คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : CHAPTER 05 : Ichigo VS Rukia
CHAPTER 5
ICHIGO VS RUKIA
เมื่อถึงวันทดสอบ ตามมุมต่างๆของโรงฝึกดาบที่ใช้เป็นสถานที่ในการประลองครั้งนี้อัดแน่นไปด้วยนักเรียนแห่งโรงเรียนศาสตร์ชินโอ ทุกคนให้ความสนใจกับการต่อสู้ครั้งนี้เป็นพิเศษ เพราะต่างก็รู้ดีว่าทั้งอิจิโกะกับลูเคียมาจากตระกูลที่บาดหมางกันมานาน จึงอยากรู้ว่าผลการประลองครั้งนี้จะออกมาเป็นเช่นไร หลายๆคนก็มาเชียร์เพื่อนของตัวเอง แต่ทั้งคู่เรียนอยู่ห้องเดียวกัน เพื่อนๆจึงเชียร์กันสนุกๆเท่านั้น อาจจะมีบางพวกที่พนันกันเล่นๆเพื่อความบันเทิง
อิจิโกะมาถึงที่โรงฝึกก่อนลูเคีย จึงเข้าไปเตรียมตัวก่อน ชายหนุ่มสวมชุดสำหรับฟันดาบ และนั่งรออยู่ที่ห้องพักนักกีฬาฝั่งซ้าย ส่วนฝั่งขวาเป็นห้องพักของลูเคีย ซึ่งทั้งสองฝั่งมีเพียงแผ่นไม้สูงพอที่จะทำให้ไม่เห็นหน้ากันเป็นฉากกั้น
"อาชิโดะ นาย! เบาๆหน่อยสิ หลังฉันจะหักอยู่แล้ว" ลูเคียบ่นเพื่อนชายของตัวเอง ที่กำลังใช้มือดันหลังเธอให้รีบเดินอย่างแรง
"ก็ใครใช้ให้เธอหักโหมนักล่ะ ถ้าฉันไม่ไปตามเธอมา เธอก็ลืมใช่มั้ยว่าวันนี้น่ะมีทดสอบ"
อาชิโดะออกปากบ่นเธอบ้าง เพราะเขาไปตามเธอถึงอีกโรงฝึกหนึ่ง แล้วก็เห็นเธอกำลังฝึกซ้อมอยู่คนเดียวอย่างเอาเป็นเอาตาย จนเขาอดห่วงไม่ได้
"รู้น่า ฉันไม่ลืมหรอก แต่การต่อสู้ครั้งนี้ ฉันจะแพ้ไม่ได้เด็ดขาด"
ลูเคียพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง สายตาแข็งกร้าวมองไปทางอื่นอย่างไร้ทิศทาง ราวกับกำลังพูดกับตัวเอง
"แหงล่ะ ก็คู่ซ้อมของเธอเก่งซะขนาดนี้"
อาชิโดะกล่าวชมตัวเองพลางยิ้มให้เธออย่างกวนๆ จนลูเคียอดหมั่นไส้ไม่ได้ จึงใช้ศอกกระแทกเข้าที่หน้าท้องของเขาเบาๆอย่างหยอกล้อ อาชิโดะได้แต่ยิ้มและหัวเราะให้กับท่าทางแบบนั้นของลูเคีย
เสียงใสของลูเคียดังขึ้นเถียงชายที่ชื่ออาชิโดะหน้าห้องพักนักกีฬา ทำให้คนที่นั่งรออยู่ข้างในหงุดหงิด และอารมณ์เสียอย่างบอกไม่ถูก
สักพักอาชิโดะกับลูเคียก็เดินเข้ามาในห้องพักนักกีฬา ลูเคียผงะเล็กน้อยที่เห็นอิจิโกะมารอเธอก่อนแล้ว จากใบหน้าที่กำลังยิ้มแย้มกลับหุบยิ้มลงอย่างช้าๆ อิจิโกะได้แต่มองปฏิกิริยาที่หญิงสาวทำกับเขา ซึ่งมันต่างจากที่เธอทำกับอาชิโดะอย่างสิ้นเชิง และท่าทีแบบนั้นทำให้เขายิ่งรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นกว่าเดิม แถมยังรู้สึกหมั่นไส้ชายหนุ่มผมเลือดหมูที่กำลังยืนอยู่ข้างๆเธอมากขึ้นไปอีก เขาและเธอต่างจ้องหน้ากันนิ่ง ก่อนที่ลูเคียจะเบือนหน้าหลบหนีสายตานั้น แล้วเดินไปนั่งพักที่ห้องฝั่งขวาของตัวเอง
ส่วนอาชิโดะก็ได้แต่ลอบสังเกตกิริยาท่าทางของทั้งคู่อยู่เงียบๆโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา ก่อนหันไปมองอิจิโกะ แล้วเอ่ยทักทายคนตรงหน้าอย่างสนิทสนม ในฐานะที่เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน
"ว่าไง อิจิโกะ เต็มที่นะนายน่ะ พวกอุลคิโอร่ารอเชียร์นายอยู่"
"ฉันเต็มที่อยู่แล้วน่า... เดี๋ยวนี้นายติดผู้หญิงรึไงฮะ อาชิโดะ"
อิจิโกะพยายามทำสีหน้าให้กลับมาเป็นปกติที่สุด แล้วทักทายกลับ พร้อมกับแซวอาชิโดะด้วยน้ำเสียงขี้เล่นอย่างเคย ทั้งๆที่ในใจนั้นก่อเกิดความรู้สึกไม่ชอบใจขึ้นมาแปลกๆ แต่เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมความรู้สึกข้างในใจของเขาถึงได้แปรปรวนขนาดนี้ ทั้งๆที่เมื่อก่อนไม่เคยเป็น
"หึ..."
อาชิโดะไม่ยอมรับหรือปฏิเสธตอบกลับแต่อย่างใด เพียงแต่กระตุกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย พลางโบกมือลาอิจิโกะ แล้วหันหลังเดินไปทางห้องฝั่งขวาที่ลูเคียนั่งพักอยู่
อิจิโกะเห็นดังนั้นก็ขมวดคิ้วแน่นอย่างไม่พอใจในท่าทีของอาชิโดะ ท่าทางแบบนั้นหมายความว่ายังไง เขาไม่เข้าใจเลยสักนิด หมอนั่นกำลังเยาะเย้ยเขาอย่างนั้นเหรอ
...เอ๊ะ! นี่ฉันกำลังเสียสมาธิอยู่รึไง ไม่ๆๆ ไม่เด็ดขาด เลิกคิดได้แล้ว...
อิจิโกะคิดได้ดังนั้นก็หลับตาแน่นสนิทเพื่อเป็นการเริ่มต้นตั้งสมาธิใหม่
"นายทำอะไรน่ะ อาชิโดะ"
"อยู่นิ่งๆลูเคีย แปปเดียว เดี๋ยวก็เสร็จ"
"แต่... อ๊ะ เบาๆหน่อยสิ"
"ฉันจะถอดล่ะนะ"
"ไม่เอา ฉันถอดเอง มานี่"
"หยุดเลย เธอทำช้าจะตาย ให้ฉันทำดีกว่า"
สักพักเสียงของทั้งคู่ก็เงียบไป แต่คนที่จิตใจว้าวุ่น และอยู่ไม่เป็นสุขก็คืออิจิโกะ
...จะทำอะไรกันก็ไปทำไกลๆสิโว้ยยย ทนไม่ไหวแล้วนะ!...
อิจิโกะพยายามกำจัดความคิดฟุ้งซ่านของเขาทิ้งไป ทั้งควบคุมสติและอารมณ์ของตัวเองให้อยู่ในการควบคุมของเขา จะไม่ให้เขาคิดได้ยังไงล่ะ คำพูดแต่ละคำ อาจจะไม่มีอะไรก็ได้ คงคิดไปเองล่ะมั้ง อิจิโกะพยายามบอกตัวเองแบบนั้น แต่ภายในใจกลับคิดเตลิดไปไกลแค่ไหนแล้วก็ไม่รู้
"โอ้ย... ฉันบอกให้นายเบาๆไงอาชิโดะ มันเจ็บนะ"
"ขอโทษๆ สงสัยทำแรงไป ฉันจะทำให้เธอสบายเองลูเคีย ยกขาขึ้นสิ..."
สิ้นคำนั้นของอาชิโดะ อิจิโกะก็ลุกพรวดขึ้นทันที เพราะทนฟังต่อไปไม่ไหวแล้ว
"ทำอะไรกันน่ะ พวกนาย...!"
อิจิโกะเตรียมจะต่อว่าทั้งสองคนตรงหน้าต่อ แต่เมื่อเขาเห็นภาพตรงหน้าก็เงียบปากไป เพราะภาพที่เขาเห็นคืออาชิโดะกำลังทายา และนวดข้อเท้าที่สีเขียวม่วงช้ำเล็กน้อยให้ลูเคียอยู่ ในขณะที่อาชิโดะกำลังนั่งชันเข่ากับพื้น และขาขวาของลูเคียก็ยกขึ้นพาดอยู่บนเข่าของเขา โดยมีถุงเท้าข้างหนึ่งกองอยู่บนพื้น
ทั้งลูเคียทั้งอาชิโดะต่างก็ตกใจที่จู่ๆอิจิโกะก็โผล่พรวดเข้ามา ทั้งสองจ้องหน้าของอิจิโกะเชิงตั้งคำถามอยู่ในใจ ว่าเขาเข้ามาทำไม
.
.
.
"คุยกันให้มันเบาๆหน่อยสิ คนมันเสียสมาธิ รีบๆเข้าล่ะ ใกล้เวลาแล้ว ฉันไม่อยากรอนาน"
อิจิโกะพูดขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ แล้วหันหน้าที่ขึ้นสีแดงเล็กน้อยด้วยความอายหนีไปทางอื่น แล้วเดินออกไปจากห้องพักนักกีฬาทันที
"เร็วเถอะอาชิโดะ ฉันก็ไม่อยากรอนานเหมือนกัน" หลังจากอิจิโกะออกไปแล้ว ลูเคียก็เร่งให้อาชิโดะทายาให้เธอต่อ
"ช้ำนิดหน่อย ถ้าพันเอาไว้คงจะไม่มีผลกับการต่อสู้" อาชิโดะว่า พลางก้มหน้าก้มตาทายานวดข้อเท้าให้เธอ
"อืม...ขอบใจนะ" ลูเคียตอบรับอยู่ในลำคอ แต่สายตายังคงจ้องไปตรงทางออก ที่ชายหนุ่มผมส้มเพิ่งเดินออกไปเมื่อครู่
สักพักการต่อสู้ของอิจิโกะกับลูเคียก็เริ่มต้นขึ้น อาชิโดะมาส่งลูเคียถึงข้างสนาม ในขณะที่อิจิโกะได้แต่มองทั้งคู่ด้วยความหมั่นไส้
ทั้งสองยืนประจัญหน้ากัน ต่างตั้งท่าเตรียมพร้อม มือทั้งสองกุมดาบอย่างชำนาญ แววตามุ่งมั่นที่แสดงถึงความอยากเอาชนะอย่างแน่วแน่ของทั้งลูเคียและอิจิโกะจ้องกันอย่างไม่กระพริบ
แล้วครูผู้ควบคุมการประลองครั้งนี้ก็ให้สัญญาณ บ่งบอกว่าการต่อสู้ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
"ย้ากกกกกกกกกกกกก!!!"
อิจิโกะกับลูเคียพุ่งตัววิ่งเข้าหากันอย่างรวดเร็วและรุนแรง คมดาบกระทบกันเสียงดังสนั่นทั่วโรงฝึก แววตาอันมุ่งมั่นจ้องกันกลับอย่างเอาเป็นเอาตาย จนเพื่อนๆที่มาเชียร์ทั้งคู่ ต่างก็สงสัยว่าทำไมถึงต้องจริงจังขนาดนี้ด้วย มันก็แค่การทดสอบ... หลายคนอาจจะคิดเช่นนั้น แต่ไม่ใช่สำหรับลูเคียและอิจิโกะ
"อิจจี้ ลูคิ สู้ๆๆๆ"
เสียงใสจากเด็กหญิงตัวเล็กผมสีชมพู กำลังเชียร์ทั้งคู่ด้วยท่าทางที่ดูไร้เดียงสา ในอ้อมกอดของคุโรซึจิ เนมุ ที่กำลังนั่งดูการต่อสู้ของทั้งคู่ด้วยแววตานิ่งเรียบ ไม่แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกใดๆเลยแม้แต่น้อย
"โธ่ ยาจิรุจัง เขากำลังจริงจังกันอยู่นะ ดูสิจ้องกันจนตาจะลุกเป็นไฟอยู่แล้ว" ฮินาโมริที่นั่งอยู่ข้างๆ เอ่ยปากปรามเด็กสาวตัวเล็กผมสีชมพูเจ้าของชื่อ ‘ยาจิรุ’
"ช่างเถอะน่าฮินาโมริ กำลังสนุกเชียว ถ้าลูเคียจังชนะ ต้องชวนไปเที่ยวให้ได้เลย คอยดูสิ แล้วคราวนี้ก็จะหาแฟนหล่อๆให้สักคนหนึ่งเป็นรางวัลดีมั้ย"
สาวสวยรูปร่างอวบอั๋นที่นั่งข้างฮินาโมริ พูดและหัวเราะออกมาอย่างไม่คิดอะไรมาก แล้วดูการต่อสู้ของทั้งคู่ต่อด้วยความสนุกสนาน ราวกับว่านี่คือละครเวทีฉากหนึ่ง ในขณะที่ฮินาโมริได้แต่ทำสีหน้าปลงๆ กับพฤติกรรมของเพื่อนตัวเองแต่ล่ะคน
"คุณรันงิคุ สงสัยคุณคุจิกิคงจะอดได้แฟนหล่อๆแล้วล่ะครับ ใครๆก็รู้ว่าอิจิโกะน่ะเก่งที่สุดในโรงเรียนนี้เลยนะครับ"
เสียงทุ้มดังขึ้นจากทางด้านหลังหญิงสาวผมทอง ทำให้คนถูกเรียกชื่อต้องหันกลับไปมองต้นเสียง ก็พบกับคิระที่นั่งดูการต่อสู้ของทั้งคู่โดยมีสีหน้าไม่ต่างไปจากเนมุสักเท่าไร
"แต่ลูเคียก็เก่งเหมือนกันนะ ฝีมือพอๆกับอิจิโกะเลย ดูสิ"
ชายผมดำเจ้าของรอยสักเลข 69 บนใบหน้า เอ่ยขึ้นพลางชี้ไปที่ลานฝึกดาบ ที่ตอนนี้กลายเป็นสมรภูมิรบอันดุเดือดของอิจิโกะกับลูเคียไปเรียบร้อยแล้ว
เสียงคบดาบของทั้งคู่กระทบกันหลายครั้งเป็นระยะๆ ต่างผลัดกันหลบดาบของฝ่ายตรงข้าม บ้างก็ผลัดกันโจมตี แต่ล่ะครั้งนั้นล้วนสัมผัสได้ถึงความหนักแน่น และความรุนแรงที่ไม่ได้ลดลงจากการปะทะครั้งแรกเลยสักนิด
เคร้ง!!!
เสียงคมดาบกระทบกันอีกครั้ง ครั้งนี้ดาบของทั้งคู่เสียดสีกันอย่างแรง ต้านกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใคร
"ยอมแพ้ซะเถอะ ลูเคีย"
"ไม่มีทาง นายนั่นแหละที่ต้องยอมแพ้ อิจิโกะ" ลูเคียตอบ พลางจ้องตาเขากลับเช่นกัน
จากนั้นทั้งคู่ก็ผละออกจากกันเพื่อเตรียมตั้งหลักอีกครั้ง ทั้งสองเริ่มออกอาการเหนื่อยหอบมาสักพัก เนื่องจากการต่อสู้ที่ไม่มีใครยอมอ่อนข้อให้กับอีกฝ่ายเลยแม้แต่นิดเดียว เสียงลมหายใจ กลิ่นเหงื่อ และอัตราการเต้นของหัวใจที่ถี่เร็วขึ้นจนอิจิโกะกับลูเคียรู้สึกได้นั้น ทำให้รู้ได้ว่าศัตรูฝ่ายตรงข้ามก็คงจะหมดแรงไปเยอะเช่นกัน
วินาทีที่กำลังจะพุ่งเข้าหากันเพื่อโจมตีอีกครั้ง ลูเคียรู้สึกเจ็บจี๊ดที่ข้อเท้าอย่างแรงจนต้องเบี่ยงตัวหลบคมดาบเล่มใหญ่ของอิจิโกะ กลายเป็นว่ามีเพียงอิจิโกะที่เอาแต่โจมตีเธออยู่ฝ่ายเดียว
จากความเจ็บที่มันเริ่มชาจนไร้ความรู้สึกไปทั้งขาข้างขวา อาการแบบนี้มันแปลก... แปลกมากเกินที่จะเป็นแค่แผลช้ำที่ข้อเท้า ลูเคียได้แค่คิด เพราะตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกเหมือนจะขยับไม่ได้ในทันที ก้าวขาไม่ออก ทั้งร่างยืนนิ่งเกร็งทำอะไรไม่ได้เลยสักนิด ทำไม ทำไมถึงเป็นแบบนี้?
ขืนเป็นอย่างนี้ต่อไป มีหวังแพ้คนตรงหน้าอย่างแน่นอน ลูเคียคิดหนัก ก่อนตัดสินใจใช้กระบวนท่าที่‘เขาคนนั้น’สอนเธอมาอย่างช่วยไม่ได้ เธอไม่ต้องการใช้มันให้ใครเห็นสักเท่าไหร่ เพราะมันไม่คู่ควรที่คนบาปอย่างเธอจะได้ใช้เลยสักนิด แต่ตอนนี้มันจำเป็น
ดาบสีขาวบริสุทธิ์ของลูเคียถูกมือเล็กๆนั้นหมุนควงเป็นวงกลมจากเชื่องช้าเป็นรวดเร็วและแรงขึ้นเรื่อยๆอย่างชำนาญ ท่วงท่าแบบนั้นที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี พร้อมกับคำพูดที่ดังก้องอยู่ในหูของเขาชัดเจนตลอดเวลา
'ฉันไม่สอนนายหรอกนะอิจิโกะ ถ้านายอยากเก่งล่ะก็ เอาชนะฉันให้ได้สิ'
เสียงนี้ที่เขาไม่เคยลืม เสียงของลูกพี่ลูกน้องของเขาผู้เปรียบเสมือนพี่ชายแท้ๆ คนที่เขารักและเคารพเป็นอย่างมาก 'ไคเอ็น'
...เธอไปฝึกกระบวนท่าแบบนั้นมาจากไหนน่ะ ลูเคีย...
ลูเคียอาศัยจังหวะที่อิจิโกะเผลอ โจมตีอิจิโกะอย่างแรงจนอิจิโกะเกือบเสียหลัก แต่โชคดีที่หลบได้อย่างเฉียดฉิว โดยดาบนั้นได้ตัดไปเพียงแค่เนื้อผ้าสีดำที่แขนของอิจิโกะเล็กน้อยเท่านั้น
ชายหนุ่มเกือบล้มลงไปในทันที เพื่อนๆต่างตกใจที่เห็นเขาพลาดท่าให้กับผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างลูเคีย เพราะที่ผ่านมาการต่อสู้ของอิจิโกะเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบเลยทีเดียว
จากนั้นทั้งคู่ต่างก็ผลัดกันรุกผลัดกันรับ แต่ละกระบวนท่าที่ลูเคียใช้ เป็นสิ่งที่อิจิโกะรู้จักดี และเขาเองยังไม่สามารถเอาชนะเจ้าของกระบวนท่านี้ได้เลยสักครั้ง
"เจ้าบ้าอิจิโกะมันเป็นอะไรไปวะ ดูวอกแวกชอบกล"
กริมมจอว์ที่นั่งดูอยู่ข้างๆอุลคิโอร่า เร็นจิ และอาชิโดะ พูดออกมาด้วยความสงสัย แต่ไม่ยินเสียงของใครตอบกลับเขาเลยสักคน มีเพียงเสียงเชียร์ของคนทั้งโรงฝึกเล็ดลอดเข้ามาในหูของเขาเป็นระยะๆ แต่หลังๆมานี้ผู้ชมต่างก็เริ่มเงียบเพราะกำลังลุ้นกับการต่อสู้
ชายหนุ่มผมฟ้าหันไปมองกลุ่มเพื่อนของตัวเอง อุลคิโอร่าก็มองดูการต่อสู้นั้นด้วยแววตาที่ไร้ความรู้สึกใดๆเหมือนเคย ส่วนเร็นจิก็เฝ้ามองอดีตเพื่อนสนิทของตนด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน สายตาจับจ้องไปที่หญิงสาวผมดำที่กำลังต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายอย่างไม่วางตา แววตาสื่อออกมาถึงความเป็นห่วงอย่างชัดเจน ซึ่งท่าทางนั้นไม่ได้ต่างจากอาชิโดะสักเท่าไร
เร็นจินี่ไม่แปลก แต่อาชิโดะนี่สิแปลก เพราะเขาไม่ควรที่จะมีความรู้สึกแบบนี้ให้กับผู้หญิงที่ชื่อลูเคีย
"ลูเคีย..."
อาชิโดะพูดขึ้นด้วยแววตากระวนกระวาย ถึงแม้ตอนนี้การต่อสู้ของลูเคียจะกำลังเป็นต่ออยู่ และเขาเองก็แปลกใจเพราะไม่เคยเห็นลูเคียใช้กระบวนท่านี้ แต่เมื่อสังเกตเห็นอาการเจ็บข้อเท้าของเธอแล้ว มันทำให้เขารู้สึกไม่ดีเลย
ในตอนนี้อิจิโกะกำลังเสียท่าอย่างหนัก เพราะความตกใจกับกระบวนท่าของลูเคีย ประกอบกับตั้งรับไม่ทัน
อิจิโกะกระตุกยิ้มที่มุมปากอย่างนึกขำตัวเอง ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน ไม่เคยเลย ไม่เคยที่จะต้องมาวิ่งหลบคมดาบของใครมาก่อน จากนั้นชายหนุ่มก็เตรียมตัวพุ่งเข้าหาลูเคียตรงๆ เพื่อจะโจมตีแบบตัดสินทีเดียวจบ ถ้างานนี้เขาพลาด เขาก็ต้องแพ้แน่นอน
ฝ่ายลูเคียเองก็มีอาการเหนื่อยมากแล้วเหมือนกัน เพราะไม่ว่าจะโจมตีด้วยกระบวนท่าแบบไหน หมอนั่นก็หลบได้อย่างหวุดหวิดทุกที ราวกับว่าเขาเคยพบเจอกับสิ่งๆนี้มาแล้ว
แต่ตอนนี้เธอแทบจะไม่ไหว อาการเจ็บปวดรุนแรงที่ขาเริ่มส่งผลกับร่างกายมากขึ้นกว่าเดิม และอยากจะล้มลงนอนตรงนี้เสียให้ได้ เพราะแต่ล่ะท่าที่ใช้ล้วนต้องออกกำลังมาก ดังนั้นเธอจึงไม่ค่อยใช้มันให้ใครเห็น อย่างตอนที่สู้กับอาชิโดะเธอก็ใช้เพียงแต่กระบวนท่าธรรมดาๆเท่านั้น
เมื่อลูเคียเห็นอิจิโกะเตรียมตัวพุ่งเข้าหาเธอเต็มแรง เธอก็คิดจะเตรียมท่ารับมือ แต่ลูเคียก้าวขาไม่ออกด้วยรู้สึกเจ็บปวดที่ข้อเท้าอย่างทรมาน ลูเคียจึงได้แต่เอาดาบเป็นตัวค้ำร่างของเธอไม่ให้ล้มลงไป
...ไม่ทัน ไม่ทันแน่ๆ ไม่ได้นะลูเคีย เธอจะแพ้ไม่ได้เด็ดขาด!...
แล้วใช้มือกุมดาบ และหันด้ามดาบชี้ไปที่ร่างของอิจิโกะตรงๆ จากนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นเผชิญกับเขา แต่ภาพที่ลูเคียเห็น มันยิ่งทำให้เธอไร้เรี่ยวแรงมากขึ้นไปอีก
ภาพของอิจิโกะที่พุ่งเข้าหาเธออย่างแรง ได้ซ้อนทับกับภาพของ ‘ไคเอ็น’ ที่พุ่งเข้ามาหาเธอแบบนี้ ด้วยแววตาอันแข็งกร้าวอย่างคืนวันนั้น ลูเคียเบิกตากว้าง อีกทั้งมือยังสั่นแทบจะจับดาบไม่อยู่
ในขณะที่อิจิโกะเข้าประชิดตัวเธอได้ แล้วใช้ด้ามดาบจ่อเข้าที่คอของเธอ เป็นอันว่าการประลองครั้งนี้อิจิโกะเป็นฝ่ายชนะ.....
ลูเคียได้แต่หายใจหอบอย่างแรง
...ยังลืมไม่ได้จริงๆสินะ เรื่องคืนนั้น...
ดาบของลูเคียก็ร่วงลงสู่พื้น จากนั้นสติก็หลุดลอย รอบๆตัวเธอมืดไปหมด รู้สึกว่าตาเธอเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆและปิดลง ในที่สุดร่างบางก็ล้มลงเข้าสู่อ้อมกอดของคนที่อยู่ใกล้เธอที่สุด
"ลูเคีย ลูเคีย ลูเคีย...!"
อิจิโกะตกใจไม่แพ้คนอื่นๆ ลูเคียไม่ตอบโต้เขาเลยแม้แต่น้อย จู่ๆจะยอมแพ้ก็ยอมเอาเสียดื้อๆ แล้วนี่ยังมาเป็นลมไปอีก เขาไม่ได้ดีใจกับชัยชนะครั้งนี้เลยสักนิด ถ้าเธอไม่นิ่งไปอย่างนั้น เธอก็มีโอกาสที่จะชนะเขาได้เหมือนกัน แต่ตอนนี้อิจิโกะไม่มีเวลามาคิดอะไรแล้ว
...อย่าเพิ่งเป็นอะไรไปนะ ลูเคีย...
ความคิดเห็น