คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่1
“พี่เฟียร์ เสร็จรึยังคะนี่มันจะเจ็ดโมงแล้วนะ เปิดเทอมวันแรกแฟนไม่อยากไปสาย” ฉันตะโกนบอกพี่ชายที่กำลังทำอะไรไม่รู้อยู่บนห้อง
“โหย! รอก่อนสิแฟนพี่ก็ต้องดูดีก่อนก็เป็นธรรมดา เดี๋ยวจะน้อยหน้าไอ้เดย์มัน”
เดย์หรือพี่ซันเดย์ก็คือเพื่อนสนิทของพี่ชายฉันตั้งแต่สมัยประถม ซึ่งฉันรู้จักพี่ซันเดย์เป็นอย่างดี
“โอ๊ย ไม่ต้องห่วง พี่เฟียร์แพ้พี่เดย์แน่: P”
“ยัยแฟนซี น้องบ้า ถ้าเธอไม่ใช่น้องพี่ฆ่าเธอไปนานแล้ว!” พี่เฟียร์พูดพลางขู่
“โห่ โหดอ่ะ ไปเหอะเดี๋ยวค่อยมาฆ่า” เรากำลังจะเดินไปจากบ้านเพื่อที่โรงเรียนแต่แม่ออกมาตะโกนถามซะก่อน
“เดี๋ยวก่อนสิ จะไปกันแล้วหรอลูก” แม่ออกมาถม
“ค่ะแม่ แฟนไปก่อนนะคะแม่ สวัสดีค่ะ”ฉันพูดพลางหอมแก้มแม่
“ผมก็ไปก่อนนะครับ สวัสดีคร้าบคุณแม่สุดสวย” พี่เฟียร์เนี่ยอ้อนแม่ได้ทุกวันเลยนะ
“จ้า เดินทาง ดีๆ นะ” พวกเราบอกแม่เสร็จก็ไปโรงเรียนโดยรถของพ่อ ที่วันนี้คุณพ่อของพวกเราไม่รู้ไปอารมณ์ดีมาจากไหน บ้านเรามีรถ2คันนะ อ้อ ที่มีรถขับกันไม่ใช่ว่ารวยสักเท่าไหร่หรอก เพียงแต่ว่าก็ไม่ได้จนอะไรมากมาย เฮอะๆ ส่วนคนที่ขับไม่ใช่ใครที่ไหน พี่ชายที่ชอบดุฉันทุกวันไม่รู้จะดุทำไม โตๆกันแล้วนะเนี่ยไม่ใช่เด็ก
“แฟน ไปโรงเรียนพี่ก่อนนะ ต้องเอาของไปให้ไอ้เดย์แล้วก็ เดี๋ยวพี่จะแนะนำเพื่อนพี่ให้รู้จัก” ฉันกับพี่เฟียอยู่คนละโรงเรียนกัน เพราะเมื่อปีที่แล้วแม่ของฉันอยากให้ฉันอยู่ได้โดยไม่มีพี่ชายและก็อย่างให้รู้จักสังคมภายนอก ก็เลยให้ย้ายโรงเรียนแต่โรงเรียนที่ย้ายมาก็เป็นโรงเรียนพี่น้องกันแหละคือแบบ โรงเรียนที่เฟียร์อยู่เป็นโรงเรียนของผอ.ทรีมิท ยุธดำรงค์ โรงเรียนชื่อ Aliston High School ส่วนโรงเรียนของฉันเป็นโรงเรียนของผอ.ทิฟฟานี่ ยุธดำรงค์ ชื่อโรงเรียนว่า Vasnicgle High School ฉันไม่กล้าย้ายไปอยู่ที่ไกลๆด้วย พี่เฟียร์ไม่มีทางยอมแน่ โรคหวงน้องสาวขั้นเทพ
“เพื่อน?” ฉันถามอย่างสงสัย พี่เฟียมีพื่อนใหม่หรอ ก็ตลอดปีที่ผ่านมาเนี่ยมีอะไรไม่เคยบอกน้องเลยนะมันน่างอนมั้ยละ
“ใช่ เพื่อน พี่มีเพื่อนสนิทเพิ่มอีกสามคน”
“พี่ไม่เคยเล่าเรื่องเพื่อนให้ฟังบ้างเลยอ่ะ”
“นี่ไง กำลังจะพาไปรู้จัก”
“ก็ได้แต่ว่า หล่อป่ะโอ๊ย!”อยู่ๆพี่เฟียร์ก็มาดีดหน้าผากฉันเนี่ย
“หล่อน้อยกว่าพี่และที่สำคัญมันเจ้าชู้มาก!!” ที่แท้ก็หวงน้องสาว เชอะ! เจ็บ
“แหม พี่เฟียร์ก็ แฟนพูดเล่นเอง พวกเจ้าชู้มือไวจะตายดูพี่เป็นตัวอย่างดิ”
“เธอชอบแขวะพี่ตลอกเวลา เลย เฮ้อ! ช่างมันเถอะ นี่ถึงโรงเรียนพี่แล้วเข้าไปกันเถอะ” พี่เฟียร์ขับรถเข้าไปจอดในลานจอดรถแล้วเดินเข้าไปในโรงเรียนกันก็เจอพี่ซันเดย์ยืนรออยู่กับผู้ชายอีกสามคนที่มองไกลๆแล้วรู้สึกว่าอย่างกับบอยแบรนด์ของเกาหลี ฉันกับพี่เฟียร์เดินไปหาพี่เดย์
“พี่เดย์”ฉันทักพี่เดย์
“หวัดดีแฟน โตขึ้นแล้วนะน้องสาวพี่”พี่เดย์พูดพร้อมกับลูบผมฉันอย่างเอ็นดู
“นี่ทุกคนน้องฉันชื่อแฟนซี เรียกว่าแฟนเฉยๆก็ได้นะอย่างที่ฉันเรียกอยู่ตอนนี้ ส่วนแฟนนี่เพื่อนพี่อีกสามคน คนแรกคีตเตอร์” พี่เฟียบอกพร้อมกับขู่ผู้ชายรูปร่างสูงประมาณ 180ซ.ม.กว่าๆ เส้นผมสีน้ำตาล ดวงตาสีเดียวกับเส้นผมทำให้มีเสน่ห์อย่างเหลือเชื่อขนาดฉันไม่ค่อยชอบผู้ชายแบบนี้แท้ๆนะ ยังอดไม่ได้ที่จะชม
“แหมไอ้เฟียร์แกมีน้องสาวสวยขนาดนี้งุบงิบไว้ไม่เคยบอกเลยนะ สวัสดีครับน้องแฟนซีสุดสวย”
“หวัดดีครับ~ พี่คีตเตอร์ โอ๊ย!” พี่เฟียหยิกแขนฉัน
“พูดให้มันดีหน่อย”
“มันไม่ชิน”
“แต่เราก็เป็นผู้หญิง”
“ก็แฟนไม่ชอบ”
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันไม่ถือ” คนที่ชื่อคีตเตอร์พูดขึ้น
“นี่ไอ้ไอคิว” ถัดไปคือผู้ชายผมสีดำสนิท ดวงตาสีดำสนิท เป็นคนไทยแน่นอนแต่ว่า ผมสีทอง ส่วน ผิวขาวจั๊วะอย่างกับไข่ปอกรูปร่างนักกีฬา น่ากอดมาก
“สวัสดีครับแฟน”
“สวัสดีคะพี่ไอ้ไอคิว อูย!” พี่เฟียร์ดึงผมที่ฉันมัดไว้ข้างหลังจนเกือบหงาย
“ซื่อเกินไปรึเปล่า ที่พี่เรียกว่าไอ้นำหน้าเพราะมันศัพท์เฉพาะเพื่อนเรียกกัน ทำไมน้องฉันมันโง่ขนาดนี้เนี่ย” พี่เฟียสบถดังลั่น
“น้องแกยังเด็กนี่หว่าอย่าไปถือสาอะไรเลย อีกอย่างน่ารักจนให้อภัยได้เลย”
“เออน่ารัก แต่ฉันขอย้ำว่าห้ามยุ่ง ส่วนนี่ฟิวดัล มันเคยเป็นเพื่อนสมัยเรียนตอนประถมพี่ด้วย” คนที่ชื่อฟิวดัลนี่มีผมสีดำสนิท ดวงตาสีเฮเซล ปากหยักได้รูปสวย จมูกโด่งเป็นสันบวกกับผิวขาวแต่ขาวไม่มาก คนอะไรเนี่ย น่ารักอ่ะ แต่เอหน้าตาพี่เค้าคุ้นอ่ะ มันเป็นความคุ้นเคยแบบบอกไม่ถูก แต่รู้สึกว่านายคนนี้จะไม่ค่อยถูกชะตากับฉันสักเท่าไหร่
“สวัสดี” พี่เค้าตอบอย่างเสียงเย็นชา
“สวัสดีค่ะ แต่พี่หน้าคุ้...”
“ไปโรงเรียนกันเถอะ” พี่เฟียร์แทรกขึ้นมาก่อนที่ฉันจะพูด แต่มันก็คุ้นเหลือเกิน อาจจะเคยผ่านๆมั้ง แต่คงจะผ่านบ่อยถึงได้คุ้นมาก หรือว่าเป็นดารา เอ...ช่างมันเถอะ
“โอเค” ฉันพูดแล้ววิ่งออกหน้าพี่เฟียร์ไปก่อน
“แล้วพวกแกจะไปด้วยกันไหมฉันจะไปส่งน้องที่โรงเรียน ถ้าไม่ไปก็อยู่นี่แหละ” พี่เฟียร์ถามพวกเพื่อนๆทั้งสามคน
“ไปสิวะ ฉันอยู่โรงเรียนนี้น่าเบื่อวะ ไปดูสาวนอกโรงเรียนดีกว่า” พี่เตอร์พูดขึ้น
“จะไปก็รีบตามมาสิ” พี่เฟียร์ทำหน้าชักเริ่มรำคาญ
“พี่เฟียร์เวลาเดินเข้าไปส่งแฟนที่โรงเรียนเดินห่างๆแฟนหน่อยนะ แฟนไม่อยากให้ใครรู้ว่าแฟนรู้จักกับพี่”
“ทำไมล่ะ”
“แฟนไม่อยากเด่น ขืนพวกพี่ยกโขยงกันเข้าไปแบบนี้นะ กลายเป็นจุดเด่นทันที”
“อืมก็ได้ เดี๋ยวพี่บอกไอ้พวกนั้นก่อน” พี่เฟียร์พูดเสร็จก็หันไปบอกพวกเพื่อนๆต่อ
“ส่งแค่ทางขึ้นตึกพอนะ” ฉันหันไปบอกพี่เฟียร์ต่อ
“รู้แล้ว”
พวกเราเดินเข้ามาในโรงเรียนมีแต่คนหันมามอง มีนักเรียนต่างถิ่นเข้ามาในโรงเรียนตั้งสี่คนแถมหล่อด้วย นักเรียนหญิงมองอย่างหลงใหล
“กรี๊ด Prefect Kith” อะไรอ่ะ
“หล่อลากเลยอ่ะแก”
“มาครบวงเลยอ่ะ”
“สูงมาก รักเลยอ่ะ” อุ๊ย หน้าไม่อาย
พี่เฟียร์เดินรักษาระยะห่างของฉันไว้ เพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัย ตอนนี้ฉันเดินมาถึงทางขึ้นตึกแล้วเลยหันไปทางพี่เฟียร์แล้วโบกมือบายอย่างไม่ให้ใครเห็น ส่วนฉันพอขึ้นตึกมาก็ได้ยินเสียงอาจารย์สุนีย์ดังขึ้น
“นี่ พวกเธอทำอะไรกันอ่ะ ครูประกาศบอกให้ไปเข้าแถวหน้าเสาธงมัวทำอะไรกันอยู่” อาจารย์สุนีย์ขึ้นมาบอก แล้วฉันก็เดินลงไปข้างล่างอีกรอบแล้วจะขึ้นมาทำไมเนี่ย ทำไมพวกเพื่อนของฉันยังไม่มาสักทีนะ
-หน้าเสาธง-
“เมท วันนี้ประธานเค้าบอกมีเรื่องสำคัญอะไรหรอ แกรู้ป่ะ” ฉันหันไปถามยัยเปรตเอ๊ยยัยเมทเพื่อนสุดซี้ที่เป็นผู้หญิงที่สูงที่สุดในระดับชั้น
“ไม่รู้ดิ ลองถามนังตั้มมันดิ” ตั้มคือเพื่อนชายที่มีฮอร์โมนเพศหญิงด้วย เลยทำให้ผสมกันกลายเป็น ตุ๊ดอย่างลงตัว ต้องลองถามมันเพราะมันเป็นแฟนคลับของพี่นิวต้าประธานนักเรียน
“ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นแหละ มันดันรู้ไปหมดทุกเรื่องเองหนิ”
“เฮ้! อย่ามัวแต่คุยกันสิ อาจารย์สุนีย์เดินมาทางนี้แล้วเรียบร้อยหน่อยเดี๋ยวก็โดนลงโทษต้อนรับเปิดเทอมเลยพวกแกเนี่ย” ปาล์มมี่เพื่อนสนิทที่อยู่ด้วยกันตั้งแต่โรงเรียนเก่าที่ย้ายตามมาด้วยเพราะแม่ของปาล์มมี่ก็คิดเหมือนแม่ของฉันที่อยากให้ลูกเจอสังคมอันกว้างใหญ่ ตอนนี้ประธานนักเรียนขึ้นไปยืนที่จุดประกาศ
“สวัสดีครับนักเรียนของ Vasnicgle high school ตอนนี้ ได้เรียนเปิดเทอมที่ 2 แล้วเราก็ได้ห่างหายกันไปนาน เรามีเรื่องที่จะประกาศให้ทราบว่าทางชมรมดนตรี ได้รับสมัครนักร้องหญิงคนใหม่ เพื่อให้ความสนุกกับนักเรียนและคุณครูทุกคนในวันงานวิชาการของโรงเรียน ติดต่อรับสมัครได้ที่ห้องดนตรีของโรงเรียนก่อนเวลาเลิกเรียนของทุกวันภายในสองอาทิตย์เท่านั้น ใครที่คิดว่าตนเองมีความสามารถในการร้องเพลงก็ให้ไปสมัครกันเยอะๆนะครับ ขอบคุณครับ”
“ร้องเพลงวันวิชาการ ไร้สาระ” ยัยปาล์มมี่เด็กเรียนประจำห้องบ่นขึ้นมา
“เถอะน่า ถือเป็นการคลายเครียด” ฉันบอกเพราะฉันขี้เกียจเรียน แต่ฉันก็ได้เกรดดีนะ ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยเป็นคนเอาการเอางานน่ะ
อาทิตย์ต่อมา
- พักกลางวัน –
“เออนี่มีเด็กใหม่จะเข้ามาห้องเรา แต่จะเข้าอาทิตย์ที่สองนะ” เสียงเมทพูดขึ้น
“ทำไมต้องอาทิตย์ที่สองด้วย” ปาล์มมี่ถาม
“ไม่รู้สิ” เมทตอบพลางส่ายหน้า
“นี่พวกเราฉันได้ข่าวมาว่าวง Puzzle จะมาถ่ายทำ MV กันที่โรงเรียนของเราด้วยอ่ะ อร๊ายๆ ฉันจะได้เจอพี่ลีมินฮูสุดหล่อแล้ว” ขณะที่พวกเราทานข้าวกันอยู่ ยัยมายด์ก็ออกอาการบ้าดาราสุดตัว แล้วไอ้วง Puzzle เนี่ยมันคือวงอะไรอ่ะ
“จริงอ่ะแก นานๆทีโรงเรียนเราจะมีดารามาซักทีก็เป็นปีเลยอ่ะ วงนี้หล่อน่ารักทุกคนเลยอ่ะ ตั้มอยากจะเป็นลมค่า~”
“แล้วแกรู้ได้ไง” เมทถาม
“แหะๆ พอดีเมื่อวานฉันบังเอิญไปได้ยินประธานนักเรียนพูดกับเพื่อน”
“แกเนี่ยก็บ้านักร้องกันใหญ่เลยนะไร้สาระ แล้วเอ่อ...เค้าจะมาวันไหนอ่ะ” ยัยเมทถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“แหม ยัยเมท ตอนแรกแกก็ว่าพวกฉัน แกก็เป็นเหมือนกัน ไม่งั้นจะถามทำไม” ยัยมายด์ยอกย้อน
“เออ สนก็ได้ว่ะแล้วพวกเค้าจะมาวันไหน”
“มาวันวิชาการของโรงเรียนอ่ะแก แล้วก็มีข่าวดีอีกอย่างนึงด้วยล่ะ” ยัยมายด์พูดอย่างมีเลศนัย
“อะไร” ปาล์มมี่ถาม อ้าวมันอยู่ในบทด้วยเหรอเนี่ยลืมไปเลย ฉันก็นั่งฟังยัยพวกนี้คุยกันแบบงงๆ
“ก็พวกพี่เค้าจะมาคัดคัวนางเอก MV ที่โรงเรียนเราด้วยน่ะสิ”
“ฉันขอถามอะไรหน่อยสิ วง Puzzle เนี่ยคือวงดนตรีหรอ” ฉันถามอย่างที่ฉันสงสัยมานาน
“แกนี่โบราณจริงๆนะยัยแฟนซี วงนี้เค้าดังจะตาย ฉันจะแจงให้ฟังล่ะกันเอ่อ เริ่มจาก คนแรก พี่ลีมินฮูเป็นลูกครึ่งเกาหลี-ไทย อายุ 19ปี นักร้องนำสุดเท่ห์ เสียงใสอย่างกับกินน้ำค้างมาทั้งประเทศ หล่อ รวย อ่อนหวาน น่ารักอ่ะ” จุกตายล่ะมั้งกินน้ำค้างทั้งประเทศ
“คนที่สองเป็นคนไทยแท้ คือพี่ฮิลตัน อายุ 20 ปี ลูกเจ้าของโรงเรียน
“คนที่สามเป็นคนไทยแท้เหมือนกันแต่ต่างที่ว่ามีเชื้อสายเกาหลีผสมนิดนึง ชื่อของเค้าคือ เรฟา หรือเรฟ อายุ 20 ปีมือกลองสุดแข็งแกร่ง หน้าหวาน พูดเพราะ เค้าเคยเป็นนักเทควันโดมาก่อน สุภาพบุรุษเป็นที่หนึ่ง โอ๊ยปลื้ม” คงเป็นคนที่ชอบใช้กำลังน่าดู
“และคนสุดท้ายคือพี่ยุนแทวา เป็นน้องชายของพระเอกเกาหลีสุดฮอต ที่ชื่อยุนแทวู อายุ 18ปี มือกีตาร์เหมือนกับพี่ฮิลตัน แต่พี่ยุนแทวาเนี่ยตรงกันข้ามกับนิสัยของพี่ฮิลตันเลย พี่เค้าขึ้นชื่อว่า Prefect man เป็นผู้ชายที่มีความสุภาพบุรุษที่สุดในกลุ่มเลยก็ว่าได้นะแก” เฮ้อ! อย่างน้อยวงนี้ก็ยังมีคนดีอยู่(รึเปล่า) เราจะไปรู้นิสัยที่แท้จริงของเค้าได้ยังไงกันล่ะใช่มั้ย...
“แกพูดอย่างกับอยู่ในเครือญาติของเค้าแหละ รู้ดีจังเลยนะยัยมายด์” ยัยปาล์มมี่พูดพลางกลั้นหัวเราะกับเพื่อนคนนี้จริงๆ
“ฉันเนี่ยแหละแฟนคลับตัวยงของพวกพี่เค้า เพราะว่าพวกเค้ายังโสดทุกคน ฮิๆ”มายด์พูดพร้อมทำตาวิ้งๆแล้วมองฟ้าอย่างเพ้อฝัน
“ฉันว่านะตอนนี้เรารีบกินกันเถอะ พวกแกลืมไปแล้วรึไงว่าวันนี้อาจารย์ชัยวงศ์มาสอนช่วงพักเที่ยงอ่ะ” ปาล์มมี่พูดเตือนสติทุกคนก่อนที่จะหลงละเลิงกับพวกนักร้องไปมากกว่านี้ อาจารย์ชัยวงศ์ก็คืออาจารย์สอนภาษาไทยแถมยังเป็นอาจารย์ประจำชั้นอีกถ้าไปสายล่ะก็โดนลงโทษแน่ๆเลยอ่ะ
“เวรแล้วไง ลืมไปเลย ตายล่ะถ้าไปสายโดนซิวแน่เลย” เมทพูดพร้อมกับทำตาโตที่เหมือนจะไม่ค่อยโตเท่าไหร่
“เมท คำว่าซิวใช้กับตำรวจ” ฉันเตือนก่อนที่คำที่มันพูดจะผิดไปมากกว่านี้
“เออว่ะ ช่างมันเถอะตอนนี้รีบยัดข้าวเข้าปากให้เร็วที่สุดเลย” หลังจากเมทพูดเสร็จพวกเราก็รีบกินแล้ววิ่งไปที่ห้องเรียนอย่างรวดเร็ว
ความคิดเห็น