ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตามทางหัวใจ

    ลำดับตอนที่ #1 : 1

    • อัปเดตล่าสุด 4 มี.ค. 53


                                         


                            "นี่ดูสิเขาหล่อมากเลยใช่ไหม คนอะไรทำไมหล่อขนานนี้"  ฉันพูดพร้อมกับหยิบรูปขึ้นมาจูบ
                  ทำอย่างไรนะฉันถึงจะได้เป็นแฟนเขาจริงๆ ไม่ต้องนอนฝันอยู่คนเดียว ฉันถอนหายใจเสียงดังและทำหน้าเศร้า
                  ฉันคงเป็นได้แค่แฟนคลับที่แอบชื่นชมเขาโดยที่เขาไม่รู้ตัวเลย แย่จังเลย
                  "นี่บ่นอะไรอยู่คนเดียว" ฉันหันไปมองนาโอมิเพื่อนสนิทของฉันทันที "ฉันเบื่อจังเลย ทำไมฉันไม่เกิดมาสวยๆ หุ่นดีๆ ฉันจะได้ไปเป็นดาราคู่กับเขา" ฉันพูดออกมาด้วยความรู้สึกที่แสนจะรันทดในชีวิตของตัวเอง "เพ้อเจ้ออีกแล้วเพื่อนเรา" นาโอมิพูดพร้อมกับเอามือมาตบหัวฉัน "นี่จะบ้าไปถึงไหน เธอกับเขามันอยู่คนล่ะโลก อยากเป็นหมามองเครื่องบินหรือไง" ฉันหันไปทำตาค้อนใส่เธอ "นี่ฉันไม่ได้ฝันนะ คอยดูเถอะสักวัน ฉันจะต้องได้เป็นแฟนของเขา เธอคอยดูก็แล้วกัน" ฉันทำท่าจริงจังมากในการพูด นาโอมิหัวเราะเสียงดังไปทั่วห้อง "หัวเราะอะไร" ฉันถามด้วยอารมณ์ที่โมโหและหงุดหงิด เวลาฉันพูดถึงเขาทุกคนมักจะหัวเราะฉัน ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเพ้อเจ้อ
                    "ฉันก็หัวเราะเธอยังไงล่ะ บ้าแล้วยังไม่รู้ตัวอีก" ฉันมองเพื่อนรักด้วยสายตาที่ไม่พอใจ แต่ก็ช่างมันเถอะ นาโอมิก็พูดถูกฉันก็เป็นได้แค่หมามองเครื่องบินจริงๆ นั่นแหล่ะ คงมีแต่ฉันเท่านั้นที่มองเห็นเขา ส่วนเขาคงไม่เคยรู้เลยว่ายังมีฉันอยู่บนโลกนี้อีกคน ก็เราต่างกันราวฟ้ากับดินนี่นา ฉันมองดูรูปภาพของเขาในมือ ฉันจะอ้อนวอนขอพรจากพระเจ้าให้เราได้เจอกันสักครั้ง และฉันจะต้องทำให้เขารักฉันให้ได้ คอยดูซิ แม้ความฝันของฉันจะอยู่ไกลเกินเอื้อม แต่ฉันก็ยังอยากจะฝันต่อไป
                    ซาเอกะจังคือชื่อของฉัน ตอนนี้ฉันอายุ 20 ปีเต็มแต่ฉันก็ยังบ้าดาราอยู่เหมือนเดิม แต่ที่ไม่เปลี่ยนเลยก็คือ ฉันรักเขาแค่คนเดียว และเขาคนนั้นก็คือ เคน ดาราหนุ่มสุดหล่อ อายุ 25 ปี เขาสูง 186 ซม หนัก 75 กก และเขาคือเทพบุตรในฝันของฉัน ฉันติดตามผลงานของเขามาตลอด ตั้งแต่เขาเริ่มเข้าวงการ จนกระทั่งทุกวันนี้เขาโด่งดังมาก ฉันซื้อทุกอย่างที่เกี่ยวกับเขาเพื่อมาสะสม ฉันศึกษาประวิติของเขาจนรู้ทุกซอกทุกมุม ไม่ว่าเขาชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เกิดวันไหน เรียนที่ไหน มีแฟนมาแล้วกี่คน ทุกครั้งที่เขาไปปรากฏตัวที่ไหนฉันก็จะไปที่นั่นด้วยแทบทุกครั้ง ทุกครั้งที่เขาแสดงคอนเสริทฉันก็ไม่เคยพลาด บางครั้งฉันก็รู้สึกเหมือนตัวเองบ้าบอเหมือนกัน ทุกครั้งที่คิดว่าฉันกับเขามันเป็นไปไม่ได้ ฉันก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาทุกครั้ง บางครั้งฉันเคยพยายามที่จะลืมเขา แต่พอฉันเห็นเขาในทีวีฉันก็ทำใจให้ลืมไม่ได้ สุดท้ายฉันก็ต้องบอกกับตัวเองว่าเราคงจะต้องรักเขาต่อไป และได้แต่หวังว่าสักวันฉันคงมีโอกาสได้พูดคุยกับเขาสักครั้งแค่นี้ก็คงพอ
                     "เร็วๆ หน่อยสิ เดี๋ยวไม่ทัน"ฉันวิ่งไปพูดไป "ฉันเหนื่อยแล้วนะ เธอไปคนเดียวเถอะ ฉันไม่อยากไปแล้ว" นาโอมิหยุดวิ่งเพื่อพักหายใจ ฉันหันมามองที่เธอ
    "ไม่ไปจริงๆ เหรอ" เธอส่ายหน้าและเอามือมาเช็ดเหงือที่ไหลบนหน้าเธอ "ไม่ไปแล้ว เธอรีบไปเถอะเดี๋ยวจะไม่ทัน" ฉันตัดสินใจรีบวิ่งไปทันที วันนี้เคนมาถ่ายหนังที่โรงเรียนของฉัน  ฉันรู้สึกดีใจและตื่นเต้นมาก วันนี้ฉันจะต้องได้ใกล้ชิดเขาแน่ๆ ฉันรีบวิ่งไปที่สนามกีฬาโรงเรียน เขาคงกำลังแต่งตัวอยู่ เราจะต้องไปให้ทันก่อนที่จะไม่ได้เข้าใกล้เขา 
                   ฉันพยายามเบียดตัวเองเข้าไปให้ถึงตัวเขาท่ามกลางแฟนคลับนับร้อยที่มายืนให้กำลังใจเขา และฉันก็ทำสำเร็จฉันได้มายืนอยู่ด้านหน้า ฉันมองเห็นเขากำลังเปลี่ยนเสื่้ออยู่ เขาหันมายิ้มให้แฟนคลับพร้อมโบกมือทักทาย 
                   โอ้ พระเจ้า ทำไมเขาหล่อมากขนานนี้ เกิดมายังไม่เคยเจอใครหล่อเท่าเขาเลย ฉันยิ้มตอบให้เขา แม้จะรู้ว่าเขาไม่ได้มองเห็นฉันเลย กรี้ด เสียงผู้หญิงหลายคนส่งเสียงกรี็ดกร้าดให้เขา ฉันหันไปมองด้วยสายตาไม่พอใจ ทุเรสจริงๆเลยเด็กพวกนี้ แล้วฉันก็หันไปมองที่เขาต่อไป
                    เขาถ่ายหนังเสร็จแล้ว ตอนนี้เขากำลังเดินเข้ามาแจกลายเซ็น ฉันรีบคว้าปากกาและกระดาษเตรียมส่งให้เขา นั่นเขาเดินมาแล้ว ฉันได้แต่มองเขาด้วยความรู้สึกปราบปลื้มยินดี ฉันส่งปากกาและกระดาษให้เขาทันทีที่เขาเดินมาหยุดอยู่ต่อหน้าฉัน เขารับไปเซ็นพร้อมกับยิ้มให้ฉันอย่างอ่อนโยน นี่ ฉันแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าจะได้เห็นเขาใกล้ๆ ขนานนี้ ขาของฉันสั่นไปหมด ฉันเอื้อมไปรับกระดาษด้วยมือที่สั่นเล็กน้อย ฉันได้แต่มองเขาเดินจากฉันไปอย่างช้าๆ จนกระทั้งมองไม่เห็นอีกต่อไป
                    "เป็นไงบ้าง ได้เจอเขาไหม" นาโอมิถามฉันขณะที่ฉันกำลังเดินกลับมาที่ห้องเรียน ฉันยกกระดาษที่เขาเซ็นให้นาโอมิดู "นี่ได้ลายเซ็นมาด้วยเหรอ ดีจังเลย"เธอพูดพร้อมหยิบไปดูใกล้ๆ "เห็นไหมฉันบอกเธอแล้วว่าสักวันฉันจะต้องได้เป็นแฟนเขา ทีนี่้เธอเชื่อฉันหรือยัง" ฉันพูดพร้อมดึงกระดาษกลับคืนมาจากมือของนาโอมิ "จ้า ฉันจะดีใจกับเธอมากกว่านี้ถ้าวันนั้นมาถึง  ฉันจะรอนะจ๊ะ"นาโอมิพูดด้วยน้ำเสียงล้อเลียนฉัน "นี่ แล้วถ้าวันนั้นมาถึงนะ ฉันจะบอกเธอเป็นคนแรกเลย" ฉันหยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาเพื่อเอากระดาษที่ได้มาใส่ไว้ "ฉันจะกลับบ้านแล้ว จะรีบกลับไปนอนฝันดี ไปนะ" ฉันหิ้วกระเป๋าเดินออกจากห้องเรียนและหันไปส่งจูบให้นาโอมิ
                      นั่นมันรถของกองถ่ายหนังนี่น่า หรือว่าเคนจะยังไม่กลับ ฉันตัดสินใจเดินเข้าไปดูใกล้ๆ "น้องสาว เคนเขาไม่อยู่แล้วไม่ต้องมาหรอก" พี่ผู้ชายคนหนึ่งพูดเมื่อเห็นฉันไปยืนมอง "ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ" ฉันพูดพร้อมกลับหันหลังเดินจากมาด้วยความผิดหวัง นึกว่าจะได้เจอเขาเป็นการส่วนตัว จะได้บอกเขาเสียทีว่าฉันรักเขา
                      "นี่เธอเห็นข่าวนี้หรือยัง" นาโอมิตะโกนเสียงดังมาพร้อมกับหนังหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ฉันรีบหันไปมองเธอทันที "นี่ มีอะไรน่าตื่นเต้นหรือไง ตะโกนเสียงดังไปถึงปากซอยแล้วรู้ไหม" ฉันพูดพร้อมหันไปอ่านหนังสือพิมพ์ "นี่ อ่านตรงนี้ซิ มีข่าวบอกว่าเคนกำลังจะหมั้นกับซาร่านางเอกหนังสุดฮอต" ฉันตกใจมากที่ได้ยิน จึงรีบอ่าน นี่เขากำลังจะหมั้นแล้วเหรอ ทำไมฉันรู้สึกเสียใจอย่างนี้ล่ะ รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังอกหัก ความฝันที่จะได้เป็นแฟนเขามันหลุดลอยไปทันที "นี่เป็นอะไรไป คงไม่ไปโดดตึกตายหรอกใช่ไหม" นาโอมิพูดพร้อมเอามือตบไหล่ฉันเบาๆ "อย่าคิดมากเลยน่า เธอน่าจะดีใจกับเขานะที่เขากำลังจะหมั้น ยังไงเธอกับเขามันก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว  จะเสียใจไปทำไม" ฉันได้แต่นิ่งเงียบเพราะไม่คิดว่าเขาจะประกาศหมั้นรวดเร็วขนานนี้
                       "นี่ ดูสิประกาศหมั้นพร้อมแต่งเร็วแบบนี้ฉันว่าซาร่าต้องท้องแน่เลย" ฉันหันไปมองคนที่พูด ไม่จริง เคนไม่ใช่คนแบบนั้นหรอก ฉันเถียงแทนเขาอยู่ในใจ ฉันไม่อยากเชื่อนี่น่าว่าเขาจะเป็นคนแบบนี้ โอ้ย ฉันอยากจะบ้าตาย ฉันจะทำยังไงดี 
                       ตอนนี้ไม่ว่าจะไปทางไหนก็มีแต่ข่าวของเคนกับซาร่า ใครๆ ก็บอกว่าเขาสองคนเหมาะสมกันมาก คนหนึ่งหล่อ คนหนึ่งสวย ที่สำคัญรวยเหมือนกันทั้งคู่ ฉันได้แต่ก้มหน้าเดินกลับบ้านด้วยจิตใจที่ห่อเหียว
                       อาทิตย์หน้าแล้วซินะที่เขาจะหมั้นกัน คงเป็นงานใหญ่ระดับประเทศแน่ๆ เลย ฉันวางหนังสือพิมพ์ลงบนโต๊ะกินข้าว จู่ๆ ฉันก็คิดอะไรได้ขึ้นมา ฉันรับเดินไปที่คอมพิวเตอร์ในห้องนอนทันที ใช่แล้วเราน่าจะเขียนระบายความรู้สึกในใจให้เขารู้ดีกว่า ฉันเปิดคอมพิวเตอร์และค้นหาเวปแฟนคลับของเคน 
                       ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะมีแฟนคลับมากมายขนานนี้ ฉันอ่านข้อความของแต่ล่ะคนที่เขียนถึงเขา ก็ไม่ได้มีแค่เราที่บ้าคลั่งไคล้เขานี่น่า ยังมีคนที่บ้าเหมือนเราอีกมากมาย บางคนก็เขียนแสดงความยินดี บางคนก็เขียนไม่อยากให้เขาแต่งงาน แล้วเราจะเขียนอะไรดี ใช่เราอยากบอกความในใจของเราให้เขารับรู้นี่น่า ฉันเริ่มต้นเขียนบรรณยายความรุ้สึกในใจที่ฉันมีต่อเขา หวังว่าสักวันเขาคงได้อ่านมัน
                      "นี่ ซาเอกะจัง ยังเสียใจอยู่อีกเหรอ" นาโอมิถามฉันขณะที่ฉันนั่งมองออกไปนอกหน้าต่างของโรงเรียน "ไปกินข้าวกันเถอะ ฉันหิวแล้ว" ฉันถอนหายใจแล้วหันมามองนาโอมิ "นี่ ขอถามอะไรหน่อยได้ไหม เธอรักเรียวคุงตรงไหน" นาโอมิทำท่าคิด "รักตรงไหนนะเหรอ ไม่รู้สิ คบๆ กันไปก็รักกันเอง" ฉันทำท่าไม่เข้าใจ "หมายความว่าอยู่ๆ กันไปก็รักกันเองว่างั้นเหอะ" นาโอมิพยักหน้ายอมรับ "ก็ไม่รู้สิ ความรักมันพูดยากนี่น่า แล้วเธอล่ะรักเคนตรงไหน" ฉันหันกลับไปมองมองหน้าต่างเหมือนเดิม "ไม่รู้สิ รู้แค่ว่าฉันรักเขา อยากเจอเขา อยากเป็นแฟนกับเขา ก็แค่นั้น" นาโอมิเดินมาใกล้ๆ ฉันและมองออกไปที่นอกหน้าต่างเหมือนกัน "แต่ฉันว่านั่นมันไม่ใช่ความรักหรอก เธอแค่หลงไหลในความหล่อของเขา เธอก็เหมือนคนอื่นๆ ที่ฝันอยากมีแฟนหล่อๆ เป็นซุปเปอร์สตาร์ ทั้งๆ ที่ไม่เคยได้เรียนรู้นิสัยของอีกฝ่ายเลย อย่างนี้เขาไม่เรียกว่ารักหรอก" ฉันไม่ตอบ ได้แต่คิดตามที่นาโอมิพูด "นี่ไปกินข้าวกันเถอะ เดี๋ยวต้องกลับมาอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบอีก อย่าให้เรื่องไร้สาระมาทำให้การเรียนเสียเลย" นาโอมิพูดพร้อมกับจับแขนฉันดึงให้ไปด้วย
                       ฉันกำลังนั่งกินข้าวอยู่ที่โรงอาหารหน้าทีวี จู่ๆ ก็มีข่าวด่วนรายงานถึงพิธีหมั้นของเคน ฉันได้แต่นั่งมองและถามตัวเองว่าทำไมผู้หญิงที่นั่งใกล้ๆ เขาไม่ใช่ฉัน วันนี้เขาหล่อมากเลย ซาร่าก็สวยมากเหมือนกัน พวกเขาเหมาะสมกันจริงๆ ฉันพยายามบอกตัวเอง ว้าย เธอดูเคนสิหล่อม้ากๆ มาก  ซาร่าก็สวยเหมือนเทพธิดาเลย เหมาะสมกันจริงๆ เสียงคนรอบข้างพูดคุยกัน ฉันได้แต่นั่งฟังด้วยความรู้สึกเสียใจ ฉันนี่มันบ้าจริงๆ จะไปเสียใจทำไมกับเขาทำไม เราไม่ได้เป็นอะไรกับเขาเสียหน่อย จะสนใจทำไม หยุดเราต้องหยุดคิดถึงเขา เราต้องอยู่บนโลกแห่งความจริง ต้องทำวันนี้ให้ดีที่สุด ดีใจจังเราคิดได้แล้ว ฉันพูดกับตัวเอง
                        และแล้วการสอบปลายภาคเรียนก็จบลงด้วยดี "นี่ ปิดเทอมนี้ไปเที่ยวไหนกันดี"นาโอมิถามฉันขณะเก็บหนังสือใส่กระเป๋า  ฉันหันไปมองและยิ้ม "ไม่รู้สิ เธอมีโปรแกรมหรือเปล่า" ฉันถามพร้อมยกกระเป๋าหิ้ว "เรียวคุงบอกว่าจะพาไปวาดรูปบนภูเขา เธอจะไปด้วยกันไหม เขาให้ฉันมาชวนเธอ" ฉันเดินออกไปนอกห้องพร้อมเธอ "ฉันไม่ค่อยชอบธรรมชาติเธอก็รู้นี่ บนภูเขาจะมีอะไร นอกจากต้นไม้ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเลย"ฉันพูด้วยความรู้สึกที่เบื่อหน่าย "แต่ฉันว่าเธอน่าจะไปนะ เพราะความเงียบมักจะทำให้เราสงบ อีกอย่างฉันก็อยากให้เธอไปด้วยจะได้ไม่เหงา ตกลงเธอจะไปไหมล่ะ" นาโอมิมองฉันด้วยแววตาที่อ้อนวอน ฉันจึงตอบตกลง "ก็ได้ ไหนๆ ฉันก็ไม่ได้กลับไปเยี่ยมพ่อแม่อยู่แล้ว ดีกว่าอยู่คนเดียว"นาโอมิกระโดดกอดฉันด้วยความดีใจ จะว่าไปฉันก็อิจฉานาโอมิเหมือนกัน เธอเป็นคนโชคดีที่มีเรียวคุงเป็นแฟน เพราะเขาเป็นคนที่อ่อนโยน อารมณ์ดี ชอบการวาดรูป ถ่ายรูป และรักธรรมชาติมากด้วย ผู้ชายอย่างเขาจะว่าไปก็หายากเหมือนกัน แม้เขาจะไม่หล่อเท่าไร
                         "นี่เรานั่งรถไฟไปกันก็ดีเหมือนกันนะ ได้ชมทิวทัศน์ข้างทางด้วย" นาโอมิยิ้มขณะพูด ฉันลุกไปนั่งใกล้ๆหน้าต่างของรถไฟ จะว่าไปมันก็ดีเหมือนกัน นั่งรถชมทิวทัศน์ เอะ นั่นเรียวคุงวาดอะไรอยู่ ฉันลุกขึ้นไปนั่งใกล้ๆ เขา "วาดอะไรเหรอ"ฉันถามเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็น "วาดรูปฉันกับนาโอมิตอนแต่งงาน" เขาตอบด้วยรอยยิ้มที่แสนจะมีความสุข "แม้น่าอิจฉาจังเลย ทำไมฉันไม่มีแฟนบ้างนะ"ฉันทำหน้าเศร้าขณะพูด นาโอมิหันมามองฉันและยิ้ม "ก็เธอไม่มีเวลามองใครนี่น่า วันๆ ก็คิดถึงแต่เคน หายใจเข้าออกเป็นเคน แล้วเธอจะมีเวลาไหนไปมองคนอื่น" ฉันหันไปมองนาโอมิทันที "นี่ เลิกพูดถึงเขาได้แล้วฉันไม่อยากฟัง คนกำลังทำใจให้ลืม จะมาตอกย้ำอีกทำไม" ฉันพูดจบก็หันไปมองเรียวคุงต่อ "นี่ วาดรูปฉันกับเคนหน่อยได้ไหม ฉันอยากเก็บไว้เป็นที่ละลึกนะ" เรียวคุงพยักหน้า "ได้สิ จะให้วาดแนวไหนล่ะ" ฉันทำท่าคิด "เอาแบบหวานแหววได้ไหม" ฉันพูดพร้อมกับหัวเราะตัวเองที่ชอบคิดอะไรบ้าๆ อยู่เสมอ แต่ก็ช่างเถอะ ในเมื่อทำแล้วมีความสุขก็ทำไปเถอะ ป่านนี้เขาคงกำลังมีความสุขอยู่กับคู่หมั้นของเขา คงมีแต่ฉันเท่านั้นที่ยังเพ้อเจ้อถึงแต่เขา
                       "นี่ อย่าบอกนะว่าเราต้องเดินขึ้นภูเขาไป" ฉันเดินไปบ่นไป "นี่ อีกนานไหมกว่าจะถึง" นาโอมิหันมาดุฉัน "นี่อย่าบ่นนักเลย เดินแค่ 20 นาทีเอง เดี๋ยวก็ถึงแล้ว" ฉันเดินตามพวกเขาไปอย่างช้าๆ ไม่น่ามาด้วยเลย ฉันคิด
                      "ถึงเสียที นึกว่าจะตายเสียก่อน"ฉันบ่นเสียงดังและรีบโยนกระเป๋าลงที่พื้น "นี่ขอฉันพักก่อนนะ ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว" ฉันรีบนั่งลงที่โซฟาในห้องรับแขก "งั้นเดี๋ยวฉันเอาของไปเก็บก่อนนะ"เรียวคุงหันมามองและหิ้วกระเป๋าของเขาเข้าไปในห้องทันที "นี่ ตกลงเธอจะนอนกับฉันหรือกับเขา"ฉันถามนาโอมิด้วยความอยากรู้อยากเห็น นาโอมิตอบพร้อมกับยิ้ม "ฉันนอนกับเธอก็ได้" ฉันยิ้มและลุกขึ้นเดินไปหยิบกระเป๋าตัวเองที่พื้น "ไม่ต้องหรอก ฉันไม่อยากเป็นกางขวางคอใคร ไม่อยากทำบาป"ฉันพูดจบก็เดินเข้านอนของตัวเอง
                                                      
       
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×