คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : เกาะรักพักใจ 6
เกาะรักพักใจ 6
“คิม จงอิน...” เสียงแหบพร่าขัดจังหวะการพูดของคนตรงหน้าและเดินเข้าไปร่วมบทสนทนาด้วย “แม่มีเรื่องจะคุยกับนายนิดหน่อย” สายตาของเธอจ้องเขม็งไปที่ลูกชาย ก่อนจะก้มศีรษะลงเล็กน้อยให้กับหญิงสาวมีอายุที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่
“เอ่อ...ผม” ผู้เป็นลูกหันไปมองใบหน้าของหญิงสาวที่มีอายุเพียงเล็กน้อย
“พี่พูยองคงจะไม่ว่าอะไรใช่ไหมคะ?”
“ฉันจะไปว่าอะไรได้ เขาเป็นลูกชายเธอนิ” เมื่อได้ยินคำตอบจากปากคนตรงหน้าเธอก็รีบจับแขนลูกชายตัวเองให้เดินตามมายังห้องของเธอทันที
“ฉันได้ยินว่านายได้เบาะแสเด็กนั้นแล้ว” เมื่อคนเป็นแม่พูดขึ้นชายหนุ่มก็รู้ได้ทันทีว่าแม่ของเขาคงจะแอบฟังเขาคุยกับน้าพูยองอยู่นานแล้ว แต่ทำไมต้องทำแบบนั้นด้วยนี่คือสิ่งที่เขาสงสัย
“ถ้าแม่หมายถึงมุน จงออบ...ใช่ครับผมได้เบาะแสของเขาแล้ว”
“ไอ้เด็กนั้นมันตายไปแล้วทำไมแกต้องขุดเรื่องนี้ขึ้นมาอีก!” เมื่อผู้เป็นแม่ตะคอกเสียงขึ้นทำให้ชายหนุ่มเริ่มสงสัยเข้าไปอีก ทำไมถึงต้องโกรธขนาดนี้กัน
“จงออบ...ยังไม่ตายครับ”
บรรยากาศของเช้าวันนี้เงียบกว่าทุกครั้งสร้างความแปลกใจให้กับชาวบ้านคนอื่นเป็นอย่างมากโดยเฉพาะท่าทางที่เงียบกว่าทุกครั้งของจงออบซึ่งไม่มีแม้แต่รอยยิ้มสดใสบนใบหน้าของเขา และแดฮยอนที่ได้แต่นั่งมองชาวบ้านคนอื่นเก็บผักบริเวณท้ายหมู่บ้านใกล้หุบผาซึ่งปกติเขาจะอยู่กับจงออบตลอดเวลาแต่วันนี้ไม่ ไหนจะเสียงทะเลาะจากบังยงกุกและจุนฮงที่คอยจิกกัดกันตลอดตอนนี้ก็มีแต่ความเงียบสงบจากคนทั้งสอง ส่วนคนที่เห็นจะปกติที่สุดก็คงจะเป็นฮิมชานที่มัวแต่หยอกล้อกับยองแจที่ดูเหมือนเขาทั้งสองจะสนิทกันมากขึ้นสนิทกันจนชาวบ้านคิดว่าเขาดูเหมือนคู่รักข้าวใหม่ปลามัน
“จงออบนายไม่สงสารพี่แดฮยอนบ้างหรอ นายก็ฟังฉันอธิบายไปหมดแล้วนิ” จุนฮงที่มองเหตุการณ์อยู่นานเอ่ยขึ้นพร้อมมองใบหน้าของเพื่อนสนิท
“นายไม่เข้าใจหรอก”
“ใช่ ฉันไม่เข้าใจก็นายเล่นไม่บอกอะไรฉันเลยนิ”
“ความรู้สึกของฉัน...” จงออบเอ่ยเสียงแผ่วเบาแต่ก็ไม่พูดอะไรต่อ จุนฮงมองอย่างไม่เข้าใจนักแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรกับเพื่อนสนิทของเขาบางทีถ้าจงออบพร้อมเขาคงพูดออกมาเอง
ความรู้สึกที่อบอุ่นทุกครั้งเมื่อมีเขาอยู่ข้างๆและเมื่อความรู้สึกนั้นมันชัดเจนขึ้นฉันก็ไม่อยากใกล้ชิดกับเขาเพราะดูเหมือนสิ่งเรานั้นมันคือความรักและความรู้สึกนั้นเป็นสิ่งที่ฉันกลัว...
“เฮ้! ทุกคนฉันมีอะไรมาให้ดู” ชายหนุ่มผิวสีแทนวิ่งมายังชาวบ้านคนอื่นๆพลางคลี่กระดาษที่อยู่ในมือของตัวเอง “เมื่อวานฉันออกเรือไปปูซาน แล้วเจอกระดาษนี่แปะเต็มเมืองไปหมดฉันว่ามันดูคุ้นก็เลย...” ชายหนุ่มกางกระดาษออกพลางวางทาบกับใบหน้าของแดฮยอน “ใช่แล้วมันคือรูปของนักรบจากสวรรค์ฉันจำไม่ผิดจริงๆด้วย” ชายคนนั้นแสดงสีหน้าร่าเริงและดีใจสุดขีด ยองแจที่เห็นแบบนั้นก็รีบไปหยิบกระดาษนั้นขึ้นมาดู
“ประกาศตามหาคนงั้นหรอ?” ยองแจขมวดคิ้วและมองรูปจากกระดาษที่มีรูปของแดฮยอน ยงกุกรวมทั้งฮิมชานอยู่ในนั้น
“ใช่เขาว่ามีเงินรางวัลถ้าใครหาเจอด้วยนะ มีเบอร์ติดต่อด้วยแหละ” ชายหนุ่มแย่งกระดาษจากมือของยองแจอีกครั้งและมองตัวเลขบนกระดาษนั้น “ไม่จริงน่า!” ชายหนุ่มแสดงสีหน้าประหลาดใจ
“มันไม่มีหรอ” ฮิมชานพูดพร้อมยกยิ้มมุมปาก
“มันมีแต่มันหายไปสองตัว จังหวะที่ฉันอีกออกคงไม่ได้ดู...” ชายหนุ่มเสียงอ่อนลงและแสดงความเสียดายออกมาแต่แดฮยอน ยงกุกและฮิมชานกลับไม่รู้สึกเสียดายสักนิดอาการของพวกเขามันดูเหมือนโล่งใจมากกว่า
“แต่ถ้าพวกพี่จำที่อยู่ได้ เราสามารถพาพี่กลับได้นะ” ชายหนุ่มพูดพร้อมมองใบหน้าของคนทั้งสาม
“พวกเราจำไม่ได้!” แดฮยอน ยงกุกและฮิมชานพูดพร้อมกันก่อนจะมองใบหน้าของเพื่อนเขาที่เผลอพูดออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายมันดูเหมือนเรื่องตลกสำหรับพวกเขาแต่ก็ต้องฝืนยิ้มหัวเราะไว้
“หลอกได้แต่เด็กเท่านั้นแหละ โกหกชัดๆ” จุนฮงบ่นอุบอิบ
“นายไม่ใช่เด็กหรือไง...” ยงกุกกระซิบที่ใบหูของจุนฮงก่อนที่จุนฮงจะถลึงตาใส่เขา
“ผมจะต้องหาหมายเลขพวกนี้ให้ครบ ไม่ต้องห่วงผมจะพาพวกพี่กลับบ้านให้ได้” ชายหนุ่มพูดพร้อมตบไหล่ของฮิมชาน
“นายกำลังหวังรางวัลอยู่หรือไง” ยองแจพูดพร้อมมองใบหน้าของชายคนนั้น
“ฉันตอบแทนที่พวกเขาเคยช่วยเราไว้ต่างหาก” ไม่รู้ว่ายองแจมองโลกในแง่ร้ายไปหรือเปล่าแต่มันก็ดูไม่น่าเชื่อเลยสักนิดกับอาการของชายตรงหน้าที่ดูจะเลิ่กลั่กทั้งสายตาและคำพูด ยองแจไม่ได้พูดอะไรเพียงแค่ยักไหล่และเดินไปยังแปลงผัก
“ฉันได้แต่หวังว่าอย่าให้เด็กนั้นหาหมายเลขครบ” ฮิมชานพูดพร้อมนั่งลงข้างๆยองแจ
“ทำไมพี่ไม่อยากกลับบ้านของตัวเองหรือไงกัน”
“ใช่ฉันไม่อยาก…” น้ำเสียงของฮิมชานดูเศร้าผิดปกติจนยองแจต้องละความสนใจจากแปลงผักมองใบหน้าของฮิมชานแทน
“แต่ผมอยากให้พี่ไปใจจะขาด” ยองแจพูดพร้อมใช้นิ้วที่เลอะดินป้ายหน้าของฮิมชานพร้อมวิ่งหนีและแลบลิ้นใส่เขา
“ถ้าฉันเกิดไปจริงๆนายอย่าคิดถึงฉันละกัน ยู ยองแจ!!”
[Choi Junhong]
ผมไม่เข้าใจจริงๆทำไมเขาต้องโกหกว่าจำไม่ได้ด้วย
“จุนฮงเอาผักไปล้างให้ป้าหน่อย” คนอื่นก็ว่างกว่าผมทำไมต้องใช้ผมคนเดียวด้วยนะ
“ครับ!” ผมหยิบตะกร้าที่ใส่ผักเดินไปยังลำธาร น้ำใสๆนั้นทำให้ผมอดจากที่จะลงไปแหวกว่ายในนั้นไม่ได้ผมวางตะกร้าไว้ข้างๆโขดหินพลางค่อยๆยกชายเสื้อขึ้นเผยให้เห็นหน้าท้องแบนเรียบและผิวขาวจัดที่ผู้หญิงบนเกาะนี้ต่างอิจฉา
ตูม!
นั้นไม่ใช่เสียงที่ผมกระโดดลงมาด้วยตัวเองอย่างเต็มใจหรอกนะแต่มีใครบางคนผลักผมลงมาต่างหาก
“ดูนายอยากจะเล่นน้ำนะ” บังยงกุก ผู้ชายคนนี้ตั้งแต่เมื่อคืนเขาไม่เคยสำนึกผิดเลยหรือไงกัน ดูๆยังมีหน้ามายิ้มเหงือกบานอยู่ได้ “ฉันก็อยากเล่นน้ำบ้างแล้วสิ” ไม่พูดเปล่าเขาค่อยๆถอดเสื้อออกจนเห็นผิวเนียนกับกล้ามแขนที่ดูแข็งแรงและซิกแพคที่เรียงตัวสวย จนผมได้แต่อ้าปากค้างกับภาพตรงหน้า
“หุ่นฉันนะดีกว่าไอ้แดฮยอนเยอะเลยใช่ไหมละ” ไม่รู้ว่าเขามาอยู่ตรงหน้าของผมตั้งแต่เมื่อไหร่แต่คำพูดเมื่อกี้ก็ดึงสติของผมกลับมาทันที
“ไม่สำนึกบ้างหรือไง!”
“นายไม่เรียกฉันว่าพี่แล้วหรอ” โอ้ย ทำไมต้องขยับเข้ามาใกล้ขนาดนี้ด้วยนะไอ้พี่เหงือก แล้วไอ้อาการนี้มันคืออะไรกัน ใจเต้นแรงแถมรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งตัว “ฉัน...ขอโทษนะ” ผมมองใบหน้าของเขาพลางตีหน้าใสซื่อ “นายไม่อยากได้ยินแบบนี้หรือไง”
“แล้วไง?” ผมพูดพร้อมเบี่ยงหน้าหนีเกือบสามร้อยหกสิบองศา
“หายโกรธเถอะนะ” อ้ากกก พี่เหงือกมันอ้อน ให้ตายเถอะ! ทำไมนะทั้งที่ก็อยู่ในน้ำแต่กลับร้อนได้ขนาดนี้
“ออกไปห่างๆผมไม่ได้หรือไง!”
"ขออยู่แบบนี้ก่อนได้ไหม..."
"...."
“ถ้าวันหนึ่งฉันเกิดไม่ได้อยู่ใกล้ๆนายแบบนี้นายจะรู้สึกยังไงกันนะ?” ทำไมผมถึงรู้สึกแปลกๆกับคำพูดนั้นนะถ้าเกิดไม่มีพี่เขาอยู่ข้างๆผม...มันก็ควรจะดีสิใช่ดีมากๆเลยแหละ
“ดะ...ดี...ดีใจสิ! ผมคงมีความสุขมาก”
“มีความสุขงั้นหรอ...แต่ฉันนะขาดนายไม่ได้เลยสักวินาทีเดียว” พี่เขาโน้มตัวเขามาหาผมก่อนจะประกบริมฝีปากแผ่วเบา
.
.
.
.
“จุนฮงผักเมื่อไหร่จะ...ว้ายยยยยยยยยยยย!!!”
“O[]O!!!?”
.รูปเก่าเล่าใหม่
แยกฝั่งเคะเมะ?#ใครจัดที่#ฟิน
ความคิดเห็น