คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เธอ
เธอ
“ฮัลโหลเราเรียนเสร็จแล้วนะตอนนี้อยู่หอสมุดกลาง…….ก็เซฮุนสัญญาแล้วว่าจะมารับเรา……..แล้วเราจะกลับยังไงฝนกำลังตกหนักด้วย……เซฮุนมารับเราก่อนไม่ได้เหรอแล้วค่อยกลับไปติวให้น้องต่อ……อื้ม ก็ได้ เข้าใจแล้ว”
ลู่หานถอนหายใจพร้อมๆกับปิดหนังสือลง เขามองผ่านกระจกใสของหอสมุดกลาง ละอองฝนเกาะกระจกก่อนจะค่อยๆทิ้งตัวลง ด้านนอกฝนกำลังตกหนัก ท้องฟ้ามืดหม่นไปหมด มันเหมือนหัวใจของลู่หานตอนนี้เลย นักศึกษาปีสามคณะอักษรศาสตร์คนดังของมหาวิทยาลัยแต่กลับมานั่งเหงาเพียงลำพังเพราะใครบางคนที่สัญญาว่าจะมารับ ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงคำสัญญาก็กลายเป็นเพียงอากาศที่จับต้องไม่ได้
ลู่หานรู้ว่าเพราะอะไร เขารู้ดีว่ามีบางอย่างกำลังเปลี่ยนไป บางอย่างที่แสนสำคัญมันคงไม่เหมือนเดิม
โอเซฮุนกำลังเปลี่ยนไป คนรักของลู่หานไม่เหมือนเดิม และลู่หานกำลังรอว่าความอดทนของเขาจะสิ้นสุดลงเมื่อไร เขารักเซฮุน รักมากแต่ไม่ได้มากจนยอมให้ความรักทำร้ายตัวเองแบบนี้
“นั่งด้วยคนดิ”
“เห? เอ่อ” ลู่หานสะดุ้งตกใจเมื่ออยู่ๆมีผู้ชายคนหนึ่งมาขอนั่งด้วยที่สำคัญลู่หานยังไม่ทันได้อนุญาตหมอนั่นก็ชิงนั่งซะก่อน ไม่มีมารยาทเอาซะเลยอีกอย่างนะโต๊ะว่างออกจะเยอะแยะจะมารบกวนคนอื่นเขาทำไม
ฝ่ายนั้นเท้าคางจ้องหน้าหน้าเขาเงียบๆก่อนจะเบนสายตาออกไปมองสายฝนด้านนอก อะไรของเขากันน่ะ ประสาทรึเปล่าเนี่ย ลู่หานอาศัยช่วงที่ผู้ชายคนนั้นเผลอแอบเหลือบมองคนตรงหน้า การแต่งตัวที่ผิดระเบียบตั้งแต่หัวจรดเท้า กางเกงยีนส์ขาดๆ ผมก็ยุ่งๆเหมือนเอามือปัดๆสางๆ ตามเสื้อยังมีพวกคราบสีเลอะๆอีก อ่า ลู่หานพาลนึกไปถึงแฟนหนุ่มอย่างเซฮุนที่ต้องเนี๊ยบทั้งตัว ถ้าเทียบกันแล้วคงเหมือนคนละโลกเลย มีดีแค่อย่างเดียวคือหน้าหล่อๆกึ่งคมกึ่งหวานนั่น
“เฮ้ย” ลู่หานส่งเสียงร้องด้วยความตกใจเมื่ออยู่ดีๆไอ้บ้านั่นก็ยื่นมือมาจับหน้าเขา
“หน้าตาออกจะน่ารักขมวดคิ้วมากๆระวังมีแฟนดุนะ”
“แฟนเราไม่ดุสักหน่อย นายเป็นใครเนี่ยแล้วเมื่อกี้มาจับหน้าเราทำไม”
ลู่หานกำลังคิดว่าตัวเองคุยกับคนบ้าอยู่หรือเปล่า มีที่ไหนกันล่ะยื่นมือมาจับหน้าทั้งที่ไม่ใช่คนสนิท คนยิ่งอารมณ์ไม่ดีทำไมต้องมาเจอคนเพี้ยนๆที่ทำให้อารมณ์เสียกว่าเดิมด้วยนะ ผู้ชายคนนั้นลุกขึ้นยืนเดินอ้อมโต๊ะและก้มลงมาหาลู่หานชนิดที่ว่าปลายจมูกแทบจะชิดกัน เขาจ้องตาลู่หานก่อนจะเผยรอยยิ้มที่แสนหวานแต่ดูร้ายกาจในเวลาเดียวกัน ลู่หานแอบเห็นว่าหมอนั่นมีเขี้ยวด้วย
“ฉันชื่อมาร์คยินดีที่ได้รู้จักนะลู่หาน”
“เฮ้ นี่ เอามือถือเราคืนมานะ นี่นาย บอกว่าเอามือถือเราคืนมาไง”
ลู่หานเดินตามคนที่แกล้งทำหูทวนลม แถมยังเดินดูหนังสือด้วยท่าทางที่วอนโดนกระทืบมาก หมอนี่อาศัยช่วงเวลาที่เขากำลังอึ้งกับการแนะนำตัวระยะเผาขนแอบหยิบโทรศัพท์ของเขาไป กว่าจะตั้งสติได้ลู่หานก็ทั้งเดินทั้งวิ่งทำอย่างกับเล่นซ่อนแอบในชั้นหนังสือของหอสมุดจะเสียงดังก็ไม่ได้แค่นี้คนก็มองจะแย่ เลยได้แค่กระซิบด้วยความคับแค้นใจ
“ฝนหยุดตกเดี๋ยวคืนให้”
“เกี่ยวอะไรกับฝน”
“ไม่เกี่ยวไง”
“นาย!!!”
“ใครคือนายก็บอกแล้วว่าชื่อมาร์คไหนเรียกดิ”
“หน้ายังกับติ่มซำดันชื่อมาร์คใครตั้งให้เนี่ยชื่อมาร์คเนี่ย หรือตั้งเองชื่อเดิมชื่ออะไร ….โอเคมาร์คคืนโทรศัพท์ให้เราเถอะนะ นะ” เมื่อถูกสวยตาดุๆตวัดมองลู่หานก็งับปากฉับยอมเรียกอีกฝ่ายตามที่ถูกร้องขอแต่ก็ต้องฟาดป๊าบเข้าให้ที่ไหล่ของคนสูงกว่าด้วยความเจ็บใจหลังจากได้ยินเสียงหัวเราะหึๆหลุดออกมา
“มีรายงานอะไรก็ไปทำรอที่โต๊ะไป ฝนหยุดตกเมื่อไรจะคืนให้จริงๆ”
“บ้าดิเกิดนายคลาดสายตาชิ่งหนีเอามือถือเราไปขายจะทำไง” มาร์คหลุดขำอีกครั้งเขาหันมามองหน้าอีกฝ่ายตรงๆ ยิ่งมองก็ยิ่งมีคำถามเกิดขึ้นมากมายว่าตอนเด็กๆผู้ชายตัวเล็กคนนี้กินอะไรเข้าไปทำไมถึงน่ารักขนาดนี้
“นี่หน้าเหมือนโจร?”
“เออใส่เสื้อลายขวางขาวดำมานี่คงซื้อข้าวผัดกับโอเลี้ยงไว้รอ”
“เหอะคงเป็นคดีฆ่าข่มขืนคนแถวนี้แหละ งั้นเอาของฉันไปเป็นตัวประกันก็ได้อ่ะ” ประโยคแรกน่ะแค่พึมพำ ประโยคถัดมาเขาเอ่ยออกไปพร้อมกับยื่นมือถือรุ่นเดียวกันแต่ต่างสีให้ลู่หาน ดวงตากลมๆนั่นกระพริบปริบๆมองจากมุมบนแล้วเหมือนตาตุ๊กตาเลยแฮะจะยาวไปไหน
“ทำไมต้องทำให้ยุ่งยากด้วย ชริส์” บ่นไปก็เท่านั้นแต่กลับคว้าเอามือถือสีดำเครื่องหรูติดมือมา โบรานว่ากำขี้ดีกว่ากำตดอ่ะเนอะลู่หานล่ะไม่เข้าใจเลยจริงๆ รู้จักกันรึก็เปล่าอยู่ๆก็มาแกล้งกันแบบนี้ทำอย่างกับพวก…“นายน่ะทำเหมือนสนใจเราเลยจะจีบเราป่ะเนี่ย”
“อือ”
“โห นี่ก็ตรงไป” ลู่หานตาโตถอยหลังไปหนึ่งก้าวปากกระจับสีชมพูนั้นอ้าหวอแต่ไม่ว่าจะแสดงสีหน้ายังไงมาร์คก็ยังรู้สึกว่ามนุษย์ตัวเล็กนั่นแม่งโคตรน่ารักมากๆอยู่ดี
“หึหึ ไปนั่งรอได้แล้วป่ะ ฉันจะไปหาหนังสือถ้าเบื่อๆก็เล่นเกมส์ได้พาสเวิร์ดก็เดือนเกิดตามด้วยวันเกิดนายน่ะ”
ลู่หานแลบลิ้นใส่คนที่กำลังยิ้มกว้างทำวิงค์ใส่เขา หล่อตายแหละ ก็งั้นๆอ่ะเนอะ เขาเดินกลับมาที่โต๊ะตามเดิม นั่งมองโทรศัพท์มือถือในมือก่อนจะหลุดหัวเราะคนเดียว ลู่หานส่ายหน้าให้ความกวนของอีกฝ่าย เมื่อลองใส่รหัสด้วยวันเกิดเขาแล้วก็ปลดล็อคได้จริงๆ ลู่หานนั่งเล่นเกมส์ในโทรศัพท์ของคนแปลกหน้าจนลืมสังเกตท้องฟ้าว่าฝนยังตกไหม ลืมเวลา ลืมแม้กระทั่งว่าเขาเพิ่งจะมีเรื่องให้กังวลใจ ลู่หานลืมเลือนทุกอย่างเพียงเพราะผู้ชายกวนๆคนหนึ่งผ่านเข้ามา
เมฆฝนผ่านไปท้องฟ้าสดใสของยามเย็นก็เข้ามาแทนที่ กลิ่นไอฝนและละอองน้ำช่วยให้บรรยากาศสดชื่นยิ่งขึ้น ลู่หานเดินตามมาร์คต้อยๆออกจากหอสมุดกลางอย่างกับกลัวหลง เปล่าหรอกเขาแค่กลัวว่าจะไม่ได้มือถือเครื่องละหลายหมื่นคืนต่างหาก หมอนี่ไม่รักษาสัญญาเลยไหนบอกพอฝนหยุดตกแล้วจะคืนให้ไง
“นี่คืนมือถือเรามาสักทีสิ จะกลับบ้าน”
“เดี๋ยวไปส่ง”
“ไม่ต้องเลยจะพาไปฆ่าข่มขืนล่ะสิเราได้ยินหรอก”
“เป็นคนเพ้อเจ้อเหมือนกันนะเรา”
“อย่ามาหลอกด่านะ แล้วบอกจะไปส่งไหนอ่ะรถ”
“นี่ไง”
“ไหนอ่ะ ไหนๆ” ลู่หานชะเง้อมองลานจอดรถบริเวณหน้าหอสมุด ตรงนี้มันที่จอดมอเตอร์ไซต์นี่นาอย่าบอกนะว่า…. “เวสป้าเนี่ยนะ” นิ้วขาวๆชี้ไปที่เจ้ารถสีหวานแสนจะน่ารักสลับกับมองหน้านิ่งๆของมาร์ค
“เออเวสป้านี่แหละ ไม่มีปัญญาขับมาเซราติเหมือนแฟนใครบางคน”
“ก็ยังไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อยแค่แปลกใจที่ผู้ชายเซอร์แบบนี้จะมีรถน่ารักๆสีแต๋วๆ”
“ปากดี เดี๋ยวเหอะๆใครแต๋ววะแมนกว่าพี่ก็คริสEXOแล้วครับ”
“ยี้” มาร์คอยากจะเอานิ้วคีบจมูกรั้นๆของคนที่แกล้งย่นจมูกใส่เขา หมั่นเขี้ยวชะมัด เขาไขกุญแจเปิดเบาะเพื่อหยิบหมวกกันน็อคลายกวางแบมบี้ที่ลงมือเพ้นเองส่งให้ลู่หาน ปกติเขาคงคร่อมแล้วสตาร์ทรถออกไปเลย แต่เพราะมีลู่หานอยู่ด้วยเลยหยิบผ้าที่ซุกไว้ข้างล่างมาเช็ดเบาะกลัวกางเกงอีกคนจะเปียกจะเลอะ
“เสร็จแล้ว…อ้าวทำไมยังไม่ใส่หมวกอีก”
“ก็นึกว่าให้ถือไว้ให้เฉยๆนี่” ลู่หานปากยื่นใส่คนที่นั่งคร่อมเวสป้ารอ ใครจะไปตรัสรู้เล่าก็เห็นมีหมวกแค่ใบเดียว ทั้งบ่นในใจทั้งพยายามปรับสายรัดให้พอดีด้วยความทุลักทุเล ได้นั่งบ่อยซะที่ไหนล่ะเจ้าสองล้อเนี่ย ปกติเคยชินแต่กับคาดเข็มขัดนิรภัย
“ขยับมาใกล้ๆดิ” มาร์คไม่รอให้ลู่หานทำตามคำสั่ง เขาเอื้อมมือไปดึงเสื้อคนตัวเล็กให้เข้ามาใกล้ก่อนจะเป็นฝ่ายจัดการใส่หมวกให้ มันเป็นครั้งที่สองที่พวกเขาได้มองกันใกล้ๆแต่มันเป็นครั้งแรกที่หัวใจของลู่หานเต้นแรงกับใครบางคนที่ไม่ใช่เซฮุน “เสร็จแล้วขึ้นมาเลย”
“แล้วนาย เอ่อ แล้วมาร์คล่ะ”
รถคันเล็กๆเคลื่อนออกไปแล้ว มาร์คยิ้มกว้างในแบบที่ลู่หานคงไม่มีวันได้เห็น ลู่หานไม่มีทางรู้เลยว่าตอนนี้ใครคนหนึ่งกำลังมีความสุขมากแค่ไหน คนที่คิดมาเสมอว่าลู่หานคงเป็นได้แค่นางในฝันที่เขาไม่มีวันเอื้อมถึง คนที่เฝ้ามองอยู่ห่างๆคอยเป็นห่วงมาเสมอ แต่วันนี้ลู่หานตัวเป็นๆที่จับต้องได้กำลังส่งเสียงเจื้อยแจ้วซ้อนท้ายเวสป้าเก่าๆของเขา มาร์คคิดไม่ออกเลยว่าจะมีอะไรทำให้เขามีความสุขได้มากกว่านี้อีกไหม
“ใส่ไปเหอะนานๆทีให้มันได้ปกป้องอะไรที่สำคัญกว่าชีวิตเน่าๆของฉันบ้างก็ดีเหมือนกัน”
กระแสลมเอื่อยๆหอบกลิ่นฝนกลิ่นดินกลิ่นแห่งความสดชื่นมาทักทายคนทั้งสอง มือลู่หานที่ยึดชายเสื้อนักศึกษาของมาร์คไว้ยิ่งกำแน่นเมื่อได้ยินคำพูดนั้น ไม่ใช่ว่าหัวใจของเขากำลังสับสนหรืออ่อนล้า ลู่หานก็แค่อยากจะพิงหน้าผากลงกับแผ่นหลังกว้างๆของคนที่เพิ่งรู้จักไม่กี่ชั่วโมงแต่ทำให้เขาสนิทใจด้วยอย่างประหลาด
“สรุปจะจีบเราจริงๆใช่ไหมเนี่ย” ลู่หานแสร้งถามเพื่อคลายความขัดเขิน
“หึ ถ้าไม่ติดว่ามีแฟนแล้วฉันจับปล้ำไปตั้งแต่ในหอสมุดล่ะ”
“รู้ด้วยเหรอว่าเรามีแฟน”
“อืม…รู้สิ ก็เพราะว่ารู้ไงเลยทำได้แค่นี้”
>>>>>>>>>>>>
ทีมมาร์คลู่ ดีออกกกกกกกกกกกกกกกก
55555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555
พวกเรามาไกลกูพูดเลย
ความคิดเห็น