ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    God Command พระเจ้า! ทำไมท่านไม่หาร่างใหม่ให้ข้า![Reverse Harem]

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่2 เที่ยวตลาด [2]

    • อัปเดตล่าสุด 5 ม.ค. 64


    บทที่2 เที่ยวตลาด [2]

                “เชิญครับ”

    แลนช์เปิดประตูรถม้าแล้วก้าวนำออกมาเป็นคนแรก  ผายมือเชื้อเชิญอย่างสุภาพ  พยุงคนทั้งคู่ให้ลงมาอย่างเบามือ

                สองพี่น้องพยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงขอบคุณ

                ฉันหวังว่าที่นี่จะมีของอะไรที่น่าสนใจสำหรับฉันนะ

                น้ำเสียงเนือย ๆ ของลักซ์กล่าวเบา ๆ  พลันด้านหน้าของอาเรนเซียก็ปรากฏเป็นร่างของเด็กผู้หนึ่งในชุดสีขาวเก่าซอมซ่อลอยฉวัดเฉวียนไปมาเหมือนภูตพราย

                ใบหน้าน่ารักหันมามองทางอาเรนเซีย  ก่อนหยักยิ้ม

                ยังไงก็ฝากเดินทั่ว ๆ ด้วยล่ะ

                อื้ม

                พวกองครักษ์ที่ขี่ม้าตามมาค่อย ๆ ผูกม้าไว้แล้วเดินมาใกล้ ๆ เด็กทั้งสาม...หมายถึง...สองร่างแต่สามคน

                การมาเยือนของ พวกมีอันจะกิน ทำให้เหล่าพ่อค้าแม่ขายหันมามองอย่างสนใจ

                มีหลายคนที่เริ่มส่งเสียงชี้ชวนต้นเงินต้นทองกลุ่มนั้นให้หันมาสนใจร้านของตน  อาเรนเซียเพียงเดินมองด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม  แต่หากสิ่งใดไม่ได้อยู่ในความสนใจก็ไม่ได้คิดจะหยิบจ่ายให้สิ้นเปลือง  ทั้งที่หากจะซื้อทุกอย่างในตลาดนี้กลับไปก็ไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรงเลยแม้แต่นิด

                ไม่ชอบพอ  เอากลับไปก็เป็นได้แค่ของไร้ประโยชน์เท่านั้น

                โอ้  มีดนั่นสวยดีแฮะ

                ร่างที่ลอยอยู่เคียงข้างร้องขึ้น แล้วชี้มือไปยังร้านแผงลอยร้านหนึ่งด้านหน้าขวามือตรงตำแหน่งหางตาของอาเรนเซียพอดี

                แม้จะเห็นว่าลักซ์กำลังลอยไปลอยมาอย่างอิสระ  ยามสนทนากับเธอก็ยังสบตาพูดคุยอย่างเป็นธรรมชาติ  แต่อย่างไรภาพลวงตาที่สร้างขึ้นก็ยังคงเป็นภาพลวงตา  ลักซ์ยังคงอยู่ในร่างกายของอาเรนเซีย  หากจะมองออกมายังโลกภายนอกก็ต้องมองผ่านสายตาของคนที่อยู่หน้าแสงเท่านั้น

                นั่นหมายความว่าลักซ์เห็นเพียงมีดที่ว่าลิบ ๆ อยู่ตรงหางตาของอาเรนเซียเท่านั้น  แต่เธอก็ยังบอกได้ว่ามันสวยและนึกสนใจในมันทันที

                อาเรนเซียหันไปมองตามมือที่ชี้ของลักซ์อย่างอยากรู้อยากเห็น

                มันเป็นร้านเล็ก ๆ ที่ทำการตั้งโต๊ะและขึงผ้าอย่างง่าย ๆ  ทว่าข้าวของที่เอาออกมาเรียงขายนั้น  อาเรนเซียเองยังอดจะตาโตไม่ได้

                ของทุกชิ้นในร้านนั้น  มองปราดเดียวก็รู้ว่ามีราคาขนาดไหน

                ในระยะเกือบสิบเมตรนี้  อาเรนเซียไม่สามารถมองเห็นเจ้าสิ่งที่ลักซ์สนใจได้ จึงต้องเร่งก้าวเท้าเข้าไปใกล้  มองตามนิ้วของเด็กหญิงอีกคนไป

                อาเรนเซียเดินไปจับมันขึ้นมาพลิกดู

                “งามนัก  ดูเผิน ๆ ข้าคงไม่นึกว่ามันจะเป็นอาวุธ”

                เบิร์นที่เดินตามมาเงียบ ๆ ยังอดเอ่ยปากชมไม่ได้ยามจ้องมองมีดสั้นในมือพี่สาว

                มันมีรูปร่างที่เรียบง่าย  ใบมีดเป็นทรงแหลมสามเหลี่ยม  ความยาวรวมสักฟุตหนึ่งได้ ทั้งอันทำมาจากเงินแท้  แต่งประดับด้วยอัญมณีน้ำงามนับไม่ถ้วน  สะท้อนแสงงดงามเสียจนแทบไม่อยากละสายตา

                เจ้านี่เป็นของแท้หมดเลย  ของดีซะด้วย

                ลักซ์ที่ลอยเข้าไปใกล้กล่าวพึมพำ  หัวคิ้วเลิกขึ้นเล็กน้อยอย่างประหลาดใจ

                แปลก  เจ้านี่ยังไงก็ต้องแพงมาก  มาขายอยู่ในตลาดชาวบ้านแบบนี้มัน...

                อาเรนเซียเข้าใจในสิ่งที่ลักซ์จะพูดดี  เธอมองไปยังของบนแผงลอย  อดจะขมวดคิ้วเล็กน้อยไม่ได้

                ด้วยเพราะในโลกนี้เป็นยุคสังคมศักดินา  การแบ่งเรื่องของชนชั้นให้ชัดเจนจึงนับว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก  นั่นทำให้แม้แต่ตลาดก็ยังแบ่งออกเป็นสำหรับชาวบ้านและชนชั้นสูง  ชาวบ้านตั้งแต่ฐานะปานกลางลงไปถูกสั่งห้ามไม่ให้ย่างกรายเข้าเขตตลาดของชนชั้นสูงโดยเด็ดขาด  แต่บรรดาพ่อค้าร่ำรวยหรือขุนนางมีเงินนั้นกลับสามารถจะไปที่ไหนก็ได้ตามต้องการ  ยุติธรรมซะจริง

                สองเด็กน้อยจ้องมองของบนแงลอยตรงหน้าเขม็ง  ทุกชิ้นเป็นของมีราคาทั้งสิ้น  แม้แต่ชิ้นที่ดูแย่และเล็กที่สุดก็ยังดูมีราคาในระดับที่พ่อบ้านรวย ๆ ยังไม่แน่ว่าจะซื้อไหว  ทว่าเขาดันเอาของพวกนี้มาตั้งขายในตลาดของพวกชาวบ้านเนี่ยนะ?  อยากขายไม่ออกมากนักหรืออย่างไร

                กวางน้อย  ขอไปหน้าแสงหน่อยสิ

                เด็กหญิงชะงักเล็กน้อย  ก่อนพยักหน้าอนุญาตแล้วลี้ตัวเองออกจากหน้าแสงเพื่อให้ใครอีกคนเข้ามาแทนที่  เงาร่างที่ราวกับวิญญาณของลักซ์พลันเลือนหายไป

                เบิร์นมองดูความเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าของพี่สาวแวบหนึ่งก็ทราบทันทีว่าในตอนนี้คนที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่พี่สาวผู้อ่อนโยนแต่เป็นยัยปีศาจอีกคนหนึ่งแทน

                ลักซ์จับมีดในมือพลิกไปมา  เมื่อนำมันมาส่องกับแสงจึงเห็นว่าบนใบดาบเต็มไปด้วยลวดลายสลักอันอ่อนช้อยของตัวอักษรและภาพที่ใช้เพื่อเล่าเรื่องบางอย่าง

                ตัวภาษาดูอย่างไรก็ไม่ใกล้เคียงกับของทวีปแถบตะวันตกเช่นที่นี่  แต่มีความใกล้เคียงกับแถบตะวันออกมากกว่า ทว่าเธอไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นของทวีปใด  หรือของประเทศใดกันแน่

                ความรู้สึกถูกมองทำให้ลักซ์เงยหน้าขึ้น  จดจ้องร่างสูงใหญ่ราวกับยักษ์ของเจ้าของร้านค้าแผงลอยแห่งนี้ด้วยสีหน้าไม่มีขยับไหว

                เขามีโครงร่างที่หนามาก  ตัวเองก็สูงชะลูด  สวมผ้าคลุมสีตุ่นเสียมิดชิด  ทำให้เขาดูน่ากลัวอย่างยิ่ง  แต่นั่นไม่ได้ทำให้มนุษย์ตายด้านอย่างลักซ์รู้สึกอันใดได้

                อ๊ะ  บานพับอันนั้นสวยจัง  ดูกันเถอะ

                เด็กหญิงวางมีดลง  เดินไปดูบานพับอันหนึ่งที่ตั้งอยู่อีกฝั่งแทนตามคำชวนของเจ้าของร่างที่ไม่ได้อยู่หน้าแสงในตอนนี้

                ไม้สีน้ำตาลทองถูกฉลุอย่างประณีตเป็นรูปของเหตุการณ์ต่าง ๆ แปดเหตุการณ์ตามจำนวนบานพับ  งานภาพที่เน้นความอ่อนช้อยเป็นเกรียวสวยมากกว่าความสมจริงเป็นศิลปะที่แปลกหูแปลกตาสำหรับชาวประเทศเอนลูกาสอย่างพวกเธอมาก

                โอ้  นี่มันเรื่องราวเกี่ยวกับพระเมตตาของเทพปีนันทั้งแปดมิใช่รึ?

                “พระเมตตาของเทพปีนันทั้งแปดนี่...”

                สองเสียงของ เด็กเรียน ผสานขึ้น ลักซ์ถึงกับหน้าเบ้

                “ช่างมันเถอะ ข้าไม่อยากไม่สบายตอนนี้...”

                ลักซ์ร้องครวญขึ้นเสียงอ่อนก่อนที่จะมีใครได้ ร่ายคำสาป ใส่เธอ  ดรุณีน้อยวิ่งต๊อก ๆ ไปยังอีกมุมของร้านที่เรียงรายไปด้วยอาวุธสวย ๆ หลายสิบชิ้นเพื่อหลีกหนีคู่กัดอย่างเบิร์น

                “สวย...”

                เด็กหญิงพึมพำออกมาอย่างเป็นสุข  หยิบจับอาวุธทุกชิ้นขึ้นดูอย่างละเอียด จนแม้แต่พ่อค้าลึกลับที่ยืนเป็นหุ่นปั้นมาตลอดยังอดจะเอ่ยปากขึ้นไม่ได้

                “คุณหนูชมชอบอาวุธหรือครับ?”

                น้ำเสียงที่กล่าวออกมานั้นทุ้มลึกหนักแน่นราวแฝงไว้ซึ่งพลังบางอย่าง  สำเนียงค่อนข้างแข็งกระด้างคล้ายไม่ได้พูดภาษาเกิด

    ลักซ์เงยหน้ามองสำรวจอีกฝ่าย  กะพริบตาปริบแล้วพยักหน้าหงึกหงัก

                “แน่นอน ข้าชอบมาก!

                “ยัยจอมมารเอ๊ย...”

                แว่วเสียงนินทาของคู่กัดลอยมาตามลม  ลักซ์ทำเป็นไม่ได้ยิน  เงยหน้าส่งยิ้มแฉ่งให้แก่ร่างใหญ่โตของพ่อค้าลึกลับพร้อมทำตาปริบ ๆ

                “อาวุธเหล่านี้ดูมีราคายิ่ง  มิน่าจะใช่ของของสามัญชนได้นะ  ท่านว่ามั้ย?”

                พ่อค้าตัวโตจ้องมองเด็กหญิงที่อายุไม่น่าเกิน 12 ปีนิ่ง  ก่อนกล่าวขึ้นเสียงเรียบ

                “ท่านต้องการจะพูดอะไรเช่นนั้นหรือ  คุณหนู?”

                เบิร์นแทบจะสำลักลมหายใจตายอยู่ตรงนั้น  เขาถลึงตามองจอมหาเรื่องเขม็ง  พยายามส่งกระแสจิต(?)ให้อีกฝ่ายหยุดเล่นอย่างสุดความสามารถ

                ลักซ์ทำทีเป็นมองไม่เห็น  ยังคงยิ้มหน้าเป็นใส่พ่อค้าร่างโตต่อไป

                “ข้าแค่สงสัยว่าท่านอาจไม่ใช่แค่พ่อค้าสามัญชนคนธรรมดาน่ะซี่”

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×