ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ BeeCris ] 60 years #บีคริส

    ลำดับตอนที่ #1 : 60_1 | welcome

    • อัปเดตล่าสุด 17 พ.ค. 59







    60_1









    บ้านพักคนชราในความคิดคุณเป็นแบบไหน?


    น่าเบื่อ หดหู่
    หรือจืดชืดไร้สีสัน


    ตราบใดที่คุณยังไม่เคยได้สัมผัส

    บางที...มันอาจจะไม่เป็นอย่างที่คิด









         เสียงลมกระทบกับใบไม้คลอเสียงนกร้อง เก้าอี้หินอ่อนและม้านั่งไม้หลายตัวถูกจัดไว้เป็นระเบียบตามมุมต่างๆ สวนสำหรับพักผ่อนกึ่งจะเป็นสวนสาธารณะแบ่งออกเป็นสัดส่วน ทั้งสำหรับหรับพักผ่อน เดินเล่น และอีกโซนที่มีเครื่องออกกำลังกายตั้งเรียงอยู่ บรรยากาศที่นี่เงียบสงบราวกับไม่ได้มีใครอาศัยอยู่

    ทุกอย่างดูจะถูกออกแบบมาเพื่อสำหรับการใช้บริการ
    แต่แปลกดีที่ยามเช้าแบบนี้กลับไร้ซึ่งผู้คน


    หรือเพราะหล่อนมาเช้าเกินไปกันนะ?


    ร่างสูงยาวที่ยังดูแข็งแรงแม้อยู่ในวัยอายุเลยเลข5มาสิบกว่าปีแหงนหน้าขึ้นมองต้นไม้ใหญ่บริเวญลานกว้าง หลากความรู้สึกปนเปอยู่ในใจ ครู่หนึ่งที่หล่อนปล่อยสายตาเหม่อลอยกับภาพตรงหน้า


    'บ้านพักคนชราบางแค'


    อา..
    ฟังดูแก่ ฟังดูน่าหดหู่ชะมัด

    ไม่คิดว่าวันนึงจะต้องมายืนอยู่ตรงนี้เลยแฮะ


    ส่ายหัวกับตัวเองไล่ความคิดเพ้อเจ้อแล้วคว้ากระเป๋าขึ้นถือ ดวงตาคมจากเชื้อลูกเสี้ยวเสมองยังป้ายบอกทางขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใกล้กับริมถนนทางเดิน กวาดตาไล่ทีละป้ายอย่างเชื่องช้าจนพบเข้ากับป้ายหนึ่งที่กำลังค้นหา

    'หอพักคู่'

    หล่อนหัวเราะในลำคอเมื่ออ่านชื่อมันจบ ในหัวพลางนึกไปถึงบทสนทนาที่เพิ่งเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน บทสนทนาระหว่างคนติดต่อขอเข้าพักใหม่อย่างหล่อนและเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ผู้เป็นชายหนุ่มวัยกลางคนท่าทางติดเจ้าเล่ห์หน่อยๆอย่าง-ชานนท์-

    'อาคารที่พักมีประเภทสามัญ หอพัก และแบบพิเศษ เลือกได้ตามกำลังทรัพย์ครับ'
    'งั้นขอแบบหอพักก็แล้วกันค่ะ เป็นห้องแยกใช่ไหม'
    'ที่พักประเภทหอพัก ค่าบริการ1,500บาท/เดือน อ่า แต่ห้องเดี่ยวเต็มหมดแล้วนะครับ'
    'หรอคะ..แต่ถ้าต้องพักแบบพิเศษมันแพงนี่นา'
    'จะว่าไปก็เหลืออยู่ห้องนึง เป็นห้องพักแบบคู่ แต่เจ้าของเธอพักคนเดียว'
    'ห้องคู่ แต่พักคนเดียวหรอคะ?'

    คิ้วสวยขมวดเป็นปมเมื่อเขาพยักหน้ารับหล่อนราวกับมันเป็นเรื่องปกติ

    'ครับ เธอบอกว่าเธอสบายใจกับการอยู่คนเดียว เห็นว่าไม่ค่อยชอบให้ใครมายุ่งเท่าไหร่ถ้าไม่สนิท'

    คนแบบไหนกันนะที่จองห้องคู่ไว้เพื่อพักคนเดียว

    ต้องเป็นคนประเภทไหน....

    'ถ้าห้องคู่เสียค่าบริการเพิ่มเป็น2,000บาท/เดือน คุณก็แชร์กับเธอคนละ1,000สิ ถูกกว่าห้องเดี่ยวอีก'
    'แต่เธอพักคนเดียวนี่คะ..จะดีหรอ'
    'ผมคิดว่าเธอคงไม่ใจร้ายขนาดไม่ยอมให้คนมาใหม่พักด้วยหรอกมั้ง คุณคุยกันดีๆสิ เดี๋ยวเธอก็ใจอ่อนเองแหละ'
    'คุณเจ้าหน้าที่พูดเหมือนกับรู้จักเธอดีจังเลยนะคะ ใครกัน?'
    'โอ้ย ที่นี่ไม่มีใครไม่รู้จักเธอหรอกครับ รอได้เจอ..เดี๋ยวคุณก็จะรู้เอง'

    ถอนหายใจออกมาเบาๆยามนึกมาถึงประโยคนี้ เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์วัยใกล้เคียงกันบอกข้อมูลของ 'เธอ' พลางส่งยิ้มกรุ้มกริ่มมาให้ หล่อนดูออกว่าเขาไม่ได้จีบ--มันออกจะเป็นยิ้มเยาะเสียมากกว่า นั่นทำให้ความสงสัยในตัวเธอคนนั้นที่ชายหนุ่มบอกยิ่งเพิ่มมากขึ้น

    'อาทิตย์หน้าคงทำเรื่องเสร็จพอดี จะย้ายเข้าเลยไหมครับ--คุณน้ำทิพย์?'
    'เรียกแค่-บี-ก็ได้ค่ะ เดี๋ยวเราคงได้เจอกันบ่อยๆอยู่แล้วล่ะ แล้ว..ฉันต้องติดต่อใครคะ'
    'คุณเห็นป้ายทางเข้าใช่ไหม เดินเข้ามาเรื่อยๆจนถึงบริเวณสวนเลยครับ ตรงนั้นจะมีป้ายบอกทางไปหอพักอยู่ ให้คุณเดินเลี้ยวไปตามทางที่ป้ายบอก พอถึงหอจะมีเจ้าหน้าที่มารับคุณอีกทีนึง'
    'แปลว่าให้ฉันไปเจอกับเธอที่ห้องเลยงั้นหรือคะ'
    'ก็ประมาณนั้นครับ ทำความรู้จักกันไวๆล่ะ ผมเป็นกำลังใจให้คุณนะ'

         สามวันหลังจากนั้นหล่อนก็พาร่างสูงกว่า178ซม.ของตัวเองมาจนถึงสวนที่ชานนท์บอก เดินเลี้ยวขวาไปเรื่อยๆตามป้ายไม่ถึงสองกิโลอาคารคอนกรีตสูงสองชั้นก็ปรากฏอยู่ตรงหน้า เจ้าของชื่อน้ำทิพย์สูดหายใจเข้าลึกแล้วตัดสินใจก้าวเท้าเข้าไปในตึก ก่อนจะก้าวขายาวๆของตัวเองตรงไปที่ห้องดูแลตามที่เจ้าหน้าที่หนุ่มแนะนำมา แม้จะยังคาใจกับข้อมูลที่ได้รับมาเกี่ยวกับผู้ร่วมอาศัยห้องเดียวกันอยู่ก็ตามที ไหนจะประโยค'ผมเป็นกำลังใจให้คุณนะ'จากเขาอีก

         เธอคนนั้นดูน่ากลัวขนาดที่เขาต้องเป็นกำลังใจให้เลยหรือไงกัน..


    ก๊อกก๊อก

    "คุณ คุณคะ" น้ำทิพย์เอ่ยพลางเคาะกระจกไปด้วยเมื่อเห็นว่าหญิงสาวในห้องดูแลฟุบหลับอยู่กับโต๊ะ ถ้าให้เดา--เธอคงเป็นเจ้าหน้าที่อีกคนที่เขาบอกเอาไว้

    "ใครเนี่ย คนจะนอน" และมันได้ผล ใบหน้าถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางค์หนาเตอะเงยหน้าขึ้นมองหล่อนอย่างไม่สบอารมณ์ เธอขยี้ตาพร้อมกับบิดขี้เกียจ หาวกว้างๆครั้งหนึ่งแล้วจึงหันมาเปิดกระจกสนทนาด้วยกับคนที่ยืนอยู่ข้างนอก "อืม..เด็กใหม่ที่ขุนบอกล่ะสิท่า"

    "ขุน?" น้ำทิพย์ทวนคำก่อนจะร้องอ๋อ "ถ้าหมายถึงคุณชานนท์ ใช่ค่ะ ฉันเพิ่งย้ายเข้ามาวันนี้"

    "ให้ตาย..เธอทำลายฝันหวานฉันนะรู้ไหม" ได้ยินเสียงบ่นเซ็งๆดังขึ้นก่อนเธอจะจัดการเปิดลิ้นชักแล้วควานหาของอยู่ซักพัก จนกระทั่งพวงกุญแจพวงใหญ่ถูกหยิบยกออกมา หญิงสาวถึงได้ลุกขึ้นเปิดประตูห้องออกแล้วหันมาเรียกหล่อนอีกครั้ง "ตามมาสิ จะไปมั้ยห้องน่ะ"

    "ค่ะ..ไปค่ะไป"

    "โอ้ย ว่าง่ายชะมัดเลยเธอเนี่ย" คราวนี้หญิงสาว(ที่น้ำทิพย์คิดว่าน่าจะอายุมากกว่าตัวเอง)หันมาบ่นใส่อย่างหน่ายๆ "แล้วแบบนี้จะไปสู้คริสได้ยังไงล่ะหื้ม"

    "คริส? คริสไหนคะ.."

    "อ้าว ก็รูมเมทเธอไง ขุนไม่ได้บอกหรือไงว่าคนที่เธอต้องอยู่ด้วยเป็นใคร"

    "ไม่ได้บอกค่ะ" น้ำทิพย์ก้าวขายาวๆเพื่อเดินตามเธอให้ทันแล้วเอ่ยตอบ "เขาบอกให้ฉันรอลุ้นเอง"

    "เฮอะ สนุกของเขาล่ะสิ พี่ยังแปลกใจเลยที่อยู่ดีๆมีคนเข้ามาใหม่แล้วคริสยอมให้พักด้วย" น้ำทิพย์ยิ้มบางๆเมื่อเห็นว่าสรรพนามถูกเปลี่ยน เดาว่าเธอคงอยากสร้างความสนิทสนม--หรือไม่ก็คงหลุดเพราะกำลังเม้ามอยอย่างมันส์ 

    "หอพักคู่น่ะปกติมีแต่คู่รัก เพื่อน หรือไม่ก็พี่น้องเท่านั้นแหละ"

    "คู่รักงั้นหรอ" หล่อนพึมพำพลางก้าวขึ้นบันไดไปที่ชั้นสอง ก้มหน้าเดินตามแผ่นหลังยาวและร่างที่สูงพอๆกันไปยังห้องสุดริมตึก "แล้วคริสของพี่นี่เป็นคนแบบไหนกัน...ถึงได้อยู่คนเดียวในหอพักคู่แบบนี้"

    "ก็นั่นน่ะสิ" หญิงสาวรับคำแทบทันทีก่อนจะหยุดเดินโดยที่น้ำทิพย์ไม่ทันตั้งตัว "อยากรู้ก็ลองไปถามเขาดูเองแล้วกัน"

    "..คะ?"


    [ 203 ]


         นั่นเป็นหมายเลขแรกที่หล่อนเห็นเมื่อเงยหน้าขึ้น น้ำทิพย์หันไปมองคนที่มาด้วยเป็นเชิงตั้งคำถาม เธอเอาแต่ยิ้มเจ้าเล่ห์(แบบเดียวกับที่ชานนท์ทำ)แล้วบอกยิ้มๆว่า'นี่แหละห้องของคริส'

    เมื่อรู้ว่าอะไรเป็นอะไร น้ำทิพย์ก็พลอยสั่นขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ ราวกับมีรังสีอะไรแผ่ออกมาจากเบื้องหลังบานประตูสีครีมนั้น
         ...มันน่ากลัวแปลกๆซะจนอยากรั้งอีกคนไว้...

    "เดี๋ยวค่ะ เอ่อ พี่.."

    "เอ้อ ลืมแนะนำตัวเลยเนอะ พี่ชื่อเกดค่ะ ลูกเกด-เมทินี ดูแลหอพักหญิงที่นี่ ชื่อบีใช่ไหมเรา?"

    "ค่ะ บีเอง" คนมาใหม่พยักหน้ารับแล้วทำท่าจะร้องไห้อยู่รอมร่อ "พี่เกด...อย่าเพิ่งไปได้มั้ย"

    "ทำไมล่ะ กลัวหรอ" เมทินีหัวเราะเมื่อน้ำทิพย์พยักหน้าหงึกๆ "นั่นคริสนะไม่ใช่ผี กลัวอะไรกัน"

    "ก็ทุกคนทำเหมือนเธอดูน่ากลัว บีไม่กล้าเจอแล้วเนี่ย"

    "เอาน่า คริสไม่ใช่คนใจร้ายอะไรขนาดนั้นซะหน่อย" หญิงสาวเอ่ยอย่างรู้ดีแล้วอมยิ้ม "สู้ๆนะ อ้อนเขาสิ เขาชอบคนขี้อ้อน"

    "แต่.."

    "ไม่มีแต่อะไรทั้งสิ้นค่ะ พี่จะลงไปดูละครแล้ว ห้ามรบกวน" เมทินีเอ่ยทิ้งท้ายไว้แค่นั้นแล้วเดินออกไปหลังจากยื่นกุญแจให้ถึงมือ ปล่อยให้น้ำทิพย์ยืนเหงื่อตกอยู่แบบนั้น เกือบจะไม่ไขเข้าไปแล้วหากไม่มีเสียงตะโกนดังไล่หลังมาไกลๆ

    "รีบเข้าไปสิ ตอนนี้เขาเพิ่งลงไปกินข้าวกัน ไม่มีคนหรอก!"


         ใช้เวลาทำใจอยู่เป็นสิบนาทีกว่าน้ำทิพย์จะเปิดประตูเข้าไปจริงๆ ภาพตรงหน้าคือห้องนอนขนาดปานกลาง ซึ่งถือว่ากว้างพอสมควรสำหรับการอยู่คนเดียว ข้าวของเครื่องใช้ถูกจัดไว้เป็นสัดส่วนอย่างดีบ่งบอกถึงนิสัยเจ้าของห้องที่ดูจะเจ้าระเบียบพอตัว ซึ่งนั่นทำให้คนมาใหม่รู้สึกเหงื่อตกอีกรอบ

    น้ำทิพย์ไม่ใช่คนเจ้าระเบียบ ตรงกันข้ามเสียด้วยซ้ำ
    ตาย--ตายแน่ๆ!

    หลังจากใช้เวลาไปกับการถอนหายใจใส่ตัวเอง ขนเสื้อผ้าออกมาแยกเก็บไว้อีกฝั่งของตู้(ซึ่งตู้แทบจะไม่มีที่เหลือให้ใส่เพราะเสื้อผ้าเจ้าของห้องเยอะมาก) เอาผ้ามาปูเตียงที่ยังว่าง(อีกเตียงของคริสเป็นลายสติช นั่นทำให้ยิ่งน่าสงสัยไปอีกว่าคริสเป็นคนยังไงกันแน่) น้ำทิพย์ก็ทำท่าจะล้มตัวลงนอนด้วยความเหนื่อยอ่อนเต็มที 

    11:30 กับอากาศชนิดร้อนตายห่าและพัดลมเครื่องเดียว
         นอนเถอะเนอะ..เผื่อตื่นมาจะเย็นกว่านี้

    แต่ยังไม่ทันได้หลับตาลงเกินห้านาทีเวรกรรมที่ไปนินทาเขาไว้ในใจก็เหมือนจะตามสนองเร็วติดจรวด ได้ยินเสียงหวีดดังมาไกลๆจากหน้าประตูเป็นตัวปลุกให้หล่อนตื่นแม้จะยังไม่ได้เข้าสู่ห้วงความฝัน คนตัวสูงลุกขึ้นจากเตียงพลางขยี้ตาทั้งที่ยังอึนๆ หล่อนหาวปากกว้างอย่างไม่ได้สนใจคนเดินเข้ามาใหม่ จนกระทั่งเสียงหวีดที่ว่าเริ่มดังขึ้นและมาใกล้หูเข้าไปเรื่อยๆ

    "นี่! ใครอะ มาอยู่ห้องคริสได้ไง!"

    "บีเอง..ชื่อบี เพิ่งมาใหม่" น้ำทิพย์ตอบทั้งที่ยังหาวจนตาปิด กะไว้ว่าขยี้ตาจนหายง่วงเมื่อไหร่แล้วค่อยมองหน้าอีกฝ่ายชัดๆ

    "ไม่ได้อยากรู้มะ" 

    เสียงแหบชะมัด--นั่นเป็นแว๊บแรกที่หล่อนคิดในใจ

    "เจ็บคอหรอ ยาอมมั้ย? บีมีนะ เอารสมะนาวหรือเปลือกส้มดี" เอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงใจพร้อมกับคว้ากระเป๋าใบโปรดขึ้นมาไว้บนตักเพื่อจะค้นเอายาอมเม็ดให้อีกคน ค้นอยู่ซักพัก--ยาอมสมุนไพรตรามังกรทอง--ฝาสีๆสามสี่ขวดก็ถูกเทออกมาวางตรงหน้า "เลือกได้ตามสบายเลย อร่อยนะ ลองดูสิ"

    "โอ้ยยย ไม่ได้จะกินยาอมโว้ย เสียงปกติคริสเป็นแบบนี้อยู่แล้วมั้ยล่ะ!"

    "คริสงั้นหรอ...นี่คือคุณคริส?" คราวนี้น้ำทิพย์ถึงได้เงยหน้าขึ้นมามองอีกฝ่ายเต็มๆตา ใบหน้าออกเชื้อสายจีนจืดชืดราวกับเต้าหู้เจทำให้หล่อนแปลกใจอยู่มากโขที่คริสตัวจริงดูน่ากลัวน้อยกว่าคริสในความคิด 


         ภายนอกเธอดูไม่มีพิษมีภัย
         คิดว่าจะเป็นยัยเจ๊ปากจัดๆหรือมนุษย์ป้าตามตลาดอะไรแบบนี้ซะอีก


    ทว่าผิวขาวอมชมพูเลือดฝาดดูสุขภาพดีกลับชวนให้มองอย่างประหลาด รูปร่างเธอดูดีแม้อยู่ในวัยที่เนื้อหนังควรจะเหี่ยวย่นบ่งบอกถึงความขยันในการออกกำลังกายเป็นประจำ มันเป็นหุ่นที่ดูน่าอิจฉาสำหรับผู้หญิงวัยเลยคำว่ากลางคนมานิดๆแบบหล่อน


    ขาว หมวย อึ๋ม

    แต่แก่ไปหน่อยเนาะ..


    ออกกำลังกายแบบไหนกัน?


    "เออไง ก็คริสสิจะใครล่ะ คริส-ศิริน-หอวัง ชัดพอยัง" ฝ่ายนั้นตอบกลับมาอย่างหัวเสียเมื่อคนแปลกหน้าในห้องเอาแต่ไล่มองเธอหัวจรดเท้า "คุณนั่นแหละใคร?"

    "บีไง บี-น้ำทิพย์-จงรัชตวิบูลย์ ชัดเหมือนกันค่ะ"

    "กวนตีน.."

    "ถามมาก็ตอบไปไง ผิดตรงไหน"

    "จะผิดตรงไหนก็ช่างเหอะน่า!" เสียงแหบดูหงุดหงิดขึ้นทุกทีเมื่อเริ่มเป็นฝ่ายตกเป็นรอง เธอพรูลมหายใจฮึดฮัดสองสามทีแล้วยืดอกวางท่าเป็นอาซ้อเก็บค่าแผง "แล้วเข้ามาอยู่ในห้องคริสได้ไง อยู่ตึกนี้ก็น่าจะรู้ไม่ใช่หรอว่าใครใหญ่สุด"

    "ขนาดขาหรอคะ?"

    "ช่วยเลิกกวนตีนแล้วเก็บปากไว้กินข้าวได้มั้ยคะ" คิ้วดำสวยที่ถูกเขียนอย่างดีราวกับเจ้าของตื่นมาเขียนมันตั้งแต่ตีห้าขมวดขึ้นอย่างอารมณ์เสีย ศิรินสูดหายใจลึกระงับอารมณ์โดยยังคงมาดเย่อหยิ่งแบบที่ตัวเองคิดว่าสง่าที่สุด 

    "ไม่งั้นก็ออกไปจากห้องนี้ซะ"

    "ก็..ก็มาใหม่ เพิ่งเข้ามาวันนี้" น้ำทิพย์ปรับโหมดกลับเป็นเงียบเรียบร้อยเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าเริ่มองค์แม่ลง--อาจจะประเมินเธอต่ำไปหน่อย เพราะสายตาแข็งกร้าวนั่นดูน่ากลัวอย่างที่เมทินีและชานนท์บอกจริงๆ หล่อนพอจะรู้แล้วว่า'ใครใหญ่'ในความหมายของศิรินนั้นเป็นยังไง

         ถ้าอยากอยู่รอดคงต้องเอาใจเธอซักหน่อย

    "แล้วไง? แต่นี่ห้องคริส ห้องที่ใครก็เข้ามาไม่ได้ถ้าไม่จำเป็น" คนสถาปนาตัวเองเป็นเจ้าถิ่นยกยิ้มเหยียด 

    "ไม่ทราบว่ามีสิทธิ์อะไรคะ"

    "..กุญแจไง.." คนมาใหม่พึมพำเบาๆกับตัวเองก่อนจะเหลือบไปเห็นว่าอีกฝ่ายจ้องหน้าอยู่ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ น้ำทิพย์ถอนหายใจอย่างยอมแพ้ "โอเค..ก็คุณชานนท์บอกว่าให้บีพักที่นี่ เขาบอกว่าคุณคงไม่ใจร้ายนัก"

    "อ๋อหรอคะ...คง-ไม่-ใจ-ร้าย-นัก" ศิรินหัวเราะในลำคอพลางทวนประโยคก่อนหน้า "เขาโกหกคุณแล้วล่ะบี"

    "แต่บีเชื่อว่าคริสไม่ใจร้ายนะคะ" น้ำทิพย์สวนกลับทันที หล่อนฉลาดพอที่จะใช้ลูกอ้อนประจบประแจงเข้าไว้ก่อน--ด้วยเพราะยังไม่อยากกลายเป็นคนไร้ที่ซุกหัวนอนเสียตั้งแต่หัววัน การหาที่พึ่งให้ตัวเองจึงเป็นเรื่องที่ควรทำที่สุดในตอนนี้

    "คริสอยู่คนเดียวมาตั้งนาน ทำไมต้องมาแชร์ห้องกับบีด้วยล่ะ" เธอหันมาค้อนใส่อย่างไม่อยากเชื่อคำพูดนัก "เรื่องอะไรคริสจะยอมให้ห้องกว้างๆแบบนี้แคบลงเพราะมีบีเข้ามา ห้องอื่นก็มี ไปอยู่ซะสิ"

    "ก็ห้องคู่มันเต็มหมดแล้ว เหลือแต่ห้องคริส"

    "นอนคนเดียวไม่เป็นหรอ?"

    "เป็นค่ะ..แต่อยากมีคู่มากกว่า" น้ำทิพย์เบะปากอ้อนๆ--ซึ่งมันดูน่าหมั่นไส้มากกว่าในสายตาศิริน "คริสอยู่คนเดียวไม่เหงาหรอคะ?"

    เป็นประโยคที่ชวนให้เจ้าของห้องถอนหายใจรอบที่ล้านของวัน เธออยากจะดันร่างสูงตรงหน้าไปให้พ้นจากบานประตูแล้วปิดมันแรงๆซักที แต่มารยาททางสังคม(ที่พอมีอยู่บ้าง)ทำให้ศิรินเพียงแค่ปั้นยิ้มน้อยๆขึ้นประดับใบหน้าเอาไว้

         แล้วที่ร้อนวูบที่หน้าอยู่นี่ก็ไม่รู้ว่าเพราะเขินหรือโกรธกันแน่

    "แต่คริสจะให้บีทำอะไรก็ได้นะ" หล่อนเพิ่มข้อเสนอเมื่อเจ้าของห้องยังคงนิ่งเฉย--บวกกับความน่าสงสารไปอีกซักหน่อย "เท่าที่สังขารบีพอจะทำได้"

    อ๋อ คือสังขารไม่ดีงี้?

    "บีร่างกายไม่แข็งแรงหรือไง" ศิรินถามลองเชิง ยกยิ้มหวานเจ้าเล่ห์ราวกับหมาป่าขึ้นประดับใบหน้าอย่างอารมณ์ดี---และมันเป็นรอยยิ้มที่มักจะเกิดขึ้นเวลาเธอนึกอะไรดีๆออก

    น่าโชคร้ายไปหน่อยที่น้ำทิพย์ไม่รู้อะไรเลย..

    "ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ" คนฟังตอบรับคำอย่างซื่อๆ "แค่มีปวดบ้างเมื่อยบ้างตามประสาคนแก่"

    "แล้ว..อยากหายมั้ย"

    "อยากมั้ยก็อยาก แต่อยากมีห้องอยู่มากกว่าค่ะ" น้ำทิพย์หันมายิ้มแหยอย่างอ้อนวอนเสียเต็มที "นะคะ..ให้บีทำอะไรบียอมหมดเลย"


    ยอมหมดงั้นหรอ


    ..อืม..

    กำลังขาดคนพอดีเลยแฮะ



    "งั้นมาอยู่ชมรมไทเก๊กกับคริสได้มั้ยล่ะ?" คนพูดอมยิ้ม "แลกกับที่คริสจะยอมให้บีแชร์ห้องด้วย"

    "ได้ค่ะ ได้ๆๆ" น้ำทิพย์พยักหน้าระรัวด้วยความดีใจเมื่อในคืนนี้ไม่ต้องไร้ที่ซุกหัวนอนอีกต่อไป แอบนึกขอบคุณเมทินีอยู่ในใจกับคำแนะนำ'ให้อ้อน'ที่ได้ผลของเธอ คิดเอาไว้ว่าพ้นจากวันนี้ไปหล่อนคงต้องเลี้ยงตอบแทนเสียซักที

         ห้ะ แต่เดี๋ยวนะ เหมือนลืมอะไรไปซักอย่าง..

              ไทเก๊ก?

    "เดี๋ยวนะคะ"

    "อะไรอีกล่ะ"

    "ไทเก๊กนี่คืออะไร.."

    "ก็รำมวยจีนไง เอ้าท์มากอะทำไมไม่รู้จัก นี่ใคร นี่คริสหัวหน้าชมรมนะคะ!" ศิรินยืดอกอย่างภูมิใจพลางโอ้อวดสรรพคุณ "ที่พักก็ได้ สุขภาพก็ดี แบบนี้หายากนะรู้มั้ยบี"

    แต่น้ำทิพย์กลับแทบไม่ได้ฟังสรรพคุณเยอะสิ่งที่หญิงสาวบอกด้วยซ้ำ สมองหล่อนตายไปตั้งแต่คำว่า'รำมวยจีน'ของศิริน คนตรงหน้าคงไม่รับรู้อะไรว่าหล่อนเกลียดการออกกำลังกายประเภทเคลื่อนไหวช้าๆแบบนี้มากแค่ไหน มันเอื่อย มันเฉื่อย มันเมื่อยและมันไม่โอเค

    "เอาเป็นว่าพรุ่งนี้แปดโมงเช้าทำธุระเสร็จแล้วเจอกันที่สวนนะ เดี๋ยวคริสสอนบีใหม่ตั้งแต่ท่าแรกเลย จะได้ไปรู้จักคนอื่นๆด้วย"

    "แต่.."

    "ไม่มีแต่ คริสจะลงไปดูละครกับพี่เกดแล้ว เลทมาเยอะแล้วเนี่ยเดี๋ยวตามไม่ทัน"

    "บีว่าบีไม่.."

    "ก็ไม่ได้บังคับนะคะ ไม่พอใจก็ออกจากห้องไปได้เลยคริสไม่ว่า:)"

    โอ้ย..ให้ตาย

    สวนสาธารณะ / รำมวยจีน / แก๊งคุณป้าและท่ามาตรฐาน


    ....จีนมากไม่โอเค!







    #ฟิค60




    talk:

    มีความป้าเบอร์นี้เลยก็ได้หรอม..
    ไม่รู้จะทอล์คอะไรเลยค่ะ พบ้า กลัวโดนสาปไปหม๊ดด
    จริงๆพล็อตนี้เป็นพล็อตที่คุยกันเล่นๆกับไรท์เตอร์ฟิคเบิร์นBC
    ไม่คิดเหมือนกันค่ะว่าจะได้เอามาทำจริงๆ55555555

    ใช้เวลาหาข้อมูลพอสมควร ดังนั้นหลายอย่างในฟิคมีอยู่จริง แต่บางอย่างก็เมคขึ้น
    เช่นโลเคชั่นบ้านบางแค พยายามเขียนให้ใกล้เคียงสุดเพราะนี่ก็ไม่เคยไป ฮือ
    (แต่ข้อมูลที่พักมีอยู่จริงนะคะ ถถถ รำไทเก๊กในบ้านบางแคก็มีจริงๆ)

    ฟิคอาจจะดูโทนดราม่านิดๆแต่มันไม่มีดราม่าค่ะสบายใจได้เลย
    หวังว่าจะอ่านแล้วโอเคกันเนาะ;--;

    ด้วยรักและดองฟิคเก่า ฮี่ฮี่ <3

    ปล. นี่ค่ะยาอมสมุนไพรตรามังกรทองของป้าบี อร่อยนะเออ เลาชอบกิน!

    © themy butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×