คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : บทที่10 คำเตือนจากมัน
บทที่10 คำเตือนจากมัน
การปรากฏตัวอย่างกะทันหันพร้อมกรงนกที่เจ้านกดำนั่นสีเข้มกว่าครั้งก่อนมากทำแดริลถึงกับอึ้ง เขาเดินออกมาจากหลังเคาท์เตอร์บาร์
จับเจ้าหล่อนหมุ่นไปหมุนมาเพื่อให้แน่ใจว่าเจ้าหล่อนยังเหลือครบสามสิบสอง
...อันที่จริงมันก็ไม่น่าจะขาดหายไปได้หรอก ก็แค่ตกใจเฉย ๆ น่ะ
ใครจะไปคิดล่ะว่าหล่อนจะ ‘เนื้อหอม’ ขนาดที่มันมาหาถี่ขนาดนี้น่ะ
ขนาดเขาที่เป็นคนวางแผนยังไม่อยากจะเชื่อเลยด้วยซ้ำ
ดูถูกไม่ได้จริง ๆ แฮะ
หญิงสาวสะบัด อากาศพลันฉีกออกปรากฏเป็นมิติสีดำขนาดประมาณลูกฟุตบอล
เธอเอื้อมมือเข้าไปคว้าเอากรงนกออกมาส่งให้แดริล
เขารับมันมาส่องดู อดอุทานไม่ได้
“ดูเหมือนว่าครั้งนี้จะได้มาเยอะกว่าทุกทีสินะ สีเข้มขึ้นเยอะเลย”
เธอพยักหน้า
“ประมาณสามเท่า”
ชายหนุ่มชะงักไปเล็กน้อย แม้แต่เจ้านี่ที่แข็งแกร่งกว่าครั้งก่อนหน้านี้ถึงสามเท่าก็ยังทำอะไรหล่อนไม่ได้อย่างนั้นเหรอ?
เป็นเด็กที่...น่าสนใจ
เขาเก็บกรงเข้าไปในช่องว่าง
หมุนตัวไปคว้าขวดไวน์มารินโลหิตสีแดงสดใส่แก้วส่งให้หญิงสาว
“เธอเพิ่งจับมันได้เลยงั้นสิ? แบบนั้นก็แปลว่า...” แดริลลากเสียงยาว ดวงตาปรากฏประกายหยอกล้อ “เธอกำลังจะโดนลักหลับ?”
ใบหน้าของอาเคร่ายังคงนิ่งเฉย เธอจิบโลหิตสีสดเล็กน้อย เหลือบตามองใบหน้าเปื้อนยิ้มของชายหนุ่ม
“ก็แค่อาหารมื้อดึก”
เห็นอีกฝ่ายไม่รับมุกเขาก็เพียงไหวไหล่ หายเข้าหลังร้านไปก่อนกลับมาพร้อมอาหารให้แก่หญิงสาวกำลังหิวโซจากการเสียเลือดเป็นจำนวนมาก
เธอทานอย่างเงียบ ๆ แดริลรอจนหญิงสาวทานเสร็จจึงเอ่ยปากขึ้น
“กรงนกก่อน ๆ
ฉันส่งกลับไปที่นีกหมดแล้ว” เขาพูดยิ้ม
ๆ
“พอเห็นว่าส่วนใหญ่มีแต่พวกไม่เกี่ยวข้องอีกแล้วก็ต่างพากันโมโหใหญ่เลยล่ะ”
หญิงสาวได้ฟังก็เลิกคิ้วขึ้นน้อย ๆ
“พวกเขาว่านายเหรอ?”
แดริลยักไหล่ สีหน้าแสดงชัดว่าทำอันใดไม่ได้
“แน่นอน ก็เป็นหัวหน้านี่นา” เขายังคงยิ้มอย่างสบาย
ๆ “พวกเขาบอกว่าในฐานะที่ฉันเป็นหัวหน้าแต่กลับออกคำสั่งให้เธอโฟกัสกับภารกิจไม่ได้ถือเป็นความผิดพลาด”
ชายหนุ่มไหวไหล่
“ก็เลย...โดนงดไม่ให้เข้าร่วมการประชุมของเหล่าเบื้องบนจนกว่าภารกิจนี้จะเสร็จสิ้น”
อาเคร่านิ่งฟังพร้อมกับหลุบตามองฝ่ามือที่ผสานอยู่บนตักของตน ใบหน้ายังคงไม่มีอารมณ์ใดแสดงให้เห็น
แม้แต่เสียงที่ใช้พูดก็ยังราบเรียบไม่เปลี่ยนแปลง
"...ทั้ง ๆ
ที่ไม่ได้รู้อะไรเลยก็ยังตัดสินผู้อื่นน่ะเหรอ?”
“หืม?”
แดริลร้องขึ้นอย่างประหลาดใจ หญิงสาวแม้จะพูดออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ ทว่าเพราะไม่มีปี่มีขลุ่ยเกินไป เขาจึงรู้สึกตั้งตัวไม่ทันเล็กน้อย
หญิงสาวเงยหน้าสบตาชายหนุ่ม กล่าวไม่ช้าไม่เร็ว
“หากพวกเขารู้จักที่จะหาข้อมูลว่าเหยื่ออย่างฉันเป็นอย่างไร ฉันเชื่อว่าพวกเขาจะไม่พูดแบบนี้” เธอยื่นแก้วไวน์ไปข้างหน้า ให้อีกฝ่ายช่วยรินโลหิตให้ “แต่แบบนี้ดูท่าคงไม่ได้รู้อะไรเลย ไม่รู้ทั้งที่ว่าเหยื่ออย่างฉันนั้น ‘ดี’ เกินไป
ไม่รู้ทั้งที่ว่ามันฉลาดอย่างไร”
เธอหลุบตาลง แต่เพราะใบหน้าไม่มีอารมณ์ใด ๆ ปรากฏอยู่เลย
มันทำให้เขาไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอ่านอันใดอยู่กันแน่
“เช่นนั้นจะเป็นความผิดของนายได้ยังไงล่ะจริงมั้ย? นายไม่ใช่พระเจ้าเสียหน่อยที่จะทำได้ทุกอย่าง”
เขาเลิกคิ้วสูง ในดวงตาฉายชัดว่ากำลังตกใจ
“นี่เธอ...กำลังเป็นห่วงฉันเหรอ?”
อาเคร่าได้ยินแล้วก็เอียงคอ ก่อนโคลงศีรษะ
“ไม่รู้สิ คงอย่างนั้นล่ะมั้ง?”
เขาอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะเปลี่ยนเป็นหัวเราะ
“มีสาวสวยมาห่วงใยเนี่ยทำให้รู้สึกดีจังน้า”
เธอเพียงจ้องมองเขาตรง
ๆ โดยไม่พูดอะไร ชายหนุ่มเห็นเช่นนั้นก็ยกมือยอมแพ้ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ในสายตาเต็มไปด้วยแววหยอกล้อ
“อย่างไรก็เพื่อนร่วมงานนี่นะ”
ชายที่กำลังรินเครื่องโลหิตให้หญิงสาวชะงักไปจังหวะหนึ่งก่อนจะหัวเราะแล้วรินต่อ
อาเคร่าดื่มจนหมดค่อยวางแก้วและลุกขึ้นยืน
“ขอบคุณสำหรับอาหาร”
แดริลโบกมือ
“ราตรีสวัสดิ์
คุณหนูอาเคร่า”
ร่างที่กำลังเปิดประตูชะงัก
มองคนที่กำลังยิ้มเป็นเชิงหยอกล้อให้ตนอย่างเฉยชา กระนั้นก็ยังพยักหน้าน้อย ๆ กับชายหนุ่ม
“ราตรีสวัสดิ์”
ปึง
เขามองดูบานประตูปิดลงโดยไม่กล่าวคำใด รอยยิ้มที่เคยมีค่อย ๆ จางลงอย่างช้า ๆ ดวงตาทอประกายครุ่นคิดบางเบา
ความเงียบโรยตัวอยู่ครู่หนึ่งก็ถูกทำลายลงด้วยเสียงหัวเราะเบา
ๆ ของชายหนุ่ม
“เป็นเด็กที่แปลกจังแฮะ”
ทั้ง
ๆ ที่ก็รู้ดีแท้ ๆ ว่าเขาเป็นใครแต่ก็ยังจะห่วงใยกันอยู่ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะไม่มีความรู้สึกจึงไม่ได้คิดอะไรหรือเพราะเป็นเด็กดีเกินไปกันแน่
“...ฮ่ะ
ๆ”
ไม่ว่าจะเพราะอะไรก็น่าสนใจทั้งนั้นแหละ
“...ทำไมถึงมาอยู่ที่ห้องฉันได้?”
อาเคร่าถามขึ้นเมื่อพบว่าภายในห้องพักของตนนั้นมีคนอื่นกำลังยึดเตียงของเธออยู่ แวมไพร์หนุ่มที่นอนเอกเขนกดีดตัวขึ้นนั่ง อ้าปากพลางบ่น
“ช้าชะมัด ฉันเกือบจะหลับอยู่แล้วเนี่ย”
เธอไม่ได้สนใจที่เขาไม่ตอบคำถามตน เพียงจ้องมองเงียบ ๆ เท่านั้น
อัลยกมือยอมแพ้ พยักเพยิดไปทางนอกหน้าต่าง หญิงสาวจึงเดินไปชะโงกหน้าดู พบว่ามีซากศพของปีศาจนับร้อยตายเกลื่อนเต็มพื้นจนแทบมองไม่เห็นหญ้าด้านใต้
“อยู่ดี
ๆ พวกปีศาจก็ดันคลั่งขึ้นมาแล้วตรงมาที่นี่
ฉันเลยคิดว่าเธอคงทำตัวเองเลือดออกอีกแน่เลยตามมาดู” เขาพูดด้วยท่าทีเอื่อยเฉื่อย “นอกจากจะหาตัวเธอไม่เจอแล้วยังต้องมาจัดการเจ้าพวกนั้นแทนเธอเพื่อกันไม่ให้พวกมันฆ่าคนในคฤหาสน์อีก ทั้ง ๆ ที่นั่นไม่ใช่หน้าที่ฉันเลยแท้ ๆ ให้ตาย”
หญิงสาววาดมือ กลุ่มก้อนเหนียวหนืดสีดำอมม่วงพลันพุ่งเข้ากลืนกองศพเหล่านั้นจนหายสิ้นในพริบตา เธอมองไปทางคนที่ทำหน้าเซ็งอยู่บนเตียง น้ำเสียงเฉยชาสุดประมาณ
“หากไม่ทำภารกิจก็ล่ม ดังนั้นที่นายทำก็สมควรแล้ว” เธอพูดพร้อมกวาดตาดูสภาพห้องที่เรียบร้อยดีทุกประการก่อนดึงผ้าม่านปิด “อีกอย่าง
ฉันไม่ได้ทำตัวเองเลือดออก
โดนโจมตีจนบาดเจ็บต่างหาก”
“นั่นก็ทำให้เลือดออกเหมือนกันไม่ใช่หรือไง?”
อาเคร่าคร้านจะต่อล้อต่อเถียงจึงเพียงเดินหายเข้าห้องน้ำไป
เสียงของน้ำที่หล่นลงกระทบพื้นดังลอดออกมาให้ได้ยินเป็นระยะ
ๆ เขาพลันกลอกตามองฟ้าเมื่อพบว่าอีกฝ่ายไม่เพียงเมินเขา แต่ยังกล้าเข้าไปอาบน้ำทั้ง ๆ
ที่มีผู้ชายนั่งทนโท่อยู่นี่ทั้งคน ซึ่งนั่นออกจะไม่ถูกต้องเสียเท่าไหร่...ไม่สิ มันแย่เลยต่างหาก
ทว่าก็นั่นแหละ จะให้ไปสอนเรื่องชายหญิงกับอันเดธที่โดนริบความรู้สึกนึกคิดเนี่ยนะ? นั่นมันโง่พอ ๆ กับการพยายามที่จะสอนเป็ดให้บินได้แบบนกนั่นแหละ
“ทำไมเธอถึงบาดเจ็บได้?”
เขาเร่งเสียงเล็กน้อยเพื่อที่จะให้คนในห้องน้ำได้ยิน ไม่ได้กังวลสักนิดว่าจะมีใครได้ยินเสียงของตนหรือไม่ เพราะตั้งแต่เขามาที่นี่เขาก็ลงเวทไว้โดยรอบคฤหาสน์นี้แล้ว
“เจ้านั่นมามาฉัน”
“หา?” เขาทำหน้าไม่เชื่อ “ฉันไม่คิดว่าจะมีสิ่งมีชีวิตตนไหนในมิตินี้ทำอันตรายเธอได้นะ”
“ก็ใช่” เธอตอบ
“แต่มันดันสิงร่างคนอื่นมานี่สิ
เลยประมาทไปหน่อย”
อัลเลิกคิ้ว วิญญาณที่เคยลงนรกโดยส่วนใหญ่ไม่อาจเข้ากันได้กับกายหยาบแม้จะเป็นเพียงการสิงสู่ชั่วขณะหนึ่งก็ตาม
ความจริงที่ว่ามันสิงร่างคนอื่นเพื่อเข้าทำร้ายอันเดธหน้าตายผู้นี้จึงเป็นอะไรที่น่าแปลกใจไม่น้อย
“นายมาหาฉันแค่เพราะเรื่องนี้น่ะเหรอ?” อาเคร่าที่เงียบไปนานถามขึ้น เสียงน้ำหยดดังเป็นระลอก ๆ “นั่นไม่สมกับเป็นนายสักนิด”
ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัยใคร่รู้
“อะไรที่ว่าไม่สมกับเป็นฉันไม่ทราบ
หืม?”
ซ่า!
เสียงน้ำดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเสียงคล้ายคนกำลังลุกขึ้นจากอ่างน้ำ อัลอดไม่ได้ที่จะจินตนาการถึงรูปร่างของหญิงสาวในยามที่ไร้อาภรณ์โดยที่หน้าไม่แดงใจไม่สั่น เพียงโคลงศีรษะไปมาแล้วพึมพำในใจ
เป็นแค่เด็กที่ยังไม่ทันจบม.ปลายแท้
ๆ โตเร็วชะมัด
แน่นอนว่าคนในห้องน้ำรู้ไม่เท่าทันความคิดของแวมไพร์หนุ่ม หรือบางทีอาจจะรู้ แต่แค่ไม่เก็บเอามาใส่ใจก็เท่านั้น
“นายไม่ใช่คนใจดี อย่างน้อยก็กับฉัน”
เมื่อได้ยินคำตอบ แวมไพร์หนุ่มพลันยิ้มกว้างจนตาหยี หัวเราะเสียงดังด้วยความชอบใจ
“รู้ด้วยเหรอ?” เขาพูดเสียงสั่นด้วยยังไม่อาขหยุดหัวเราะได้ “ใช่
ฉันไม่ได้มาที่นี่เพราะแค่เรื่องเธอหรอก
แต่แค่จะมาบอกว่ามันก็มาหาฉันเหมือนกัน”
เสียงในห้องน้ำหยุดลงครู่หนึ่งก่อนที่ประตูจะเปิดออก ร่างระหงที่พราวด้วยหยดน้ำกับชุดลำลองสีขาวก้าวออกมาอย่างแช่มช้า หยดน้ำไหลลงมาตามเส้นผมทิ้งรอยด่างไว้บนพื้น
“มันไปหานาย?”
อัลพยักหน้า
“ทั้งฉันทั้งเจ้าหมาป่าเฒ่านั่น”
หญิงสาวชะงัก
จ้องมองดวงตาสีดำตัดเขียวของอีกฝ่ายคล้ายกำลังค้นหาประกายโกหกข้างในนั้น น่าเสียดายที่มันไม่มีอยู่เลยสักนิด
“เมื่อกี้ฉันเพิ่งไปหาแดริลมา เขาไม่เห็นพูดถึงเลย”
“ก็ตามสไตล์เจ้านั่นนั่นแหละ”
อัลกล่าวอย่างไม่ยีหระ
เอนตัวนอนเอกเขนกอย่างไม่คิดจะแบ่งเตียงให้เจ้าของห้องเลยแม้สักนิด หญิงสาวเห็นเช่นนั้นจึงจำต้องเดินไปนั่งที่เก้าอี้หน้ากระจก
“เกิดอะไรขึ้นบ้าง?”
เขาเหล่ตามองคนที่นั่งเช็ดผมอย่างใจเย็นด้วยสีหน้าครุ่นคิด ในใจกำลังเดาว่าหากอีกฝ่ายมีความรู้สึก ในตอนนี้หล่อนจะรู้สึกอย่างไรอยู่
“ก็ไม่มีอะไรมาก แค่อยู่ ๆ ก็มาปรากฏตรงหน้าแล้วก็โจมตีแบบกะเอาให้ตายครั้งหนึ่ง
เสร็จแล้วก็ทิ้งท้ายว่าอย่ายุ่งกับอาหารของมันแล้วก็หายไปเลย” เขาพูดถึงตรงนี้ ใบหน้าพลันฉายประกายหงุดหงิด ดึงหน้ากากกันแก๊สลงพร้อมทำเสียงจึ๊กจั๊ก “น่าเสียดายที่ทั้งฉันทั้งตาเฒ่านั่นจับมันไม่ได้สักคน”
อาเคร่าไม่ได้ตอบ
ดวงตาของเธอหลุบต่ำอย่างครุ่นคิด
ศีรษะเอียงน้อย ๆ
“อาหาร...หมายถึงฉันสินะ”
เขายักคิ้ว
“แน่นอน ที่น่าอร่อยที่สุดในมิตินี้ก็มีแต่เธอนั่นแหละ” อัลพูดพลางเลียปาก
ดวงตาเป็นประกายเล็กน้อยยังมองไปทางร่างขาวซีด “ขนาดฉันยังอยากกัดสักคำสองคำ”
เธอมองเขา
สายตาเฉยชาคู่นั้นเหมือนกำลังถามว่าเขากล้าหรือ?
ชายหนุ่มยกมือทั้งสองข้างขึ้น ไม่คิดต่อล้อต่อเถียง
“...ในเมื่อมันก็บอกแล้วว่าอย่ายุ่งกับฉันอีก แต่นายดันมาโผล่อยู่ในห้องฉันแบบนี้เนี่ย...” เธอพูดพลางปรายตามองคนที่ยึดเตียงตนอย่างสมบูรณ์นิ่ง “...ไม่กลัวตายหรือไง?”
ใครที่เผลอคิดไปว่าการที่อัลโดนเจ้ร่าอาบน้ำอัดหน้า(?)จะทำให้พี่แกเขินนั้น เสียใจด้วยค่ะ ท่านคิดผิด เพราะเห็นหน้าใส ๆ แบบนี้พี่แกอายุอานามก็เป็นร้อยแล้วเหมือนกัน ดังนั้นแค่โดนสาว ๆ อาบน้ำให้ฟังเนี่ยจิ๊บ ๆ 555
Enjoy!
ความคิดเห็น