คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : นิรันดร์ Part1
ในส่วนของเรื่องนี้เป็นเรื่องสั้น 2 ตอนจบนะคะ ไว้หลังสอบเสร็จจะมาต่อพาร์ท 2 ให้ ชอบไม่ชอบยังไงก็เม้นท์บอกกันได้นะ
ขอให้มีความสุขกับการอ่านฟิคค่ะ
นิรันดร์ Part1
ภายในห้องนั่งเล่นบนคอนโดแห่งหนึ่งยามค่ำคืน มีชายหนุ่มร่างเล็กบางกำลังนั่งอยู่บนโซฟาตัวกว้างเพียงลำพัง ดวงตากลมโตจับจ้องไปยังหน้าจอทีวีที่เปิดค้างไว้ มือเรียวกดพลิกเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆอย่างไม่ใส่ใจ เมื่อเห็นว่าไม่มีรายการไรน่าดู ก่อนจะร่างเอนหลังลงกับเบาะนิ่มพร้อมกับเบนสายตาออกไปมองทิวทัศน์ภายนอกหน้าต่าง
แสงไฟหลากสีที่ส่องสว่างท่ามกลางความมืดมิดในยามค่ำคืน บ่งบอกถึงการเริ่มต้นของชีวิตกลางคืนที่ใครหลายคนต่างพากันหลงใหล ท่ามกลางผู้คนมากมายที่กำลังหลงระเริงอยู่กับการกินดื่มท่ามกลางแสงสีที่สวยงาม ใช้ชีวิตอย่างรื่นเริงราวกับผีเสื้อราตรี เหมือนกับนัท คนรักของซิน ที่ตอนนี้คงกำลังไปสนุกสนานอยู่ที่ไหนสักแห่ง ทิ้งให้ซินนั่งรอคอยเพียงลำพังอย่างเดียวดาย
นาฬิกาที่แขวนอยู่บนฝาผนังบอกเวลาเกือบจะตีสามแล้ว แต่นัทก็ยังไม่กลับมาซะที
เป็นอย่างนี้ทุกครั้งที่ได้ออกไปเที่ยวกับเพื่อน ตอนก่อนจะไปก็สัญญากันไว้ดิบดีว่าจะกลับไม่ดึกมาก แต่พอเอาเข้าจริงก็กลับมาซะเกือบสว่างทุกที แถมสภาพตอนกลับมานี่อย่าให้ได้พูดเชียว บางครั้งแทบจะคลานกลับมาเลยซะด้วยซ้ำ ปล่อยให้ซินต้องเป็นคนคอยมานั่งดูแลคนเมาไม่ได้สติที่ไม่ได้รับรู้สักนิดว่าทำให้คนอื่นเค้าเป็นห่วงมากขนาดไหน
มือเรียวเล็กหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างตัวขึ้นมากดโทรหาร่างสูง เสียงสัญญาณดังอยู่สักครู่หนึ่งก่อนจะตัดเข้าระบบฝากข้อความ ทำให้ปากบางอดไม่ได้ที่จะสบถพึมพำออกมาเบาๆ ก่อนจะกดโทรออกอีกสามสี่ครั้ง ซึ่งก็ยังคงมีแต่เสียงระบบอัตโนมัติตอบกลับมา มือบางเลยวางโทรศัพท์ไว้ที่เดิม ขณะที่ในใจก็หงุดหงิดคนตัวสูงที่ติดต่อไม่ได้เสียที แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องแปลกที่เป็นแบบนี้ เพราะเวลานัทไปกับเพื่อนที่ไรก็ไม่ค่อยจะรับสายกันสักเท่าไหร่ แถมจะกลับตอนไหนก็ไม่ยอมโทรมาบอก ปล่อยให้ซินนั่งคอยทั้งคืน ไม่รู้เหรอไงว่าทำให้คนรออยู่เป็นห่วงมากแค่ไหน
บางครั้งซินก็เสียใจที่นัททำแบบนี้ พอไปกับเพื่อนที่ไรก็เอาแต่เที่ยวสนุก ไม่เคยแคร์ความรู้สึกของคนที่ต้องเฝ้ารออยู่ในบ้านคนเดียวว่าจะเป็นยังไง ไม่เคยรู้เลยว่าซินทั้งหวง ทั้งห่วงมากมายสักแค่ไหน
ก็พอจะเข้าใจว่าเป็นนิสัยผู้ชายที่ต้องออกไปกินเหล้าเฮฮาสังสรรค์กับเพื่อนๆเป็นเรื่องปกติ แต่ว่ามันไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะว่าซินรู้ดีว่าคนรักของตัวเองมีเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้ามมากแค่ไหน เวลาไปเที่ยวแต่ล่ะครั้งก็จะต้องมีผู้หญิงเข้ามาเกาะแกะเป็นประจำ แล้วนัทเองก็ไม่ใช่คนที่จะปฎิเสธผู้หญิงที่เข้ามาหาตัวเองด้วยสิ ปากก็บอกว่ารักซินคนเดียว แต่พอเผลอทีไรก็แอบไปมีผู้หญิงอื่นอยู่เรื่อย ทำให้ซินอดไม่ได้ที่จะต้องคอยระแวงคนรักของตัวเอง
ถึงแม้นัทจะเฝ้าย้ำว่ารักซินมากแค่ไหน แต่ก็ไม่เคยมีสักครั้งที่ซินจะรู้สึกมั่นใจกับคำคำนั้นได้อย่างเต็มเปี่ยม คงเป็นเพราะ
ร่างบางเหลือบตามองนาฬิกาที่ชี้เวลาเกือบจะถึงเลขสี่แล้วก็ต้องถอนหายใจออกมา เมื่อคิดว่าร่างสูงคงจะไม่กลับมาภายในคืนนี้แน่ๆ สมองเริ่มมึนงงเพราะความเหนื่อยอ่อนจากงานที่ทำมาทั้งวัน ประกอบกับความเมื่อยที่เกาะกุมไปทั้งตัวราวกับจะฟ้องว่าร่างกายต้องการการพักผ่อนอย่างรุนแรง มือบางเลยเอื้อมไปหยิบหมอนอิงขึ้นมาหนุนศีรษะก่อนจะล้มตัวลงนอนบนโซฟาตัวกว้างอย่างเดียวดาย
เสียงกุกกักที่ดังขึ้นภายในห้องทำให้ดวงตากลมโตค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างงัวเงีย ก่อนที่ใบหน้าหวานเงยหน้าขึ้นจากโซฟาตัวกว้าง เมื่อหันไปมองที่ประตูก็พบว่าคนรักของตัวเองกลับมาในสภาพที่ค่อนข้างจะเมามากพอสมควร ร่างบางจึงลุกขึ้นเดินไปช่วยพยุงร่างสูงที่เดินเอียงไปเอียงมาราวกับคนที่ไม่มีเรี่ยวแรงให้นั่งลงบนเก้าอี้ ก่อนจะเข้าไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กที่เตรียมเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืนมาเช็ดที่ใบหน้าของคนรักเบาๆ
“นัท ไปไหนมาน่ะ ไหนบอกว่าจะกลับไม่เกินตีสองไง ทำไมโผล่มาซะเช้าเชียว”ทันทีที่หย่อนตัวลงบนเก้าอี้ ร่างเล็กก็เริ่มซักไซ้ไล่เลียงขึ้นมาทันที ทำเอาดวงตาที่กำลังปรือหลับต้องลืมตาขึ้นมามองใบหน้าหวานที่กำลังทำหน้านิ่วคิ้วขมวด
“ขอนอนก่อนได้ป่ะ ง่วงมาก เดี๋ยวตื่นมาแล้วจะบ่นอะไรก็ค่อยบ่น”
“ก็เป็นซะอย่างเนี้ย แล้วจะไม่ให้ซินบ่นได้ไง” คำพูดเปรยๆของคนร่างบางทำให้ร่างสูงชักสีหน้าขึ้นมาทันที
“เงียบก่อนได้ป่ะ ปวดหัวอยู่ อย่าเพิ่งพูดอะไรตอนนี้เหอะ ขอร้อง”
“ทำไม รำคาญซินเหรอ” ร่างบางพูดเสียงแข็งขึ้นมาทันที นั่นทำให้นัทต้องถอนหายใจออกมาแรงๆอย่างหงุดหงิด
“อย่าเพิ่งหาเรื่องกันได้มั้ยเนี่ย ก็บอกว่าปวดหัวอยู่ ง่วงด้วย ไม่มีอารมณ์จะมาทะเลาะหรอกนะ”พูดจบมือใหญ่ก็เอื้อมไปปัดมือเล็กที่กำลังเช็ดหน้าให้อย่างรำคาญ ก่อนจะลุกขึ้นเดินโซซัดโซเซเข้าไปในห้องนอน
ซินเดินตามเข้าไปหาคนร่างสูงที่ตอนนี้กำลังนอนแผ่อยู่บนเตียงกว้าง ก่อนจะหย่อนตัวลงบนอีกฝั่งหนึ่งของเตียง ดวงตากลมโตจ้องมองใบหน้าหล่อคมที่กำลังหลับสนิท ก่อนจะเริ่มปลดกระดุมเสื้อของร่างสูงออกอย่างเบามือด้วยกลัวว่าจะไปรบกวนอีกคนให้ตื่นขึ้น มือเล็กหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กมาเช็ดตามลำตัวเพื่อคลายความเหนอะหนะจากคราบเหงื่อ ความเย็นจากผ้าทำให้ร่างสูงพลิกตัวไปมา พร้อมกับส่งเสียงครางออกมาเบาๆอย่างสบายตัว พอเสร็จเรียบร้อยแล้วซินก็ติดกระดุมเสื้อกลับคืน ก่อนจะเอาผ้าห่มมาคลุมตัวอย่างเบามือ แล้วจึงเดินออกจากห้องไป
*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*
กลิ่นหอมที่ลอยเข้าปะทะเข้าจมูกทันทีเปิดประตูห้องนอนออกมา ทำให้นัทเดินตรงดิ่งไปที่ห้องครัวทันที ภาพที่ปรากฏขึ้นมาในสายตาคือแผ่นหลังเล็กบางของซินที่กำลังทำอะไรบางอย่างอยู่หน้าเตา ผมยาวของเจ้าตัวที่ถูกรวบขึ้นมาเป็นมวยผมเพื่อไม่ให้เกะกะที่ใบหน้า ขณะที่มือเรียวก็กำลังหยิบจับสิ่งของดูยุ่งวุ่นวาย
ไม่รอช้า มือใหญ่เอื้อมไปโอบเอวบางจากทางด้านหลังโดยไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว ทำเอาคนที่กำลังทำอาหารอยู่สะดุ้งอย่างตกใจ
“หอมจัง ทำอะไรอ่ะ”ร่างสูงพูดขึ้นโดยที่ยังไม่ละจากซอกคอหอมกรุ่นของร่างบาง ทำเอาใบหน้าหวานต้องแอบยิ้มอย่างเขินอายกับการกระทำของคนรักที่มาคลอเคลียอยู่ข้างตัวไม่ยอมห่าง
“พอตื่นมาแล้วก็มาทำปากหวานเลยนะ บอกมาก่อนว่าเมื่อคืนไปไหนมา”
“พอดีเมื่อคืนนัทเมามากเลยไปค้างบ้านไอ้สามน่ะ ไม่อยากขับรถกลับเอง มันอันตรายน่ะ ซินเองก็ไม่ชอบให้นัทขับรถเวลาเมามากนี่นา”
“จริงเหรอ” ใบหน้าหวานละจากหม้อซุปบนเตา ก่อนจะหันไปมองคนที่ยืนแนบชิดทางด้านหลังด้วยแววตาคาดคั้น
“จริงดิ ไม่เชื่อกันเหรอไง”
“ก็อย่าให้รู้ว่าไปกับผู้หญิงแล้วกัน” ร่างบางพูดด้วยน้ำเสียงเรียบพร้อมกับส่งสายตาคาดโทษมาให้ เห็นดังนั้น ร่างสูงเลยเอาคางไปเกยที่ไหล่บางอย่างออดอ้อน ริมฝีปากหนากดจูบลงไปบนพวงแก้มนิ่มเบาๆ ก่อนจะกระซิบถ้อยคำแสนหวานที่ข้างหูของคนตัวเล็กอย่างเอาใจ
“ไม่ได้มีใครจริงๆ ซินก็รู้ว่านัทรักซินคนเดียว นัทจะรักซินตลอดไปนะ”
“ซินก็จะรักนัทตลอดไปเหมือนกัน”
หลังจากทานอาหารเสร็จ นัทก็เดินเข้าไปอาบน้ำ โดยมีซินเดินตามเข้าไปเก็บห้องนอนให้เรียบร้อย ขณะที่ร่างบางกำลังจะเก็บเสื้อผ้าของร่างสูงที่กองอยู่บนพื้นลงในตะกร้าซักผ้า เสียงเตือนข้อความเข้าจากโทรศัพท์ของร่างสูงก็ดังขึ้น ซินเลยเอื้อมมือไปหยิบบีบีที่วางอยู่บนโต๊ะหัวเตียงมาเปิดอ่านโดยไม่ได้คิดอะไร แต่พอได้อ่านข้อความนั้นแล้ว สีหน้าของร่างบางก็เปลี่ยนไปทันที
‘เมื่อคืนสนุกมากๆเลยค่ะพี่นัท ว่างๆเรามาเจอกันอีกดีมั้ยคะ
บิว’
“โกหกกันอีกแล้วนะ
นัท”
*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*
ในช่วงเที่ยงของวันเสาร์ที่อากาศค่อนข้างจะร้อนอบอ้าว ซินกำลังนั่งคอยใครบางคนอยู่ภายในร้านอาหารเล็กๆ สไตล์อิตตาเลี่ยนตามความชื่นชอบคนร่างบาง บนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเป็นป๊ากับม๊าที่กำลังนั่งคอยใครคนนั้นอยู่เช่นกัน บนโต๊ะอาหารนั้นมีเพียงแก้วน้ำเปล่าที่น้ำแข็งละลายจนเกือบจะหมดแล้ววางอยู่สามใบ
วันนี้ซินมารับป๊ากับม๊ามาทานข้าวด้วยกันตามประสาครอบครัวในช่วงวันหยุด โดยมีนัทที่ไปค้างที่บ้านเจนตั้งแต่เมื่อคืนสัญญาว่าจะมาด้วย โดยเจ้าตัวบอกว่าจะมาเจอกันที่ร้านอาหารตอนกลางวันทีเดียว เพราะขี้เกียจตื่นเช้ากลับเข้าบ้านก่อน
จำได้ว่านัดกันไว้ตอนเที่ยง แต่นี่ปาเข้าไปจะบ่ายโมงแล้วนัทก็ยังไม่มาซะที โทรไปถามเจนก็บอกว่านัทออกมาตั้งแต่เช้าแล้ว ไม่รู้ว่าตอนนี้ไปอยู่ที่ไหน รอมาเกือบจะครบชั่วโมงแล้วก็ยังติดต่อไม่ได้สักที ด้วยความเกรงใจเลยตัดสินใจสั่งอาหารมาให้ป๊ากับม๊าทานกันไปก่อน ส่วนตัวเองก็เดินออกไปนอกร้านเพื่อโทรศัพท์ไปตามคนรักที่ไม่รู้ว่าหายตัวไปไหน
มือเรียวหยิบไอโฟนสีดำออกมาจากกระเป๋ากางเกง ก่อนจะกดเบอร์โทรออกทันทีอย่างรวดเร็ว คิ้วเรียวบนใบหน้าหวานนั้นขมวดมุ่นอย่างหงุดหงิด ขณะที่เฝ้ารอว่าเมื่อไหร่คนปลายสายจะกดรับเสียที
“ฮัลโหล นัท อยู่ไหนแล้ว วันนี้มีนัดกินข้าวกลางวันกะป๊าม๊าไง ลืมแล้วเหรอ” ทันทีที่ปลายสายกดรับ ร่างบางก็ระดมคำพูดใส่ทันที
‘ฮัลโหล ไม่ทราบว่าใครคะ’ เอ๊ะ ทำไมเสียงที่ตอบกลับมาถึงกลายเป็นเสียงผู้หญิง หมายความว่ายังไงกันนะ ร่างบางคิดอย่างสงสัย ก่อนที่จะหันมาซักไซ้ไล่เลียงคนปลายสายด้วยน้ำเสียงห้วนๆ
“เอ๊ะ คุณนั่นแหละเป็นใคร เรียกนัทมาคุยเดี๋ยวนี้เลยนะ”
‘เอ่อ คือว่าพี่นัทยังหลับอยู่ค่ะ คุณชื่ออะไรอ่ะคะ ต้าจะได้บอกให้พี่นัทโทรกลับ’
“
.”
มือเรียวค่อยๆลดโทรศัพท์ลงจากข้างหู ก่อนจะกดตัดสายทิ้งไป โดยที่ยังคงมีเสียงใสๆของหญิงสาวดังก้องอยู่ภายในหัว
ในตอนนี้มันสั่นไปหมด ทั้งมือสั่น ปากสั่น ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีกับสิ่งที่เพิ่งจะได้ยิน ความรู้สึกข้างในมันปนเปกันไปหมด ทั้งความโกรธ ความเสียใจ ความผิดหวัง ความรู้สึกทุกอย่างมันรุมเร้าจนแยกไม่ออกว่าตอนนี้เป็นยังไง ซินรู้แค่อย่างเดียวว่ามันเจ็บ เจ็บไปทั้งหัวใจราวกับถูกใครสักคนควักมันออกมาบีบจนแทบจะแหลกสลาย
อีกแล้วงั้นเหรอ นัทนอกใจกันอีกแล้ว
กี่ครั้งแล้วที่เป็นแบบนี้ กี่ครั้งแล้วที่ร่างบางจับได้ว่าคนรักกำลังนอกใจตัวเองอยู่ กี่ครั้งแล้วที่จะต้องเจ็บปวดเมื่อได้รับรู้ว่าคนรักของตัวเองกำลังมีใครอีกคน ทั้งๆที่บอกว่ารักซินคนเดียว แต่นัทก็แอบไปมีคนอื่นแบบนี้ แล้วจะต้องให้ซินทนไปอีกสักเท่าไหร่นัทถึงจะพอใจเสียที
จู่ๆหยดน้ำตาเม็ดใหญ่ก็ไหลลงอาบแก้มขาว รสชาติขมปร่าของน้ำตาติดอยู่ที่ริมฝีปากเรียวบาง ความขมขื่นที่รับรู้ได้จากปลายลิ้น รสชาติที่แสนจะคุ้นเคย
กี่ครั้งแล้วนะ ที่ต้องร้องไห้แบบนี้
ไหลบางสั่นสะท้านจากแรงสะอื้น มือเรียวยกขึ้นปาดน้ำตาลวกๆ ก่อนจะพิงตัวกับกำแพงหน้าร้านอย่างไม่อายใคร ปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้มไปเรื่อยๆ อยากจะให้มันไหลออกไปให้หมด เผื่อมันจะช่วยชะล้างความเจ็บปวดที่มันเกาะกุมอยู่เต็มขั้วหัวใจออกไปได้บ้าง
จะทำยังไงดี มันทั้งเจ็บ ทั้งเหนื่อย เหนื่อยเหลือเกินที่จะต้องรักกัน ไม่อยากที่จะรักกันอีกแล้ว อยากจะโกรธ อยากจะเกลียดให้สมกับที่ทำร้ายกันขนาดนี้ แต่บอกกับตัวเองสักเท่าไหร่มันก็ยังทำไม่ได้เสียที เพราะภายในใจยังมีแต่คำว่ารัก รักนัทเหลือเกิน ทำไมกันนะ ทั้งๆที่ซินรักนัทขนาดนี้ ทำไมจะต้องทำร้ายกันด้วย
ทำไมนะ
เพราะอะไรกัน
*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*
นัทก้าวเข้ามาภายในห้องนอนกว้างที่มีร่างบางของคนรักกำลังนอนตะแคงหันหลังให้ โดยที่ภายในหัวก็เตรียมคำพูดสารพัดเพื่อที่จะเอาไว้แก้ตัวที่ผิดนัดในวันนี้ รู้ว่าซินคงจะโกรธอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะโทรหาตั้งหลายครั้งแล้วก็ไม่ยอมรับสายกันสักครั้ง จนสุดท้ายคนตัวเล็กก็ปิดโทรศัพท์หนีกันไปเลย ยิ่งในตอนนี้ที่ได้เห็นไหล่บางที่สั่นไหวเบาๆก็ยิ่งรู้สึกใจคอไม่ดี มือใหญ่เอื้อมไปจับไหล่เล็กเอาไว้ แต่คนตัวเล็กกลับกระเถิบตัวหนี ไม่ยอมให้อีกคนมาสัมผัสตัวได้
“ซิน ขอโทษนะ คือว่า
.”ยังไม่ทันพูดจบ ซินก็หันหน้ากลับมามอง ดวงตาคมเบิกกว้างทันทีที่เห็นใบหน้าเรียวสวย
ร่างบางช้อนตาขึ้นมองจ้องใบหน้าหล่อคมของคนรักนิ่งๆสักครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ติดจะสะอื้นน้อยๆ
“เมื่อตอนกลางวัน ซินโทรไปหานัท แล้วนัทรู้มั้ยว่าเกิดอะไรขึ้น”
“
..” บรรยากาศภายในห้องเงียบสนิท เงียบจนร่างสูงกลัวว่าคนร่างบางจะได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นระรัวขึ้นมาด้วยความกลัวว่าบางทีร่างบางอาจจะรู้ถึงอะไรบางอย่างที่นัทกำลังจงใจปิดบังเอาไว้
“มีผู้หญิงรับสายแทน แล้วเค้าก็บอกว่านัทหลับอยู่ อย่างนี้จะให้ซินคิดยังไงล่ะ” ระหว่างที่พูด ใบหน้าหวานนั้นก้มต่ำจนแทบจะชิดอก นัทมองเห็นหยดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มขาวนวล แล้วก็ต้องรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาในใจ มือหนายกขึ้นเพื่อจะเกลี่ยคราบน้ำตาบนใบหน้าหวานแต่ก็ต้องถูกอีกคนปัดมือทิ้งไปทันที มือใหญ่จึงเอื้อมไปจับข้อมือบางเอามากุมไว้หลวมๆ ก่อนจะพูดเสียงอ่อน
“ซิน คือว่า
ฟังนัทก่อนได้มั้ย”
“ยังมีหน้าจะแก้ตัวอีกเหรอนัท” ซินเงยหน้าขึ้นมาจ้องมองใบหน้าของคนรักด้วยดวงตากลมโตที่เต็มไปด้วยแววตาโกรธเคือง ก่อนจะยันตัวขึ้นจากเตียงนอนแล้วเดินออกไปตรงระเบียงทันที
ใบหน้าหวานเหม่อมองไปบนท้องฟ้าที่กลายเป็นสีส้มด้วยดวงตาที่เศร้าหมอง มือบางยกขึ้นกอดอกตัวเองเมื่อรู้สึกถึงลมอ่อนๆที่พัดพาเอาความเย็นมาสู่ร่างกาย ก่อนจะรู้สึกถึงแรงสัมผัสที่เอวจากด้านหลัง มือเล็กพยายามจะดึงมือใหญ่ออกไปแต่ก็สู้แรงของอีกคนไม่ได้ เลยต้องปล่อยให้อีกคนได้ทำตามใจความต้องการ
“นัทขอโทษ นัทยอมรับว่าทำผิดต่อซินจริงๆ แต่ว่านัทไม่ได้ตั้งใจนะ น้องเค้ามายุ่งกับนัทเอง นัทก็เลยพลาดไปน่ะ” ขณะที่
พูด ร่างสูงรู้สึกได้ถึงหยดน้ำใสๆที่ไหลกระทบกับมือของตัวเอง แรงสะอื้นจากไหล่เล็กทำให้ร่างสูงยิ่งกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นไปอีก
“ยกโทษให้นัทอีกสักครั้งนะซิน นะ?” ร่างสูงกระซิบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาข้างหูของคนร่างบาง มือใหญ่เอื้อมไปจับใบหน้าหวานให้หันมามองหน้ากัน
“
.”
“ซิน
”
“
.”
“นัทขอร้อง ให้โอกาสนัทอีกสักครั้ง ได้มั้ย” ดวงตาคมจับจ้องมาที่ใบหน้าหวานสวยอย่างมุ่งมั่นปนเว้าวอนอยู่ในที ร่องรอยความอ่อนไหวปรากฏขึ้นมาในดวงตากลมโตเพียงชั่วครู่ ก่อนที่ซินจะรีบหันหน้าหนีไปอีกทาง
ความจริงแล้ว พอได้เห็นคนรักสำนึกผิด ใจที่มันเคยโกรธกลับอ่อนยวบลงไปทันที ทั้งๆที่คิดว่าจะต้องทำใจแข็งเข้าไว้ อย่าไปยอมอ่อนข้อให้กับคนตรงหน้าง่ายๆ เพราะอยากให้ร่างสูงรับรู้ไว้บ้างว่าซินไม่ใช่ของตายที่อยากจะทำอะไรก็ทำได้ตามใจของตัวเอง แต่สุดท้ายกลับเป็นซินเองที่ยอมใจอ่อนให้กับนัทอยู่เรื่อยไป
ริมฝีปากบางเม้มแน่นอย่างตัดสินใจ ก่อนจะพูดขึ้นมาด้วยเสียงที่แผ่วเบา
“แล้วถ้าซินให้ไป นัทจะนอกใจกันอีกหรือปล่าว” เมื่อได้ยินคำพูดของร่างบาง ใบหน้าหล่อคมก็แย้มรอยยิ้มกว้างออกมาทันที
“นัทจะไม่ทำอีกแล้วล่ะ สัญญา” คำพูดของคนร่างสูงทำให้คนฟังรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาทันที
อย่าเลยนะ อย่าสัญญากันอีกเลย เพราะซินรู้ดีว่ายังไงนัทก็คงจะทำตามที่พูดไว้ไม่ได้ กี่ครั้งแล้วที่สัญญากันแบบนี้ แล้วเคยมีสักครั้งมั้ยที่นัทจะรักษาสัญญาไว้ได้ ถ้าคิดว่าจะทำอย่างที่พูดไว้ไม่ได้ก็อย่าพูดเลยจะดีกว่า ซินไม่อยากที่จะผิดหวังในตัวนัทอีกแล้ว เพราะฉะนั้น อย่ามาทำร้ายกันด้วยคำพูดอีกเลยนะ
“ขอบคุณนะซิน นัทรักซินที่สุดเลย”
คนตัวเล็กถูกอ้อมแขนแข็งแรงโอบกอดไว้แนบแน่น ดวงหน้าเรียวสวยเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อคมที่มีรอยยิ้มประดับอยู่
บนใบหน้า รอยยิ้มที่ทำให้หัวใจที่เคยสงบนิ่งกลับเต้นระรัวขึ้นมาทุกครั้งที่ได้เห็น ดวงตาคมที่จ้องมองมาที่ใบหน้าหวานด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักนั้นทำเอาร่างบางรู้สึกได้ถึงความร้อนผ่าวบนแก้มที่สองข้าง ก่อนที่ดวงตากลมโตจะหลุบต่ำลงเมื่อได้ยินถ้อยคำจากเสียงกระซิบของคนร่างสูง
“นัทจะรักซินตลอดไป”
To be continue
ความคิดเห็น