คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ♔ HIDDEN 01 : : น้องเหมียวจอมป่วน
HIDDEN
[CH .03 :: น้องเหมียวจอมป่วน ]
[Seohyun’s part]
“ยัยซอ ยัยซอ ซอฮยอน!”
“ห๊ะ.ห๊ะ”
ฉันสะดุ้งสุดตัวเมื่อจู่ๆ เสียงหวานของเพื่อนสนิทและเพื่อนร่วมชมรมของฉันอย่าง คริสตัล หรือ ซูจอง ตะโกนเรียกข้างหูนี่เองฉันได้แต่หัวเราะแห้งๆให้กับเธออย่างรู้สึกผิด คริสตัลส่ายหัวเล็กน้อยอย่างเหนื่อยใจก่อนที่จะหันไปสนใจกับโน้ตดนตรีในมือของตัวเองต่อไป
คริสตัลเป็นผู้หญิงหน้าตาสวยเก๋ที่สุดคนหนึ่งเท่าที่ฉันเคยรู้จักมา หน้าตาของเธอไม่ได้มีส่วนบ่งบอกว่ามันน่ารักตามวัยของเธอเลยแม้แต่นิดเดียว ตรงข้ามมันออกจะกระเดียดไปทาง สวย ซะมากกว่าจะว่าอย่างไรดีล่ะ เคยได้ยินประโยคที่ว่า ‘สวย เริด เชิด หยิ่ง’ ไหมล่ะนั่นแหละตัวเธอ
“เป็นอะไรมากหรือเปล่าซอเหม่อบ่อยจัง” คริสตัลวางโน้ตในมือลงก่อนที่จะหันมาถามฉันด้วยความเป็นห่วงซึ่งฉันก็ยิ้มและส่ายหน้าแทนตอบทั้งหมดจากนั้นจึงโน้ตมาอ่านต่อ
อ้อ..ฉันชื่อ ซอจูฮยอน แต่เพื่อนๆและครอบครัวจะติดเรียกซอฮยอนมากกว่า ฉันเป็นนักเรียนไฮสกูลเกรดสิบของโรงเรียนฮวาซุนที่เดียวกับคริสตัลนี่แหละ นอกจากนั้นฉันยังเป็นสมาชิกของชมรมประสานเสียงของโรงเรียนอีกด้วยและตอนนี้ฉันและคริสตัลเรากำลังฝึกร้องเพลงสำหรับการแข่งขันที่จะมาถึงในอีกไม่กี่อาทิตย์ข้างหน้านี้
“ซอก็เป็นแบบนี้ซะทุกทีฉันล่ะเซ็งจริงๆ” คริสตัลบ่นงึมงำเป็นหมีกินผึ้ง
“ก็ฉันไม่เป็นอะไรจริงๆนี่นา”
หลังจากที่ฉันพูดจบคริสตัลก็พ่นลมหายใจออกทางจมูกเสียงดังก่อนจะหยิบน้ำในแก้วขึ้นมาดื่มหมดแก้วภายในอึกเดียว เห็นเธอสวยเพอร์เฟคแบบนี้แต่จริงๆแล้วคริสตัลค่อนข้างนิสัยเด็กพอสมควรรายนี้งอแง ขี้งอนอย่างกับอะไรดี
“เอาน้ำเพิ่มไหมเดี๋ยวไปยกมาให้”
“ไม่ต้องก็ได้ซอลำบากเปล่าๆ”
“เอาน่า..ฉันจะให้อาหารกงจูพอดีเดี๋ยวยกมาให้เลยก็แล้วกัน”
“ตามใจก็แล้วกัน” เมื่อไม่มีทางเลือกคริสตัลจึงยอมให้ฉันไปแต่โดยดี
ฉันผุดลุกขึ้นจากโซฟาและเดินเข้าไปในครัวสายตาก็สอดส่องหากงจูไปด้วย เออ..หมายถึงแมวเปอร์เซียที่ฉันเลี้ยงไว้น่ะมันเป็นแมวตัวสีขาวทั้งตัว มีนัยน์ตาสีฟ้าอ่อนสดใส และที่สำคัญมันตัวอ้วนจ้ำม้ำเอามากๆด้วยแหละ ตัวนี้ฉันได้มาจากเพื่อนของคุณพ่อเมื่อประมาณสองปีที่แล้วและฉันก็ชอบมันเอามากๆเสียด้วย
“เมี้ยวๆๆ กงจูได้เวลาหม่ำข้าวแล้วนะ”
หลังจากที่เทอาหารแมวสำเร็จรูปใส่ชามของกงจูแล้วฉันก็ส่งเสียงเรียกเจ้าแมวจ้ำม้ำให้ออกมากินอาหารแมวในชามข้าวของมัน แต่ก็ไร้วี่แววของเจ้าเหมียวตัวสีขาวจะออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว
แปลกจริงปกติพอเรียกแล้วจะรีบวิ่งออกมาทันทีเลยนี่นา..
หรือบางทีมันอาจกำลังหลับอยู่ก็ได้..
ฉันสลัดเรื่องของกงจูออกจากหัวชั่วคราวก่อนที่จะเดินไปหยิบเหยือกน้ำบนเคาร์เตอร์ในครัวยกออกไปให้คริสตัล ถึงวันนี้จะเป็นวันหยุดแต่พ่อกับแม่ของฉันก็ไม่ได้หยุดไปด้วยพวกท่านทั้งสองยังคงยุ่งเรื่องงาน ไหนจะกิจการรีสอร์ทของที่บ้าน ไหนจะงานประจำที่บริษัทประกันอีก ฉันว่าพวกท่านต้องเหนื่อยมากแน่ๆ
ฉะนั้นฉันจะไม่งอแงให้พวกท่านลำบากใจ..
“มาแล้วจ้ะคริสตัล”
“ขอบใจมากนะ โอ้..ซอฮยอนฉันกำลังจะบ้าตายเพราะโน้ตพวกนี้อยู่แล้วนะ” คริสตัลบ่นงุ้งงิ้งเป็นเด็กสี่ขวบก่อนที่จะเอาซุกลงกับหมอนอิงอย่างงอแง
“ทำไงได้ล่ะก็จวนจะแข่งแล้วนี่นา” ฉันพูดปลอบใจเพื่อนรักและพยายามดึงหมอนอิงออกจากคริสตัลแต่เธอก็ยังยื้อมันไว้อยู่ดี
“โถ่เอ๊ย..แบบนี้ฉันจะเอาเวลาที่ไหนไปสวีทกับพี่มินโฮของฉันกันเล่า” คริสตัลยังคงบ่นต่อไปทั้งที่หน้ายังซุกกับหมออิงอยู่
คริสตัลมีแฟนแล้วล่ะเขาชื่อ ชเว มินโฮ เป็นรุ่นพี่ของพวกเราปีหนึ่งเรียนอยู่ที่โรงเรียนมุนฮวาง ซึ่งเป็นโรงเรียนที่อยู่ติดกับโรงเรียนของพวกเราแค่กำแพงกั้นพวกเขาสองคนคบกันมาได้ประมาณสามเดือนแล้วล่ะ พี่มินโฮเป็นฝ่ายมาจีบคริสตัลก่อนด้วยและดูเหมือนเขาจะเป็นผู้ชายเพียงไม่กี่คนที่รับมือกับคริสตัลเวลาเธองอแงได้ อีกอย่างคือเธอหวงแฟนคนนี้มากชนิดที่ว่าไม่ยอมให้เขาเฉียดใกล้ผู้หญิงหน้าไหนเลยทีเดียว
“อาทิตย์ที่แล้วก็เพิ่งไปเดทด้วยกันไม่ใช่หรือไง” ฉันแอบค้อนเพื่อนนิสัยเด็กเล็กน้อย
“ซออ่า..เธอไม่มีวันเข้าใจความรู้สึกของฉันหรอก”
นั่นก็ถูกของคริสตัลฉันยังไม่มีแฟน ถึงแม้จะมีรุ่นพี่และเพื่อนผู้ชายในรุ่นเดียวกันพยายามมาจีบฉันก็ตามแต่ฉันก็ยังไม่รับรักใครสักคน อย่าหาว่าฉันโลกสวยเลยนะนั่นอาจเป็นเพราะฉันรอคนที่ใช่ที่สุดผ่านเข้ามาในชีวิตของฉันกระมัง ก็นะถ้าจะรักใครสักคนก็ต้องเลือกดูให้ดีนี่นา
แต่ก็ใช่ว่าฉันจะไม่เข้าใจความรู้สึกของคนมีความรักเลย..
ติ๊ด..ติ๊ด
“แป๊ปนึงนะซอ โทรมาหาอะไรพี่เจสตัลกำลังซ้อมอยู่นะ!” เธอหันมาพูดกับฉันแต่ประโยคหลังเธอกรอกเสียงใส่โทรศัพท์อย่างหงุดหงิดอย่างถึงที่สุดก่อนที่คริสตัลจะลุกออกไปคุยโทรศัพท์ที่อื่น
เท่าที่ฟังมาฉันพนันได้เลยว่าคนที่โทรมาหาคริสตัลคงไม่พ้น เจสสิก้า หรือ ซูยอน พี่สาวแท้ๆของเธอซึ่งแกกว่าพวกเราถึงสองปี ให้พูดจริงๆฉันก็ไม่ค่อยรู้จักพี่เขามากนักหรอกแต่ฟังจากที่คริสตัลบ่นให้ฟังพี่เจสสิก้าเธอค่อนข้างเข้มงวดพอสมควรเลยแหละ
คิดว่านะ..
เสียงหวานของคริสตัลดังคงดังลอดออกมาเรื่อยๆ ดูเหมือนเธอและพี่สาวกำลังเถียงกันอยู่นะ พี่เจสสิก้าเธอคงเป็นห่วงน้องตามประสาพี่สาวนั่นแหละส่วนคริสตัลเธอก็หัวดื้อไปสักหน่อย และนิสัยที่ไม่ลงตัวกันนี่เองทำให้พวกเธอค่อนข้างจะมีปากเสียงกันบ่อยครั้งแต่เชื่อเถอะพวกเขาไม่ได้โกรธเกลียดอะไรกันหรอก
บางทีฉันก็แอบอิจฉาอยู่นิดๆนะ..
จะว่าอย่างไรดีล่ะคือฉันเป็นลูกคนเดียวไง พ่อกับแม่ก็ทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อตไม่ค่อยมีเวลาให้ฉันเสียเท่าไรนักหรอก ยอมว่าบางครั้งฉันก็รู้สึกเหงาๆบ้างแต่ฉันก็เข้าใจกับสภาพแวดล้มทางสังคมของตัวเองและพยายามทำตัวให้ชินกับมัน
แต่มันยากพอสมควรเลยล่ะ..
“มาแล้วซอรอนานหรือเปล่า” ฉันสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อคริสตัลเดินเข้ามาตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่ทราบฉันฉีกยิ้มและส่ายหัวแทนคำตอบ
“เออนี่ซอคือว่าฉัน..”
“มีอะไรหรอคริสตัลหน้าเครียดเชียว” ฉันหรี่สายตาถามคริสตัลเมื่อเธอมีท่าทางลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆเหมือนจะรวบรวมความกล้าอะไรทำนองนั้น
“คือพี่เจสเรียกตัวด่วนน่ะ ฉันขอตัวกลับก่อนนะ!!”
“อือๆ ถ้ามันด่วนมากนักก็กลับเถอะ” ฉันตอบเธอด้วยความสัตย์จริง
“แต่ว่าวันนี้พ่อแม่เธอไม่อยู่ไม่ใช่หรอ แล้วเธอจะ..”
“ฉันอยู่คนเดียวได้” ฉันสวนขึ้นมาก่อนที่เพื่อนสาวคนสวยจะพูดจบ “อีกอย่างฉันไม่ได้อยู่คนเดียวซะหน่อยกงจูก็อยู่ด้วย”
“แต่ว่า..”
“ไม่เป็นไรๆเธอไปเถอะ”
“งั้น..เออฉันไปแล้วนะ บาย”
“อื้ม บาย ^^”
ฉันโบกมือให้กับคริสตัลเล็กน้อยสีหน้าของเธอยังดูเหมือนเป็นห่วงฉันอยู่บ้าง แต่ก็ยอมเดินออกจากบ้านไปแต่โดยดี ฉันลอบถอนหายใจให้กับตัวเองเล็กน้อยก่อนจะปิดประตูรั้วบ้านและคล้องโซ่เอาไว้อย่างแน่หนา ก่อนจะเดินเข้ามาในบ้านด้วยจิตใจห่อเหี่ยวเล็กๆ ถึงจะบอกไปว่าไม่เป็นไรแต่ที่จริงแล้วฉันเป็นสุดๆเลยล่ะ
ต้องอยู่คนเดียวอีกแล้วสินะ..
ฉันถอนหายใจซ้ำอีกรอบก่อนที่จะมองดูสภาพของบ้านคอนกรีตราคาแพงหูฉี่ หลังจากที่คริสตัลออกไปบ้านที่เคยเงียบเหงาอยู่แล้วกลับเงียบมากเข้าไปอีกจนฉันอดใจหายไม่ได้ ถึงแม้จะเคยอยู่คนเดียวแบบนี้บ่อยครั้งก็จริงแต่ฉันก็ไม่อาจทำตัวให้คุ้ยเคยกับมันได้เลยแม้แต่นิดเดียว
เอาเถอะงอแงไปก็ไม่ได้อะไร..
ฉันปลอบใจตัวเองในขณะที่เดินเข้าไปหากงจู บางทีเจ้าแมวจ้ำม้ำตัวนี้อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีที่จะทำให้ความเงียบเหงาในบ้านหลังนี้ลดลงไปบ้าง อย่างน้อยฉันจะได้ไม่ฟุ้งซ่านมากไปกว่าที่เป็นอยู่นี้ไงล่ะ คิดแล้วก็เดินต่อไปและกวาดสายตาหากงจูไปด้วย
และฉันก็ต้องประหลาดใจเมื่อไม่พบวี่แววของสิ่งมีชีวิตใดๆในบ้านเลย ทั้งห้องนอนของฉัน ห้องนั่งเล่น บนฟูกของมัน หรือแม้แต่สวนหลังบ้าน ฉันพยายามมองโลกในแง่ดีบางทีมันอาจอยู่ในครัวก็เป็นได้
และฉันก็พบว่าตัวเองคิดผิด..
ภายในห้องครัวแห่งนี้ไม่มีวี่แววของแมวอยู่เลยแม้แต่นิดเดียว ซ้ำชามข้าวของกงจูยังมีอาหารที่ฉนเทได้ให้อยู่เต็มปี่ราวกับยังไม่มีสิ่งใดไปแตะต้องมันเลย ซึ่งมันผิดวิสัยเอามากๆ จะว่าไงดีล่ะแบบว่ากงจูเป็นแมวที่ค่อนข้างตะกละเรื่องอาหารการกินมันไม่เคยพลาด ถึงแม้จะอยู่ที่ใดก็ตามหากมันหิวก็จะเข้ามาสำรวจภายในห้องครัวทันที
ชักใจไม่ดีแล้วสิ..
“กงจู!! อยู่ไหนน่ะ เมี้ยวๆๆๆ ออกมาเดี๋ยวนี้นะ” ฉันพยายามทำใจแข็งตะโกนเรียกกงจูเสียงดังกึกก้องราวกับคนบ้าแต่ผลลัพธ์คือ..
เงียบ..
ไร้เสียงตอบรับใดๆ..
“กงจู!! เมี้ยวๆๆๆๆ” ฉันตะโกนเรียกซ้ำอีกสักรอบ บอกตรงๆตอนนี้ฉันเริ่มใจไม่ดีแล้วนะ มันไม่เคยเงียบแบบนี้เลย ฉันยอมรับว่ากำลังกลัว..กลัวว่ากงจูจะเป็นอะไรไปจริงๆ มันอยู่กับฉันมานานจนฉันผูกพันกับมันเหมือนเป็นพี่น้องเลยล่ะ
“กงจู! กงจู!!” ฉันตะโกนไปพลางวิ่งไปพลางหามันรอบบ้านราวกับคนบ้า
ติ๊ง..ต่อง..ติ๊ง..ต่อง
เสียงออดหน้าบ้านทำให้ฉันชะงักชั่วคราว อีกใจหนึ่งก็อยากเดินหากงจูต่อแต่จิตใต้สำนึกของฉันกลับบอกว่า ‘เธอควรไปเปิดประตูซะ’ ฉันจึงต้องเดินไปเปิดประตูรั้วบ้านอย่างเสียมิได้ ทั้งที่จิตใจก็ห่อเหี่ยวเสียเหลือเกิน
แครก..
“ว่าไงคะ..”
ฉันถึงกับตะลึงเมื่อเปิดประตูรั้วมาพบเจ้าแมวอ้วนตัวสีขาวผูกริบบิ้นสีทองถูกยื่นมาในระดับสายตา ฉันจำแมวตัวนี้ได้เพราะมันก็คือกงจูนั่นเอง ฉันรีบคว้าแมวตรงหน้ามากอดรัดฟัดเหวี่ยงทันทีโดยไม่รีรอ โอ๊ยยย อยู่นี่เองคิดถึงแทบแย่
“ฮือ..กงจูไปไหนมาห๊ะรู้มั้ยว่าฉันคิดถึงแทบแย่” ฉันแกล้งดุกงจูถึงจะรู้ว่ามันฟังไม่รู้เรื่องแต่ฉันก็อยากระบายบ้างนี่นา แต่มันกลับไม่สนใจซ้ำยังมาเลียหน้าฉันออดอ้อนอีกต่างหาก
ไม่ให้อภัยเด็ดขาด..
“เรานี่ท่าจะรักมันมากๆเลยเนอะ” เสียงนุ่มทุ้มที่เอ่ยติดตลกเล็กน้อยทำให้ฉันต้องละสายตาจากกงจู ขึ้นไปสบตากับเจ้าของเสียงนั่นแทนเขาสูงกว่าฉันไม่กี่เซ็นต์แต่ฉันก็ต้องเงยหน้ามองเขาอยู่ดี
“มีอะไรติดหน้าพี่เหรอมองตาค้างเชียว” คนตัวสูงถามและใช้นิ้วของตัวเองแกะๆเกาๆไปทั่วใบหน้าเหมือนกำลังจะหาสิ่งแปลกปลอมที่ติดบนใบหน้าอะไรทำนองนั้น
“มะ..ไม่มีค่ะ”
“อ้าวงั้นเหรอ”
เขาหัวเราะแห้งๆให้กับตัวเองเป็นจังหวะเดียวกับที่กงจูกระโดดลงจากอ้อมกอดของฉันและวิ่งไปเอาหน้าถูกับขาของเขาอย่างออดอ้อน คนมีน้ำใจหัวเราะร่าก่อนที่จะก้มลงอุ้มเจ้าแมวขี้อ้อนมากอดเอาไว้อย่างเอ็นดู ช่างเป็นภาพที่อบอุ่นชวนให้กรี๊ดจริงๆนั่นแหละ
เขาคือ เสี่ยว ลู่หาน เป็นผู้ชายที่มีใบหน้าน่านักน่าชังคนหนึ่งเลยทีเดียว กล้าพูดได้เลยว่าพี่เขาสวยกว่าผู้หญิงบางคนเสียอีก แต่ในขณะเดียวกันเหมือนเขาจะไม่ค่อนชอบให้ใครขุดประเด็นนี้มาล้อเลียนน่ะนะ เขาเป็นเพื่อนบ้านของฉันเองแก่กว่าฉันสักประมาณสองปีเห็นจะได้ คุณแม่ของพี่เขาและคุณแม่ของฉันพวกท่านค่อนข้างสนิทกัน ทำให้เราสองคนสนิทกันไปด้วย ฉันเคารพพี่เขาเหมือนพี่ชายคนหนึ่งในขณะที่เขาเองก็เอ็นดูฉันเหมือนน้องสาวของตนเช่นกัน
“ซอ..”
“ซอฮยอน!”
“คะ..คะ”
ดูเหมือนว่าฉันจะเหม่อนานไปหน่อยพี่ลู่หานที่กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับกงจูจึงหันมาให้ความสนใจฉันแทน คิ้วสวยๆของเขามุ่นลงเล็กน้อยอย่างไม่เข้าใจก่อนที่จะส่งกงจูมาให้ฉันอุ้มต่อ
“เป็นอะไรมากมั้ยเนี่ยเราเหม่อเชียว” พี่เขาถามด้วยน้ำเสียงและท่าทางเป็นห่วงเป็นใย “ไม่สบายหรือเปล่า..บอกคุณป้ายัง..ไปหาหมอหรือยัง??” และเขาก็ถามรัวเป็นชุดๆจนฉันอดขำไม่ได้
“ไม่ค่ะ..ซอไม่เป็นไร”
“มันน่าขำนักหรือไง พี่ก็อุตส่าห์เป็นห่วง” เขาพูดติดตลกเล็กน้อยแต่ฉันก็สามารถดูออกว่านั่นแฝงไปด้วยความสบายใจ ไม่รู้สินะฉันว่าคนอย่างเขาน่ะมองออกง่ายจะตายไป
ก็นะ..
“แล้วนี่เราอยู่คนเดียวเหรอ..” พี่ลู่หานถามพร้อมชะโงกหน้าเข้าไปดูในบ้านก่อนที่จะหันมาคุยกับฉันต่อ “ให้พี่อยู่เป็นเพื่อนไหม”
ตึกตัก..ตึกตัก
โอเคยอมรับว่าตอนนี้หัวใจฉันเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาข้างนอก ใบหน้าร้อนผ่าวไปหมด ถึงแม้จะรู้ว่าเขาถามไปเพราะเป็นห่วงในฐานะพี่ชายคนหนึ่งแต่มันก็อดใจเต้นไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละ ฉันพยายามเรียกสติของตัวเองกลับมาเพราะในเวลานี้หน้าฉันมันคงแดงมากๆแล้วแน่เลย
“ไม่เป็นไรค่ะ..วันนี้คุณพ่อท่านบอกจะกลับมาทานข้าวด้วยน่ะค่ะ”
นั่นฉันโกหก..พ่อไปดูงานที่ญี่ปุ่นสามวันต่างหาก
ให้ทำไงได้ฉันไม่อยากให้เขาเป็นห่วงนี่นา..
“งั้นเหรอ..ดีจังเลยนะ” เขากล่าวพร้อมคลี่ยิ้มอย่างน่ารักและยื่นมามายีหัวฉันเล่นจนผมฟูยุ่งไปหมดเหมือนกับทุกครั้ง ใช่ว่าฉันชอบหรอกนะแต่ต่อให้ว่าอะไรเขาก็ยังทำอยู่ดีจนฉันขี้เกียจจะบ่นแล้วล่ะ
“งั้นซอขอเข้าบ้านก่อนนะคะ..”
“เดี๋ยวก่อนสิ” พี่ลู่หานเรียกฉันก่อนที่จะเข้าบ้าน เขายิ้มอย่างอบอุ่นมาให้พร้อมดึงขาข้างหนึ่งของกงจูในอ้อมกอดฉันไปและจัดการผูกริบบิ้นสีขาวที่มีช็อกโกแลตหนึ่งชิ้นห้อยเป็นจี้เอาไว้ อย่างมีคามสุขเสียเหลือเกิน ก่อนที่จะกล่าวต่อและคำนั้นสามารถทำให้ฉันใจเต้นแรงได้อย่างง่ายดาย
“กงจูฝากช็อกโกแลตนี่ให้เจ้านายขี้เหงาของแกด้วยนะ..” เขาพูดกับแมวตัวอ้วนในอ้อมกอดฉันแต่หันมายิ้มให้กับฉันแทน เขาหมุนตัวเดินกลับไปที่บ้านของเขาซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ทิ้งให้ฉันยืนตาค้างมองเขาอยู่อย่างนั้น..
ฉันคว้าขาข้างที่ผูกริบบิ้นของกงจูมาดูช็อกโกแลตวาเลนไทน์แบบที่นิยมกันในหมู่วัยรุ่นทั่วไป ถูกมัดกับริบบิ้นสีขาวขนาดเล็กเหมาะกับอุ้งเท้าของแมวอย่างน่ารัก ฉันค่อยๆแกะช็อกโกแลตห่อนั้นออกมาไว้ในมือด้วยหัวใจพองโต
ทำไมฉันจะไม่เข้าใจล่ะคริสตัล..ก็ลู่หาน..เขานี่ไงคือความรักของฉัน...
_________________________________________________
กลับมาอัพแล้วนะคะคราวนี้ลงทีเดียวร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่มีการรออย่างแน่นอน (หัวเราะ)
ฝนไล่อ่านคอมเม้นท์ของทุกๆคนแล้วนะคะ คือแบบปริ่มมากอย่างน้อยก็มีคนอ่านฟิคกากๆของเรา ถถถถว์
ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอิแบคบ้า กร้ากกก อ่านไปก็ขำไปซึ่งมันก็บ้าจริงๆนั่นแหละ -*-
แต่ฝนขอบอกไว้เลยว่าอย่าตัดสินทุกอย่างเพียงแค่ตอนเดียว เพราะคาแร็คเตอร์ของแบคฮยอนซับซ้อนกว่าที่เห็น
สิ่งที่คุณเห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เขาเป็น >_< : คำคมสุดๆ
จะบอกว่าเท่าที่แต่งมาพาทซอฝนแต่งได้ลื่นไหลสุดๆแล้ว -/- ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
อาจเป็นเพราะเราชอบโมเม้นท์แอบรักแบบซอฮยอนและคาแร็คเตอร์ของพี่หาญก็เป็นได้ >< มาคราวนี้ฝนท็อคยาวเนาะ 55555
ความคิดเห็น