คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ♔ HIDDEN 02 : : สภานักเรียนฮาเฮ [100%]
[Yoona’s part]
บางครั้งชีวิตมันก็ไม่ง่าย...
ฉันเพิ่งมารู้ซึ้งความหมายที่แท้จริงของวลีนั่นก็วันนี้แหละ!
ฉันแอบบ่นอยู่ในใจระหว่างที่กำลังเดินไปยังห้องประชุมเล็กซึ่งเป็นที่สิงสถิตของเหล่าคณะกรรมการนักเรียนทั้งหลาย นำโดย ชเว ซูยอง ประธานสาวจอมโหดชนิดที่ว่าฝ่ายปกครองยังต้องชิดซ้าย คิม มยองซู หรือ แอล รองประธานหนุ่มสุดฮอตแต่เครื่องหน้าไม่เคยกระดิกแม้แต่มิลเดียว บยอน แบคฮยอน เด็กหนุ่มไอคิวสูงหนึ่งร้อยแปดสิบแต่นิสัยประหลาดผิดมนุษย์ ปาร์ค จียอน สาวสวยพ่วงด้วยตำแหน่งดาวโรงเรียนจอมพลังผู้ไม่เคยห่วงภาพลักษณ์ คู ฮาร่า สาวแว่นระเบียบจัดผู้ดำเนินชีวิตบนหลักเหตุและผล สุดท้าย..
ฉัน อิม ยุนอา เด็กกิจกรรมของโรงเรียนที่ใครๆต่างก็ออกปากว่าดูปกติที่สุดในกลุ่มแล้ว นี่ฉันไม่ได้ยอตัวเองเลยนะ เขาพูดกันอย่างนี้จริงๆนั่นคงเป็นเพราะฉันดูเข้าถึงง่ายอย่างน้อยก็ไม่จ้องจับผิดใครแบบซูยอง หรือแผ่ไอเย็นทุกคนเหมือนแอล จียอนด้วยความที่หล่อนเป็นดาวโรงเรียนหลายคนจึงคิดว่าเธอหยิ่ง (ทั้งที่นิสัยก็ช่างแปรผกผันกับหน้าตา) ส่วนแบคฮยอนกับฮาร่าก็ดูพวกเขาจะประหลาดเกินกว่าจะเสวนารู้เรื่อง -_-
“มาช้าจังเลยเหม่งน้อย” ทันทีที่ฉันเปิดประตูเข้ามาก็พบร่างระหงของจียอนกล่าวทักทายฉันตามปกติในมือของเธอถือถุงมันฝรั่งทอดที่เปิดทิ้งเอาไว้และคอยหยิบขนมในห่อกินอยู่เสมอ
“มีใครบางคนชิ่งมาก่อนน่ะสิ”
“แหม ยุนอย่างอนสิฉันมีธุระด่วนนี่นา”
“ธุระด่วน? อย่างเธอเนี่ยนะถ้าเป็นฮาร่าฉันจะเชื่ออยู่หรอก”
ฉันพูดพลางหันไปทางสาวแว่นที่กำลังอ่านนวนิยายสืบสวนอยู่บนเก้าอี้ประจำของเธอ เจ้าตัวหันมาและดันกรอบแว่นขึ้นเล็กน้อยเป็นเชิงตำหนิที่พาดพิงถึงหล่อน แต่ฉันกลับยักไหล่อย่างแยแสและเดินไปนั่งที่เก้าของตัวเองใกล้ๆกับจียอน
อย่าว่าอย่างนั้นเลย..ฉันนะดูจะสนิทกับฮาร่าและจียอนที่สุดแล้วถึงไลฟ์สไตล์และนิสัยจะต่างกันแต่พวกเราก็เข้ากันได้ (ประหลาดดีแหะ) นั่นคงเป็นเพราะเราสามคนอยู่ห้องเดียวกันด้วยนั่นแหละไม่สิแบคฮยอน..หมอนั่นก็อยู่ห้องเดียวกับพวกเราแต่ก็ไม่ยักกะสนิทกับหมอนั่นเลยแม้แต่นิดเดียว -_-
“แล้วคนอื่นๆยังไม่มา?”
“ค่ะ..ซูยองเธอไปเดินตรวจตรารอบโรงเรียนเมื่อซักครู่นี้เอง มยองซูดูเหมือนว่าวันนี้ห้องควีนจะมีสอบเก็บคะแนนเขาอาจจะมาล่าช้าสักเล็กน้อย ส่วนแบคฮยอน..เฮ้อ เขาโดดประชุมเหมือนเดิมค่ะ”
ฮาร่าละสายตาจากหนังสือมาตอบฉันอย่างละเอียดยิบสมกับที่เธอเป็นนักเรียนดีเด่นและทำหน้าที่เป็นเหมือนเลขานุการประจำสภาฯอีกด้วย ฉันได้แต่ถอนหายใจและเปิดกระเป๋าหยิบสมุดการบ้านมาทำฆ่าเวลาไปพลางๆ
“แบคฮยอนโดดประชุมบ่อยๆแบบนี้ ไม่กลัวยัยป้าหยองฆ่าหมกป่าเอาหรือไง“
จียอนว่าในขณะที่หยิบมันฝรั่งในห่อเข้าปากไปด้วย มันก็จริงล่ะนะเวลาซูยองเรียกประชุมทีไรหมอนั่นชอบโดดหรือไม่ก็มาสายเป็นประจำจนซูยองขี้เกียจจะบ่นแล้ว ฮาร่าเคยบอกว่าพวกที่ไอคิวสูงมากๆอาจมีพฤติกรรมแปลกไปบ้าง เนื่องจากกระบวนการคิดของสมองที่ซับซ้อนกว่าคนธรรมดาทั่วๆไป
พูดง่ายๆก็ EQ ต่ำไม่ใช่หรือไง -_-
“จียอนก็พูดเกินไปนะคะซูยองเธอไม่โหดร้ายขนาดนั้นหรอกค่ะ”
“ฮาร่ายังไม่รู้จักความน่ากลัวของซูยองน่ะสิ”
ฉันปล่อยให้สองสาวเพื่อนซี้ได้สนทนาแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับซูยองไปเรื่อยๆแล้วหันมาสนใจการบ้านตรงหน้าต่อ ถึงจะถูกเรียกให้มาประชุมโดยท่านประธานซูยองผู้น่าเกรงขามก็เถอะ แต่ฉันก็ไม่รู้หัวข้อในการประชุมครั้งนี้อยู่ดีและฉันก็พนันได้เลยว่าสองคนนั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะเอกสารการประชุมทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ที่ห้องเอกสารซึ่งแอลก็เป็นผู้ถือกุญแจเอาไว้แต่เพียงผู้เดียว -_-
พูดง่ายๆคือไม่มีใครสามารถแตะต้องเอกสารได้นอกจากเขา..
จะว่าไปแล้วฉันนี่ก็แปลกดีเหมือนกันนะ ทั้งที่ตัวเองเป็นคนเกลียดความวุ่นวายแท้ๆแต่กลับไม่รู้สึกว่าเสียงของพวกเขาน่ารำคาญเลยแม้แต่นิดเดียว กลับกันมันทำให้ฉันรู้ว่าตัวเองยังมีสิ่งที่เรียกว่า ‘เพื่อน’ อยู่
ในสังคมสมัยนี้ยิ่งเป็นสังคมห้องคิงซึ่งล้วนมีแต่คนสวมหน้ากากเข้าหากัน เห็นแก่ตัวและชิงดีชิงเด่นกันตลอดเวลานั้น ทำให้ฉันไม่อยากจะไว้เนื้อเชื่อใจใครง่ายๆจนบางทีฉันก็ดูเหมือนเป็นคนขี้ระแวง แต่ระแวงไว้ดีกว่าต้องมานั่งน้ำตาเช็ดหัวเข่าที่หลังไม่ใช่รึไง -_-^^
การถูกหักหลังมันเจ็บมากนะ..
“สอบเสร็จแล้วหรอคะแอล” ฉันตื่นจากภวังค์ความคิดอันไร้สาระของตัวเองและหันไปมองทางชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาที่กำลังเดินเข้ามาในห้องใบหน้านิ่งเรียบสนิทนั้นยังคงไม่แสดงอารมณ์ใดๆออกมาอีกเช่นเคย ฉันยิ้มทักทายเขาเล็กน้อยและหันมาจดจ่อกับการบ้านต่อ
“อือ”
“เป็นไงบ้างแอลยากป้ะ?”
“ตามอัตภาพ”
“โธ่..แล้วไอ้อัตภาพที่ว่ามันเป็นยังไงเล่า”
“ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่ายเกินไป..มั้ง”
“อะไรของนายเนี่ย”
“ก็ออกเท่าที่อาจารย์สอนนั่นแหละ”
“=^=”
“นั่นเป็นอะไรของเขาน่ะ -_-“
แอลหันมาถามฉันที่แอบฟังบทสนทานาของทั้งคู่มาได้ซักพักแล้ว ถึงใครจะว่าแอลเย็นชายังไงก็ช่างแต่ถ้าได้มารู้จักจริงๆแล้วเขาก็เป็นคนนิสัยดีมากๆเลยทีเดียว สุภาพบุรุษ ฐานะก็ดี เรียนดี กีฬาเก่ง ความประพฤติเยี่ยม แต่อาจจะมีปัญหาเรื่องการแสดงความรู้สึกเล็กน้อยแต่โดยรวมแล้ว ถ้าใครได้เป็นพ่อของลูกละก็สบายไปทั้งชาติ
จะว่าไปก็แอบคล้าย ‘หมอนั่น’ อยู่นะ..
ไม่! ยุนอาเธออย่าไปคิดถึงเขาเชียวนะ!!
“ยุนอาคะ ยุนอา!” ฉันสะดุ้งอีกครั้งเพราะเสียงของฮาร่า
เอาอีกแล้วสินะยุนอาเอ๊ย!
“ฮาร่านี่! ตะโกนซะเสียงดังเชียวตกอกตกใจหมด”
“ใจลอยไปถึงไหนต่อไหนแล้วเธอน่ะ” แอลพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆแต่แฝงความกดดันไว้ในน้ำเสียงอย่างชัดเจน
“งะ..งั้นหรอสงสัยฉันคงเพลียน่ะ”
“ให้มันจริงเถอะท่านหัวหน้า -.,-”
“บอกกี่ครั้งแล้วอย่าเรียกท่านหัวหน้า -_-“
“หัวหน้าๆๆๆๆๆ >O<”
“จียอนเธออย่าอยู่เลย!”
พอพูดจบฉันก็วิ่งไล่จียอนไปรอบๆห้องโดนมีฮาร่าและแอลยืนดูอยู่ห่างๆย่างห่วงๆ (คงกลัวข้าวของในห้องพังกระจายน่ะ) ถึงแม้จียอนจะบ้าพลังและชอบกวนประสาทฉันอยู่เสมอแต่ที่ยัยนั่นทำไปก็เพราะเป็นห่วงไม่อยากให้ฉันจมปรักอยู่กับอะไรเดิมๆ ถึงแม้วิธีการของหล่อนจะชวนให้เอาบาทายันสักทีก็เถอะ
“ทั้งสองคนหยุดเถอะค่ะเดี๋ยวข้าวของเสียหายกันพอดี”
“บู่ๆ แน่จริงก็จับให้ได้สิ”
“ท้าหรอ..อื้มได้เลย”
ฉันกรีดยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์อยากยั่วโมโหกันดีนักใช่มั้ย เธอเล่นผิดคนแล้ว ปาร์ค จียอน! ไวกว่าความคิด ฉันใช้จังหวะที่จียอนเผลอแกล้งกระแทกเจ้าหล่อนไปทางแอลซึ่งยืนดูสถานการณ์อยู่ เขาก็รับตัวจียอนไว้ได้พอดิบพอดีโดยที่เธอไม่ล้มหน้าทิ่มซะก่อนและฉันกลับมานั่งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ข้างๆฮาร่าที่เอาแต่ยิ้มขำมาเมื่อซักครู่แล้ว
“ยุนอา! ทำอะไรของเธอยะ”
“ฉันทำอะไร? เปล่าซะหน่อย” ฉันตีหน้าซื่อตอบ
“วิ่งไล่กันดีๆก็ได้ไม่เห็นต้องผลักฉันใส่แอลเลยนี่ =^=” จียอนว่าพลางพยายามผละตัวออกจากอ้อมแขนของแอลที่ยังคงปั้นหน้าตึงๆแบบปกติของเขา ทั้งที่ยัยดาวบ้าพลังอย่างจียอนใบหน้าแดงเถือกอย่างกับลูกมะเขือเทศอยู่แล้ว
จียอนกำลังเขินเหรอ..
“อันนี้ฉันก็เห็นด้วยนะ -_-“
ฉันยักไหล่ใส่ทั้งสองคนอย่างไม่แยแสและเดินไปหยิบหนังสือหลังห้องมาอ่านฆ่าเวลา ฮาร่าที่ดูเหตุการณ์อยู่ก่อนนั้นพยายามกลั้นหัวเราะอย่าสุดความสามารถแต่มันดูไม่ค่อยจะมิดเสียเท่าไรนัก แน่นอน..มันเป็นเรื่องธรรมดาล่ะนะ ชายหญิงหรือแม้แต่เพศเดียวกันอยู่รวมกันเป็นกลุ่มถ้ายิ่งสนิทกันมากๆ ไม่ว่ายังไงคงหนีไม่พ้นเรื่อง การถูกจับจิ้น อย่างแน่นอน
จียอนและแอลก็คือหนึ่งในนั้น
โอเคนี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาสาธยายเรื่องคู่จิ้นของคณะกรรมการนักเรียนนี่นา =_= เอาเป็นว่าถึงพวกเราจะดูไม่เอาการเอางานเท่าไรแต่เวลาปฏิบัติงานจริงๆก็ทำได้ยอดเยี่ยมจนไม่น่าเชื่อเลยล่ะ
เอาเถอะเข้าใจว่าเชื่อยาก -__-
ปึง!!
เสียงเหมือนคนผลัก(แต่น่าจะถีบมากกว่า =_=;;)ประตูดังลั่นทำเอาทุกคนในห้องสะดุ้งโหยงไปตามๆกัน ถึงแม้จะรู้อยู่แล้วว่าพฤติกรรมป่าเถื่อนและรุนแรงเช่นนี้ใครเป็นคนกระทำก็เถอะแต่ก็ทำใจให้ยอมรับมันไม่ได้อยู่ดี
ไม่ใช่ใครที่ไหน..ชเว ซูยอง นั่นเอง -_-;;
“นี่ยังไม่นั่งที่กันอีกเหรอ” ทันทีที่เจ้าหล่อนเหยียบพื้นห้องเธอก็ปรายตาถามพวกเราเรียงคนถึงแม้น้ำเสียงจะไม่กระโชกโฮกฮากก็เถอะแต่ก็ถูกสายตาคมๆดุจเลเซอร์นั้นแทงพรุนเรียบร้อยแล้ว
“เพิ่งมาถึงน่ะ..”
คราวนี้แอลเป็นคนขยับริมฝีปากตอบเองทั้งที่คนในห้องนี้แทบจะไม่กล้าสบตาหล่อนเสียด้วยซ้ำ ซูยองพยักหน้านิดๆเป็นเชิงเข้าใจและหมุนตัวนั่งประจำที่ของตัวเอง
“ยืนบื้ออยู่อีกไปนั่งสิ!”
สิ้นเสียงพวกเราสามคนก็กุลีกุจอวิ่งไปนั่งที่ด้วยความเร็วแสง ไม่ใช่ว่าเรากลัวซูยองจนหัวหดหรอกนะแต่ไม่อยากมีปัญหากับเธอก็เท่านั้นเอง ถ้ามีใครกล้าหือกับซูยองน่ะฉันจะยกให้เป็นวีรบุรุษและจะกราบเท้ามนุษย์ผู้นั้นเช้าเที่ยงเย็นหลังอาหารทุกมื้อเลยคอยดูสิ
ที่พูดมาทั้งหมดคงพอบรรลุถึงความน่ากลัวของประธานเราใช่ไหม -_-!
เผด็จการ..โหดร้าย..รุนแรง นี่แหละท่านซูยอง =_=
“มากันครบแล้วสินะ”
“ไม่เชิงค่ะแบคฮยอนยังไม่มา” ฮาร่าถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจและขยับแว่นให้เข้าที่ด้วยความเคยชิน “จะให้รอไหมคะ”
“ช่างเถอะ ฉันไม่คิดจะหวังพึ่งคนแบบนั้นอยู่แล้ว”
ณ จุดนี้ ขอบอกว่าเจ็บแทนเลยค่ะ -_-
“เอาเถอะๆ” ซูยองบอกปัดอย่างตัดรำคาญ “แอลนายเอาเอกสารประชุมวันนี้มาด้วยมั้ย” ประโยคหลังซูยองหันมาถามแอลที่ตีหน้านิ่งมาตั้งแต่เมื่อซักครู่แล้วเขาพยักหน้าหงึกๆและล้วงหาเอกสารใจกระเป๋าเป้ของเขา
เอกสารอยู่ในกระเป๋าเขาหรอกหรอรู้งี้น่าจะแอบค้นกระเป๋าซะก็ดี =_=
“ฮาร่าฝากแจกให้ทุกคนด้วย” ซูยองสั่งอีกครั้งแต่ครั้งนี้เธอสั่งสาวแว่นประจำสภาฯแทนที่จะเป็นฉันหรือจียอนอย่างที่ผ่านๆมา
เอาง่ายๆฉันกับจียอนคือลูกไล่นั่นแหละ..
ฮาร่าผุดลุกขึ้นตามคำสั่งของซูยองไปรับเอกสารปึกหนึ่งจากมือของแอลมาไล่แจกพวกเราจนครบทุกคน ฉันมองปึกกระดาษที่ถูกเย็บรวมกับชุดเดียวกันตรงหน้าด้วยความประหลาดใจเล็กน้อยเพราะเอกสารประชุมคราวนี้มันหนากว่าทีครั้งที่ผ่านมาเสียอีก
แสดงว่านี่คงเป็นเรื่องสำคัญสินะ..
“เอาล่ะก่อนที่จะเริ่มประชุมฉันของเกริ่นอะไรสักเล็กน้อยนะ” ซูยองเริ่มพูดหลังจากที่ฮาร่านั่งประจำที่แล้ว
“...”
“พวกเธอทั้งหมดคงรู้สินะว่าโรงเรียนของเราเป็นโรงเรียนที่ค่อนข้างเก่าแก่และสั่งสมชื่อเสียงมาเป็นระยะเวลายาวนานกว่าหนึ่งร้อยปีแล้ว”
“นานขนาดนั้นเลยหรอเหม่งน้อยฉันเพิ่งรู้แหะ” จียอนป้องปากกระซิบเบาๆให้แค่เธอกับฉันได้ยินเท่านั้น “ตอนนั้นฉันคงยังเป็นวิญญาณล่องลอยทักทายท่านยมบาลอยู่เลยนะนั่น”
บางครั้งฉันก็อดสงสัยไม่ได้ว่าจียอนจะติดเชื้อประหลาดมาจากแบคฮยอนแล้ว..
“เธอเคยรู้อะไรกับเขาบ้างล่ะปาร์ค จียอน”
ความจริงการที่จียอนไม่รู้มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเธอเพิ่งย้ายมาเรียนที่นี่ได้แค่ปีเดียวเองหรือตอนเกรด11นั่นแหละแต่เพราะโรงเรียนแห่งนี้นักเรียนเกรด 11 เท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์เป็นดาวโรงเรียนและรุ่นพี่รุ่นน้องก็พากันโหวตจียอนก็เท่านั้นเอง ส่วนผู้ที่จะมีสิทธิ์เป็นคณะกรรมการนักเรียนได้นั้นจะต้องเป็นเกรด 12 เท่านั้น
ฟังดูซับซ้อนยังไงก็ไม่รู้ =_=
“ยุนอา! จียอน!” เราสองคนสะดุ้งโหยงและเมื่อหันไปก็ไปปะกับสายตาพิฆาตของเธอเข้าทำเอาเราสองคนก้มหน้านิ่งเลยทีเดียว “ฉันอนุญาตให้แสดงความคิดเห็นแล้วหรอ”
ให้ตายสิ! สาบานได้ว่าฉันไม่ได้กลัวซูยองเลยนะ
“เฮ้อ! เอาเถอะเมื่อกี้ถึงไหนแล้วนะ”
“เธอบอกว่าโรงเรียนเราเก่าแก่และมีเกียติประวัติ”
“ขอบใจแอล” ซูยองหันไปขอบคุณแอล “โอเค โรงเรียนของเรามีเกียติประวัติอันยาวนานโคตะระของยาวนานจะกี่ร้อยปีก็ช่างเพราะมันไม่ใช่ประเด็น” ซูยองอธิบายแต่ประโยคท้ายๆเหมือนจะบอกปัดมากกว่า
แล้วหล่อนจะเกริ่นให้เสียเวลาเพื่ออะไรเนี่ย..
“เข้าเรื่องดีกว่า เนื่องจากควรยาวนานชนิดนับไม่ได้ของโรงเรียนนี้ยิ่งปีนี้เป็นปีที่สองร้อยยี่สิบสองปีพอดีเป๊ะๆดังนั้น..”
222 ปีถ้าเลขมันจะเป๊ะขนาดนี้ -_-
“ทางโรงเรียนของเราจึงจับมือกับโรงเรียนข้างๆนี้จัดเทศกาลวัฒนธรรมของโรงเรียนเพื่อร่วมหาทุนสร้างหอสมุด 222 ปีไว้เป็นอนุสรณ์สถานนั่นเอง แน่นอนว่าเรื่องการดำเนินการทั้งหมดถูกยกให้เป็นหน้าที่ของพวกเราคณะกรรมการนักเรียนซึ่งเราก็ต้องช่วยประสานงานร่วมมือกับคณะกรรมการของทางนู้นด้วย ที่พูดมาหวังว่าจะเข้าใจแต่ถ้าไม่เข้าใจก็ต้องเข้าใจล่ะเพราะฉันขี้เกียจอธิบาย -_-“
(-_-**) < ------- ทุกคน
เธอช่างเป็นประธานที่ดีว่างั้นไหมล่ะ..
“สรุปเราคุมการดำเนินการทั้งหมดร่วมกับคณะกรรมการนักเรียนของอีกโรงเรียนใช่ไหมคะ?”
“ก็อย่างที่เธอเข้าใจ”
ฉันนั่งนิ่งฟังบทสนทนาของทั้งคู่ส่วนมือก็เลื่อนไปหยิบเอกสารบนโต๊ะขึ้นมาเปิดอ่านไปพลาง เนื้อหาทั้งหมดเกี่ยวกับจำนวนงบประมาณ สถานที่ และอื่นๆอีกมากมายที่ฉันไม่ขออธิบายฉันเปิดอ่านไปได้ไม่นานก็ต้องปิดมันลงและวางไว้บนโต๊ะเหมือนเดิม
เพราะใจฉันไม่ได้จดจ่ออยู่กับข้อมูลพวกนั้นเลย..
“ยุนอาคะ ยุนอา!”
“ห๊ะๆๆ อะไร”
และฉันก็ตื่นจากภวังค์เพราะเสียงของฮาร่าอีกแล้วสินะ =_=*
“ไม่สบายหรือไง” แอลถามนิ่งๆและพูดต่อ “วันนี้เธอเหม่อหลายรอบแล้วนะ”
“ไม่ๆ ฉันคิดว่าตัวเองสบายดีนะ”
“พอเถอะๆ เอาเป็นว่าปิดการประชุมเพียงเท่านี้ส่วนรายละเอียดที่เหลือไปอ่านในเอกสารเอาก็แล้วกัน” ซูยองสรุปและลุกออกจากที่นั่งของเธอทำท่าจะเปิดประตูออกไปจากห้อง
แค่นี้เองหรอ(วะ)คะ..
สิ้นเสียงของซูยองทุกคนต่างผุดลุกขึ้นแทบจะทันทีรวมถึงฉันด้วยทุกคนค่อยๆทยอยเดินออกไปจากห้องทีละคนทีละคน เพราะห้องนี้นักการภารโรงจะเป็นผู้ดูแลความสะอาดทั้งหมดโดยที่เราไม่จำเป็นต้องไปยุ่งย่ามเลยแม้แต่นิดเดียวทุกคนจึงสามารถกลับไปได้ทันทีเมื่อปิดการประชุมแล้ว
“ฉันขอคุยด้วยหน่อยสิ”
ฉันแอบสะดุ้งเล็กๆเมื่อเสียงของซูยองดังขึ้นมาฉันหันไปเผชิญหน้ากับเจ้าหล่อนที่ยืนพิงกำแพงรอเหมือนยากูซ่าในหนังญี่ปุ่นอย่างไรอย่างนั้นโอเคนั่นไม่ใช่ประเด็นเพราะสิ่งที่ฉันอยากรู้ที่สุดก็คือ..
เธอจะคุยอะไรกับฉัน?
“มีอะไรหรอซูยอง”
“เธอรู้ว่าฉันกำลังจะพูดอะไรยุนอา” ซูยองกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังสุดๆ
แล้วฉันจะไปรู้ได้ยังไงกันเล่า!
หลังจากนั้นพวกเราสองคนก็เงียบกันไปเลย ทั้งฉันและซูยองต่างไม่มีใครปริปากพูดออกมาสักคนจนบรรยากาศมันชักจะเริ่มอึดอัด เอาแล้วไงมีเรื่องจะคุยไม่ใช่เหรอรีบๆพูดมาสิฉันจะได้รีบกลับบ้านกลับช่อง - -
“ถ้าลำบากใจ..เธอจะไม่ร่วมงานนี้ก็ได้นะ” สิ่งที่ซูยองกล่าวมาสามารถทำให้ฉันหยุดชะงักไปได้ทันที ฉันหวังว่าที่ซูยองพูดมาจะเป็นมุกแต่ไม่สายตาและท่าทางของเธอดูจะจริงจังกว่าทุกครั้งเสียอีก ทำเอาฉันกลืนเข้าคายไม่ออกเลยทีเดียว
ที่แท้ก็เรื่องนี้เองสินะ..
โอเคยอมรับว่าฉันไม่อยากจะทำงานนี้ซะเท่าไรนัก นั่นก็เพราะฉันไม่อยากทำอะไรที่เสี่ยงต่อการเผชิญหน้ากับบุคคลอันไม่พึงประสงค์และฉันก็แอบดีใจอยู่เล็กน้อยที่ซูยองมองออกและเข้าใจฉัน แต่ว่าจะให้ฉันทิ้งงานในขณะที่ทุกคนต่างสละเวลาเรียนและทุ่มเทให้กับงานมันจะไม่น่าเกลียดไปหน่อยหรือไง
“ไม่เป็นไรหรอกน่าซูยอง”
“เอาจริงๆ นะยุนอา”
“แน่นอนอยู่แล้ว”
“เธอแน่ใจแค่ไหนกันเชียว” ซูยองพูดและหรี่สายตาลงอย่างหยั่งเชิง
“แน่ใจสิแน่ใจมากๆด้วย”
“โอเค” เมื่อหมดหนทางซูยองก็ยกมือเป็นเชิงยอมแพ้ นแอบยิ้มขำอยู่เล็กน้อยเพราะซูยองไม่ค่อยจะมีมุมอย่างนี้ให้เห็นอยู่บ่อยๆหรอกนะ “ในเมื่อเธอยืนยันอย่างนั้นฉันคงขัดอะไรไม่ได้”
ฉันไม่ได้พูดอะไรนอกจากส่งยิ้มเพื่อให้เธอสบายใจขึ้น เห็นแบบนี้สมัยเกรดสิบฉันกับซูยองถือว่าซี้ปึ้กกันเลยนะจะบอกให้ก็ไม่แปลกหรอกที่เธอจะเดาใจฉันได้ในหลายๆเรื่องแต่พอขึ้นเกรดสิบเอ็ดพวกเราก็แยกห้องกันทำให้ความสัมพันธ์เริ่มห่างเหินกันไปบ้าง แต่เราก็ยังสนิทสนมกันดี (มั้ง)
แต่ถึงจะยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะขนาดนั้นแต่ฉันก็ไม่มั่นใจอยู่ดีว่าตัวเองจะไหวจริงๆหรือเปล่านี่ฉันกำลังหาเรื่องใส่ตัวเองอยู่หรือเปล่าเนี่ย จะบอกว่าฉันไม่ค่อยจะถูกชะตากับเด็กโรงเรียนนั้นเท่าไรไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน เซ้นท์ของฉันบอกน่ะนะ
“ยุนอายืนบื้ออะไรอยู่กลับบ้านกัน!!” เสียงของจียอนทำให้ฉันสะดุ้งจากภวังค์เธอกำลังโบกมือมาให้ฉันโดยมีแอลยืนอยู่ข้างๆ ฉันเผลออมยิ้มเล็กน้อยก่อนที่จะวิ่งไปหาทั้งคู่
บางทีมันคงไม่มีอะไรหรอกมั้ง..
________________________________________________________
อัพอย่างรวดเร็วสำหรับเรื่องของเหม่งน้องสะท้อนแสงอิม ยุนอา
บอกเลยว่าแอบรู้สึกผิดที่ไม่ามารถเปลี่ยนคู่ตามที่รีดต้องการได้เพราะคาแร็คเตอร์อะไรก็ลงตัวหมดแล้ว
มีช่วงหนึ่งที่รู้สึกท้อหน่อยๆเพราะเม้นไม่กระเตื้อง (ฮา) แต่ด้วยอะไรมิทราบไรท์เลยรีบมาลง >3<
ความคิดเห็น