คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ♔ HIDDEN 04 : : เด็กชายกับข้าวกล่อง (?) [อ่านท็อคกันด้วยนะคะ
HIDDEN
[CH .04 :: เด็กชายกับข้าวกล่อง ]
ฉันคิดว่าตัวเองควรไปเปิดสำนักหมอดู - -
เมื่อวานนี้ ทันทีที่ฉันเก็บรองเท้าเสร็จพบว่าเซฮุนยืนดักรออยู่ใกล้ๆตามที่คาดการณ์ไว้ไม่มีผิด จากนั้นเขาก็ซักยกใหญ่เลยว่ากะอีแค่เก็บรองเท้าทำไมมันนานแบบนี้ บลาบลา กลายเป็นว่าฉันต้องมายืนฟังน้องชายตัวแร็ฟด่าเป็นสิบๆนาที อย่างน้อยสกิลการบ่นก็เป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าวิคตอรียกับเซฮุนเป็นพี่น้องกันจริงๆ -_- และเมื่อเขาบ่นสมใจอยากแล้วก็พาฉันไปส่งที่แถวและวกกลับไปเข้าแถวของตัวเอง โดยไม่ลืมที่จะกำชับให้ฉันรอเขาที่เดิมตอนกลับบ้านด้วย
เห็นฉันเป็นเด็กสามขวบรึไง =_=*
“เหม่ออะไรเตี้ย!”
“ว้า! ตะเถนหกตกไหกิมจิ”
ฉันตกใจกับเสียงของเพื่อนของตัวเองจนเผลอร้องออกมา และนั่นทำให้ ซันนี่ เด็กสาวผมสั้นตัวเล็กกะทัดรัดเหมือนหมากระเป๋าหันไปมองหน้า ปาร์ค โซยอน สาวมาดนิ่งเพื่อนสนิทอีกคนของฉันอย่างงุนงงอสงไขยสุดๆ ไม่รู้จะงงอะไรนักหนาไม่เคยเห็นคนอุทานเวลาตกใจกันหรือไงนะ
ตอนนี้เป็นช่วงโฮมรูมที่ครูจะปล่อยนักเรียนทำกิจกรรมได้ตามอัธยาศัย..
“สาบานว่านั่นเป็นคำอุทานที่น่าเกลียดที่สุดเท่าที่ฉันเคยได้ยินมา” โซยอนเอ่ยขึ้นมาเรียบๆแต่สามารถทำให้ฉันเจ็บเหมือนเอามีดมาแทงฉันเลยทีเดียว ก็เข้าใจอยู่หรอกนะว่าเธอเป็นคนตรงไปตรงมาแต่บางทีฉันก็ทำใจไม่ได้นะ T^T
“เจ็บเลยอ่ะโซยอน”
“ก็ฉันพูดความจริง..”
“ว่าแต่แกกำลังทำอะไรอยู่น่ะ แทยอน -O-“ ซันนี่เอ่ยถามขึ้นโดยไม่สนใจบทสนทนาของฉันกับโซยอนเลยแม้แต่นิดเดียว ก็นั่นแหละปกติเธอเคยสนใจใครซะที่ไหน ยึดตัวเองเป็นหลักอยู่เสมอ นี่แหละคุณหนูลี - -
ในโรงเรียนฉันมีเพื่อนหลายคนนะแต่ที่สนิทจริงๆก็มีไม่กี่คน นอกจากเซฮุนแล้วก็มี ซันนี่ หรือ ลี ซุนกยู คุณหนูตระกูลลีผู้ร่ำรวยล้นฟ้ามหาสมุทร ต้นแบบของคุณหนูเอาแต่ใจ ก็นั่นแหละเธอสวยและรวยมาก ไม่รู้ว่าบ้านๆอย่างฉันไปสนิทชิดเชื้อได้อย่างไร
คนที่สอง ปาร์ค โซยอน เป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างนิ่งพอสมควรแต่ไม่ถึงขั้นเย็นชา ตรงไปตรงมา และดูจะเคร่งเครียดกับทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตซะเหลือเกิน ฐานะทางบ้านของเธอก็ไม่ค่อยดีนักปัจจุบันนี้เธอเป็นนักเรียนทุนของที่นี่น่ะนะ
“ปั่นงานอ่ะ เอาจริงๆนะฉันไม่เข้าใจไอ้นี่เลยแม้แต่นิดเดียว TOT”
ฉันกล่าวด้วยความทุกข์ระทม ฉันหัวไม่ดีมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เรียนรู้ช้า ความรู้สึกช้า ยังดีหน่อยที่เซฮุนฉลาดเป็นกรดก่อนสอบเขามักจะมาติวให้ฉันเสมอ (ตามคำสั่งของวิคตอเรีย) ไม่งั้นฉันไม่ผ่านมาได้ถึงขนาดนี้หรอก แต่เซฮุนกับฉันอยู่คนละห้องกันแถมคนเรียนคนละสายกันอีกต่างหาก เลยช่วยอะไรไม่ได้มากนัก ลำพังแค่งานของตัวเขาเองก็เยอะอยู่แล้ว ฉันจึงเลือกที่จะไม่ขอความช่วยเหลือจากเขามากมายนัก
เลยต้องมานั่งกลุ้มอยู่แบบนี้ไง TOT
“จำได้ว่าว่าเรื่องนี้ฉันอธิบายให้แกฟังประมาณสามรอบแล้วนะ นี่ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ”
“ไม่เลยอ่ะโซยอน นี่ๆอธิบายให้ฉันฟังอีกรอบดิ๊”
“บอกตามตรงนะ ฉันจนปัญญาแล้วอ่ะแทยอน”
ฮรึก..ชีวิตแทโดนทำร้ายยยย TOT
ฉันได้แต่ร้องไห้และดีดดิ้นในใจอย่างโมโหตัวเอง ทำไมเกิดมาเป็นคนหัวทื่อแบบนี้นะ ทั้งที่แม่ตัวเองก็ออกจะฉลาดเป็นกรดเป็นเบส นี่ฉันได้ดีเอ็นเอจากพ่อมาเยอะเกินไปหรือว่ายังไงนะ ฮือออ T_T โซยอนและซันนี่ได้แต่ถอนหายใจมองฉันอย่างปลงตก ถ้าเกรดคณิตศาสตร์เทอมนี้ฉันเป๋ว รับรองอนาคตวิศวกรโยธาหญิงของฉันเป็นต้องดับวูบอย่างแน่นอน T_T
“ซันนี่จ๋า ช่วยแทหน่อยนะ”
“เออ ขนาดโซยอนยังทำให้แกเข้าใจไม่ได้ แกอย่ามาหวังอะไรกับฉันเถอะ”
อร้างงงงง แทอยากจะบ้าตาย!
ณ วินาทีนี้ฉันอยากเอาหัวโขกกำแพงห้องให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย คณิตศาสตร์เกิดมาทำไม ถ้ามันจะยากขนาดนี้นะ โอ้ยยยย แล้วนี่ฉันจะทำยังไงดีเนี่ยมีหวังเทอมนี้เกรดต่ำเตี้ยเรี่ยดินแบบฉุดไม่อยู่แน่เลย ทางบ้านเขาไม่ว่าอะไรหรอกแต่เซฮุนจะคอยถากถางฉันนี่สิ มันน่านัก!
“เธอลองให้คริสอธิบายดีสิ รายนั้นเขาเก่งออกจะตาย”
“นั่นสินะ ถ้าเป็นหมอนั่นคงอธิบายให้อย่างไม่มีอิดออดแน่นอน” โซยอนกล่าวสนับสนุนซันนี่ การที่สองคนนี้เห็นพ้องต้องกันนับเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดในทุกๆพันปีเลยนะ - -
“จริงด้วย ทำไมฉันถึงคิดไม่ออกนะ”
“ก็เธอทึ่มไง”
ตอบกันอย่างพร้อมเพรียงทีแบบนี้สามัคคีกันดีเหลือเกิน - -
“โอเค แล้วตอนนี้..เจสจ๋าเจสมานี่หน่อยๆๆๆ ><” ฉันหันไปพูดกับโซยอนส่วนประโยคหลังฉันตะโกนเรียกเจสสิก้า ดาวโรงเรียนผู้งามหยดย้อยและเป็นเพื่อนสนิทสุดซี้ปึ้กกับคริส ดูเธอจะงงหน่อยๆที่จู่ๆฉันก็ตะโกนเรียกแบบนั้น แต่ก็ยอมเดินมาหาแต่โดยดี
ใครบอกว่าเธอหยิ่งนะ..เจสสิก้าน่ะออกจะน่ารัก >3<
“อ้าว มีอะไรเหรอแทยอน”
“เจสสิก้าจ๋ารู้มั้ยตอนนี้คริสอยู่ไหน” ฉันรีบยิงคำถามใส่ทันทีอย่างไม่รีรอ เมื่อเจสสิก้าได้ยิน เธอทำท่าเกาคางเล็กน้อยอย่างใช้ความคิดก่อนที่จะพูดขึ้นมา
“คริสเหรอ หมอนั่นน่าจะอ่านหนังสืออยู่ที่ห้องนะ”
“งั้นเหรอขอบใจมากนะ”
“เดี๋ยว!” ฉันกำลังจะหมุนตัวออกไปแต่ถูกเจสสิก้าดึงเอาไว้เสียก่อน ท่าทางหน้าฉันคงจะเอ๋อได้โล่มากเจสสิก้าจึงรีบอธิบายว่า “เออ..ให้ฉันตามให้ดีกว่าเธอรออยู่ที่นี่แหละ” พูดจบเธอก็เดินออกจากห้องไปเลย อะไรของเขาล่ะนั่น
เธอใจดีเลยอาสาจะช่วย..ล่ะมั้ง
นอกจากจะสวยแล้วยังน้ำใจงามอีก..นางฟ้าของแท้ >_<
“อะไรของยัยนั่นน่ะเมนส์ไม่มาเหรอ”
“นั่นก็เรื่องของเขาเธอเกี่ยวอะไรด้วย”
“เธอไม่ขัดฉันสักวันจะตายไหมโซยอน”
“ไม่..แต่แบบนี้มันเป็นสีสันของชีวิต -_-“ โซยอนตอบคำถามนั้นเหมือนเป็นเรื่องปกติ ท่าทางวันนี้เธอจะกินยาไม่เขย่าขวด ปกติท่านโซต้องพูดอะไรที่มันมีสาระไม่ใช่เหรอ - -
หรือซึมซับความไร้สาระมาจากซันนี่ =_=
โลกนี้ชักจะอยู่ยากขึ้นทุกวัน..
“โซยอน!!! เธออย่างอยู่เลยยยยย =[]=++” ว่าแล้วซันนี่ก็เริ่มกระโจนใส่โซยอนก่อนเป็นอันดับแรก แต่สาวมาดนิ่งของเราไหวตัวและเบี่ยงตัวหลบทันเสียก่อน ผลก็คือ..
โครม..!
ซันนี่หัวโหม่งโต๊ะอย่างแรง =O=
ณ ตอนนี้คุณหนูลีซุนกยูผู้ทรงสวยและรวยเวอร์ (ฉันไม่ได้โอเวอร์นะ!) แน่นิ่งคาโต๊ะหลังจากที่หัวของเธอโหม่งโต๊ะไปเต็มๆ ฉันเริ่มรู้สึกใจไม่ดีเมื่อซันนี่ไม่ยอมลุกขึ้นมาซะทีนี่มันจะนานแล้วไปแล้วนะ ตายแล้วเหรอนั่น ตื่นซะทีเซ่!! TOT
“...”
“โซยอนเธอกล้าทำแบบนี้กับฉันเหรอ รู้จักซุนกยูน้อยไปซะแล้ว” ฉันและโซยอนสะดุ้งกันเป็นแถบๆ จู่ๆซันนี่ก็ลุกพรวดพราดขึ้นมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่หัวก็โนออกมาซะขนาดนั้นแต่เธอดูจะไม่เจ็บไม่ปวดอะไรเลย
นี่มันคนหรือควายธนูคะแทอยากรู้!!
ครืด..
และในขณะที่สองสาวขาสั้น (ก็เรื่องจริงนี่นา) ที่เริ่มจะทำสงครามประสาทกันและฉันที่กำลังทะเลาะตบตีกับความคิดของตัวเองอยู่นั่นเองเสียงเปิดประตูห้องเข้ามาพร้อมกับร่างของสองบุคคลดังของโรงเรียนที่ก้าวเข้ามาอย่างสง่าผ่าเผย เหมือนเจ้าชายเจ้าหญิงอะไรทำนองนั้น
ไม่ใช่ใครที่ไหน...คริสกับเจสสิก้านั่นเอง
โอเค..คริส หรือ อู๋ อี้ฟาน เป็นชาวจีนจะมีเลือดอื่นปนอยู่ไหมอันนี้ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน เขาเป็นผู้ชายที่หน้าหล่อลังการงานสร้างเหมือนเจ้าชายที่หลุดออกมาจากโลกแห่งนิทาน สาวงี้ติดกันตรึมไม่แพ้เซฮุนเลยจะบอกให้ และเขาก็ตัวสูงมากกกกกกก(ก.ไก่ล้านตัวเลย) คือแบบฉันสูงไม่ถึงไหล่เขาด้วยซ้ำพอมาเทียบแล้วฉันกลายเป็นเด็กน้อยไปเลย เวลาคุยกันทีคอแทบเคล็ด เขาเป็นนักบาสของโรงเรียนและเป็นรองประธานสภานักเรียนที่สำคัญเขาเก่งติดท็อปสิบของสายชั้นด้วยนะ คนเราทำบุญด้วยอะไรถึงได้เพอร์เฟ็คแบบนี้ U_U
อ้อ..ถ้าถามว่าหน้าตาเสร่อๆอย่างฉันมาสนิทชิดเชื้อได้ยังไง เรื่องนั้นฉันก็งงๆอยู่เหมือนกัน -_- ฉันกับเขาเราเพิ่งรู้จักกันตอนช่วงรับน้องของโรงเรียนเมื่อประมาณสองปีที่แล้วมั้ง พอดีฉันกับเขาเป็นบัดดี้กันพอคุยกันไปคุยกันมาเกิดถูกชะตาและสนิทกันเสียดื้อๆ ถึงแม้ท้ายที่สุดเราจะอยู่คนละห้องกันแต่เขาก็เป็นเพื่อนที่ดีอีกคนของฉันเลยนะ ส่วนเจสสิก้านั้นเป็นเพื่อนและอยู่ห้องเดียวกับคริสเขาฉันก็เลยพลอยรู้จักไปด้วย มันก็แค่นั้น
“ไง แทแท” คริสเอ่ยทักทายฉันก่อนเป็นคนแรกท่ามกลางความเงียบสงัดของพวกเรา มีไม่กี่คนที่เรียกฉันว่าแทแทนอกจากเซฮุนเห็นจะเป็นคริสนี่แหละ ขนาดยัยโซยอนกับซันนี่ยังไม่เรียกเลยนะจะบอกให้
“โย่วว คิด~”
“บอกกี่ครั้งแล้วชื่อฉัน K-R-I-S อ่านว่าคริสแต่ไอ้ที่เธอเรียกนั่นมัน K-I-D คิดเด็กแล้ว”
“บูวววว รู้หรอกน่า”
“แต่ก็ยังทำ -_-^^”
“ฮึ่ย =^=” ฉันเชิดปากใส่คริสอย่างอย่างไม่รู้จะเถียงอะไรต่อ ส่วนคนตัวสูงที่ถูกงอนใส่กลับถอนหายใจออกมาเหมือนฉันเป็นตัวปัญหางั้นแหละ
“จะจีบกันอีกนานไหมคะทั้งคู่” ซันนี่ที่เงียบอยู่นานพูดติดตลกตามสไตล์ของเธอ แต่ดูเหมือนคริสจะไม่ตลกด้วยเท่าไรหรอกนะเท่าที่ฉันเห็น
คริสเขาไม่คิดอะไรกับคนอย่างฉันหรอกน่า =_=
“แซวแรงไปแล้วมั้ง” โซยอนเอ่ยขึ้นมาหลังจากที่ปล่อยให้ความเงียบครอบคลุมอยู่นาน ขอบคุณสวรรค์เธอคือนางฟ้ามาโปรดชัดๆ ปาร์ค โซยอน T_T “ยัยนี่ปากมอมมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว อย่าใส่ใจเลย”
“เธอว่าใครปากมอมห๊ะ!”
“ฉันยังไม่ได้พูดอะไรซักคำเลยนะ -_-“
“ย๊าาา เธออยากมีเรื่องกับฉันใช่ป้ะ =^=”
“พอเถอะน่าทั้งคู่เลยๆ” เมื่อเห็นลางสงครามประสาทกำลังอุบัติขึ้นอีกครั้งฉันจึงรีบเข้าไปห้ามทัพเสียก่อน เห็นโซยอนนิ่งๆแบบนี้นะสกิลการยั่วโมโหนี่ระดับพระกาฬจริงๆ -_-;; “เออนี่ คริสเจสสิก้าเชิญนั่งก่อนสิ” ฉันรีบผายมือให้ผู้มาเยือนทั้งสองนั่งลงก่อนที่อะไรๆมันจะแย่ไปกว่านี้
“
“เอาล่ะ ว่าแต่เจสสิก้าบอกว่าเธออยากเจอฉันมีอะไรหรือเปล่า”
รอคำถามนี้มานานแล้ว T^T
“คือว่า..เข้าเรื่องเลยนะเนื้อๆไม่เอาน้ำ แบบว่านายก็รู้ใช่ไหมว่าฉันไม่ใช่คนฉลาดเฉลียวปัญญาเฉียบคมดุจไอน์สไตล์น่ะ”
“อาหะ แล้วไงต่อ-_-”
“แล้วนายก็รู้ใช่ไหมว่าเวลาสอบเก็บคะแนนไม่ว่าจะวิชาอะไรก็ช่างยกเว้นอังกฤษ ฉันทำได้แย่ย่อยยับป่นปี้หมดเลยน่ะ”
“เออๆ ก็พอรู้น่ะนะ”
“โดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์ไม่ว่าเพิ่มเติมหรือพื้นฐานคะแนนฉันมักจะต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ต้องมานั่งเรียนซ่อมทุกปีๆ จนครูระอากันเป็นแถวๆอ่ะ TOT”
“เข้าเรื่องได้แล้วไหนบอกว่าเนื้อๆไม่มีน้ำ”
“ง่าาา~ อย่าเพิ่งขัดสิคิด”
“คริส”
“เออๆ นั่นแหละที่ฉันเรียกนายมาวันนี้มันก็เกี่ยวกับเรื่องนี้แหละ กรุณาอธิบายเนื้อหาตรงนี้ให้ฟังด้วยเถิดท่านคริส ข้าขอเถอะ TOT”
ฉันร่ายยาวเป็นขบวนรถไฟและจบด้วยท่าขอคารวะปรมาจารย์แบบหนังจีนกำลังภายในที่ดูกับเซฮุนเมื่อวาน คริสไม่พูดอะไรกลับเอาแต่หัวเราะลูกเดียว ไม่ใช่แค่คริสคนเดียวด้วยนะยัยสองเพื่อนเกลอนั่นก็หัวเราะตามมาติดๆ ไม่พอขนาดเจสสิก้ายังเป็นไปเขาด้วย นี่มันน่าขำตรงไหนแทกำลังซีเรียสนะ TOT
“ขอโทษทีแทแท แต่มัน...ฮ่าๆๆ”
“หัวเราะให้จบก่อนแล้วค่อยมาคุยกัน”
“ไม่เอาน่าน้องแท อย่างอนดิอย่างอน” ซันนี่พูดอย่างล้อเลียนแถมมาเรียกฉันว่าน้องแทอีก ได้ข่าวว่าเธอเกิดทีหลังฉันอีกนะซันนี่ -_-
“คือว่านะทีพวกเราหัวเราะไม่ใช่ว่าเธอตลกซะหน่อย” หลังจากที่หัวเราะอยู่นานคริสก็เริ่มพูดขึ้นมาบ้าง คนตัวสูงยิ้มให้จางๆก่อนจะพูดต่อ “ขอเฉยๆไม่ต้องพิธีรีตองนักก็ได้”
“กะ ก็นึกว่านายจะว่าฉันหนิ .__.”
“แทยอนแค่เธอขอ ฉันยินดีที่จะช่วยทุกอย่างอยู่แล้ว”
“อร้างงงง คริสน่ารักอ่ะ >O<” ฉันกระโดดโลดเต้นไปมาและดึงแก้มคริสอย่างหมั่นเขี้ยว โอ้ยยย คนอะไรน่ารักที่สู๊ดดดดด ฉันโชคดีมากเลยที่มีเพื่อนใจหล่ออย่างนายคริส >_<
“แต่หยุดก่อนได้มั้ย..ถ้าฉันหมดหล่อขึ้นมาเธอต้องรับผิดชอบ”
“หูยยย ไม่หรอกน่าอย่างนายต่อให้หัวโล้นก็ยังหล่อ เชื่อดิ! >O<”
“โอเคฉันจะถือว่านั่นเป็นคำชม” คริสว่าด้วยน้ำเสียงอ่อนใจ นิ้วเรียวของเขาหยิบหนังสือบนโต๊ะของฉันมาเปิดเนื้อหาที่ฉันพับไว้อย่างคล่องแคล่ว ไม่ปฏิเสธเลยว่าหมอนี่อะไรก็ดูดีทุกท่วงท่า แทอิจฉา T_T “ตรงนี้สินะ..โอเค@@!$#@#%$&^%$*$&$()&^5$#”
10 นาทีผ่านไป...
“เพราะนั้นจากโจทย์นี้เราจึงแก้สมการได้เป็นดังนี้ โอเคจบแล้วเธอเข้าใจมั้ย”
ฉันสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อใบหน้าหล่อๆของเขาหันมาถามฉัน นี่ฉันควรจะบอกไปดีหรือเปล่าว่าที่เขาอธิบายมาเกือบๆสิบนาทีนี่ฉันไม่เข้าใจเลยสักกะติ๊ดเดียว งือออ แต่คิดอีกทีไม่ดีกว่า เขาต้องเสียความรู้สึกมากๆแน่เลย แค่เขาสละเวลาอันมีค่ายิ่งของตัวเองมาอธิบายให้ฉันฟังก็เป็นบุญหัวแล้ว อีกอย่างฉันก็พอบรรลุนิดๆนั่นแหละ (มั้ง)
“อื้ม เข้าใจแล้วล่ะ”
ตอบแบบนี้ไปจนได้สินะเรา -_-
11.10 น.
“แทยอน ไปกินข้าวกันเต๊อะ!”
“พวกแกไปก่อนเลยก็ได้ซัน วันนี้ห่อข้าวมาอ่ะ”
“แม่แกกลับมาแล้วล่ะสิ คราวนี้เป็นอะไรอาหารอิตาเลียน อาหารแบบอเมริกัน หรือยังไง”
“อาหารญี่ปุ่นอ่ะ U_U”
“ทำใจเถอะแทน้อยแกจะต้องอยู่กับมันเป็นเดือนๆ”
“หรืออาจเป็นปี =_=”
พูดจบทั้งสองคนก็ทำท่าขนลุกขนพองเหมือนมันสยองมากมายอะไรทำนองนั้น ความจริงมันก็ไม่เลวร้ายอะไรนักหรอกแค่แม่ฉันเป็นแม่บ้านที่ดีคนหนึ่ง มีดีกรีเป็นถึงประธานสมาคมแม่บ้านแห่งกรุงโซลเชียวนะ ไม่แปลกหรอกที่ท่านอยากให้ลูกหลานของตัวเองกินดีอยู่ดี แม่ฉันเป็นพวกคลั่งการทำอาหารและชอบเรียนรู้การทำอาหารประเภทใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา ฉะนั้นพอท่านเรียนจบหลักสูตรมาแล้วก็จะนำมาทดลองในบ้าน โดยการทำข้าวกล่องให้ลูกกับสามีกินขณะไปทำการทำงานกันไง นี่แหละประเด็น
คราวที่แล้วก็ทำคนทั้งบ้านต้องกินสปาเก็ตตี้เป็นอาหารไปสามเดือนเต็มๆ =_=
“อื้อ พวกแกไปเถอะเดี๋ยวไม่มีที่ว่างเอานะ”
“แกเอาไปกินกับพวกเราที่โรงอาหารก็ได้นี่”
“ไม่ดีกว่า ฉันว่าจะปั่นงานต่อด้วย”
“ตามใจก็แล้วกันไปเถอะซันนี่” โซยอนว่าพลางถอนหายใจแต่ประโยคหลังเธอพูดพร้อมกระทุ้งศอกใส่ซันนี่ที่ยืนจิ้มสมาร์ทโฟนของตนอย่าเมามันมาได้พักใหญ่แล้ว ไม่นานสองสาวทั้งสองก็เดินหายลับตาไป ส่วนฉันได้แต่โบกมือหยอยๆส่งพวกเธอนั่นแหละ
ฉันมองพวกเธอจนหายลับตาไปแล้วก้มมอง กล่องข้าวสีเหลืองไซส์มินิเพ้นท์ลายดอกทานตะวันสุดมุ้งมิ้งของตัวเองสลับกับหนังสือคณิตศาสตร์บนโต๊ะอย่างปลงตก ไหนๆก็ไหนๆแล้วเอาหนังสือไปนั่งติวด้วยจะเป็นไร ว่าแล้วก็คว้ากล่องข้าวและหนังสือเดินออกจากห้องไปโดยทันที
ถ้าถามว่าทำไมฉันไม่ไปกินที่โรงอาหารน่ะเหรอ..คำตอบก็คือฉันไม่ค่อยชอบที่ที่คนเยอะๆเท่าไร มันอึดอัดยังไงก็ไม่รู้บอกไม่ถูกเหมือนกัน ฉันจึงยึดสวนหย่อมหลังโรงเรียนไว้เป็นโรงอาหารส่วนตัว แถวนั้นไม่ค่อยมีใครไปซะเท่าไรหรอกเหมาะแก่การซ่องสุมเป็นที่สุด -.,-
และแล้วฉันก็หอบสังขารของตัวเองมาที่สวนหย่อมหลังโรงเรียนจนได้ โอเคมันเป็นสวนหย่อมที่มีหญ้าสีเขียวๆปูจนทั่วแต่ก็ไม่ได้รกอะไรมากเพราะมีคนมาตัดแต่งอย่างสม่ำเสมอ มีต้นไม้ใหญ่ๆหนึ่งแผ่กิ่งก้านสาขาครอบคลุมบริเวณและใต้ร่มไม้นั้นก็มีโต๊ะหินอ่อนประมาณ สามชุดตั้งเอาไว้ให้นั่งเล่น และมีหินน้อยใหญ่ปูไว้เป็นทางเดิน ไหนจะต้นไม้ดอกไม้อื่นๆอีกนับไม่ถ้วนนั่นอีก บอกเลยว่าสวนแห่งนี้มันช่างสวยงามยิ่งนัก ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมถึงไม่ค่อยมีใครมาที่นี่ -_-
นั่นถือว่าเป็นเรื่องดี(มั้ง)..
ฉันเดินผ่านสวนไปนั่งที่โต๊ะหินอ่อนชุดหนึ่งที่ตั้งด้านในสุดและวางกล่องข้าวและหนังสือลง จะว่าไปแล้วที่นี่ก็วังเวงใช้ได้เหมือนแหะ นี่ไม่ได้พูดเล่นนะที่นี่ค่อนข้างจะไกลหูไกลตาคนแถมยังอยู่ติดกับโรงเรียนฮวาซุนที่เขาลือกันต่างๆนานาว่าผีดุ ยังไงดีล่ะโรงเรียนนั้นสร้างมาตั้งสองร้อยกว่าปีแล้วนะ ผีมันจะดุก็เรื่องปกติออก
ผีมันคงไม่ออกมาตอนกลางวันแสกๆหรอกมั้ง T_T
“บู่..”
“กรี๊ดดดดดดดดด TOT” เสียงสุดสยิวดังข้างหูทำให้ฉันกรีดร้องแทบไม่เป็นภาษาและกระโดดโหยงออกมาโดยอัตโนมัติ ไปสู่ที่ชอบๆซะเถิด อย่ามาหลอกมาหลอนหนูเลยนะเจ้าคะ
“ฮะ..ฮะ..ฮ่าๆๆๆๆ”
เอ๊ะ..ผีหัวเราะได้ด้วยเหรอ =_=
เมื่อคิดได้ดังนั้นฉันจึงค่อยๆแยกนิ้วออกและส่องดูโลกภายนอกผ่านร่องนิ้วของตัวเอง แม้จะไม่ชัดเจนมากนักแต่ฉันก็เห็นเหมือนคนกำลังหัวเราะ ใช่คิดว่างั้นนะ น่าจะเป็นเด็กผู้ชายหัวสีน้ำตาลสว๊างสว่าง ผิวก็ขาวออร่าเปล่งประกายเลยทีเดียวที่สำคัญเขาก็ดูจะตัวเล็กไปนิดสำหรับผู้ชายน่ะนะ เอ..มันคุ้นๆยังไงก็ไม่รู้แหะ =_=
ยิ่งดูยิ่งคุ้นไปกันใหญ่..
และด้วยความอยากรู้อยากเห็นนี่เองฉันจึงตัดสินใจเอามือออกจากดวงตาของตน และสิ่งที่ฉันเห็นทำเอาช็อคสนิทไปกว่าสามวิเลยทีเดียว
บยอน แบคฮยอน หมอนั่นมาอยู่ที่นี่ได้ยังงายยยยยย TOT
“ฮ่าๆ เธอน่าจะเห็นหน้าตัวเองในตอนนั้นนะ”
พะงาบๆ =O=
“เฮ้! เธอเป็นอะไรน่ะทำหน้าอย่างกับเห็นผี”
ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงอ่ะ!
นี่ที่เขาบอกจะมาหานี่มาจริงๆเหรอ บ้าน่าทำไมโลกถึงชอบเล่นตลกกับชีวิตของฉันนักนะ T_T แต่ท่าทางของเขาวันนี้ดูแปลกไปจากครั้งล่าสุดที่พบกันมากโข เมื่อเช้านี่ยังประหลาด สติสตางค์ไม่เต็ม ทำตัวมุ้งมิ้ง หน้าเอ๋อ มึน มากถึงมากที่สุด มาตอนนี้เขากลับดูเป็นผู้เป็นคนมากขึ้น ท่าทางของเขาเหมือนเด็กหนุ่มกวนประสาทธรรมดาๆ ดูไปดูมาเหมือนติดเย็นชาด้วยซ้ำ ต่างกับคราวที่แล้วราวกับฟ้ากับแก่นโลกชั้นใน สรุปเขาจะเอายังไงกันแน่เนี่ย!
“จะจ้องอีกนานมั้ย”
“มะ..ไม่หรอก” ฉันตอบเสียงสั่นๆพลางก้มหน้าก้มตาเปิดหนังสืออ่าน โอ้ยยย มันต่างกับตอนนั้นจริงๆนะ ต่างมากราวกับเป็นคนละคนกันแหน่ะ
หรือนี่จะเป็นฝาแฝดของแบคฮยอน -_-
เขาถอนหายใจพรืดก่อนที่จะเดินอ้อมมานั่งตรงข้ามฉันและเอาคางเกยขอบโต๊ะเหมือนกำลังเซ็งจัด พอมาดูใกล้ๆแล้วหน้าเขานี่ช่างขาวใสน่าหยิกจริงๆนะ บางทีถ้าเขาไม่เป็นผู้ชายฉันอาจจะนึกว่าเขาเป็นทอมหน้าสวยอะไรทำนองนั้นมากกว่า ยิ่งตอนที่เขาทำหน้าตาอ้อนๆนี่น่ารักทำลายล้าง..นี่พูดเลย
แล้วนี่ฉันจะชื่นชมทำไมเนี่ย T///T
“ตรงนั้นข้าวใช่มั้ย ( ‘ ‘)”
“อือๆ นายหิวเหรอ”
“ใช่ หิวมากด้วย (‘^’)” เขาตอบพลางทำตาปิ๊งๆใส่กล่องข้าวสีเหลืองของฉันอย่างออดอ้อน กรี๊ดดดดด เมื่อกี้นายยังเป็นบุคคลเบื่อโลกอยู่ไม่ใช่ไหงตอนนี้มาเป็นหมาน้อยน่ารักไปซะแล้วเล่า T T
“เออ..นายจะกินก็ได้นะ”
“แบคฮยอน”
“เอ๊ะ..”
“ฉันชื่อแบคฮยอนไม่ใช่นาย”
ไม่ผิดแน่เขาคือบยอนแบคฮยอนตัวจริงเสียงจริงจ้า TOT
ฉันได้แต่ร้องไห้และดีดดิ้นในใจ ฉันอยากให้นายทำตัวเป็นคนปกติให้ได้ห้านาทีก็ยังดีนะแบคฮยอน ฉันไม่ได้ว่าอะไรนอกจากเปิดฝาข้าวกล่องที่มีซูชิหลากหลายหน้าอัดรวมกันมากมายหลากสีสันมาแบ่งให้เขา
แทอยากจิครายยย T_T
“ฮะ..ฮ่าๆ เธอนี่โก๊ะดีเหมือนกันแหะ” แบคฮยอนหัวเราะร่าในขณะที่ใช้ตะเกียบคีบข้าวปั้นเข้าปากเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย “ขอโทษ..แค่อยากพิสูจน์อะไรหน่อยน่ะ”
“..”
“เออ..ตอนที่เจอกันครั้งแรกขอโทษนะที่ทำอะไรแปลกๆใส่เธอ”
“..”
“เอาเป็นว่าเธอก็อย่าถือสาเลยก็แล้วกัน”
“..”
“เอาเป็นว่าตอนนี้เราไม่เคยรู้จักกัน และเราเพิ่งเจอกันเป็นครั้งแรก”
นี่เขาพูดเรื่องอะไรเนี่ย!!
“ฉันชื่อบยอนแบคฮยอน เกรดสิบสองโรงเรียนฮวาซุนแล้วเธอล่ะ”
“เออ..คิมแทยอน เกรดสิบสองโรงเรียนมุนฮวาง”
“อายุเท่ากันสินะ” ประโยคนี้เขาพูดกับตัวเองเบาๆเหมือนเป็นการพึมพำมากกว่าแล้วคีบข้าวปั้น(ของฉัน)เข้าปากต่อ โอเคอย่างน้อยฉันก็รู้ว่าเขาไม่ได้ประสาทกลับเหมือนที่ฉันเจอตอนแรกน่ะนะ “ยินดีที่ได้รู้จักนะ”
แต่เขาจะแสดงทำเพื่ออะไร อันนี้แหละที่สงสัย =_=
“เธอไม่กินด้วยเหรอ อร่อยนะ”
“เออ..ไม่ล่ะขอบใจนะที่ถาม”
สรุปนั่นมันข้าวของใครกันแน่!!..
“แล้วเธอทำอะไรอยู่น่ะ อ่านหนังสือสอบเหรอ” แบคฮยอนถามพลางชะโงกหน้ามาอ่านหนังสือบนโต๊ะและเคี้ยวซูชิหน้าไข่กุ้งไปด้วย
“อาหะ..อ่านทบทวนเนื้อหานิดหน่อยน่ะ”
“งั้นเธอคงจะเรียนเก่งน่าดูเลยสินะ”
ฉึก!!
แทงใจดำอย่างแรงงงง T^T
“ความจริงก็ไม่หรอก” ฉันตอบอ้อมแอ้ม มันคงตลอดมากเพราะเรื่องนี้มันเรียนตั้งแต่ต้นเทอมแล้วแต่ฉันยังไม่เข้าใจนี่สิ รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่น
“อย่าบอกนะว่าไม่เข้าใจเลยมานั่งเรียนเอง”
เขามีตาทิพย์หรือไงนะ -_-
“ฮ่าๆ ใช่สินะ” เขาหัวเราะร่าอย่างไม่ปิดบังเลยสักนิด เพิ่งรู้แหะว่าเขาเป็นคนมีอารมณ์ขัน เข้าใจยากจริงแหะผู้ชายคนนี้ “ไหนเดี๋ยวสอนให้เอามั้ย”
“ห๊ะ!!”
“ไม่ต้องตกใจขนาดนั้นก็ได้ ตอบแทนเรื่องข้าวกล่องไง”
นั่นสินะ..
“เอานี่ๆ มาเลยเดี๋ยวอธิบายให้ฟังเองมันก็เป็นแบบ..”
แบคฮยอนคว้าหนังสือไปและเริ่มเปิดฉากอธิบายทันที เวลาเขาทำหน้าจริงจังมันช่างมีเสน่ห์มากจริงๆนะ เขายังคงอธิบายต่อไปอย่างไหลลื่นไม่มีสะดุดท่าทางเขาคงเก่งมากแหงๆ น่าแปลกที่ฉันสามารถเข้าใจเนื้อหาเหล่านั้นได้อย่างรวดเร็วทั้งที่ให้โซยอนมาอธิบายถึงสามรอบ และคริสอีกหนึ่งรอบ ก็ยังไม่เข้าใจเท่าแบคฮยอนมาอธิบายเลย เขาสามารถทำให้คณิตศาสตร์อันน่าเบื่อกลายเป็นเรื่องสนุกๆไปซะอย่างนั้น สงสัยเขาคงชอบมันมากถึงได้ดูมีความสุขแบบนั้น
ตุ้ง..ตุ่ง..ตุ้ง..ตุ่ง
“เสียดายจัง ฉันมีนัดนี่นาไปก่อนนะเธอเข้าใจใช่มั้ย”
“..”
“แทยอน”
“..”
“แทยอน!”
“อื้อๆๆๆ เข้าใจ”
“เธอนี่มันโครตโก๊ะจริงๆเลย ให้ตายสิ” เขาพูดเหมือนบ่นกับตัวเอง ให้ตายสิฉันหลุดไปขนาดนั้นเลยหรือไง น่าอายที่สุด T_T “งั้นฉันกลับก่อนนะ หวังว่าจะได้เจอกันอีก”
“อื้อ”
กว่าฉันจะติดสินใจพูดออกไปแบคฮยอนก็หายไปจากตรงนี้เรียบร้อยแล้ว ท่าทางเขาจะรีบอย่างที่ว่าจริงๆนั่นแหละ ฉันได้แต่ถอนหายใจและกลับมานั่งที่เดิมในกล่องยังเหลือซูชิอยู่ประมาณสามสี่ชิ้นเห็นจะได้ ท่าทางเขาคงจะเหลือเอาไว้ให้ฉันล่ะมั้ง จะว่าโชคดีหรือโชคร้ายดีนะที่ได้เขามาเป็นเพื่อนอีกคนเนี่ย
แต่ก็หวังว่าเราจะได้เจอกันอีกครั้งนะ..แบคฮยอน
____________________________________________________
กลับมาแล้วนะคะมิตรรักนักอ่านทุกท่าน ลงช้ามากเลยใช่มั้ย T_T
ขอโทษจริงๆค่ะพอดีเปิดเทอมแล้วงานรัดตัวมากเหมือนงูเลย ฝนก็เลยอัพช้ามากกกกกกก
สารภาพเลยว่าตอนนี้แต่งเสร็จนานแล้ว แต่มัวนั่งแก้สำนวนปรับนู่นนี่นั่นจนออกมาอย่างที่เห็น
นิสัยแทแทเปลี่ยนหรือเปล่า? ถ้าใช่ก็ขอโทษด้วยนะเจ้าคะคือเรื่องนี้มีนางเอกสามคน
แถมแต่ละคนมุมมองก็ไม่เหมือนกันด้วย มีสับสนบ้างอย่างว่ากันเนอะ ถถถถถว์
บอกแล้วไงว่าแบคฮยอนไม่ได้เป็นอย่างที่เราเห็น และขอบอกเลยว่ารีดคงต้องสับสนกับตัวตนของเจ้าชายสี่มิติคนนี้ไปอีกนาน
เพราะเป็นตัวละครที่ค่อนข้างมีความซับซ้อนอยู่พอสมควร งั้นก็ติดตามต่อไปว่าเขาผู้นี้แท้จริงเป็นเช่นไร #โดนยัน
ตอนหน้าอาจมาช้านิดหน่อยตามกำลังปั่นของไรต์ แต่จะไม่ให้รอนานอีกแล้วสัญญาเลย TOT
ความคิดเห็น