ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    God Command พระเจ้า! ทำไมท่านไม่หาร่างใหม่ให้ข้า![Reverse Harem]

    ลำดับตอนที่ #9 : บทที่7 ของขวัญ [1]

    • อัปเดตล่าสุด 5 ม.ค. 64


    บทที่7 ของขวัญ [1]

                เบิร์นที่ไม่คิดว่าตอนจบจะหักมุมมาอิหรอบนี้ถึงกับเลิกคิ้วสูง

                จบง่ายถึงเพียงนี้?

                แอสทิลพูดคุยกับคนทั้งคู่อีกสองสามประโยคแล้วจึงเดินจากไป  ลักซ์เองก็คืนการควบคุมแก่อาเรนเซียทันทีที่ลับร่างสูงของเจ้าของวันเกิด

                “เห็นว่าคนผู้นั้นจะมีการทดสอบฝีมือทางด้านเวทมนตร์กับอาจารย์ที่ได้สอนเขามา  ท่านพี่สนใจจะไปดูหรือไม่ครับ?”

                เบิร์นที่เห็นว่าเหตุการณ์กลับสู่ความสงบแล้วเอ่ยถามขึ้น

                “หืม?  ประลองเวทมนตร์หรือ?  น่าสนใจนะ! เด็กหญิงตาวาวเล็กน้อย  “คาดว่าคงเริ่มในอีกไม่นานนี้  ดูสิ  พวกพ่อบ้านมาพาแขกไปที่อื่นแล้ว”

                ดรุณีน้อยชี้ชวนไปทางหนึ่ง  จูงมือน้องชายเดินตามกลุ่มคนไป

                ทุกคนถูกพาออกมายังสวนกว้างด้านข้างคฤหาสน์  โดยรอบเต็มไปด้วยโต๊ะเก้าอี้ล้อมเป็นวงกลมโดยเหลือพื้นที่โล่งไว้ตรงกลาง  ดูแล้วคล้ายสนามแข่งไม่น้อย

                ชายวัยสี่สิบปลาย ๆ เดินออกมาจากฝูงชน  แต่งกายด้วยชุดสีน้ำเงินเรียบ ๆ  แต่กลับดูหรูหราและน่าเกรงขามด้วยบุคลิกสงบนิ่ง

                ดวงเวทใหญ่พอ ๆ กับลูกบอลเลยแฮะ การสลายตัวเป็นไอก็ไว กักเก็บไว้ได้ก็มาก  อื้ม  จัดว่าเป็นจอมเวทที่เก่งคนหนึ่งเลย

                เสียงของลักซ์กล่าวราบเรื่อย ดูไม่ได้ยินดียินร้ายเท่าใดนัก

                แต่ถ้าเทียบกับอาจารย์ของเธอหรือท่านพ่อ...ยังได้แค่เด็กน้อยเท่านั้น

                อาเรนเซียถึงกับไอออกมาเมื่อได้ยินคำกล่าวตัดกำลังใจของอีกฝ่าย

                หากชายผู้นั้นมาได้ยินล่ะก็  เกรงว่าอาจเจ็บใจจนตายได้

                แอสทิลเดินมาที่ลานตรงกลาง  อีกฟากหนึ่งเป็นอาจารย์วัยกลางคนผู้นั้น  อาเรนเซียจูงน้องชายเดินไปนั่งโต๊ะร่วมกับท่านพ่อและท่านแม่

                “พวกลูกว่าแอสทิลผู้นั้นเป็นอย่างไร?”

                สเลนผู้เป็นพ่อเอ่ยถามขึ้น

                เบิร์นพลันเบ้ปาก  ถามกลับบิดาบุญธรรมไปเสียงเอือม

                “เอาเป็นมารยาทหรือความประพฤติดีครับ?”

                บุพการีทั้งสองถึงกับหลุดขำ  ท่าทีสงบนิ่งอันสง่างามหายวับไปกับตา

                “พ่อหมายถึงพลังเวทของเขา  เรื่องอะไรเช่นนั้น...เอาเป็นว่าไว้พูดทีหลังดีกว่านะ”

                “ข้าว่า  ไอเวทของเขามีจำนวนมากทีเดียว  แต่เรื่องอื่น...ข้าไม่มีความเห็นครับ”

                เสียงพูดคุยค่อย ๆ เงียบลงเมื่อคนทั้งสองบนสนามเริ่มทำความเคารพแก่กัน  ไอเวทถูกเร่งจนแม้แต่ผู้มีพลังเวทเพียงเล็กน้อยยังสัมผัสได้

                รอบกายของคนทั้งคู่คือสายน้ำที่หมุนเกลียวอย่างน่าอัศจรรย์  เพียงขยับมือ  พวกมันก็เริ่มเปลี่ยนสภาพ  แล้วพุ่งเข้าจู่โจมฝ่ายตรงข้ามอย่างรวดเร็ว

                แอสทิลรุดหน้าเข้าใกล้  ตวัดมือขึ้นเหนือหัว  คลื่นน้ำขนาดใหญ่ซัดตูมออกไป  ทางชายวัยกลางคนรีบเรียกกำแพงวารีขึ้นตั้งรับตรงหน้า  ไม่คาดว่าบนฟ้าจะมีหยดฝนกรดตกลงมา

                “การควบคุมเร็วดี  สมาธิก็เยี่ยม  ฝีมือไม่เลวเลย”

                สเลนเอ่ยชม  จดจ้องดูอย่างสนใจ  ฝ่ายอาจารย์ยกมือขึ้นซัดกระแสน้ำลำใหญ่ขึ้นต้านจนฝนกรดพลันสลาย  อีกมือสะบัดออก  บังเกิดเป็นน้ำอันก่อตัวเป็นรูปใบมีดหลายสิบพุ่งเข้าหาแอสทิล

                เด็กหนุ่มวิ่งหลบพร้อมสร้างเกราะวารีป้องกันร่างกาย  ตวัดสองแขนขึ้นเหนือหัว  ขยับมือรวบรวมกระแสน้ำเป็นวงกลมก่อนโยนมันขึ้นฟ้า

                บึ้ม!

                เสียงระเบิดดังสนั่นพร้อมมวลน้ำขนาดเท่ากำปั้นที่แตกกระจาย  กลายเป็นหยดน้ำจำนวนมากตกลงมาดังห่าฝนก่อนแปรรูปกลายเป็นแท่งแหลมร่วงลงพื้น

                ใบหน้าของชายวัยกลางคนพลันถอดสี  รีบยกสองมือสร้างเกราะขึ้นต้านรับการโจมตีแบบไร้ทางหลบนี้  พวกมันไม่มีอานุภาพพอจะฝ่าเกราะเข้ามาได้

                ความเบาใจยังไม่ทันจะได้เท่าไหร่  หางตาพลันเห็นใครบางคนขยับเข้ามาหา

                !

                แอสทิลวิ่งเข้าใส่อย่างบ้าบิ่น  ฝนเข็มไม่สามารถทำอันตรายใด ๆ เขาได้  มวลน้ำในมือถูกซัดออกนำหน้า  อีกฝ่ายรีบเคลื่อนมือมาสร้างเกราะป้องกัน

                ตูม!

                ร่างของอาจารย์วัยกลางคนกระเด็นไปข้างหน้าอย่างรุนแรงจนล้มคว่ำเมื่อมีมวลน้ำอีกลูกปะทะเข้าที่กลางหลังของเขาเต็มๆ

                ความเจ็บปวดแล่นริ้ว  คล้ายกับกระดูกกำลังแหลกก็ไม่ปาน  สุดท้ายเขาก็ยกมือยอมแพ้

                แอสทิลรีบเข้าไปพยุงผู้เป็นอาจารย์  สลายฝนเข็มทิ้ง  เสียงปรบมือดังกึกก้อง  แว่วคำชื่นชมดังมาให้ได้ยิน  มุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย  ทว่าในดวงตากลับไม่ใคร่จะยินดีนัก

                จะให้ยินดีได้อย่างไร  ในเมื่ออาจารย์ผู้นี้ไม่เคยจะชนะเขามาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว  แต่เพราะไม่มีเงินมากขนาดจะจ้างยอดฝีมือมากกว่านี้  เด็กหนุ่มจึงต้องทนเรียนกับอีกฝ่ายมาตลอดหลายปี

                ฝีมือต่างกันเกินไป

                อาเรนเซียเลิกคิ้วขึ้นพลันเมื่อได้ยินเสียงของลักซ์พูดขึ้น

                ดวงเวทของเจ้าบ้านั่นใหญ่กว่าของอาจารย์หลายเท่า  การสลายตัว  การกักเก็บใด ๆ ก็มากกว่ามาก  แม้ด้านสมาธิการควบคุมจะไม่เท่าตาแก่นั่น  แต่ในเรื่องความกล้าที่จะฆ่าเนี่ย...มากกว่าหลายขุมเชียว

                ลักซ์พูดทุกคำออกมาด้วยน้ำเสียงเฉื่อยแฉะไร้อารมณ์ยิ่ง

                ความกล้าที่จะฆ่า?

                ก็ตรงตัวแหละ  เธอว่า  ถ้าหมอนั่นไม่ติดว่านี่เป็นแค่การแสดงอวดความสามารถข่มพวกขุนนางคนอื่น  บางทีการควบคุมอาจดุเดือดและเลือดเย็นกว่านี้  ก็คือตาแก่คงตายนั่นแหละ

                อาเรนเซียกลืนน้ำลาย  เหลือบสายตามองเบิร์นและท่านพ่อท่านแม่  เด็กชายดูจะสนใจฝีมือแอสทิลไม่น้อยจากการนั่งพึมพำอะไรสักอย่างกับตัวเอง

                ส่วนทางด้านบุพการีทั้งสองนั้น  หัวคิ้วกลับขมวดเข้าหากัน  มีสีหน้ายุ่งยาก

                “ยังไปได้อีกไกล...”

                สเลนว่าเพียงแค่นั้นก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดอีก

                ถ้ามีโอกาส  เธอควรลองปะทะกับหมอนั่นดูนะ  เป็นคู่ต่อสู้ที่น่าสนใจทีเดียว  ลักซ์ว่าพลางส่งเสียงหาววอด  ครางอย่างหงุดหงิด  ฉันล่ะอยากออกไปตบพวกหนังเหี่ยวเสียงดังพวกนี้สักคนละทีสองทีจริง ๆ

                เอาน่า...

                เสียงของเธอขาดหายกลางครันเมื่อหางตาเห็นเป็นเงาตะคุ่มของใครบางคนเดินเข้ามาใกล้  เมื่อหันกลับไปมองก็พบว่าเป็นแอสทิลนั่นเอง

                เขายังคงหยักยิ้มทรงเสน่ห์  ทว่าดวงตากลับฉายประกายแปลกออกไป

                หมอนั่นเครื่องกำลังติดเลย...

                ชายหนุ่มรูปงามหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าเธอ  โค้งกายอย่างนอบน้อม

                “ข้าเคยได้ยินว่าคุณหนูอาเรนเซียนั้นมากความสามารถทั้งทางเวทและกายภาพ  ไม่ทราบว่าจะเสียมารยาทหรือไม่หากข้าจะขอให้คุณหนูชี้แนะแก่ข้า?”

    รอบข้างพลันเงียบกริบ  แม้แต่สเลนกับเอมิเรียเองยังอึ้งไป

                “เอ่อ...”

                รับเลย!  รับเลย!’  ลักซ์ตะโกนร้องสุดเสียง  ฉันอยากอัดหมอนี่แบบถูกกฎหมาย!  รับเลยยย

                เสียงร้องโหวกเหวกทำให้ดรุณีน้อยรู้สึกปวดหัว  หล่อนลอบถอนหายใจ  ค่อย ๆ ผงกหัวรับด้วยสีหน้าติดจะกล้ำกลืนอยู่หน่อย ๆ  หยัดยืนขึ้นด้วยท่วงท่าสง่างาม

                “หากท่านไม่รังเกียจความสามารอันเล็กน้อยของข้าล่ะก็  เป็นเกียรติยิ่งค่ะ”

                เด็กหญิงลอบหันไปมองพ่อและแม่  อีกฝ่ายพยักรับ  ขยับปากโดยไร้เสียงเป็นคำว่า ตามสบาย

                เจ๋ง!’

                ลักซ์ที่อ่านปากนั่นออกร้องเสียงดัง  ปรากฏร่างออกมาลอยตัวในท่าขัดสมาธิ  ยกมือตบเข่าตัวเองฉาดใหญ่  สีหน้าท่าทางพอใจยิ่ง

                ทั้งคู่พากันเดินไปยังกลางสนาม   เสียงพูดคุยดังเซ็งแซ่  เรื่องข่าวที่ว่าอาเรนเซียเป็นผู้มีพลังเวทมากไม่ใช่ความลับอะไร  พลังของเธอตื่นขึ้นตอนเข้าวัง  ถูกผู้ตรวจตราในวังเป็นคนตรวจพลังให้  พวกที่อยู่ในเหตุการณ์ตอนนั้นก็ไม่ใช่น้อย  เรื่องที่ว่าพลังเวทของหล่อนมีปริมาณที่มหาศาลจึงแพร่ออกไปไกลพอสมควร

                ฉันขอแนะนำด้วยความหวังดีนะกวางน้อย  เธอกล่าว  เจ้านั่นร้ายกว่าที่เห็นก่อนหน้านี้มาก อย่าได้คิดไม่ให้ฉันร่วม  ถ้ายังไม่อยากเจ็บหนักจนถึงตาย

                ...ก็ได้

                ทั้งคู่ทำความเคารพกันและกันอย่างนอบน้อม  อาเรนเซียลูบกระโปรงของตัวเองเล็กน้อย ค่อนข้างกังวลว่ามันอาจทำให้ลักซ์เคลื่อนไหวลำบากได้

                อย่าห่วงฉันเลย  กระโปรงสุ่มไก่บ้านี่ไม่เท่าไหร่หรอก  อีกคนในร่างพูดอย่างขอไปที  ทุ่มสมาธิไปที่หมอนั่นซะ เจ้านั่นจะเริ่มแล้ว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×