คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : บทที่9 สิงร่าง
บทที่9 สิงร่าง
เธอใช้เวลาในการอาบน้ำนานกว่าปกติถึงสองเท่าเพื่อขจัดกลิ่นหอมหวานให้หมดไป อาเคร่ายกมือขึ้นดมกลิ่น
พบว่านอกจากกลิ่นจากการอาบน้ำแล้วก็ไม่มีกลิ่นอื่นเจือปนอีกจึงวางใจและตัดสินใจยอมออกจากห้องน้ำในที่สุดหลังจากแช่อยู่ในนั้นนานเกือบสองชั่วโมง
เมื่อใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยจึงค่อยมานั่งเช็ดเรือนผมที่ยาวคลุมสะโพกของตนอย่างใจเย็น หยดน้ำจากเรือนผมที่ซับไม่ทันหยดลงบนเตียงจนเปียดชื้นเป็นวง เธอเหมือนจะชะงักไปเล็กน้อย ลูบมือไปบนรอยชื้น เพียงครู่เดียวพวกมันก็แห้งสนิท
หลังจากแน่ใจว่าผมแห้งสนิทดีแล้วเธอจึงเปิดไปปิดหน้าต่างและปิดไฟเตรียมตัวนอน
แต่ยังไม่ทันจะได้เดินกลับมาถึงเตียงก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
หญิงสาวชะงักเล็กน้อย มองฝ่าความมืดไปยังบานประตู ศีรษะเอียงเล็กน้อย
ตอนนี้น่าจะราว ๆ
ห้าทุ่มกว่าแล้ว ทำไมถึงยังมีคนมาหาเธออีกกันนะ?
คิดไปพลาง ขาก็ก้าวไปทางประตูด้วยท่าทีทื่อ ๆ
ข้อเสียของการไม่มีความรู้สึกนั้นไม่ใช่แค่ไม่สามารถแสดงสีหน้าแววตาหรือความรู้สึกนึกคิดได้เท่านั้น
แต่ในบางครั้งก็ยังมักเผลอพาตัวเองไปหาอันตรายโดยไม่ตั้งใจได้อีกด้วย นั่นเป็นเพราะเธอไม่อาจ ‘สงสัย’ หรือนึก ‘หวาดระแวง’ ได้นั่นเอง
และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่เธอต้องมาซวยเพราะมัน
ปัง!
ยังไม่ทันที่มือจะได้แตะถูกลูกบิด ประตูก็ได้ถูกพังเข้ามาพร้อมกับใครบางคนที่พุ่งเข้ามาต่อยเธออย่างแรงจนกระเด็นไปหลายก้าว
แต่ก่อนที่อีกฝ่ายจะได้ปล่อยหมัดที่สองเธอก็ได้ยกขาถีบอีกฝ่ายจนกระเด็น
ในความมืด คนที่จู่ ๆ
ก็บุกเข้ามาทำร้ายเธออย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยมีด้วยกันสองคน ซึ่งก็ล้วนเป็นคุ้นหน้าคุ้นตากันเสียด้วยสิ
เธอกะพริบตาอย่างไม่เป็นธรรมชาติ โคลงศีรษะไปมา
“แกเนี่ย...ชอบสิงร่างคนอื่นเพื่อลอบกัดฉันจังเลยนะ”
อัคนีและโซมาที่บัดนี้สีหน้าเลื่อนลอยไร้สติพากันหัวเราะออกมา
ก่อนที่จะเป็นอัคนีที่กระโจนเข้ามาหาเธอก่อน มือทั้งสองข้างของเขาถูกปกคลุมไปด้วยควันสีดำที่ก่อตัวเป็นรูปใบดาบขนาดใหญ่
เคร้ง!
ทันทีที่มันปะทะกับแขนที่เปลี่ยนเป็นเคียวของหญิงสาวเสียงก็ได้ดังสนั่นไปทั่ว
ทว่าน่าแปลกที่กลับไม่มีปฏิกิริยาใดเกิดขึ้นทั้ง ๆ
ที่พวกเมรินก็อยู่ห้องถัดเธอไปเองแท้ ๆ
“แกทำอะไรบางอย่างกับพวกเขาสินะ?”
เธอถามขึ้นพร้อมกับหมุนตัวเพื่อผลักเขาออกไป
โซมาพุ่งเข้ามาพร้อมกับฟาดกรงเล็บสีดำแหลมใส่เธอ อาเคร่าก้าวถอยหลัง ใช้ด้ามเคียวผลักเขาจนกระเด็น
แน่นอนว่าไม่มีใครตอบคำถามเธอ
พวกเขาทำเพียงใช้สายตาเลื่อนลอยนั่นจ้องมองเธอพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะที่คล้ายว่าจะออกมาจากลำคอเท่านั้น
ทั้งคู่กระโจนเข้ามาพร้อมกัน
อาเคร่าย่อลงเล็กน้อยก่อนตวัดขาเตะคนทั้งคู่จนกระเด็น
ไม่มีใครเลือดตกยางออก ทว่ารอยช้ำก็เริ่มปรากฏให้เห็นประปราย
กระนั้นคนทั้งสองกลับยังคงดื้อดึงที่จะพุ่งเข้าไปหาอันเดธสาวอย่างไม่ลดละ
เธอหลบเลี่ยงและโต้กลับเป็นบางครั้ง ทำให้การต่อสู้ในครั้งนี้ดูน่าอึดอัดเล็กน้อย เธอโจมตีพวกเขารุนแรงเกินไปไม่ได้ และแน่นอนว่าฆ่าไม่ได้ ไม่ใช่เพียงเพราะว่าพวกเขาเป็น ‘ตัวละคร’ ที่เธอรู้จักเท่านั้น แต่มันยังเกี่ยวกับเบื้องบนในนรกด้วย หากพวกเขารู้ว่าเธอฆ่า ‘ตัวหลัก’
ของเส้นโชคชะตาตายล่ะก็...เธอได้กลายเป็นรายต่อไปแน่
ดังนั้นนอกจากหลบ
เธอจึงทำให้ได้เพียงใช้แรงผลักพวกเขาออกไปเท่านั้น
ทว่าเมื่อเห็นว่าแม้จะโดนเธอทั้งเตะทั้งถีบไปหลายที พวกเขากลับยังคงลุกขึ้นมาได้ แม้แต่โซมาที่ไม่ต่างอะไรกับมนุษย์ปกติก็ยังดูไม่เป็นอะไร
นั่นทำให้เธอได้ทราบว่าที่แท้ไอ้เจ้าควันสีดำนั่นพอสิงใครแล้วก็เหมือนว่าจะอิงความแข็งแกร่งของมันมากกว่าร่างต้น
...แบบนี้ก็แปลว่าเพิ่มแรงได้สินะ?
คิดได้ดังนั้น
มือที่ยกขึ้นกันพลันเปลี่ยนเป็นฟาดเคียวออกไปอย่างรวดเร็ว เล็บสีดำของโซมาหักสะบั้น มันส่งเสียงคล้ายโกรธเคืองอยู่ภายในลำคอ
อัคนีที่โดนเหวี่ยงล้มไปก่อนหน้านี้กระโดดเข้ามาล็อคคอเธอไว้จากด้านหลัง
หญิงสาวพลันเสียจังหวะที่จะฟันใส่โซมาทำให้ถูกกรงเล็บที่งอกยาวขึ้นมาใหม่แทงเข้าที่ท้องอย่างจัง
“แค่ก”
เธอกระอักเลือดออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย
แม้ไม่เจ็บปวดแต่รับรู้ได้ว่าเล็กที่ยาวเกือบฟุตนั่นฉีกกระชากเครื่องในและกระเพาะของเธอจนแหลกเป็นชิ้น
ๆ ไปเสียแล้ว
แรงที่อัคนีใช้ล็อคคอเธอมันมากเสียจนกระดูดแทบจะหักออกจากกัน อย่างไรก็ไม่มีทางเป็นแรงของมนุษย์ธรรมดา ๆ ไปได้
ลำคอถูกอัคนีกัดเต็มแรง
เขาฉีกกระชากเนื้อของเธอและสูบกินเลือดอย่างบ้าคลั่ง
เสียงหัวเราะดังไม่จนคล้ายกับจะทำให้คฤหาสน์ทั้งหลังถล่มลงมา
โซมาเห็นโอกาสจึงกัดเข้าลำคออีกฝั่ง อาเคร่ายังคงมีสีหน้าไม่เปลี่ยน เธอเหลือบมองพวกเขาที่กำลังกัดกินตัวเธออย่างบ้าคลั่งด้วยสายตาสงบนิ่ง
เธอ
‘รู้สึก’ ว่าตัวเองกำลัง ‘รู้สึก’ จนใจ แต่เมื่อชั่งใจดูดี ๆ บางทีคงเป็นเธอที่คิดไปเอง
มันว่างเปล่า ว่างเปล่าเช่นเดิม
กระนั้นการที่ต้องมาเห็นพวกเขากลายเป็นพวกกินคนแบบนี้...ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ถูกต้องเท่าไหร่
เมื่อคิดได้เช่นนั้น เธอจึงกระทืบเท้า
ปัง!
คลื่นพลังสีดำพวยพุ่งออกมาจากร่างของหญิงสาว
มันผลักให้ทั้งสองคนที่กำลังคลุ้มคลั่งจนกระเด็นออกไปคนละทิศคนละทาง
เมื่อร่างของพวกเขากระแทกกับกำแรงรอยร้าวขนาดใหญ่ก็ได้ทิ้งรอยเอาไว้
ควันสีดำที่แผ่ออกมาจากร่างของทั้งสองสั่นไหว มันเจ็บ
เจ็บจนรู้สึกเหมือนจะหายไปได้ทุกเมื่อ
อัคนีพยายามลุกขึ้น
เขาคว้ามือสะเปะสะปะจนไปคว้าเอาผ้าม่านเข้า
ด้วยแรงมหาศาลที่ได้รับจากเงาดำทำให้ม่านถูกดึงจนขาดอย่างง่ายดาย แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาในห้องกระทบเข้ากับร่างที่ยืนอยู่ในสภาพที่ถูกย้อมด้วยเลือดทั้งแต่ลำคอไปจนถึงปลายเท้า
ดวงตานิ่งเรียบนั้นสะท้อนกับแสงจันทร์จนส่องประกายวาววับ
“...ทำไมถึงชอบกัดคอฉันกันนักนะ?”
แม้ตรงบริเวณลำคอจะเป็นแผลเหวอะหวะเสียจนเลือดท่วม อาเคร่าก็ยังรำพึงออกมาด้วยสีหน้าไร้เจ็บไร้ปวด
เธอยกมือขึ้นแตะเบา ๆ บาดแผลพลันสมานจนกลับเป็นปกติ
ไอเวทเข้มข้นคละคลุ้งอยู่ภายในห้องจนมันเกือบสำลัก จ้องมองไปทางร่างท่วมเลือด แม้ใบหน้าของคนที่มันสิงจะยังคงเลื่อนลอย แต่อาเคร่าสามารถบอกได้เลยว่ามันกำลังโมโหมากเพียงใด
“อาหาร...ตาย!”
โซมาคำรามลั่น แต่เสียงที่ออกมากลับไม่ใช่เสียงของเขา มันทั้งต่ำและแหบแห้งน่าขนลุก เขาพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว อาเคร่าโยกหลบ
ผลักทั้งสองคนที่กระโจนเข้าใส่ด้วยกำแพงเวท
“ไฟนรกใช้กับแกไม่ได้” เธอพึมพำคล้ายกำลังพูดกับตัวเอง หรี่ตามองคนทั้งคู่ “แต่พลังเวทดูเหมือนว่าจะใช้จัดการแกได้นี่?”
จบคำ เธอชี้นิ้วออกไป
พลังเวทก่อตัวและอัดแน่นกลายเป็นลูกกลมขนาดเล็กด้านหน้าปลายนิ้วของเธอ ก่อนที่มันจะทันได้หลบ ลูกบอลสีม่วงดำขนาดเล็กพลันแยกออกเป็นสองและพุ่งตรงไปที่หน้าอกของคนทั้งคู่อย่างรวดเร็วจนยากจะหลบได้พ้น
“อ๊ากกก!”
เสียงร้องโหยหวนแตกพร่าไม่คล้ายเสียงมนุษย์ดังออกมาจากปากของคนทั้งคู่ก่อนที่จะล้มลงหมดสติไป
เงาดำพุ่งออกมาก่อรวมกันขนาดสูงแตะขอบประตูด้านบน ร่างของมันบิดไหวอย่างเจ็บปวด เสียงร้องโหยหวนระคนเกรี้ยวกราดดังไม่หยุด
เธอมองดูสองร่างที่นอนจมกองเลือดอยู่บนพื้นนิ่ง
หากเป็นไฟนรกย่อมไม่สามารถทำอันตรายร่างเนื้อได้และพวกเขาจะปลอดภัย
ทว่าเจ้านี่ดันมีความเข้ากันได้กับไฟนรกเธอจึงไม่สามารถใช้มันได้ ทำให้ต้องเลี่ยงมาใช้พลังเวทแทน ข้อดีคือส่งผลกับมันอย่างรุนแรง
ข้อเสียคือร่างที่มันสิงอยู่ก็จะได้รับความเจ็บปวดไปอย่างเต็ม ๆ
เช่นเดียวกัน
มองดูแผลที่เฉียดหัวใจไปเพียงเล็กน้อยก่อนโบกมือไปทางทั้งคู่ บาดแผลที่เคยมีก็ได้สมานเข้าหากันอย่างรวดเร็ว
ดีที่เธอเกิดมาเป็นแม่มดที่นอกคอกที่สุดในโลก ไม่เพียงใช้เวทได้ทุกธาตุ
แต่ยังเป็นแม่มดแห่งความมืดที่ใช้เวทรักษาได้อีกต่างหาก แม้จะกลายเป็นที่รังเกียจไปนิด แต่ก็ดีที่สบายเวลาเจอเรื่องเสี่ยงตาย อย่างน้อยก็รับประกันได้ว่าถ้าไม่โดนโจมตีแบบทีเดียวตาย อย่างไรก็รักษาได้
“อ๊ากกก!”
มันคำรามอย่างโกรธเคือง เปลี่ยนรูปร่างเป็นควันจาง ๆ
พุ่งเข้าใส่เธอทันควัน
อาเคร่ากระโดดหลบ กระสุนเวทสีม่วงดำถูกยิงออกไปอีกครั้ง มันรวดเร็วเสียจนแม้แต่จะหลบก็ยังไม่ทัน เงาดังกล่าวบิดเร่าด้วยความทรมาน พุ่งตัวออกนอกประตูไปเพื่อหลบหนี
กรงนกสีทองปรากฏขึ้นในมือของหญิงสาว เธอเปิดประตูกรง มืออีกข้างยกขึ้นชี้ไปด้านหน้า รวบนิ้วเข้าหากัน
พลันบนพื้นใต้ร่างเงาดำก็ปรากฏของเหลวสีดำเดือดพล่าน แขนเล็กนับพันพุ่งขึ้นล้อมรอบกลุ่มควันสีดำไว้ยากจะหลบหนีไปได้
“อ๊ากกก! ปล่อย! ปล่อย!”
มันร้องตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว ทว่าแม้จะร้องเสียงดังด้วยน้ำเสียงข่มขู่อย่างไรก็ไม่เป็นผล หญิงสาวผู้นั้นยังคงเอาแต่หลุบตาต่ำ ก้าวมาหามันด้วยฝีเท้ามั่นคง
เธอชูกรงนกขึ้น เป็นจังหวะเดียวกับที่เวทมนตร์ได้สลายไป
ควันดำบิดมวนเป็นวงกลมก่อนถูกดูดเข้ากลายเป็นนกตัวเล็กภายในกรง
หล่อนมองเจ้านกที่ดิ้นพล่านอยู่ในกรงนิ่ง เขย่ากรงเบา ๆ
“เจ้าเป็นคนแรกที่ทำให้ข้าต้องใช้เวทสู้กับเจ้ามากขนาดนี้”
มันทำให้เธอถึงกับต้องใช้เวทถึงสามครั้งในการจับมัน ถือเป็นครั้งแรกในรอบปีกว่า ๆ
ที่เธอทำงานให้แก่นรกเลยก็ว่าได้
มันถูกคำพูดดังกล่าวทำให้โกรธจนแทบคลั่ง มันแข็งแกร่งที่สุดในโลกของมัน
เมื่อมาที่นี่ก็ยังคงเป็นผู้ที่ทุกคนต้องหวาดกลัว ทว่าผีดิบชั้นต่ำนางนี้กลับใช้เวทเพียงสามครั้งในการจัดการกับส่วนหนึ่งของมัน!?
มันแพ้เพียงเพราะเวทสามครั้ง! นั่นไม่ต่างอะไรกับการถูกตบหน้าเลยแม้แต่น้อย
หญิงสาวไม่สนใจมันนัก
โยนกรงดังกล่าวเข้าไปมิติก่อนหันไปหาโซมาและอัคนีที่นอนหมดสติอยู่บนพื้น
เดินเข้าไปสำรวจจนแน่ใจว่าทั้งคู่ไม่มีแผลใดหลงเหลืออยู่แล้วจึงนำทั้งคู่กลับไปส่งห้อง
ส่วนตัวเองก็กลับมาจัดการกับห้องที่พังเละเทะจนกลับมาเป็นปกติ สำรวจจนแน่ใจว่าเจ้าควันดำนั่นไม่ได้อยู่แถวนี้และทุกคนได้คลายจากมนตร์สะกดของมันแล้วจึงค่อยหายออกจากคฤหาสน์ไป
สต๊อคหมดที่แท้ทรู คราวนี้น่าจะหายเข้ากลีบเมฆจริง ๆ ละ 555
ความคิดเห็น