายๆ พร้อมกับหยิบแก้วชาที่แทบเหลือไม่ถึงครึ่งแก้วเพราะเป็นผลจากร่างบางเจ้าของความโหดทุบโต๊ะเสียงจนชากระฉอกขึ้นมาจิบอย่างไม่รู้ร้อน

         หวังให้ไอ้วงใหม่นั่นเกาะวงฉันดังน่ะสิ ฮีชอลกดเสียงต่ำมองหน้าเพื่อนรักอย่างไม่พอใจนัก ฮงกีได้แต่ยิ้มทะเล้นแล้วพยักหน้าเร็วๆ กิริยานั้นทำเอาฮีชอลแทบจะกระโดดถีบให้รู้แล้วรู้รอด

         น่านะ ก็แค่ชื่อวงเอง อีกอย่างBlack sonata ความสามารถก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกนายหรอก พวกนายก็พักงานกันอยู่แล้วนี่ให้รุ่นน้องทำงานแทนก็ได้ เรียกรุ่นน้องไม่ได้ด้วยสิ อายุของพวกเขาก็ราวๆพวกนายแหละนะ ฮงกีอธิบายเสียงฉะฉานทำเอาฮีชอลยิ่งหมั่นไส้เข้าไปใหญ่ ร่างบางคว้าแก้วชามาจากมืออีกคนก่อนจะขว้างมันลงพื้น เตะเก้าอี้แถวนั้นล้มไปเพื่อระบายอารมณ์

     

    คิม ฮีชอล ไม่เคยทำร้ายร่างกายอี ฮงกี แต่ทรัพย์สมบัติของ อี ฮงกี ไม่มีการยกเว้น...

     

         อันนั้นไม่ได้นะชอล นั่นคอเลกชั่นที่ฉันพึ่งสั่งซื้อมาล่าสุดเลยนะ!” เจ้าตัวหน้าซีดเผือดเมื่อร่างบางทำท่าจะคว้าตุ๊กตาบลายด์ที่หัวมุมโต๊ะ ฮงกีรีบคว้ามันมากอดไว้แนบอกมองอีกคนอย่างหวาดๆ

         ยุบวงบ้านั่นซะสิ ไม่งั้นฉันจะสั่งยุบบริษัท!”

         ไม่ได้หรอกนายมีหุ้นไม่ถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์อีกอย่างจะไปยุบวงที่เพิ่งเดบิวต์ได้ไงเล่าฮงกีทำหน้าบูดแขนเรียวไม่ยอมคลายออกจากตุ๊กตาบลายด์ใส่ชุดสีส้มแปร๊ดที่มองยังไงก็ไม่เห็นความน่ารักของมัน อีกทั้งยังมองเพื่อนรักอย่างขอความเห็นใจ น๊า ~ แล้วฉันจะเพิ่มค่าขนมให้เลยเอ้า

         ค่าขนมบ้าอะไร พวกฉันมีเงินมากพอแล้วไม่อยากได้เพิ่ม!”

         เค้าจะฟ๊องป๊าฮงกีทำหน้าทะเล้นพูดถึงบุพการีของอีกคนที่ดูเหมือนจะรักและเอ็นดูเขามากกว่าลูกในไส้อย่างฮีชอลเสียอีก เวลาเขาไปบ้านฮีชอลทีไรเป็นต้องชมนู่นชมนี่ส่วนฮีชอลตกกระป๋องไปไม่เป็นท่า

         ไม่ต้องเอาพ่อฉันมาอ้างเลย

         นะๆ ชอลลี่น้า ~” สรรพนามที่ใช้เรียกกันสองคนถูกขุดขึ้นมาเพื่อขอความเห็นใจจากอีกฝ่าย ท่าทีอ้อนๆ นั่นทำให้ฮีชอลแพ้ทางมานักต่อนัก ใบหน้าหวานเมินหนีอย่างระงับความใจอ่อนจนสมาชิกคนอื่นๆทีนั่งประเมินสถานการณ์เริ่มถอนหายใจ

         ฉันว่าบริษัทเรามีวงเพิ่มขึ้นมาก็ดีนะ พวกเราจะได้ไม่ต้องทำงานหนักมาก ซองมินพูดขึ้นขณะนั่งกดส่งข้อความให้หญิงสาวรายล่าสุดที่เขาตัดสินใจคั่วด้วย ลีทึกพยักหน้าเห็นด้วยตามด้วยดงเฮที่ไม่อยากค้านอะไร เหลือแต่อีกคนที่ทำหน้าบูดบึ้งไม่มองหน้าคนเป็นประธานเลยแม้แต่น้อย

         งั้นเอางี้ ผับใหม่ที่พ่อฉันเพิ่งสั่งเปิดแถวคังนัมกำลังเป็นที่นิยม ฉันให้ส่วนลดทุกอย่างในผับเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ ฮงกีเริ่มยกข้อเสนอขึ้นมาอ้างซึ่งฮีชอลก็สนใจไม่น้อย ร่างบางเริ่มคิดไม่ตกหันไปมองสมาชิกที่เหลือ ลีทึกพยักเพยิดให้ยอมๆ ไป การที่ฮีชอลต่อล้อต่อเถียงกับฮงกีคนที่ชนะก็เป็นคนตัวเล็กเจ้าของตำแหน่งประธานบริษัทอยู่ดี

         ชิ ก็ได้ แต่ต้องให้สมาชิกไปด้วยทั้งหมด

         ทั้งหกคนเลยน่ะหรอ

         ใช่ พวกฉันก็อยากเที่ยวบ้างสิ อีกไม่กี่วันก็จะกลับมาทำงานแล้ว ฮีชอลเอ่ยเสียงจริงจัง ซึ่งก็เป็นที่น่าเหนื่อยใจเมื่อนึกถึงการกลับมาทำงานในวงการบันเทิง เหล่าสมาชิกต่างหัวปั่นกับงานจนไม่ค่อยมีเวลาทำกิจกรรมส่วนตัว เมื่อถึงคราวพักก็ต้องสนุกให้เต็มที่

         White sonata เป็นวงเคป๊อปเกาหลีที่กำลังมาแรงที่สุดในปัจจุบันนี้ประกอบด้วยสมาชิกหกคน ซึ่งแต่ละคนก็มีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป ทั้งบุคลิก ท่าทาง รวมไปถึงนิสัยส่วนตัว แต่เมื่อทั้งหกได้ก้าวขึ้นสู่เวทีกลับทำงานร่วมกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งการร้อง การเต้น การผสมผสานทุกส่วนล้วนลงตัวเรียกมาซึ่งความสนใจจากประชาชนทั่วเอเชีย

         White sonata ประสบความสำเร็จอย่างงดงามทุกอัลบั้มที่โปรโมตออกมาและด้วยความที่สมาชิกไม่เคยรักษาภาพพจน์มากนัก อยากทำอะไรก็ทำ ตามใจตัวเองเป็นที่สุด จึงครองใจแฟนๆในเรื่องความจริงใจอย่างง่ายดาย

         สิ่งที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่ง การที่นักเต้นหลักของวงใส่หน้ากากปิดบังตัวตนมาตลอดตั้งแต่เดบิวต์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดึงดูดแฟนๆ มากขึ้น โค้ดเนมคืออันริวสตาร์ ไม่เคยมีใครได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขา แม้แต่เสียง... ภายใต้หน้ากากนั้นถูกผลิตขึ้นมาอย่างดีโดยมีอุปกรณ์กรองเสียงทำให้เสียงดูเล็กแหลมพร้อมกับอุปกรณ์ชุดคลุมทั้งตัว ทำให้ไม่สามารถมองเห็นเรือนร่างเลยก็ว่าได้

         ด้วยเหตุนี้ White sonata จึงเป็นวงที่ชาวเอเชียรู้จักเป็นอย่างดี บางครั้งสมาชิกมีหงุดหงิดบ้าง เมื่อจะไปไหน ทำอะไร ก็ไม่มีเวลาส่วนตัวเป็นของตัวเอง แต่เหล่าสมาชิกต่างเข้าใจดีถึงข้อนี้ การเป็นไอดอลไม่ใช่สิ่งที่ง่ายเลย

         แต่เมื่ออยากพักงาน เพียงแค่ให้ฮีชอลเป็นคนเอ่ยบอกเหล่าสมาชิกจึงได้พักสมใจ เพื่อนรักอย่างฮงกีที่เห็นใจฮีชอลอยู่แล้วจึงยอมเซ็นสัญญาพักงานสามเดือนให้ แต่ยอดขายของบริษัทลดลงอย่างรวดเร็วประกอบกับคำเรียกร้องวงเดบิวต์ใหม่ทำให้บริษัทถือโอกาสนี้ใช้ชื่อ Black sonata เพื่อกระตุ้นยอดขายและผลิตวงเคป๊อปหน้าใหม่เปี่ยมความสามารถ

     

         ฉันให้ส่วนลดพวกนายหกคน แต่เฉพาะวันนี้เท่านั้นเดี๋ยวผับพ่อฉันจะเจ๊ง ฮงกีว่าติดตลกขณะที่ฮีชอลเผยยิ้มกว้างหยิบใบส่วนลดที่ฮงกีเพิ่งเซ็นเสร็จยัดใส่กระเป๋าเสื้อ ดงเฮเริ่มสะกิดซองมินเมื่อเห็นว่าอีกคนมัวแต่วุ่นอยู่กับการกดส่งข้อความไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ร่างอวบเงยหน้ามองนิดหนึ่งก่อนจะก้มลงไปกดส่งข้อความต่อ ดงเฮส่ายหน้าระอา

         หมดเรื่องแล้วใช่ไหม ฉันจะได้แนะนำ Black sonata ได้สักที ฮงกีเอ่ยยิ้มๆ ขณะยกโทรศัพท์ต่อสายไปยังเลขา

         ให้พวกเขาเข้ามาได้แล้ว

         เสียงประตูไม้สักเปิดออกแผ่วเบาพร้อมกับร่างสูงหกคนเดินเข้ามา ฮงกียิ้มให้และผายมือให้นั่งอีกมุมหนึ่งของห้อง ฮีชอลขมวดคิ้วก้มลงกระซิบแผ่วเบากับเพื่อนรัก

         อะไรเนี่ย

         ฉันจะแนะนำ Black sonata ให้รู้จัก ต่อไปพวกนายอาจจะได้ร่วมงานกันร่างบางถลึงตาให้อีกคนทันทีที่พูดจบ จะบ้าหรอ! ให้ทำงานกับพวกนี้เนี่ยนะ คิม ฮีชอล อยากจะบ้า แค่มองหน้าแต่ละคนก็ไม่ถูกชะตาแล้ว ตาหวานกวาดมองร่างสูงทีละคน ส่งสายตามองอย่างเหยียดๆ ไปให้ ไม่มีใครสบตากับฮีชอลเลยสักคนเพราะรู้สึกได้ถึงรังสีอัมหิตเริ่มปกคลุมทั่วห้องแต่มีคนหนึ่งที่มองเข้าไม่ละสายตา

         มองอะไร!”ร่างบางตวาดขึ้นทันที ความไม่ชอบหน้าแล่นเข้ามาก่อนสิ่งอื่นเมื่อสบเข้ากับนัยน์ตาคมไม่แสดงถึงอารมณ์ใดๆ แม้จะมองเขาอยู่ก็ตาม

         ฮีชอลไม่เอาน่า นั่งลงเถอะอีทึกปรามเบาๆ อีกคนจึงได้แต่ฮึดฮัดและเดินไปนั่งข้างพี่ใหญ่ ฮงกียิ้มแห้งและเริ่มแนะนำBlack sonata ทีละคน

         ลีดเดอร์วง Black sonata ชื่อคังอิน หวังว่าคงจะเข้ากันได้ดีกับพี่ลีทึกนะ ลีทึกพยักหน้าและส่งยิ้มให้คังอิน ซึ่งร่างสูงยิ้มและยืนขึ้นก้มหัวเล็กน้อยก่อนจะนั่งลงตามเดิม โดยสายตายังไม่ละไปจากลีดเดอร์ของอีกวง

         ส่วนนั่นฮันเกิงพ่อของเขาเป็นเพื่อนพ่อฉันแล้วก็เป็นเพื่อนพ่อนายด้วยนะชอล ประโยคท้ายหันไปหาอีกคนที่นั่งทำหน้าบูดบึ้งบอกบุญไม่รับอยู่ หน้าหวานเหล่มองนิดหนึ่งเมื่อเห็นว่าเป็นคนที่มองเขาแต่แรก ปากบางเตรียมพ่นคำด่าแต่อีทึกเอามืออุดปากไว้ทัน ก่อนจะหันไปส่งยิ้มให้แทน

         ฮันเกิงพยักหน้ารับพอเป็นพิธีและไล่สายตามองฮีชอลที่เริ่มดิ้นหายใจไม่ออกเพราะลีทึกปิดจมูกไปด้วย ใบหน้าเรียบเฉยแต่ภายในใจกลับแอบยิ้มเมื่อเห็นกิริยาน่ารักคล้ายพยศตลอดเวลา แต่ฟอร์มเก๊กจัดตีหน้าเรียบเฉย

         ส่วนนั่นเยซอง ชีวอน คิบอม และคยูฮยอนฮงกีร่ายยาวขณะแกะซองลูกอมและส่งมันเข้าปาก ดงเฮไล่สายตามอง Black sonata ทีละคน ร่างบางยอมรับเลยว่ามีแต่คนหน้าตาดีดูมีชาติตระกูลทั้งนั้น แทบจะไม่เชื่อเลยด้วยซ้ำว่าเป็นวงเดบิวต์ใหม่เพราะไม่มีท่าทีเงอะงะเหมือนพวกเขาสมัยเดบิวต์แรกๆ มารยาทก็ดูดีและไม่ค่อยตื่นเต้นอะไรมากมายทั้งๆ ที่เจอวงดังระดับเอเชียอย่างพวกเขายังไม่มีท่าว่าจะรู้สึกอะไรเลยด้วยซ้ำ

         ขอโทษนะครับแล้วสมาชิกWhite sonata อีกสองคนล่ะ ร่างสูงคนหนึ่งเอ่ยขึ้นเรียวคิ้วหนาขมวดขึ้นอย่างแสดงความสงสัย ฮีชอลเหลือบตามองนิดหน่อยพร้อมยกยิ้มร้าย

         ชเว ชีวอนสินะ ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของนาย ไม่ต้องมาทำเป็นตีสนิทวงฉัน

         ฮีชอลไม่เอาน่า อีทึกฉุดแขนพลางเอ่ยปราม ร่างบางมุ่ยหน้าไม่ชอบใจก่อนจะสะบัดหน้าไปอีกทาง ลีดเดอร์หน้าสวยถอนหายใจ ดงเฮเองก็เริ่มคิดว่าบรรยากาศไม่ดีสักเท่าไหร่คิดจะลากลับเลยแต่พอหันไปเห็นเพื่อนอีกคนก็เริ่มปวดหัวขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ เมื่อร่างอวบของใครอีกคนกลับมานั่งจิ้มโทรศัพท์ส่งข้อความไม่สนใจโลกภายนอก

        ซองมิน

         “…”

        ซองมิน

         “…”

         ซองมิน!!”

         จะตะโกนทำไมเนี่ย ร่างอวบเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์คู่ใจก่อนจะเบ้หน้าให้ดงเฮ มือบางข้างหนึ่งยกขึ้นปิดหู

         หัดมองอะไรรอบข้างบ้างสิ วันๆเอาแต่จีบหญิงอยู่นั่นแหละ

         นี่แหละเสน่ห์ของผู้ชายล่ะดงเฮ นายรู้ไหมผู้หญิงน่ะนะชอบผู้ชายขี้เอาใจ อ้อ! ต้องหล่อด้วยเหมือนฉันไง ซองมินยิ้มระรื่นใบหน้าหวานแสดงสีหน้ามีความสุขเต็มที่ ดงเฮกลอกตาพลางยกมือกุมศีรษะและบ่ายหน้าไปอีกทาง ซองมินหัวเราะคิกคักและก้มลงไปสนใจกับโทรศัพท์ต่อโดยไม่ทันเห็นสายตาเจ้าเล่ห์ของใครบางคน...

     

     

     

         ฉันไม่ชอบวงบ้านั่นเลย ให้ตายสิ คนตัวบางเริ่มบ่นอีกครั้ง หลังจากที่ White sonata ออกมาจากบริษัททุกคนตกลงที่จะไปรับฮยอกแจและเรียวอุคที่โรงเรียน

         การมารับฮยอกแจเป็นเรื่องยากเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว ยิ่งเจ้าตัวไม่เปิดเผยสถานะให้ใครรู้พาให้สมาชิกแต่ละคนเหนื่อยใจกับการไล่ตามของกลุ่มแฟนคลับที่อยากรู้ตัวจริงของอันริวสตาร์

         ถึงแม้จะประกาศพักงานแฟนคลับบางส่วนก็ยังตามติดและอาจจะมากกว่าเดิมเมื่อไม่มีการ์ดคอยควบคุม ในช่วงหยุดสามเดือนเวลาออกไปไหนทุกคนจึงต้องปลอมตัวหรือหาอะไรปิดบังใบหน้าเพื่อป้องกันว่าแฟนคลับจะจำได้

         ช่างเถอะน่า พี่ฮีชอล พี่บ่นมาตั้งแต่ออกมาจากบริษัทแล้วนะ ดงเฮเอ่ยขึ้นมือบางกระจับผ้าพันคอให้แน่นหนามากขึ้น พวกเขานั่งอยู่ในสวนของมหาลัยและดูจะเป็นจุดสนใจมากไปหน่อยเมื่อแต่งตัวซะมิดชิดเกินขอบเขต

         มันเลียนแบบวงเราชัดๆ เจ้าหมูฮงนั่นก็ด้วย ใครบอกให้มันตั้งชื่อวงแบบนั้นขึ้นมาพาลไปถึงใครอีกคนที่เป็นถึงประธานบริษัทควบตำแหน่งเพื่อนรักคิม ฮีชอล ร่างบางมุ่ยหน้าเมื่อนึกถึงเพื่อนจอมแสบที่วันๆเอาแต่ดี๊ด๊าไร้สาระ ไม่รู้ว่าคณะกรรมการบริษัทคิดยังไงถึงได้ให้ฮงกีขึ้นเป็นประธาน

         ฮงกีเขาก็มีคุณสมบัติที่จะเป็นประธานนี่นา ผมก็เห็นด้วยนะที่เขาขึ้นเป็นประธาน ดงเฮเอ่ยพร้อมยิ้มหวานแต่ก็ต้องหุบยิ้มเมื่อเจอสายตาเคลือบยาพิษจากฮีชอล ดงเฮยกมือขึ้นข้างหนึ่งแสดงว่ายอมแพ้ ฮีชอลพยักหน้ายิ้มพอใจก่อนจะหันไปมองรอบๆ สวนของมหาลัย

         อากาศดีเหมือนกันว่าแต่เมื่อไหร่เจ้าบ้านั่นจะสอบเสร็จเนี่ย

     

     

     

         ร่างเล็กก้าวออกจากห้องสอบด้วยใบหน้าเรียบนิ่งต่างจากคนอื่นๆ ที่ร้องโอดโอยแทบเป็นแทบตายกับการทำข้อสอบ มือเล็กหยิบกระเป๋าใบเล็กสีดำและเอกสารอีกสองสามแผ่นขึ้นถือก่อนจะเดินออกจากตัวอาคารโดยไม่สนใจสายตาอิจฉาของใครหลายคนที่ส่งให้นักเรียนดีเด่นเกียรติยมอันดับหนึ่งของคณะ

         หลังจากเดินมาได้พักหนึ่งเจ้าตัวจึงกดเปิดโทรศัพท์ เสียงข้อความเตือนทำให้ต้องเปิดอ่านเมื่อชื่อที่ปรากฎเป็นชื่อของพี่รองของวง

     

         ฉันกับดงเฮรอนายอยู่ที่สวนของมหาลัย สอบเสร็จแล้วมาด้วยล่ะ

     

          ฮยอกแจหันหลังให้กับประตูมหาลัยเพื่อมุ่งตรงไปที่สวนจังหวะที่หันกลับชนเข้ากับใครอีกคนที่ดูเร่งรีบเช่นนกัน ร่างบางทรุดลงก้นจ้ำเบ้าแต่อีกคนกลับแค่ถอยไปสองสามก้าวเพราะขนาดตัวที่แตกต่างกัน

         ขอโทษครับ ร่างนั้นก้มลงช่วยเก็บกระเป๋าและเอกสารที่กระจัดกระจายก่อนจะชะงักเมื่อเห็นสมุดลาย White sonata

         คุณเป็นแฟนคลับวงนี้หรอ ร่างนั้นเอ่ยถามเป็นมิตร ฮยอกแจพยักหน้าก่อนจะดึงสมุดออกจากมืออีกคน รับเอากระเป๋าและเอกสารไว้กล่าวขอบคุณและเดินหนีไปทันที ปล่อยให้อีกคนยืนมองตามแผ่นหลังบางแล้วลอบยิ้ม

         ชีวอนมองตามฮยอกแจที่เดินไปไกลแล้ว หลังจากที่เขาออกมาจากบริษัทก็รีบมามหาลัยทันทีเพราะลืมรายงานทิ้งไว้ ร่างสูงกระตุกยิ้มนิดๆ แต่ไม่นึกว่าจะเจอของถูกใจ ใบหน้าขาวของใครอีกคนที่เรียบนิ่งไร้อารมณ์กลับมาวนในสมอง น่าสนใจไม่น้อย

         ปกติถ้าเป็นคนอื่นเห็นเขาแล้วจะต้องขอลายเซ็นไม่ก็เข้ามาประจบเพราะเขาเริ่มเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปแต่ร่างเล็กคนนั้นไม่ใช่และไม่สนใจเขาเลยสักนิด

         เฮ้ย ชีวอน เหม่ออะไรวะ คิบอมตะโกนจากหน้าประตูมหาลัยทำให้ชีวอนหลุดจากความคิดส่ายศีรษะเล็กน้อยก่อนจะเดินไปหาคิบอม

     


     ____________________________________________________

    Talk : ตอนแรกไอบอกว่าจะเอามาลงให้วันที่ 8
    ซึ่งเลยมา3วันแล้ว วันนี้วันที่ 11 ชิมิ ไรเตอร์ต้อง
    ขอโทษรีดเดอร์ที่ผิดสัญญาอันเนื่องมาจากไรเตอร์
    ติดภารกิจไปเรียนที่เมืองกรุงมาเพิ่งกลับมานี่เอง ยังไงก็เอามาลง
    ให้แล้วนะจ๊ะ ขอให้มีความสุขกับการอ่านนะ

    ช่วงเดือนเมษานี้ไอจะอัพช้าหน่อยนะคะเพราะต้องไปต่างจังหวัดบ่อย
    ขอบคุณที่ติดตามจ้า :)

    ....ELFsiMplE

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×