คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ♔ HIDDEN 06 : : หน้าแดง [50% loding..]
พุบ!
ฉันทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างแรงหลังจากที่ทานข้าวเย็นและรับประทานยาลงไปแล้วเรียบร้อย ที่จริงวันนี้เป็นวันอังคารนะแต่ว่าฉันดันมาป่วยกะทันหันเลยไม่ได้ไปโรงเรียนอย่างที่เห็น สำหรับฉันแล้วมันถือเป็นเรื่องปกติมากๆเลยล่ะเพราะร่างกายฉันอ่อนแอมาตั้งแต่กำเนิดเลยเป็นนู่นนี่นั่นบ่อยๆ
สำหรับงานและแลคเชอร์ทั้งหมด...คริสตัลอาสาจดมาให้แล้วจะแวะเอามาส่งให้ฉันทุกครั้ง บางทีฉันก็เกรงใจเธออยู่เหมือนกันแต่เธอเป็นคนบอกเองนี่ว่าสบายมาก เพราะฉะนั้นฉันก็ไม่ควรจะไปเซ้าซี้เธออีกนี่นาจริงไหม
เจ้าแมวเหมียวตัวกลมเดินอุ้ยอ้ายเข้ามาหา ฉันคลี่ยิ้มให้มันก่อนจะอุ้มกงจูขึ้นมาไว้บนตักและลูกขนให้มันเหมือนอย่างทุกครั้ง ตัวเหมียวจ้ำม่ำครางออกมาเบาๆอย่างมีความสุขจนฉันอดขำไม่ได้
“กงจูนี่ดีจังเลยน้า~”
ฉันแอบบ่นไปเรื่อยอย่างหมั่นไส้เจ้าขนฟูบนตักเสียเหลือเกิน ก็มันจริงนี่วันๆไม่ทำอะไรนอกจากกินและนอนผิดกับฉันที่ต้องมานั่งเหงาอยู่คนเดียวตลอดเวลาแบบนี้
ตอนนั้นเองที่สายตาของฉันมองไปทางบ้านฝั่งตรงข้ามเป็นครั้งที่ร้อยของวันเห็นจะได้ นั่นบ้านหลังนั้นคือบ้านของพี่ลู่ฮานนั่นเอง ฉันไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงต้องมองไปที่บ้านหลังนั้นและเมื่อเห็นว่าประตูรั้วนั้นยังคล้องโซ่ไว้อยู่ทำไมตัวเองต้องหดหู่ขนาดนี้ด้วย
นี่ก็หกโมงครึ่งแล้วนะ
ฉันเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องห่วงนักหนา ทั้งที่เขาอายุก็ปาเข้าไปสิบแปดปีเป็นวัยที่สามารถดูแลตัวเองได้เกือบทั้งหมดแล้ว แต่ฉันก็ยังเป็นห่วง รู้สึกกระวนกระวายอยู่เฉยแทบไม่ได้ทุกครั้งที่เขากลับบ้านมืดค่ำ แต่ก็พอรู้ตัวดีว่าทำอะไรไม่ได้สุดท้ายก็ต้องมานั่งจิตตกคนเดียว
เธอน่าสงสารไปแล้วนะซอจูฮยอน
“ว้าย!”
ฉันตกใจผละออกจากหน้าต่างเมื่อจู่ๆกงจูที่นอนพริ้มบนตักฉันกระโดดออกไปข้างนอก ฉันถอนหายใจแผ่วเบากับความซนของเจ้าแมวอ้วนนี่ หมู่นี้กงจูชอบหนีเที่ยวอยู่บ่อยครั้งทั้งที่เมื่อก่อนแค่จะพาไปเดินเล่นยังต้องลากออกไปเลยฉันเลยไม่ค่อยตกใจเท่าไรเวลาที่กงจูหายตัวไป ตราบใดที่มันไม่ทำข้าวของเพื่อนบ้านเสียหายน่ะนะ
แต่ตอนนี้ก็เริ่มมืดแล้วนะ ถ้าหลงทางขึ้นมาจะทำยังไงล่ะ
บางทีฉันก็หงุดหงิดกับความขี้กังวนของตัวเองอยู่เหมือนกัน แต่ก็นั่นแหละเพราะแบบนี้ล่ะมั้งคนรอบข้างถึงได้พร้อมใจกางปีกปกป้องฉันแบบนี้ ฉันถอนหายใจครั้งก่อนจะผุดลุกขึ้นแล้วคว้าเสื้อนอกมาสวมทับ ถึงจะรู้สึกมึนหัวจากฤทธิ์ยานิดหน่อยแต่ก็ทรงตัวได้อยู่บ้าง
ฉันเดินจับราวบันไดลงมาชั้นล่างกงจูน่าจะยังไปได้ไม่ไกลนัก อาจจะยังตะปบหนูอยู่ถังขยะหน้าบ้านก็ได้ (ถึงจะเป็นแมวไฮโซแต่ยังไงแมวก็ยังเป็นแมวอยู่วันยังค่ำสินะ) ว่าแล้วฉันก็รีบหยิบองเท้าบนชั้นวางมาใส่และเปิดประตูออกไปทันที
วูบ
ทว่าเมื่อเดินมาได้ถึงหน้าบ้านฉันกลับหน้ามืดกะทันหันเหมือนกับว่าตัวเองไม่สามารถต้านแรงโน้มถ่วงชั่วขณะหนึ่ง ฉันหลับตาปี๋เตรียมรับความเจ็บปวดให้ตายสิฉันไม่อยากนึกถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้เลย
หมับ!
ฝ่ามือหนึ่งจับที่ต้นแขนฉันพร้อมออกแรงดึงเบาๆ ให้ฉันลุกขึ้นทว่าฉันกลับทรงตัวไม่อยู่เลยเซถลาไปชนผู้ช่วยแทน ฉันหันหน้าไปมองเจ้าของมือนั้นแล้วจังหวะหัวใจที่เต้นเป็นปกติกลับเต้นแรงอีกเมื่อเห็นว่าเป็นพี่ลู่ฮาน
พระเจ้า! หน้าฉันตอนนี้ก็กำลังซบอกเขาอยู่ด้วย!
“ไม่เป็นไรนะ?”
“ค่ะ”
ฉันไม่เป็นไร...จะไม่เป็นไรได้ไง! ตอนนี้หัวใจฉันเต้นแรงมากเลยนะ..มากเสียจนคิดว่าตัวเองป่วยเป็นโรคหัวใจซะอีก ฉันผละออกจากพี่ลู่หานและพยายามยืนทรงตัวให้อยู่โดยมีร่างสูงคอยประคับประคองมองอย่างห่วงๆเหมือนกับว่ากลัวฉันจะล้มลงไปอีก
ฮืออ หยุดมองเดี๋ยวนี้นะ
“แน่ใจนะ” ยังไม่ทันที่จะได้พักหายใจหายคอ มือข้างหนึ่งของเขายกขึ้นมาแปะไว้บนหน้าฝากของตัวเอง ส่วนอีกข้างก็มาทาบบนหน้าผากของฉันอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย “ไม่สบายรึเปล่า”
“คะ?”
"หรือว่าอากาศร้อน รู้สึกอ้าวๆบ้างหรือเปล่า”
“พี่ลู่ฮานคะ..”
“อา ไม่สิอาการแบบนี้อาจเป็นไข้ทับระดูของคนมีประจำเดือนก็ได้”
“พี่ลู่ฮาน.”
กำลังจะบอกว่ารอบเดือนของฉันมันผ่านไปตั้งแต่ต้นเดือนแล้ว แต่ก็ยั้งปากไว้ทันให้พูดเรื่องแบบนี้ต่อหน้าผู้ชายมันดูไม่งามเอาเสียเลย
“หาหมอดีกว่าไหมเดี๋ยวพี่พาไป” เขาพูดพร้อมดึงข้อมือให้เดินตาม
นี่มันชักจะไปกันใหญ่แล้วนะ!
เวลานี้ความเขินอายได้หายเกลี้ยงไปหมดแล้ว ฉันรีบกระตุกมือหนาของพี่ลู่ฮานไว้ทันควันก่อนที่เรื่องจะเลยเถิดไปมากกว่านี้ ทำให้ร่างสูงต้องหันกลับมาพร้อมตวัดสายตาดุๆมาอีกหน
คิ้วของเขาเลิกขึ้นสูงเหมือนกำลังงงอยู่ในที
“อะไรเนี่ยซอฮยอน”
“ซอควรจะเป็นฝ่ายถามมากกว่าค่ะ พี่เป็นอะไรคะ”
“ก็เราป่วย”
“ป่วย? ซอเป็นแค่หวัดธรรมดานะคะไม่ต้องถึงมือหมอหรอกค่ะ”
“จริงเหรอ”
“นี่ดูสิคะ ซอสบายดีไม่เป็นอะไรสักหน่อย” พูดแล้วฉันก็ยกแขนข้างหนึ่งขึ้นทำท่าเบ่งกล้ามให้คนตัวสูงดูเป็นขวัญตา “ทำไมพี่ต้องตกใจขนาดนั้นด้วยคะ”
“ก็เราหน้าแดง”
! !
“แดงแจ๋เป็นมะเขือเทศสุกเลยรู้ตัวรึเปล่า”
ฉันยกมือขึ้นตะปกใบหน้าของตัวเองทันทีและหันไปทางอื่นด้วยความอายทะลุปรอท
“ซะ ซอแค่เหนื่อย..”
“มิน่า หน้านี่แดงแจ๊ดเชียว”
ยังจะพูดยั่วอีก ฉันอายจนไม่รู้จะอายยังไงแล้วนะ!
“พี่ลู่ฮาน!”
“ครับ~^^”
พอฉันขึ้นเสียงใส่คนขี้แกล้งก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ขานรับเสียงนุ่มอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว ยิ่งเมื่อเขาคลี่ยิ้มมาให้ใบหน้าที่ร้อนอยู่แล้วก็ยิ่งร้อนมากกว่าเดิมจนเหมือนจะระเบิดเสียให้ได้
ฉันรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วหันไปพูดกับเขาอีกครั้ง “มะ ไม่เป็นไรจริงๆค่ะ ซอเพิ่งทานยา..”
“กินยาแล้วทำไมไม่นอนพักผ่อนล่ะ ออกมาตากน้ำค้างข้างนอกเดี๋ยวก็ไม่สบายอีกหรอก” เขาขัดขึ้นมาพลางส่งสายตาดุๆ มาให้ "อย่าทำหน้าบูดแบบนั้นสิ พี่แค่เป็นห่วงเราก็เท่านั้นเอง" เมื่อเห็นฉันหน้าบูดเขาก็ยื่นมือมาลูบศีรษะฉันเบาๆ
“คือว่าซอ..”
“อ้าวเฮียมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ครับ~”
เสียงหนึ่งดังขึ้นทำให้ฉันกับพี่ลู่ฮานหันขวับไปทางต้นเสียงพร้อมกัน เด็กผู้ชายตัวผอมบางหน้าตาน่ารักน่าชังคนหนึ่งเดินตรงมาทางพวกเรา เขามีเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนดูนุ่มมือไหนจะท่าทางเงียบๆ มึนๆ ดูแล้วน่ารักน่าชังอย่างบอกไม่ถูกเลย ในมือของเขาอุ้มอะไรบางอย่างออกมาด้วย..
นั่นมันกงจูนี่นา!!
เมี้ยว~
ฉันยืนตกตะลึงเล็กน้อยเมื่อเห็นเจ้ากงจูส่งเสียงครางออดอ้อนในขณะที่ถูกนิ้วเรียวสวยของพี่แบคฮยอนเกาคางให้ มันเอาใบหน้าถูกไถมือของเขาอย่างออดอ้อนพลางหลับตาพริ้มอย่างเปี่ยมสุขเหลือเกิน เหมือนกับพี่แบคฮยอนที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ขณะที่มองเจ้าเมี้ยวนี่ด้วย
น่ารักจัง~ Y
คนๆนี้ คือบยอนแบคฮยอนเป็นญาติของพี่ลู่ฮานที่ย้ายเข้ามาอยู่ได้หนึ่งปีแล้ว ถึงจะมีอายุเท่ากันแต่เขาก็อ่อนกว่าพี่ลู่หานถึงห้าเดือนจึงต้องเรียกพี่ไปตามระเบียบ ฉันไม่ได้สนิทสนมกับพี่แบคฮยอนเท่าไรหรอกเพราะเป็นคนที่เดาความคิดได้ยาก ไม่มีใครรู้หรอกว่าเขากำลังคิดอะไรหรือกำลังทำอะไรอยู่
“นั่นแมวของซอฮยอนไม่ใช่เหรอแล้วมาอยู่กับแกได้ไง”
“ผมเห็นมันเดินเข้ามาในครัวน่ะก็เลยเอานมในตู้เย็นให้มันกิน ( ‘ ‘)” เขาตอบหน้าซื่อขณะที่ลูบหัวกงจูไปพลางอีกด้วย “เจ้านี่ชอบดอดมาที่บ้านเราบ่อยๆ เฮียคงต้องซื้ออาหารแมวมาตุนไว้แล้วล่ะ~”
ฉันยืนกระพริบตาปริบๆ ถึงว่าทำไมช่วงนี้กงจูหายตัวบ่อยเหลือเกิน
เราก็อุตส่าห์เป็นห่วงแทบแย่ ไอ้แมวบ้าผู้ชาย! T_T~
“เอามานี่” พี่ลู่ฮานหันไปขอกงจูจากญาติผู้น้องของตน ซึ่งคนถูกขอไม่ได้ว่าอะไรแม้จะยังดูอาลัยอาวรณ์แต่ก็ส่งตัวกงจูให้พี่ชายแต่โดยดี “ดูแลมันดีๆหน่อยสิเด็กน้อย ถ้าหลงทางขึ้นมาจะเดือดร้อนนะ”
“คะ..ค่ะขอบคุณนะคะ” ฉันรับกงจูจากมือพี่เขาอย่างงๆ และก็รู้สึกมึนเหมือนถูกหมัดหนักๆซัดเข้าเต็มเปาเมื่อดวงตาใสแจ๋วเหมือนกวางของคนตรงนี้ขยิบให้ตบท้าย
อันตราย..ผู้ชายคนนี้อันตรายจริงๆ T_T~
“ตอแหลอ่ะ จูฮยอนเธออย่าไปเชื่อหมอนี่นะมันไว้ใจไม่ได้ (‘^’)!”
“พูดแบบนี้ก็สวยสิ -_-*”
“นั่นไงร้อนตัวแล้วเห็นมะ~”
ทั้งที่พี่ลู่ฮานทำหน้าน่ากลัวเหมือนจะไปขย้ำคออยู่รอมร่อ แต่พี่แบคฮยอนยังคงล้อเลียนด้วยสีหน้าระรื้นเหมือนจะไม่สนใจ ซ้ำยังตีหน้ามึนใส่ราวกับไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่นิดเดียวซึ่งถ้าเป็นฉันคงกลัวตัวสั่นพั่บๆ ไปแล้วก็นะเห็นแบบนี้เวลาพี่ลู่ฮานโกรธขึ้นมาน่ากลัวจะตาย
เอ่อ..คิดว่านะ
ไม่รู้สิ ฉันเองก็ยังไม่เคยเห็นเหมือนกัน
“เราเองก็เข้าบ้านได้แล้วนะเด็กน้อย เดี๋ยวเป็นลมไปแล้งไปอีก” พี่ลู่ฮานเลิกแยกเขี้ยวใส่ญาติผู้น้องแล้วหันมาลูบผมฉันแทน ฉันคว้ำปากใส่น้อยๆแล้วค่อยๆแกะมือนั้นออก
“หัวซอยุ่งหมดแล้วนะคะ”
“ขอโทษนะเห็นแล้วมันอดไม่ได้น่ะ”
ร่างสูงชักมือออกแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ง้ำลงอย่างเห็นได้ชัด อันที่จริงฉันก็ไม่ได้โกรธ ไม่ได้โมโหเลยนะ แต่ตรงข้ามเลยฉันทั้งดีใจทั้งรู้สึกดีแทบหุบยิ้มไม่อยู่ แถมใจเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมาข้างนอกอยู่แล้ว แต่ขืนปล่อยให้เขาทำต่อไปมีหวังฉันต้องตายด้วยโรคหัวใจแน่ๆ
ก็เขาน่ารักออกซะขนาดนี้นี่นา
“ถ้างั้น..”
“คะ?”
“ถ้าเรายังไม่อยากนอน งั้นไปดูพี่เตะบอลไหมใกล้ๆนี่แหละ”
“จะดีหรอคะ แบบนั้นจะไม่ --”
“ไปเถอะน่าจูฮยอน ถ้าเธอไม่ไปเดี๋ยวเฮียมันจะร้องไห้ขี้มูกโป่งเอาน้า~” ก่อนที่ฉันจะได้ขัดอะไรพี่แบคฮยอนก็รีบสวนขึ้นมาก่อน ประโยคหลังที่ดูจะกวนประสาทหน่อยๆทำให้พี่หันลู่ฮานไปถลึงตาใส่อย่างอาฆาต
“แต่ว่า --”
“เดี๋ยวบ้านเธอกับเจ้าเหมียวนี่ฉันจะดูแลให้เองไม่ต้องห่วง~~” เจ้ากงจูในอ้อมกอดร้องครางเมี้ยวๆก่อนจะกระโดดไปหาพี่แบคฮยอนคล้ายกับเห็นด้วยกับความคิดของเขา
ร้ายกาจ พอกันทั้งคนทั้งแมวเลย!
“งั้นเดทกันตามสบายเลยเน้อ~ เราก็เข้าไปกินหนมในบ้านกันเถอะเน้าะเมี้ยวน้อย”
ฉันอ้าปากพะงาบๆ แล้วมองคู่หูเพื่อนซี้ต่างเผ่าพันธุ์เดินหายเข้าไปในบ้านฉันหลังจากทิ้งระเบิดตู้มใหญ่เอาไว้ให้ ปล่อยให้ฉันอยู่กับพี่ลู่ฮานเพียงลำพัง จะดีใจหรือเสียใจดีที่พี่แบคฮยอนชงฉันกับพี่ชายเขาแถมคำว่าเดทนั่นก็ทำให้หน้าร้อนวูบวาบอย่างกับมีคนเอาถ่านร้อนๆมาแนบหน้าไม่มีผิดเลย และคิดว่าตอนนี้หน้าฉันคงแดงเป็นลูกมะเขือเทศอย่างที่พี่ลู่ฮานบอกไว้ตอนแรกแน่ๆ
ใครก็ได้ส่งน้ำแข็งมาดับความร้อนให้ที
“งั้นเราก็ไปกันบ้างเถอะ”
“..”
“ขอมือหน่อยครับคุณผู้หญิง”
ฉันแอบอมยิ้มเล็กๆพร้อมยื่นมือขวาส่งไปให้ร่างสูงตรงหน้า และเขาก็วางมือของตัวเองลงบนฝ่ามือของฉันแล้วค่อยๆสอดนิ้วเข้าประสานกับมือของฉันอย่างเชื่องช้า มือของเราจับกันแน่นมาก..มากเสียจนอะไรก็ไม่สามารถมางัดมันออกได้ เขาส่งยิ้มให้ฉันอีกครั้งจนปรากฏรอยบุ๋มข้างแก้มทั้งสองข้าง ซึ่งนั่นทำให้ฉันหน้าร้อนจนต้องหันไปทางอื่นเพราะไม่อยากให้เขาเห็นใบหน้าของฉันในตอนนี้
มันต้องแดง..แดงมากแน่ๆ
“มือเราอุ่นจังเลยนะ~^^”
มือของพี่ก็อุ่นมากๆเหมือนกันนะ
ฉันคิดแบบนั้นแต่ก็ไม่สามารถเอื้อนเอ่ยออกไปได้ เพราะไม่อยากให้เขาจับได้ว่าฉันกำลังตื่นเต้นแค่ไหน เสียงหัวใจฉันเต้นแรงขึ้นทุกขณะและก็คงไม่มีท่าทีลดลงแต่อย่างใด
เหมือนกับ..ความรักที่ฉันมอบให้เขาก็คงไม่มีวันลดลงเช่นกัน
.
.
.
“ยอมรับเถอะเราหลงทางแล้วล่ะ”
“ไม่ ไม่ได้หลงซะหน่อยเราก็เดินตามแผนที่นี่แล้วไง”
“ไอ้รูปกิ๊กก๊อกนั่นน่ะเหรอ”
มาถึงจุดนี้ทุกคนอาจจะงงอีแบคมันโผล่มาจากไหนฟะ?!
บอกไว้เลยว่าเรื่องนี้ทั้งพล็อตและตัวละครของทุกคู่ เชื่อมกัน หมดเลยนะคะ
จากนี้ไปตัวละครนอกเหนือจากแก๊งประธานกับเพื่อนของสามสาวจะโผล่ออกมาเรื่อยๆ ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด
เพื่อมาสร้างสีสันในเรื่องเรื่อยๆ แต่จะวงไหน ค่ายไหนก็แล้วแต่ว่าไรท์ติ่งวงไหนในช่วงนั้นด้วย :3
ฝากติดตามด้วยเน้อะถึงจะเปิดเทอมเลยไม่ค่อยมีเวลามาอัพก็เถอะ <3
ความคิดเห็น