ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    zmพันธสัญญาคู่หูคู่ป่วน

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 4 เหตุอุบัติที่ไม่คาดฝัน 100%

    • อัปเดตล่าสุด 30 ธ.ค. 56


    ข้าเราอย่ามัวชักช้าเลยดีกว่าค่ะ   เชิญตามข้ามา

    ดาเนียร์พูดจบก็เดินนำออกไป   นาเดียร์หันกลับมามองข้าก่อนจะกวักมือเรียกยิกๆ  ข้ากับเจ้าเสือเดินตามอย่างว่าง่าย   ตลอดทางมีรูปวาดเต็มไปหมดจนทั้ง 2 หยุดอยู่ที่ประตูบานหนึ่ง

    ประตูสีดำสนิท ที่จับสีเงินตัดกันอย่างลงตัว   บนบานประตูเป็นลวดลายเหมือนเถาวัลย์กวัดกันไปมา   เสียงเปิดประตูดังกังวานเมื่อนาเดียร์เพียงกระดิกนิ้วดาเนียร์ผายมือออกไปทางเข้า

    บททดสอบด่านที่ 2   ขอเชิญ

    เจ้าเสือเดินเข้าไปก่อนข้าจึงรีบเดินตามเข้าไป   ภายในห้องมืดสนิทแต่มีกลิ่นหอมลอยฟุ้งไปทั่วห้อง   เดี๋ยว...ทำไม...กลิ่นมันถึงคุ้นๆน่ะ...เสียงปิดประตูทำเอาข้าสะดุ้งหลุดจากความคิด   แต่จู่ๆข้าเกิดมึนหัวอย่างกะทันหันข้าหันไปหาเจ้าเสือก็เห็นเจ้าเสือล้มลงขณะที่ข้ากำลังเดินเข้าไปข้าก็เกิดวูบก่อนที่จะหมดสติ...

    เจ้า...เสือ...

     

     

    เจ้าเห็นอะไรจีเอล

    เจ้าของดวงตาสีทับทิมมองตรงไปที่ชายที่กำลังหลับตาและแตะขมับของซินเซร์   คู่หูที่มาร์เอลหรือมาร์เอลเมโกมัสเป็นคนเลือก

    ความทรงจำของเมื่อสองร้อยปีก่อน   แล้วก็สีดำ?   อ๊ะ!   หายไปแล้ว

    จีเอล ลืมตาขึ้นแล้วมองมือตัวเองอย่างงงๆ

    สงสัยว่านี่จะเป็นการมาที่ไม่ธรรมดาเสียแล้วฟีเฟย์

    จีเอลหันไปพูดชายหนุ่มที่กำลังยืนกอดอกพึ่งผนังอยู่   ผมตัดสั้นสีเงินยวงเกือบขาวจอนทั้งสองข้างยาวเคลียไหล่   ดวงตาสีทับทิมประกายเจิดจ้าท่ามกลางความมืดรอบตัวจมูกโด่งเป็นสัน   ริมฝีปากบางเม้มเน้น

    แล้วเจ้าจะทำเช่นไร

    โธ่   เจ้าอย่างส่งสายตาดุๆมาทางข้านักสิข้ากลัวน่ะ ฮึก หยดน้ำเกาะตัวอยู่ที่หางตาของคนพูดพลางกัดริมฝีปากล่างพยายามกลั้นเสียงสะอื้น   แต่...ช่างไม่เข้ากับร่างกายที่สูงเลยร้อยแปดสิบเซนติเมตรเลยแม้แต่น้อย

    รอยปูดบนหน้าผากของฟีเฟย์ผุดขึ้นมาตามอารมณ์ของเจ้าตัวก่อนจะตวาดเสียงดัง

    เจ้าเลิกทำท่าอ่อนแอสักทีจีเอล!”

     

     

    อ๊าย!  อย่าทำเค้าน่ะ

    ข้าลืมขึ้นมาเห็น   เอ่อ   หัวหน้า? กำลังปาดน้ำตามองผู้ชายตรงหน้าอย่างหวาดกลัว

    ฟื้นแล้วรึ

    ชายผมเงินหันมามองหน้าข้าทั้งที่บนหน้าผากยังมีรอยปูดขึ้นมาอย่างชัดเจน

    ข้า ฟีเฟย์มาโอ เรียกข้าว่าฟีเฟย์พอเป็นคู่หูของ... ว่าพลางปลายตามองหัวหน้า

    ขอ...รับ

    เจ้าผ่านการทดสอบแล้ว   เจ้าตามข้ามาเพื่อจะได้ไปทำสัญญา... ฟีเฟย์ยังพูดไม่ทันจบเสียงของดาเนียร์ก็ดังเข้ามาในห้อง

    หัวหน้าแย่แล้วค่ะ   ไคทิน   ไคทินบาดเจ็บสาหัสมาค่ะ

    หัวหน้าที่กำลังนั่งสะอึกสะอื้นรีบลุกขึ้นวิ่งออกไปจากห้องหลังฟังจบ   ฟีเฟย์ขมวดคิ้วแน่นส่งสัญญาณให้ข้าตามไปด้วยแล้วแปลงเป็นจิ้งจอกวิ่งตามหัวหน้าไป  เจ้าเสือเน่าที่ไม่รู้ว่าตื่นตั้งแต่ตอนไหนวิ่งเข้ามาใกล้แล้วบอกให้ข้าขึ้นหลังมัน

    ข้าทำตามโดยไม่อิดออด   มาร์เอลวิ่งด้วยความเร็วทำให้ไม่นานเราก็มาถึงห้องโถงใหญ่ที่ข้าเดินผ่านเข้ามาในตอนแรก

    ตรงกลางห้องโถงมีคนมุ่งอะไรบางอย่าง   ฟีเฟย์ที่วิ่งนำหน้าพวกเรามาวิ่งขึ้นไปเกาะหัวหน้าบนไหล่   ชายผมเขียวที่ออกมารับข้าก็รวมอยู่ในนั้นด้วย

    คูลอมบ์   อาการของไคทินเป็นอย่างไร

    ข้าไม่รู้   แต่ที่แน่ๆเค้าติดพิษมา   ถึงข้าจะวิจัยพิษมาหลายชนิดแต่ข้าไม่รู้ว่าพิษชนิดนี้คืออะไร   อาการไข้ขึ้นสูงเหมือนโดนพิษซิลล์   มีหัดขึ้นตามตัวเหมือนพิษเรย์แถมที่ปากแผลเหมือนไม่สามารถสมานแผลได้ด้วย

    ชายผมเขียว หรือ คูลอมบ์วินิฉัยอาการคร่าวๆของคนที่ชื่อไคทินที่นอนหมดสติอยู่กลางห้อง   แต่พอข้าได้ยินอาการก็ทำให้ข้าขมวดคิ้ว

    ข้าขอดูอาการหน่อย

    ทุกคนหันมามองข้า   หัวหน้าเปิดทางให้ข้าเข้ามา   ข้ามองหัดสีดำที่ผุดขึ้นมาอย่างรวดเร็วแล้วแตะมือไปข้างลำคออย่างแรงจนร่างไคทินกระตุก

    นี่!   เจ้าทำอะไรของเจ้า หญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงข้ามข้าตะคอกเสียงดังแต่ข้าไม่สนใจ   เพราะคนตรงหน้าอาการแย่กว่าที่เห็นมาก

    พวกเจ้ามีห้องที่มีความชื้นสูงๆไหม   และข้าขอที่บดสำหรับบดยากับหม้อดินเผาแล้วก็น้ำแร่บริสุทธิ์สักแก้วหนึ่ง

    เจ้ารู้งั้นรึว่าไคทินเป็นอะไร

    อืม ข้าตอบเพียงสั้นๆขณะหยิบกระเป๋าออกมาจากมิติเวลา

    เว็กซ์   มาโก้ช่วยย้ายไคทินไปที่ห้อง 813 ที นาเนียร์ ดาเนียร์ไปหาหม้อดินกับน้ำแร่มา   คูลอมบ์ที่บดยาของเจ้ายังอยู่ไหม

    อยู่หัวหน้าออกคำสั่งเป็นพรวนก่อนจะหันมาถามคูลอมบ์ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ   ก่อนจะพยักหน้าเมื่อได้คำตอบที่พอใจ ดี   ซินเซร์เจ้าตามเว็กซ์ไปได้เลย   ซิฟิลิสเจ้าตามข้ามา   ข้าอยากรู้เรื่องราวทั้งหมด

    ไม่!   ข้าไม่ไว้ใจเขา

    ข้าหันไปมองหน้าซิฟิลิสก่อนจะกล่าวกับนาง

    ข้าขอรับปากด้วยชีวิตของข้า   ข้าจะไม่ปล่อยให้เขาตายเด็ดขาด

    ซิฟิลิสมองหน้าข้าอย่างลังเลก่อนจะตกลง...   ถ้าไคทินเป็นอะไรไปข้าไม่เอาเจ้าไว้แน่

    ข้าเดินตามเว็กซ์ที่เดินนำหน้าข้าไปแล้ว   มาร์เอลเดินตามมาติดๆ

    เจ้ารู้รึว่าเป็นพิษอะไร

    พิษของปีศาจเผ่างูนะ   แต่เป็นพิษที่ผสมขึ้นมาอีกทีกับพืชของต้นไรย์

    พวกเราเดินมาถึงห้อง 813 ข้าเปิดประตูให้เพราะทั้งสองคนช่วยกันประคองไคทินเอาไว้   ภายในห้องมีเตียงอยู่ห้าเตียงตั้งเรียงกัน   นอกจากนั้นยังมีโต๊ะ   ของอำนวยความสะดวกบางอย่างตั้งอยู่ด้วย   แต่ถึงอย่างนั้นห้องนี้ก็มีความชื้นสูงมากอยู่ดี

    ที่บดได้แล้ว เสียงทุ้มของคูลอมบ์ดังขึ้นหลังจากที่เว็กซ์กับมาโก้ช่วยกันวาง     ไคทินที่เตียง

    หม้อดินกับน้ำแร่ล่ะ

    อยู่นี่ เสียงใสของดาเนียร์ดังขึ้นภายในห้องพร้อมกับปรากฏวงเวทสีฟ้าครามที่กลางห้องขึ้น   ลวดลายที่ไม่ซับซ้อนมากนักทำให้ข้ารู้ว่าตรงหน้าเป็นเวทเคลื่อนย้าย

    ดาเนียร์กับนาเนียร์เดินถือหม้อดินกับน้ำแร่ที่ข้าต้องการออกมาจากวงเวทแล้ววางไว้ที่โต๊ะที่มีที่บดวางไว้อยู่แล้ว   ข้าเปิดกระเป๋าเป้ออกพร้อมกับหยิบขวดยาที่ปรุงเสร็จแล้วสองขวดออกมาตามด้วยใบของต้นลีย์   คูลอมบ์เสนอตัวช่วยข้าบดใบลีย์   ส่วนข้าก็เริ่มต้นปรุงยา

    ขวดสองขวดที่เอาออกมาขวดแรกเป็นยาที่ข้าสกัดขึ้นมาเองชื่อ แอนทิตีป พอยสัน หรือ ยาแก้พิษ เป็นยาที่ทำจากรากและใบของต้นแอนทิตีปมีอยู่ทั่วไปในป่าของแดนเทพ สรรพคุณก็ตามชื่อมันช่วยแก้พิษทุกชนิดที่เกี่ยวกับพิษของปีศาจและก็สามารถแก้พิษของเทพได้เหมือนกันแต่มีข้อแม้ว่าพิษชนิดนั้นต้องเป็นพิษที่เกิดจากธรรมชาติไม่เช่นนั้นก็ต้องผสมกับยาหรือพิษบางอย่างเพื่อแก้พิษที่ถูกปรุงขึ้นมาได้

    ส่วนอีกขวดหนึ่งคือยาพิษ สาปซากศพ เป็นยาที่มีฤทธิ์กัดกร่อนทำมาจากตัวยาหลักคือต้น ครีมิวเฟรินที่จะขึ้นเฉพาะตรงที่คนตายเท่านั้น   ข้อเสียคือต้องใช้กินเพื่อใช้น้ำลายทำให้ยาออกฤทธิ์

    เจ้าคิดจะทำอะไร!”

    ข้าชะงักมือที่กำลังจะหยดสาปซากศพลงในหม้อดินแล้วหันไปมองคูลอมบ์ที่กำลังดูอยู่

    เจ้าคิดจะฆ่าไคทินรึไง    ถึงได้ใช้สาปซากศพ คูลอมบ์พูดเสียงเครียดถึงแม้ยาส่วนใหญ่ข้าจะปรุงเองแต่บางชนิดข้าก็ดัดแปลงหรือซื้อมาจากยาที่มีขายในตลาดมืด

    และสาปซากศพก็เป็นหนึ่งในนั้น

    สาปซากศพเป็นส่วนผสมสำคัญถ้าขาดไปยาจะไม่สมบูรณ์

    แต่นั่นเป็นยาพิษ

    ใช่ว่าจะต้องเป็นยาพิษทั้งหมดนี่   ยาพิษก็สามารถเป็นยาที่ช่วยชีวิตได้เหมือนกัน

    ข้าหยดสาปซากศพลงไปรวมกับยาแก้พิษในหม้อดินยาแก้พิษสีเหลืองนวลค่อยๆกลายเป็นสีม่วงเข้มเมื่อโดนสาปซากศพ   ข้ารีบเติมน้ำแร่ลงไปผสมก่อนจะคนให้เข้ากันแล้วใส่ใบลีย์ที่บดแล้วตามลงไป   พอสีม่วงเข้มเปลี่ยนเป็นสีฟ้าอ่อนข้าก็ตักใส่แก้วแล้วยื่นให้คูลอมบ์

    อีกฝ่ายลังเลใจอยู่พักเดียวก็ตัดสินใจกรอกยาใส่ปากไคทินที่หน้าเริ่มซีดลงเรื่อยๆ

    อ๊ากกกกกกก!”

    ไคทินร้องเสียงดังลั่น   คูลอมบ์เบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อจู่ๆร่างที่นอนนิ่งเริ่มดิ้นทุรนทุราย

    เจ้า!” สิ้นเสียงตวาดข้าก็ถูก ล็อกด้วยเว็กซ์และมาโก้

    เจ้าทำอะไร

    มาโก้ตวาดใส่ข้าแต่ข้ากลับไม่ได้สนใจ   ข้ามองไคทินที่กำลังเริ่มสำรอก

    เอายาให้เขากินอีก เร็ว!”

    ข้าตะโกนเสียงดังเมื่อเห็นร่างบนเตียงสำรอกเอาก้อนดำๆกับของเหลวสีดำออกมา

    ทำตามที่ซินเซร์บอก!

    เจ้าเสือเน่าคำรามลั่นห้องมาโก้และดาเนียร์ที่สามารถได้ยินรีบถลาไปหยิบยาที่เหลืออยู่ในหม้อป้อนใส่ปากไคทิน

    หลังจากผ่านมาได้สักพักไคทินที่สำรอกเสร็จสลบไปอีกครั้งด้วยความเพลีย    ทั่วทั้งห้องจึงต้องอยู่ในความเงียบคูลอมบ์เข้าไปตรวจไคทินอีกครั้งก่อนจะถอนหายใจ

    บาดแผลเริ่มสมานตัวแล้ว   การเต้นของหัวใจเริ่มเป็นปกติ   หัดสีดำก็หายไปเกือบหมดแล้วด้วย   เจ้าปล่อยเขาเถอะเว็กซ์

    เว็กซ์ปล่อยตัวข้า   คูลอมบ์รีบถามต่อทันที

    นั่นเป็นยาอะไร

    แอนเดรีย   เป็นยาแก้พิษที่ข้าคิดขึ้นเพื่อแก้พิษเผ่างูปีศาจโดยเฉพาะ   ยาแก้พิษจะช่วยระงับอาการ   ส่วนสาปซากศพจะกัดกร่อนพิษที่เริ่มจับตัวกับเลือด   และใบลีย์กับน้ำแร่จะช่วยชะล้างพิษที่อยู่ตามเส้นเลือดให้ออกมา

    เจ้า...   เอ่อ...   เจ้า

    อยู่ๆคูลอมบ์ก็หันมามองทางข้าก่อนจะอ้ำๆอึ้งๆ   เจ้าเสือเน่าเลิกคิ้วอย่างงุนงง

    เจ้านึกอยากจะสารภาพรักกับเจ้าหัวเน่านี่หรือไง

    ข้าชะงักกึกก่อนจะหันไปมองหน้าคูลอมบ์ทีเจ้าเสือเน่าที   ส่วนมาโก้ที่ฟังเข้าใจก็ยืนแข็งค้างไปแล้ว

    คูลอมบ์

    หือ?

    เจ้าเป็นสหายข้าใช่ไหม

    หา   เจ้าเป็นอะไรมากรึเปล่ามาโก้

    ข้าแค่ไม่คิดว่าเจ้าจะ   เจ้าจะ...   เป็นคนอย่างนี้

    เอ๋?   ข้าก็เป็นอย่างนี้ของข้ามาตั้งนานแล้วนี่นา

    คิกๆๆ เสียงหัวเราะของเว็กซ์ดังขึ้นพร้อมๆกับสีหน้าอึ้งๆของมาโก้   ข้ากับมาโก้พร้อมใจกันถอยหลังหนีสามก้าวใหญ่ๆอย่างพร้อมเพรียง

    พวกเจ้าเป็นอะไรกันไปเนี่ย คูลอมบ์ทำหน้างงๆ   ก่อนจะเดินเข้ามาหาเว็กซ์ที่ตอนนี้อยู่ใกล้ตัวเองมากที่สุด

    เว็กซ์ เจ้าพวก...

    ว๊ากกกกกกกกกกกก!!!” เว็กซ์ร้องเสียงหลงทันทีที่คูลอมบ์จับไหล่ก่อนจะสะบัดตัวออกห่างแทบจะทันที

    หลังจากที่นี้ไปมุมห้องสงบสติได้แล้วก็ตะโกนถามอย่างตื่นตระหนก คูลอมบ์เจ้าจะถามอะไรข้าไม่ว่าแต่ทำไมต้องแต๊ะอั๋งข้าด้วยเล่า!”

    หา? คูลอมบ์หันมองรอบกายอย่างงุนงงก่อนจะเดินเข้ามาหาข้า

    ซินเซร์เจ้าพวกนี้เป็นอะไรกันไปหมดอ่ะ

    หยุด!   อย่าเข้ามาน่ะ   ข้าร้องเสียงหลงก่อนจะวิ่งหนี เฮ้! เดี๋ยวเซ่พวกเจ้าเป็นอะไรกันไปหมดบอกข้าก่อน   คูลอมบ์ยังไม่ลดละวิ่งตามข้าไปทั่วห้องพอเฉียดกายเข้าใกล้ใครคนๆนั้นก็ขยับถอยหนีทันที

    แล้วทำไมเจ้าต้องมาตามข้าคนเดียวด้วยเล่า

    ก็ข้าอยากรู้ว่าพวกเจ้าเป็นอะไรกันนี่นาแล้วข้าก็อยากขอ...   ขอ...

    ขออะไรเล่าเจ้าก็พูดให้มันชัดๆเซ่

    ข้าอยากขอ...เจ้า

    ด้วยความอึ้งทำให้ข้าเผลอเบรกตัวเองคูลอมบ์ที่วิ่งตามมาถึงกับชนโครมเข้าให้พร้อมๆกับเสียงเปิดประตูทุกคนในห้อง (ยกเว้นไคทินที่ยังสลบเหมือดอยู่) หันไปดูที่ประตู   และนั่นอาจเป็นความอับอายที่เพิ่มขั้นมาอีกหนึ่งอย่างของข้าก็ได้

    เหตุเพราะ... จากอุบัติเหตุเมื่อครู่ทำให้คูลอมบ์ล้มทับข้าอย่างจังและอยู่ในลักษณะที่ข้าอยู่ล่างคูลอมบ์อยู่บนและมือข้างหนึ่งของข้าดันหน้าเขาไว้อยู่

    ผลคือ... หน้าประตูซึ่งประกอบไปด้วยหัวหน้าและฟีเฟย์ (ภาคจิ้งจอก) ที่ทำหน้า  เหวอ   แฝดน้องทั้งสองคนขององค์กรที่กำลังยืนหน้าแดงและซิฟิลิสเหลือบตามองเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปหาไคทินอย่างไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น

    และสัญชาตญาณบางอย่างในตัวข้าร้องเตือนให้พูดบางอย่างทันที

    ใครก็ได้ช่วยข้าด้วย

     

     

    คูลอมบ์   เจ้าชอบผู้ชายงั้นเหรอ หัวหน้าถามเสียงเบา

    เอ๋? คูลอมบ์   เจ้าโปรดอย่ามาไร้เดียงสาแถวนี้เพราะหน้าเจ้ามัน...   มัน...

    สีหน้าคูลอมบ์มันน่าถีบชะมัด

    สิ้นคำเจ้าเสือเน่าข้าส่งปลายเท้าอันเพอร์เฟก(?) ไปประทับที่ท้องของคูลอมบ์จนกระเด็นไปไกลหลายสิบเมตร(?)

    “ซินเซร์ เจ้าถีบข้าทำไม” คูลอมบ์เบ้หน้าอย่างเจ็บปวด   ก่อนจะส่งสายตาออดอ้อน(?)มาให้

    “หัวหน้าาาาาา   ช่วยข้าด้วยยยยย”

    ข้ารีบวิ่งไปหลบหลังหัวหน้าทันทีแต่หัวหน้าก็หันไปมองคูลอมบ์อย่างหวาดกลัวเช่นกัน

    “ซินเซร์ เจ้าไม่ต้องกลัวนะ ข้าไม่ทำอะไรเจ้าหรอก หัวหน้าด้วย” เสียงปีศาจ(?)ดังขึ้นจากร่างตรงหน้าข้ากับหัวหน้าได้แต่กอดกันกลมปลายหางตาเริ่มมีน้ำตาคลอ

    พวกเจ้าเลิกเล่นกันสักที!

    เสียงดังราวกับฟ้าผ่าดังเข้ามาในสมองทำเอาข้ามึนไปชั่วขณะ   หางตาเหลือบไปเห็นอีกหลายคนเบ้หน้าแต่หัวหน้านี่สิอยู่ๆก็ร้องไห้โฮ

    “ฮือ แงๆ ข้าไม่ผิดสักหน่อย ข้าไม่ผิด แงๆ”

    ข้าเห็นฟีเฟย์(ที่กลายเป็นคนเมื่อไรไม่รู้)มองหัวหน้าอย่างเอือมระอา

    “ซินเซร์เจ้าตามข้ามา”

    ฟีเฟย์ว่าพลางช้อนตัวหัวหน้าขึ้นอุ้มอย่างง่ายดาย   แล้วเดินออกไปเลย หลายคนมองข้าพลางยิ้มให้ข้าก็ยิ้มตอบก็ที่เจ้าเสือเน่าจะสะกิดให้ข้ารีบๆเดินไป

    พวกเราเดินกลับมาทางเดิมสักพักฟีเฟย์ก็หยุดอยู่หน้าห้องๆหนึ่ง   ประตูเปิดอ้าเหมือนกับต้อนรับฟีเฟย์เดินเข้าไปก่อนจะวางหัวหน้าที่ตอนนี้ทำหน้าเหมือนอยากนอนเสียเต็มที่ลงบนเก้าอี้นวมสีแดง   เจ้าเสือเดินเข้ามามองอย่างแปลกใจ

    ภายในห้องเป็นเหมือนกับห้องโถงกว้างๆที่พื้นมีวงเวทซ้อนทับกันทั้งหมดสี่วงมีวงเล็กสองวงที่อยู่ตรงข้ามกัน   วงเล็กอีกวงอยู่แยกออกไป ส่วนวงใหญ่ซ้อนทับกับวงเล็กทั้งสองวง

    “มาร์เอลเจ้าไปยืนตรงนั้น” ฟีเฟย์ว่าพลางชี้ไปที่วงเวทวงเล็ก   ข้าเดินเข้าไปที่วงเวทอีกวงอย่างเข้าใจทันที

    ฟีเฟย์เดินเข้าไปกระซิบบางอย่างกับหัวหน้า   หัวหน้าปรือตาอย่างง่วงงุนก่อนจะเดินเข้ามายืนที่กลางวงเวทเล็กที่แยกออกไป

    Breezes of Time Lead us meet each

    At this time, let us binding forever and ever eternal.

    เสียงหวานเอื้อนเอ่ยเป็นทำนอง   วงเวททั้งสี่เปล่งแสงสว่างไปทั่วทั้งห้อง ร่างเสือของมาร์เอลเริ่มเปลี่ยนไป   ยืดยาวจนมองออกว่าเป็นคน จู่ๆข้อมือข้าก็แสบร้อนข้ายกข้อมือขึ้นดู ลายสีดำกระหวัดไปมารอบข้อมือคล้ายกับกำไล

    แสงสว่างค่อยๆดับลงพร้อมกับร่างหัวหน้าที่ทรุดฮวบลงไปที่พื้น

    “หัวหน้า!

    ฟีเฟย์รับร่างอ่อนแรงของหัวหน้าได้ทัน   ก่อนจะช้อนร่างบางขึ้นอุ้มแล้วเดินออกไปเลย

    “ไม่เป็นไรหรอก   เพราะใช้พลังมากเกินไปนะเลยเป็นอย่างที่เห็น”

    ข้าพยักหน้าอย่างเข้าใจ เจ้าเสือเดินออกไปพร้อมกับข้าที่เดินตามออกไปเช่นเดียวกัน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×