ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    God Command พระเจ้า! ทำไมท่านไม่หาร่างใหม่ให้ข้า![Reverse Harem]

    ลำดับตอนที่ #6 : บทที่4 สู่งานเลี้ยง [1]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 12.34K
      207
      5 ม.ค. 64

    บทที่4 สู่งานเลี้ยง [1]

                รีอัลรัม?

                ชื่อของมีดนี่ไง  รีอัลรัม  แปลว่าแด่ผู้เป็นที่รัก  เธออธิบาย  เป็นมีดที่ช่างออกแบบหญิงคนหนึ่งในทารยะทำขึ้นมอบให้แก่สามีผู้เป็นแม่ทัพ  ขึ้นชื่อเรื่องความคมและงดงาม  นี่ก็เพิ่งเคยเห็นของจริง  ตอนแรกไม่แน่ใจว่าใช่  พอเขาพูดว่าภรรยาให้มา  แถมตัวเขาก็เป็นแม่ทัพ  เลยมั่นใจ

                ชายร่างโตเลิกคิ้วเล็กน้อย  ไม่คาดว่าดรุณีน้อยผู้นี้จะ ติดตามพอสมควร ดังที่ปากว่าจริง ๆ

                รู้จักมีดแต่ไม่รู้จักเจ้าของ  อืม...ก็สมเป็นลักซ์ดีนั่นแหละ

                “ไม่คาดว่าคุณหนูจะรู้จักด้วย”

                “งามโดดเด่นถึงเพียงนี้  ใครที่ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับอาวุธแล้วไม่รู้จัก  เกรงว่าจะมีแต่พวกโง่เง่าเป็นเต่าแล้วล่ะค่ะ”

                เธอวางมันกลับที่เดิม  เงยหน้าไปยิ้มให้ชายที่แน่ใจแล้วว่าเป็นท่านแม่ทัพคนดังแห่งประเทศห่างไกลจนตาหยี  ดูน่าเอ็นดูระคนน่าหมั่นเขี้ยวอย่างไรชอบกล

                “วางมันเสียชัดเจนปานนี้  ท่านไม่กลัวว่าใครจะจำมันได้บ้างหรือ?”

                “มีดเล่มนี้  นอกจากครอบครัวข้าแล้ว มีไม่มากนักที่จะเคยได้เห็นของจริง  ข้าจึงพอวางใจที่จะนำออกมาขายที่นี่ แต่จะให้พกติดตัวไปไหนมาไหน...เห็นว่าจะไม่เหมาะ”

                ความหมายของอัลปาคือที่นี่เป็นตลาดชาวบ้านธรรมดา ทั้งยังในประเทศที่ไกลจากบ้านเกิดโข  การนำออกมาขายจึงไม่เสี่ยงนัก  แต่จะให้พกมีดเล่มนี้รอนแรมเดินทางเห็นว่าจะไม่เหมาะ  เพราะถึงแม้จะมีผู้พบเห็นของจริงไม่มาก ทว่าก็ใช่ว่าจะไม่มีคนรู้จัก  ดูได้จากคุณหนูน้อยผู้นี้  เขาแน่ใจว่าเด็กคนนี้ไม่เคยเห็นของจริงแน่นอน  ทว่ากลับรู้ได้ว่ามันคือรีอัลรัมตั้งแต่ในครั้งแรกที่มอง  น่ากลัวจริง ๆ นั่นแหละ

                “ข้าเห็นด้วย”  เด็กน้อยพยักหน้าหงึกหงัก  “เรามาเปลี่ยนเรื่องพูดคุยกันหน่อยเป็นอย่างไรคะ?”

                แม่ทัพใหญ่พยักหน้าช้า ๆ

                “ทำไมท่านถึงได้หอบข้าวหอบของมายังแถบไกลโพ้นเช่นนี้เล่า?  เหตุใดจึงไม่กลับไปประกาศให้ทุกคนทราบว่าท่านนั้นยังคงมีลมหายใจ?”

                อัลปานิ่งเงียบ  แอบเห็นว่าใบหน้าผ่านใต้ผ้าคลุมเริ่มเครียดเขม็ง

                “...ปัญหาภายใน?”

                ลักซ์ลองเดา

                ชายร่างใหญ่ทอดถอนใจ  พยักหน้าเล็กน้อย

                เด็กหญิงโบกมืออย่างไม่ใส่ใจจะฟังอะไรต่อ  เริ่มหันกลับไปสนใจมีดเล่มงามต่ออีกครั้ง

                “ในเมื่อท่านไม่ต้องการพกพาสิ่งสะดุดตานี่ไปไหนมาไหน  คงไม่รังเกียจหากข้าจะซื้อต่อ?”

                “แน่นอนครับ”

                เธอจับมันพลิกไปมาอย่างครุ่นคิด

                “สัก... ห้าล้านเหรียญ?”

                ราคาที่เอ่ยออกไปนั้นเป็นจำนวนที่มากพอจะซื้อบ้านในเขตฐานะปานกลางได้สักสิบหลังหรือมากกว่านั้น  นับว่าเป็นจำนวนเงินที่ถือว่าสูงมากทีเดียว

                ซึ่งหากดูจากความงดงามและความละเอียดในการสร้างของมันแล้ว  เกรงว่าอาจจะน้อยไปด้วยซ้ำไป

                “...หรือสิบล้าน?”

                ลักซ์เอ่ยอย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก  อัญมณีทั้งหมดทั้งมวลบนด้ามมีดมีแต่ของชั้นดี  มีรูปร่างที่สวยงาม  ไร้รอยตำหนิ บรรดาเงินแท้ที่ใช้ในการทำของชิ้นนี้ก็บริสุทธิ์ยิ่ง  ศิลปะต่าง ๆ สลักลงไปอย่างประณีต  ทำขึ้นด้วยศิลปะชั้นสูง  ไม่มีรอยบิ่นหรือรอยขีดข่วนใด ๆ มาทำให้ผลงานชิ้นนี้ด่างพร้อยเลยสักนิด

                เธอรู้ว่ามันเป็นจำนวนเงินที่มหาศาล  และบางทีอาจจะแพงกว่าราคาที่หล่อนกล่าวเสนออีกต่างหาก  ทว่ากิเลสที่อยากจะครอบครองมันก็มากเสียจนอดใจไม่อยู่

                ใจหนึ่งก็เริ่มลังเลกับจำนวนเงิน  อีกใจก็อยากได้เหลือประมาณ

                กิเลสเกิด ปัญหาเกิด...

                แว่วเสียงกลั้วหัวเราะทำเอาลักซ์เบ้หน้าหงิกเล็กน้อย

                “หากเป็นเมื่อก่อน  ราคาของมีดนั่นก็อาจจะประมาณนั้น”  เขาเปรย  “ทว่าตอนนี้มันเป็นดังของลักลอบค้าอย่างผิดกฎหมาย  ข้าคงขายด้วยราคาเช่นนั้นไม่ได้”

                เขาเลิกผ้าคลุมออกเล็กน้อย ทำให้เห็นว่าใบหน้าดุดันอันมีรอยบาดที่แก้มขวากำลังหยักยิ้มน้อย ๆ ส่งให้เธอ

     

     

     

                สุดท้ายลักซ์ก็ได้มีดนี้มาในราคาเพียงหนึ่งล้านเหรียญเท่านั้น

                ในคราแรก  อัลปาคิดเพียงห้าแสน  แต่ลักซ์คิดว่าเงินเพียงเท่านั้นดูจะเป็นการกดขี่อีกฝ่ายเกินไป  จึงมีการถกเถียงกันอยู่พักใหญ่  สุดท้ายแม่ทัพวัยกลางคนก็ยื่นคำขาดในราคาหนึ่งล้านเหรียญกลับมา  หากมิเช่นนั้นเขาจะไม่ยอมขายมันให้แก่เธอ

                ข้ารู้สึกว่าเขาถูกชะตาเจ้านะ  ลักซ์

                เจ้าของชื่อเลิกคิ้ว  ตายังไม่ได้ละออกจากร้านขายงานแกะสลักข้างทาง

                คิดงั้นเหรอ?

                อื้ม!’

                เด็กหญิงยิ้ม  ก่อนคืนการควบคุมแก่อาเรนเซีย

                ก็อาจมีบ้าง  ลูกคุณหนูคนไหนพูดจ้อได้เท่าฉันบ้างล่ะถามหน่อย  ไม่มีหรอก  เนี่ย  เขาเรียกรุ่นลิมิเต็ด

                ลักซ์ว่าพลางส่งเสียงหัวเราะอย่างพอใจ  อาเรนเซียเองก็ยังอดจะขำไม่ได้

                กลุ่มของเธอเดินไปทางใดก็มีแต่คนเหลียวมอง  ด้วยทั้งองครักษ์ทั้งหกที่ต่างแผ่ไอกดดันบางอย่าง  เด็กสองคนในกลุ่มก็ต่างมีหน้าตาผิวพรรณโดดเด่น  เสื้อผ้าทุกคนล้วนตัดเย็บอย่างหรูหรายิ่ง  อีกทั้งพ่อหนุ่มในชุดพ่อบ้านก็มีใบหน้าหล่อเหลาดึงดูดผู้คน  ในมือประคองกล่องไม้ใส่บางอย่างเอาไว้ใบหนึ่งอยย่างทถนุถนอมยิ่งทำให้บรรดาพ่อค้าแม่ขายพากันให้ความสนใจ

                การได้พบเจอเศรษฐีในตลาดชาวบ้านไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นง่าย ๆ  ไม่แปลกเลยที่จะตกเป็นเป้าสายตา

                ระหว่างที่กำลังเดินเลือกซื้อของกันอย่างเพลิดเพลิน  หางตาพลันเหลือบไปเห็นบางสิ่งเข้า  คราแรกอาเรนเซียไม่ได้สนใจ  แต่อีกคนกลับร้องขึ้น

                นั่นคนรึเปล่า?

                คำทักแปลก ๆ ทำให้จำต้องหันไปมองตามมือของภาพลวงตาที่ปรากฏขึ้นข้างกาย

                มันเป็นกองผ้าเก่า ๆ สีน้ำตาลซีดกองหนึ่ง  ผู้คนต่างเดินเฉียดไปเฉียดมาอย่างไม่สนใจ  จนมีคนหนึ่งเดินไปเหยียบเจ้ากองผ้านั่นเข้าเต็ม ๆ

                คำตอบของคำถามเมื่อครู่จึงปรากฎขึ้นโดยพลัน

                “เฮ้ย! มีคนด้วยเหรอเนี่ย!

                ชายแก่ท่าทางมึนเมาร้องลั่นเมื่อพบว่ากองผ้าที่เห็นว่านอนราบเหมือนไม่มีคนได้ทะลึ่งพรวดขึ้นมานั่งจ้องหน้าตนเขม็ง

                อาเรนเซียมองภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่รู้ว่ามีสิ่งใดน่าสนใจ

                อู้ว ดูหุ่นเขาสิ!’  ลักซ์เริ่มส่งเสียงร้องอย่างตื่นเต้น  ขนาดดูเหมือนน่าจะอดอยากมานาน  แต่ก็ยังมีแววของกล้ามเนื้อและความแข็งแรงให้เห็น  สัญชาตญาณการตอบสนองก็เร็วยิ่ง!’

                เธอเอาแต่จดจ้องร่างกายของอีกฝ่าย  ปากก็ส่งเสียงเจื้อยแจ้วไม่หยุด ใ ห้ความรู้สึกคล้ายกำลังฟังเสียงแหลม ๆของพวกนกแก้วนกขุนทองไม่มีผิด

                เอ๊ะ? เขาพกดาบด้วย เป็นอัศวินรับจ้างรึเปล่า?

                อาเรนเซียถูกท่าทีตื่นเต้นของอีกคนดึงความสนใจจนต้องมายืนจด ๆ จ้อง ๆ ชายแปลกหน้าอย่างสำรวจตรวจตราเหมือนพวกลักค้าทาส(?)ไปกับเขาด้วย

                จริงด้วย...

                ลักซ์หรี่ตามองพลางพึมพำ  ยังคงไม่เลิกสำรวจตรวจตราคนที่อยู่ห่างออกไป

                จู่ ๆ ร่างที่ลอยดังภูตพรายก็ยิ้ม  แล้วส่งเสียงหัวเราะออกมา

                ฉันอยากได้เขา!’

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×