ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Singular Fiction [NutxSin]

    ลำดับตอนที่ #3 : Find the way

    • อัปเดตล่าสุด 15 ธ.ค. 54


    Find the way

     

     

    ในเช้าวันหยุด ร่างสูงที่กำลังนอนหลับสบายอยู่บนเตียงกว้างในห้องต้องตื่นขึ้นมาเพราะเสียงออดที่ดังระรัวตรงประตู นัทยกมือขยี้ตาอย่างงัวเงีย ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบนาฬิกาที่ตั้งไว้บนหัวเตียงขึ้นมาดู แล้วก็ต้องสบถออกมา เพราะเพิ่งจะเจ็ดโมงเช้า

     

    ใครกัน มาตั้งแต่เช้า

     

    ร่างสูงได้แต่คิดอย่างหงุดหงิดก่อนจะลุกจากเตียง ปากหนาบ่นพึมพำออกมาไม่หยุดขณะที่เดินผ่านห้องนั่งเล่น ก่อนจะเอื้อมมือไปปลดล็อกกลอนประตูแล้วบิดลูกบิด ในใจเตรียมต่อว่าคนที่มารบกวนเวลาพักผ่อนของคนอื่นเต็มที่ แต่เมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่เบื้องหลังบานประตู คำพูดที่เตรียมออกมาก็ต้องถูกเก็บลงไปทันที

     

    “ซิน”

     

    “เราขอมาอยู่ด้วยสักพักนะ”

     

    พูดจบ คนตัวเล็กก็ถือวิสาสะเข้ามาภายในห้องพร้อมกระเป๋าเสื้อผ้าใบเล็กๆทันที ร่างบางเดินตรงไปนั่งลงบนโซฟาที่ตั้งอยู่กลางห้องนั่งเล่น โดยมีร่างสูงที่ยังคงยืนมองอยู่ตรงประตูอย่างสงสัย

     

    “เราเลิกกับบาสแล้ว” ร่างบางพูดขึ้นหลังจากนั่งนิ่งเงียบมาได้พักหนึ่ง

     

    “ทำไมล่ะ” ใบหน้าหล่อคมมีสีหน้าตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน

     

    ……

     

    ความเงียบคือคำตอบที่ได้รับกลับมา ร่างบอบบางนั้นยังคงนั่งนิ่งเงียบโดยที่ไม่คิดจะเล่าอะไรให้ฟัง ดวงตากลมโตนั้นทอดสายตาเหม่อลอยออกไปราวกับไม่มีใครอยู่ในห้อง เห็นดังนั้นนัทก็ไม่คิดจะถามอะไรออกมาอีก เพราะเข้าใจคนตรงหน้าดีว่าตอนนี้คงไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะพูดหรือบอกอะไรกับใครทั้งสิ้น ร่างสูงจึงหันเข้าไปในห้องครัวก่อนจะเดินออกมาพร้อมกับแก้วน้ำส้ม  

     

    “มาตั้งแต่เช้า คงยังไม่ได้กินอะไรมาใช่มั้ยล่ะ กินนี่รองท้องไปก่อน เดี๋ยวจะทำไรให้กิน ขอไปอาบน้ำแปปนึง” ซินหันไปมองหน้าคนที่กำลังวางแก้วน้ำไว้บนโต๊ะตัวเล็กหน้าโซฟาเพียงแวบเดียว ก่อนจะหันหน้ากลับมานั่งนิ่งอยู่เหมือนเดิม โดยไม่มีท่าทีว่าจะยกแก้วขึ้นดื่มเลย เห็นดังนั้น นัทเลยต้องดุคนตัวบาง


    “ซิน”

     

    “ก็ไม่อยากกิน” พูดออกมาอย่างเอาแต่ใจให้คนฟังได้แต่ถอนหายใจกับอาการดื้อดึงของคนตัวเล็ก

     

    “กินสักหน่อยนะ ถ้าไม่กินอะไรเลยเดี๋ยวจะเป็นโรคกระเพาะ นัทขอไปอาบน้ำแปปนึง เดี๋ยวมานะ” นัทพูดกับคนตัวเล็กด้วยเสียงอ่อนพลางเอื้อมมือไปลูบหัวร่างบาง ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป

     

    *_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*

     

    มื้อเช้าบนโต๊ะอาหารผ่านไปอย่างเงียบเชียบ นัทมองคนตัวเล็กที่นั่งเขี่ยข้าวในจานไปมาไม่ยอมกินเสียทีก็ต้องส่งสายตาดุๆไปให้ ทำให้มือบางจำต้องยกขึ้นมาทานอย่างไม่เต็มใจนัก หลังจากกินเสร็จแล้ว ซินก็เดินออกไปนั่งเล่นตรงระเบียงห้อง โดยมีนัทที่เพิ่งล้างจานเสร็จเดินตามออกมา ร่างสูงทรุดตัวลงบนเก้าอี้ไม้ตัวยาว ก่อนจะหันไปมองใบหน้าของคนข้างๆกัน

     

    ใบหน้าหวานในยามนี้มันดูเศร้าหมองจนคนเห็นอดรู้สึกใจหายไม่ได้ ดวงตากลมโตที่ทอประกายสดใสอยู่เสมอกลับบวมช้ำอย่างคนที่ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก จมูกเล็กก็มีรอยแดงแต้มอยู่ ริมฝีปากบางที่เคยส่งเสียงหวานใสให้นัทอยู่เสมอกลับเม้มแน่นเหมือนกับกำลังอดกลั้นกับอะไรบางอย่างอยู่

     

    ทำไมซินถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้

     

    คำถามนี้เกิดขึ้นในใจของร่างสูงทันที เพราะเป็นเพื่อนกับร่างบางมานาน แล้วก็คอยเฝ้าดูแลคนคนนี้มาตลอด จึงรู้ว่าน้อยครั้งที่ซินจะมีเรื่องให้เสียใจมากขนาดนี้ ยิ่งถ้าเป็นเรื่องความรักของซินกับผู้ชายคนนั้นก็ยิ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะนัทเป็นคนที่คอยเฝ้ามองความรักของคนทั้งคู่ตั้งแต่แรกเริ่ม ถึงแม้ความรักของซินกับผู้ชายคนนั้นจะไม่ได้หวานชื่น มีดีกันบ้าง ทะเลาะกันบ้าง แต่ก็ไม่ได้มีอะไรที่น่าเป็นห่วง จนนัทเองก็วางใจที่จะให้ผู้ชายคนนั้นเป็นคนดูแลซิน แต่แล้วทำไม

     

    “นัทว่าเราน่ารำคาญมั้ย” จู่ๆ ซินก็ถามคำถามที่ทำเห็นคนฟังต้องหันขวับมามองทันที

     

    “ไม่หรอก” ร่างสูงตอบออกไปทันที

     

    “แต่ว่าบาสบอกว่าเบื่อ เบื่อที่เราเอาแต่ใจตัวเอง งอแง งี่เง่า น่ารำคาญ”

     

    “เราผิดด้วยเหรอที่อยากให้บาสสนใจเราบ้าง ไม่ใช่เอาแต่นั่งทำงานทั้งวัน เราเองก็เบื่อ เบื่อมาก เบื่อมากที่ต้องเป็นแบบนี้”

     

    เมื่อพูดจบ คนตัวเล็กก็ปล่อยโฮออกมาอย่างสุดจะกลั้น ทำให้นัทต้องเอื้อมมือไปลูบหลังเบาๆราวกับจะช่วยบรรเทาความ

    เจ็บปวดภายในใจของร่างบาง เสียงใสเอ่ยคำพูดตัดพ้อต่อว่าคนรักของตัวเองอย่างน้อยใจโดยที่มีเสียงสะอื้นปะปนเป็น

    ระยะๆ นัทได้แต่นิ่งเงียบ รับฟังคนที่กำลังระบายความรู้สึกทุกอย่างออกมาจนหมด

     

    ยิ่งฟัง นัทก็ยิ่งรู้สึกโกรธผู้ชายคนนั้นเหลือเกิน ทั้งๆที่นัทไม่เคยที่จะเบื่อที่จะตามเอาอกเอาใจคนตัวเล็ก ไม่มีสักครั้งที่จะรำคาญเมื่อเห็นร่างบางแสดงท่าทางงอแงออกมา และไม่ว่าเสียงใสนั้นจะเรียกร้องอะไร นัทก็ยินดีจะทำให้ทุกอย่าง เพราะว่าคนคนนั้นคือซิน

     

    แต่ว่า ผู้ชายคนนั้นกลับบอกว่าเบื่อ ทั้งๆที่นัทคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ซินทำเป็นสิ่งที่น่าอ็นดู และก็ไม่เบื่อที่จะเห็นความน่ารักแบบนั้นทุกๆวัน แต่ผู้ชายคนนั้นกลับคิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่ารำคาญ แล้วแบบนี้จะไม่ให้นัทโกรธได้อย่างไร

     

    ผ่านไปประมาณเกือบชั่วโมง คนตัวเล็กเริ่มสงบลงได้บ้าง จึงหันมาพูดกันคนตัวสูงที่นั่งข้างกันด้วยน้ำเสียงที่ติดจะสะอื้นน้อยๆ

     

    “ขอโทษนะที่มารบกวนนัท” ภาพใบหน้าหวานที่ติดจะแดงน้อยๆก้มหน้าลงอย่างกังวลใจ เมื่อคิดว่าตัวเองมารบกวนคนอื่น ทำให้นัทต้องเอามือมาโยกหัวคนคิดมากอย่างเอ็นดู

     

    “ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ นัทไม่เคยคิดอย่างนั้นเลยนะ”

     

    “เอ่อ แล้ววันนี้นัทมีธุระอะไรมั้ย คือเราอยู่คนเดียวได้นะ นัทไม่ต้องเป็นห่วง”

     

    “ไม่มีหรอก เดี๋ยววันนี้จะอยู่กับซินทั้งวันเลย ดีมั้ย” ใบหน้าหวานเงยหน้าขึ้นมาจ้องมองสักครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้ารับเบาๆ ทำให้ร่างสูงยิ้มออกมา

     

    *_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*

     

    ภายในห้องนอนกว้าง มีร่างสองร่างนอนเคียงข้างกันอยู่บนเตียงใหญ่ ร่างบางนอนตะแคงหันหลังให้กับร่างสูงที่นอนอยู่ข้างๆกัน นัทชะโงกไปมองใบหน้าหวานที่ปิดตาสนิทพร้อมกับเสียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ จึงหยิบผ้าห่มมาคลุมร่างเล็กบางให้เรียบร้อย แล้วเอื้อมไปปิดโคมไฟบนหัวเตียง ก่อนจะสอดตัวลงไปในผ้าห่มผืนเดียวกัน

      

    เวลาผ่านไปเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ร่างสูงยังไม่อาจข่มตาหลับได้สักที สายตาคมทอดมองไปบนเพดานอย่างว่างเปล่าท่ามกลางความมืดมิด โดยมีเสียงสะอื้นดังขึ้นมาเป็นระยะ

     

    นัทเหลือบตามองแผ่นหลังที่สั่นไหวของคนข้างๆ ยิ่งเห็นก็ยิ่งรู้สึกปวดใจ ปวดใจที่ทำได้แค่มอง แต่ไม่อาจจะหยุดเสียง

    ร้องไห้นั้นได้ เพราะว่าน้ำตานั้นไม่ได้ไหลออกมาเพราะนัท หากแต่มันเกิดจากใครอีกคนหนึ่งที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้ เพราะอย่างนี้

    นัทถึงไม่มีสิทธิแม้แต่จะเอื้อมมือไปเช็ดหยาดน้ำที่อาบแก้มของคนตัวเล็ก สิ่งที่ทำได้ คงมีเพียงแค่คอยอยู่เคียงข้างคนตัวบางนี้เท่านั้น

     

    ทั้งๆที่นัทเชื่อว่า ถ้าได้เป็นคนรักของซิน นัทจะรักและจะดูแลซินเป็นอย่างดี จะไม่ปล่อยให้คนคนนี้ต้องมานอนร้องไห้สะอึกสะอื้นแบบนี้ จะไม่ยอมทำให้ซินต้องเสียใจเหมือนกับที่ผู้ชายคนนั้นทำอย่างเด็ดขาด ถ้าเป็นนัท นัทเชื่อว่าตัวเองสามารถที่จะทำให้คนที่นอนเคียงข้างกันในตอนนี้มีความสุขได้ไม่แพ้กับใคร แต่ว่า

     

    ทำไม ถึงไม่ใช่นัท

     

    จู่ๆคำถามนี้เกิดผุดขึ้นมาในหัว คำถามที่ทำให้ใบหน้าหล่อคมนั้นแค่นยิ้มออกมา เพราะคำตอบนั้น ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย

     

    เพราะว่าเราเป็นเพื่อนกัน

     

    คำเพียงคำเดียวที่ค้ำคอนัทอยู่ตอนนี้ สถานะที่เป็นจุดเริ่มต้นของเราสองคน และมันก็คงจะเป็นแบบนั้นตลอดไปในความคิดของซิน โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าเพื่อนคนนี้ได้ก้าวข้ามความรู้สึกนั้นไปแล้ว และก็ไม่อาจจะกลับไปได้อีก เพราะความรู้สึกนี้มันไม่ใช่ว่าจะเพิ่งเกิดขึ้นภายในวันสองวัน แต่มันคือความในใจที่นัทเก็บไว้มานานนับปี ก่อนที่ใครคนนั้นจะเข้ามาในชีวิตร่างบางเสียอีก

     

    ซินคงไม่เคยรู้ ว่ามีใครบางคนคอยเฝ้ามองซินมาตลอด 

     

    จู่ๆร่างเล็กบางก็พลิกตัวกลับมานอนหันหน้าเข้าหาร่างสูง มือบางเอื้อมมากอดที่เอวใหญ่ ก่อนจะเอาหน้าเข้ามาซุกลงตรงอกกว้าง ดวงตากลมโตนั้นแม้จะยังคงปิดสนิท แต่นัทก็ยังรับรู้ถึงความชื้นที่เปียกอยู่ตรงอกเสื้อเป็นวงกว้าง มือใหญ่เอื้อมไปโอบกอดแผ่นหลังบางไว้หลวมๆ ในขณะที่อีกมือหนึ่งก็ยกขึ้นลูบหัวคนตัวเล็กเบาๆ กล่อมร่างบางที่ยังคงสะอึกสะอื้นไม่หยุด

     

    ไม่เป็นไร คืนนี้นัทจะอยู่เป็นเพื่อนเอง

     

    *_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*

     

    แสงแดดในยามเช้าลอดผ่านผ้าม่านกระทบลงบนใบหน้าหล่อคม ทำให้ต้องยกมือขึ้นมาบังแสงที่แยงตา ก่อนจะเปิดเปลือกตาขึ้นมาอย่างงัวเงีย แรงสัมผัสตรงช่วงเอวทำให้ต้องหันไปมองคนข้างๆที่ตอนนี้ยังเอามือมากอดเอวของตัวเองไว้ไม่ยอมปล่อย ใบหน้าสวยหวานยามหลับนั้นดูสงบนิ่ง แต่ยังคงมีเค้าความเศร้าหมองหลงเหลือจากเมื่อคืนอยู่  มือหนายกขึ้นเกลี่ยคราบน้ำตาบนพวงแก้มนุ่มเบาๆ ก่อนจะจ้องมองใบหน้าของคนที่นอนหลับสนิทอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งเปลือกตาบางค่อยๆเปิดออกมา

     

    “อือ เช้าแล้วเหรอ” มือเล็กยกขึ้นขยี้ตาอย่างงัวเงีย น่ารักจนคนร่างสูงอดที่จะยิ้มไม่ได้

     

    “อืม ไปอาบน้ำไป เดี๋ยววันนี้จะพาออกไปข้างนอก” ทันทีที่ได้ยิน คิ้วเรียวก็ขมวดมุ่นทันที

     

    “เราไม่อยากไป”

     

    “ยังไม่รู้เลยว่าจะไปไหน”

     

    “ก็ไม่อยากไปอ่ะ” พูดออกมาอย่างเอาแต่ใจพลางเอาผ้าห่มมาคลุมหัวแสดงท่าทีว่าจะไม่ฟังอะไรแล้ว คนที่มองอยู่จึงเอื้อมมือไปดึงผ้าห่มที่คลุมร่างบางพร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างเอ็นดู

     

    “ไปกับนัทหน่อยดิ นะๆ” ร่างสูงทำเสียงคะยั้นคะยอใส่ไม่ยอมหยุด จนอีกคนต้องตอบรับอย่างเสียไม่ได้

     

    *_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*

     

    ขาเรียวยาวก้าวลงจากรถทันทีที่รถหยุดนิ่งกับที่ เบื้องหน้าของร่างบางคือท้องทะเลที่กว้างสุดลูกหูลูกตา แสงแดดอ่อนๆกับอากาศเย็นสบายในยามเช้าทำให้คนตัวเล็กต้องสูดอากาศเข้าไปอย่างสดชื่น เท้าเล็กก้าวไปตามผืนทรายทีละก้าว ก่อนจะหันไปมองคนที่เพิ่งเดินตามมาทีหลัง

     

    “พาคนอกหักมาทะเล กะจะให้เราสติแตกฆ่าตัวตายเลยเหรอ” ร่างบางพูดขึ้นอย่างติดตลก แต่น้ำเสียงจะไม่ได้มีแววจะขำตามคำพูดของตัวเอง

     

    “ใครบอก พามาทะเลให้มาตัดใจหรอก”

     

    “แล้วทำยังไงอ่ะ”

     

    “นี่ไง” ร่างสูงพูดขึ้นพร้อมกับชูกระป๋องเบียร์ในมือ

     

    ชายหนุ่มทั้งสองคนถอดรองเท้าไว้ข้างๆกัน ก่อนจะทรุดตัวนั่งลงบนชายหาด เหม่อมองดูเกลียวคลื่นที่สาดซัดเข้าหาชายฝั่ง พลางจิบเบียร์ในมือช้าๆ ไร้ซึ่งคำพูด ปล่อยให้ต่างฝ่ายต่างจมอยู่ในห้วงความคิดของตนเอง

     

    สายลมที่พัดผ่านทำให้รู้สึกสงบใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก บ่อยครั้งที่นัทมาสถานที่แห่งนี้ มานั่งมองทะเลไปเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า หรือบางครั้งก็ตะโกนความในใจออกมาราวกับคนบ้า เพื่อบรรเทาความคิดถึงที่มีต่อร่างเล็กบาง แม้จะรู้ดีว่าต่อให้ตะโกนให้ดังสักแค่ไหนก็คงจะส่งไปไม่ถึงใจของคนที่นั่งข้างๆกันในตอนนี้ก็ตาม

     

    หลังจากปล่อยให้ความเงียบเข้าโอบล้อมคนทั้งคู่ได้สักพักหนึ่ง ซินก็หันไปถามคำถามกับคนที่นั่งข้างๆกัน

     

    “แล้วนัทเคยมาตัดใจที่นี่บ้างป่ะ”

     

    “เคยสิ” นัทตอบออกไปโดยที่ยังคงมองทะเลเบื้องหน้า

     

    “เฮ้ย เคยอกหักด้วยเหรอ ทำไมเราไม่รู้อ่ะ” คนตัวเล็กเริ่มหันมาโวยวายเอากับคนตัวสูง ซึ่งอีกฝ่ายก็ได้แต่ส่งยิ้มบางๆกลับไปให้ ไม่ได้ตอบอะไรอีก

     

    ไม่แปลกหรอกนะที่ซินจะไม่รู้ และก็คงจะไม่มีวันรู้ด้วย เพราะนัทตั้งใจจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ จะไม่ให้ซินรู้เป็นอันขาดว่าเพื่อนคนนี้มันแอบคิดอะไรเกินกว่าคำว่าเพื่อนไป

     

    นัทนึกย้อนไปถึงวันแรกที่รู้จักกัน คนตัวเล็กๆขาวๆกับใบหน้าสวยหวานนั้นทำเอาเข้าใจผิดว่าเป็นผู้หญิง จนเผลอจ้องซะจนโดนคนร่างบางโกรธเอา หลังจากวันนั้นเราก็กลายมาเป็นเพื่อนกัน และก็ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่ความใกล้ชิดของเราทำให้นัทมองเพื่อนสนิทคนนี้ด้วยสายตาที่แปลกไป รู้ตัวอีกที ร่างสูงก็ไม่อาจละสายตาไปจากคนคนนี้ได้อีกแล้ว

     

    “แล้วตัดใจได้มั้ย” อีกครั้งที่คำถามของร่างบางมีเพียงรอยยิ้มของคนร่างสูงกลับมา เท่านี้ซินก็เข้าใจดีว่านัทคงมีเรื่องที่ไม่อยากพูดถึง ร่างบางเลยนิ่งไปพักหนึ่ง ก่อนจะทอดสายตากลับไปบนท้องทะเลอีกครั้งโดยไม่พูดอะไรเลย

     

    ถ้าตัดใจได้ นัทก็คงจะไม่เจ็บปวดอย่างนี้หรอกนะซิน

     

    *_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*

     

    ในช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมา นัทรีบเร่งกลับบ้านเสียจนบรรดาเพื่อนร่วมงานอดสงสัยไม่ได้ ทันทีที่นาฬิกาชี้ไปที่เวลาห้าโมง ร่างสูงจะฉวยกระเป๋าทำงานแล้วเดินออกจากออฟฟิศทันที ผิดจากปกติที่บางครั้งจะอยู่ทำงานที่ค้างไว้บ้าง หรือไม่ก็ออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆต่อ จนทำให้ใครหลายคนสงสัยว่านัทคงจะมีแฟนแล้ว เลยต้องรีบกลับบ้านเพื่อจะเอาเวลาไปสวีทกับแฟนสาวที่รออยู่ที่บ้าน

     

    ร่างสูงได้แต่ยิ้มขำไปกับความคิดของเพื่อน ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าสิ่งที่พื่อนๆคิดนั้นไม่ได้ไกลเกินจากความเป็นจริงไปสัก

    เท่าไหร่เลย ถึงแม้จะไม่ได้เป็นแฟนกัน แต่เพียงได้รู้ว่าเมื่อเปิดประตูบานนั้นเข้าไปแล้ว มีร่างเล็กบางที่เป็นเจ้าของหัวใจมานานแสนนานรอคอยตนเองอยู่ ในอกมันก็เต็มไปด้วยความสุขใจจนไม่รู้จะบรรยายออกมาอย่างไร เพียงแค่ได้เห็นใบหน้าหวานส่งยิ้มอ่อนๆมาให้ทุกวันแบบนี้ นัทก็มีความสุขมากแล้ว

     

    หลังจากที่กลับมาทะเลคราวนั้น คนตัวเล็กก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ อาจมีบ้างที่ดวงตาคู่สวยนั้นเหม่อลอยออกไปไกลแสนไกล แต่ก็ไม่มีอีกแล้วกับเสียงร้องไห้ที่ทำให้ต้องเจ็บปวดใจ แม้ใบหน้าเรียวนั้นจะไม่มีรอยยิ้มกว้างแต่งแต้มเหมือนปกติ แต่แค่เพียงยิ้มบางๆที่มุมปาก นัทก็ถือว่านั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี

     

    เรียวขายาวก้าวเข้ามาภายในคอนโดที่อยู่อาศัย ก่อนจะเดินเข้าไปในลิฟท์แล้วกดชั้นที่ต้องการ เมื่อมาถึง ร่างสูงก็ก้าวออกมาจากลิฟท์ก่อนจะเหลือบไปมองถุงใส่กล่องดาร์คช็อกโกแลตของโปรดของใครบาง มุมปากยกยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อนึกถึงสีหน้าของคนตัวเล็กยามที่ได้กินของที่ชอบ

     

    แต่แล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าร่างสูงก็หายไป เมื่อได้เห็นผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าห้องของตนเอง ผู้ชายคนนั้นหันมามองนัท พร้อมกับช่อดอกกุหลาบสีแดงสดในมือ

     

    “บาส”

     

    *_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*

     

    เป็นเวลาเกือบสิบนาทีแล้วที่บาสเข้าไปในห้องนอนพร้อมกับซิน เพื่อจะไปเคลียร์กันให้เรียบร้อย

     

    ในตอนแรกคนตัวเล็กทำท่าตกใจที่เห็นบาสเดินตามหลังนัทเข้ามาในห้อง ก่อนจะเริ่มโวยวายไล่คนรักตัวเองเสียใหญ่ แต่เพียงแค่บาสเอ่ยปากขอร้องให้คุยกันสักครั้ง ร่างบางกลับยอมนิ่งฟังอย่างง่ายดาย ก่อนจะเดินตามบาสเข้าไปในห้องนอนโดยดี ทิ้งให้นัทได้แต่เฝ้ารอคอยเพียงลำพัง

     

    ดวงตาคมจ้องมองไปที่บานประตูห้องนอนอย่างว้าวุ่น ภายในใจเฝ้าคิดวนเวียนเกี่ยวกับคนสองที่อยู่ในห้องนอน  อยากรู้ว่าภายในห้องนั้นจะเป็นอย่างไร ผู้ชายคนนั้นจะมาทำอะไร จะมาง้องอนให้คนร่างบางคืนดีด้วยใช่มั้ย แล้วร่างๆเล็กนั้นล่ะ จะใจแข็งหรือใจอ่อน จะยอมกลับไปคืนดีกับคนรักของตัวเองรึเปล่า

     

    เพียงแค่คิด ความกลัวก็เกาะกุมเข้าไปในใจของร่างสูงทันที

     

    วินาทีที่เห็นบาส นัทกลัว กลัวเหลือเกินว่าผู้ชายคนนั้นจะเอาซินกลับคืนไป กลัวว่าความสุขและความฝันทุกๆอย่างที่เคยวาดหวังไว้จะพังทลายไป  กลัวว่าหลังจากนี้จะไม่มีร่างบางคนนั้นเคียงข้างกัน


    เกือบสองอาทิตย์ที่ผ่านมาเหมือนเป็นความฝันที่แสนสวยงาม

     

    ตื่นเช้ามาเพื่อที่จะได้เห็นคนที่นอนเคียงข้างกันเป็นคนแรก ทานอาหารเช้าไปพร้อมๆกันก่อนที่เขาจะออกไปทำงาน พอกลับมาถึงบ้านตอนเย็นก็เจอร่างเล็กยืนทำอาหารอยู่ในครัว หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จก็จะมานั่งดูทีวีด้วยกันจนละครจบ แล้วก็เข้านอนพร้อมกัน

     

    อาจจะเป็นชีวิตที่ธรรมดาสำหรับใครหลายคน แต่สำหรับนัท เพียงแค่ได้มีคนร่างบางนั้นอยู่เคียงข้าง วันที่แสนธรรมดาก็จะกลายเป็นวันพิเศษขึ้นมาในทันที  

     

    เพียงแต่ว่า มันคงจะถึงเวลาที่นัทจะต้องลืมตาตื่นจากความฝันแล้วมาเผชิญหน้ากับความเป็นจริงเสียที ความจริงที่ว่านัทไม่ใช่คนรักของซิน และก็ไม่มีวันที่จะเป็นไปได้ด้วย เพราะฉะนั้น ก็คงจะไม่แปลกที่สักวันร่างบางนั้นก็จะต้องกลับไปอยู่กับเจ้าของหัวใจของตัวเองตามเดิม

     

    เสียงประตูเปิดกว้างทำให้ใบหน้าหล่อคมต้องหันไปมอง ก่อนจะพบร่างบางที่เดินออกมาพร้อมกับใครอีกคนหนึ่ง ดวงตากลมโตนั้นบวมช้ำเล็กน้อย แต่รอยยิ้มที่ประดับอยู่บนใบหน้าของคนทั้งคู่ก็ทำให้นัทพอจะเดาอะไรบางอย่างได้ แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นช่อดอกกุหลาบในมือเรียวเล็ก

     

    เข้าใจกันแล้วสินะ

     

    เพียงแค่คิด ในใจก็เจ็บแปลบขึ้นมาทันที แต่เพราะความเป็นเพื่อนทำให้ใบหน้าหล่อคมต้องฝืนยิ้มออกมาให้คนตัวเล็กที่ตอนนี้มีร่องรอยของความสุขระบายอยู่เต็มไปหน้า

     

    “ดีกันแล้วสินะ” ใบหน้าหวานนั้นพยักหน้ารับน้อยๆอย่างอายๆ

     

    “อืม งั้นเรา” เสียงใสยังไม่ทันพูดจบ นัทก็พูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน

     

    “ซินอยู่กับบาสตรงนี้แหละ เดี๋ยวนัทเข้าไปเก็บของให้”

     

    พูดจบก็เสเดินเข้าไปในห้องนอน มือใหญ่เอื้อมไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อจัดการเอาของใช้ส่วนตัวของร่างบางเก็บใส่กระเป๋าเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินออกมาหาคนสองคนที่ยืนรออยู่ตรงห้องนั่งเล่น

     

    นัทเดินออกมาส่งคนทั้งคู่อยู่ตรงประตูหน้าห้อง มือใหญ่ยื่นกระเป๋าเสื้อผ้าให้คนร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างๆซินรับไป ก่อนจะเอามือลูบหัวร่างบางเบาๆ


    “ทีหลังก็เอาแต่ใจตัวเองให้น้อยๆหน่อย คนอื่นเค้าไม่ได้ทนซินได้เหมือนกับนัทหรอกนะ เข้าใจมั้ย”
    ร่างสูงพูดกับคนตัวเล็กด้วยน้ำเสียงอ่อน

     

    “อือ” ใบหน้าหวานพยักรับน้อยๆ

     

    “เข้าใจแล้วก็ทำตัวดีดีด้วยล่ะ จะได้ไม่ต้องทะเลาะกันอีก”

     

    “รู้แล้วน่า นัททำอย่างกับเป็นพ่อเราไปได้”

     

    “ว่าไปซะอย่างนั้น” ร่างสูงหัวเราะเบาๆกับคำพูดของคนร่างเล็ก

     

    “เราไปแล้วนะ” ดวงตาคมมองรอยยิ้มหวานบนใบหน้าเรียวสวยนั้น ก่อนจะเลยไปที่ใบหน้าของคนที่ยืนอยู่ข้างๆร่างบาง สายตาของผู้ชายคนนั้นมองตรงกลับมาที่ร่างสูงอย่างแน่วแน่ราวกับจะสัญญาว่าจะดูแลคนคนนี้ให้ดีที่สุด เพียงเท่านี้ นัทก็วางใจแล้ว

     

    ดวงตาคมเหม่อมองแผ่นหลังของคนสองคนที่เดินเคียงข้างกัน ก่อนที่ภาพนั้นค่อยๆห่างไกลออกไปจนลับสายตา มือใหญ่จึงเอื้อมไปปิดประตู ก่อนจะหมุนตัวกลับเข้ามา เพียงเพื่อที่จะได้พบกับ

     

    ความว่างเปล่า

     

    ข้าวของทุกอย่างในห้องยังคงอยู่ที่เดิม โซฟา ทีวี โต๊ะกินข้าว ชั้นวางหนังสือ ทุกสิ่งทุกอย่างยังคงอยู่ประจำที่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ว่า นัทกลับรู้สึกราวกับว่ามีอะไรบางอย่างที่ขาดหายไป อะไรบางอย่างที่ทำให้ความอึดอัดแล่นขึ้นมาในอก  

    จนแทบจะหายใจไม่ออก  

     

    เพียงแค่คิดว่า จะต้องกลับไปอยู่กับวันเวลาเดิมๆ ใช้ชีวิตแบบเดิมๆ ก่อนที่จะมีร่างบางคนนั้นเคียงข้างกัน ความอ้างว้างก็เข้ามาเกาะกุมจิตใจของร่างสูงทันที

     

    แต่ว่า..ชีวิตก็ยังคงต้องดำเนินต่อไป แม้ว่าจะเป็นชีวิตที่ปราศจากความสุขก็ตามที

     

    เพราะว่า

     

    ภาพแผ่นหลังที่เพิ่งเดินจากไปปรากฏขึ้นมาในหัวอีกครั้ง

     

    ความสุขของนัท มันได้ล่องลอยตามใครคนนั้นออกไปเสียแล้ว

     

     

     

     

    End

     

     
    สวัสดีคนอ่านทุกคนค่ะ ขอโทษนะคะที่หายไปซะนานเลย แถมเรื่องที่เอามาลงดันเป็นเรื่องเศร้าขัดกับบรรยากาศช่วงนี้แบบสุดๆอีกตั้งหาก ถ้าฟิคเรื่องนี้ขัดอารมณ์ฟินๆของใครเข้าก็ขออภัยด้วยนะคะ เราไม่ได้ตั้งใจน๊า

     

    ฟิคเรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากการฟังเพลง Find the way ของ Nakashima Mika ลองไปฟังกันนะคะ เพราะมากๆเลย

     

    ชอบไม่ชอบยังไงก็ติชมกันได้นะคะ ขอบคุณทุกๆคอมเม้นท์เลยค่ะ J

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×