ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Black Butler | OC] The crimson roses ชะตาสีเลือด [LIAR'S FATE SERIES #2]

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 30 เม.ย. 64


    บทนำ

                บางทีเจ้ากรรมนายเวรก็อาจจะมาในรูปแบบสาวใช้...

                ชิเอล แฟนธอมไฮฟ์ได้แต่ยกมือขึ้นนวดขมับ  ในห้องของเขาตอนนี้ไม่เพียงแต่จะพังเละเทะ  ทว่ายังเหม็นคลุ้งไปด้วยกลิ่นคาวน่าสะอิดสะเอียนจากศพที่กระจายเกลื่อนอยู่เต็มห้อง

                ภายในห้องกว้างมีเพียงเตียงนอนของเขาที่ยังคงสะอาดสะอ้าน  นอกเหนือจากนั้นล้วนอาบย้อมด้วยโลหิตและซากศพสภาพน่าสยดสยองราวถูกสัตว์ประหลาดฉีกทึ้งก็ไม่ปาน

                ฉัวะ!

                สตรีในชุดสาวใช้ใช้มือฉีกปีกบนหลังของสิ่งมีชีวิตหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัวตนหนึ่งจนขาดสะบั้นก่อนจะโยนมันไปด้านข้างอย่างไม่สนใจใยดี  ปล่อยให้มันร้องโหยหวนแล้วขาดใจไปเองอย่างนั้น

                โลหิตอาบย้อมทั้งชุดและผิวกายขาวราวกระดาษของเธอจนแดงฉาน  ยามส่องกระทบกับแสงจันทร์ก็ยิ่งดูแดงเป็นพิเศษ

                หญิงสาวโยนศพสุดท้ายที่ถูกแยกระหว่างกระดูกและเนื้อออกจากกันทิ้งไป  เช็ดมือที่โดนย้อมจนมองไม่เห็นผิวเนื้อลงบนผ้ากันเปื้อนสีขาว  ทิ้งรอยแดงปื้นใหญ่รูปมือเอาไว้ดูน่าสยดสยอง

                สาวใช้ผู้มีใบหน้านิ่งเฉยหันกลับมามองเด็กหนุ่มที่นั่งหน้าเคร่งอยู่บนเตียง  โค้งกายพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉยไร้อารมณ์

                “เรียบร้อยแล้วค่ะนายน้อย”

                เมื่อได้ยินคำกล่าวของอีกฝ่าย  ใบหน้าที่เคร่งเครียดอยู่ก่อนแล้วของท่านเอิร์ลแฟนธอมไฮฟ์ยิ่งดำคล้ำ  โทสะท่วมสูงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

                “อา-เค-ร่า!

                เสียงเรียกลอดไรฟันเจือจิตสังหารของผู้เป็นนายไม่ได้ทำให้ใบหน้าของเจ้าของชื่อเปลี่ยนไปเลยสักนิด  แม้แต่ดวงตาก็ยังไม่กะพริบเสียด้วยซ้ำ

                “ค่ะ  ดิฉันเอง”

                เธอรับคำด้วยน้ำเสียงแข็งทื่อ  ดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับรู้ถึงโทสะของผู้เป็นนายเลยแม้แต่น้อย

                ชิเอลสูดลมหายใจลึก  ยิ่งเห็นว่าสีหน้าอีกฝ่ายนิ่งเฉยเพียงใดโทสะก็ยิ่งเดือดปุด ๆ  แม้ว่าจะนับหนึ่งถึงร้อยจบไปแล้วถึงสามรอบก็ยังไม่อาจเย็นลงได้ 

                เด็กหนุ่มหลับตาลง  ชี้มือไปทางกองศพที่นอนเกลื่อนพร้อมกับถามด้วยน้ำเสียงอดกลั้น

                “คนพวกนี้มันอะไรกัน!

                อาเคร่ากะพริบตา  ทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องธรรมดาที่คนต้องกะพริบตา  แต่เมื่อคนผู้นี้เป็นคนทำ  ไม่รู้เพราะเหตุใดมันจึงกลับดูแปลกประหลาดและไม่เป็นธรรมชาติอย่างยิ่ง

                “พวกมันไม่ใช่คนสักหน่อยนะคะนายน้อย  ปีศาจต่างหากค่ะ”

                เธอกล่าวด้วยสีหน้าค่อนข้างจริงใจ  นั่นยิ่งทำให้ใบหน้าของชิเอลดำคล้ำลงไปอีกขั้น

                “ฉันไม่สน!”  เขาตะโกนด้วยความโมโหเจียนคลั่ง  “จัดการศพพวกนี้...”

                โครม!

                เสียงของกำแพงที่พังครืนลงดังสนั่นเมื่อสาวใช้ตัวปัญหาหันไปตวัดมือที่ถูกทำให้ใหญ่ขึ้นเทียบเท่าบานประตูตบลงบนกำแพงเต็มแรง  ในมือคว้าเอาปีศาจรูปร่างคล้ายมนุษย์ตนหนึ่งไว้

                ชิเอล  “...”

                เขาจ้องมองผนังฝั่งหนึ่งของห้องที่เกิดรูขนาดใหญ่ขึ้นด้วยใบหน้าดำคล้ำเจียนจะคั้นน้ำหมึกออกมาได้  มุมปากสั่นกระตุกไม่หยุด  แม้แต่ร่างกายก็ยังไหวสะท้าน

                กร๊อบ!

                มือใหญ่บีบร่างของปีศาจตนนั้นจนกระดูกพากันส่งเสียงดังสนั่น  เพียงครู่เดียวก็สิ้นใจตายลงคามือขนาดมหึมาของหญิงสาว

                อาเคร่าโยนมันทิ้งโดยไม่นึกไยดี  ปากก็กล่าวเสียงราบเรียบ

                “ขออภัยค่ะนายน้อย  ดูเหมือนว่าคฤหาสน์จะพังอีกแล้วค่ะ”

                “นั่นมันฝีมือเธอเองไม่ใช่รึไงหา!

                เขาพูดเสียงดังอย่างเหลืออด  มือก็ฟาดลงไปบนหมอนอย่างแรงเป็นการระบายอารมณ์...ซึ่งแน่นอนว่ามันแทบจะไม่ช่วยให้โทสะคลายลงเลย

                หญิงสาวเอียงคอ  สีหน้ายังคงไม่เปลี่ยน

                “แต่นั่นก็เพื่อปกป้องนายน้อยนะคะ?”

                “ฉันสนที่ไหนเล่า!”  เขาโกรธเสียจนใกล้คลุ้มคลั่งเข้าไปทุกที  “พวกนี้มีปัญหากับเธอชัด ๆ แต่ทำไมถึงได้บุกมาตายกันอยู่ในห้องฉันได้กัน!

                หล่อนกะพริบตาปริบ ๆ  คล้ายต้องการบอกว่า เรื่องแค่นี้ก็ไม่รู้เหรอคะ?  ยิ่งทำให้ชิเอลอยากกระอักเลือดออกมาเสียให้รู้แล้วรู้รอด

                “ก็นายน้อยนั้นทั้งมีร่างกายที่บอบบางอ่อนแอ  อีกทั้งยังตายง่าย  เหมาะที่พวกมันจะจับเป็นตัวประกันที่สุดในคฤหาสน์แล้วไม่ใช่เหรอคะ?”

                ท่านเอิร์ลแฟนธอมไฮฟ์ถึงกับสูดลมหายใจลึก  คาดว่าหากมีปืนสักกระบอกอยู่แถวนี้เขาคงยิงเธอไปแล้ว  แม้จะรู้ว่าต่อให้ยิงไปที่หัวเน้น ๆ จัง ๆ  ยัยสาวใช้นี่ก็ยังไม่เป็นอะไรก็ตามที

                “เก็บกวาดให้เรียบร้อย  พรุ่งนี้ผมต้องไปทำธุระแต่เช้า”

                เด็กหนุ่มกล่าวอย่างอารมณ์ไม่ดีเท่าไรนัก  มุดเข้าผ้าห่มไปโดยไม่ยอมชายตามองสภาพห้องที่เละเทะเลยแม้แต่นิดเดียว

                สาวใช้ผู้นั้นโค้งตัวลง  สีหน้าเฉยชาไม่เสื่อมคลาย

                “ทราบแล้วค่ะ  นายน้อย”

                เป๊าะ!

                เด็กหนุ่มได้ยินเสียงดีดนิ้วพร้อมกับแรงลมจาง ๆ ที่มาปะทะกับผ้าห่ม  ทว่าเขาก็ไม่ได้สนใจ  ยังคงหลับหูหลับตามุมตัวอยู่ในนั้นต่อไป

                ไม่นานกลิ่นเหม็นคาวของโลหิตก็ถูกแทนที่ด้วยกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของน้ำหอม  ศพที่เคยนอนเกลื่อนหายไป  ห้องกลับมาสะอาดสะอ้านดังเดิม  กำแพงที่พังทลายถูกซ่อมแซมจนเป็นปกติ

                เมื่อจัดการกับศพเหล่านั้นเรียบร้อยแล้วจึงได้ยินเสียงเดินอย่างแผ่วเบาก้าวออกจากห้องไป  ชิเอลรอจนประตูปิดลงจึงลุกขึ้นนั่ง  ยกมือขึ้นกุมขมับทันใด

                เขาไม่น่าเก็บหล่อนมาเลยให้ตายสิ!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×